24 มีนาคม 2547 19:58 น.

ราตรีวอน หลับใหล ในวิมาน

น้ำ

ดึกดื่นตื่น ด้วยฝัน สลัวมัวหมอก
สายลมบอก ความหนาว ในทรวงเอ๋ย
ใฝ่ฝากความ ถามไถ่ จันทร์เจ้าเอย
เมื่อไรเลย ประสพ พบหัวใจ

สายรายหมึก ผลึกแห้ง ผ่านคืนค่ำ
เหมือนสลักจำ ฉันไว้ ด้วยแพรไหม
ใยละออง ชุ่มอก ชื่นละไม
ดุจแอบไอ คำอุ่น มาหนุนนอน

รักเรียงคำ บทบรรณ วรรณวิจิตร
เพียรแปลงฝัน ลิขิต ร้อยอักษร
เลือกเสกสรร จินตนา เป็นกลกลอน
ราตรีวอน หลับใหล ในวิมาน				
3 กุมภาพันธ์ 2547 23:27 น.

กาพย์กรองล้อมถนอมแววหวาน

น้ำ

๏แก้วดุจกลอนกานท์กล่อม           กาพย์กรองล้อมถนอมแววหวาน
สร้อยสุภาษิตตำนาน                   ครรโลงโคลงโลกนิติเตือน

๏แก้ว กลกลอนสอดคล้อง             นมนาน
กาพย์ แบบเบื้องโบราณ           ร่ายร้อง
ห่อ สุภาษิตสาร                        สอนจิตร
โคลง จักจรรโลงพร้อง            ทั่วท้นทุกชน ๚

๏แก้ว กล่อมกรรณเกล้าศิษย์         โจษจัน
กาพย์ ลักษณะวรรณ                  ว่าไว้
ห่อ ฮ่อมห่วงหวงกัน                  กว่าชีพ  นี้นา
โคลง โลกนิติไซร้                     แซ่ซ้องนิรันดร์กาล ๚

๏แก้ว พระรัตนน้อม             กราบกร
กาพย์ กล่อมกานท์อวยพร    คุรุไท้
ห่อ หัตถ์สัตย์วิ่งวอน          สอนสั่ง ศิษย์นา
โคลง ซึ่งควรค่าไว้            แว่วเวิ้งวงวรรณ ๚				
28 มกราคม 2547 22:56 น.

กาพย์ห่อโคลงกันหนาว

น้ำ

๑
๏เพียรเอาคำกาพย์กล่อม                    ห่อโคลงล้อมรักสดใส
กี่ยามกี่โมงใย                                     มิรู้ได้แสนรวดเร็ว ๚

๏เพียรเอาคำกาพย์ล้อม                        ห่อโคลง
ใจผ่านกี่ยามโมง                                สุขได้
เรียงเร้าร่ายร่ำโรง                               ระเรื่อย
บางบ่รับคำไซร้                                  ใฝ่ย้ำจนเย็น ๚
๒
๏ตะวันแดงดิ่งน้ำ                         ยามเย็นค่ำเธอและฉัน
นั่งสนทนากัน                              คำจำนรรจ์จากหัวใจ

๏ตะวันแดงดื่มน้ำ                         ยามเย็น
กลางสระสาดแดงเป็น               ฉากพร้อง
พักแพร้วแผ่วใจเพ็ญ                  ลงนั่ง  เพื่อนเฮย
คำพูดคำจาส้อง                          สนุกไซร้ให้กัน  ๚
๓                                                     
๏ตะวันดั่นแหล่งหล้า            สุดแผ่นฟ้าอ่อนล้าแสง
คล้อยบ่งคงแสดแดง             หลับโรยแรงดับสู่ดิน

๏ตะวันดั่นแหล่งหล้า           โรยแรง
คล้อยบ่งคงแสดแดง             ดับด้าว
เหล่าสิงห์สัตว์จัดแจง            คืนถิ่น
กายเหน็ดเหนื่อยเมื่อยร้าว      หลับแล้วลืมวัน ๚

เรียนอยู่ที่นี่ครับ 
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W2640816/W2640816.html				
26 มกราคม 2547 06:49 น.

ซาเล้ง

น้ำ

๑
พเนจร รอนแรม หาเลี้ยงท้อง
ไม่มีห้อง มีหับ พำนักหมาย
เพียงขยะ เหลือทิ้ง ที่มากมาย
นำมาขาย  รายได้ อยู่ไปวัน
๒
หัวเราะได้ กับเกลอ เสมอเสมอ
เจ้าด่างเธอ เฝ้าบ้าน เป็นเพื่อนฉัน
จับเห็บเหา กันอยู่ ไม่เว้นวัน
มิแปรผัน มิตรแท้ ของผู้คน
๓
จะนอนหลับ กับกระท่อม หลังเก่าเก่า
จะนอนดู ดาวเจ้า ทั่วทุกหน
ไม่หวังมาก หวังมาย มาเปรอปรน
ไม่ขุดค้น ทวงถาม ความเคยมา
๔
ได้หยุดสิ่ง ต่างต่าง ตามอย่างโลก
ได้หยุดเศร้า หยุดโศก หยุดอิจฉา
เมื่อว่างเปล่า ทรัพย์สิ้น สิ่งมายา
หัวใจหยุด เสาะหา  สบายสบาย				
26 มกราคม 2547 06:44 น.

สนุกสนาน

น้ำ

ลมรวนเร
๑
ลมรวนเรหลับแล้ว..............ลืมโลก
ลมร่ำเราเริงโลก..................หลอกล้อ
ลมหลืบลับหลากโรค...........รักล่อ
ลมหรี่เหลวรถล้อ.................ริรั้นลากเลย
๒
เอ๋งๆร้องเอ็ดอ้า                      เหงๆ
นอนอยู่ทำไมเอง                   เหยียบข้า
ตอนเช้าค่อยบรรเลง               เพลงกล่อม
เย็นย่ำค่อยหลบจ้า                 พวกเจ้าเทศบาล
๓
โฉงเฉงอาเจกอ้า                 โฉงเฉง                   
วันตรุษจีนกันเอง               สุขท้น  
ร้องเพลงสักกะเพลง           ได้บ่าว
ดึกๆคึกมากล้น                  กล่นได้ทั้งคืน
๔
เข็นครกเข็นขึ้นไป่..............ถึงไหน
เข็นก็เขียนโคลงไป             ส่งบ้าง
หากยังไม่ถึงไหน              ทนหน่อย  นะครู
จู่ฮุกกรูตาค้าง                    ค่ำเช้ายังเขียน  
๕
โสมแม่กินแล้วว่า.............แข็งแรง  หยอกนา
โสมที่ราคาแพง................พ่อรู้
งามแน่หนักหนาแจง........คำบอก ใบ้นา
โสมสมรสหลอนตู้............ต่างชู้เชิญชวน
๖
ใจกวีมีรูปเต้า.........ฉันใด ทั่นเอย
สรรหาคำเยี่ยงไร.........เหมาะแท้
ระเหยกลิ่นเพียงไอ......ได้เสพ
ฝันใฝ่สุขสงบแล้...........อิ่มสิ้นหิวโหย				
Calendar
Lovings  น้ำ เลิฟ 2 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำ
Lovings  น้ำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟน้ำ
Lovings  น้ำ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงน้ำ