25 มิถุนายน 2554 06:09 น.

นกพิราบกับชาวนา

ป๋อง สหายปุถุชน

ชาวนาหว่านเม็ดข้าวลงสู่นา			
เมื่อสายฝนหล่นพาน้ำหลากไหล			
เร่งไถกลบเม็ดข้าวก่อนแห้งไป			
บนฟ้าไกลพิราบร่อนลงนา			
			
เม็ดข้าวปลูกที่หว่านลงสู่ดิน			
นกหากินเม็ดข้าวคุ้ยเขี่ยหา			
ยามแดดสายบินร่อนโฉบลงมา			
แสงแดดจ้าส่องฉายเร่งไถทำ			
			
ชาวนาเห็นฝูงนกเก็บกินข้าว			
เดินย่ำก้าวไล่นกฝนหล่นพรำ			
จึงมัดฟางเป็นหุ่นใส่เสื้อดำ
ยืนกางแขนร่ายรำอยู่กลางนา

นกบินร่อนโฉบไปไม่กล้าลง
บางตัวคงสงสัยบินเข้าหา
หุ่นยืนเฉยนกเลี่ยงเคียงเข้ามา
ลมพัดพาผ้าสบัดตื่นตกใจ

ถ้าปล่อยไว้ข้าวปลูกคงไม่เหลือ
ยืนปาดเหงื่อโทรมกายที่รินไหล
คว้าปืนยาวลูกร้อยค่อยย่องไป
มือเหนี่ยวไกลตาจ้องด้วยโกรธกริ้ว

ฝูงพิราบเก็บกินเม็ดข้าวปลูก
ไปเผื่อลูกที่รออยู่คงหิว
เสียงปืนปังบินทยานขนหลุดปลิว
บางตัวริ่วแตกตื่นหล่นลงนา
				
7 มีนาคม 2554 01:11 น.

ระหว่างทาง

ป๋อง สหายปุถุชน

ระหว่างทางก้าวย่างบนทางเดิน		
ต้องระเหินจากบ้านสู่จุดหมาย		
หางานทำเลี้ยงตัวลูกผู้ชาย		
นาจมหายปีกลายไม่มีกิน		
		
หมดงานนาเข้าหางานเมืองใหญ่		
ขึ้นรถไฟเข้ากรุงให้ถวิล		
ถึงพ่อแม่พี่น้องจากแผ่นดิน		
ต้องจากถิ่นจากนามาหางาน		
		
ผู้คนมากหลายหลายไม่รู้จักร		
ได้มาพักห้องเช่าริมสะพาน		
คลองน้ำเนายุงกัดให้ทรมาณ		
เมื่อวันวานบ้านนอกอากาศดี		
		
ต้องตื่นนอนตอนเช้าก้าวขึ้นรถ		
ทางเคี้ยวคตรถวิ่งแรงเร็วรี่		
กลิ่นฝุ่นควันน้ำมันเมินหน้าหนี		
มาถึงที่ทำงานพาลหมดแรง		
				
7 มีนาคม 2554 01:02 น.

เพราะผลกรรทำสร้าง

ป๋อง สหายปุถุชน

เพราะผลกรรมทำสร้างครั้งยังเด็ก			
ตอนยังเล็กซุกซนความเดียงสา			
ไม่กลัวบาปกลัวกรรมที่ทำมา			
กรรมนำพาตามทันในทันได			
			
ครั้งยังเด็กจับสัตว์มาทรมาน			
สนุกสนานไม่กลัวบาปทำไป			
เจอจิ้งจกตุ๊กแกฉีดน้ำใส่			
หมาวิ่งไกลจนเหนื่อยงูผูกหาง			
			
ดักหนูนามาได้พริกจิ้มตา			
แสบหนักหนาเอาจุ่มในน้ำพลาง			
หนูดิ้นรนก่อนตายลงกลางทาง			
ดุจเสือสางลิงข้างยังต้องยอม			
			
เมื่อเติบใหญ่เป็นหนุ่มเข้าทำงาน			
ทำมานานร่างกายก็ผ่ายผอม			
โรครุมเล้าเหนื่อยอ่อนดูตรมตรอม			
ต้องถนอมร่างกายไปวันวัน			

เป็นโรคหอบเหนื่อยอ่อนทนนอนหนาว			
มากเรื่องราวป่วยไข้ภัยมหันต์			
ดวงตามืดมัวมากรรมตามทัน			
บ่นรำพันกรรมสร้างครั้งยังเยาว์			
				
7 มีนาคม 2554 00:57 น.

คืนสู่เรือน

ป๋อง สหายปุถุชน

มองออกไปนอกหน้าต่างทางสัญจร 
ทางแรมรอนรถโดยสารมุ่งกลับบ้าน 
ถิ่นที่เราจรจากไกลเพื่อทำงาน 
สุดชื่นบานกลิ่นไอนาหน้าฝนพรำ 

รถแล่นเร็วลมพัดแรงแซงซ้ายขวา 
วิวท้องนามองออกไปหน้าไถดำ 
กล้าเขียวสดลมพัดพริ้วริมขหนำ 
เร่งไถทำกล้าข้าวกำดำลงนา 

มองไปไกลตะวันแดงยามเย็นย่ำ 
จวนพบค่ำนกบินกลับลับทิวหา 
รถแล่นไปไกล้ถึงถิ่นที่จากมา 
พี่น้องพามาต้อนรับกลับคืนเรือน 

ด้วยดีใจก้มลงกราบเท้าพ่อแม่ 
อีกแม่แก่ป้าน้าอาทักทายเพื่อน 
ตื้นตันใจด้วยจากบ้านนานหลายเดือน 
ยังย้ำเตือนกลับถึงบ้านท่านดีใจ 
				
31 มกราคม 2554 06:51 น.

รอยไถแปรทิศทางเปลี่ยน

ป๋อง สหายปุถุชน

ดวงตะวันทอแสงแดงเจิดจ้า		
สู่ท้องนาต้นกล้ายามหน้าหนาว		
บทละครชีวิตบอกเรื่องราว		
ผ่านทุ่งข้าวเล่าเรื่องความเป็นมา		
		
มองออกไปท้องนากล้าสดเขียว		
แตกใบเรียวชูช่อรอฝนฟ้า		
แดดยามสายร้อนแล้งแห้งโรยลา		
เหล่าปูปลาต่างหาที่หลบภัย		
		
นาผืนนี้คนทำมาหลายรุ่น		
ช่วยค้ำจุนข้าวปลาคราสมัย		
ครั้งปูย่าลูกหลานร้อยมาลัย		
จุดเทียนขัยตะเกียงเพียงนำทาง		
		
เปลียนควายไถเดินย่ำมาหลายตัว		
เมื่อแก่มืดตามัวปล่อยละวาง		
ไถไม่ไหวปล่อยนาดูรกล้าง		
ยามฟ้าสางเอี้ยงโคลงยังเฝ้ารอ		

เคียวคันเก่าคันฉายเหน็บติดเสา		
บอกเรื่องราวเก่าก่อนเคยเกิดก่อ		
ให้พากเพียนมุ่งมั่นคงมีพอ		
ปู่ย่าพ่อสร้างทำหลายชั่วคน		
		
มองดูรอยไถแปรทิศทางเปลี่ยน		
คนต่างเวียนเข้ากรุงดูสับสน		
ลืมท้องนาบ้านเราหลงลืมตน		
โลกวกวนผันแปรไปตามกาล		
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป๋อง สหายปุถุชน
Lovings  ป๋อง สหายปุถุชน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป๋อง สหายปุถุชน
Lovings  ป๋อง สหายปุถุชน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟป๋อง สหายปุถุชน
Lovings  ป๋อง สหายปุถุชน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงป๋อง สหายปุถุชน