11 พฤศจิกายน 2550 11:16 น.

สุราลัย

เทพระวี

(๑)...ดื่มซดซึ้งซดเหล้า.........เมามาย

ดื่มด่ำอยู่เดียวดาย................ดึกนี้

จิตใจจักกำจาย....................ยับย่อย

เมาพับกับเก้าอี้...................ซบหน้าละอาอาย

(๒)...นองน้ำตาบ่าน้ำ...........ตาใคร

ไหลหลั่งรินหลั่งไหล...........อาบหน้า

เหล้าย้อมดื่มย้อมใจ............แทนเพื่อน

แก้วอีกแก้วแล้วหล้า............โลกนี้มีกู

(๓)...ทนอยู่ให้เจ็บแค้น..........แน่นทรวง

เหล้าโลกเลิศหลอกลวง..........ล่อล้อ

รู้รักรักรู้ดวง...........................ใจซื่อ

หญิงยิ่งจริงแท้ก้อ..................เล่ห์ร้อยเล่มเกวียน

(๔)...เขียนให้ใจหม่นไหม้.........หมองรัก

ร้อยคำโศกมาหัก......................รักแท้

หนังสือโศกแม้นสัก...................แสนเล่ม

เต็มย่ำน้ำตาแพ้........................สิแพ้โศกกู

(๕)...รู้ว่ายีย่ำย้ำ.......................ระยำตัว

รู้ว่ามึนเมามัว...........................มืดด้าน

รู้ว่าทำลายหัว..........................ใจเจ็บ

รู้ว่าใจมันค้าน..........................ดื่มแล้วได้ใด

(๖)...ให้เหล้าแก้วสุดท้าย.........เป็นพยาน

ให้รักที่ทรมาณ........................จิตข้า

จงเลือนลบจบการ....................เป็นทุกข์

ล้างคราบที่เปื้อนหน้า..........หยาดน้ำตาใคร...

**********************************				
11 พฤศจิกายน 2550 08:50 น.

น้องเอ๋ย

เทพระวี

น้องเอ๋ย

เหมือนเราเคยรู้จักกันแต่ปางก่อน

มาร่วมรู้รับรู้ห่วงหาอาทร

มิหน่ายถ่ายถอนเมื่อรู้ทุกข์กัน

ซึ้งน้ำใจเจ้า

ขาวราวหยาดน้ำค้างบริสุทธิ์สวรรค์

พอเผื่อแผ่คนทุกข์อนันต์

ที่ทุกข์ท้นทั้งนั้นเต็มแผ่นดิน

น้องสาว

น้ำใจเจ้าเยี่ยมเปี่ยมคุณค่าถวิล

กับแผ่นหล้าที่เดือดดิ้น

น้องเจ้ารินทิพย์พอชุ่มเย็น

เป็นบ่อทิพย์ในใจเหือดโหย

ผู้คนราโรย  บ่าแบก ทุกข์เข็ญ

เดินทางร้างร้าวลำเค็ญ

เส้นทางทุกข์ท้อทรมาณ

กับสุดขอบฟ้าฝั่งฝัน

ร่วมกันทุกมนุษย์ร่วมใจประสาน

รินน้ำใจเป็นหยาดรวงทุกดวงมาน

มาหล่อโลกที่ร้าวรานแห้งแล้ง

*******

แด่น้องสาว คนใจงามแห่งเมืองพังงา				
9 พฤศจิกายน 2550 22:25 น.

กองไฟในกลางกรุง

เทพระวี

๑...เพ็ญเดือนนี้หนึ่งนี้               สวยเย็น

ทรงกลดกลั่นอร่ามเห็น            อร่ามแท้

เย็นนิ่งเด่อนอยู่เป็น                 ดุจเอก

นวลผ่องอยู่ดึกแม้                   ดึกนี้ใจหนาว

๒...คนจรพักค้างถิ่น               แรมทาง

ไฟก่อผิงพอจาง                     พิษไข้

หนาวรุมจับไข้คราง               ไข้พิษ

ยิ่งดึกยิ่งสั่นไห้                       คลั่งเพ้อละเมอหนาว

๓...ลมราตรีพัดแล้ว              สั่นใจ

จรจากถิ่นมาไกล                  ลับนี้

มาค้นขุดแก้ไข                    สิ่งพร่อง

ใจสั่นหวังใจชี้                      อยู่ด้วยศรัทธา

๔...เอาเพ็ญเป็นต่างหน้า     ความหวัง

หวังเช่นเป็นพลัง                 ขับสู้

หนาวเถิดนี่ข้ายัง                 ต้องต่อ สู้เอย

คนทุกข์อื่นไร้ผู้                    ประคับอุ้มประคองเดิน

๕...เกินไข้ข้าต้องรับ           ลิ้มรส

ร้อยพ่อร้อยแม่อด                กว่าข้า

ชีพข้านี่ต้องชด                  ใช้ชีพ  แผ่นดิน

มาเกิดในไทยหล้า             เกิดแล้วรับใช้

๖...จะเป็นไฟอุ่นให้            คนหนาว

ที่สั่นอยู่ทุกคราว                เข็ดไข้

โหมกายอุ่นมาราว             ฟืนเร่ง

ไฟก่อกองน้อยไซร้             นี่นี้เอาผิง

๗...เป็นบ่อใสน้ำนิ่ง            หนึ่งเย็น

เชิญดื่มทุกคนเข็ญ            ขาดน้ำ

โหมกายกลั่นมาเป็น          น้ำดื่ม

แม้บ่อน้อยสิช้ำ                  เหือดบ้างบางหน

************************************				
3 พฤศจิกายน 2550 13:48 น.

รักแท้แม่ใคร....?

เทพระวี

(๑)..กี่ครั้งแล้วกี่ครั้ง     น้ำตา

ไหลหลั่งเป็นสายมา     อาบแก้ม

ชอกช้ำชอกชินชา        หรือนี่

พิสูจน์รักแต่งแต้ม         รักแท้แม่ใคร...?

(๒)..กี่ครั้งแล้วกี่ครั้ง     วาจา

เชือนเชือดซ้ำสายตา    หมิ่นย้อน

ชอกช้ำชอกชินชา         หรือนั่น

พิสูจน์รักปลูกป้อน         รักแท้แม่ใคร...?

(๓)..กี่ครั้งแล้วกี่ครั้ง     ทุกข์ทน

ทนเพื่อใครบางคน       สุขล้น

ชอกช้ำชอกชินชน        เช้าค่ำ

พิสูจน์รักแต่ต้น            รักแท้แม่ใคร...?

(๔)..สักครั้งมั๊ยสักครั้ง  คิดถึง

ครั้งหนึ่งจักตราตรึง       จิตเจ้า

ถ้อยคำที่รำพึง              ว่ารัก

พิสูจน์รักค่ำเช้า             รักแท้แม่ใคร...?

*********************

แด่แม่ทั้งจักรวาล

หาดป่าตอง...25/10/255				
3 พฤศจิกายน 2550 08:34 น.

.รักนี้พลีใจ

เทพระวี

(๑)..แล้วโลกทั้งโลกแพร้ว   เพริศตระการ

ดอกรักออกดอกบาน            เบิกฟ้า

ชมพูพร่ำคำหวาน                ชโลมโลก

แม้นชาตินี้ชาติหน้า             รักนี้พลีใจ.....?

(๒)..ใจดวงน้อยค่อยคล้อย  อ่อนไหว

ลมรักพริ้วกล่อมใจ               แจ่มจ้า

ภาษารักสื่อไสว                   สว่างโลก

แม้นชีพนี้ชีพหน้า                รักนี้พลีใจ.....?

(๓)..ลมหายใจเข้าออก        เวียนวน

หน้าหนึ่งใครบางคน            วุ่นว้า

ตรึงตราติดตาตน                 ตรึงตรึก

แม้นค่ำนี้ค่ำหน้า                  รักนี้พลีใจ.....?

(๔)..มือพนมก้มกราบไหว้    อธิฐาน

องค์พระเป็นพยาน               รักข้า

เรือนร่างต่างสายธาร           แหวกว่าย

แม้นชาตินี้ชาติหน้า             รักนี้พลีใจ.....?

********************

แด่รอบเดือนแรกของเด็กหญิง ผู้เริ่มเปิดตำราชีวิต				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพระวี
Lovings  เทพระวี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพระวี
Lovings  เทพระวี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเทพระวี
Lovings  เทพระวี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเทพระวี