9 ธันวาคม 2546 08:32 น.

+++ นักแสดง เวทีชีวิต +++

วฤก



๏ หลืบเวทีสีแดงพรางแสงหม่น
ละครคนคอยบังหลังม่านแฝง
รอลีลาศนาฏกรรมตนจำแลง
เขาแสดงดังบทกำหนดมา
ตัวเอกออกนอกม่านคนพาลข่ม
ตัวร้ายสมเสียจริตใจมิจฉา
ตัวตลกหกประเด็นเล่นโปกฮา
ตัวครูบาเบิกอิทธิฤทธิ์มนต์
พื้นเวทีชีวิตไม่ปิดม่าน
วันคืนผ่านเพื่อแสดงทุกแห่งหน
โลดลีลาศนาฏกรรมจำแลงตน
ไปตามกลเหตุการณ์ที่ผ่านกลาย
เป็นคนดีมีจิตพิสิฐสุทธ์
เป็นชั่วฉุดโฉดมัวเกลือกกลั้วหมาย
ไม่ตลกผกผันจนวันตาย
ขาดครูฉายชี้ทางให้ย่างจร
จึงสับสนค้นหามรรคาจับ
จนชีพลับไร้ค่าอุทาหรณ์
คนใกล้เกลือกินด่างห่างบวร
ยินคำสอนพุทธศาสตร์ยังพลาดฟัง ๚ะ๛

๘ ธันวาคม ๒๕๔๖				
8 ธันวาคม 2546 16:01 น.

+++ เขียนโคลงจรรโลงศิลป์ ตราบดินไม่สิ้นสูญ +++

วฤก

๏ เขียน.....สารขานศัพท์ซ้อง...............เสียงผสม
โคลง.........แต่งตามนิยม......................นิยตอ้าง
จรรโลง.....จิตเริงรมย์...........................รื่นเสพ
ศิลป์..........เสกวรรณศิลป์สร้าง............สืบไว้ให้สนาน ฯ

๏ ตราบ....นานกานท์กอปรแล้ว...........เลอรส
ดิน...........สดับสดกพจน์.....................พากย์พร้อม
ไม่สิ้น......โสตเสพบท.........................บรรณสร่าง
สูญ.........ศัพท์จากใจน้อม...................สนิทซึ้งเสน่ห์เสียง  ๚ะ๛

๘ ธันวาคม ๒๕๔๖				
8 ธันวาคม 2546 13:23 น.

+++ บทชีวิต +++

วฤก


๏ จากความว่างสร้างพยนต์เสกมนต์เป่า
เป็นรูปเค้าร่างความแต่งตามฝัน
เขียนนิทานสานเรื่องสืบเนื่องบรรณ
นักประพันธ์พากย์ศัพท์ให้รับชม
มีเรื่องรักหักเหด้วยเล่ห์พิษ
เรื่องชีวิตเวทนาน่าขื่นขม
ความขัดแย้งแย่งทรัพย์เหยียบทับจม
อภิรมย์ราคะผัสสะกาม 
เมื่อรับสารอ่านพจน์รู้รสเรื่อง
เริงบรรเทืองถึงใจฤๅใคร่ถาม
ตัวละครย้อนยอกยังบอกความ
นัยนิยามยกอย่างดูต่างตน
ว่าชีวิตผิดแผกรึแปลกบท
กรรมกำหนดแน่นับมิสับสน
ในความว่างวางไว้ใส่พยนต์
ชีวิตคนเขาวาดบทบาทเอง ๚ะ

๖ ธันวาคม ๒๕๔๖				
8 ธันวาคม 2546 09:06 น.

+++ บรรโลม +++

วฤก

๏ ประโลมโฉมเชยชื่นเคล้า...........เคียงเขนย 
นอนแอบแนบนวลเกย..................ก่ายน้อง 
เนื้อทองผ่องพรรณเผย.................เพียงผ่อง......เพ็ญแม่ 
ระเมียรยิ่งยวนอยากต้อง...............แตะเนื้อเนียนผิว ฯ 

๏ พลิ้วพระพายผะผ่าวไล้...............ประโลมพรรณ 
เพียงแผ่วแผ่แพรควัน...................คลี่คุ้ม 
ลมสงวนนิ่มนวลวรรณ...................วางหัตถ์ 
ฤๅทัดเทียมพี่อุ้ม...........................โอบน้องประคองขวัญ ฯ 

๏ บรรทมบรรทับเบื้อง..................บรรจถรณ์ 
บรรสบบรรสานนอน.....................แนบเนื้อ 
กระสันกระเส่าวอน......................วากย์ศัพท์ 
วาบพยับโพยมเอื้อ.......................ชอุ่มน้ำสนองสนาน ฯ 

๏ นานไฉนไม่เสื่อมร้าง.................ลืมรส 
เรียมสู่ชู้ฤๅอด..............................อกอั้น 
บรรโลมบอกโฉมพจน์..................พี่เอ่ย 
เชยเสน่ห์สนิทนั้น.........................นั่นไร้ใครเสมือน ๚ะ๛ 

๖ ธันวาคม ๒๕๔๖				
4 ธันวาคม 2546 12:07 น.

+++ ตะวันดับที่โนนแดง +++

วฤก

๏ แรแสงแดงส่องย้อม..............โพยมโฉม
ฉาบแผ่นสุพรรณโลม...............ระเรื่อฟ้า
สยายไอม่านไหมโขม...............ขาวหม่น
หมอกขุ่นไขไอคว้า...................คลี่คลุ้มกุมไถง ฯ

๏ คราคระไลในค่ำคล้ำ.............คลุมควัน
เรียมคร่ำครวญโศกศัลย์...........สั่งถ้อย
ถึงสรวงพี่หวงขวัญ...................เคียงสู่
คราวห่างฤๅจางน้อย.................หน่ายน้องปองถนอม ฯ

๏ พวงพะยอมเพียงอย่าร้าง........ลืมสวาท
สวรรค์สั่งเซซังคลาด................คู่ชู้
เฉกสูรย์ใช่สูญผาด..................ผันผ่าน
พบใหม่ไขแสงกู้.....................ก่องฟ้าคราอรุณ ฯ

๏ ลมละมุนเหมือนพี่ไล้............ประโลมนอน
กายก่ายกายสมร....................มิ่งละม้าย
สนธยาพร่าสูรย์จร...................จมจ่อม
ใจจ่อมใจฤๅผ้าย.....................พ่านแพ้แอไถง ๚ะ๛

๓ ธันวาคม ๒๕๔๖				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวฤก
Lovings  วฤก เลิฟ 1 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวฤก