23 พฤษภาคม 2546 20:28 น.

ฉันรอ . .ฝน

ม้าก้านกล้วย

ฉันเฝ้ารอฝนหลั่งมาพร่างพรู
ฉันรอดูฝนฉ่ำมาพรำพื้น
ฉันเฝ้าปองฟ้าคะนองร้องครืนครืน
ฉันเฝ้าฝืนฝันใฝ่ให้ฝนมา
เพราะคิดถึงรุ้งสวยด้วยหลากสี
เหมือนว่ามีมณีกลัดทัดภูษา
เพราะรักรุ้งเลื่อมล้ำอัมรา
เหมือนผืนฟ้าคราวสันต์นั้นมีมนต์
ประกายงามยามหยาดสาดจากสรวง
แล้วลอยร่วงทอแสงทุกแห่งหน
ละอองเคลือบเหลือบรุ้งรุ่งกมล
เป็นเม็ดฝนเม็ดพลอยทยอยปราย
ฉันเหมือนเป็นเช่นต้นไม้ในนาแล้ง
โหยระแหงหานทีที่ห่างหาย
เห็นใจด้วยหนอฟ้ามาหล่นราย
มาส่งสายฝนชโลมโพยมพรม
คิดว่าเป็นเสียงขอจากกบเขียด
ระเบ็งเบียดเปล่งลั่นกันขรมขรม
ยอมให้คอโป่งพองต้องกักลม
เพราะอยากชมฝนชื่นมารื่นริน
จะขอบคุณล่วงหน้าถ้าหากสม
จะชื่นชมฝนหลั่งดั่งถวิล
จะแหงนรอน้ำฟ้ามาดื่มกิน
จะสูดกลิ่นดินกรุ่นละมุนละมัย
				
22 พฤษภาคม 2546 21:20 น.

ฟุ้งซ่าน

ม้าก้านกล้วย

เมื่อเก็บกักกรังไว้ในวันเหงา
โศกศูนย์เศร้าลงทัณฑ์กีดกั้นขวาง
ซึมระทมตรมระทวยด้วยอ้างว้าง
ใจมันว่างวังเวงเกรงเลื่อนลอย
เก็บกระดาษปากกามากรีดกัด
เกลียดกระหวัดกลัดกดเกินถดถอย
เงียบเหงางมงุ่นง่านพาลสำออย
ปลดแปรปล่อยเปลี่ยนเป็นเช่นซ่านซม
คุยกับท้องฟ้าฟุ้งยุ่งเหยิงยับ
เกณฑ์กำกับว่างเว้นเล่นเล่ห์ล่ม
ประณีตน้อมลำนำเค้นคำคม
ตามอารมณ์ตามปากกาจะพาไป
ลืมรับรู้เวลาว่าคืนวัน
เสพเพียงพรรณวรรณกวีที่หวามไหว
สุขแค่สำนึกนับจับหัวใจ
อดีตใดไล่ลำเลียงเยี่ยงนิยาย
มิมีมิตรไม่มีแม้แค่ชู้เชย
ล่วงละเลยเคยสำคัญพลันสูญหาย
หนึ่งจิตเพ้อพลุ่งพ้นบนหนึ่งกาย
จะง่ายดายเท่าหนึ่งนับกับหนึ่งนึก
บ้างก็อหังการ์ว่าเลิศล้ำ
แต่บ้างต่ำต้อยเตี้ยเสียรู้สึก
บ้างภูมิอกภูมิใจในลึกลึก
บ้างอดสูรู้สึกสำนักอาย
ช่างสับสนจนมิอาจคาดหมายว่า
กูนี่บ้าหรือบรรลุสู่จุดหมาย
บ้างอยากเด่นบ้างอยากดังบ้างอยากตาย
จิตวุ่นวาย จนฟุ้งซ่าน คร้านจะจำ

(ม้าก้านกล้วย)				
18 พฤษภาคม 2546 01:50 น.

ช่อ ชบาไพร

ม้าก้านกล้วย

โอ้แม่ช่อชบาไพรแม่ใบบาง
พุ่มไพรพราง พฤกษ์พง ดงดอกหรู
กระแสลม ไกวกลอก ระลอกพรู
อวดออกอยู่ ยอดก้าน บานไสว
แดงก็แดงเด่นแดงแดงทั้งต้น
เหลืองก็กล่นเหลืองเรืองเหลืองไฉน
ขาวก็ขาวขาวเห็นเด่นกระไร
ชายสไบธิดาไพรวิไลล้ำ
จะเด็ดมาเชยชมให้สมจิต
เกรงว่าคิดล่วงเกินเผินกรายกล้ำ
กลีบดอกออกจะบางนางจะช้ำ
แม้ลูบคลำแผ่วเบาเจ้าก็หมอง
ได้แต่มองปองแต่ใจไขว่แต่ลม
ได้แต่ชมดมแต่ไอใจเรียกร้อง
ได้แต่ปล่อยเจ้าบานเด่นไม่เป็นรอง
ได้แต่ตรองมองแต่ตรมชมแต่ไกล
มิมีสิทธิ์แม้จะเชยเลยรำพึง
ว่าคิดถึงแม่ชบากว่าไหนไหน
ว่าหลงรูปหลงลีลาร่าเริงใจ
ว่าอย่างไรให้พี่เพียงเคียงคู่เธอ
โอ้แม่ช่อชบาไพรแม่ใบปก
ดอกเจ้าดกแดงเจ้าเด่นเห็นเสมอ
งามเจ้าเลิศเลอเจ้าล้นจนพี่เพ้อ
แย้มเผยอเผลอใจพ้อ ช่อชบา

(ม้าก้านกล้วย)				
14 พฤษภาคม 2546 23:16 น.

เรื่ม วันหมอง

ม้าก้านกล้วย

เริ่มวันใหม่ในทิวาวันฟ้าเศร้า
แดดเหงาแหงาอาบอ่อนอ่อนวอนให้ตื่น
ราตรีร้ายคลายมนต์ขลังของกลางคืน
นภาผืนเริ่มเปลี่ยนแปรแผ่สีหมอง
ฟ้าแดงฉานราวฉาบอาบด้วยแค้น
แสบเสียงแสนเหิมเกริมเริ่มแผดก้อง
ขบวนผู้ดิ้นรนบนครรลอง
อัดในกล่องโลหะจะต้องทน
เสียงแม่กาเหว่ากู่อยู่ที่ไหน
เสียงแตรไล่ขรมก้องท้องถนน
เสียงขวักไขว่หดหู่อยู่อึงอล
เสียงสับสนวุ่นวายคล้ายตื่นไฟ
จะสูดดมผกาใดได้อีกเล่า
นาสิกตันควันเขม่าที่เผาไหม้
ท่อไอเสียผสมท่อมอเตอร์ไซด์
ปล่อยทั่งไอให้ทั้งอึก- กะ  ทึกนัก
จะยืนมองตะวันเช้าให้เหงาสร่าง
สิ่งก่อสร้างสูงสุดฟ้ามาโด่งดัก
บดบังสุนทรีรมณ์ระทมทัก
ประสาทหัก กระอักจิต หวิดคลั่งตาย
โลกที่ศิวิไลซ์ . . ใยว้าวุ่น
ชุลมุนไม่ว่างเบาเช้าหรือสาย
ผู้คนคึกคักทะลายทลาย
เช้าหรือสาย บ่ายหรือเย็นไม่เว้นแล้ว

(ม้าก้านกล้วย)				
9 พฤษภาคม 2546 23:16 น.

เมื่อรักเปลี่ยน

ม้าก้านกล้วย

เดินฝ่า ท้าลม โหมประดัง
เท้ายัง หยัดยืน ฝืนลมกล้า
เม็ดฝน สาดใส่ นัยนา
ไหลหลาก พรากมา เมื่อล้าโรย
เกือบซวน เซซุนรุนถลา
ต้านพา ยุกล้า น่าระโหย
ฝนหลั่ง มิยั้ง ยังปรายโปรย
โอดโอย ให้ใคร ไร้ผู้ฟัง
จากมา ลาขาด อนาถรัก
รู้จัก รู้จาก อยากเหลียวหลัง
ทิฐิ ใดหนอ ก่อพลัง
รักพัง หวังพ่าย กลายเป็นลม
แกล้งยืน หยิ่งหยัด ปัดสัมพันธ์
เกรี้ยวกราด หุนหัน วันมิสม
แยกทาง ร้างลา น้ำตาตรม
แกล้งข่ม แข็งขัน สะบั้นรัก
จากคน เคยให้ ใจทั้งดวง
จากสรวง สูงส่ง ลงสู่ปลัก
จากฟ้า ตกตม ระทมรัก
จากตัก อ่อนนิ่ม มาชิมช้ำ
เดินฝ่า ท้าฝน บนทางเปลี่ยว
เดินเดี่ยว รักราญ มาลย์ระส่ำ
เดินท้า ฟ้าฝน หม่นมืดดำ
เดินช้ำ เดียวดาย อยากตายนัก

(ม้าก้านกล้วย)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงม้าก้านกล้วย