11 เมษายน 2550 20:46 น.

ระบาย

ยัยแว่นน้ำเงิน

ผ่านการเรียนมาทั้งวัน  ยิ้มบ้าง เครียดบ้าง  หัวเราะบ้าง  เศร้าบ้าง  มันก็เป็นธรรมดาของชีวิต  มาคราวนี้ข้าพเจ้าก็โยงที่ชีวิตอีกตามเคย  เพราะชีวิตมีเรื่องที่ให้เราหาคำตอบตั้งเยอะตั้งแยะมากบ้าง น้อยบ้าง ก็อยู่ที่ตัวบุคคล  
               ลองจินตนาการให้ตัวเราเป็นรอยขีดๆที่ไม่มีสีสัน  จะทำอย่างไรให้รอยขีดๆมีสีสันขึ้นมา  มีอยู่หลายวิธีเหมือนกัน  สำหรับคนมองแง่มุมหนึ่งที่ดูขัดๆกับความเป็นจริง  แต่ก็เป็นวิถีหนึ่งที่เลือกได้  คือหยิบยางลบมาลบรอยขีดๆออก  แล้ว  ใช้สีเป็นรอยขีดๆนั้นแทน  หรืออีกวิธีคือ  หยิบดินสอสีมาระบายด้วยสีสีนที่สดใส  ตามใจเรา  ไม่ขึ้นอยู่กับ
                 ทำในสิ่งที่เราชอบ  หรือจะชอบในสิ่งที่เราทำ  มันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเราว่า  เราจะเลือกอะไร				
20 เมษายน 2549 12:34 น.

เหตุใดจึงเกิดมาเป็นมนุษย์ (คัดลอก)

ยัยแว่นน้ำเงิน

เหตุใดจึงเกิดมาเป็นมนุษย์   (คัดลอก)
     เพื่อเผยแพร่เป็นความรู้และเป็นข้อคิด แก่ชีวิต
ไม่ได้มีเจตนาใดอันเป็นเครื่องหม่นหมองใจ


จากหนังสือธรรมะของ ดังตฤณ ชื่อเรื่องเสียดายคนตายไม่ได้อ่าน
	เราได้เห็นพระพุทธองค์ทรงตรัสว่าเพราะมีกรรเป็นไร่นะ  จึงมีวิญญาณเป็นพืชตั้งอยู่ได้  ใบบทนี้จึงมองตามจริงว่า  ...
	เพราะมีกรรมดีเก่ารองรับ   วิญญาณมนุษย์เราจึงปรากฏมีอยู่ได้  ร่างมนุษย์จึงต้องเกิดมีเป็นที่อาศัย
	และเพราะต้องมีร่างมนุษย์  โลกมนุษย์จึงต้องประกฎอยู่เป็นภาชนะรองรับ 
	และเพราะต้องมีโลกมนุษย์  มหาจักรวาลทั้งหมดจึงปรากฏออกมาจากความว่าง/

ความเป็นมนุษย์
	บางคนนั่งชมทะเลอย่างเหม่อลอยก็เป็นสุขแล้ว  ไม่ต้องการคิดอะไรเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์อีก
	หลายคนได้เสพกามไปวันๆก็หนำใจพอ  ศักยภาพมนุษย์อย่างอื่นมีอย่างไรบ้างไม่สน
	หลายคนได้รับผิดชอบตนเองและครอบครัวให้อยู่รอดก็เหนื่อยแล้ว  อย่าเข็นให้คิดใช้ความเป็นมนุษย์ในทางอื่นใดเพิ่มเติมเสียให้ยาก
	หลายคนตั้งเป้าหมายและมุ่งมั่นบากบั่นไปจนถึงปลายทางสักครั้งเดียวก็เต็มอิ่มกับความเป็นมนุษย์แล้ว
	หลายคนรักการใฝ่ฝันหลากหลาย  และเต็มใจบินไปคว้าดาวจากหลายขอบฟ้า  เพื่อรู้จักความเป็นมนุษย์อย่างพิสดารสูงสุด
	แต่มีคนน้อยเท่าน้อย  ที่ตั้งคำถามกับตนเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่า  อะไรคือประโยชน์สูงสุดที่สมควรได้จากความเป็นมนุษย์
	ใครจะเห็นความเป็นมนุษย์อย่างไร  ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจอใครกันมาบ้าง  ประสบพบพานอะไรกันมาบ้าง  และใช้ชีวิตอย่างไรมาบ้าง
	แค่เพียงถือกำเนิดขึ้นในโลกนี้เป็นวันแรก  ก็เหมือนพวกเราเกิดความไม่ค่อยชอบใจกันแล้ว  โดยประกาศผ่านการร้องไห้จ้าทันทีที่ออกจากท้องแม่  ถ้าไม่ร้องก็จะโดนตีให้ร้องเป็นการบริหารปิดกน  นอกกจากนั้นยังมีใครบางคนต้องรับภาระแจ้งเกิดของเราให้เป็นที่รับรู้  อยู่ๆจะยอมให้มาประกฎตัวบนโลกเฉยๆไม่ได้  สำหรับในไทย  กำหนดว่าอย่างช้า  ๑๕ วันนับแต่ถือกำเนิด  เกินกว่านี้ต้องมีใครสักคนโดนปรับเป็นพัน
	และนับนาทีที่ถูกแจ้งเกิด  เราจะมีเอกลักษณ์ประจำตัวให้สำคัญว่าเป็นตนคือชื่อพร้อมนามสกุล  เราจะไม่รู้เลยว่าชื่อไปซ้ำกับใครเข้าบ้าง  รวมทั้งไม่รู้เลยว่าร่วมใช้นามสกุลกับญาติกี่คน  รู้อย่างเดียวหลายคนไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเพียงร่วมนามสกุลกับใครบางคน  ก็อาจมีหน้ามีตาไปทั้งชีวิต  หรืออาจต้องอยู่แบบหลบๆซ่อน  ไม่อาจเป็นปกติสุขในสังคมได้อย่างคนอื่น
	แต่แม้ขั้นตอนอันผิวเผินของการเกิดจะยุ่งยากเช่นนี้  จำนวนมนุษย์ที่มากมายน่าลายตามีส่วนทำให้เราไม่เลื่อมใสว่าการเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากสักเท่าไหร่  เหมือนใครๆก็มีชีวิตมนุษย์กันได้  แถมการเปลี่ยนแปลงของประชากรโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆดุจการโถมเข้ามาของคลื่นยักษ์เป็นการยืนยันเสียด้วย  เมือสี่ร้อยปีก่อนจำนวนพลโลกเพิ่งมีแค่  ๔๐๐  ล้าน  แต่ในปี  ๒๕๐๔  พุ่งพรวดขึ้นเป็น  ๓,๐๐๐  ล้าน  และในเดือนกรกฎาคม  ๒๕๔๖  โลกมีประชากรทั้งสิ้นประมาณ  ๖,๓๐๐  ล้านคน  เกือบ  ๑๖  เท่าของเมื่อสี่ร้อยปีก่อน *  มากพอที่เรามองไปตามแหล่งชุมชนด้วยตาเปล่าแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองร่วมเป็นหนึ่งของขบวนมดปลวกบนเส้นทางอันไร้ความหมาย
	และแม้เรายอมเชื่อว่าโลกมีมนุษย์กว่าหกพันล้านคน  ก็ไม่ไดแปลว่าเราเข้าใจถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์  ความจริงคือทุกวินาทีมีการเกิดตายถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา  พูดง่ายๆคือ  สมมุติว่าเราสามารถเป็นดวงตาสวรรค์  รู้ครอบโลกในคราวเดียว  เราจะเห็นวิญญาณจำนวนหนึ่งมาสู่โลกและได้ร่างมนุษย์แหกปากร้องอุแว้วินาทีละ  ๔  คน  และเห็นมนุษย์จำนวนหนึ่งเดินทางลาโลกวินาทีละ  ๒ คน  ดุจฝนที่ตกลงมาจากเวิ้งฟ้าแห่งความว่างเปล่า  และเป็นกระแสธารไหลบ่าออกสู่มหาสมุทรแห่งความไร้แก่นสาร  ปริมาณไม่เคยคงที่มีสมาชิกเก่าอยู่พร้อมหน้าเลยแม้แต่วินาทีเดียว/
	มนุษย์ทุกคนต้องการเป็นที่จดจำ  แต่มีไม่ถึงหนึ่งในล้านที่ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์  อาจยาวนานหลายสิบปี  หลายร้อยปี  หรือหลายพันปี  แล้วนี่สุดก็จะต้องถูกลืมเลือนไปจนได้  แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นหนึ่งใสศาสดาของศาสนาใหญ่ก็เคยทรงตรัสพยากรณ์ถึงยุคของสงฆ์รุ่นสุดท้ายที่เรียก  โคตรภูสงฆ์ ซึ่งพ้นยุคนั้นไปแล้วจะไม่มีใครท่องจำธรรมบทได้อีก และนั่นหมายความว่าจะไม่มีใครรู้เลยว่าครั้งหนึ่งโลกนี้เคยเป็นที่อุบัติของมหาบุรุษผู้ทรงความสำคัญยิ่งยวดต่อมนุษย์และเทวดาอินทร์พรหมยักษ์นับจำนวนไม่ถ้วน
	จะพูดว่าพวกเราเกิดมาเพื่อรู้แล้วลืมก็ได้
	จะพูดว่าพวกเราเกิดมาเพื่อถูกลืมก็ได้

	แก่นสารและคุณค่าของความเป็นมนุษย์อยู่ที่ไหน  *  นี่คือสิ่งที่ถูกถามมาตลอด  แต่ละคนก็ให้ความหมาย  ให้คุณค่ากันไปตามมุมมองของตน  แท้จริงเราอาจได้คำตอบอันถูกต้อง  หากตั้งคำถามเสียใหม่ให้ตรงประเด็นกว่าเดิม  นั่นคือเราเกิดมาเป็นมนุษย์ได้ด้วยเหตุใดกัน

หน้า  31-34  เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน				
8 เมษายน 2549 22:54 น.

เกิดมาเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร (คัดลอก)

ยัยแว่นน้ำเงิน

เพื่อเผยแพร่เป็นความรู้และเป็นข้อคิด แก่ชีวิต
ไม่ได้มีเจตนาใดอันเป็นเครื่องหม่นหมองใจ

          บางคนใช้ชีวิตกว่าครึ่งชีวิต  หมกมุ่นอยู่กับคำถามซ้ำๆ  เช่น  ทำไมเกิดมาพ่อแม่ฐานะความเป็นอยู่อัตคัดขัดสน  ทำไมต้องเกิดมาเป็นหญิงเสียเปรียบเขาอยู่ร่ำไป  ทำไมรูปไม่งามแถมนามยังตลก  ไม่มีอะไรเป็นที่เชิดหน้าชูตาสักอย่าง

          หรือบางคนแม้เหมือนมีพร้อมทั้งสมบัติ  รูปสมบัติ  และคุณสมบัติ  ก็ต้องทรมานใจกับข้อบกพร่องเล็กใหญ่ในชีวิต  เช่นฐานะร่ำรวยแต่เต็มไปด้วยฐานะหนักอก  เป็นชายแต่ใจแอบเป็นหญิงสวยหล่อแต่ตัวเตี้ยขาสั้นเต่อ  เรียกว่าเจอปัญหารบกวนจิตใจเดิมๆได้ตลอด  มองคนอื่นรอบตัวเขาไม่เห็นต้องทนทุกข์ทรมานกับปัญหาเช่นตนกันเลย

         หากเคยน้องใจกับชะตากรรมของตนเองมาก่อน   คนที่คงโดนเรากล่าวโทษมากที่สุดเห็นจะได้แก้บุพการีผู้ให้เฃกำเนิด  ให้เราเกิดมาแล้วไม่รู้จักเลี้ยงให้ได้ดีมีความสุขสมบูรณ์อย่างลูกคนอื่น  อันดับต่อมาน่าจะได้แก่เทวดาฟ้าดิน  อุตส่าห์ทำดีเหตุใดจึงไม่แลเห็นและตกรางวัลแก่เรามากๆ

         และแม้คนไทยบางส่วนถูกสอนมาถูกทาง  คือให้หมั่นท่องติดปากว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้  "มันเป็นกรรมเก่าของเราเอง"  แต่ก็มักเป็นการท่องแบบนกแก้วนกขุนทอง  เอาไว้ปลอบใจตนเอง  มากเสียกว่าที่จะตระหนักว่านั่นเป็นความรู้อันควรลงให้ลึกและเข้าใจลึกซึ้ง  จำแนกละเอียดเป็นเรื่องๆว่าที่กำลังเป็นอยู่  ที่กำลังพอใจหรือไม่พอใจมาจากการกระทำแบบไหน  เพื่อความรู้แจ้ง  เพื่อความสังวรระวังและเพื่อความเร่งรัดให้ตนพัฒนาต่อๆไป  ทั้งในด้านที่ดีอยู่แล้วและในด้านที่ยังบกพร่องอยู่

         พระพุทธองค์ตรัส  คือสัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตัวเอง  มีตนเป็นทายาทแห่งกรรม  มีกรรมเป็นกำเนิด  มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์  มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย  กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้

         ผู้ที่เชื่อความจริงนี้ย่อมเลิกเรียกร้องสิ่งใดจากผู้อื่น  แล้วหันมาเรียกร้องเอาสิ่งที่ตนปรารถนาจากปัจจุบันกรรมของตัวเอง  และต่อไปหากน้อยใจชะตาหรือสภาพความเป็นอยู่ต่างๆ  ก็คงน้อยใจตนเองในอดีต  ไม่น้อยใจ  "ผิดตัว"    อย่างที่แล้วๆมา  กับทั้งตระหนักในสิ่งที่ควรตระหนัก  เช่นโดยธรรมชาตแล้วเราควรกราบกรานแทบเท้าขอบพระคุณพ่อแม่  ไม่ว่าท่านจะเลี้บงดูเรามาอย่างไร  หรือแม้กระทั่งกระทำต่อเราเช่นไรก็ตาม  เหตผลหลักคือ  พวกท่านเป็นประตูนำเราเข้าสู่เส้นทางมนุษย์  อันเป็นที่สุดแห่งศักยภาพการพัฒนาตนเองรวมทั้งตระหนักว่าเทวดานางฟ้าท่านเคยทำดีมาสมควรไปเสวยสวรรค์เพื่ออยู่เล่นเป็นสุข  ไม่ใช่ต้องมาคอยสอดส่องมนุษย์ตั้งเกือบหมื่นล้านคนบนโลกทุกวัน  หากรางวัลแห่งการทำความดีต้องขึ้นสวรรคไปคอยสอดส่องดูแลมนุษย์ราวกับเป็นขี้ข้าสิ่งมีชีวิตในภูมิต่ำกว่าไปทั้งชาติ  ซึ่งอย่างนี้อย่าทำความดีหวังสวรรค์กันเลยดีกว่า  เอาแค่ครึ่งๆกลางๆพอได้กลับมาเป็นมนุษย์อีกที  แล้วงอมืองอเท้ารอรับความช่วยเหลือจากเบื้องบนเป็นพอ

       พระพุทธเจ้าตรัสว่า  ผู้สามารถมีตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนั้น  นับได้ว่าได้ที่พึ่งอันหายาก  และในแง่ของการเป็นที่พึ่งแห่งตนระยะยาว  ก็ควรต้องรู้จักกรรมฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว    รู้ว่ากรรมอันใดดีจะได้ทำให้มากเพื่อเป็นเรือใหญ่อาศัยแล่นไปในมหาสมุทรแห่งภพภูมิรวมทั้งรู้ว่ากรรมอันใดชั่วจะได้หลีกเลี่ยงให้ห่างเพื่อไม้ต้องโดนมันโยนลงน้ำไปลอยคอลำบากลำบน				
8 เมษายน 2549 22:15 น.

เกิดมาเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร

ยัยแว่นน้ำเงิน

คัดลองเพื่อให้เป็นธรรมทานเผยแพร่ความรู้แก่ชีวิต
 ด้วยใจจริง ไม่มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง
ขอให้ผู้อ่านได้พิจารณาอย่างดี				
26 มีนาคม 2549 12:07 น.

เมื่อคุณ...

ยัยแว่นน้ำเงิน

ครั้งแรกเมื่อคุณเจอใครสักคนที่อยากจะคุยด้วย คุณจะกล้าที่จะเข้าไปคุยหรือไม่

ในใจคุณคิดอย่างไรล่ะ

เอ..... เราเป็นแค่คนแปลกหน้า เขาจะคุยด้วยหรอ
บี......  ก็แล้วแต่คุณนะ


แล้วเมื่อคุณปิ๊งใครสักคน คุณจะรู้สึกอย่างไรล่ะ 

อยากรู้จัง  บอกได้ป่ะ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟยัยแว่นน้ำเงิน
Lovings  ยัยแว่นน้ำเงิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟยัยแว่นน้ำเงิน
Lovings  ยัยแว่นน้ำเงิน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟยัยแว่นน้ำเงิน
Lovings  ยัยแว่นน้ำเงิน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงยัยแว่นน้ำเงิน