** วิชชุมมาลาฉันท์ ๘**

คนกุลา

วิชชุมมาลา แปลว่า ระเบียบสายฟ้า วิชชุมมาลาฉันท์ จึงหมายถึง "
ฉันท์ที่มีลีลาอย่างสายฟ้าแลบ"
คณะและพยางค์  ในฉันท์บทหนึ่งมี ๔ บาท บาทละ ๒ วรรควรรคละ ๔ 
คำ ๒ วรรคเป็น ๘ คำ จึงเขียน ๘ หลังชื่อวิชชุมมาลาฉันท์
วิชชุมมาลาฉันท์นี้คล้ายกาพย์สุรางคนางค์เพียงแต่เพิ่มวรรคต้นขึ้นอีก ๑ 
วรรคเท่านั้น รวมทั้งบทมี ๔ บาท ๘ วรรค ส่วนกาพย์สุรางคนางค์มีเพียง 
๗ วรรค
สัมผัส สัมผัสบังคับดูได้จากแผนตามเส้นโยงสัมผัส และจากตัวอย่างคำที่
สัมผัสกันใช้วงกลมสีเข้ม 
คำครุ คำลหุ บังคับครุ ล้วนทุกวรรค 
วิชชุมมาลา แปลว่า ระเบียบสายฟ้า หมายถึง ฉันท์ที่มีลีลาอย่างสายฟ้า
แลบ 
คณะและพยางค์ 
ฉันท์บทหนึ่งมี 4 บาท บาทละ 2 วรรค วรรคละ 4 คำ 2 วรรคเป็น 
8 คำ จึงเขียน 8 หลังชื่อวิชชุมมาลาฉันท์ 
วิชชุมมาลาฉันท์นี้คล้ายกาพย์สุรางคนางค์เพียงแต่เพิ่มวรรคต้นขึ้นอีก 1 
วรรคเท่านั้น รวมทั้งบทมี 4 บาท 8 วรรค ส่วนกาพย์สุรางคนางค์มี
เพียง 7 วรรค 
สัมผัส สัมผัสบังคับดูได้จากแผนการแสดงการสัมผัส และจากตัวอย่าง
คำที่ สัมผัสกันใช้เครื่องหมาย (๐)-(๐) และ ((๐))-((๐))
โดยมีรายละเอียดดังนี้ 
สัมผัสภายในบท 
คู่ที่ ๑. คำสุดท้าย ของวรรคที่ หนึ่ง สัมผัสกับคำที่ สอง ของ
             วรรคที่ สอง แทน ด้วย (ค)-(ค)
คู่ที่ ๒. คำสุดท้าย ของวรรคที่ สอง สัมผัสกับคำที่ สุดท้าย ของวรรคที่   
           สาม แทนด้วย ((ค))-((ค))
คู่ที่ ๓. คำสุดท้าย ของวรรคที่ สี่ สัมผัสกับคำที่ สุดท้าย ของวรรคที่ หก  
            แทนด้วย (((ค)))-(((ค)))
คู่ที่ ๔. คำสุดท้าย ของวรรคที่ ห้า สัมผัสกับคำที่ สอง ของวรรคที่ หก    
         แทนด้วย (ค๒)-(ค๒)
คู่ที่ ๓. คำสุดท้าย ของวรรคที่ หก สัมผัสกับคำที่ สุดท้าย ของวรรค
             ที่ เจ็ด แทนด้วย (((ค)))-(((ค)))
สัมผัสระหว่างบท
มีการบังคับ ระหว่าง คำสุดท้ายของบท (วรรคที่ ๘) จะไปสัมผัส
กับ คำสุดท้าย ของวรรคที่ สี่ ของฉันท์ ในบทถัดไป แทนด้วย  
((((ค))))-((((ค))))
คำครุ คำลหุ วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ บังคับใช้คำครุล้วนทุกวรรค 
แทนด้วย ค
แผนผัง   วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ 
  ค ค ค(ค)        ค(ค)ค((ค))
ค ค ค((ค))       ค  ค  ค  (((ค)))
ค ค ค(ค๒)        ค(ค๒)ค(((ค)))
ค ค ค(((ค)))     ค  ค  ค    ((((ค ))))       
  
  ค ค ค ค                           ค ค ค ค
ค ค ค ค                            ค ค ค  ((((ค))))
ค ค ค ค                            ค ค ค ค
ค ค ค ค                            ค ค ค   ค         
      
ตัวอย่าง
           แรมทางกลางเถื่อน        ห่างเพื่อนหาผู้ 
หนึ่งใดนึกดู                             เห็นใครไป่มี 
หลายวันถั่นล่วง                        เมืองหลวงธานี 
นามเวสาลี                               ดุ่มเดาเข้าไป 
            ผูกไมตรีจิต                 เชิงชิดชอบเชื่อง 
กับหมู่ชาวเมือง                         ฉันท์อัชฌาสัย 
เล่าเรื่องเคืองขุ่น                        ว้าวุ่นวายใจ 
จำเป็นมาใน                              ด้าวต่างแดนตน 
            เขาแสนสมเพช            สังเกตอาการ 
แห่งเอกอาจารย์                       ท่าทีทุกข์ทน 
ภายนอกบอกแผล                     แน่แท้ทุพพล
เห็นเหตุสมผล                          ให้พักอาศัย 
............
แหล่งอ้างอิง 
http://guru.sanook.com/enc_photo.php?pic
http://www.kruwallapa.com/unit4/unit40104.html
www.prakan.ac.th/Link-Data/e-learning-51/orapin-3.ppt
http://www.st.ac.th/bhatips/chan_poem.html
...........
คนกุลา (เรียบเรียง)				
comments powered by Disqus
  • ราชิกา

    2 มกราคม 2553 18:01 น. - comment id 26753

    แวะมาหาความรู้เพิ่มเติมค่ะ...ขอบคุณ.ที่มอบสิ่งที่ดีนี้ให้แก่กัน....29.gif36.gif16.gif36.gif
  • สดายุ

    3 มกราคม 2553 17:44 น. - comment id 26767

    ไม่มีบทหวานๆครับ...มีแต่บทการเมือง
    สำหรับ วิชชุมาลาฉันท์
    
    เขียนเป็นไตรภาคี
    
    1256085159.jpg
    
    
    
    
    เพลง....พระอาทิตย์ชิงดวง
    วงกอไผ่
    
    
    
    
    วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
    
    ๐ ความ-คำเพราะคัมภิระประพจน์
    ระบุบทะบาทมี
    เหมือนคอยจะปล่อยทิฐิวิถี
    บทะธีระหนักหนา
    
    ๐ ยั่วแย้งแสดงวุฒิวิภาษ
    ผิวะปราศก็แต่ปรา-
    รมภ์ตนจะป่นอัตะสถา-
    นะสภาวะรูปรอย
    
    ๐ จึงคำเพราะคำระบุระบือ
    ก็กระพือซะเลิศลอย
    เชื่องเชื่อก็เหลือจะผละจะถอย
    จิตะคล้อยบ่อาจขืน
    
    ๐ พากย์ชี้วิถีวัตระประพฤติ
    อัตะยึดก็หยัดยืน
    นำทางระหว่างนิละทะมื่น
    จะลุตื่น ณ ในตน ?
    
    ๐ แว่วเสียงก็เพียง..อุระระรัว
    นิระกลัวจะหลงกล
    แห่ห้อมตะล่อมสัทะระคน
    นยะล้นพิมลหลาย
    
    ๐ สรรสรรพะศัพท์ธิระประดิษฐ์
    ตละคิดก็คมคาย
    ว่อนวางพยางคะอภิปราย
    จิตะคล้ายจะเคลิ้มฝัน
    
    ๐ หวั่นไหวกระไร..สุภะประพจน์
    มธุรสะโรมรัน
    หลักการก็ควานและเสาะกระสัน
    อภินันทนาไทย
    
    ๐ การเมือง ณ เบื้องปุระสยาม
    ขณะทรามละลามนัย
    เสียงสู่ก็รู้มุสะสมัย
    สุตะใด-ประดาเดียว
    
    ๐ เมื่อทราม..ละลามระยะประเทศ
    นยะเลศะกรูเกรียว
    คมคำกระหน่ำ..ฤจะเฉลียว
    ผิวะเขี้ยวจะขบลง
    
    ๐ พรรณนาประดานยะประดุจ-
    บริสุทธิแผ่วง
    ไหนเลยจะเคยจะพิสวง-
    อุปสงคะดั้งเดิม
    
    
    
    อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
    
    ๐ ลมตื่นระผืนน้ำ...........ภพะต่ำก็ตวงเติม-
    คำหวานประสารเสริม.....ฤดิเริ่มก็ปรารมภ์
    
    ๐ โกสุมปทุมา..............ดละภาวะหอมพรม
    ผึ้งภู่ ฤ รู้สม-................มุติห่มจะร้างหาย
    
    ๐ ดอกขาวอะคร้าวรูป....วตะลูบก็รำบาย-
    หอมฟุ้งจรุงหมาย..........ผิวะตายจะยอมตน
    
    ๐ อำนาจและอาชญา.....เสาะสภาวะเพื่อพล-
    อวยเดชวิเศษผล..........จะผละพ้น ฤ แผดเผา ?
    
    ๐ เนานันทะสรรเสริญ....ขณะเพลิน ฤ ผ่อนเพลา
    ยศศักดิ์ฉลักเขลา.........ก็ระเร้าฤดีรมย์
    
    ๐ ขัดแย้งเพราะแย่งยำ-..สัทะธรรมะติดตม
    เคลิ้มขำกะคำคม..........ขณะถ่มเลอะดินแดน
    
    ๐ แบ่งข้างระหว่างข้า.....คุณะค่าก็คลอนแคลน
    จึงอานุภาพแสน-..........ยะจะแม้นจะมอดลง
    
    ๐ อำนาจและอาชญา.....ดละทาสะรูปทรง
    การเลศะเจตมง-...........คละคงจะมีหรือ
    
    ๐ ร่มบุญ..สกุลคน.........ธนะผละร่วมมือ
    เล่ห์ฉันทะบันลือ-..........ก็กระพือกระเพื่อมหาง
    
    ๐ เก่งกาจกระไรคน.......คติวนและว่อนวาง
    เชื่องเชื่อ..ก็เหลือง้าง-..จะเสาะอ้างกะเหตุผล
    
    
    
    วิชชุมมาลาฉันท์ ๘
    
    ๐ อึ้มแอ้มออกเสียง.......นั้นเพียงเพื่อชน
    เหลียวมองจ้องตน........คำรนโวหาร
    ๐ ฟังเถิดฟังคำ.............ลึกล้ำหลักการ
    อักโขโอฬาร................เพื่อบ้านเพื่อเมือง
    
    ๐ รับใช้อำนวย.............ย่อมด้วยศรัทธา
    หลงรักนักหนา.............บอดบ้าเปล่าเปลือง
    ๐ ตอกลิ่มทิ่มแทง.........พวกแดงพวกเหลือง
    อกกรุ่นขุ่นเคือง............เชื่อเชื่องพอกัน
    
    ๐ เป็นไทด้วยชาติ.........เป็นทาสด้วยใจ
    ตื้นเขินเกินไหว-............ทันไขรำพัน
    ๐ เรื่องนึกตรึกตรอง.......บกพร่องเกินฝัน
    แว่วโจษโทษทัณฑ์.......หูหันรอเสียง
    
    ๐ ปรุงแต่งภาพพจน์......งามรสวาที
    ออกสื่อช่วยชี้..............วาดวีสำเนียง
    ๐ นั้นถูกนี้ผิด...............รอพิศรอเพียง-
    ความถ้อยร้อยเรียง.......อยู่เคียงหน้าตน
    
    ๐ จับโยงเรื่องราว.........รู้กล่าวรู้คาด
    เพื่อชนทั้งชาติ.............รู้ภาษรู้พล
    ๐ ตราบน้อมใจนับ........ตอบรับลุกลน
    กี่ครั้งกี่หน..................ทุกหนทุกครั้ง
    
    ๐ คือปราชญ์คอยปราม..ป้องทรามเข้าแทรก
    จำนรรจ์จำแนก............ความแจกให้ฟัง
    ๐ จงร่ำจงเรียน............ถ้อยเธียรเพียรฝัง
    อย่าหยุดอย่ายั้ง...........ตอบตั้งศรัทธา
    
    ๐ เยี่ยงนี้คือชน............พล่ามบ่นรักชาติ
    เยี่ยงนั้นคือทาส...........ปลอดปราศอัตตา
    ๐ เยี่ยงนี้คือไท............ผู้ไร้บัญชา-
    จัดตั้งสั่งหา.................ด้วยค่าของเงิน
    
    ๐ ภาพนั้นดูดี...............แต้มสีแต่งตัว
    จากเท้าจดหัว..............ถ้วนทั่วมองเพลิน
    ๐ ภาพงามเร้ารุม..........ให้อุ้มหยอกเอิน
    อิ่มร่ำจำเริญ................ปานเหินเวหา
    
    ๐ ผ่านหัวผ่านหู............รับรู้รับฟัง
    ลึกล้ำกำลัง.................ฝากฝังปัญญา
    ๐ ผ่านหูผ่านหัว............เร้ารัวศรัทธา
    อาทรอ่อนล้า...............ให้บ้าเข้าเบียน
    
    ๐ ความคำทำว่า...........คิดข้าควรการ
    สามารถสามานย์..........ควรอ่านข้าเขียน
    ๐ ความจูงฝูงชน...........หวังผลต้องเพียร
    ทอทาบภาพเธียร.........วกเวียนตราบวาย
  • คนกุลา

    4 มกราคม 2553 21:19 น. - comment id 26799

    ด้วยความยินดี ครับ คุณตุ้ม หากเห็นว่ามี
    ประโยชน์ จะทะยอยเขียน ออกมา ครับ
    
    แสนคำนึง
    
    36.gif1.gif16.gif36.gif
  • คนกุลา

    4 มกราคม 2553 21:21 น. - comment id 26800

    ขอบคุณ คุณสุดายุ อีกครั้งนะครับ ที่นำเอาฉันท์ ที่เป็นไตรภาคี มาแจม 
    ผมเองคิดว่าจะได้เป็นตัวอย่าง ที่ดี สำหรับผม
    และผู้สนใจท่านอื่นๆต่อไป ครับ 1.gif
  • คนกุลา

    8 กรกฎาคม 2553 10:47 น. - comment id 26868

    สนใจดูตัวอย่างวิชชุมมาลาฉันท์ ๘ เพิ่มเติมได้ที่
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem135688.html
    
    ครับ
    
    36.gif36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน