24 มกราคม 2547 18:58 น.

ผู้ชายก็ร้องไห้เป็น..

พิกุลทอง

ขึ้นชื่อชาย หมายมาด ชาตินักรบ
มิก้มหัว ยอมสยบ แก่ยอดหญิง
หากปักใจ รักแล้ว จะรักจริง
หากเจ้าทิ้ง ร้องไห้ ได้ฉันใด

หากชายหลั่ง น้ำตา จะเสียชื่อ
โลกระบือ ตราหน้า ให้อายได้
แม้นเจ็บปวด เสียใจ สักเท่าใด
ก็มิอาจ ร่ำไห้ เสียน้ำตา

เกียรติศักดิ์ มีไว้ ให้ภูมิภักดิ์
รักษาไว้ ให้ประจักษ์ รักเกศา
คิดดูเถิด หากครวญคร่ำ ร่ำไห้มา
จะรักษา ศักดิ์ไว้ ได้อย่างไร

ทุกข์จะหนัก เพียงใด ไม่เคยหวั่น
ชายนั้นฤา จะพรั่น ก้มหัวให้
สู้ฟันฝ่า แม้ชีพ ต้องวางวาย
ถึงตัวตาย ดีกว่าศักดิ์ ถูกย่ำยี

โอ้อนาถ คลาดคำ เป็นแน่แท้
ด้วยกล่าวคำ ย่ำแย่ แลฉะนี้
หากเมื่อชาย ระกำ ช้ำชีวี
โถคนดี พี่ก็ ร้องไห้เป็น

หากชายนี้ มิใช่ ชาตินักรบ
จึงต้องหลบ มาร้องไห้ มิให้เห็น
เพราะชีวิต ปวดแท้ แม่เนื้อเย็น
เจ้าก่อทุกข์ ลำเค็ญ แสนเย็นชา

ขอร้องไห้ เพื่อลืม ความโศรกเศร้า
ที่ตัวเจ้า ทิ้งไว้ ให้กับข้า
แล้วจะกลับ เป็นนักรบ พบปัญญา
จะเข้มแข็ง ฟันฝ่า ความทุกข์ใจ				
24 มกราคม 2547 12:40 น.

เหงา..

พิกุลทอง

แสนอ้างว้าง ข้างกาย ไร้คนคู่
ไม่เคยรู้ ความเหงา เศร้าแค่ไหน
มันร้าวรวด ปวดจิต คิดอยากตาย
อันเหงาใจ แสนเจ็บ เหน็บทุกครา

ยามแหงนขึ้น มองฟ้า ข้าช้ำจิต
มองเห็นดาว แนบชิด สนิทฟ้า
มันส่องแสง เริงรื่น ชื่นชีวา
หากแต่ข้า ไร้รัก หนักหัวใจ

ยามมองดู คู่รัก น่าอิจฉา
สองกายา จับมือ ถือกันไว้
ข้าก้มมอง สองมือข้า มันน่าอาย
เพราะไม่มี มือใด ให้จับกัน

ยามมองปลา ในน้ำ ช้ำอีกแล้ว
ไม่อาจแคล้ว การเกี้ยว ให้เสียวขวัญ
สองมัจฉา คละเคล้า พัลวัน
เหม่อมองหา ข้างกายนั้น วุ่นวายใจ

เห็นนกแก้ว แว่วเสียง สำเนียงเรียก
เสียงกู่ก้อง ร้องเพรียก สำเหนียกได้
มันร้องว่า ไม่มีแฟน แค้นหัวใจ
แหมมันน่า ฆ่าให้ตาย ร้ายจริงจริง

รอแล้วรอ ยอดยา มาแก้เหงา
ขอเพียงเงา ก็ได้ แม่ยอดหญิง
อย่ามัวรอ ให้ใจท้อ อย่าประวิง
หากรักจริง เชิญสมัคร พรักพร้อมใจ				
20 มกราคม 2547 18:06 น.

แด่ครู... ผู้เมตตา(ควันหลงวันครู)

พิกุลทอง

ประนมกร น้อมเกศา วันทาไหว้
ด้วยดวงใจ แด่ครู ผู้พร่ำสอน
ร้อยวจี ที่แสนหวาน ผ่านบทกลอน
เทิดเกียรติครู ผู้สั่งสอน นิจนิรันดร์

เฝ้าปลูกฝัง ศีลธรรม หนุนนำชาติ
เฝ้าอบรม ให้ฉลาด หมายมาดมั่น
เฝ้าชี้แนะ ด้วยรักแท้ แต่ละวัน
เฝ้าพร่ำบ่น หวังเจ้านั้น เป็นเด็กดี

เรือจ้างน้อย คอยส่ง ให้ศิษย์รัก
จนข้ามฟาก ขวากหนาม ตามวิถี
ไม่เคยบ่น ลำบาก ยากฤดี
ด้วยปรานี เอ็นดูศิษย์ จิตเมตตา

เมื่อสิบหก มกรา มาบรรจบ
ขอน้อมนบ เกศเกล้า คลานเข้าหา
มาลัยกร มอบแด่ครู ผู้กรุณา
ศิษย์ก้มกราบ บาทา คราวันครู				
19 มกราคม 2547 16:09 น.

ภาพแสนหวานแต่กาลก่อน...(ตามคำเรียกร้อง)

พิกุลทอง

อดีตกาล หวานซึ้ง ยังตรึงจิต
มีสองเรา เฝ้าชิด สนิทมั่น
แม้อาทิตย์ หมุนผ่าน นานชั่วกัลป์
หากภาพนั้น ยังฝัง ทุกครั้งคราว

ภาพสองเรา จับมือ คือแก้วเก็จ
งามดั่งเพชร มณีรุ้ง ฟากคุ้งหาว
ผ่านไออุ่น มือสู่ใจ ให้สองเรา
เพียงจับมือ ไม่วอนเว้า ก็เข้าใจ

ภาพป้อนข้าว เมื่อคราว เราหวานชื่น
ข้าวสวยยื่น พร้อมรัก สู่ปากให้
อร่อยล้ำ อร่อยเหลือ เมื่อกินไป
เหมือนดั่งกิน ข้าวทิพย์ไซร้ ก็ไม่ปาน

ภาพสานกว้าง ดวงดาว สกาวฟ้า
แสงจันทรา สวยจัง ดังเล่าขาน
แสงทอทาบ อาบฟ้ามืด ยืดยาวนาน
ฉันไหว้วาน ขอกอด พรอดรักกัน

ภาพอิงแอบ แนบไออุ่น ละมุนจิต
ฉันจุมพิต แก้มนาง อย่างหุนหัน
จึงถูกทุบ ชุดใหญ่ ที่อกกัน
แก้มเจ้านั้น แดงเรื่อ เมื่อเจ้าอาย

อีกหลายภาพ แสนหวาน แต่กาลก่อน
ยังอาวรณ์ ดวงใจ ไม่ห่างหาย
แม้รักเรา คงมั่น มิเสื่อมคลาย
หากไม่วาย คิดความหลัง ยังฝังรอย				
18 มกราคม 2547 11:46 น.

ขอเป็นตัวเลือก..

พิกุลทอง

อัสดง ปลงจิต เฝ้าคิดถึง
เมื่อครั้งหนึ่ง เคยชิด สนิทใกล้
เป็นอดีต แล้วหนอ ท้อหัวใจ
ด้วยมีชาย คนใหม่ เข้าใกล้เธอ

ไม่ต้องถาม ว่าเจ็บปวด รวดร้าวไหม
ตอบด้วยใจ ยังห่วง หวงเสมอ
เจ็บสินะ ครามีชาย มาใกล้เธอ
ก็เพราะรัก เพียงเธอ เสมอมา

เธอไม่ต้อง ลำบากใจ หรอกที่รัก
ฉันตระหนัก ใจคิด จิตห่วงหา
ยอมเป็นหนึ่ง ตัวเลือก ของยอดยา
ไม่อายแม้ ไพร่ฟ้า ประชาชน

ไม่อายหรอก ที่ต้อง เสียเธอไป
ก็รักเธอ ด้วยหัวใจ ไม่คิดผล
ขอเพียงแค่ ให้ฉันรัก เธอสักคน
อลวน เพียงใด ไม่เว้าวอน

รักหาใช่ เครื่องยึดเหนี่ยว เกี่ยวชีวิต
หากรักคือ ความวิจิตร คิดถ่ายถอน
รักด้วยใจ หาใช่ ให้อาวรณ์
ไม่เร่าร้อน เมื่อไม่รัก ปักวิญญา

จึงขอยอม เป็นเพียง ตัวเลือกหนึ่ง
ที่เธออาจ ไม่ซึ้ง ซ้ำหนีหน้า
ได้แค่หวัง สักวัน แม่แก้วตา
จะเห็นค่า ตัวเรา เศร้าฤทัย				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพิกุลทอง
Lovings  พิกุลทอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพิกุลทอง
Lovings  พิกุลทอง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพิกุลทอง
Lovings  พิกุลทอง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพิกุลทอง