22 เมษายน 2548 14:19 น.

ชีวิตอะไรกันนักหนา ?

ภูวดินทร์



ชีวิตอะไรกันนักหนา ?
 


ขอลาที

ลากันที          ความรัก       ที่รักร้าว
ดับดิ้นด้าว     เข้าสู่            ก้นเหวลึก
มันสูญค่า       จริงจริง         ความรู้สึก
ใต้จิตลึก        ดิ่งลง            อเวจีใจ

ลากันที          สำหรับ         คำว่ารัก
สุดจะหัก         ค้นหา          ที่ไหนไหน
มันสิ้นสุด        หมดลง        ดับดิ้นไจ
ค้นหาไหน      คงไม่          ได้เจอะเจอ

ลากันที           ความเศร้า    ที่เร้ารุม
ตรงเข้าสุม       ดวงใจ          ให้เผยอ
กรูกันเข้า        ประดังเข้า     ยังละเมอ
ฝันจนเพ้อ       เฝ้าหลอน     ทุกทุกวัน

ลากันที            ความเจ็บ      ที่เธอให้
ที่เธอใส่           มอบใว้         ให้แก่ฉัน  
เธอได้มอบ      รอยแผล       อันสำคัญ
ให้ร้ายฝัน        ได้มา           จากใครกัน     

ลากันที            ความเหงา     เศร้าวิญญา
ที่เธอหา           มาฝาก          ให้แก่ฉัน
มามอบให้        เพื่อได้          เป็นกำนัล
เป็นของขวัญ    วันเศร้า       เคล้าน้ำตา

ลากันที            ความตรม       ที่ขมขื่น
หมดระรื่น        มีแต่ทุกข์        สุดใฝ่หา
มารุมกัน          มุ่งใส่              ใจฉันนา
ยากจะหา         โชคอย่างฉัน   นั้นไม่มี

ชีวิตนี้              อะไร               กันนักหนา
ที่เกิดมา           ต้องรับ            ภาระนี้
แบกภาระ         หอบภาระ        สะใจดี
ขอลาที              ชีวิตนี้            โชคดีเอย.




วันเศร้า  เหงา  ระทม   รวมกันมาเยี่ยม  มามอบของขวัญให้
ภูวดินทร์
๒๒ เมษ.๒๕๔๘

				
21 เมษายน 2548 16:17 น.

ธรณีกรรแสง

ภูวดินทร์


ธรณีกรรแสง




ทอดสายตา  มองไป  ใจหวิวหวิว
สายลมพริ้ว พัดเอื่อย  ปัดชายผม
พาความเศร้า  เคล้ามา  กับสายลม
ช่างระทม  ตรมใจ  เหงาทวี

มาพลัดพราก   จากคู่   ใจเปล่าเปลี่ยว
อยู่คนเดียว   ใครเหลียว  มองบ้างนี่
อยู่ระกำ   ซ้ำทรวง    ดวงชีวี
ตัวเรานี้    ไร้คู่    อยู่เดียวดาย

ดวงฤทัย    รอนรอน   ถอดถอนจิต
ประนมชิด  สิบนิ้ว    ยกกรไหว้
ก้มลงกราบ  พระธรณี   ทั้งใจกาย
อ้อนวอนไหว้   จงเห็นใจ  แม่ธรณี

อยากจะถาม  แม่ท่าน   เอ็นดูตอบ
ขอนบนอบ   ลูกเศร้า  ไร้คู่นี้
ตรมฤทัย  ซอกซ้ำ  ในชีวี
ตรงไหนที่   มีบ้าง  ลูกผ่านทาง 

ไฉนเล่า  แม่นิ่ง  หัวใจเศร้า
ไฉนเล่า   นิ่งอั้น   มิกล่าวถาง
น้ำดวงเนตร  ไหลพร่าง ไปตามทาง
น้ำค้างต่าง  พรมหยด  หมดเรี่ยวแรง

โอ้รักเรา   ไร้รัก  ถึงเพียงนี้
แม่ธรณี   ยังได้  ให้กรรแสง
ธรณีเศร้า  จึ่งได้  ให้สำแดง
ทุกหนแห่ง  โศกศัลย์  รัญจวนใจ

ธรณีเศร้า  เมื่อลูก  คร่ำครวญเล่า
แม่จึงเฝ้า  ปลอบลูก   ปางร่ำไห้
กำศรวลจิต  ขาดสวาท  อนาถใจ
ให้อาลัย  กัมปนาท  อนาถจริง.




ภูวดินทร์
๒๐ เมษ. ๒๕๔๘

				
21 เมษายน 2548 14:33 น.

ชมนก

ภูวดินทร์



ปิดเทอมนาน ไม่มี  แม้ซัมเมอร์
ใจจึงเผลอ  เที่ยวไป ได้ชมนก
มีหลายพันธุ์ หลายชื่อ เชียววิหค
ทั้งผินผก  นกบ้าง  บินไม่ได้

เชิญเพลินตาม  ชมไป  ถึงหมู่นก
ต่ามป่ารก  อยู่แทรก   ตามแมกไม้  
พันธุ์นานา  กล่าวอ้าง  อยู่มากมาย
บางพันธุ์กลาย   บางนั้น  สูญพันธุ์ไป

ตัวนั่นไง  คอลาย  นกเขาตู้
อยู่คุดคู้   หลบอยู่   ขี้ตกใจ
นั่นนกแซว  ร้องอยู่  ค่าคบไม้
ร้องแซวได้  แค๊วดควิด   จ้องแมลง

นกกระเต็น  ปากแดง  ริมหนองน้ำ
เข้าขย้ำ   จับกิน    ส่ายปากแกว่ง
เฝ้าหากิน  เป็ดน้ำ  เข้ามาแซง
หรือกลัวแย่ง  ปลาเล็ก  หนองน้ำมน

โน่นนกเขา  ขันตู   ร้องคู่รัก
โผมาทัก  คู่รัก  ซ้อนตัวขน
ดูง่วนงัน   ดูไป  คล้ายตัวคน
ที่รักจน   คนเรา  เฝ้าเอียงอาย

นั่นแอ่นฟ้า  บินกล้า  ขาก็แข็ง
โผเหมือนแรง   พือปีก  ขนสยาย
กินแต่แมง  ริ้นยุง   พุ่งโฉบชาย
จับไม่คาย   เร็วไว  ไร้ยุงชุม

นั่นขมิ้น  ขนเหลือง  เรืองชะแล่ม
ไม่ต้องแต้ม  สีขน  ทุกรูขุม
นั่นนกพริก   นกตะวัน  เข้ามารุม
โผเข้าพุ่ม   ไม้ใหญ่  กลางพนา

วงศ์นกน้ำ  โน่นไง   เท้าคล้ายเทียน
เรียกนกเทียน   ชายเลน   โชว์ถลา
นกอัญชัน  คิวขาว  ยาวลงมา
ห้ามไล่ล่า  ป่าทะเล   มีน้อยตัว

นั่นเป็ดน้ำ  ดำผุด  รุดหาเหยื่อ
เพราะต้องเชื่อ  ปากแบน  คล้ายเป็ดนั่น
เจอเมื่อไหร่  ปลาน้อย  หนีไม่ทัน
ต้องดิ้นพลัน   เป็นอาหาร  กลืนลงไป

นั่นตรงนั้น  เค้าแมว  หันมาใกล้
ดูน่าใช่  ตากลม  คมสดใส
นกปู่ทิด  กลางคืน  หากินไกล
ปลากินได้  คุ้ยดิน  กินแมลง      

ขอวอนท่าน  ช่วยรักษ์  รักพันธุ์นก
อย่าได้ตก ผู้วาน  รับซื้อแกง
ได้ราคา   สมค่า   นึกแสนแพง
อีกหน่อยแหล่ง  ชมนก  จะไม่มี

อนุรักษ์   พักดู  เป็นธรรมชาติ
อย่าได้ฆาต  สงสาร   ให้สุขี
นกรักนก  เขารัก  รักชีวี
คนเรานี้   ถึงเรา   ก็กลัวตาย.


เชิญชมนกครับ
ภูวดินทร์
๒๑ เมษ.๒๕๔๘





				
20 เมษายน 2548 21:24 น.

ฝนฟ้าพิโรธรักโกรธจี้ใจ

ภูวดินทร์




ฝนฟ้าพิโรธรักโกรธจี้ใจ




เสียงฟ้าครืนร่ำร้องคะนองฝน
พายุวนพัดมาเสียงอึ่งหมี่
สายฟ้าฟาดดิ่งลงตรงฤดี
ดุจน้องนี้แกล้งใจไม่รักจริง

แรงกระหน่ำช้ำเติมพายุฝน
ปล่อยใจคนทนเศร้าดุจผีสิง
แรกไม่บอกใยหลอกว่ารักจริง
ปล่อยรักสิ่งลวงตาน่าเศร้าใจ

ฟ้าคะนองร่ำร้องรันจวนจิต
ปล่อยชีวิตรักไปไม่สดใส
ดุจฟ้าฟาดเปรี้ยงเปรี้ยงให้ขาดใจ
แล้วเมื่อไหร่รักนี้สงบเย็น

ดังเหตุการณ์ปานฟ้าจะลงโทษ
คงจะโปรดรักนี้ให้ทุกข์เข็ญ
เฝ้าอธิษฐานรักสราญทุกเช้าเย็น
ฝนอย่าเป็นรักพิโรธโกรธจี้ใจ.







ไกล้เดือนหกฝนคงตกจากฟ้าขออย่าพิโรธ
ภูวดินทร์
๒๐ เมษ.๒๕๔๘





				
20 เมษายน 2548 21:21 น.

ใจเธอรวนเร

ภูวดินทร์




ใจเธอรวนเร


ใจเธอรวนเร........เหมือนแปลถูกไกว
ถูกผลักออกไป......แล้วได้หวนมา
หวนมาคราวนี้.......ยังมีทีท่า
จะต้องหวนลา..... ..กลับมากลับไป

ใจเธอรวน เร..........ไม่แน่ไม่นอน
พักนิดคอยหน่อย ...ประเดี๋ยวก็ไป
เช้ามาจึงยุ่ง.............มุ่งคิดจะไป
จึงให้จิตใจ..............สับสนรวนเร

ใจเธอใส่แปล..........แกว่งเห่เรื่อยไป
ร้องเพลงเอื่อยไป.....ใจต้องหักเห
จำต้องร้องเพลง.......ใจเศร้าว้าเหว่
ใจลังเล โอ้..ละเห่.....ลอยไป

ใจเธอรวนเร.......เลนที่.....ไม้ปัก
พอเธอไม่รัก.......หลักปัก.. .เอนไหว
มีคนเขาดี............เธอก็.......ตามไป
ใจเธอหวั่นไหว....ดุจไม้......ซวนเซ

ใจเธอรวนเร........ไม่อยาก..สานใจ
คงปล่อยเธอไป....ให้ไกล.....สุดเวย์
รักนี้มีซ้ำ..............ระคร.......ลำเร่
คงต้องว้าเหว่.......เท่านี้........ก็ตรม.


คนรักไปรักมา ใจรวนเร  ตัดสินใจอะไรไม่ได้  ไม่แน่นอน  ก็อย่างนี้

ภูวดินทร์
๒๐ เมษ.๒๕๔๘


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภูวดินทร์
Lovings  ภูวดินทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภูวดินทร์
Lovings  ภูวดินทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภูวดินทร์
Lovings  ภูวดินทร์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงภูวดินทร์