30 กรกฎาคม 2548 17:29 น.

เลโมนี สนิกเก็ต "อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย"

น.นิรัติศัย



เลโมนี สนิกเก็ต
"อยากให้เรื่องนี้ไม่มีโชคร้าย"

	ลูกๆ ที่รัก ตั้งแต่ออกเดินทางมาก็คิดถึงทุกคนมาก มีเรื่องเกิดขึ้นทำให้เราต้องเดินทางนานกว่าเดิม ซักวันเมื่อลูกโตขึ้น ลูกจะได้เรียนรู้ถึงคนที่เราเป็นมิตรด้วย และอันตรายที่เราต้องเจอ ในบางครั้ง โลกก็ดูร้ายกาจและน่ากลัวมาก แต่เชื่อพ่อกับแม่เถอะว่า โลกนี้มีสิ่งดีมากกว่าสิ่งเลว สิ่งที่ลูกต้องทำคือ "มองหามัน" และสิ่งที่ดูจะเป็นเคราะห์ร้ายที่ไม่จบไม่สิ้น จริงๆ อาจเป็นก้าวแรกของการเดิมทาง เราหวังจะได้กลับมากอดลูกเร็วๆ นี้นะจ๊ะ แต่ถ้าจดหมายฉบับนี้ไปถึงก่อน ขอให้รู้ว่า "เรารักลูกจ๊ะ" 
	เราภูมิใจมากที่รู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในชีวิต ลูกทั้งสามคนจะดูและกันด้วยความเมตตา ความกล้าหาญ และไม่เห็นแก่ตัวเหมือนที่เป็นมาเสมอ ขอให้ลูกจำไว้อย่างหนึ่งและอย่าลืมเป็นอันขาด "ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน ตราบใดที่เรายังมีกันและกัน คือเรามี ครอบคัวและความอบอุ่น"

รัก
จากพ่อกับแม่

บางสิ่งที่ต้องประดิษฐ์
บางสิ่งที่ต้องอ่าน
บางสิ่งที่ต้องกัด
บางสิ่งที่ต้องทำเพื่อสร้างที่หลบภัยขึ้นมาไม่ว่าจะเล็ก... แค่ไหน


หลังจากที่คิดแล้วคิดอีกว่า "เอาหนังเรื่องนี้มาดูดีมั้ย" คำถามเกิดขึ้นพอๆ กับการเดินทางช่วงฝนใกล้จะตกเต็มที
สุดท้ายก็นำมาดูจนได้ 
การเดินทางของเด็กน้อย 3 คน ของตระกูลโบดแลร์
ไวโอเล็ต พี่สาวคนโต ผู้ปราดปรื่องเรื่องการประดิษฐ์ เคล้าส์ น้องชายคนกลาง ผู้หลงใหลการอ่านแบบจำได้ทุกหน้า และซันนี่ น้องสาวคนเล็ก ที่เผลอเป็นต้องงับ
	หากมองถึงโลกและสังคมแห่งยุคน้ำมันแพงและไอรดต้นคอแบบนี้ มันไม่ใกล้ไม่ไกลนัก บางทีหลายๆ คน คงเคยพบปะมามากน้อยแล้วแต่ช่วงวัย
	สุดท้ายบทสรุปของหนัง มันไม่ต่างไปจากหนังการผจญภัยที่แฝงด้วยการค้นหา ถึงแม้มันจะอยู่แค่เอื้อมมือหยิบ ความอบอุ่น ความดี และมิตรภาพ เกิดขึ้นทุกแห่งหน หากมองหามัน คงไม่ยากเกินที่จะไขว่คว้า...

	แต่เรื่องก็ยังคงดำเนินต่อไป ไร้ที่สิ้นสุด
	แล้วคุณหละ "ดู" หรือยัง				
8 กรกฎาคม 2548 18:47 น.

“รัก หนอ รัก”

น.นิรัติศัย

ถึงเวลาแล้วสินะ?
	หลังจากที่เจอกันและอยู่ด้วยกันมา เวลาล่วงเลยมาเกินพอที่จะทนไหวอีกแล้ว ผมรู้ตลอดเส้นทางที่เราต่างแสวงหาด้วยกันนั้น มันผ่านบ่อน้ำหลายบ่อ จากบ่อน้ำเย็นอบอวนด้วยความอบอุ่นก่อนกล้ำกลายสู่วังวนของน้ำร้อนที่ค่อยๆ เดือด ตามดวงตะวันที่ส่องแสงและจมหายสู่ก้นโลกใบหม่น ในสภาพของสังคมเลวร้าย หาใช่โลกของเราไม่...
	โลกที่สดใสสว่างจ้า ยามต้องตาต้องใจ บัดนี้มันแตกออกจากห้วงสุริยะ 
	แม้จักรวาลนี้จะไม่มีโลกที่เราสามารถรับรู้ความทุกข์ซึ่งกันและกันได้ หากแม้นเธอยอมอ่อนแรง ความเอาแต่ใจตัวเอง ลดการข่มเหงจิตใจด้วยคำพูดที่แสนร้ายกาจ ยามเธอโหยหาความถูกต้องของอารมณ์ที่เป็นใหญ่ในร่างกาย...
	
	ผมรู้ ความหวังที่ให้อีกคนเป็นดั่งใจ มันยากเย็นแสนเข็ญเพียงไร แต่นั้นมันไม่ได้เป็นบทสรุปของเวลาที่รับรู้ว่าความรักขึ้นอยู่กับสิ่งของหรือความหวัง ลมๆ แล้งๆ ที่จัดการภายในเวลาชั่วครู่
	บางทีการที่เราเลิกกัน มันอาจยุติปัญหาต่างๆ ที่รุมเร้ามาตลอดสองฟากฝั่งของถนนแห่งรักก็อาจเป็นได้
	อย่างน้อย การเสียใจเพียงชั่วครู่ เดือน ปี หรือตลอดเวลา ย่อมสูญสลายไปตามความคิดที่กลับกลายเป็นความว่างเปล่า ยามไร้คู่เดินเคียงข้าง และรอบกายอันอ้อนล้ากับความไม่มีเหตุผลของอารมณ์แห่งรัก...
	...หาใช่ความใคร่ไม่...
	หาก... คิดในทางกลับกัน คงไม่ใช่คู่กันอะไรทำนองนี้ เหมือนคำพูดที่ว่า คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน มันอาจใช่ในบางเวลา หากผ่านเวลาที่แสนยาวนาน บางครั้งความรักมันอาจลดบทบาทและตัวตนลงก็เป็นได้
	
	อาจเป็นนกที่พร้อมจะบินไปยังฟ้าไกล เพียงเพื่อหากฎเกณฑ์ตามธรรมชาติที่แซกแซงเข้าสู่สมอง บีบบังคับให้บิน บิน บินต่อไปจนกว่าจะหมดแรงและร่วงจากฟากฟ้า ก่อนดับตนส่งดวงวิญญาณให้นำทางสู่จุดหมายอย่างไรที่สิ้นสุด

	หากมาถึงตอนนี้ คงเปล่าประโยชน์ที่จะแก้ตัวอะไรทั้งสิ้น มันไม่จำเป็นที่เราจะต้องยื้อกันอีก หากบางครั้งคำพูดของผมเป็นการแก้ตัวให้ดูดี สร้างความเห็นอกเห็นใจจากคุณ มันคงไร้เหตุและผลอีกต่อไป

	ณ ห้วงใจด้านซ้ายทั้งสี่ห้อง คงสูบฉีดเลือดและสกัดความรักที่ผมมีต่อคุณให้มันกลายเป็นเลือดดำที่ไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องเก็บไว้ ก่อนสลัดเข้าเตาปฏิกรที่เผาผล่านให้มอดดับลงไม่มีแม้เยื้อใย เปรียบกับต้นบอนไร้ซึ่งชีวิตที่จะเจริญเติบโตในแม่น้ำที่มีเต่านับล้านตัว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน.นิรัติศัย
Lovings  น.นิรัติศัย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน.นิรัติศัย
Lovings  น.นิรัติศัย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน.นิรัติศัย
Lovings  น.นิรัติศัย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงน.นิรัติศัย