ข้าพเจ้าใคร่ขอเรียนถามเหล่าเมธีกวีแห่งไทยโพเอมทุกท่าน

ธรรมาภิวัฏ

..เรื่องสมมุติ
มีชายคนหนึ่งอายุไม่มากไม่น้อยไป มีครอบครัวลูกเมียแล้ว แต่บังเอิญเขาโชคไม่ดีเท่าไร ล้มหมอนนอนเสื่อเป็นอัมพาต สูญเสียตำแหน่งหน้าที่การงานทั้งที่ยังอยู่ในวัยอันรุ่งโรจน์ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ตัวเองต้องเป็นภาระให้แก่บรรดาลูกเมีย เมียและลูกต้องออกไปทำงานหาเลี้ยงชีพตั้งแต่ยังเด็ก สภาพชีวิตที่ย่ำแย่รังแต่จะอดอยากยากจนลงทุกวันทุกวัน ข้าวที่ไม่พอจะหุงเลี้ยงทุกคนในครอบครัวได้อิ่มัท่วกันเท่าไรนัก บางมื้อถึงขนาดจะต้องอดและไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีข้าวสารเหลือพอหุงหา หรือไม่..
ด้วยความกลัดกลุ้ม.. (ให้ข้อเท็จจริงไว้ว่าเขาไม่สามารถจะหายจากโรคนี้ได้อย่างแน่นอน มีแต่ทรงกับทรุด)ทรมานในสังขาร และสงสารเหล่าลูกเมียที่ต้องทนลำบาก.. เขาตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเขาเอง.. ฆ่าตัวตาย.. (ให้ข้อเท็จจริงไว้ว่าเขาสามารถหาวิธีการต่างๆ อันใดก็ได้ มาฆ่าตัวเองตายได้ ถึงแม้จะเป็นอัมพาต) และในเมื่อเขาตายไปแล้ว..(เน้นว่าเมื่อเขาได้ตายแล้ว)
..เรียนถามท่านเหล่าเมธีกวีไทยโพเอมที่เข้ามาอ่านกระทู้ว่า มันสมควร สมเหตุสมผลหรือไม่.. อย่างไร.. ในสภาวะการอันจำยอม และ ได้กระทำการอัตวิบากกรรมไปแล้ว.. ขอให้ท่านเป็นผู้ตัดสิน และ โต้แย้งในเหตุผล โดยที่ท่านจะยึดตามหลักธรรม หรือไม่ก็ตามแต่ อย่างเสรี
..ทุกข้อโต้แย้ง และ ทุกคำตัดสิน ย่อมเป็นประโยชน์แก่ตัวข้าน้อยผู้ด้อยปัญญายิ่งนัก จึงขอขอบพระคุณมาในโอกาสนี้..
ธรรมาภิวัฏ 
(จะขอตอบทุกความคิดเห็นเมื่อกระทู้นี้ตกไปจากหน้าแรก)				
comments powered by Disqus
  • ธรรมาภิวัฏ

    27 เมษายน 2549 00:56 น. - comment id 13845

    ขอบคุณครับลุงก่อ..
  • ธรรมาภิวัฏ

    27 เมษายน 2549 01:01 น. - comment id 13846

    ตอบวนกวี..
    จากโรคเดินไม่ได้.. มันมีเหตุผลอื่นอีกด้วยนะครับ.. ลองย้อนไปอ่านใหม่สิครับ..
  • ธรรมาภิวัฏ

    27 เมษายน 2549 01:07 น. - comment id 13847

    ตอบคุณธนา..
    ครับ.. ตัดสินยาก..
    ถ้าไม่มองให้ออกแล้วตัดสินอย่างเฉียบขาด.. จะตัดสินไม่ได้ แต่ทว่า..หากจับจุดยืนแล้วตัดสินออกไปจะตัดสินได้ และอยู่บนมุมมองของเรา.. จึงไม่มีการตัดสินผิด.. 
    จากมุมมองของเรา
  • ธรรมาภิวัฏ

    27 เมษายน 2549 01:11 น. - comment id 13848

    ตอบคุณดาวอังคาร
    อ๋อ..ไม่ได้อ่านครับ นั่งสมมุติคิดๆเหตุการณ์ออกมาในลักษณะที่ขัดแย้ง ต่อการตัดสิน หากทว่าไปตรงกับแนวความคิดของใครแล้วนั้น.. ต้องขอกล่าวขอโทษไว้ล่วงหน้า เพราะหากแต่เพียงเป็นเรื่องบังเอิญโดยบริสุทธิ์ใจจริงๆ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    17 เมษายน 2549 14:40 น. - comment id 14002

    ใช้คำว่า อัตวินิบาตกรรม นะครับ
  • วนกวี

    17 เมษายน 2549 18:24 น. - comment id 14003

    งั้นเค้าคนนั้นก็โง่มากสิครับ 
    มันไม่สมควรที่จะเอาชีวิตอันมีค่านั้นๆไปเพราะเเค่โรคเดินไม่ได้
    อย่างไรก็ตามลูกเมียก็น่าสงสารเเล้วเขาก็จากพวกเค้าไปให้อยู่อย่างโดดเดี่ยว 
    บาปกรรมบาปกรรม31.gif31.gif
  • ธนา

    17 เมษายน 2549 22:44 น. - comment id 14006

    น่าเห็นใจทั้งสองฝ่าย ตอบยากมาก หากเรื่องนี้เกิดกับตนเอง ตอบยากมาก
  • ดาวอังคาs

    18 เมษายน 2549 00:09 น. - comment id 14007

    ได้อ่าน \"สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน\" มาล่ะซิ่ท่า
    
    46.gif
  • กีกี้

    18 เมษายน 2549 05:47 น. - comment id 14008

    จะสมเหตุสมผล หรือไม่อย่างไร ..
    ในข้อเท็จจริงเขาก็ตายไปแล้ว .. 
    
    .. 36.gif ..
  • Lillypen

    18 เมษายน 2549 16:22 น. - comment id 14016

    การฆ่า เป็นสิ่งไม่สมควร ไม่ว่าจะมีเหตุผลขนาดไหนก็ตาม ไม่ว่าจะฆ่าตัวตาย หรือฆ่าคนอื่น โรคที่ไม่มีวันหาย ถึงร่างกายจะช่วยทำงานอะไรไม่ได้ รังแต่จะเป็นภาระ แต่แน่นอนว่าเมียแลกของเขายินดีให้เขามีชีวิตดีกว่าให้ตายจากโลกนี้ไป ในบางครั้งบางทีที่คุณเห็นว่า เราไม่มีค่า ไม่มีความหมาย ไม่มีใครต้องการ แต่เชื่อสิ ยังมีคนที่เขาต้องการคุรและอยากอยู่กับคุณไม่ว่าในสภาพไหนก็ตาม เพียงแต่ คุณ มองไม่เห็นเค้า เท่านั้นเอง64.gif
  • อมตะลักขณา

    18 เมษายน 2549 17:59 น. - comment id 14019

    เขียนเป็นบทกลอน เรื่อง บาปแลกรรม ครับ
    ขอบคุณที่ได้แสดงความเห็นครับ
  • อัลมิตรา

    18 เมษายน 2549 22:54 น. - comment id 14021

    หนุ่มวัยใส .. ได้แต่วิงวอนขอความตายด้วยความปราณีของมารดา
    อุบัติเหตุคราวนั้น ทำให้ชีวิตของเขาดับวูบ 
    เขาใช้สิ่งสุดท้ายในร่างกายที่แสดงถึงความมีชีวิต
    เป็นตัวถ่ายทอดให้มารดาของเขาเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดี
    
    ..ขอความตายให้ผมด้วยเถิดครับ ..
    
    ทว่า สิ่งที่เขาร้องขอ ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด
    และในที่สุดมารดาของเขา ก็ต้องเป็นผู้ที่ทำให้เขาสมปรารถนา
    
    อัลมิตราไม่รู้ว่า ถ้าอัลมิตราเป็นเขาที่อัลมิตราอ่านในหนังสือ
    หรือเป็นเขา ที่ปรากฏในเรื่องเล่าของคุณ
    สิ่งที่อัลมิตราร้องขอ อาจจะเป็นสิ่งเดียวกับเด็กหนุ่มคนนั้นพร่ำวิงวอน
  • ห้วงคำนึง

    19 เมษายน 2549 00:14 น. - comment id 14022

    ก่อนอื่นต้องเรียนว่า ข้าพเจ้าไม่ใช่เมธีแต่อย่างใด
    
    เรื่องที่อ่านแล้ว เป็นการยากที่จะตอบคำถาม 
    ข้าพเจ้าคิดแล้วคิดอีก จึงสรุปเคร่าๆได้
    
    1. แม้การฆ่าตัวตาย จะเป็นสิ่งที่ไม่ดี เป็นบาป ดังที่ คุณ Lillypen  กล่าวมาก็จริง  แต่ท่านลองนึกดูดิ  ถ้าหากท่านตกอยู่ในสภาพการณ์เช่นนั้น  ต้องเป็นคนที่ทนทุกข์ทรมานคนเดียวไม่พอ แล้วยังมีคนมาแบกภาระอีก มันก็เหมือนกับตายทั้งเป็น  ถ้าผมเป็นเช่นนั้น ผมก็ขอยอมฆ่าตัวตาย ครับ (จากใจจริง) ส่วนเรื่องภพหน้า ก็ไม่ต้องไปสนอาไรทั้งนั้น ขอเพียงแต่ให้คนที่ยังอยู่ (แม่และลูก) สุขสบายในภพนี้เท่านั้นพอ(แม้จะต้องแลกกับความโศกเศร้าที่เสียใครคนนึงไป)   เรายอมรับกรรมเพียงผู้เดียว 
    
    2. ถ้ามองในแง่ของโชคชะตา คนที่เป็นอัมพาต คงเป็นกรรมเก่า และคนที่รับภาระเลี้ยงดูก็กรรมเก่าเช่นกัน  ถ้าคิดเช่นนั้น แต่ละคนยอมรับชะตากรรม และไม่ยอมฝืน หรือเปลี่ยนแปลงใดๆ มันเป็นการยากมากที่จะตอบว่า ชีวิตเค้าจะเป็นอย่างไรต่อไป แล้วสักวัน วัยของพวกเค้าจะต้องอ่อนเปลี้ยเพลียไป ไม่ใช่หรือ  มันคงไม่ดีขึ้นดอกกระมัง
    ข้าพเจ้าจึง อยากตั้งคำถามอีกข้อที่ว่า 
     ..ถ้าหากชายผู้นั้นไม่ฆ่าตัวตายแล้ว..ครอบครัวนั้นควรจะหาทางออกยังไง?
    ข้าพเจ้าไม่สามารถตอบคำถามที่ตั้งเองได้
    ส่วนคำตอบในกระทู้นี้ ข้าพเจ้าคิดว่า \"เค้าทำถูกแล้ว  เพราะหมดหนทางที่จะทำให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น (เงินไม่มี รักษาไม่หาย แบกภาระดูแลคนป่วย อัตคัตข้นเข็ญ) \"   ในช่วงแรกที่ข้าพเจ้าได้อ่าน ก็คิดเหมือนคุณLillypen  ทันที  แต่อยากให้ลองนำตัวเองเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา แล้วก็ถี่ถ้วนขึ้น ก็คงจะแจ้งนะครับ55.gif61.gif
  • บินเดี่ยวหมื่นลี้

    19 เมษายน 2549 05:15 น. - comment id 14023

    ออกตัวเหมือนท่านข้างบนก่อนแล้วกัน
    
    ....สัตว์โลก...ย่อมเป็นไปตามกรรม...
    31.gif
  • ดอกบัว

    19 เมษายน 2549 14:16 น. - comment id 14025

    ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะค่ะ
    
    ในฐานะที่ดิฉันเป็นลูกที่ทำงานเอาเงินให้พ่อของดิฉันใช้ตอนพ่อเป็นอัมพาต 10 ปีและท่านจากดิฉันไปเมื่อ 2533 ดิฉันกลับดีใจที่ดิฉันได้ทดแทนพระคุณท่าน ตอนพ่อเป็นและพ่อก็คิดมากคิดที่จะฆ่าตัวตายเหมือนกันแต่ดิฉันได้บอกว่าให้ท่านอยู่ให้ดิฉันได้ทดแทนพระคุณที่ท่านทำให้ดิฉันได้เกิดมาบนโลกใบนี้
    และมันก็เป็นกรรมของพ่อที่พ่อต้องมาเป็นแบบนี้เหมือนกัน สู้เราชดใช้กันให้หมดไปชาตินี้ดีกว่า เราทำกรรมมาไม่เหมือนกันบ้างคนอาจจะไปเจอกลับเหตุการณ์รุนแรงกว่านี้
    มันเป็นกรรมทั้งสองฝ่ายกลับคนที่เป็นและคนดูแล  ครอบครัวของดิฉันก็จนทำไร่ทำนา
    มีดิฉันที่มารับจ้างเอาเงินไปรักษาพ่อซื้อให้พ่อกิน พี่ๆเขามีครอบครัวกันไปหมดและอ้างว่าต้องดูแลครอบครัวตัวเอง ในความรู้สึกของความเป็นลูกไม่ว่าพ่อหรือแม่ ถ้ายังมีชีวิตอยู่
    ถึงท่านจะทำอะไรไม่ได้แล้ว แต่ความรู้สึกของเราอบอุ่นที่รู้ว่ามีคนที่รักเราอย่างแท้จริงยังอยู่กับเรา
    และเมื่อพ่อตายไปได้ 100 วันดิฉันได้ไปทำบุญถวายสังฆทานให้พ่อ และในคืนนั้นดิฉันฝันเห็นพ่ออยู่ที่ร่มรื่นสวยงามริมลำธารและที่สำคัญพ่อเดินได้เหมือนคนปกติไม่เป็นอะไรเรยทำให้ดิฉันคิดว่าพ่อได้ชดใช้กรรมหมดไปแล้ว พอไปอยู่อีกภพภูมิใหม่พ่อเรยไม่เป็นอะไรแล้ว
    คนที่คุณเล่ามานี้ถ้ายังมีชีวิตอยู่ สู้ต่อไปเถอะค่ะ ใช้กรรมให้หมดไปในชาตินี้เถอะและให้คนที่ดูแลเขาก็ได้ใช้กรรมของเขาไปด้วย
    เพราะทุกวันนี้ชะตาชีวิตของพี่สาวดิฉันก็ตกอยู่ในสภาพนี้เหมือนกันไม่รู้ว่าเป็นเพราะพี่ไม่ช่วยดูแลพ่อหรือจะเป็นกรรมที่ตามทันกันมาก็สุดจะคิด ดิฉันก็ได้แต่บอกให้พี่ยอมรับกับชะตากรรมเสียโดยดีจะไปหมดกันไป
    ขอบคุณค่ะ
  • ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำ

    19 เมษายน 2549 16:15 น. - comment id 14028

    การฆ่า 
    คำว่าการฆ่า ก็ชัดเจนอยู่ในตัวว่าเป็นการผิดศีลข้อหนึ่ง
    การฆ่า การทำลายชีวิต การตัดชีวิต การเบียดเบียนทำร้ายชีวิตอื่นใด
    แม้แต่ชีวิตตัวเราเอง ก็ผิดศีลทั้งสิ้น การฆ่าตัวตายหรือการตัดชีวิต
    ตัวเองนั้น ในคติพุทธถือว่าเป็นบาปอย่างยิ่ง 
    
    องค์ประกอบที่จะทำให้ผิดศีลข้อหนึ่ง (ปาณาติบาต) แน่นอนเต็มๆ
    การฆ่านั้นต้องประกอบไปด้วยหลัก ๕ ประการนี้
    (๑) สัตว์นั้นมีชีวิต
    (๒) รู้อยู่ว่าสัตว์นั้นมีชีวิต
    (๓) มีจิตคิดจะฆ่า
    (๔) เพียรพยายามฆ่า
    (๕) สัตว์นั้นตายลง 
    
    ดังนั้น หากครบทั้ง ๕ องค์ประกอบนี้ ก็เป็นอันศีลข้อหนึ่งขาดแน่นอน
    ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าตัวเอง ฆ่าสัตว์ใหญ่น้อยใดๆ ก็ตาม แต่หากไม่ครบ
    องค์ประกอบทั้ง ๕ ก็เรียกว่าไม่ถึงกับศีลขาด อาจแค่ศีลพร่อง เช่น
    ไม่ทราบว่ามีมดอยู่แล้วเอามือลูบไปถูกมดตาย ก็เรียกว่าศีลพร่อง
    คือไม่เห็น ไม่รู้ ไม่ได้ตั้งใจจะเพียรพยายามฆ่า ก็ไม่ครบองค์ที่จะ
    ทำให้ศีลขาด 
    
     
    
    การฆ่าตัวตาย 
    ทำไมการฆ่าตัวตายจึงถือเป็นบาปอย่างยิ่ง 
    
    ทั้งนี้เพราะ ทุกชีวิตเกิดมาใช้กรรมที่เราทำไว้ในอดีต เราเกิดมาเพื่อ
    รับผลของกรรมใดกรรมหนึ่งหรือหลายๆ กรรมที่เราทำๆ ไว้เองแล้ว
    ในอดีตชาติอันมากมายนับไมถ้วนในสังสารวัฏ 
    
    การทำให้ชีวิตของตนต้องจบลงด้วยการฆ่าตัวตาย เป็นการไปตัด
    โอกาสที่บุคคลควรได้อยู่ต่อตามอำนาจกรรม และชดใช้กรรมหรือรับผล
    ของกรรมที่ตัวเองมีหน้าที่จะต้องมารับมาชดใช้ในชีวิตนี้ ในชาตินี้ 
    ทำให้หมดโอกาสที่จะได้ใช้กรรมไปตามกระแสกรรม กระแสเหตุ
    และปัจจัย ตามที่ควรจะเป็น จวบจนสิ้นอายุขัยจริงๆ ในชาตินี้
    ทั้งยังอาจตัดโอกาสที่จะได้มีชีวิตอยู่ต่อเพื่อกระทำความดี 
    เพื่อสร้างสมบุญ สร้างสมปัญญา ให้เพิ่มพูนอีกด้วย 
    
    เคยอ่านพบ ในคติพุทธบอกไว้ว่า ผู้ที่ฆ่าตัวตาย จะต้องไปรับผลกรรม
    แห่งการฆ่าตัวตายคือจะต้องเกิดมาแล้วด่วนฆ่าตัวตายเสียก่อนจะ
    หมดอายุขัยไปอีกประมาณห้าร้อยครั้งหรือห้าร้อยภพชาติ 
    
     
    
    การฆ่าสัตว์เล็กๆ อาทิ มด ปลวก แมงสาบ ฯลฯ 
    เราทราบๆ กันอยู่ว่าการฆ่าสัตว์ใหญ่ ฆ่าคนด้วยกัน นั้นไม่ถูกต้อง
    ทั้งทางกฏหมายและทางธรรม ในทางธรรมถือเป็นบาปยิ่งนัก
    เมื่อฆ่าเขา เกิดมาชาติต่อๆ ไป ก็จะต้องถูกเขามาฆ่าบ้าง
    ทำลายชีวิต ตัดชีวิตบ้าง เป็นการรับผลของกรรมนั้น
    แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน 
    
    ผู้คนมักกังขากันว่า แล้วสัตว์เล็ก ล่ะ อาทิ มด ปลวก แมงสาบ ฯลฯ
    จะบาปไหมที่ไปฆ่าเขา คำตอบก็ตามหลักเดิมๆ คือทุกชีวิตล้วนหวงแหน
    ชีวิตของตน และทั้งทุกชีวิตก็มีกรรมของตนจะต้องมาชดมาใช้
    มารับผลในปัจจุบันขณะและในชาติภพปัจจุบัน ดังนั้นฆ่าอะไร
    ที่เป็นสิ่งมีชีวิต ก็บาปทั้งนั้น ผิดศีลข้อปาณาติบาต ทั้งสิ้น 
    ฆ่าคนก็บาป ฆ่าช้างก็บาป ฆ่าปลาก็บาป ฆ่ามด ปลวก ก็บาป
    เช่นกัน 
    
    ที่จริง การฆ่าสัตว์เล็กๆ ในบ้าน ในอาคาร อย่าง มด ปลวก แมงสาบ ฯลฯ
    นับเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ คือ เขาเข้ามาอยู่มาอาศัยแล้วจึงไปฆ่าเขา
    กำจัดเขา มีอีกวิธีที่อาจลองนำมาใช้ดู ก็คือ ใช้วิธีป้องกันไม่ให้เขาเหล่านี้
    มาอยู่ในบ้าน ในเรือน ในอาคาร หรือบนจานอาหาร อย่างเช่น ถ้าห้องสะอาด
    แมงสาบก็จะไม่มาอยู่เพราะเขาชอบอยู่กับสิ่งสกปรก ถ้าโต๊ะไม่มีเศษอาหาร
    ไม่มีจานใช้แล้ววางค้างๆ อยู่ มดก็ไม่รู้จะมาขึ้นอะไร เขาก็ไม่มา
    ปลวกนั้น หากตอนสร้างวางแผนและป้องกันปลวกไว้ก่อนแล้ว
    ก็ไม่น่าจะมีปลวกขึ้น อะไรทำนองนี้ หากทำได้ ก็จะได้ไม่ต้อง
    มานั่งหาทางคิดแก้ กำจัด หรือทำร้ายทำลายชีวิตกัน
    ให้ต้องไม่สบายใจ ให้ต้องบาปกรรมติดตัวเพิ่มขึ้นอีก
    
    http://www.geocities.com/easydharma/dm005004.html
  • กุ้งหนามแดง

    19 เมษายน 2549 18:11 น. - comment id 14033

    คิดว่าเขาไม่สมควรจากไป...แม้โรคนั้นจะไม่มีทางรักษาหาย แต่ลูกหลานเขาย่อมอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้มีค่ามากที่สุด ..  
    
    เราต้องอยู่อย่างมีความหวัง วันนี้ทรุด พรุ่งนี้ต้องทรง ต้องพยายามรักษาและให้กำลังใจผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้นั้นเป็นพ่อแม่เรา  ...
    
    เราคงไม่เรียกว่าภาระ...แต่เป็นภาวะที่เราต้องดูแลช่วยเหลือ พยุงครอบครัวของเราเอาไว้..ให้ดีที่สุด ตราบวันสุดท้ายที่โรคร้ายมาพรากไป..ถึงบาปกรรมจะมองไม่เห็นก็ตาม แต่เราจะไม่เสี่ยงให้จิตดวงนั้นซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพ่อแม่เรา ต้องเวียนว่ายอยู่ในระบบกรรม (ตามที่คุณลำน้ำน่าน อธิบาย :) ขอบคุณค่ะ..
    
    อย่างไรก็ตาม ถ้าท่านคิดจะฆ่าตัวตาย จะพยายามทัดทานไว้ จนสุดความสามารถค่ะ..
    
    อนึ่ง เราไม่ใช่เมธี แต่ขอแสดงความเห็นตามความรู้สึกของตัวเองค่ะ..
    
    ขอบคุณค่ะ..
  • อรุณสุข

    20 เมษายน 2549 12:00 น. - comment id 14042

    การฆ่าผู้อื่นถือเป็นบาป
    การฆ่าตัวเองถือเป็นบาปหนัก
    การฆ่าบิดามารดาถือเป็นบาปหนักที่สุด
  • น้องแอน

    20 เมษายน 2549 13:18 น. - comment id 14046

    ศีลข้อที่ 1 บอกว่า ละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต คนก็คือสัตว์ชนิดหนึ่ง บาปมากนะกับการฆ่าตนเอง ตัดใจทำไปได้อย่างไร แสดงว่าชายผู้นี้ไม่มองเห็นคุณค่าของตนเอง ว่า\"อย่างน้อยคุณคือความหวังของลูกและเมีย\" คุณย่าของน้องแอนเป็นอัมพาต แต่ท่านไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย ชีวิตเป็นสิ่งสำคัญ...ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่น้องแอนบอกนั้นเป็นเพียงคำพูดของคนที่ไม่เคยเจอกับตัวเอง แต่หากน้องแอนเป็นอย่างชายคนนั้น การตัดสินใจแบบเขาอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งก็ได้.......ตอบด้วยนะคะ....47.gif
  • สร้อยแสงแดง

    21 เมษายน 2549 02:02 น. - comment id 14063

    อาตมันจะอยู่ได้ก็เมื่อมีขึ้นลงตามกระแสปรมาตมัน เมื่อมิสามารถขึ้นลงตามกระแสได้แล้วการไม่ยอมรับของปรมาตมันจึงบังเกิด และเมื่อนั้นเหล่าปรมาตมันที่เห็นว่าการทำลายชีวิตตนเป็นบาปก็จะเงียบลง สงบลง สู่วัฏฏะแห่งความสงัด
  • เพียงพลิ้ว

    24 เมษายน 2549 09:37 น. - comment id 14085

    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
    ขออ่านความคิดเห็นอย่างเดียวนะคะ
  • pat@19.com

    24 เมษายน 2549 19:44 น. - comment id 14087

    36.gif
    
                การถือกำเนิดเป็นมนุษย์เป็นสิ่งที่ยากอย่างยิ่ง  เพราะต้องมีบุญและบาปเสมอกันและสามารถทำบุญได้สูงสุดคือนิพาน
    ทำบาปได้ต่ำสุดคือตกนรกอเวจีไม่ได้ผุดได้เกิด  เช่น ฆ่าบิดา มารดาผู้ให้กำเนิด ฯลฯ
    
                การมีชีวิตอยู่บนโลกนี้เป็นสิ่งที่สมควรอย่างยิ่ง  เพราะคุณยังมีหลายบุคคลที่รักและห่วงใย   แม้ว่าร่างกายจะอยู่ในสภาพใดก็ตามคิดเสียว่าเป็นกรรมที่ทำไว้แต่ปางก่อน  พยายามทำบุญให้มาก ถือเสียว่าเราต้องชดใช้หนี้กรรมให้แก่เจ้ากรรมนายเวร 
    
                แต่ถ้าคุณคิดผิดทำร้ายตัวเองจนเสียชีวิต   คุณต้องกลับมาเกิดใหม่และทำอย่างนี้จนครบ  500  ชาติ
    
                ถึงจะกลายเป็นคนธรรมดาที่จากไปอย่างสงบที่สุดเมื่อถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
    
                ขอร้องนะคะ  อย่าตัดสินใจผิดอีกเลย   ทุกชีวิตมีค่าเท่าเทียมกันเสมอในความเป็นมนุษย์ค่ะ
    
                ขอให้คุณอดทนนะคะ  ทำใจปล่อยวางกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นค่ะ
    
                เมื่อใจของคุณสงบ   กายของคุณจะสบายขึ้นค่ะ 
    
                เป็นกำลังใจให้ค่ะ
    
             36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • ขอโทษครับ...ผมเมา

    25 เมษายน 2549 11:51 น. - comment id 14090

    ว้า...แบบนี้ก็แย่สิ  ขาดสมาชิกตั้งวงไปอีกหนึ่ง 
    จะรีบไปไหน จารีบไปไหน  ถึงดื่มไม่ได้ พอถึงตานายเราจะดื่มแทนเอง  อิอิอิ
    
    เมื่อวาน  นายมีสมอง และกำลัง 
    วันนี้ ไม่มีกำลัง  แต่นายยังมีสมอง 
    ถ้านายคิดหาวิธีฆ่าตัวตายได้  นายก็ต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหาได้เหมือนกัน 
    
    อัมพาตแค่กาย อย่าให้ใจอัมพาตด้วยสิ
    
    ไม่สามารถยกแก้วชนได้  ส่งแค่ใจมาชนแก้วกันก็ยังดี ...
    
    
    ไม่ใช่เมธี แค่ขี้เหล้าคนหนึ่ง 
    51.gif
  • purelife

    3 พฤษภาคม 2549 21:58 น. - comment id 14139

    ในขณะที่คุณอ่านข้อความนี้ ให้จินตนาการว่าคุณกำลังไปซื้อของ หยิบและใช้ความคิดเลือกสรรเฉพาะสิ่งที่เหมาะสมกับตัวคุณ แน่นอนว่าคุณไม่ต้อง เห็นด้วย กับทุกอย่างที่ใครคนหนึ่งพูด แต่จงให้โอกาสตัวคุณเอง อ่านต่อไปด้วยใจที่เปิดกว้าง ถ้าบางอย่างมีเหตุผลสำหรับคุณก็ลองทำมัน ถ้ามันไม่มีเหตุผลสำหรับคุณ ก็ทิ้งมันไป
    	จงจำไว้ว่า ไม่ว่าคุณจะทำสิ่งใดก็ตาม จงเป็นนักเรียน ไม่ใช่ เป็นเพียงผู้ตาม 
    ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.hbb4u.com/purelife

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน