17 ตุลาคม 2548 15:20 น.

ฉันยังคง "เป็นฉัน" + ฉันรัก ที่เธอ"เป็นเธอ"

ม้าก้านกล้วย

ฉันยังคงเป็นฉันในวันนี้
แม้เวลาวารีจะแปรผัน
แม้บางใจร้ายเหลือไม่เอื้อกัน
แม้ดวงจันทร์มืดดับไม่กลับมา

ฉันยังคงเป็นฉันในวันนี้
เพราะรู้ดีตัวฉันนั้นมีค่า
ฉันยังคงก้าวต่อไม่รอลา
ด้วยหวังว่าความฝันพลันเกิดจริง

ฉันยังคงเป็นฉันในวันนี้
แม้ชีวีอาจมืดมิดปิดบางสิ่ง
แม้จะมีคำด่ามาเตือนติง
ฉันจะนิ่งและสู้อยู่ในใจ

ฉันยังคงเป็นฉันในวันนี้
พร้อมยอมพลีแม้ฝันนั้นมอดไหม้
ฉันจะกอบฝุ่นฝันนั้นด้วยใจ
แล้วหลอมใหม่ให้เกิดฝันนั้นอีกครา

ฉันยังคงเป็นฉันในวันนี้
ทุกเวลานาทียังมีค่า
ใครไม่เห็นว่าเป็นฉันกั้นสายตา
ช่างเค้าซ่ะ..มั่นไว้หัวใจเรา

sodasasa

ก็เพราะรักตัวเธอที่เป็นเธอ
ไม่อาจเผลอปันใจให้ใครอื่น
รักเธอที่คงมั่นทุกวันคืน
ขอแค่ชื่นใจนี้ที่แค่ปอง

ต่อให้โลกสลายไปตรงหน้า
กาลเวลากั้นขวางเราทั้งสอง
ไม่ให้พบเพื่ออยู่เป็นคู่ครอง
ใจยังต้องพิศวาสเป็นทาสเธอ

จันทร์เหมือนไม่เป็นใจให้รู้จัก
แต่จะรักเพียงพธูอยู่เสมอ
แม้หมื่นปีต่อไปไม่ได้เจอ
จะมีเธอตลอดไป ในใจนี้

แสนกาล ล้านเวลา จะพาล่วง
แสนห้วง ล้านคำนึง ถึงนวลพี่
แสนรัก ล้านพะวง ยังคงมี
แสนปื ล้านเดือน มิเคลื่อนคลาย

ไม่หวัง จะช่วงชิง อหิงสา
แม้นมาตร ชาติหน้า  พาสมหมาย
จะพร่ำภาวนานัย ทั้งใจกาย
ขอเกิดใต้ พรหมลิขิต ชีวิตนี้

จะทำบุญ สุนทาน เป็นการใหญ่
ชาติใหนใหน ขอเกิดรวม ร่วมดิถึ
จองเป็นคู่ ชู้ขวัญ แม้พันปี
ต่อแต่นี้ จะรอรัก จากหนึ่งเดียว

ม้าก้านกล้วย				
2 ตุลาคม 2548 17:05 น.

นักโทษ ในห้องขังของสายฝน

ม้าก้านกล้วย

กักขังตัวเองไว้ ในม่านฝน
แต่ปล่อยจิตใจตน ให้ค้นหา
ล่องลอยร้อยพัน อนันตา
แล้วน้ำนัยนา ก็ บ่าริน
ใจลอยกลับล้วงลึกลงอดีต
รอยกรีดแผลกรัง ยังถวิล
คิดเอาเองคิดว่า จะชาชิน
แต่ในจินตนาภาพ ยังอาบช้ำ
ยิ่งเหมือนถูกปิดบังเหมือนขังเดี่ยว
ฝนก็เชี่ยว ลมกรรโชก โลกระส่ำ
ผืนฟ้ามืด ใจก็หม่น เหมือนมนต์ดำ
เข้าครอบงำ ทั้งจิตใจ ไปถึงฟ้า
ทั้งทั้งรู้ว่าใยใจต้องเศร้า
ทั้งที่เขาจากไปไร้ปรารถนา
ทั้งที่อยากร่ำไร ให้กลับมา
หากทว่า ไม่กล้า ไปกว่านี้
จึงจับตัวขังไว้ในห้องเหงา
แล้วปล่อยเจ้าจิตใจ ไปยังที่
ร่องรอยวันหวาน ซ่านฤดี
เก็บไว้จี้ ใจจำ ย้ำใจตน
เป็นนักโทษแห่งความระกำกร้าน
รอประหารใจหายตั้งหลายหน
ให้ตายด้วยความระทกที่วกวน
จมกับหม่น มืดมิด ผิดเพราะรัก 
(ม้าก้านกล้วย)				
28 กันยายน 2548 23:09 น.

ดอมเรย

ม้าก้านกล้วย

ดอมเรย 
ดอมเอย ดอมเรย ไม่เคยเห็น
ลมเย็น รื่นลับ กลับหลอกหลอน
อุกอาจ อื้ออึง ตะบึงตะบอน
หอบก้อน เมฆา มาแต่ไหน 
แดดดับ ลับบัง อยู่หลังฝน
เมฆหม่น มืดมิด ปิดไสว
หล่นลั่น รุกระรัว อยู่ทั่วไป
หลามไหล หลากล้น จนกวาดกลืน
ล้านนา เนืองนอง เป็นท้องน้ำ
คลื่นคล้ำ ขุ่นมัว ทั่วทั้งผืน
ก้อนกลุ่ม เกรี้ยวกราด ก็กวาดกลืน
ยั้งยืน หยุดไว้ มิได้เลย
น้ำหลาก พัดพา น้ำตาร่วง
หอบห้วง มรสุม ลุ่มระเหย
ยกหมู่ เมฆา มาเยาะเย้ย
ไม่เคย ปราณี เจ้าบีฑา
ล้านนา ล้านน้ำ กระหน่ำเนื่อง
ล้านเมือง ล้านกาด หวาดผวา
ล้านคน ล้านชีวิต อนิจจา
ล้านนา ล่มจม กับลมฝน 
แม่พัง ช้างไพร ใยพิโรธ
แม่โกรธ เคืองใด ไร้เหตุผล
ถาโถม แรงลม ถล่มจน
ล้านคน ล้านพ่าย อยู่ใต้น้ำ

(ม้าก้านกล้วย)
(หมายเหตุ ชื่อพายุ ดอมเรย เป็นภาษากัมพูชา แปลว่า ช้างพัง)				
18 กันยายน 2548 18:34 น.

พิษ แห่ง คิดถึง

ม้าก้านกล้วย

ฉันก็เอาฟ้าใสให้แทนเธอ
ยามเมื่อเหม่อเมียงมองเหมือนสองแขน
มาโอบกอดตัวฉันนั้นทดแทน
ความขาดแคลนคู่เคียงเพียงอาวรณ์
ยามใดเห็นขุนเขาเจ้าโดดเด่น
ย่อมจะเห็นเทือกเถาเลาสลอน
ยามใดเห็นมาลาลดาดร
ก็ต้องเห็นภมรมาร่อนรมณ์

ฉันก็เอาน้ำใสแทนใบหน้า
ยามเมื่อลมพัดมาว่าสุขสม
ระลอกริ้วดังรอยยิ้มประพิมพรม
ที่ระดมยิ้มให้เมื่อไกลกัน
เห็นปูปลาสาหร่ายในน้ำหลาก
ก็มายมากล้วนอยู่ เป็นคู่คั่น
แม้นยามน้ำสะท้อนเงาของเจ้าจันทร์
ก็น้ำนั่น กระเพื่อมฟองเป็นสองพราย
ฉันก็เอาเงาแดดที่แผดกล้า
เป็นเหมือนว่าเธอสรวลเมื่อจวนสาย
ประกายงามยามเธอเหลิงระเริงร่าย
คิดถึงแบบ แทบอยากตาย ยามไกลกัน
นกคู่นัน มันออด มันพรอดเพ้อ
ฉันยังเผลอ ว่าเธอคู่ อยู่กับฉัน
นู่นแมงปอ โน่นแมงหวี่ นี่แมงวัน
โอนั่นมัน มาเป็นคู่ ดูน่ารัก

หรือว่าเราบ้ารัก สุดหักใจ 
เห็นอะไร เป็นคู่คลอ เหมือนทอถัก
สองร่างสองใจไว้ด้วยรัก
ฉันจึงหนักใจนึก รู้สึกช้ำ
ไฉนฉัน จึงอยู่ แต่ผู้เดียว
แล้วจะเหลียว หาใครในคืนค่ำ
เหมือนโดนสาบ บาปดล ด้วยมนต์ดำ
ความคิดถึง จึงกระหน่ำ ระกำนัก 

(ม้าก้านกล้วย)				
15 กันยายน 2548 21:21 น.

In the morning

ม้าก้านกล้วย

In the morning 
When the moon is at it's rest
You will see me 
At the time I love the best 
Watching rainbows 
Play on sunlight
Pools of water 
Iced from cold night
In the morning
'Tis the morning of my life

อุษาสาง
ยามเมื่อจันทร์กระจ่างจะหม่นหมอง
เมื่อเรื่อรุ่งรุ้งเคลือบ ด้วยเหลือบทอง
ลมรำเพย  เหมยละออง ละล่องบิน
หากเธอจะมาเพื่อหาฉัน
ณ ตรงนั้น คืนถวัล วันถวิล
ฉันชมชอบ เช้าชื่นตา จนชาชิน
สองชีวิน จะสราญ เมื่อพานพบ

In the daytime 
I will meet you as before
You will find me 
Waiting by the ocean floor
Building castles 
In the shifting sand
In a world 
That no one understands
In the morning
'Tis the morning of my life
'Tis the morning of my life

ทั้งทั่วท่าม วันงาม ยามทิวา
เป็นเวลา สองสหายได้ประสพ
ฉันรั้งรอมั่นหมายเพื่อได้พบ
ณ ตรงรอยบรรจบ น้ำพบทราย
แม้จะไร้ใครเข้าใจในโลกนี้
แม้ไม่มีผู้มาฟังเรื่องทั้งหลาย
ฉันจะพาเธอวาดปราสาททราย
สลักลายอันเสลาเคล้าสราญ

In the morning 
Of my life 
The minutes take so long 
To drift away 
Please be patient 
With your life 
It's only morning 
And you're still to live your day 

หยุดวินาทีหวานให้นานเนิ่น
ให้เพลินเพลิน อรุณหรู ดูสนาน
 ขอแค่แต่ สองเรา อย่าร้าวราน
จงกดกานต์ กลั้นใจ ไว้สักนิด
เพราะทุกเช้าที่ผ่านมาจะผ่านไป
ทางเดินของใจได้ลิขิต
ทุกผู้คนต้องค้นสร้างทางชีวิต
และพิชิต รุกรับ อีกนับนาน

In the evening 
I will fly you to the moon 
To the top right hand corner of 
The ceiling in my room 
Where will stay 
Until the sun shines 
Another day to swing on clothe's lines 
May I be yawning 
'Tis the morning of my life 
'Tis the morning of my life 

สนธยาเยือน
จะเป็นเพื่อนบินวนเพื่อพ้นผ่าน
เยี่ยมเยียนมณีจันทร์อันตระการ
อยู่ ณ ผืนเพดานบ้านของฉัน
แล้วรอจนกว่าทิวาใหม่
จะเหลือบไล่ ค่ำคืน ตื่นจากฝัน
อาทิตย์ ข้ามราวผ้า มาวาดวัน
และ นั่น คือความฝัน ถึงวันเช้า 

In the morning 
In the morning 
In the morning 

















คือเช้าใน จินตนาการ ของฉันเอง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงม้าก้านกล้วย