เล่าเรื่อง ฟังพระเทศน์ ใครคิดเห็นอย่างไร ช่วยกันให้ข้อคิด คำแนะนำแก่กัน

รัมณีย์

วันหนึ่ง.. วันไหนก็ไม่รู้ เกิดลืมซะได้
แต่ว่า วันนั้นได้ไปทำบุญคอนโดของแฟน
นิมนต์พระจากวัดทับทิมแดง คลองสอง ปทุมธานี มารับสังฆทาน
พระท่านก็เทศน์ให้ฟัง จึงนำเนื้อหาเท่าที่จำได้ คร่าว ๆ ดังนี้
1. เทศน์เรื่อง พ่อแม่พออายุมากเข้ายิ่งถ้าไม่ได้ทำอะไรก็จะเหงา สิ่งที่ต้องการคือการดูแลจากลูก  ให้ท่านกิน แก่แล้วก็ไม่ได้กินอะไรมาก ไม่ได้ต้องการอะไรที่เป็นวัตถุ
 สมัยนี้การศึกษาทำให้ลูกห่างพ่อแม่ เรียนจบก็หางานตามที่ร่ำเรียนไปอยู่คนละที่
 มีโอกาสก็ควรจะตอบแทนพ่อแม่
 การตอบแทน ถ้าเลี้ยงดูแต่อาหารที่อยู่ ส่งเงินให้ ก็ไม่ต่างจากเลี้ยงท่านเหมือนเลี้ยงเป็ดไก่ ขังอยู่อย่างนั้น
 ดีขึ้นมาหน่อยคือ ใส่ใจให้ที่ท่านต้องการ เรียกว่าเลี้ยงอย่างเทวดี อยากได้อะไรหาให้หมด ให้ท่านมีความสุขความสบาย
 ดีขึ้นมาอีก ที่ควรจะเป็น คือเลี้ยงดูอย่างพระ คือมีความเคารพ ในท่าน 
 2. คนเราเมื่อแก่ จะหลงลืม การหลงลืมมี 2 แบบ แบบแรก เป็นเพราะใช้สมองน้อย แบบที่สองเพราะใช้สมองมากเกินไป
 พวกฝรั่งคิดมาก ก็จะเป็นแบบที่สอง เป็นอัลไซเมอร์ แต่คนไทยพอเกษียณ บางทีว่างก็ไม่ค่อยทำอะไรก็จะหลงลืม เป็นแบบแรก
 ถ้าจะให้ดีก็ควรพาพ่อแม่ไปวัด ให้ท่านมีกิจกรรมทำ สมองก็ได้ใช้งาน  และใช้ในการบุญการกุศล มีแต่เรื่องดี ๆ 
 3. การทำความดี ขั้นต้น การให้ทาน เป็นความสุขแป๊บเดียว พอสบายใจ แต่ไม่แก้ปัญหาได้
 ขั้นสูงขึ้นมาหน่อย คือการรักษาศีล
 ศีลนี้ ถ้าแปลว่าข้อห้าม แค่ได้ยินก็รู้สึกอึดอัดแล้ว กลายเป็นว่าคนมีศีลเหมือนคนถูกจองจำ
สำหรับคนที่มีเป็นปกติอาจจะไม่รู้สึกเพราะปกติก็อยู่อย่างนี้อยู่แล้ว แต่คนที่มีไม่ครบก็จะอึดอัดในใจ
 ที่ถูกต้อง คำว่าศีลต้องแปลว่า ข้อฝึกตน
 พระพุทธเจ้าไม่เคยห้าม มีแต่สอน สอนว่าอะไรทำแล้วนำสู่ความเจริญ อะไรทำแล้วนำสู่ความเสื่อม
 ที่พูดว่า เวรมณี สิกขา ปทัง สมาทิยามิ ฯลฯ
 ไม่มีคำว่าห้าม มีคำว่า สิกขา
 สิกขา ภาษาสันสกฤต คือ ศึกษา
 คือการฝึกตน
 ดังนั้น คนที่รักษาศีล คือคนที่น้อมรับข้อฝึกตน เหมือนแบบฝึกหัด ยิ่งฝึกบ่อยก็ยิ่งดี
ส่วน การสร้างบารมีสูงสุดคือการเจริญภาวนา
4.  ท่านยังพูดเรื่องการเป็นโสด ดีกว่าการครองเรือน
 เพราะมีเวลาให้กับการดูแลบิดามารดามากกว่า
 ถ้ามีครอบครัวก็ให้เวลากับครอบครัวมาก ที่จะตอบแทนบุญคุณบิดามารดาก็น้อย
 การตอบแทนบุญคุณ ควรพาพ่อแม่เข้าวัด ลูกเองก็เข้าด้วย ฟังธรรม พ่อแม่เห็นลูกเป็นคนดีก็สบายใจวางใจได้
พ่อแม่บางคนห่วงบ้าน ก็ตัดใจไม่ได้ เป็นอันตราย   เพราะคนเราถึงเวลาก็ต้องปล่อยวาง
 ถ้าไม่ปล่อยตอนนี้ พอจะจะตายขึ้นมา จิตยึดติด ห่วงนั่นห่วงนี่  ก็อาจจะทำให้ใจเศร้าหมอง  
บางคนห่วงบ้าน ตายไปก็เกิดเป็นจิ้งจก ตุ๊กแก เฝ้าบ้าน เป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ เป็นผีบ้านผีเรือน
 จึงควรฝึกให้ปล่อยวางได้ตั้งแต่ตอนมีชีวิต ดีกว่ารอให้ถูกบังคับให้ต้องปล่อยวาง 
เท่าที่ทรงจำ และจดมาหลังจากวันนั้น ก็มีเพียงเท่านี้ จึงนำมาให้อ่าน 
พอเป็นที่ประดับความรู้ เพิ่มภูมิธรรม
-------------------------
ท่านใดอ่านแล้ว มีความคิดเห็น หรือข้อธรรมดี ๆ 
ช่วยแนะนำ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ขออนุโมทนาสาธุ กับเพื่อนผู้ยินดีในธรรมทุกคน				
comments powered by Disqus
  • อัลมิตรา

    12 กรกฎาคม 2553 20:14 น. - comment id 31638

    โห่ .. 
    
    วันหนึ่ง.. วันไหนก็ไม่รู้ เกิดลืมซะได้
    แต่ว่า วันนั้นได้ไปทำบุญคอนโดของแฟน
    
    อ่านแค่สองบรรทัดแรก ก็ทำให้เกิดอาการปั่นป่วนใจซะแล้ว
    
    
    ฮ่วยยยยยยยยยยยยยยยยย หลอกให้พาไปขึ้นเขากระโจม 
    มีแฟนแล้วก็ม่ายบอก .... ปล่อยให้ไอ้ก้อยกลัวผีแทบตาย 5555
  • แก้วประภัสสร

    12 กรกฎาคม 2553 20:44 น. - comment id 31642

    เจริญธรรมเจ้าค่ะ..
    46.gif36.gif36.gif36.gif
  • ไร้อันดับ

    12 กรกฎาคม 2553 23:00 น. - comment id 31649

    หนึ่งในมงคลชีวิต
    คือ การสนทนาธรรมตามกาล
     งั้นขอแสดงความเห็นหน่อยครับ
    
    1. เชื่อว่าลูกที่ส่วนใหญ่
    เคารพพ่อแม่  เพราะฉะนั้น
    การเลี้ยงดูพ่อแม่ด้วยความเคารพ
    ไม่ใช่ เรื่องแปลกอย่างไร
    
    2. การให้คนสูงอายุมีกิจกรรม
    ที่ทำร่วมกัน เป็นสิ่งที่ดี
    การเข้าวัดจะทำให้จิตใจสงบร่มเย็น 
    
    3.  ทาน คือ การให้
    ศิล คือ ข้อห้าม
    เป็นธรรมะที่
    มีนัยแห่งธรรมทั้งคู่
    
    ข้อสังเกต
    ศิลจะได้แก่ตัว 
    เป็นเครื่องมือป้องกันตัว
    
    ทานจะได้แก่ผู้อื่น
    เป็นเครื่องมือ
    ให้คนเราอยู่ร่วมกัน
    ได้อย่างมีความสุข
    
    4. เพศสมณะ การถือครองพรมจรรย์
    เป็นเรื่องถูกต้อง
    แต่ใน เพศคฤหัสถ์ การมีครอบครัว
    ไม่ใช่เรื่องผิด  
    แต่ในระหว่างสองเพศ
    ก็สามารถปฏิบัติธรรมได้
    น่าจะอยู่ที่ปัจเจกบุคคลมากกว่า 11.gif
  • ก้าวที่...กล้า

    13 กรกฎาคม 2553 08:54 น. - comment id 31657

    36.gif36.gif36.gif11.gif
  • BRAD PEACE

    13 กรกฎาคม 2553 09:02 น. - comment id 31658

    ศาสนาพุทธเป็นศาตร์ไม่ใช่ศิลป์ดังเช่นศาสนาอื่น
    
    พระพุทธองค์ท่านจึงทรงไตร่ตรองและตรัสรู้ได้
    
    ดังนั้น ฟังพระเทศน์ คงไม่ใช่สาระใหญ่ของประเด็น เพราะ ผิด-ชอบ ชั่ว-ดี ควรหรือไม่ อย่างไร เราสามารถรับรู้และไตร่ตรองได้ด้วยดนเอง ....... จากสติสัมปชัญญะและสติปัญญาที่เรามี
  • กุ้งหนามแดง

    13 กรกฎาคม 2553 09:22 น. - comment id 31663

    ทำดีย่อมได้รับความสุขในการกระทำนั้น ๆ :)
  • เพียงพลิ้ว

    13 กรกฎาคม 2553 10:04 น. - comment id 31665

    เช้าๆได้ฟังพระเทศน์ในทีวีค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ไปวัดเลยค่ะ 
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • เฌอมาลย์

    13 กรกฎาคม 2553 10:26 น. - comment id 31670

    ฟังพระเทศน์เฉพาะวันพระใหญ่ค่ะ 29.gif
  • กิ่งโศก

    13 กรกฎาคม 2553 13:26 น. - comment id 31696

    ที่ทำงานอยู่ใกล้ที่ทำงาน..
    
    
    ช่วงบ่ายๆ ท่านจะเปิด เครื่องเสียง ..ดังลั่นเลย
    
    บางที ก็ บทเทศนา  
    และที่ชวนโหยหวน  อิอิ คือ ธรณีกรรแสง อิอิ
    
    ..ก็ อิ่มบุญไปอีกแบบ
  • กิ่งโศก

    13 กรกฎาคม 2553 14:06 น. - comment id 31703

    แก้ไข พิมพ์ผิด
    
    จะบอกว่า ที่ทำงานอยู่ใกล้ วัด  อิอิ
  • รัมณีย์

    13 กรกฎาคม 2553 22:24 น. - comment id 31747

    สาธุ อนุโมทนากับทุกความเห็นครับ
    
    4.gif6.gif4.gif
  • แจ้นเอง

    13 กรกฎาคม 2553 23:05 น. - comment id 31752

    36.gif
    
    ดีจังค่ะ ไปฟังเทศน์ ไปทำบุญ ได้อะไรมาก็เอามาแบ่งปัน
    
    ได้บุญกุศลอีกต่อหนึ่ง
    
    ใครรักษาศีลได้ หมั่นให้ทาน  ดูแล เลี้ยงดูพ่อ แม่ มีแต่จะเจริญก้าวหน้า
    
    ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆค่ะ
    
    ขอบคุณคอมเม้นท์ที่แบ่งปันด้วย
    
    31.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน