12 กันยายน 2547 10:23 น.

กาสะลอง

ละอองทราย

"กาสะลอง"  คือ ดอกไม้ประจำคณะของพวกเรา  
                    

           กาสะลองแสนงามยามสดใส       เป็นดอกไม้สำหรับประดับฝัน
บนเส้นทางต่างมาพร้อมหน้ากัน            ร่วมผูกพันสรรสร้างทางรื่นรมย์

                         ใช่แล้ว......เราทุกคนต่างมาจากคนละที่ 
        แต่สุดท้ายเราก็ได้มาอยู่ร่วมกัน  รวมกันเป็นกาสะลองช่อใหญ่ 
                     เพื่อ....................ร่วมกันสรรสร้างสิ่งที่ดีงาม

           กลิ่นไม้หอมจะหอมมิยอมสิ้น      หากใครยินชื่อลือไกลให้ชื่นชม
ด้วยความรักจากใจนี้แสนภิรมย์           ความเกลียวกลมสามัคคีมิเคลื่อนคลาย
           เพลงน้องพี่จะกังวานอยู่นานนัก ทุกคนจะประจักษ์ถึงศักดิ์ศรี
เรามารวมน้ำใจและไมตรี                   ให้เรามีความรักกันนิรันดร

       " กาสะลองล่องลอย ปลิดพลิ้วไปตามลม ให้ลมพาพัดไป ไกล....จากบ้าน"

  และก็ช่างบังเอิญจริงๆที่ชีวิตของฉันและใครอีกหลายๆคนมาตรงกับเพลงนี้

                 พวกเรามีโอกาสได้ร้องเพลงนี้กันมาแล้วหลายครั้ง  

แต่ครั้งล่าสุดกลับเป็นครั้งที่ทำให้พวกเราเสียน้ำตากันเกือบทุกคน  

คงเป็นเพราะเหตุผลข้อนี้ข้อเดียวคือ ........     เราทุกคน ...... คิดถึงบ้าน

                                   คิดถึงอ้อมอกของพ่อ-แม่   

                  อะไร .....ทำให้ฉันมาได้มาอยู่ถึงที่ที่ไกลบ้านขนาดนี้   
          ก็คงจะตอบได้แค่เพียงว่า  มันคือ ความตั้งใจของ.....ฉันเอง 
   และฉันก็ไม่เคยคิดจะโทษใคร  นอกจากบอกกับตัวเองว่า" ทำให้ดีที่สุด"

"อีกไม่นานหรอก.......ลมก็จะพัดพาพวกเรากลับคืนสู่ในที่ๆจากมา  เพียงแต่ว่าเมื่อถึงวันนั้น เราจะกลับไปอย่างภาคภูมิใจเท่านั้นเอง"				
2 กันยายน 2547 09:35 น.

เช้านี้

ละอองทราย

ตื่นแต่เช้า ดูเหมือนว่าอากาสจะสดใส อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จเลยเดินไปกินข้าวที่โรงอาหารตรงข้ามกับหอ ไปถึงก็ซื้อข้าวกิน ซักพักเริ่มได้ยินเสียงสวดมนต์ รู้สึกผิดขึ้นมาทันที เพราะลืมไปว่าทุกวันพฤหัสจะมีการตักบาตรกันที่ชั้นบนของโรงอาหารนี้ ไม่ค่อยกล้ากินข้าวเท่าไหร่ เพราะคนอื่นเค้ายังทำบุญสวดมนต์ไหว้พระกันอยู่ แต่ก็ต้องกินอยู่ดีเพราะซื้อมาแล้ว กินไปได้ซักพัก เห็นยายแก่ๆคนนึง เดินมาตรงที่วางจานและแก้วน้ำ ยายคนนั้นกำลังเก็บอาหารเก่าๆที่คนอื่นกินเหลือเอาไปกิน เริ่มกินข้าวไม่ลงอีก1รอบ ไม่ใช่เพราะรังเกียจอะไร แต่กลับรู้สึกหดหู่ที่ได้เห็นภาพแบบนี้ กลับไปนึกถึง ย่ากับยายที่อยู่ที่บ้าน ที่มีลูกหลานห้อมล้อมคอยดูแลเอาใจใส่ ทำไมยายคนนี้ถึงไม่มีโอกาสแบบนี้บ้าง บางคนกินทิ้งกินขว้าง แต่บางคนกลับไม่มีอะไรจะกิน กินไปได้ซักพักก็รู้สึกอิ่ม มองภาพของยายคนนั้นไปรื่อยๆ จากที่เก็บจานที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง จากนั้นจึง เดินเอาจานเข้าไปเก็บ สวนกับยายพอดี เลยหยิบเงินออกมาให้ยาย 20 บาท แล้วบอกยายว่า "ยายเอาไปซื้อข้าว กินนะ" ยายยกมือไหว้ใหญ่ เงิน 20 บาทแม้จะดูน้อยนิดสำหรับใครหลายๆคน แต่มันกลับดูยิ่งใหญ่สำหรับใครบางคน 
            เพียงแค่ช่วงเช้าของวันที่แสนธรรมดาวันหนึ่งกลับมีความหมายกับเรามากมาย อย่างน้อยวันนี้ฉันก็ได้ทำความดี แม้จะเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กน้อย แต่ก็ทำให้รู้ว่า เรายังมีค่าสำหรับการคงอยู่ แม้เพียงสำหรับใครบางคนที่ไม่มีใครมองเห็น				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละอองทราย
Lovings  ละอองทราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละอองทราย
Lovings  ละอองทราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละอองทราย
Lovings  ละอองทราย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงละอองทราย