26 เมษายน 2548 19:52 น.

การรอคอย #2

น.นิรัติศัย

แล้ววันนี้ผมก็รอหล่อนอีกตามเคย .................

แต่ทุกๆวันกลับเป็นฝ่ายโดนรอ ในช่วงเวลาที่คนเราเศร้าๆเหงาๆ มักเกาะติดอยู่กับการรอใคร... สักคนหนึ่งหรือว่าหลายๆ คน แต่นั้นไม่สำคัญเท่าไหร่นักกับการที่ต้องให้คนอื่นรอหรือว่ารอคนอื่นกันแน่สลับกันไปในแต่ละช่วงเวลา

   โดยปกติแล้วการรอมักมีจุดมาเมื่อถึงที่สิ้นสุดแต่ละครั้งมักมีคำถามขึ้นมาภายใต้ความเหนื่อยล้าของเวลาโดยผ่านสิ่งที่เรียกว่า ...นาฬิกา.


ไม่ว่าจะอยู่หน้าคอมฯ ที่ข้อมือ หรือที่ห้อยคอไว้นั่นล้วนบอกเวลาทั้งสิ้น บางคนก็แปลกชอบยิดติดกับเวลา แต่มันก็ดีไม่น้อยที่ทำให้เรารู้คุณค่าของเวลาขึ้นมากบ้างไม่มากก็น้อย 
...........



แต่แล้ว......				
9 เมษายน 2548 20:28 น.

ปาฏิหารย์หรือ ความบังเอิญ ของความรัก… และจิตวิญญาณ

น.นิรัติศัย

เราเลิกกันดีกว่านะ
เป็นคำถามที่เขา มอบให้ฉันในตอนเที่ยงของวันฝนตก ฟ้าร้องให้ ให้กับฉัน.
ฉันเจ็บ ปวดร้าวยามสายฟ้าแลบแปล๊บ แปล๊บ ส่งเสียงเปรี้ยงปร้าง ทุกอณูสั่นสะท้านร่ายกายชุ่มไปด้วยน้ำตาของฝน สายลม ถาโถม จนรู้สึกถึงความเย็นชาของเขา
น้ำหลาก ตกลงมาอย่างหนักหน่วง ยามนี้เขาไม่สนใจฉันแม้ จะพูดออกมาสักคำว่า
เข้าไปหลบฝนก่อนไหม 
เขาใจร้าย ยิ่งกว่าความเจ็บปวดที่ตกลงมาบนร่างกายฉัน เขาใจร้ายเหลือเกิน ฉันพร่ำในความรู้สึกลึกๆ แต่ดังกังวานราวระฆังตอนเช้าของวัดบนยอดเขา
ฉันไม่ดีหรือ ถึงได้บอกเลิกฉันอย่างนี้
ฉันไม่ดีตรงไหน ทั้งหน้าตาและฐานะ ล้วนสูงกว่าเขาจนเปรียบเสมือน ดาวที่ดิ่งลงมาจากสวรรค์เพื่อสู่อ้อมกอดของหมาจรจัดตัวหนึ่งแต่ไม่เลย เขาทำกับฉันเหมือนไม่มีค่าแม้จะมองหน้าก่อนตอกย้ำคำพูดเดิมออกมา
เราเลิกกันน่าจะดีกว่านี้
ไม่ต้องคอยระแวง หรือหึงหวงแบบนี้
เชื่อสิ   ต่อไปไม่นานคุณก็หาคนที่เหมาะสมกับคุณได้ไม่ยากหรอก
เสียงใจเต้นรัวไม่เป็นจังหว่ะพาร่างกายอันสั่นเทาของฉันจมดิ่งลงธรณีแห่งนี้พร้อมสูปความรู้สึกทั้งปวงลึกหายไปกับตาอันพร่ามัวของฉัน
ฉันตื่นมาภายในห้องแคบๆ กลิ่นคลุ้งของยาอบอวนทั่วห้อง เสียงพูดคุยดังกึกก้อง
          ฉันรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้งที่ต้นแขนก่อนหลับไหลลงไปอีกครา

           ทานข้าวได้แล้วค่ะ          เสียงพี่พยาบาลปลุกฉันจากวังวนกับสิ่งที่ผ่านไปในสมอง เข้าสู่ความเป็นจริงของสิ่งรอบกาย
          ค่ะ
น้องเป็นไงบ้าง หายปวดบ้างหรือยังค่ะ พี่พยาบาลถามฉันก่อนส่งอาหารให้ทาน
         หายแล้วค่ะ แล้วกลับบ้านได้วันไหนค่ะพี่
ต้องดูอาการสักระยะนะคะ พี่ตอบไม่ได้เพราะหมอยังไม่อนุมัติค่ะ
ครู่เดียวหลังจากที่พี่พยาบาลออกไป
นิรุต ก็เข้ามาหาฉัน
ดีขึ้นบ้างไหม เขาถามฉันด้วยเสียงอันแหบแห้งฟังไม่ชัดนัก (แต่สายตาของเขากลับไม่มองมายังตาคู่นี้ของฉันอยู่ดี
ดา หลับไปตั้ง 2 วันนะ ผมเป็นห่วงแทบแย่
ถึงแม้เขาแสดงอาการเป็นห่วง แต่กริยาไม่บ่งบอกเท่าไรนัก 
อย่าทิ้งดาไปได้ไหม ฉันถามกลับไปอีกครั้ง 
ดาเลิกกับผมดีแล้วเชื่อผมเถอะ ตลอดเวลาดาก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเราไปด้วยกันไม่ได้

ฉันปล่อยหยดน้ำแห่งความเจ็บปวดให้มันชุ่มฉ่ำขึ้นมาอีกครั้ง  ฉันได้แต่ฟุบหน้าลงบนหมอน. 
เขาเดินจากไปปล่อยให้ฉันดำดิ่งลงในห้วงของความโดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้ง
 ฉันหลับไปพร้อมความเศร้าผ่านความอิดโรยทุกค่ำคืน..
นิรุตไม่กลับมาหาฉันอีกเลยหลังจากวันนั้น
ความสับสนพาจิตใจที่บอบช้ำสู่ห้วงของคำนึงแต่เขาทุกๆ วินาที ด้วยแรงแห่งความคิดถึงหรือกะไรซักอย่าง นิรุตมาเยี่ยมฉัน
สีหน้าของเขาหม่นหมอง. แต่ฉันก็มองไม่เห็นดวงตาคู่นั้นของเขาอีกตามเคย
เขาถามฉันว่า ดาเป็นไงบ้าง
ดาเสียใจมากนะ ที่นิรุตทอดทิ้งดาแบบนี้
ดาเราคุยกันแล้ว คุณน่าจะเข้าใจ
แล้วไงค่ะ ทำไม ทำไม (ฉันกลัว  กลัวเขาจากฉันไปแล้วไม่กลับมาหาฉันอีกเลย..แต่ฉันหักห้ามความรู้สึกไม่ได้อย่างที่ตั้งใจ)
ทำไม             ทำไม                 ทำไม                   ทำไมค่ะนิรุต   ประโยคสุดท้ายดังพอจะฉุดความรู้สึกของฉันกลับคืนมา แต่แล้วเขากลับวิ่งออกไปจากห้อง
 พี่พยาบาลเข้ามาหาฉันด้วยสีหน้าตกใจ 
ดาน้องเป็นอะไรค่ะ ทำไมตะโกนดังๆ หละ พี่พยาบาลจับตัวฉันไว้แน่นก่อนสวมกอดด้วยความเป็นห่วง  ฉันรู้สึกถึงความอบอุ่นและห่วงใย 
พี่พยาบาล ห้ามนิรุตให้ดาหน่อย เขาทิ้งดาไปอีกแล้ว พี่ตามเขาให้ได้ไหมคะ
ใครค่ะดา  คนไหนพี่ไม่เห็นนี่ค่ะ
พี่ได้ยินเสียงตะโกนมาจากห้องน้องดา พี่จึงรีบเข้ามาอย่างที่เห็นนั้นหละคะ
ไม่ค่ะพี่ เมื่อกี่นิรุตมาหาดาจริงๆคะ 
พี่พยาบาลทำหน้างงกับคำถามของฉัน แต่นั้นมันยิ่งทำให้ฉันเจ็บเข้าไปอีกครา

ฉันหยิบรูปในกระเป๋าสตางค์ที่เขาซื้อให้ในวันเกิดและส่งรูปที่ถ่ายคู่กันให้พี่พยาบาลดู


..

.. ดาแน่ใจนะว่าคนในรูปนี้
แน่ใจคะ
..พี่เสียใจด้วยนะดา อย่าตกใจและเสียใจถ้าพี่จะบอกความจริงว่า..
คนในรูปนี้ เขา..เสียชีวิตแล้ว

                     ความทรงจำจัดเรียงราย ภาพค่อยๆ ต่อเป็นจิ๊กซอ ผ่านไปอย่างช้า หมุนเคว้งคว้าง กลับจางหายไปพร้อมกับความเย็นชาที่ซึมผ่านผิวหนังลึกจนสุดขั้วหัวใจ หลายๆคน เรียกสิ่งนี้ว่า ช็อก
ไม่..
ไม่จริง.. พี่โกหก  ดาไม่เชื่อ   ไม่เชื่อ
..
        
                   ฉันตื่นขึ้นมายามเที่ยงคืน สมองอันหนักอึ้ง ฉันปวด ปวด ปวดถึงแก่นกลางของรูปทรงที่ก่อตัวขึ้นมาเป็นหัวใจที่มีเลือดแห่งความรู้สึกทั้งปวง
ฉันร้องไห้ อีกครา   พร้อมพาจิตใจไร้ที่พึ่งให้ล่องลอยไปไกลแสนไกล
..

..

ท้องฟ้าสว่างอาบแสงอบอุ่นลูบไล้ทั่วร่างกายฉัน.. ทุ่งกว้างอันเขียวมีสัตว์ต่างๆ มากมาย ฝูงนกบินว่อน บ้างส่งเสียงเจี้ยวจ้าว  บ้างหยอกล้อ ฉันมองออกไปไกล ไกล ..และไกลออกไป
ฟ้าฟากโน้น มีคนยืนอยู่ แต่แสงของเขานั้นริบหรี่
ขอร้อง
อย่าทิ้งฉันไป         อย่า             ได้โปรดเถอะ.
.
นิรุตใช่ไหม
อย่าทิ้งดาไปขอร้อง
.

ร่างกายฉันเคลือบด้วงแสงสีขาวสว่างจ้า อบอวลด้วยความหอมที่แสนอบอุ่น
ณ ที่นี่..ฉันอยู่ในอ้อมกอดเขา
คุณไม่ทิ้งฉันไป..ใช่ไหมนิรุต..


ทุ่งเขียวขจี บัดนี้ค่อยๆ กลายเป็นสีแดงฉาบด้วยความคิดที่ให้เขาอยู่กับฉันตลอดไป แต่แล้วทุ่งหญ้ากลับกลายเป็นความมืดมิดที่เกาะกุมหัวใจอันสั่นคลอนของฉันให้หลุดจากวังวนแห่งความปรารถนา

ฉันตื่นด้วยความเจ็บปวดราวโดนไฟฟ้านับหมื่นโวล์ กระตุ้น
..เคลีย        เคลีย       เคลีย เสียงคุณหมอพูดดังก้องในสมองฉัน  นี่กระมังที่ดึงจิตวิญญาณฉันออกมาสู่โลกของความเป็นจริง..

ฉันมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ด้วยความเจ็บปวดเมื่อดวงตาทั้งสองข้างของฉัน กลับมองไม่เห็นอะไร มีเพียงความมืดมิดที่เกาะกุมหัวใจอันหวาดกลัวสู่โลกของความเจ็บปวดอีกครั้ง..

              

1 ปีแล้วสินะ ตอนนี้ฉันมีดวงตาคู่ใหม่ที่มองโลกใบนี้ แต่ตรงกันข้าม..
เขา.. ผู้ซึ่งอยู่ ณ โลกใบใหม่
โลกที่ใครๆ        ก็ไม่รู้จัก



เศร้าสลด รถบรรทุกบดขยี้ร่างชายหนุ่มเละกลางสายฝน หญิงสาวเจ้าของร่างที่หลับไหลรอวันเวลากลับคืนสู่อ้อมกอดครอบครัว  				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน.นิรัติศัย
Lovings  น.นิรัติศัย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน.นิรัติศัย
Lovings  น.นิรัติศัย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน.นิรัติศัย
Lovings  น.นิรัติศัย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงน.นิรัติศัย