28 ตุลาคม 2552 00:15 น.

7/104 กิน-นอน-รำ ใครทำได้ (ว่าด้วยกลบกินนรรำ)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

พอล่ะครับ แต่งยากจริงๆ  บทนี้ อันไหน อ่านมะรื่นหู  ขอพระอภัยมณี ศรีสุวรรณ
เนื่องจาก อิอิ   กะหยังว่า กะยังหว่า....สุดๆ แล้ว แต่งไปแต่งมา เนื้อหา มาแนวนี้ได้ไง  


*ขณะนึก ระลึกรู้  พธูเที่ยง
จะเรียบเรียง  ประเสียงสาน  ณ กาลก่อน
คะนึงนิจ สถิตฐาน  นะกานท์กลอน
ชะเว้าวอน  นะอ้อนออด  จะรอดรา

*จะเก็บกิน ถวิลวาด  ประมาทไหม
จะนอนใน  ณ นัยแน่ว ชะแห้วหา
จะรำร่าย  บะบ่ายบิด  ปะติดตา
กระทั่งท้า  ระอาอก  สะทกสะท้อน

*ถนอมหน่อย  ปะปล่อยเปรียบ  ละเลียบแล้ง
กระซ่านแซง  แสดงดล  ปะสนสอน
วจีจัด  ตวัดว่า  จะลารอน
ประจานจร  จะร้อนรน  กระวนกระวาย

*ผงกเงี่ย ละเลียลิ้น  จะดิ้นด่าว
ยะยืดยาว  ผะผ่าวผุด  ชะสุดสาย
ละเอียดอ่อน   จะผ่อนผัน  ชะหวั่นวาย
จะเอียงอาย  นะหน่ายแหนง  ระแวงไว

*กระนั้นหนา  ประชาชน  ระคนค้าน
ประหัตประหาร  สะท้านทัก จะหนักไหน
ผนึกแน่น ณ แดนด้าว  นะ ท้าวไทย
จะสดใส  นะใบบุญ  พระคุณครอง


กลบทกินนรรำ

เป็นกลบทที่มีกฎบังคับมากสักนิด
คือ
๑. ต้องใช้เสียง อะ ตรงคำที่๑-๔-๗
๒. ต้องซ้ำเสียงพยัญชนะ ๓ คู่
ตรงคำที่ ๒-๓  ๕-๖  ๘-๙
         ๓. ซ้ำเสียงสระอีก ๒ คู่ตรงคำที่ ๓-๕และ๖-๘ทุกวรรคจนจบ

ตัวอย่างบรมครูกลอนกลบทในอดีต

กลบท  กินนรรำ  ฉบับหลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)
ขจัดจิต    ชนิดหน่าย    ระคายข้อง
ระเบียบเบื้อง    ตระเตื้องต้อง    สนองหนุน
คดีดู    จะชูช่อง    ประคองคุณ
จะลึกลับ    จะพับพูน    ประมูลมี
คะเนนับ    สดับดู      กระทู้ที 
จะต้านต่อ    หรือรอรี    คดีดู
พินิจแหนง    ระแวงวน    ฉงนเงื่อง
จะค้านคัด    ประหยัดเยื้อง    ณเรื่องรู้
จะหมองหมาง    ระคางคิด    จะชิดชู 
กระแสศัพท์    สดับดู    จะรู้รา

กลบทกินนรรำ ฉบับ (นายนกมหาดเล็ก : ประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ)
...........................................
ชะจิตรใจไฉนนางระคางเขิน
ปะพบพักตร์จะทักทายชม้ายเมิน
ละเลิงเหลือจะเชื้อเชิญพเอิญอาย
สมรเหมือนจะเคลื่อนคลาดอนาถนัก
ขะรอยเริงละเลิงรักสมัครหมาย
ระทดถึงคะนึงนางจะวางวาย
จะห่างเหเสน่ห์หน่ายสลายเลือน


------------------------------------------------------

หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)

ขจัดจิต ชนิดหน่าย ระคายข้อง
ระเบียบเบื้อง ตระเตื้องต้อง สนองหนุน
คดีดู จะชูช่อง ประคองคุณ
จะลึกลับ จะพับพูน ประมูลมี

คะนึงนึก ตริตรึกตรอง ละบองแบ่ง
ระบิลเบื้อง ยุเยื้องแย้ง แขนงหนี
คะเนนับ สดับดู กระทู้ที 
จะต้านต่อ หรือรอรี คดีดู

พินิจแหนง ระแวงวน ฉงนเงื่อง
จะค้านคัด ประหยัดเยื้อง ณเรื่องรู้
จะหมองหมาง ระคางคิด จะชิดชู 
กระแสศัพท์ สดับดู จะรู้รา				
26 ตุลาคม 2552 23:13 น.

6/104 รักเธอเพราะ... (ว่าด้วยกลบทฉัตรสามชั้น)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

บทนี้ เอาแค่นี้ก่อนนะครับ กลัวผิดเสียง  หากความหมายไม่ได้ ต้องขออภัยครับ
เพราะต้องการ เอาเอกลักษณ์ รูปแบบ การแต่งกลอนกลบทฯ นี้ไว้เท่านั้น


*สานมาแล้ว แก้วตา  แล้วมาสาน
ฝันแสนหวาน วารแม้น  หวานแสนฝัน
พันผูกใจ  ไยปลูก  ใจผูกพัน
เคียงร้อยพัน  ฉันคอย พันร้อยเคียง

*เอ่ยถ้อยคำ  ฉ่ำร้อย  คำถ้อยเอ่ย
เถียงถกเคย  เผยตระหนก เคยถกเถียง
เตียงที่เก่า  เศร้านี้  เก่าที่เตียง
ใครข้างเคียง เพียงห่าง  เคียงข้างใคร

*รักเธอเพราะ  เหมาะเจาะ เพราะเธอรัก
ไหนอยู่ภักดิ์ รักคู่ ภักดิ์อยู่ไหน
ใจหวั่นไหว  ไม่พรั่น ไหวหวั่นใจ
นานทนได้  ไม่บ่น  ได้ทนนาน

*นี่นี่หรือ คือวจี  หรือนี่นี่
หวานแสนดี  ที่หวงแหน  ดีแสนหวาน
กาลเนิ่นนาน  หวานเพลิน นานเนิ่นกาล
คำรักซ่าน ซึ้งสลัก ซ่านรักคำ

*เสียงร้อยพัน  ฉันคอย พันร้อยเสียง
ขำนึกเพียง  เหวี่ยงรู้สึก  เพียงนึกขำ
ทำเหมือนดี  ที่กลบเกลื่อน ดีเหมือนทำ
วอนอ้อนจำ คำซ่อน  จำอ้อนวอน

*รักเธอเพราะ  เจาะจงเหมาะ  เพราะเธอรัก
สอนประจักษ์ แจ้งรัก ประจักษ์สอน
จรจากไกล  ใช่พราก  ไกลจากจร
รักถาวร  ย้อนมา  ถาวรรัก				
25 ตุลาคม 2552 22:35 น.

5/104 ช้าไป...ไม่ดี (ว่าด้วยกลบทยัติภังค์)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

จริงๆ  อยากแต่งให้ครบ 8 บท  ทุกกลฯ แต่บางกลฯ แต่งมากไป ไม่ดี สำหรับมือใหม่ หัดขับ

ต้องขอบคุณ คุณญามี่ ด้วยครับ ที่ช่วยแต่งเพิ่มเติม  ในบางบท บางบาท

แต่บทกลอนนี้ ไม่ใช่ว่า จะถุกต้องซะทีเดียวเลยนะครับ
เนื่องมาจาก ผมพึ่งไปค้นคว้า  กลบทเพิ่มเติม และได้เห็นวิธีการแต่งจาก ท่านพระครูเกษมทัศนคุณ หรือ ในนาม หยาดกวี  นั่นเอง

ดังนั้น ผมจึงไม่ขอแก้ไขดีกว่า นะครับ  แม้ในความรู้สึกและเข้าใจ จะถือว่า ของท่านพระอาจารย์ หยาดกวีนั้น  ถูกต้อง  แต่เพราะความสับสน ของผู้แต่ง หรือว่า วิธีการ แต่ง อาจไม่เหมือนกัน ก็อาจเป็นได้  นี่คือส่วนหนึ่ง ที่ผมอยากรวบรวม  กลบทฯ ทุกชนิดเอาไว้ เพื่อเป็นแนวทางการศึกษา  และนำมาฝึกหัดแต่ง ให้ถูกที่สุด...

*เมื่อไม่เคยเผยออกเพื่อบอกรัก-
เธอสมัครภักดีชีวีใส-
สดแช่มชื่นตื่นเต้นเเม้เห็นไกล-
ตาคนใหม่ให้หลงจนลงรอย-

*รักชื่นชมสมดั่งภวังค์หวาน-
แว่วมานานปานใดทำใจถอย-
ถดออกห่างจากเธอเกินเจอกลอย-
ใจพี่หงอยคอยเจ้าาแสนเศร้าทรวง

*ศรีแสนโศกโรคซ้ำคอยซ้ำเติม-
เต็มจนเพิ่มพูนทวีอกพี่ห่วง-
หากานดาคนเดียวมิเลี้ยวลวง-
หลอกเพื่อทวงถามความในได้แต่เพ้อ-

*พร่ำพรรณาเกินกว่าจะคว้าคู่-
ครองต้องอยู่อย่างหม่นระคนเซ่อ-
ซ่าเมื่อเจอปัญหาในคราเพ้อ-
เจ้อนี่เหรอช้าไปจึงไม่ทัน-

*การณ์เวลายอกย้อนเกินอ้อนถาม-
ถึงคนงามเหตุใดในใจหวั่น-
ไหวคะนึงถึงเธอละเมอพลัน-
พลันใจสั่นเหตุนั้น  ช้าไป...ไม่ดี

***********************************************
http://www.geocities.com/annenena/index4.htm

กลอนกลบทยัติภังค์เหมือนกลบทอื่น ๆ แต่ต้องให้คำที่สุดท้ายของวรรคเป็นคำที่ใช้ยัติภังค์เชื่อมไปยังวรรคต่อไป
เสมอ
นอกนั้นเหมือนทั่วไป

ไม่น่าน่าจะประคองสนองมิตร-
ภาพคิดคิดถึงความหลังครั้งเคยสรวล-
เสเฮฮาแย้มแฉล้มอวล-
อบกลิ่นชวนชวนชื่นระรื่นจิน-

ตนานึกนึกในมโนพิศ-
วงอย่างยิ่งยิ่งพินิจจิตเจ้าหิน-
ชาติทำกรรมกรรมก่อให้เกิดภิน-
ทนาการลาญสิ้นสิ้นสุดนึก

**********************************************
http://www.oknation.net/blog/kondee007/2008/10/05/entry-1

พระครูเกษมทัศนคุณ (สมชัย เขมทสฺสี) 

กลบท ยัติภังค์  มีข้อกำหนดให้คำซ้ำกัน ๑ คู่ ใกล้ต้นวรรค และกำหนดให้แยกคำออกเป็นสอง  ส่วนเขียนไว้ต่างวรรคโดยไม่ใช้เครื่องหมายยัติภังค์(-)แต่อย่างใด ข้อสังเกต คือ คำสุดท้ายของวรรคหน้า และคำแรกของวรรคถัดไป ก็คือ คำเดียวกันนั่นเอง ดังแผน      เส้นที่โยงข้างบน คือ คำซ้ำกันภายในต้นวรรคเส้นที่โยงข้างล่าง คือ คำท้ายวรรคซ้ำกันกับคำต้นวรรคถัดไป ดังตัวอย่าง                                                  .... 

f5575.jpg

เส้นที่โยงข้างบน คือ คำซ้ำกันภายในต้นวรรค


เส้นที่โยงข้างล่าง คือ คำท้ายวรรคซ้ำกันกับคำต้นวรรคถัดไป ดังตัวอย่าง

                                                             ฟังดูดู รู้เหตุ สังเกตสัง

  สังขารา ราคะ ให้มาวัง                   วังเวงนั่ง นั่งเหงา สุดเศร้ากัน


  กลบท ยัติภังค์ 


                                           ฟังดูดู รู้เหตุ สังเกตสัง

สังขารา ราคะ ให้มาวัง          วังเวงนั่ง นั่งเหงา สุดเศร้ากัน

กันดารดอน ดอนแล้ง ดินแห้งเหือด   เหือดแห้งเดือด เดือดจิต มาคิดสรร
สรรหาน้ำ น้ำฝน หาจนวัน               วันทาฝัน ฝันว่า พนาไพร

      
ไพรสณฑ์เฉา เฉาใบ พาใจรัน          รันทดขวัญ ขวัญหาย สลายไหว
ไหวหวั่นจิต จิตพา ระอาภัย              ภัยพิษไหน ไหนเปรียบ มาเทียบกัน
    
กันภัยแล้ง แล้งสุด มนุสสา              สาครา ราโค โอ้ร้อนขวัญ
ขวัญจิตคิด คิดไป ใจร้อนกัน            กันทั่วหวั่น หวั่นจน ขาดฝนเท
     
เทพารักษ์ รักษา เมตตาเผ่า             เผ่าพันธุ์เจ้า เจ้าป่า พนาเส
 เสวนา นาพันธุ์ สวรรค์เท                 เทวาเท เทฝน ลงบนนา
   
 นานาพันธุ์ พันสรวล สุขถ้วนน้ำ         น้ำฝนตาม ตามเขา ลำเนาหนา
 หนาหนูหนู ดูน้ำ ตกตามนา              นาคินทร์ร่า ร่าเริง เถลิงไกร
    
 ไกรลาสเย็น เย็นน้ำ ตามลำเขา         เขาว่าเรา เราสุข หมดทุกข์ใส
ไสยาสน์นอน นอนหลับ ประดับไพร   ไพรสัณฑ์ใส ใสสด ลงจดกิน
     
กินนรโหย โหยหวน คร่ำครวญหวั่น    หวั่นไหวสั่น สั่นหนาว เพราะเจ้าสินธุ์
สินธุ์ไหลซ่า ซ่าเลี้ยว คดเคี้ยวพิน      พินทุสิ้น สิ้นหยด เพราะหมดกัน
     
กันดารแล้ง แล้งทั่ว ทุกหัวแห่ง          แห่งหนแจ้ง แจ้งร้อน จึงนอนฝัน
ฝันผิดผิด จิตลอย มาคอยวัน           วันคืนสัน สันเศร้า ให้ร้าวฤๅ
    
ฤๅทัยทุกข์ ทุกข์หนัก จักจดจำ จำใจช้ำ ช้ำชอก สุดบอกหรือ
หรือว่าใคร ใครทำ ให้ล่ำลือ             ลือเลื่องถือ ถือเล่ห์ เจรจา
    
จารกรรม กรรมชั่ว น่ากลัวจักร          จักรหมุนหัก หักเห สิเน่หา
หายนะ นะคน ให้จนพา                   พาราว้า ว้าวุ่น ครุ่นคะนึง
   
คะนึงคิด คิดจน รำพนผัน                ผันแปรกัน กันทั่ว มืดมัวถึง
ถึงจะห้าม ห้ามใคร ใจรำพึง             พึงคิดถึง ถึงหลัง มานั่งซึม

ซึมเศร้าโศก โศกจิต นั่งคิดสะ          สลดละ ละเลย นั่งเฉยขรึม
ขรึมเคร่งเครียด เครียดจน มาบ่นพึม   พึมพำอึ้ม อึ้มอั้ม มารำพัน

พันผูกป่า ป่าผูก ทุกยุครุ่ง                รุ่งโรจน์สูง สูงยูง เป็นฝูงขวัญ
ขวัญใจสัตว์ นานา สารพัน               พันเหมือนสรรค์ สรรค์ชอบ ระบอบธรรม

ธรรมชาติ ชาติงาม ไปตามส่วน        ส่วนถูกถ้วน ถ้วนงาม ไปตามสัม
สัมมาชีพ ชีพดี ชี้ชักคำ                   คำคมขำ ขำจัง มาฝังใจ

ใจสงบ จบจบ สงบจิต                    จิตไม่คิด คิดฟุ้ง ให้ยุ่งไหน
 ไหนจะเรื่อง เรื่องราว ไม่เข้าใจ         ใจใสใส ไขขาน นิพพานเอย.

   

                                                           ...หยาดกวี...


                                                        ๕ ตุลาคม ๒๕๕๑				
23 ตุลาคม 2552 23:42 น.

4/104 โง่ เซ่อ บ้า...รัก (ว่าด้วยกลบทเบญจวรรณห้าสี)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

อยากบอกว่า กลบททุกกลฯ ที่แต่งมา ยังไม่เจอ อันไหนง่ายสักอันเลยยยย

นี่ก็มั่วๆ ไปอีกล่ะครับ 

*เนิ่นนานนักหนักหนาเพลาช้ำ
เก็บกอบกำกล้ำกลืนสุดขื่นขม
สุดแสนแสบเศร้าสร้อยอกพลอยตรม
เร่งร่างล้มรินรวยใครช่วยที

*อกเอ๋ยอกอ้อยอิ่งอ้างอิงแอบ
บ่ายเบี่ยงแบบบ้าบ้าน้อยหน้าหนี
น้ำนองหน้านิดนึงไม่ถึงปี
ยับยู่ยี่อยู่แย่แล้วแต่ฉัน

*งกเงิ่นงุนงงงันยามรันทด
คนเคยคดคลาดเคลื่อนคิดเหมือนฝัน
ฝืนฝักใฝ่ฝากแฝงสู่แสงจันทร์
ดุ่มเดินดั้นเดียวดายสุดสายตา

*เปล่งปลุกปลอบเปรียบปานน้ำตาลเพิ่ม
ตามแต่เติมตื้นตันกระนั้นหนา
ข้ามขุนเขาขอนขวางห้วงมายา
ห้ามห่วงหาหันเหอกเรรวน

*เรื่องราวรักรวดร้าวผะผ่าวร้อน
ช่างชอกชอนไชชี้คราที่หวน
เด็ดดมดอมดอกดินถวิลครวญ
จันทร์แจ่มจวนเจิดจ้าส่องท้าทาย

*แบบบ้าบ้าบอบอบ๊องพอตัว
เขลาขั้นขั้วเข้มข้นจนใจหาย
เซ่อซ้ำซ้ำช้ำชอกเกินออกลาย
น้องแหนงหน่ายหนีหน้าไม่ว่ากัน

*วิงวอนไหว้วาดหวังอกพังสิ้น
กัดกร่อนกินเกลียดกลัวจนตัวสั่น
เมื่อหมองมัวเมินหมางถึงทางตัน
สิ่งสร้างสรรค์สั่งสมเหมือนลมลอย....

ตัวอย่างการแต่ง ของพี่ๆ ในเวป มีดังนี้....

**ภาษาไทย**(ด้วยกลบทเบญจวรรณห้าสี)  victoriasecret
ก  กาพย์กานท์กลอนกลั่นกรอง...แล้วลองหัด
ข  ขุ่นข้องขัดข้อเขียน...พากเพียรฝึก
ค  ใคร่ครวญค้นคว้าคำ...ด้วยสำนึก
ฆ  โฆษฯ ฆ้อง ฆึก  ฆน ฆาน...ผสานไป

ง  งุนงงง่วนงมงาย...ยังหมายมุ่ง
จ  แจ้งใจจูงจิตจง...ด้วยหลงใหล
ฉ  ฉันท์เฉิดฉายเฉกฉ่ำ...ใช่จำใจ
ช  ช่ำชองใช้เชี่ยวชาญ...กาพย์กานท์กลอน

ซ  ซึมซาบซึ้งแซ่ซ้อง...ฉลองเฉลิม
ด  ดีดั่งเดิมดุจดัง...ครูสั่งสอน
ต  ตัดต่อเติมแต่งแต่...ให้แน่นอน
ถ  ถามถ่ายถอนถกถ้อย...เรียงร้อยกานท์

ท  เทิดทูนทั้งทวนทบ...ให้ครบถ้วน
น  นุ่มนิ่มนวลแน่นอน...ดูอ่อนหวาน
บ  บทแบบบัวบานใบ...อยู่ในธาร
ป  เปรยเปรียบปรานปราดเปรื่อง...ให้เรืองรอง

ผ  ผุดผ่องแผ้วผลิผล...แม้จนยาก
ฝ  เฝ้าฝันฝากฝึกฝน...เช่นชนผอง  
พ  พึ่งพิงพักพัวพัน...ในครรลอง
ฟ  ฟื้นฟูฟ่องเฟื่องฟ้า...ภาษาไทย

ภ  ภพภัคภาคย์ภูมิภาพ...ซึมซาบจิต
ม  เหมือนมิ่งมิตรมนต์มาลย์...ช่วยขานไข
ย  อย่างยอดเยี่ยมยืนยง...หลักธงชัย
ร  ร้อยเรียงร่ายรื่นรมย์...ให้คมคาย

ล  หลงลายลักษณ์โลมไล้...ด้วยใจมั่น
ว  ว่างเว้นวันหวิวไหว...ให้ใจหาย
ศ  ศศิเศร้าโศกศัลย์...เกินบรรยาย
ส  สุดสิ้นสายสุขสม...ตรอมตรมจินต์

ห  ให้แหนหวงห่วงหา...ภาษาชาติ
อ  โอนเอียงอ่อนแออาจ...พินาศสิ้น
ร่วมรังสรรค์...มั่นไว้...ในแผ่นดิน
เคียงคู่ถิ่น...แผ่นดินไทย...ไปชั่วกาลฯ
////////////////////////////////////////////////////////


รักร้าว ร้าวรัก (กลบทเบญจวรรณห้าสี)  victoriasecret
๐ เคยคลอเคล้าเคียงคู่...........ร่วมชู้ชื่น
กลับกลายกลืนโกรธเกลียด.....ทำเหยียดหยัน
เพียงเพราะพวกพ้องเพื่อน......ก็เลือนกัน
เสแสร้งสร้างสุขสันต์............ให้ฉันชม

๐ อบไออุ่นอิงแอบ.................เคยแนบชิด
ต้องตามติดเตือนตัก...............จนรักขม
ไหววิเวกเหว่ว้า......................เหงาอารมณ์
ชิดเชยชมแชเชือน..................ต้องเลือนลา

๐ ทั้งที่แท้ท้อทด....................จนหมดหวัง
ยอมยับยั้งหยัดยืน..................ทำชื่นหน้า
เฝ้าใฝ่ฝันฝึกฝืน......................เธอคืนมา
ให้โหยหาแหนหวง................ร้าวดวงจินต์

๐ เย็นยะเยียบเยื้องย่าง.............บนทางฝัน
เศร้าโศกศัลย์ศักดิ์ศรี...............เคยมีสิ้น
หม่นหมองมัวเหมือนมา........ให้ราคิน
หลงเล่ห์ลิ้นลวงหลอก............จนชอกช้ำ

๐ หนึ่งนัยนี้แน่นหนัก.............ด้วยรักแน่
ไปเปลี่ยนแปรปล่อยปละ........จนถลำ
ร้างแรมรารักร้าว.....................ถูกเขาทำ
ได้ดื่มด่ำดวงแด.......................เพียงแค่มอง.

//////////////////////////////////////////////////////////////////


คือใครหนอ?(กลบทเบญจวรรณห้าสี)   โอเลี้ยง

เคยคิดใครเคียงข้างเราบ้างไหม
หนึ่งในนั้นนั่งนิ่งชิดติดทั่ว
เมียงมองมามิหมายหายจากตัว
เริ่มระรัวลุกลนหาแล้วไง

แสงสาดส่องสดใสยิ่งเห็นชัด
พร้อมพัดพลิ้วพรางพรายในธารใส
ลมระรวยร่ำร้องก็มิไป
ยืนยิ้มแย้มยองใยเคียงข้างเรา

หากห่างหายหดหู่จะมาหา
วอนวุ่นวายว่าว่างช่วยหาเขา
คิดคร่ำครวญคล้ายครางระรุ่มเร้า
ง่วงหงอยเหงางุนงงแล้วสินะ

ก้าวกรายใกล้เกาะกายเหมือนผีหลอก
เมื่อมีหมอกไม่มาโผล่เกะกะ
จำจับเจ่าจับเจ้าเป็นคู่คละ
เรื่องราละเลิกเลยไม่เคยคิด


///////////////////////////////////////////////

วาดแววตะวัน  แดดเช้า
[กลบทเบญจวรรณห้าสี] 
วาดวารวันวับวาบตะวันสาด
มุ่งมั่นมาดมืดมิดโศกทุกข์หาย
อุ่นอาบไออิ่มอบตะวันกราย
หวังวาดว่ายเวิ้งว้างกลางใจคอย

ดาวดวงดับดื่มด่ำน้ำค้างชื่น
ชุ่มฉ่ำชื้นแช่มโชติเกินเก็บสอย
เปี่ยมปริ่มเปรมปรีดิ์ปลื้มดื่มน้ำดอย
ร่วงโรยร้อยรอยร่ำเป็นคำกานท์
///////////////////////////////////////////////				
21 ตุลาคม 2552 23:23 น.

3/104 อยาก..บอกว่ารัก (ว่าด้วยกลอักษรสังวาส)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

วันนี้ ขออาภัย แต่งได้แค่ 4 บท เอาไว้ต่อวันหลัง เพราะมีเวลาจริงๆ ครับ
และที่สำคัญ กลอนกลบท สะบัดสะบิ้ง ผมจะเอาไว้แก้ วันหลัง เพราะใช้คอมฯ เพื่อนนี่แหละ...ทำให้ล่าช้า   ขอรับคำติชม อีกเช่นเคย  อย่ากลัวจะเสียหน้า เพราะหน้า คงที่ ไม่มีเสีย  555+ เย้าเล่นครับ  เชิญวิจารณ์ได้ครับ เพื่อการปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาให้ดีกว่าเดิม....(ถ้าทำได้ อิอิ)


*ในใจนี้มีน้องปองจิตคิด
เคยเชยชิดชอบพออ้อล้ออ้อต่อ
กาลนานวันผ่านพ้นหม่นก็รอ
ยังหวังคลอเคลียเคล้าเหงาวันวัน

*กายหายน้องหมองครวญอกรวนป่วน
สุดสุดหวนรำลึกนึกหวั่นฝัน
เหตุเภทใดไกลแล้วแห้วทันควัน
เสีงเยี่ยงสั่นครั่นคร้ามหนามชีวี

*ตอนก่อนเคยเผยคำพร่ำพลอดกอด
แอบแนบสอดกายกานดาอย่ารี้หนี
น้องป้องปัดมือหยอกบอกกี่ที
เตือนเหมือนพี่กอดรั้งครั้งท้ายวาย

*โอ้โซเซซัดซึมอกครึ้มหวั่นหวั่น
ฝนหล่นหลั่นซัดทอดกอดกายหมาย
เมื่อเหลือคำรำลึกตรึกกรายกราย
เพ็งเล็งสายฝนร่วงห้วงใจไหว

*มีกี่ล้านคำอ้างทางปลายสาย
รวมความหมายรักแท้แค่ไหนไหน
ฝืนกลืนกล้ำจำความรวมในใจ
มอบตอบให้สุดรักภักดิ์พลีมี

*ฝนหล่นลาคราหนาวร้าวเพิ่มเติม
แรงแกร่งเหิมหุบยุบหนีศรี
ห่อนกร่อนกัดอารมณ์จมกี่ปี
คำคำนี้ซ่อนราวห้วงหาวดารา

*ร้อยถ้อยพจน์บทคำจำแนกแปลก
พรั่นหวั่นแทรกนับกัลป์ผันมาหา
ยังหวังเรียงเคียงถ้อยร้อยวาจา
บอกออกว่า...เอ่อ เหรอ ...เธอใช่ใหม?

*โอ้โห เราบอกรักสักคราหนา
กลัวกลัวกล้าหน้าชาว่าไม่ไหว
บอกออกยากรักผุดสุดในใจ
รอต่อไปอีกแล้วแห้วเดิมเดิม


ตัวอย่างกลอนเพราะๆ ของรุ่นพี่ ที่นำเป็นตัวอย่าง มีดังนี้........
คราอรุณ  กลบทอักษรสังวาส  โดยจอมปราชญ์แดนอาคเนย์
สุมทุมไม้ไหวเอนสะบัดพัด
ลู่ถูตวัดหลายระลอกดอกไม้ไหว
ลมพรมพลิ้วลิ่วระเรื่อยเอื่อยไล้ใบ
โบกโมกไพรไกวร่วงล่วงธารา

พี่นี้ยืนกลางนทีที่ปลายสาย
รื่นชื่นกายสายกระแสแลสาขา
ปลามาว่ายหมายกระแซะแทะบาทา
ยวนชวนว่ามามุดน้ำสำราญกานต์

แสงแดงอ่อนตอนอรุณอุ่นกลางร่าง
หมอกลอกจางวางแนวไกลในม่านสถาน
เหลือเนื้อน้ำที่ค้างเติ่งเริงลานบาน
ปลุกสนุกสนานแห่งอรุณอุ่นชีวี

ผ่านกาลมาทิวาขื่นฝืนเหงาเศร้า
ในใจเนาว์เศร้าวางวายกายพลีหนี
จิตคิดไปช่างไร้เกษมเปรมปรีดี
ธารานี้ช่วยพัดใจไกลขมตรม

...แบบว่า

/////////////////////////////////////////////////

เนรคุณ(กลบทอักษรสังวาส   โอเลี้ยง

เผลอเหม่อคิดสงสารรุ่มใจไหว
ข่าวคราวพาหมองไหม้จนจิตคิด
ใคร่ไถ่ถามคนชั่วสักนิดนิด
แค่แม่เผลอผิดบ้างไยนั่งชัง

เราเล่าหรือ?ไม่มีทุกข์-แก่-แย่
เรืองเรื่องเก่งไร้แพ้ได้ดังหวัง
คิดชิดชมสมดังไร้พลั้งยั้ง
ลองตรองก่อนชิงชังถึงมาดา

แม่แก่แล้วหลงลืมลูกก่นบ่น
จิตคิดผลักไสพ้นพล่ามด่าว่า
ใจไร้ห่วงแม่หมองคำวาจา
กราดสาดคำปวดปร่าหน้าเฉยเมย

กาลผ่านไปลูกเลวเลิกกลัวชั่ว
บาปนาบหัวทิ้งแม่ละเลยเฉย
หวังฝังแม่ทั้งเป็นสุดเอ่ยเปรย
ลูกถูกชั่วถมเกยกร่ำก้าวร้าว

แค่แม่แก่อ่อนแอทิ้งขว้างห่าง
ถูกลูกด่าถากถางก่นป่าวป่าว
ถ้าคราตนต้องแก่คิดคร่าวคราว
คนล้นบาปคงร้าวลุกลนวน...

////////////////////////////////////////

และจากเวปอื่นๆ 

http://noknoi.com/pamoo/board/board.php?group=Pamoo&id=3924
ไหว้ครู "กลบทอักษรสังวาส"
บุญคุณครู          ดูล้น       คนต่างอ้าง  
คือสื่อสร้าง        ทางเสริม  เพิ่มภาษา  
เปรียบเทียบทอง ของดี      มีราคา  
รักหนักหนา       ว่าอยู่      ครูมีดี  

ช่วยด้วยนะ        สะอาด    มาดผู้รู้  
เรียงเคียงคู่       อยู่ข้าง     ทางฟรีถี่  
จึงซึ้งจิต          ศิษย์ยอม   พร้อมชีวี  
บุญคุณนี้          ที่ทราบ    กราบในใจ  

(เขียนซ้ำคำคู่แรก-คู่หลัง)                           
ผู้เขียน : นายตุ้ม คลองสามวา 
๑๘ ส.ค. ๒๕๕๒, ๑๖.๒๓ น. 

////////////////////////////////

บุญคุณมี ที่เห็น เน้นจะจะ 
ไม่ได้ละ ปละปล่อย คอยใจใส่ 
ทั้งสั่งสอน ย้อนย้ำ จำได้ไว 
ครูผู้ให้ ไม่หวง ห่วงจริงจริง 

ครูดูแล แก้ไข ให้หัดคัด 
เพียรเวียนจัด ถัดไป ไม่ชิงนิ่ง 
สงสารนัก  ปักใจ ไม่ติงคิง 
ยังหวังอิง  พึงพัก หลักลำนำ

ผู้เขียน : สุกรวดี 
๑๘ ส.ค. ๒๕๕๒, ๑๗.๐๖ น

////////////////////////////////

๐๐วางทางไว้ให้เห็นเป็นแบบแนบ 
    ยิ่งอิงแอบแบบอยู่รู้ทีที่ 
    ลำนำกลวนเวียนเขียนดี๊ดี 
    ตามความนี้ชี้ยลบนความงาม 

๐๐ถึงซึ่งทางวางไว้ให้เวียนเขียน 
    จำร่ำเรียนเพียนต่อข้อยามถาม 
    ผู้ครูคิดชิดไว้ให้ตามความ 
    ผู้อยู่หามลามรุกบุกหามา..... 
ผู้เขียน : --ครางแครง-- 
๑๘ ส.ค. ๒๕๕๒, ๒๒.๑๐ น

////////////////////////////////

ลองมองดูเรียงประดับจับจิตคิด 
ความงามพิศผ่องแผ้วเพลงคำพร่ำ 
บนกลกลอนกลมกลึงจึงฉ่ำล้ำ 
เพียรเรียนร่ำร้อยร่างวางเรียงเคียง 

จัดคัดคมข้อครวญนวลอ้อยสร้อย 
เถิดเพลิดพร้อยพราวพรมคมเพียงเสียง 
ครบอบอวลหลายอีกหลีกเลี่ยงเอียง 
สุขทุกกลอนกล่อมเกลี้ยง..โอ้สกาวคราว 
ผู้เขียน : คอนพูทน 
๑๙ ส.ค. ๒๕๕๒, ๑๑.๐๒ 

///////////////////////////////////////

ถ้อยร้อยเรียงเพียงระดับซับนุ่มชุ่ม 
ลองตรองกลุ่มลุ่มกานท์หวานราวสาว 
แรกแตกเนื้อนางสะอางพ่างวาวพราว 
นึกตรึกตรองลองน้าวมาชะแง้แล 

เค้นเน้นข้อช่อขานอันคมสม 
ดุจจุดปมประกายฉายแพร่แผ่ 
ลำนำรสบทร้อยคอยกระแสแด 
เปลี่ยนเวียนแปรแห่ทาบอาบอาณา 

................................................. 
 
ผู้เขียน : ดาวระดา 
๑๙ ส.ค. ๒๕๕๒, ๑๓.๓๒ น

////////////////////////////////////////

รักนักคำ พร่ำบ่น ด้นถ้อยร้อย 
จำสำออย ลอยชาย หน่ายหน้าหนา 
กลุ้มกุมหัว ตัวห่าง ร้างวาจา 
จ้องมองตา มาอ่าน หวานคล้องจอง 

.ซึ้งถึงนะ จะบอก ออกเจ้าเย้า 
นุชสุดเศร้า เฉาอยู่ ดูน้องหมอง 
คืนชื่นมื่น รื่นไหล ใจปองดอง 
เพี่ยงเมียงมอง ย่องแย่ง แล้งจินต์ริน.. 

(เงงงงง) 
ผู้เขียน : ภัทราจิตร 
๑๙ ส.ค. ๒๕๕๒, ๑๕.๐๓ น

////////////////////////////////

อ่านงานผู้ครูกวีที่ลือชื่อ 
รับนับถือคือท่านจารรินศิลป์ 
แบบแยบยลค้นพบจบสิ้นจินต์ 
ถ้าฟ้าดินยินได้ในงานกานท์ 

จะประทับจับใจได้รสพจน์ 
คราปรากฏจดจำตำนานหวาน 
รื่นขื่นรักชักนำสำราญมาน 
ผู้รู้ท่านสานคำตำรามา 
ผู้เขียน : ดาว อาขาไนย 
๑๙ ส.ค. ๒๕๕๒, ๑๗.๐๗ น.


ลองมองดูดูใหม่ให้ชัดชัด  
คำจำกัดจัดวางทางภาษา 
คล้องสองคำนำหนุนคุ้นหน้าตา  
หินชิ้นงามตามมาหาไว้ใช้  

ดูคู่คำนำหน้าพาหมดจด 
ทดพจน์คล้องจองคู่อยู่ใช่ไหม 
จำคำครูดูแแบบแนบในใจ 
ครูผู้ให้ไม่เน้นเว้นระยะ 
..................................... 
มัวงุ่มง่าม ถูกตัดหน้าไปแล่ว 
ต้องแก้บทแรก--อีกรอบ 
ผู้เขียน : สุกรวดี 
๑๙ ส.ค. ๒๕๕๒, ๑๗.๑๐ น.

/////////////////////////////

คำย้ำชมสมควรทวนคิดนิด 
ครูผู้ศิษย์คิดจำคำกะจะ 
ครูผู้สอนซ้อนซ้ำจำนะจ๊ะ 
แนบแบบปะกะให้ได้ลองมอง 

วันนั้นท่านผ่านทางวางเติมเพิ่ม 
เรียงเคียงเสริมเติมคำย้ำมองจ้อง 
บุญคุณนี้มีอยู่คู่คล้องจอง 
ทุกข์สุขต้องข้องเกี่ยวเทียววนปน 
ผู้เขียน : สุกรวดี-กราบท่านหยาดกวี 
๒๐ ส.ค. ๒๕๕๒, ๑๖.๔๓ น.

/////////////////////////////////////

คำอธิบาย  จากพี่หมอ วฤกษ์

กลบท อักษรสังวาส
X X O O O O X X
ซ้ำเสียงพยัญชนะ ๒ คำต้น 
และ ๒ คำท้ายทุกวรรค 
ซ้ำเสียงพยัญชนะอย่างน้อย ๑ คู่ ทุกวรรค โดยไม่กำหนดตำแหน่ง
ส่วนนวลเจ้าล้ำเลิศประโลมโฉม        
คลายหายโทมนัสคิดจิตรตั้งหวัง
เพราะเจาะใจในบุตรสุดมั่งคั่ง               
เปรียบเทียบดั่งได้เสวยเชยสมชม
ที่พิภพจักรพรรดิ์ประเสริฐเลิศ                 
ในใจเจิดแจ่มสว่างอารมณ์สม
ครั้นขวัญตาอายุอุดมชม                      
ควรจวนจักนิยมเป็นชีม
(ศิริวิบุลกิตติ์)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีน้อยเจ้าสำราญครับ
Lovings  กวีน้อยเจ้าสำราญครับ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีน้อยเจ้าสำราญครับ
Lovings  กวีน้อยเจ้าสำราญครับ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีน้อยเจ้าสำราญครับ
Lovings  กวีน้อยเจ้าสำราญครับ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีน้อยเจ้าสำราญครับ