หากในวันแต่งงาน คุณพบว่า... คุณจะทำเช่นไร

จิตรำพัน

38ub4km9.jpg หากสิ่งที่เห็น...ไม่เป็นอย่างที่เห็น
หากในวันแต่งงาน  คุณได้รู้ว่าภรรยาของคุณเขาเป็นผู้ชายคุณจะเลิกกับเขาไหม
หากในวันแต่งงาน  คุณได้รู้ว่าสามีของคุณเขาเป็นผู้หญิงคุณจะเลิกกับเขาไหม
     หากสิ่งที่คุณเห็นคือสิ่งที่คุณคิดว่าใช่   แต่จริงๆ แล้วเขาบิดซ่อนเอาไว้ด้วยความรัก  เพราะกลัวสูญเสียคุณไป
    หากคุณรักเธอ (เขา) ด้วยนิสัยใจคอ  น้ำใจ  และตัวตนของเธอ (เขา)  แต่แล้วในวันแต่งงานเธอ(เขา) ตัดสินใจบอกคุณในสิ่งที่เขาปิดบังคุณเอาไว้  คุณจะเลิกกับเขาไหม...
     จากเวปหนึ่งซึ่งแวะไปเจอค่ะ...
     เป็นเรื่องที่น่าสนใจค่ะ				
comments powered by Disqus
  • Alphilic

    25 ธันวาคม 2550 16:18 น. - comment id 20013

    ไม่เห็นเป็นไรเลยค่ะ
    ก็แค่บังเอิญคนที่เรารัก เป็นผู้หญิงก็เท่านั้นเอง
  • โคลอน

    25 ธันวาคม 2550 16:50 น. - comment id 20016

    เลิกค่ะ
    
    เพราะความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานของความจริงใจ...ว่าต่อไปความรักจะยั่งยืนหรือเปล่า36.gif48.gif
  • banmoh(บ้านหมอ)

    25 ธันวาคม 2550 19:17 น. - comment id 20021

    ความหวังในการแต่งงาน เพื่อใช้ชีวิตคู่
    เรื่องที่สำคัญที่สุด คือเรื่อง เซกส์
    ไม่ต้องปฏิเสธ ใครปฏิเสธเรื่องนี้ คือคนที่หลอกตัวเอง
    ร้อยละ 90 ที่เลิกรากันไป เพราะเรื่องเซกส์
    แล้วก็แก้ตัวว่า ทัศนไม่ตรงกัน
    ก็เพราะความหึงหวง ความไม่เข้าใจกัน
    ความต้องการเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว
    นั่นแหละ เซกส์ทั้งสิ้น
    
    แล้วเมื่อชีวิตคู่ ไม่ใช่คู่
    คำว่า "คู่" คือ หญิงคู่ชาย  ไมใช่ ชาย - ชาย
    หญิง - หญิง
    ถ้าคู่ ไม่สมบูรณ์  ถึงไม่เลิกกันวันแต่ง  แต่ก็อยู่กันไม่ยืดหรอก..........เชื่อซิน่า....
  • จิตรำพัน

    25 ธันวาคม 2550 20:02 น. - comment id 20023

    สวัสดีค่ะคุณ Alphilic 11.gif
    
    เยี่ยมค่ะ 41.gif41.gif
    เรารักแล้วนี่คะ  ใช่ไหม  
    46.gif
  • Alphilic

    25 ธันวาคม 2550 20:14 น. - comment id 20025

    สวัสดีค่ะคุณจิตรำพัน
    เอ...แบบนี้แสดงว่าใจตรงกันใช่มั้ยนี่
    
    จากที่คุณโคลอนบอกว่า ความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานของความจริงใจ
    ข้อนี้เห็นด้วยค่ะ แต่ถ้าลองเอาใจเขามาใส่ใจเรานิดนึง
    ก็จะเข้าใจว่าทำไมเขาจึงต้องปิดบัง ทั้งๆที่เขาเองก็คงลำบากใจอยู่ไม่น้อย
    
    ส่วนที่คุณบ้านหมอบอกว่า เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเรื่องเซ็กซ์
    โดยส่วนตัวคิดว่า เซ็กซ์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตคู่ค่ะ (ญ-ญ,ช-ช ก็มีอะไรกันได้นะ^^")
    สิ่งที่สำคัญคือความเข้าใจ แล้วก็ให้เกียรติกันมากกว่า คิดว่าอย่างนั้นนะคะ
    
    ps. plato ยังกล่าวเลยว่า ความรักระหว่างชายกับชายเป็นสิ่งที่น่ายกย่องอ่ะ ที่เรียกว่า platonic love16.gif
  • จิตรำพัน

    25 ธันวาคม 2550 20:22 น. - comment id 20026

    สวัสดีค่ะคุณโคลอน 11.gif
    
    คำว่า " เลิก "   กับคำว่า  "รัก"
    มันหยั่งกันยากจังค่ะ
    
    คนสองคนคบกันมา  จนวันหนึ่งตัดสินใจแต่งงานใช้ชีวิตร่วมกันคงต้องใช้เวลาบ่มมายาวนาน
    การที่จะเอ่ยคำว่า "เลิก"  อาจจะยากสักเล็กน้อย  ยกเว้นว่าเราไม่ได้ "รัก" เขา
    
    ถูกของพี่โคลอนนะคะ ที่ว่าความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐานของความจริงใจ
    คนเรานั้นจะใช้ชีวิตร่วมกันต้องมีพื้นฐานของความจริงใจต่อกันค่ะ
    
    จิตรำพันว่า  ดีที่สุดก็บอกกันตั้งแต่เริ่มคบดีกว่าค่ะ  หากรักกันจริงก็ต้องให้เวลาเขาสักนิด  ไม่ใช่มาบอกเมื่อวันแต่งงาน 30.gif29.gif36.gif
  • จิตรำพัน

    25 ธันวาคม 2550 20:34 น. - comment id 20028

    สวัสดีค่ะคุณบ้านหมอ 11.gif
    
    อืม ...42.gif42.gif62.gif  คงจะจริงนะคะ
    แต่ว่าเท่าที่ทราบมา  ไม่ว่าจะเป็น ชาย - ชาย  หรือ หญิง - หญิง
    เขาก็สามารถมีวิถีทางของเขานะคะในเรื่องนี้ 30.gif
    
    ส่วนในกรณีที่กล่าวมานี้ก็คือ
    สามี (ที่เป็นหญิง)  และภรรยา (ที่เป็นชาย)  ได้ผ่าตัดแปลงเพศเรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้วค่ะ  ส่วนจิตใจก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป
    เหลือเพียงอย่างเดียวที่เขาเปลี่ยนไม่ได้คือ  ตัวตนในการเกิด  และในบัตรประชาชน  ค่ะ
    
    สำหรับ  "คู่  ที่ไม่สมบูรณ์"  นั้น  ในความคิดของจิตรำพันคิดว่า  ไม่ใช่ในกรณี ชาย - ชาย  หรือ หญิง - หญิง  หรอกค่ะ
    มันอยู่ที่ว่าคู่ของแต่ละคนจะมีความพอใจในกันและกันเพียงใด  เติมเต็มให้กันได้เพียงใด
    หากจะว่าไปแล้ว  ชาย - หญิง  นี่ก็มีหลายคู่ที่ไม่สมบูรณ์  ทำให้ต้องเลิกรากันไปก็มีค่ะ
    11.gif29.gif36.gif
  • จิตรำพัน

    25 ธันวาคม 2550 20:42 น. - comment id 20029

    สวัสดีรอบที่สองค่ะคุณ Alphilic11.gif
    
    อืม...
    
    จิตรำพันว่ากรณีนี้มันน่าสนใจ  ให้แง่คิดได้ไม่น้อยค่ะ
    ว่าเรานั้นรักเขาที่จิตใจ หรือว่าร่างกาย   
    แต่ทว่า...มันก็เป็นองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกัน
    
    สิ่งสำคัญที่สุดคือ  ความซื่อสัตย์  ความเข้าใจกัน  ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และอย่าลืมความเชื่อใจกันด้วยค่ะ
    
    ซึ่งจะทำให้เกิด ความรักที่น่ายกย่อง ที่สุดไม่ว่าคู่ของคุณจะเป็นแบบไหนค่ะ 11.gif36.gif29.gif
  • อัลมิตรา

    25 ธันวาคม 2550 21:30 น. - comment id 20030

    ~สิ่งมีค่า...........................ที่แท้จริง~
    ไม่ได้อยู่ที่..การมองเห็น.. หากแต่อยู่ที่..
    ~สิ่งที่เรา..มองไม่เห็น~
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    
    ~ความรัก..ที่แท้จริง~
    ไม่ได้อยู่ที่.. เราได้ทำอะไร.. แล้วมีคน..รับรู้..
    หากแต่อยู่ที่.. สิ่งที่เรา..กระทำ..แล้วไม่มีใคร..รับรู้ ..
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    
    ~ความรัก~
    บางครั้ง.. ไม่จำเป็น.. ต้องพูดพร่ำเพรื่อ..
    หากแต่อยู่ที่....การกระทำ. ซึ่งเรา..อาจรับรู้..
    เพียงแค่..ฝ่ายเดียว..
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    
    คงเป็นความจำเป็น ที่เขาหรือเธอจำต้องปิดบัง
    ทว่าความรักนั้น  จะยังมีความสำคัญอีกหรือ หากอีกฝ่ายปิดบัง
    
    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
  • Alphilic

    25 ธันวาคม 2550 21:38 น. - comment id 20032

    จากความคิดเห็นของคุณอัลมิตราที่บอกว่า
    "ทว่าความรักนั้น  จะยังมีความสำคัญอีกหรือ หากอีกฝ่ายปิดบัง"
    
    หัวใจคนเรามีสี่ห้อง
    ก็คงจะไม่ผิดใช่ไหมที่จะเก็บห้องหนึ่งไว้ให้ตัวเอง
    ...เป็นห้องส่วนตัว...ที่จะไม่มีใครล่วงล้ำเข้ามา
    คิดว่าอย่างนั้นนะคะ ^^
  • ปราณรวี

    25 ธันวาคม 2550 22:38 น. - comment id 20033

    ขึ้นกับวัฒนธรรมด้วยนะ...บ้านเรายังไม่ค่อย
    ยอมรับเรื่อง เกย์ ทอม ดี้ เลสฯ  เวลาใครที่มี
    บุคลิกภาพแบบนี้ เลยปกปิด ซ่อนเร้น
    
    แต่ ตปท (อย่างเมกา) ที่นั่นเปิดเผย ยอมรับ
    ประกาศให้โลกรู้...ในห้องเรียนที่มีนักเรียน
    เกือบร้อย เขาก็ลุกมาบอกได้ว่าเป็นเกย์
    ทุกคนยอมรับความแตกต่างในเรื่องนี้
    ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ใครละเมิดไม่ได้ด้วย
    ที่มหาลัยที่ ป เรียนอยู่ (และคิดว่าทุกที่) จะมี
    ชมรม LGBT (lesbian, gay, bisexual and transgendered people) ตั้งกันมาเพื่อดูแล
    แบบเป็นการเป็นงานเลยล่ะค่ะ
    
    
    ....แต่สำหรับประเด็นเรื่องการปิดบังกัน  จน
    ถึงขั้นแต่งงานแล้วมารู้ทีหลังนี่  คิดว่าคง
    เกิดปัญหาตามมาแน่นอน...เหมือนที่เราเห็น
    กันอยู่ตามข่าวต่างๆ....
    
    36.gif11.gif16.gif
  • จิตรำพัน

    25 ธันวาคม 2550 22:45 น. - comment id 20034

    สวัสดีค่ะคุณอัลมิตรา 11.gif
    
    อืม...36.gif
    ใช่ค่ะ  น่าคิดจริง ๆ  
    
    ทุกคน และทุกการกระทำที่เลือกจะกระทำ  ย่อมมีเหตุผลในตัวของมันเองเสมอค่ะ
    
    แต่ทว่า... อยู่ที่ว่าก่อนทำไตร่ตรองได้ดีแค่ไหนถึงผลของการกระทำนั้น
    ซึ่งไม่ว่าจะออกมารูปแบบไหน  เมื่อตัดสินใจทำแล้ว  ก็ควรที่จะยอมรับในผลของมันด้วย 
    29.gif
    
    เห็นด้วยนะคะ...โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่อนสุดท้าย 
    มันคงสร้างรอยแผลที่ไม่สามารถลบเลือนได้ให้กับอีกฝ่าย
    ถึงแม้จะรักมากแค่ไหน...แต่ความเจ็บปวดก็ยังคงอยู่(เจ็บเพราะโดนโกหก  ทั้ง ๆ ที่ถ้าพูดความจริงแต่แรกอาจจะรักกันมากกว่าเดิม)
    36.gif36.gif
  • จิตรำพัน

    25 ธันวาคม 2550 22:56 น. - comment id 20035

    สวัสดีรอบที่สามค่ะคุณ Alphilic 11.gif
    
    หัวใจคนเรามีสี่ห้องก็จริงค่ะ
    แต่ถ้าขาดห้องใดห้องหนึ่งไปหัวใจก็จะไม่เต็มดวง11.gif36.gif
    ความเป็นส่วนตัว..ห้องส่วนตัว
    จิตรำพันคิดว่าทุกคนย่อมมีที่เก็บสิ่งส่วนตัว  โลกส่วนตัวของตนเองเสมอค่ะ
    แต่สำคัญที่ว่าสิ่งที่เราไม่ต้องการเปิดเผยให้เขาทราบนั้น  ต้องไม่กระทบต่อตัวเขาด้วย
    
    สำหรับเรื่องนี้มันเป็นความสัมพันธ์ของคู่รัก  
    มันอยู่ที่ว่าเราต้องรับความจริงของเราให้ได้ค่ะ
    เพื่อจะได้ไม่ต้องทำให้มีผลเสียตามหลัง
    
    จิตรำพันขอสนับสนุนคำพูดของพี่ ป.  ใน ความคิดเห็นที่ 11 นะคะ 
    เพราะหากคนเรารักกันจริง  ควรจะยอมรับในตัวตนของคนรักได้  
    ทางที่ดีที่สุด  น่าจะบอกไปตั้งแต่แรกค่ะ  คนเราต้องกล้าที่จะยอมรับความเป็นจริง
    
    6.gif36.gif11.gif
  • จิตรำพัน

    25 ธันวาคม 2550 23:04 น. - comment id 20036

    สวัสดีค่ะพี่ป. 11.gif36.gif29.gif
    อืม...
    46.gif
    
    จริงค่ะสำหรับประเด็นการปิดบัง  ไม่ว่าจะเป็นคู่แบบไหน
    ก็ต้องมีปัญหาแน่ ๆ ค่ะ  ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่53.gif
    ...
    ถ้าเป็นเราจะทำไงก็ยังคิดไม่ได้เหมือนกันค่ะ 30.gif
    ก็ได้แต่ภาวนาว่า  คนของเราเขาคงไม่ปิดบังอะไรเราไว้  46.gif36.gif11.gif59.gif
  • น้ำผึ้งเดือนห้า

    27 ธันวาคม 2550 12:12 น. - comment id 20047

    สวัสดีค่ะ คุณจิตรำพัน 
    น้ำผึ้งขอเข้ามาแสดงความคิดเห็นนิดหนึ่งนะคะ จากประสบการณ์ที่รู้และเห็นมาน่ะค่ะ
    เรื่องมีอยู่ว่า มีผู้หญิงสองคนที่เขารักกันและอยู่ด้วยกันอย่างสามีภรรยา โดยที่ผู้ที่ประพฤติตนเป็นสามีมิได้แปลงเพศแต่อย่างใด แล้ววันหนึ่งเขาสองคนก็ได้ขอเด็กมาเพื่อเลี้ยงเป็นลูก และเป็นลูกผู้หญิง ทุกคนก็ดำเนินชีวิตตามปกติ อยู่มาวันหนึ่งเด็กโตขึ้นมาพอจะรู้เรื่องบ้างแล้ว ก็ถามแม่ว่า ทำไมพ่อถึงมีอะไร(อวัยวะเพศ)เหมือนหนูเลย (สืบเนื่องจากอาบน้ำด้วยกัน) เท่านั้นแหละค่ะ แม่เขาไม่สามารถตอบได้และก็เกิดปัญหาอีกหลายอย่างตามมาเนื่องจากเด็กคนนั้นถูกเพื่อนๆที่โรงเรียนล้อทุกวัน.....
    
    นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กน้อยนะคะที่เด็กคนหนึ่งต้องเผชิญ เพราะกว่าเขาจะโตและรู้ว่าอะไรเป็นอะไร และกว่าที่เขาจะเข้าใจความรักที่ไม่มีขอบเขตนี้คงจะใช้ระยะเวลานาน
     
    น้ำผึ้งไม่ได้ต่อต้านคนกลุ่มนี้ น้ำผึ้งเข้าใจว่าความรักเป็นสิ่งสวยงามและเมื่อเรารักแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ และนี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่เขาไม่ยอมบอกตั้งแต่ต้นว่าตัวเองเป็นคนเพศไหน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยอมรับว่าสังคมไทยยังเป็นสังคมที่เกื้อหนุนกันอยู่ไม่ใช่แบบตัวใครตัวมันเหมือนประเทศอื่นที่คุณจะทำตัวหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไงก็ได้
    
    คนเราเมื่อไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ ตลอดชีวิตนี้ก็คงจะไม่พอใจอะไรทั้งสิ้นแหละค่ะ ดูจากเริ่มแรกก็แปลงเพศ ต่อมาก็เรียกร้องให้ยอมรับ ต่อมาก็ขอใช้คำนำหน้าชื่อที่ตนเองต้องการ นี่ก็เป็นข้อมูลเท่าที่รู้เท่านั้น และนอกจากนี้สังคมจะเกิดความวุ่นวายมากขนาดไหน ถ้าทุกคนมักจะทำตามความต้องการของตนเองเสมอ 
    
    .....ร่ายมายาวเลยค่ะ สุดท้ายก็คงจะบอกได้คำเดียวว่า ขึ้นอยู่กับทรรศนะคติและมุมมองของทั้งคู่ที่คิดจะอยู่ด้วยกัน แต่ทางที่ดีควรจะพูดความจริงเสียก่อนในตอนที่คบกัน เพื่อให้ได้รับการยอมรับและรักอย่างจริงๆ ไม่ใช่ได้ความรักมาจากการโกหกหลอกลวง....สวัสดีนะคะ 11.gif
  • กุ้งหนามแดง

    28 ธันวาคม 2550 10:58 น. - comment id 20051

    คงร้องไห้....
    
    :) ก็มันน่าเสียใจน้อยอยู่เมื่อไร ที่คนรักหลอกลวงเรื่องสำคัญขนาดนี้....

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน