9 เมษายน 2546 11:14 น.
				
												
				
								ต่อง (ต้อง) ksg
		
					
				
  **..จึงแต่งตั้ง  ผู้ตรวจการ  ด้านความรัก
       คอยพิทักษ์  ดวงใจ  ใครทั้งหลาย
       ความหวังดี  ที่ดู  อยู่พรั่งพราย
       หลอมละลาย  รวมอยู่  กลางผู้คน
  **..รัฐมนตรี  ว่าการ  งานทุกด้าน
       คอยพยาบาล  หัวใจ  ไม่ตกหล่น
       อย่าให้ความ  ขุ่นเคือง  เรื่องปะปน
       จะพาให้  ประชาชน  จนเดือดร้อน  
  **..ออกประกาศ  มาตรา  ว่าด้วยรัก
       รับสมัคร  เจ้าของใจ   เอาไว้ก่อน
       แล้วยื่นแบบ  รักไว้  ไม่คลายคลอน
       เป็นสำนวน  คำกลอน  อันอ่อนโยน
  **..ปลัดกระทรวง  พิจารณา  ถ้าเห็นด้วย
       พร้อมจะช่วย  ประคองรัก  อย่าหักโค่น
       แต่งดช่วย  ผู้มีรัก  อย่างโชกโชน  
       กลัวจะโดน  โยกย้าย  จากสายงาน
   **..แล้วลงชื่อ  ออกประกาศ  อย่างเด่นชัด
        ผู้ที่หัด  มีรัก  จักฟังขาน
        รักเขาแล้ว  รักไว้  ให้ยืนนาน
        ด้วยหวังดี  จากผู้ตรวจการ  แห่งหัวใจ....
           ด้วยความรักและหวังดีครับ
           ก.นพดล  รักษ์กระแส
         
           ก.ประแสร์  ศิษยาพร 
     				
			 
			
				8 เมษายน 2546 16:39 น.
				
												
				
								ต่อง (ต้อง) ksg
		
					
				
  **..มีความใน  ให้มากกว่า  คำว่ารัก
       มีความหนัก  แน่นกว่า  ที่ตาเห็น
       มีความจริง  ซ่อนอยู่  กว่าที่เป็น
       ทุกอย่างเร้น  ซ่อนหว่าง  กลางดวงใจ...
  **..เพราะเกรงรัก  จักพัง  เหมือนครั้งก่อน
      จึงแอบซ่อน  หยาดคำ  อันฉ่ำใส
      พรางพราง  เร้นเร้น  ไม่เห็นใคร
      อย่าหมายให้  ลวงเราช้ำ  จำอย่างเคย
  **..ร้อนร้อน  รุ่มรุ่ม  หลุมแห่งรัก
       โปรดตระหนัก  รักจริง  อย่านิ่งเฉย
       ขอแนบหนุน  อุ่นเนื้อ  เอื้ออกเอย
       แม่ทรามเชย  จงปราณี  พี่บ้างนา
  **..มีความใน  ให้มาก  กว่าที่ขอ
      เธอจะรอ  หัวใจ  บ้างไหมหนา
      อุตส่าห์หอบ  รักหวาน  แด่กานดา
      ด้นดั้นมา  ถึงฝั่ง  ดังที่คอย
  **..มีความหวาน  มากกว่า  ที่ว่าหวาน
      คำสาบาน  ยืดยาว  กว่ากล่าวถ้อย
      ให้มากกว่า  รักนี้  ที่เลิศลอย
       มอบแด่ใจ  ดวงน้อย  ของเธอเสมอไป...    
        ด้วยรักและหวังดี
     ก.ประแสร์  ศิษยาพร
     ก.นพดล  รักษ์กระแส
**..รู้ตัวครับว่า  ฝีมือการแต่งกลอนล่วงลงมาก  นึกหัวข้อไม่ค่อยออก
   นึกคำไม่ค่อยออก  แต่ยังไงก็ยังรัก  กลอน  อยู่ครับ  
				
			 
			
				4 มีนาคม 2546 08:50 น.
				
												
				
								ต่อง (ต้อง) ksg
		
					
				
  **..ตื่นจากฝัน  เถิดเพื่อน  อย่าเคลื่อนคล้อย
      ตาดวงน้อย  ทอแสง  แห่งความหวัง
      ตื่นจากคืน    อันยาว  ก้าวระวัง
      อย่าเผลอพลั้ง  พลาดผิด  อนิจจา
  **..ฉันคอยเป็น  กำลังใจ  มอบให้เพื่อน
      อย่าลืมเลือน  เพื่อนชิด สนิทหา
      ความฝันยัง    ไม่ไกล   ถ้าไขว่คว้า
      พร้อมเดินหน้า  ก้าวไกล  ใจยินดี
  **..คืนนี้หนาว  ยาวนนาน  กาลสุดท้าย
       หลับสบาย   ในฝัน       อันสุขศรี
        คืนอำลา    ฝากไว้      ในไมตรี
        วันพรุ่งนี้   จากกัน     นิรันดร...
    ...................................................................
 และอีกบทหนึ่ง  บทสุดท้ายนี้ทุกข้อความ  ทุกตัวอักษร  มีความหมายในตัว
  **..ขอให้คุณ  คิดเห็น  ฉันเป็นเพื่อน
  
       แม้นวันเดือน  ล่วงไป  ไม่หวนหา
    
       วันใดฉัน  ไปลับ  ไม่กลับมา
       หวังเพียงว่า  มิ่งมิตร  คิดถึงเรา...
        ด้วยหัวใจรักมอบให้เพื่อน..ด้วยความหวังดี
                  ก.นพดล  รักษ์กระแส				
			 
			
				1 มีนาคม 2546 21:31 น.
				
												
				
								ต่อง (ต้อง) ksg
		
					
				
 **.บทประพันธ์โดย  คุณดวงใจ  รวิปรีชา
  
  **..ถ้าแววตาทักท้วงที่หน่วงหนัก
      เธออยากจักมองข้ามย่อมทำได้
     ถ้าทุกถ้อยที่เน้นเป็นห่วงใย
     เธอจะไม่เชื่อตาม...ใครห้ามเธอ
  **..แต่รู้เถิดเพราะศรัทธากว่าใครอื่น
       เขาจึงยื่นเยื่อใยมอบลอบเสนอ
       ทุ่มความหวังทั้งกมลมาปรนเปรอ
      เทิดเสมอมิ่งมิตรอยู่ชิดมาน
  **..ก่อนจะลิดค่าตัวลงกลั้วต่ำ
        ดูหยดน้ำตานองอย่ามองผ่าน
      เขาสู้เก็บกลั้นใจไว้เนิ่นนาน
      เธอเหลวไหลเขาร้าวรานเกินทานทน
   **..จึงแววตาสารพัดจะตัดพ้อ
      เหมือนศรัทธาว่าจะท้อก็หลายหน
       โอ้แรงใจไมตรีที่บันดล
      มันจะป่นไปกับมือเธอหรือไร   
  				
			 
			
				28 กุมภาพันธ์ 2546 23:14 น.
				
												
				
								ต่อง (ต้อง) ksg
		
					
				
  **..  บทบันทึกนี้เขียนด้วยความอัดอั้นตันใจ..จะว่าเขียนด้วยอารมณ์ที่
ความโกรธเข้าครอบงำจิตใจก็ว่าได้......
  **..เขียนถึงคนดีที่คนชั่วมันคอยตามหาเรื่อง..ถึงจะเป็นเรื่องของ
ผู้ใหญ่..แต่ก็คงด้วยเราเองเริ่มมีความคิดความอ่านมาบ้างก็ได้..
  **...เสียดายนะครับ..ที่สังคมปัจจุบันอะไรๆก็แปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
คนดีก็มักโดนคนชั่วคอยหาเรื่องอยู่เสมอ..จนบางครั้งที่ว่า  
ทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว..สำหรับเราถึงเราจะเชื่อว่าเป็นสัจธรรมก็จริง
แต่มันก็ทำให้เราโอนเอนได้เหมือนกันเช่นในขณะนี้....
  **..ทำไมคนชั่วถึงได้เป็นใหญ่..แต่คนดีกลับทนทุกข์
       ทำไมคนชั่วร่ำรวย..แต่คนดีกลับอดมื้อกินมื้อ
       ทำไมคนชั่วทำอะไรก็ได้ตามใจ..แต่คนดีกลับเป็นผู้ถูกรังแก
  **..นี่ล่ะมั้ง..ที่ทำให้เราสับสนวุ่นวาย..คิดน้อยใจในโชคชะตาของ
คนเรา..นึกๆไปก็ขำดี  ที่คนเราทำคุณบูชาโทษ..ไม่มีอะไรแน่แท้เสียจริงๆโลก
มนุษย์...
  **..การลุกขึ้นสู้..มันอาจเป็นหนทางสุดท้ายที่ช่วยได้  แม้ว่าขาแขนและจิตใจ
ก็เริ่มอ่อนระโหยลงเต็มที...กำลังใจมากมายเป็นเครื่องชูกำลังให้ฝ่าฟัน
อุปสรรคต่อไปได้..
 **  ..และก็หวังว่าสักวัน  คนดีจะมีหนทางให้ก้าวเดินไป  คนชั่วจะพ่ายแพ้แก่
คุณธรรม..ตามคำที่ว่า  ธรรมะย่อมชนะอธรรม..(เสมอ)
       
      ด้วยความหวังดี
  จาก  คนดีไม่มีที่ยืน