7 กันยายน 2554 16:52 น.

เพชรในตรม

สุนทรวิทย์

บัวเลิศ  เกิดแต่ตม			
   ชนนิยม  ชมว่าเด่น
			รากฝัง  หยั่งโคลนเลน				
   ดอกโอนเอน  เห็นงดงาม
			
         	เหง้าผลิ  ปริต่ำใต้			
   โผล่วิไล  ไหวอร่าม
			กลีบแย้ม  แซมม่วง,คราม			
   อภิราม  ยามต้องลม
			
          	ประดุจ  มนุษย์นี้		
 	ใช่พอดี  ที่ปฐม
			แรกแม้  แย่ทุกข์ตรม			
  	อาจสุขสม  อุดมปลาย
		
         		อย่าซ้ำ  ผู้ต่ำต้อย		
  	หมิ่นจุดด้อย  คอยขยาย
			อวชาติ  อาจกลับกลาย			
  	แผกเชื้อสาย  เป็นนายคน
		
         		วิญญู  ผู้แน่นหนัก	
 		ย่อมประจักษ์  หลักเหตุผล
			ทำใจ  ให้ผ่อนปรน			
  	มิโจษจน  เพียงยลยิน

		      		โกมล  ชูพ้นน้ำ			
  	ดูแล้วจำ  นำถวิล
			ย้อนเปรียบ  เทียบชีวิน	
			ก่อนตัดสิน  ติฉินใคร				
7 กันยายน 2554 16:44 น.

อ่อนหัด

สุนทรวิทย์

เธอคือ  กุลสตรี  ผู้ดีพร้อม
				น่าถนอม  ต้องตา  กว่าหญิงไหน
				ดุจมณี  ศรีสรวง  ดวงอำไพ
				งามไฉไล  เกินจะ  พรรณนา
					
          ใคร่กล่าวย้ำ  คำรัก  สักล้านครั้ง
				ปากสิยัง  เขินอาย  ไร้เดียงสา
				เอาแต่เลี่ยง  แต่หลบ  หนีสบตา
				ตกประหม่า  อมพะนำ  กลืนน้ำลาย
					
          มิพานพบ  นางใด  ในโลกหล้า
				งามโสภา  พริ้มเพรา  เท่าโฉมฉาย
				หลงเจ้าแล้ว  ถวาย  ทั้งใจกาย
				อยากทักทาย  กลับอ้ำอึ้ง  จึงอับจน
					
          ความอ่อนหัด  เซ่อซ่า  มิกล้าเอ่ย
				ด้วยไม่เคย  มีรัก  แม้สักหน
				คิดเกี้ยวพา  คราใด  ให้กังวล
				จิตสับสน  อิดเอื้อน  เหมือนปึ่งชา
					 
          จีบผู้หญิง  ยากเย็น  ช่างเป็นทุกข์
				เปลี่ยนให้บุก-น้ำลุยไฟ  อาจง่ายกว่า
				ขาดคู่คิด  อำนวย  ช่วยเยียวยา
				จึงเขียนมา  ปรึกษา  ศิราณี				
7 กันยายน 2554 14:33 น.

อาลัย...จุฬาฯลัย

สุนทรวิทย์

วันรับ  ปริญญา  มาถึงแล้ว
		       ผองเพื่อนแก้ว  สุขใจ  แกมไหวหวั่น
		   สี่ปีที่  ร่วมเรียน  เพียรผูกพัน
		จวนจากกัน  เสียดาย  มิตรไมตรี
						
               แม้สำเร็จ  ลุผ่าน  การศึกษา
					       ยามอำลา  กลับตื้นตัน  จนขวัญหนี
					   ชม้ายตา  สบตา  แทนวาที
					เหล่าน้อง,พี่  อาลัย  ใจอาวรณ์

           			ภาพอดีต  เก่าเก่า  จักเฝ้าหลอก	       
        ใครจะหยอก  กลอกเล่น  ดังเช่นก่อน
		   เพื่อนสนิท  ห่วงหา  เคยอาทร
		คงคลายคลอน  ห่างหาย  ไปตามวัย
						
                ซาบซึ้งคุณ  อาจารย์  ปานขุนเขา
					       ท่านขัดเกลา  อบรม  บ่มนิสัย
        ให้วิชา  ความรู้  ปูวินัย
   เป็นธงชัย  ค้ำชู  สู่วันนี้

               เดินเข้ารั้ว  จุฬา  มาทั้งตัว
           ขากลับหัว-ใจมอบไว้  ให้ที่นี่
      ไม่ลืมร่ม  ไม้งาม  จามจุรี
   สายเลือดสี  ชมพู  มิรู้วาย
			
               จบจุฬา  ลาจาก  อย่างภาคภูมิ
          แหล่งฟักฟูม  อุดม  สมมุ่งหมาย
       ถึงจากไป  ไกลห่าง  เพียงร่างกาย
    ใจพริ้งพราย  ฉายอยู่  คู่จุฬา				
6 กันยายน 2554 18:55 น.

ได้แต่ตรม

สุนทรวิทย์

หิ่งห้อย  พร้อยพลาม  วามวิจิตร
		แสงนิด  แสงน้อย  ร้อยเป็นหนึ่ง
		เรืองรอง  ผ่องพริ้ม  ว่อนริมบึง
		เคล้นคลึง  ทึ้งหา  โลกราตรี
				    
        			บนไม้  เค้าโมง  ยืนโคลงหัว
		ทรงตัว  ตาวาว  ราวภูตผี
		จันทร  จรหาย  ในเมฆี
			ปฐพี  ยะเยียบ  ฟ้าเงียบงัน
		
           	ปะรำ  คร่ำคร่า  ผ้าใบขาด
		ฉันวาด  วิมาน  ผ่านเพ้อฝัน
		คนรัก  ที่ไกล  ไปนานวัน
		จงหัน  กลับมา  อาทรเทอญ
							 
            โอหนอ  คืนค่ำ  อันดำมืด
		จืดชืด  ด้วยนาง  เธอห่างเหิน
		หัวใจ  สิหวัง  ยังดำเนิน
		เผชิญ  ทุกข์ล้ำ  คงจำทน
		
            หิ่งห้อย  พร้อยพลาม  วามวิศิษฏ์
  เพ่งพิศ  คิดทวน  มิถ้วนหน
		วันวาน  สองเรา  เคล้าคู่ยล
		บัดดล  ไฉน  เลิกไยดี
		 
       					ฉันเพียง  ชาวป่า  อนาถา
			ชีวา  ขัดสน  หม่นราศี
			เขารัก  ถือว่า  เขาปรานี
			เขาหนี  เขาหน่าย  ได้แต่ตรม				
6 กันยายน 2554 15:59 น.

ใครผิด?

สุนทรวิทย์

หนูเป็นสาว  แล้วนะ  จะบอกให้
		        	        งามไฉไล  สมสมัย  วัยสิบห้า
		    	    ชอบเที่ยวเธค  เที่ยวผับ  นั่งคลับ,บาร์
			เรื่องเหล้ายา  แคล่วคล่อง  มิรองใคร
							
                    อยากไปไหน  ใกล้,ไกล  แม่ไม่ว่า
						       เสียเวลา  ทักท้วง  ห่วงเล่นไพ่
						    พ่อบอกเบื่อ  อิดหนา  ระอาใจ
						ทำอะไร  ก็เชิญ  เกินเหลียวแล
				
                    มีชายจีบ  มากมาย  ไม่ซ้ำหน้า
		        	    ขันอาสา  โอบอุ้ม  ทั้งหนุ่ม,แก่
		    	    ชาวบ้านแอบ  นินทา  สาระแน
			    คอยตอแย  ประณาม  หยามเหยียดกัน
							
                   หนูคบใคร  ควงใคร  ใช่หนักหัว
						        ถึงขายตัว  เหลือขอ  ก็ช่างฉัน
						    หวังสนุก  สุขใจ  ไปวันวัน
						อย่าขยัน  สำรวจ  อวดท้วงติง
				
                   ถ้าผับ,บาร์  ไม่ดี  ไยมีทั่ว
		        	   แล้วใครมั่ว  กามา  ค้าเด็กหญิง
		    	 ใครกันได้  ประโยชน์  โฉดตัวจริง
			  ใครที่นิ่ง  ปล่อยปละ  แกล้งละเลย
					
                  		ผู้ใหญ่มิ  ใช่หรือ  คือต้นเหตุ
						     สร้างกิเลส  ครอบงำ ทำเปิดเผย
						  มุ่งมอมเมา  เยาวชน  จนคุ้นเคย
						เพื่อสังเวย  โมหันธ์  อันมืดมน
				
                    ตราบสังคม  ยังเป็น  เช่นนี้อยู่
		        	     คิดสอนหนู  อย่างไร  คงไร้ผล
		    	    หากผู้ใหญ่  ขาดสำนึก  รู้สึกตน
			    จะพร่ำบ่น  ทิ่มตำ  เด็กทำไม?				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์