6 พฤศจิกายน 2552 20:58 น.

12/104 เพียงร้อยถ้อย (ว่าด้วยกลบท พิณประสาณสาย)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

บทนี้ ยากสุดของสุดยาก ที่แต่งมา  ผมเลย แต่งแบบผ่านๆ เอาตามแบบพอ อย่าว่ากันครับ  ลองสักบท จะเข้าใจธรรมชาติกานท์กลอน เป็นแน่แท้ อิอิ


*เพียงรอยถอย   เพียงรักถัก    เพียงร้อยถ้อย
อกกร่อยหน่อย   อกกักนัก    อกกล้าหนา
หากมอบชอบ  หากมองช่อง   หากมาชา
ผ่านหน้าตา   ผ่านน้องตรอง   ผ่านหนามตาม

*คนร่ำพร่ำ   คนเรียกเพรียก   คนรอพ้อ
กลับทอยอ   กลับทำย้ำ  กลับท่ามหยาม
จากค้อนงอน    จากคงงง   จากจากความงาม   
ไกลสามยาม   ไกลแสร้งแย้ง   ไกลสรวลยวน

*กอบกำคำ   กอบกลืนขื่น   กอบก้มข่ม
รอลมห่ม     รอแรงแห้ง    รอรวนหวน
ทุกข์อื่นคืน    ทุกข์อายคลาย    ทุกข์อวลครวญ
สุขกวนล้วน   สุขก้าวร้าว   สุขก่อนรอน

*เพียงถ้อยคล้อย    เพียงเที่ยงเคียง    เพียงไถ่ใคร่
เอ่ยไวไหม    เอ่ยว่ามา     เอ่ยวอนหมอน
เมื่อจากพราก    เมื่อจำพร่ำ     เมื่อจรพร
ยังอ้อนวอน   ยังอาจวาด     ยังอ่านวาน

*ต้องพอต่อ   ต้องพ้องตรอง   ต้องพร่ำต่ำ
ควรทำคำ   ควรทวนครวญ   ควรทานขาน
กล่าวกลอนร้อน   กล่าวกูรู   กล่าวกร้านกานท์
คงการงาน   คงกล้ามงาม   คงไกลไง

-*-/-*-/-*-
 / 7/
 -----

คำอธิบาย 

กลบทพิณประสานสาย

เป็นกลบท๙คำที่บังคับมากสักนิด คือ

๑. คำที่๑-๔-๗ ต้องใช้คำเดียวกัน(บางบรมครูอนุญาตให้ซ้ำเสียงได้เช่นคำควบ ที่ลงด้วยเสียงคล้ายกัน)

ตัวอย่างเช่น
สนุกรุก สนานราน สนั่นรั้น


๒. คำที่๒-๕-๘ ต้องเป็นคำพยัญชนะเสียงเดียวกัน
๓.คำที่๓-๖-๙ ก็ต้องเป็นคำเสียงพยัญชนะเดียวกันอีกด้วย
๔.คำที่๒-๓ คำที่๕-๖ คำที่ ๘-๙ ต้องซ้ำเสียงสระกันอีกข้อหนึ่งด้วย


ตัวอย่าง กลอน ที่เกี่ยวข้อง

พ้อภักดิ์รักใฝ่ (ด้วย กลบทพิณประสานสาย)   ญามี่

ระงมขม ระเหงาเคล้า ระงับขับ
ละลายปลาย ละรับปรับ ละเลาะเปาะ
เพียรพร้อมยอม  เพียรพอกยอก เพียรเพาะเยาะ
ยอมย้อนกร่อน ยอมเหยาะเกาะ ยอมย่ำกรำ

พ้อรักภักดิ์  พ้อเร่าเผา พ้อหลอนผ่อน
เพียรออมยอม เพียรอ้อนหย่อน เพียรอำย่ำ
พร้อมปลิดจิต พร้อมแปลงแจ้ง พร้อมปล้ำจำ
ให้รักทัก ให้ร่ำทำ ให้ร่าท้า

สนุกรุก สนานราน สนั่นรั้น
เพราะทุกข์ปลุก เพราะถั่นปัน เพราะถาปร่า
จิตเอียงเคียง จิตอาบคาบ จิตอ้าคา
ห้อยรักหยัก ห้อยระย้า ห้อยร้าวยาว

รักเลื่อนเปื้อน รักลิ่วปลิว รักรวนป่วน
ยังถ่อห่อ ยังทวนหวน ยังท้าวหาว
หวังคลอขอ หวังใคร่ไข หวังข่าวคราว
รดก้อนร้อน รดก้าวร้าว รดกลวงลวง

////////////////////////////////////////

กลบท พิณประสานสาย 
Posted by หยาดกวี , ผู้อ่าน : 258 , 00:22:16 น.

ลบท พิณประสานสาย  มีข้อบังคับให้วรรคหนึ่งมี ๙ คำ แบ่งเป็น ๓ ชุด ชุดละ ๓ คำ การสัมผัสคือเล่นเสียงพยัญชนะต้น ๓ คำ และยังกำหนดให้ สองคำหลังของทุกชุด สัมผัสสระชิด(จายหมาย เจิงเมิง จางหมาง) อีกอย่างหนึ่ง ให้คำแรกของแต่ละชุดเป็นคำเหมือนกัน ดังแผน 

f5565.jpg

 เส้นที่โยงข้างบน คือ คำสัมผัสอักษรซ้ำสลับ แต่คำที่ ๑ ที่ ๔ ที่ ๗ สัมผัสทั้งพยัญชนะและสระเส้นที่โยงข้างล่าง ๓ คู่ คือ คำที่ ๒ กับคำที่ ๓ คำที่ ๕ กับคำที่ ๖ และ....คำที่ ๘ กับคำที่ ๙ สัมผัสสระชิด ส่วนคำที่ ๑ กับคำที่ ๔ กับคำที่ ๗ เป็นคำที่เหมือนกันทุกประการ ดังตัวอย่าง

กระจายหมาย กระเจิงเมิง กระจางหมาง
                                                    ก   จ     ม     ก   จ   ม   ก   จ     ม
ขวางมิดทิศ ขวางมั่วทั่ว ขวางมางทาง     มากางหงาง มาเกงเหงง มาโกงโหงง
ข     ม  ท   ข     ม  ท  ข     ม   ท        ม  ก     ง    ม  ก     ง   ม   ก     ง
กลบท พิณประสานสาย   
                                กระจายหมาย กระเจิงเมิง กระจางหมาง
ขวางมิดทิศ ขวางมั่วทั่ว ขวางมางทาง   มากางหงาง มาเกงเหงง มาโกงโหงง
    
ป่าดูคู่ ป่าดีคี่ ป่าดงคง               ว่าปงหลง ว่าเปิงเหลิง ว่าโปงโหลง
มาเยือนเตือน มาย้ำตำ มาโยงโตง      ปลาโทงโยง ปลาแทงแยง ปลาทนยน
   
จะไปไหล จะปักหลัก จะปายหลาย       จิตจายหาย จิตแจ้งแห่ง จิตจนหน
มาท่าว่า มาแทะแวะ มาทนวน          โอ้บ่นทน โอ้เบื่อเทื่อ โอ้บาทา
   
จะขายลาย จะของลอง จะขัดลัด          มามัดหัด มามากหาก มามาหา
คิดขาค่า คิดข่มคน คิดขายคา           มันหลาจา มันไหลใจ มันหล่มจม
   
ระทึกนึก ระทวยนวย ระแทงแนง       จิตแรงแสง จิตรักศักดิ์ จิตรมสม
มารวยด้วย มาเริ่มเดิม มารมดม        นั่งหล่มจม นั่งหลามจาม นั่งแลแจ
   
คนจำคำ คนจนคน คนจิตคิด           ถือสิทธิ์ผิด ถือสารผ่าน ถือแสแผ
มากวนล้วน มากางลาง มาแกแล        ไม่แยแส ไม่ยอมส้อม ไม่ยมซม
   
กระโจมโลม กระจายลาย กระจางลาง     มะยางสาง มะยอมสอม มะยมสม
จะจองลอง จะจ้างล้าง จะจมลม           ถึงอมขม ถึงเอินเขิน ถึงอื่นคืน
   
พระเสริฐเลิศ พระศาลา พระศอลอ       มายอขอ มายำขำ มายืนขืน
ตัวต้องย่อง ตัวตั้งยัง ตัวตื่นยืน          คนอื่นขืน คนอาจขาด คนอำขำ
   
มาอึมหึม มาอำหัม มาอาจหาญ           จะรานขาน จะเรื่องเขือง จะรำขำ
มันร่านจ้าน มันร้องจ้อง มันรำจำ         จะรำคำ จะรานคาน จะรนคน
   
จากพารา จากพึ่งรึง จากเพียรเรียน       มาเวียนเหียน มาวันหัน มาวนหน
ประนอมค้อม ประนดคด ประนมคน       จะรนดล จะรำดำ จะรีบดี
   
มาเกินเขิน มากันขัน มากู่ขู่             จะดูหมู จะดาหมา จะดีหมี
พระสบพบ พระสงฆ์พงศ์ พระสีพี         ศักดิ์ศรีมี ศักดิ์สิทธิ์มิตร ศักดิ์สัมมา
   
มารังทัง มาแรงแทง มารงทง            จะกงหง จะแกงแหง จะกางหา
  
ถึงลงกง ถึงลังกัง ถึงลังกา               จากคาหา จากเคเห จากคนหน
   
ช่างกำลำ ช่างก่อลอ ช่างเก็บเล็บ          มาเจ็บเส็บ มาแจกแสก มาจนสน
มารำพำ มาร้องพ้อง มารนพน           ใจพ้นจน ใจพังจัง ใจไพรใจ
   
เสียงเทิ้งเติ้ง เสียงทึ่งตึ้ง เสียงทึ๊ดตึด       ดังจึดลึด ดังเจิงเลิง ดังใจไหล
แว่วอิ้งวิ้ง แว่วอึ้งวึ้ง แว่วไอไว           น้ำไหลใส น้ำลงสรง น้ำล่ำซำ
   
ป่าปกรก ป่าเปรียบเรียบ ป่าไปไร        มีไก่ไข่ มีกังขา มีกรรมขำ
มีคิดจิต มีคนจน มีคำจำ               มีลำนำ มีแลแน่ มีลองนอง
   
เขียนยากมาก เขียนยุ่งมุ่ง เขียนยำมำ     มาอำขำ มาอืนขืน มาอองของ
จะลามา จะแลแม่ จะลองมอง            มาลองออง มาแลงแอง มาเลยเอย.
                                          ...หยาดกวี...
                                       ๒ ตุลาคม ๒๕๕๑

///////////////////////////////////////////////////////////////////

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/10/W5923069/W5923069.html

จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม   - [ 16 ต.ค. 50 13:56:15 ] 

 

๑๐. เมื่อโง่โซ เมื่องึมซึม เมื่อเหงาเศร้า
ใครเย้าเล่า ใครยอล่อ ใครยอมหลอม
ยอมนวลข่วน ยอมนางข้าง ยอมน้อมค้อม
ไม่จอมปลอม ไม่จิตปลิด ไม่จงปลง

ขอดวลนวล ขอดำน้ำ ขอดาหน้า
แม้จ้าล้า แม้ใจไหล แม้จงหลง
ให้คำย้ำ ให้คู่อยู่ ให้คงยง
เพลงส่งตรง เพลงแสร้งแต่ง เพลงสูตู				
4 พฤศจิกายน 2552 22:50 น.

11/104 คอยคนนั้น...(ว่าด้วยกลบทกบเต้นสลักเพชร)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

*ใครคนนั้น   ครั้นเคียงนิด  คิดคอยหน่อย
คงไม่ถอย  ค่อยมองถาม   คร้ามมัวถอย
ปองคนเคย   เปรยคำแคลง  แปลงคืนคอย
พี่อ่อนด้อย  พลอยอกดิ่ง  พิงเอี่ยวดาย 

*ค่ำคืนนี้  คลี่ความนัย  ใคร่ครวญนึก
ป่วนรู้สึก   ปึกเรื่องเศร้า   เปล่ารอสาย
จนพี่ครวญ   จวนพลบค่ำ   จำพรากคลาย
เจ็บเจียนตาย  จ่ายจิตตรม  จมใจตรอง

*ครวญคะนึง  ครึ่งคะนอง  ครองความแน่
ยังรักแม้    แย่รอยหม่น   ย่นเรื่องหมอง
เพียงเพราะร้าง  พลางเพรียกร่ำ  พร่ำพูดลอง
สุดจับจอง   ส่องจิตใจ   ใส่จวนเจียน

*ค่อยคิดนึก  คึกคักนาน  คร้านคลั่งน้อง
เราจองหอง  ร้องจงหวน  รวนจิตเหียน
เมื่อเธอพราก  มากที่เพ้อ  เหม่อทิ้งเพียร
แสนวนเวียน  เศียรวุ่นวาย  ส่ายว่องไว

*คิดคำนวณ  ครวญคิดน้อม  ค้อมคำนับ
เรียงร้อยศัพท์    รับรองส่ง  หลงรอยใส
จึงกล่าวกลอน  จรกกกอด   จอดกันไกล
เหตุอันใด  ให้อกด้าน  หาญอื่นดาม

*คอยคนนั้น  ครั่นคร้ามแน่  แคร์แค่ไหน
ช่างหวั่นไหว   ใช่วันหวัง  ชังแววหวาม
คนแสนงอน   ค้อนแสร้งหงอย  ค่อยสวยงาม
ท้องฟ้าคราม   ท่ามฝนครวญ   ทวนฟ้องคำ

*ใครคนไหน  ใคร่คบน้อง  คล้องครองเนื้อ
พี่ติดเชื้อ  เผื่อตายช้า   พร่าตนช้ำ
แม้ถลอก  หมอกถลา   มาถ่อลำ
ทุกรอยจำ  ทำรอยจาก   ถากรอยจร

อธิบายกลบท.....

กลบทกบเต้นสลักเพชร

เป็นกลอน ๙ คำ ที่บังคับให้ใช้
เสียงพยัญชนะ ซ้ำเสียงถึง ๓ชุดๆละ ๓ เสียง สลับกันตลอดวรรค

และต้องซ้ำเสียงสระอีก ๒ ที่ตรงคำที่๓-๔ และ๖-๗ทุกวรรคเช่นกัน

อีกข้อบังคับคือ เลื่อนคำรับสัมผัสจากคำที่๓ไปสัมผัสระหว่างวรรคตรงคำที่๖


ตัวอย่าง กลอนกลบท ที่เกี่ยวข้อง

สร้างโลก..โยกกังวล (ด้วยกลบทกบเต้นสลักเพชร)   ญามี่
พิรุณร่าย พายเรือหลบ พบโลกเร้น
ระรัวตื่น รื่นลมเต้น เล่นรอบต้น
ไม้ลูกดื่น หมื่นลูกได้ ไหม้หล่นดล
สักพักพลัน สรรค์เพิ่มผล สนพอกพัน

เตร่ไปรอ ตอเปื่อยรก ตกปริรุ่น
กลิ่นเหม็นขื่น กลืนหมองคุ้น กรุ่นหมายคั่น
พารำลึก พฤกษ์หลอนหลง พงร้อยรั้น
ของวิถี คลี่วางทัน ครั้นหวั่นทัก

ทุกข์รื่นลาม ท่ามร้องลบ ทบไหลหลอม
คือวลี คลี่แวดล้อม ค่อมวางหลัก
สร้อยแล้วลุก สุขแล้วรอน ซ่อนล้อลัก
กังวลกราย ก่ายวักกัก กวักหวานเกลา

โลกเร้นลับ หลับเลยร้อน หลอนลืมร่ำ
บางเวลา บ่าวอดล้ำ บ๋ำวิ่งเร่า
ลองจ่อมบ่อ ล่อเจ็บใบ้ ไล่จางเบา
สติต้อง ส้องติดเตา เศร้าต้องตัด

ผ่านโลกเร้น เพ็ญลอยล่อง พร่องรอนร่วง
กายซ่านซ่า กล้าสุมทรวง กลวงส่องสัตย์
กลัวต้องมี กี่ตรมมา กล้าตามมัด
แต่ต้องพัก ตักตวงผลัด ตัดตอนพร้อม...

////////////////////////////////////////

http://www.praphansarn.com/new/forum/forum_posts.asp?TID=8797&PN=24
ขุนพลน้อย
สมาชิกดีเด่น    Posted: 18 January 2008 เวลา 23:39 | IP Logged
ระลอกคลื่นลื่นลับคล้อยลอยเลือนข้าง
 คลอซบเรียงเคียงเซาะล่างข้างทรายร่วน
เดินเชยชมดมชื่นชูดูเชิญชวน  
กลิ่นหอมทรายกรายห่างสวนกวนหาดทราย

น้ำสีฟ้าหน้าทรายฝันนั่นสอนใฝ่ 
อยากเขียนคำย้ำคำไขใหญ่คล้ายค่าย
เพราะคิดถึงพึงคิดถามพล่ามครวญคลาย 
 เขียนเรียงรายคล้ายร้อนร่ายขายร้อนรน

จิตหมองไหม้ใจเหม่อหม่นจนเมินหมาย
คิดแหนหวงควงห่างหายคล้ายห่วงหน
เหมือนเวียนวุ่นมุ่นแวะวางหมางวกวน 
เหมือนทุกทางหมางทุกข์ทนหม่นถักทอ

                                                   ลมรอนผ่านรานรุกพร่ำร่ำรักพ้น
คิดถึงคำคร่ำครวญค้นคนเคยขอ
ใจคิดถึงจึงคิดถักจักถักทอ 
คอยคิดคร่ำค่ำขอคลอคลอคนเคย

**************-----------------------------------------*******************

Posted: 19 January 2008 เวลา 13:26 | IP Logged
คำคนเหยียดเครียดเขาหยันคั้นคำเย้ย"
"อยากทำเฉยเย้ยที่ชอกยอกที่ฉล"
ใจเจ็บหนักจักจำหน่ายจ่ายจำนน
คำเป็นผลคนเป็นพิษคิดเป็นพาล
กอดเกลียวคลื่นกลืนกรรมเคราะห์เกาะกรรมคด
ทะเลลดทดลมท้อทอหลักฐาน
ธาตุสายลมถมใส่ลำทำสิ้นลาน
หูไม่เบาเหาไม่บานหารไม่บาง
ห่างไม่เบี้ยวเ*่ยวไม่บดหดไม่บาป
เกลียดคำหยาบกราบคือหยุดกุดคอย่าง
แหล่ะลมเลวเหลวลืมลากหลากลางลาง
ชั่วให้วางช่างให้เว้นเช่นให้วาย
(อิอิ-เพิ่งหัดเขียน)

////////////////////////////////////////////////

http://www.reurnthai.com/index.php?topic=488.0;wap2

...พร่ำร่ำเรียงเพียงร่ำร้อยประดอยประดิษฐ์
คอยตั้งจิตคิดตั้งใจเฝ้าใฝ่เฝ้าฝัน
ถักคำซอยถ้อยคำซึ้งรำพึงรำพัน
มิตรรวมกันมันเรื่องกลอนขจรขจาย
...เชิญมาครวญชวนมาคล้องสนองสนุก
สิ้นสร่างทุกข์สุขเสริมท้นจนล้นจนหลาย
แม้นเริงร่ามาร่ายเรียงอย่าเอียงอย่าอาย
หมายอยากชวนมวลหญิงชายลองร่ายลองเรียง

**************************----------------------************************

พลายงาม:
o ใจคิดนำจับคำนึกฝึกสลัก
เรียบเรียงถ้อยร่ำร้อยถักร่างอักษร
แต่งถ้อยนำตามทำนองคล้องบทกลอน
ลองกานท์ยลเล่นกลย้อนสุดอ่อนใจ ฯ

*********************************----------------------------**********************

o....
เรียบเรียงถ้อยร้อยเรียงถักร่างอักษร
ลับสมองลองสมานสานเป็นกลอน
กลไล่ย้อนก่อนเลียนเยี่ยงเพียงอยากลอง
oนึกคำกลอนนอนคิดเกลาสำเนาร่าง
วาดคำสร้างวางคำเสริมเค้นสมอง
แม้จะยุ่งมุ่งใจย้ำคำคล้องจอง
จัดถ้อยนำจำทำนองแต่โบราณ
oนึกเทียบคำนำเทียบเคียงเรียงคำหน้า
คิดสัมผัสคัดสรรพามาประสาน
สำนวนกล้ำสำเนากลอนพิศดาร
เขียนพลาดผิดคิดพลั้งผ่านจงอภัย
oเห็นต้องยากหากแต่งยาวคงหมดฤทธิ์
เกรงพามั่วกลัวเพื่อนมิตรจะบ่นให้
จบยังยากจากยังเย็นสุดเข็ญใจ
กลฝากวอนก่อนฝากไว้ให้ยลยิน
oใช่อยากเด่นเช่นอย่างดังแค่ตั้งฝัน
หวังสืบสานวานสืบสรรวรรณศิลป์
ขอยืนยงคงยืนอยู่คู่ฟ้าดิน
หมดดวงแดแม้ดับดิ้นไม่สิ้นเอย ฯ

///////////////////////////////////////////////

http://www.srakaew.tht.in/aticle55Blank.html
กลบทกบเต้นสลักเพชร
เพราะหลงรัก ภักดิ์รักลวง  พ่วงรักหลอน
ชอกเหยียบย่ำ  ช้ำเยือนย้อน  ชอนเย็นเยียบ
จิตทาบเพ้อ  เจอทุกข์พ้อ  จ่อทุกข์เพียบ
รัวร้อนเร่า  เร้ารุกเรียบ  เลียบลามรวม


คะนึงใฝ่  ใคร่นั่งฝัน   คั่นนอนเฝ้า
รอนรอซุ่ม  รุมรวมเศร้า  เร้ารอสวม
ร่ำเจ็บบ่อย    รอยเจ็บบ่ง หลงจนบวม
ทุกข์จับนิ่ง   ทิ้งจนน่วม  ท่วมจมนาน


รักมาซุก  รุกหม่นเศร้า  เร้าหมองซ่อน
อยากตัดรัก    ยักตอนรอน  ย้อนตัดร่าน
ลบซึมซุก  รุกโศกซบ ลบซมซาน
ไม่ไพล่เผลอ เหม่อพบพาน  มารพาเพ้อ

//////////////////////////////////////////

http://www.watkoh.com/forum/index.php?topic=5.645

plyfha 
Hero Member   
 
Re: ฝากกลอนไว้จากปลายฟ้า 
« ตอบ #645 เมื่อ: 06 ตุลาคม, 2009, 04:04:07 pm »	

พาลมรัก พักรักลวง พ่วงรอยรอ
จะคอยคิด จิตใครครอ จ้อครวญคร่ำ
ระลอกคลื่น รื่นเริงขอ รอเรียงคำ
ลมไล้โชย โรยลาช้ำ ล้ำรอยชา

ใจร้าวป่วน จวนรักปิด จิตเลยปล่อย
เลยจำคำ ร่ำใจคอย ร้อยใจคว้า
ใจหมองหม่น จนหมองหมาง จางเมฆมา
รอยฝากฝัง รั้งฝั่งฟ้า ล้าฟาดฟัน

หมุนใจเยือน เหมือนใจยอก หมอกจะย้อน
มองดูฟ้า มาเดินฝาก มากได้ฝัน
ไม้ได้จอง มองดูจิต มิตรดูจันทร์ 
ไม่ฝากฟ้า มาฝากฝัน มันฟุ่มเฟือ

//////////////////////////////////////////////

http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2007/10/W5923069/W5923069.html
แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 50 14:12:16 

จากคุณ : ย.ยิ้มแย้ม   


๔. เว้นจากร้าย วายจิตร้อน วอนเจ้ารัก
เมื่อจะหัก มักเจ็บให้ ไม่จักเห็น
รักจะยืน รื่นจะย้อน ร้อนจะเย็น
ห่างลำเค็ญ เห็นล้ำค่า หาเลือนความ

มีรักแท้ แม้ไร้ที่ มีร้ายทับ
จากสิ่งสรรพ จับซ้ำสอง จ้องซ้ำสาม
มิคลาดเคลื่อน เหมือนใครใคร ไม่ครั้นคร้าม
ข้าจักตาม ความจักตาย คลายจิตตรม				
2 พฤศจิกายน 2552 22:22 น.

10/104 ทางผ่าน...รัก (ว่าด้วยกลบทกบเต้นกลางสระบัว)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

วันนี้ ง่วงนอนครับ

เอาไว้ต่อ พรุ่งนี้  ไม่หก ก็แปด  สุดท้าย ได้ เจ็ดบท อิอิ

*ผ่านแล้ว แผ่วรัก ตระหนักผ่าน  
ไหนซ่าน นานซึ้ง นานถึงไหน
ใจร้าว  เจ้าหลอก  ออกนอกใจ
เจ็บใด ใจดำ  เธอทำเจ็บ

*ขอหยุด  ขุดหย่า  วาจาขอ
เหน็บต่อ หนอตรม  ยิ่งจมเหน็บ
เก็บคำ  กล้ำข่ม สะสมเก็บ
แสนเจ็บ  เจ็บแสบ  ปวดแปลบแสน

*ขื่นใด  ไข้ดัน ประจัญขื่น
แผนรื่น  ผื่นร้าย  เป้าหมายแผน
แทนคำ  ทำค้อน  มาอ้อนแทน
สุดแดน  แสนดิ้น  จะสิ้นสุด

*น้อยต่ำ  น้ำตา  ไหลมาน้อย
ผุดบ่อย  พลอยบ่น  ระคนผุด
ชุดช้ำ   ช่ำชอง  ดั่งลองชุด
เศร้าสุด  ชุดโศก  วิโยคเศร้า

*ทางผ่าน  ทานพ่าย  เรียงรายทาง
เหงาอย่าง  ง้างยิง  ก็ยิ่งเหงา
เราครวญ  ล้วนคราง ก็ช่างเรา
เรื่องเก่า ร้าวเกิน  จะเดินเรื่อง

*ผ่านรัก  ผลักไล่  ไปให้ผ่าน
เปลื้องตรม  ปมต่าง  แค่วางเปลื้อง
เนืองนอง  น้องหน่าย  ไปเนืองเนือง
เปล่าเปลือง เปลื้องปลด  ก็หมดเปล่า

*ดิ้นรน  ด้นรั้ง  ก็ยังดิ้น
เศร้ากิน  สิ้นกลวง ทะลวงเศร้า
เราคอย  รอยคำ  เคยพร่ำเรา
แล้วเจ้า  ราวจาก  ไปพรากแล้ว


คำอธิบายการแต่ง

กลบทกบเต้นกลางสระบัว

เป็นกลอน ๗ คำ ที่บังคับให้ใช้

๑.เสียงพยัญชนะตัวแรกวรรคไปจบที่ท้ายวรรคด้วย
เช่น รัก.. .. .. .. .. รัก

๒.เสียงพยัญชนะ ซ้ำเสียง ๒ชุดแรก ชุดละ ๒ เสียง สลับกันตลอดวรรค
เช่น
รักมาก หลากมัว

๓.ต้องซ้ำเสียงสระอีก ๒ ที่ตรงคำที่๒-๓ และ๔-๖ทุกวรรคเช่นกัน
เช่น
รักมาก หลากมัว ทรวงรัวรัก

๔. เลื่อนคำรับสัมผัสจากคำที่๓ไปสัมผัสระหว่างวรรคตรงคำที่๔
เช่น
รักมาก หลากมัว ทรวงรัวรัก
จิตใฝ่ ใจฝัก สุดหักจิต

ตัวอย่าง บทกลอนที่เกี่ยวข้อง  

อาลัย...ยามจาก(ด้วยกลบทกบเต้นกลางสระบัว)    ญามี่
เปล่าเดียว เปลี่ยวดายเ หมือนป่ายเปล่า
ข้างหงอย คอยเหงา สร้อยเผาข้าง
ร้างแหล่ง แรงหลอน  ก่อรอนร้าง
เหมือนมนต์ หม่นหมาง แวะวางเวียน

เปลี่ยวโรย โปรยเร่า ปร่าเปล่าเปลี่ยว
เปลี่ยนไล้ ไป่เลี้ยว เลาะเลี้ยวเปลี่ยน
เลียนลา ล้าหลอก เกินหลอกเลียน
ทรวงซ่อน ซ้อนเสี้ยน เบียดเบียนทรวง

ยากจาก อยากจำ สิ่งย้ำยาก
หน่วงปอง นองปาก คอยลากหน่วง
ท้วงถาม ท่ามท้อ  ถักล้อท้วง
เคียงขอ คลอควง คนล่วงเคียง

ฝันป่าย ฝ่ายปวด เกินอวดฝัน
เสียงสร้อย ซอยสรรค์ คั่นบั่นเสียง
เรียงน้ำ ร่ำนาน ทั่วลานเรียง
นัยน์ตา หน้าเตียง เกินเกี่ยงนัย

บ่งคิด บิดใคร่ ใช่ไกลบ่ง
ขัยสร้อย คอยส่ง ปลิดปลงขัย
ชัยช้ำ ช่ำชอก คอยบอกชัย
รอนอ้า อาลัย รั้งนัยรอน

เดี่ยวด้น ดลด่าว ทุกก้าวเดี่ยว
ผ่อนเปล่า เผาเปลี่ยว ยากเหนี่ยวผ่อน
ทอนรุก ทุกข์ร่น จำทนทอน
ยามจาก ยากจร ทุกข์ค่อนยาม

/////////////////////////////////////

http://www.oknation.net/blog/kondee007/2008/09/30/entry-1
กลบท กบเต้นกลางสระบัว
  
มีข้อกำหนด ให้วรรคหนึ่ง มีด้วยกัน ๗ คำ แบ่งเป็น ๓ ชุด 
   
๒ ชุดแรก ชุดละ ๒ คำ 
  
ส่วนชุดที่ ๓ มี ๓ คำ  
  
๒ ชุดแรกมีการซ้ำเสียงพยัญชนะ  และให้สัมผัสอักษรซ้ำสลับกัน 
  
และสัมผัสสระชิด 
  
อีกอย่างหนึ่ง คำแรกและคำสุดท้ายวรรคเหมือนกัน ดังแผน
  


เส้นที่โยงข้างบน คือ สัมผัสอักษรสลับกัน 
  
เส้นที่โยงข้างล่าง คือ สัมผัสสระ และคำเหมือนกัน 
  
หรือ คำที่ ๑ กับคำที่ ๓ คำที่ ๒ กับคำที่ ๔ สัมผัสอักษร  
  
คำที่ ๒ กับคำที่ ๓ คำที่ ๔ กับคำที่ ๖ สัมผัสสระ  
  
ส่วนคำที่ ๑ กับคำที่ ๗ คือ คำที่เหมือนกัน ดังตัวอย่าง
        
ท่องป่า ท่าไป ดูใจท่อง         ไหนมอง หนองมี อยู่ที่ไหน
ไพรมี พี่มา อย่าว่าไพร         เดินไหน ใดน้อง มาต้องเดิน
     
กลบท กบเต้นกลางสระบัว
    
                                                                                           เสียงโลก โศกล้วน รัญจวนเสียง
เวียงอ้อน วอนเอื้อน เป็นเพื่อนเวียง   แลเถียง เลี่ยงท่า ไม่น่าแล
    
หนาเมือง เนื่องหมด รันทดหนา        แสหา สาเหตุ ทุเรศแส
แยลาก อยากล่อ มาต่อแย               คนแก่ แค่กวน มาชวนคน
    
ไหนมี หนี้หมด สิ้นจดไหน               สนใจ ใส่จิต ไม่คิดสน
จนมี จี้หมด มาอดจน                     ใจคน จนคู่ อดสูใจ
   
เข้าป่า ข้าไป ให้ไกลเข้า                 ใสเจ้า เศร้าจำ ดูน้ำใส
ไพรป่า พาปก ร่มรกไพร                  ดูไสว ได้สว่าง เหยียบย่างดู
       
น้ำตก นกเตือน เย็นเหมือนน้ำ          สูข้าม สามเขา กับเราสู
ดูไม้ ได้มา ที่น่าดู                         สบายหู สูเห็น ใจเย็นสบาย
    
รักเมือง เรื่องมาก ลำบากรัก             หายหนัก หักไหน น่าใจหาย
วายวาง ว่างเว้น ไม่เห็นวาย             กันไว้ กายไหว ที่ไหนกัน
          
ดงไม้ ได้มอง มาท่องดง                 สัณฑ์ศวง ส่องไสว ในไพรสัณฑ์
จันทร์สว่าง จางแสง สีแดงจันทร์       ใจผัน จันทร์ผ่อง นั่งมองใจ

ท่องป่า ท่าไป ดูใจท่อง                  ไหนมอง หนองมี อยู่ที่ไหน
ไพรมี พี่มา อย่าว่าไพร                   เดินไหน ใดน้อง มาต้องเดิน
         
ผินหน้า พานก มาผกผิน                 เหินบิน หินบัง นกยังเหิน
เพลินตา พาต้อง เดินมองเพลิน        มองเกิน เมินกัน นกหันมอง
         
น้ำตก นกไต่ ตามไหล่น้ำ                สองตาม สามตัว มุดหัวสอง
นองไหล ไหนแล กระแสนอง           เจิงหนอง จ้องหนา น้ำป่าเจิง
         
ไหวลิง วิ่งเล่น มองเห็นไหว             เหลิงไป ไหล่ป่า ลิงมาเหลิง
เปิงลอง ปองเหลิด มาเปิดเปิง          มองเหยิง เมิงย่าง เมียงข้างมอง
         
โศกหมด สดมี หน่ายหนีโศก            ของโยก โขกย้าย เสียดายของ
มองป่า มาเปรียบ ลองเทียบมอง       จนหมอง จ้องมี โลกนี้จน
        
ป่านก ปกแน่น มีแสนป่า                  หนท่า หาทั่ว ทุกหัวหน
คนมา ค่ามี ความดีคน                    ดูจน ดลใจ ให้ไพรดู
        
ใยลาก อยากลวง มาห่วงใย             หูไหน ให้นัก มาหนักหู
คูขัน กันเข้า นกเจ้าคู                     เราสู รู้ซึ้ง คิดถึงเรา
         
เพื่อนคิด ผิดคน มาจนเพื่อน            เฉาเตือน เฉือนตาย หญิงชายเฉา
เราเศร้า ร้าวโศก วิโยคเรา               มาเผา เมาเพื่อน เขาเตือนมา
      
นกร้อง นกรู้ อยู่ที่นก                      หนาปก นกไป เศร้าใจหนา
พาบิน ผินใบ เศร้าใจพา                  หมดป่า พาไป ถามใครหมด (เอย.)
          
                                                              ...หยาดกวี...
๓๐ กันยายน ๒๕๕๑

///////////////////////////////////////////

มนต์รัก อักษรกล ( กลบท กบเต้นกลางสระบัว )   โดย  puumrapee  กวีกิตติมศักดิ์

« เมื่อ: พฤษภาคม 23, 2009, 01:24:29 AM »

ร้อยคำร่ำความนิยามร้อย
ศิลป์ฐานสานถ้อยมาร้อยศิลป์
รินรายร่ายเรียงเป็นเสียงริน
ยลจินต์ยินจารตระการยล

ช่องว่างช่างเว้นดูเด่นช่อง
ผลกรองผ่องกานท์ละลานผล
กลบทกฏระเบียบดูเปรียบกล
วางยลวนย้อนอักษรวาง

ถ้อยสลักถักเสลาขัดเกลาถ้อย
ร่างรอยร้อยเรียงเทียบเคียงร่าง
พลางเสริมเพิ่มสรรพลิกผันพลาง
เพียรทางพลางทวนสำนวนเพียร

ฝึกกลฝนกานท์โวหารฝึก
เขียนนัยไขนึกค่อยฝึกเขียน
เวียนค้นวนคว้าตำราเวียน
เพลินเรียนเพียรรู้อ่านดูเพลิน

เริ่มจากรากใจมาใฝ่เริ่ม
เขียนเติมเคลิ้มต่อไม่ท้อเขิน
เดินมุมดุ่มมั่นบากบั่นเดิน
กลอนเชิญเกริ่นชักมารักกลอน ฯ				
1 พฤศจิกายน 2552 23:13 น.

9/104 โปรดลองอ่าน (ว่าด้วยกลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

บทกลอนนี้ ตอนแรก ตั้งใจไว้ว่า จะทำแบบ ตลกๆ

แต่งไปแต่งมา  สมดั่งมุขยอดฮิตที่ว่า  "มุขไม่ฮา พาเพื่อนเครียด"  555+

เห้อออ ตลก คนเดียวก็ได้ครับ

* โปรดลองอ่าน ไปร้านอื่น อย่าขืนแวะ
ใครขี่แพะ คนเเขวะเพื่อน ต้องเบือนหนี
ขอเช่าเบียร์  เขาเชียร์บอก  ข้างนอกมี
ไปร้านสี่  ป้าดดดดหลีสาว ทั้งเอาใจ

*ไยน้องรัก  ยอนักร้อง  แล้วลองจีบ
ไม่กลัวถีบ  เมื่อกลีบเท้า วิ่งเข้าใส่
เพียงลองหลบ  เพราะรบรัก  กลัวหนักไป
ช้าเมื่อไร ใช้ไม้ไล่  พี่ไป...ล่ะเด้ออ

*เอาเป็นว่า  เอ็งปร่า-หวั่น  ข้าครั่นคร้าม
เอ็งอย่าถาม  อ๋อยามท้อ   เอ็งก็เซ่อ
เหนื่อยและหน่าย  หนอยรายนี้  คุณซี้เกลอ
ยังละเมอ  ยิ่งเรอมาก   ลำบากตู

*จะชวนวิ่ง  จ่อชิ่งไว  เพราะใจปอด
โปรดอย่าออด  ไปหยอดอา-  หารตราหมู
ยี่ห้อช้ำ  ยังห้ำ - เชิง   กระเจิงรู
เรื่องหมาหมู่   รอหมูหมด   ปรากฏตัว


สำหรับตัวอย่าง  กลบทนี้

รอ..ท่ามฝนพรำ(ด้วยกลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง)    ญามี่
ฝนปลิวโรย ฝอยโปรยไล้ กายไหววุ่น
เหงาเคียงเคล้า หงอยเค้าคุ้น เวียนวุ่นหา
ใจเร่จร จับรอนเจ็บ หน่วงเหน็บล้า
น้ำวูบไว นัยน์ไหวว้า หวังคว้าใคร

ราวแร้นแค้น ร้อนแล่นคอย สอยสร้อยสวม
ระด้นร้าว ระด่าวรวม ถมท่วมไล้
คิดถึงคืน เคลิ้มครื้นขำ รื่นร่ำไร
คิดถึงค่ำ คอยคำใคร มาใยดี

รอพร้อมภักดิ์ ล่อผลักผ่าว ด้วยก้าวหมาย
รอรางวัล รอนรั้นว่าย มาก่ายถี่
รอที่ว่าง หลอกทางว้า มาราวี
เริ่มลืมตา รอราตรี หวังมีใคร

ท่ามรอหลอก ท้อลอกหลอน มาอ้อนข้าง
เหมือนจ่อมบ่อ เมียงจ่อบ้าง กับร้างไหว
หวังโอบอ่อน วอนอ้อนอม ลืมขมไล้
หวังแขนคล่อง วางคล้องไขว่ ข้างใคร่เคียง

รอนาที ราวหนี้ทัก เกินผลักผ่าว
มีหลุมหนาม มุ่งลามน้าว เกินก้าวเลี่ยง
ลมหายใจ หล่อไห้จับ เริ่มคับเอียง
ยังรัวรอ ยอมหล่อเลี้ยง พร่ำเพียงคอย

กลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง

เป็นกลอน๙ ที่บังคับให้ใช้
เสียงพยัญชนะ ซ้ำเสียง ๓ เสียง  สลับกัน๒ชุดแรก เหมือนกลบทกบเต้นต่อยหอยแล้ว
ต้องซ้ำเสียงสระอีก ๒ ที่ตรงคำที่๓-๕ และ๖-๘ทุกวรรคเช่นกัน
และ เลื่อนคำรับสัมผัสไปสัมผัสระหว่างวรรคตรงคำที่๖

............................................................................................

กุ้งหนามแดง
นั่งคอยแฟน น้องแค่นฟ้อง จึงมองหน้า
เอ็งจะบ้า อาจจะบอ นั่งต่อถัง
มาใส่ใข่ มาใส่ข่าว สืบสาวยัง
ชีวิตพัง ชะหวังผิด สะกิดเตือน

เรื่องของตน เร่งขนเติม เริ่มเสริมฐาน
ก่อนถึงการ กันฐานแกว่ง ด้วยแรงเคลื่อน
สุมกองใหญ่ สิใกล้แย่ อย่าแชเชือน
ตกกลาดเกลื่อน ติเกลื่อนกล่น ไม่พ้นมือ..

........................................................................................

พี่ยา
ยามที่ฝน  อยู่ทนฝา หลังคาบ้าน
กำแพงบาน ก็พานเบื่อ น้ำเมื่อไหล
จานชามคว่ำ จนช้ำค่า ราคาใจ
นานแค่ไหน  นะใครหนอ จะพอกัน

ฝนยังตก  ฝายกใต้ หัวใจฟ้า
รินไหลมา ร้างลาหม่น แค่คนฝัน  
ก็คนดู  กับคู่เดือน ต่างเลือนกัน
อกใจสั่น  อาบจันทร์แสง เหมือนแกล้งเลือน

....................................................................................
http://www.oknation.net/blog/morningmoon/2009/05/20/entry-1
วันพุธ ที่ 20 พฤษภาคม 2552 
..คิมหันต์อำลา ..(กลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง) 
Posted by ภูมิรพี , ผู้อ่าน : 237 , 20:49:16 น.  

ทะเลชม ท่ามลมชวน คลื่นครวญกล่อม
ชายหาดย้อม ช่างหอมยวน มวลมนต์ฝัน
ระลอกคลื่น ระรื่นคล้าย หมายจำนรรจ์
ถวิลผัน ทุกวันผก ซบอกทราย
 
ระรินชื่น ระรื่นชวน กลิ่นนวลหอม
ละลวยกล่อม ไล้หลอมกรุ่น อุ่นความหมาย
อยู่คู่ฝัน ยอดขวัญใฝ่ เคียงใจกาย
จิตมิคลาย ใจหมายครอง ปองคู่กัน
 
คลื่นซบทราย คือสายสรรค์ สัมพันธ์ซึ้ง
ฝากถ้อยหนึ่ง ใฝ่ถึงนวล ผู้ชวนฝัน
ครวญฝากใจ ขอใฝ่จิต นิจนิรันดร์
แม้กี่ผ่าน แม้กาลผัน คิมหันต์กลาย ฯ

http://noknoi.com/pamoo/board/board.php?group=Pamoo&id=3082
มองโลก (กลบท ระลอกแก้วกระทบฝั่ง)

มนุษย์หนา มนาใน น้ำใจนั้น 
คิดกระสัน แข่งกันสร้าง ต่างลุ่มหลง 
อัตตาโก้ อวดโตกร่าง อย่างลืมองค์ 
ดำริปลง ดำรงปรุง เถิดมุ่งธรรม 

อัตตาหนอ โอ้ตอนี้ ที่แสนใหญ่ 
ปุ่มภายใน เป็นภัยแน่ แค่ถลำ 
อกุศล โอ้กลสร้าง ปูทางกรรม 
พาตัวต่ำ พล้ำตำตอ ที่ก่อเอง 

มากตัวอย่าง มีต่างย้อน มาสอนจิต 
ภัยพ่นพิษ พาลผิดเพี้ยน เบียดเบียนเบ่ง 
ปาบไม่กลัว ไปมั่วกรรม ไม่ยำเกรง 
บ้างข่มเหง บ้างเคร่งหา โกงมากิน 

...................................... 
กลบท บังคับสัมผัสอักษร 1กับ4  2กับ5  3กับ6 
บังคับสัมผัสสระ 3กับ5 

วันหยุดลองแต่งดูครับ ได้บทหนึ่ง สองบท หรือสาม ก็มาแชร์กันครับ   
ผู้เขียน : ภูมิรพี 
๒๙ พ.ค. ๒๕๕๒, ๑๖.๔๗ น. 

โลกเรานี้ดูดีได้ใช่อิงอ้าง 
มีแบบอย่างจัดวางสร้างสืบศิลป์ 
โลกที่สามยินนามตามระบิล 
คนยังดิ้นต่างถิ่น ชินคุ้นเคย 

โลกมนุษย์ท้ายสุดหยุดอยู่นิ่ง 
คือความจริงมีหญิงชายหมายมาเอ่ย 
มาอยู่ด้วยมาช่วยสร้างอย่างดีเลย 
โลกที่เผยภิเปรยถกยกยืนยัน 
.............................................. 
กลบทนี้ เจาะจง ให้ ละเลยสัมผัสใน 
เป็นกลอนก็เข้าข่ายชิงสัมผัส-สัมผัสเลือนฯ 
(แก้ไข-หลังอ่านต้นฉบับ) 
ผู้เขียน : สุกรวดี 
๒๙ พ.ค. ๒๕๕๒, ๑๘.๒๑ น.

๐๐โลกสดชื่นรื่นสุดชอบมอบอักษร 
    เป็นคำกลอนป้อนความกล้าท้าสร้างสรรค์ 
    เรียงคำไทยไหลความทอดอ้อนออดกัน 
    ฝากสัมพันธ์ฝันสร้างเพื่อนร่วมเรือนชาน 

๐๐มิตรไมตรีมีมาต่อล้อความคิด 
    ชื่นใจจิตชิดจิตใจให้สมาน 
    ร่วมทุกข์สุขรุกทางสร้างอย่างยืนนาน 
    สร้างสมงานสานสิ่งงามความผูกพัน...... 
ผู้เขียน : --ครางแครง-- 
๓๐ พ.ค. ๒๕๕๒, ๐๙.๒๒ น.


มองโลกสีมาลีสวยช่วยแต่งเสริม 
พิศยิ่งเคลิ้มพาเยิ้มครวญชวนให้ฝัน 
คนละมือคราลือมองงามผ่องพรรณ 
เติมสร้างกันแต่งสันต์กรุ่นเจือจุนใจ 

เมื่อโลกร้างเหมือนลางร้ายที่ได้รับ 
คราร้อนทับคงรับถึงซึ่งสิ้นใส 
รักษาโลกเรื่องโศกลาหนีหน้าไกล 
ชวนทุกใครเชิญไทยครั้นวันโลกรักษ์ 
ผู้เขียน : คอนพูทน 
๓๐ พ.ค. ๒๕๕๒, ๑๐.๕๙ น.


ไทยเราสวย ทั้งรวยศิลป์ ถิ่นสะท้อน 
ปวงอักษร ประอรสื่อ คือประจักษ์ 
อีกหนึ่งศาสตร์ โอ้นาฏเสก เอกลักษณ์ 
ร่วมพิทักษ์ เราภักดิ์ถิ่น แผ่นดินทอง 

เทศกาล ท่านสานเกื้อ เอื้อคุณค่า 
ทุกถิ่นหนา ทั่วธานี มีฉลอง 
ช่วยก่อสรรค์ เชิญกันเสริม เติมเรืองรอง 
มวลพี่น้อง มากผองเนา เราชื่นใจ 
ผู้เขียน : ภูมิรพี 
๓๐ พ.ค. ๒๕๕๒, ๑๕.๕๐ น.

 แสนอนาถ สัตว์อาจน้อย บนดอยกว้าง 
                          ป่าถูกล้าง เปรตถางโล่ง จนโหรงเหรง 
                          นายทุนกร่าง หนุนทางกรรม สิ้นยำเกรง 
                          หมู่กวางเก้่ง แม้เก่งกล้า หนีหน้าไกล 

                          ความสมบูรณ์ คงสูญบ้าง เป็นบางแห่ง 
                          ในห้วยแล้ง น้ำแห้งลง มิสงสัย 
                          สัตว์ทั้งป่า สิ้งท่าป้อง จากผองภัย 
                          ไม่แก้ไข เหมือนใกล้ขั้น รอวันตาย 
ผู้เขียน : ฟ้าสีทอง 501 (กู้ภัย 07) 
๒๖ ต.ค. ๒๕๕๒, ๑๖.๐๙ น.


http://noknoi.com/pamoo/board/board.php?group=Pamoo&id=1407
คนไทยหรือเปล่า?
"กลบทระลอกแก้วกระทบฝั่ง" 

เป็นคนไทยแล้วไยเล่าเลิกเอาถ่าน  
ถูกประจานเพราะงานนี้คุณมีเถื่อน 
ตายน้ำตื้นยังฟื้นซ่าทุกข์มาเยือน  
หมู่พ้องเพื่อนเขาเตือนมามันน่าอาย 

คุณเหยียบย่ำคิดทำผลมีคนด่า  
ด้วยหมดท่าเลยซ่าแรงความแฝงร่าย 
ข้าวที่ขุนไม่อุ่นอิงขอติงนาย  
สื่อความหมายด้วยคล้ายขำถูกยำนาน 

ทำวางตัวขายชัวร์ข่าวเรื่องราวร้อน  
ปัญญาอ่อนวางผ่อนเอียงความเสี่ยงซ่าน 
ปากกับใจจึงไร้ชอบขอตอบพาล 
 ขอประจานเพราะงานนี้คุณมีพัง 

ผมก็คนหนึ่งจนจริงพร้อมอิงเอ่ย  
อยู่อย่างเชยขอเผยกลางไม่อ้างสั่ง 
ความพอดีจึงชี้บ่งบอกตรงจัง  
พูดเสียงดังควรฟังข้อยเพราะปล่อยชู 

คิดแล้วปลงแสนสงสารหมอขานไข้  
ป่วยทางใจด้วยไม่จริงหลายสิ่งอยู่ 
เหมือนตกตาลเพราะการไต่บอกได้ตู  
แย้ลงรูคิดกู่ ร้องคนข้องลาง 

ตื่นจากฝันด้วยขันขำจดจำแน่  
ปลงทุกข์แท้คิดแก้ถอนเพื่อผ่อนถาง 
ยุบหนอพองขอร้องบ่อยลอบค่อยวาง  
ความจืดจางคนช่างต่อความพอดี 

รอยแผลเป็นจึงเห็นง่ายความหมายเศร้า  
ชั่งอ่อนเบาลองเอาอิงช้อนพิงพี่ 
หลายอย่างล้วนดีชวนชมนิยมมี  
อย่าลืมที่คุณนี้อยู่ควรบูชา 

ใจกับปากขอฝากป้องควรลองเปลี่ยน  
หลายคนเอียนเขาเรียนฟ้องให้มองค่า 
เกิดเป็นคนถึงจนมีชั่ว-ดี พา  
ใช้ปัญญาช่วยมากันความบั่นทอน 

เหมือนจงใจทำให้เกิดว่าเลิศรู้  
เพื่อคนชูพอดูเห็นจึงเป็นอ่อน 
ชอบสร้างเรื่องคิดเฟื่องจังลับหลังตอน  
ความร้าวรอนเริ่มย้อนมีความดีรวน  

ไม่สำนึกรู้สึกตัวความชั่วก่อ  
หยุดเถิดหนอจึงขอยันความปั่นป่วน 
โลภโกรธหลงโปรดปลงเถิดให้เกิดชวน  
แล้วอย่ากวนก่อมวลชนให้คนตาม  

ชอบทำตัวเป็นขั้วข่าวให้ฉาวโฉ่  
ตึกใหญ่โตยังโหลพังคนสั่งห้าม  
เกิดเป็นไทยต้องใจเย็นแล้วเห็นงาม  
สมญานามพอถามชื่อนี่หรือคน 
ผู้เขียน : สมศักดิ์ บุญมาเลิศ 
๒๓ พ.ค. ๒๕๕๑, ๑๙.๕๗ น.				
30 ตุลาคม 2552 00:21 น.

8/104 เพียงคำพร่ำขาน (ว่าด้วยกลบทนารายณ์ทรงเครื่อง)

กวีน้อยเจ้าสำราญครับ

ขอบคุณ  คุณญามี่ ที่ช่วยคิดคำ ปรับปรุงเสียง ให้ดูน่าอ่านมากขึ้น
และขอบคุณทุกๆ ท่าน  ที่แวะมาอ่าน ผลงาน ขั้นพื้นฐาน ของข้าน้อย


*เพียงคำ พร่ำขาน  รักซ่าน ล้านซึ้ง
หมื่นพัน  หมั่นพึง  หวงหึง ห่วงหา
จนคำ จำคิด  แรงฤทธิ์ โรยรา
รสถ้อย รอยท้า ตรึงตรา ติดตาม

*ประหม่า ปร่ามึน แข็งขืน ขื่นขม
กักตัว กลัวตรม กอดพรม เกินพล่าม
เก็บคำ กล้ำข่ม  อกขม อมความ
เพียงคน พ่นคร้าม อกหวาม อกว้า

*เนิ่นนาน น่านน้ำ  ชื่นฉ่ำ ชุ่มชื้น
เคยกลุ้ม คลุมกลืน ห่อนหืน โหยหา
คู่น้อง ครองเนื้อ จิตเหลือ เจือล้า
ค่ำคืน ขื่นคา สุดคว้า แสนครวญ

*กาลนี้ กี่หนาว รวดร้าว ร้อนรุ่ม
พอเหลิง เพลิงรุม ทำสุ่ม ทำสรวล
ใจเปลี่ยน เจียนเเปลง หลอกแกล้ง หลอนกวน
เรื่องแปร แลปรวน มากล้วน เมื่อยล้า

*เพียงคำ พร่ำค่อน ร้าวรอน แรงเริ่ม
พอต่อ พอเติม อย่าเหิม ย้อนหา
เคยจำ คำจร อาทร อ่อนทา
เริ่มบ๊อง ร้องบ้า รักข้า เร่งคืน

*อยู่ไหน ไยน้อง เคยจอง ครองจิต
กลับแปร แก้ปิด  เหมือนหิด เหม็นหืน
ร้อยคำ ล้ำค่า ยอดยา ยั่งยืน
ครวญคำ ค่ำคืน รักชื่น รอชม


 

กลบทนารายณ์ทรงเครื่อง

เป็นกลอนที่บังคับให้ใช้

เสียงพยัญชนะ ซ้ำเสียง ๒ ชุดๆละ ๒คู่ 
ซ้ำเสียงสระอีก ๒ คู่ ที่ตรงคำที่๒-๓ และ๔-๖ทุกวรรคเช่นกัน
และ เลื่อนคำรับสัมผัสไปสัมผัสระหว่างวรรคตรงคำที่๔				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีน้อยเจ้าสำราญครับ
Lovings  กวีน้อยเจ้าสำราญครับ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีน้อยเจ้าสำราญครับ
Lovings  กวีน้อยเจ้าสำราญครับ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟกวีน้อยเจ้าสำราญครับ
Lovings  กวีน้อยเจ้าสำราญครับ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงกวีน้อยเจ้าสำราญครับ