8 ตุลาคม 2550 03:20 น.

หิ่งห้อย...แสงไฟที่ถูกลืม

ดาวระดา



วาบสว่างข้างคุ้งปรุงแสงสี		
แต้มราตรีเรียงรายประกายส่อง
ระยิบยับประดับวันอันเรืองรอง		
ปรัดท้องธาราช่างน่ายล

แวมแวมวับวับสลับแสง		
ดั่งกายแปลงรัมภาน่าฉงน
มาสถิตถิ่นลำพูดูมีมนต์			
สะกิดดลสะกดใจให้รอคอย

มาส่องแสงเรืองสีราตรีกาล		
เหมือนวิญญาณสิงเจ้าหิ่งห้อย
บรรเจิดแสงส่องหล้านภาลอย		
ประหนึ่งพลอยพริบระยิบงามตา

มีตำนานขานกล่าวเจ้าทิ้งถ่วง		
บอกทั้งดวงยึดมั่นยันรักษา
เฝ้ารอรักสลักไว้ในวิญญา		
ปรารถนานางลำพูผู้จากจร

ค่ำคืนยืนจุดตะเกียงหวังเคียงน้อง	
ฝันใฝ่ปองมุ่งหมายไม่วายถอน
ด้วยรักแท้ทบขั้นนิรันดร		
ประภัสสรสร้างใจให้รัญจวน

ตำนานเท็จจริงเพียงใดมิใคร่รู้		
แต่หดหู่จิตมนุษย์สุดผันผวน
เห็นหิ่งห้อยเป็นมารพาลรบกวน	
จึงได้ด่วนตัดลำพูคู่เจ้าไป

เห็นแก่ตัวสิ้นดีไม่มีสุด			
โอ้มนุษย์จะจิตต่ำคลำถึงไหน
แค่หิ่งห้อยตัวนิดคิดตัดไฟ		
ช่างมีใจถอยห่างทางแห่งธรรม

				
27 กันยายน 2550 13:45 น.

คืนหนึ่งในแก่งกระจาน

ดาวระดา


ทิวากรผ่อนกายลงปลายฟ้า		
ดนตรีป่าเป่าสำเนียงเสียงประสาน
แว่วหวีดกรีดร้องทำนองกาล		
แก่งกระจานเจรียงร้อยถ้อยลำนำ

นอนสดับรับเสียงผสานส่ง		
คล้ายจำนงเหนี่ยวฤทัยให้ถลำ
ทั่วกาลเกาะน้ำค้างที่พร่างพรำ		
โปรยกระหน่ำเหน็บหนาวร้าวอินทรีย์

นอนคุดคู้อยู่เยิงบนเชิงเขา		
สถานเนาเนื้อร่างห่างอิตถี
หลับใหลไปในห้วงแห่งดนตรี		
พนาลีกล่อมขับให้หลับลง

ปัจจุสมัยไล่ล่าราตรีตก			
แผ่นฟ้ายกภากรเกิดเพริศระหง
สกุณาแตกตื่นทั่วผืนพง		
เพรียกเสียงส่งเสนาะโสตโปรดฤทัย

ชั่วตรีกาลผ่านไปไวเพียงนี้		
หวั่นฤดีดับดิ้นสิ้นตักษัย
กลัวชีพขาดโอกาสได้กลับไป		
ฟังเสียงไพรในแหล่งแก่งกระจาน

				
25 กันยายน 2550 14:07 น.

เก็บโสน

ดาวระดา


พายเรือจ้ำนำน้องสู่คลองสวย
ลงมือช่วยกันเก็บเด็ดโสน
เมื่อใกล้ศกสารทไทยงานใหญ่โต
จิตภิญโญเข้าวัดบำบัดใจ

โสนงามยามต้อนรับกับอรุณ
เหลืองละมุนผลิดอกออกไสว
ตรงคุ้งน้ำดอกงามกว่าที่ใด
เร่งรุดไปเด็ดดอกโสนบาน

ค่อยค่อยพายเยื้องกายขึ้นเก็บ
ใช้มือเล็บลิร่วงจากพวงฐาน
จุกระจาดเตรียมไว้เพื่อใช้งาน
ตามตำนานประเพณีที่มา

พายเรือจ้ำนำน้องสู่คลองเถื่อน
กลับสู่เรือนบ้านเราหมดปัญหา
นำเรือเราเข้าอู่รอเวลา
ไว้ปีหน้าเราจะรอโสนบาน


				
25 กันยายน 2550 03:34 น.

พระสงฆ์เศร้า

ดาวระดา


เหลือบเหลียวแลเพื่อนบ้านสะท้านทรวง
คะนึงห่วงเหตุร้ายกลายถลำ
ด้วยระบอบแบบแผนแกนผู้นำ
เป็นตัวทำท้อใจในความแคลน

ภาพที่เห็นเน้นถึงซึ่งลำบาก
เสมือนปากถูกปิดวิกฤติแสน
พระสงฆ์ปลงอาบัติมาคัดแทน
จิตเฝ้าแหนห่วงชนไม่เสื่อมคลาย

เดินขบวนชวนกันหันเรียกร้อง
ด้วยครรลองลางคิดผิดกฎหมาย
เหล่าสงฆ์ชีใช่คร้ามนามจะวาย
หากแม้นกายเกือบสิ้นก็ยินยอม

คล้ายผืนดินถิ่นนี้มีคำสาป
ให้มีคราบความเศร้าเป็นเบ้าหลอม
โอ้ทุกข์เข็ญเมื่อไหร่หยุดไต่ตอม
มีสุขล้อมรายรอบขอบแผ่นดิน
				
22 กันยายน 2550 14:04 น.

อย่าเปรียบเทียบความรักฉัน

ดาวระดา


เขาไม่เป็นเช่นนี้หรอกคนเก่า
เขาคอยเฝ้าเอาใจในตัวฉัน
เขาไม่เคยคาใจในสัมพันธ์
เขาไม่หวั่นว่าฉันจะนอกใจ

เขาโอบกอดกายฉันครั้นยามหมอง
เขาประคองเคียงข้างไม่ผลักไส
เขามีตักพักหนุนอุ่นเนื้อใน
เขาเติมไฟให้ฉันครั้นอ่อนแรง

ทำไมมาเลือกฉันแม่จันทร์เจ้า
ทำไมเอาคนหม่นให้หน่ายแหนง
ทำไมอยู่กับพี่ขี้ระแวง
ทำไมแสร้งทำดีตอนหนีมา

อย่าเอาพี่เทียบทับกับคนก่อน
โฉมบังอรเอื้อนเอ่ยไม่เกรงขาม
อยากร้องขอแก้วตาอย่าประณาม
อย่าทวงถามถึงใจให้ระทม

ถึงตัวเซ่อหน้าซื่อแต่ถือศักดิ์
หากสิ้นรักร่วมชิดสนิทสม
เรื่องเราให้จำราญกับสายลม
หากขื่นขมชั่วคืนอย่าฝืนใจ

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟดาวระดา
Lovings  ดาวระดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟดาวระดา
Lovings  ดาวระดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟดาวระดา
Lovings  ดาวระดา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงดาวระดา