27 กุมภาพันธ์ 2546 09:15 น.
				
												
				
								ต่อง (ต้อง) ksg
		
					
				
  **..โรยดอกแก้ว  แวววาว  จากราวฝัน
       ส่งเป็นของ  กำนัล  ความคิดถึง
       นานแล้วนะ  ดวงใจ  ไม่ซาบซึ้ง
       ด้วยหวังพึ่ง  ชีวา  คนปราณี
   **..น้ำค้างหยาด  ลงพลิ้ว  กับทิวสน
        หัวใจคน  ร้าวราน  เริ่มบานคลี่
        มุ่งหมาย  เดินทาง  ตามชีวี
        พกความ  หวังดี  มีให้มา
  **..แล้วยื่นสู่  ฝ่ามือ  ที่อบอุ่น
       พร้อมกับยิ้ม  ละมุน  เพื่อแทนค่า
       เผื่อคุณเห็น  หัวใจ  ในดวงตา
       เห็นคำว่า  ที่รัก  มาจากใจ
   **..ถึงแดนดิน  ถิ่นนี้  ไม่มีเสียง
        ไร้สำเนียง  บรรเลง  เพลงสดใส
         ก็จะร้อง  ขับขาน  กังวานไพร
         ชื่อว่าเพลง  อุ่นไอ  ไมตรีรัก
  **..แล้วด้นกลอน  ตอนนิทรา  เวลาค่ำ
       เพื่อเร่งย้ำ  ความดี  ที่แน่นหนัก
       แม้หัวใจ  เหนื่อยอ่อน  มิผ่อนพัก
       หากจะขอ    สมัคร  รักแต่เธอ
  **..ตะวันเริ่ม  แรกแสง  แห่งท้องฟ้า
      หมู่นกกา  บินเป็นคู่  อยู่เสมอ
      หัวใจคน  อย่างพี่  ไม่เลิศเลอ
      หากแต่เพ้อ  เรียกร้อง  อยู่ร่ำไร
     **..โรยดอกแก้ว  แวววาว  จากราวฟ้า
          ซบเถิดหนา  อกอุ่น  หนุนหัวไหล่
          ไว้รับขวัญ  ปลอบนอน  ตอนจากไกล
          แล้วรับใจ  ดวงน้อยน้อย  คอยกอดนอน... 
       
                  ด้วยความหวังดี
               ก.นพดล  รักษ์กระแส      
				
			 
			
				23 กุมภาพันธ์ 2546 15:40 น.
				
												
				
								ต่อง (ต้อง) ksg
		
					
				
 
**..  คือความหลัง  คือความฝัน  คือวันวาน  ...ที่ไม่มีวันหวนกลับมาได้..**
 
                              **..จากไกล จากไป ในวันนี้ 
                                   หน้าที่ ทั้งหลาย เคยมีให้ 
                                  ไมตรี เปี่ยมล้น ปนน้ำใจ 
                                   เหลือไว้ เพียงคำ...อำลา 
                              **..น้ำตา จะริน หลั่งไหล 
                                  ดอกไม้ ให้ไว้ แทนค่า 
                                เหนื่อยแล้ว ขอพัก กายา 
                                  เริ่มต้น วันหน้า...อาลัย 
  
                   
                      คนที่ไม่เคยจากกัน  ย่อมยากจะเข้าใจถึงความ
                       รู้สึกลึกนี้...ดังคำกลอนที่เคยมีคนเขียนไว้ว่า
                            **..ใครไม่เคยรู้ฤทธิ์ความคิดถึง
                              ใครไม่เคยซาบซึ้งกับความฝัน
                              ใครไม่เคยมีรักปักชีวัน
                              ใครคนนั้นคงไม่ช้ำกับคำลา
                  **..ลาแล้ว  โรงเรียน  ครูบาอาจารย์  เพื่อนๆที่รัก..**
                				
			 
			
				22 กุมภาพันธ์ 2546 20:47 น.
				
												
				
								ต่อง (ต้อง) ksg
		
					
				
  บทประพันธ์โดย..อาจารย์นภาลัย  (ฤกษ์ชนะ)  สุวรรณธาดา  
   **..ในโลงนั้นร่างหนึ่งซึ่งฉันรัก
      เขานอนพักชีวีไม่มีตื่น
     ฉันเรียกเขาเท่าไรก็ไม่ฟื้น 
     ฉันสะอื้นอ่อนใจเขาไม่ฟัง
  **..เคยกล้าแกล้วแล้วไยเขาไม่ขัด
      ยอมถูกมัดกายาด้วยตราสัง
      ฉันเคยเรียงเคียงสู้อยู่ทุกครั้ง
      กลับมานั่งดูเขาถูกเผาไฟ
  **..เคยชนะอุปสรรคมาหนักหนา
      กลับต้องมาพ่ายแพ้เกินแก้ไข
      เขาไปสู่ฟากฟ้าสุราลัย
      ฉันอยู่ไห้โหยถวิลเจียนสิ้นตาม
  **..ยะเยือกคราพญาโศกพิโยคย่ำ
      เหมือนเสียงร่ำลาลับให้วับหวาม
      เปลวเพลิงรุ่งพลุ่งโพลงแลบโลงลาม
     แล้ววอดวามแวบสั่งครั้งสุดท้าย
  
  **..ในที่สุดหยุดนิ่งทุกสิ่งสูญ
      เพียงกองกูณฑ์เกลื่อนเถ้าร่างเขาหาย
      แม้นสุดอยู่สู้ชะตาเอกากาย
      ฉันจะตายตามไปคงไม่นาน  
 				
			 
			
				14 กุมภาพันธ์ 2546 23:11 น.
				
												
				
								ต่อง (ต้อง) ksg
		
					
				
  **..อยากจะบอกเพื่อนว่า  รักเพื่อนมากๆ  จะจบม.6แล้วไม่รู้ว่าจะเจอกันอีกเมื่อไร
  ขอเพื่อนจงโชคดี....ลาก่อนมิตรที่ฉันรัก
  **..ฉันเห็นยิ้ม  อำลา  จากหน้าเพื่อน
       อกก็เตือน  หวั่นไหว  เร็วใจหาย
       เคยเดินวิ่ง  ด้วยกัน  ครั้นปีกลาย
       กลับต่างฝ่าย  ต่างเดินไป  ในเส้นทาง
  **..ด้วยภาระ  การงาน  และหน้าที่
      ต่อแต่นี้  จึงจบสิ้น  ความบาดหมาง
      มิตรภาพ  จะวางใจ  ไว้กึ่งกลาง
      อยู่ระหว่าง  เธอและฉัน  ทุกวันวาร
  **..น้ำตาครวญ  คำนึง  ถึงความหลัง
       ไปเมื่อครั้ง  เอ่ยถ้อย  ร้อยคำขาน
       วันที่ร่วม  จดจำ  นำสาบาน
        ว่าจะรัก  กันยืนนาน  ตราบนิรันดร์
  **..โอ้ว่าใจ  อาดูร  เหมือนสูญสิ้น
       เคยยลยิน  เคยร่วมฝ่า  เคยร่วมฝัน
       โอ้ว่าใจ  อาวรณ์  ก่อนจากกัน
        ขอเพื่อนหัน  บอกรัก  อีกสักที
   **..จะพบกัน    วันไหน  ยังไม่รู้
       แต่ขออยู่  รอมิตร  ณ  ที่นี่
       ถึงจะผ่าน  วันเดือน  เลื่อนสู่ปี
       ดวงฤดี  ติดตรึงมิตร  นิจนิรันดร์...
             ด้วยความหวังดี
         ก.นพดล  รักษ์กระแส     
				
			 
			
				13 กุมภาพันธ์ 2546 14:15 น.
				
												
				
								ต่อง (ต้อง) ksg
		
					
				
  **..ฉันจึงเขียน  กลอนรัก  ไว้สักบท
       เพื่อประชด  หัวใจ  อันใสซื่อ
       ส่งเป็นสาส์น  แทนช้ำ  ต่อน้ำมือ
       ผู้ที่ถือ  รักฉันไว้  ไม่ภักดี
  **..ในกระดาษ  จารจัก  สลักว่า
       ขอหนีหน้า  คนที่ลวง  ห้วงใจพี่
       เป็นมลทิน  กินใจ  ในราคี
       จะแรมรอน  หลีกลี้  หนีจากกัน
  **..แผ่นดินกว้าง  สุดไกล  แผ่ไพศาล
       อย่าได้พบ  พ้องพาน  แม้ในฝัน
       แม้นเธอเกิด  บนสรวง  เป็นดวงจันทร์
       ฉันจะเป็น  ตะวัน   จากนั้นไป
  **..เป็นสัญญา  ขาดเสียที  สุดที่รัก
       เธอหาญหัก  อกฉัน  อย่างหวั่นไหว
       ความหมองหม่น  เอ่อท้น  ล้นดวงใจ
       ความหมองไหม้  กลับติด  ประชิดตาม
  **..นี้คือบท  สุดท้าย  ในสาส์นรัก
       ฉันเจ็บหนัก  หทัย  ที่ไหวหวาม
       พิษความช้ำ  ลุกไล่  ดั่งไฟลาม
       จนถึงยาม  รักไร้  สิ้นไมตรี...