18 ตุลาคม 2548 15:29 น.

ตัดพ้อ..

เพชรพรรณราย

ประวัติศาสตร์ผ่านพ้น..................โบราณ
จารึกผนึกสาน.............................กล่าวถ้อย
ตำนานอีกนิทาน..........................ขานเล่า สืบกัน
รวมรวบเรียงคำร้อย....................ตัดพ้อ สุนทร

ตำนานหนึ่งบทอ้าง.......................ถึงปราชญ์ 
อยุธยาเป็นชาติ............................เก่านั้น
ปรากฏผู้เก่งกาจ..........................ถูกใส่ ความผิด
ศรีปราชญ์นามท่านมั่น.................ชีพสิ้น ตัวตาย

ทิ้งสลักอักขระ..............................บนแผ่น  ธรณี
ความตัดพ้อสุดแสน.....................หม่นไหม้
มิอาจจะรับผิดแม้น......................สิ้นทุกข์ วายปราณ
ลิขิตอักษรโครงไว้.......................ฝากย้ำ แม่ธรณี

อีกนิทานหนึ่งบท.........................ประจักษ์ รู้ความ
ด้วยมิอาจเคียงสลัก.....................คู่คิด
เกิดโศกนาฏกรรมรัก..................อนาถ ใจจริง
ตายเพราะมิสมจิต........................แห่งรัก มั่นคง

โรมิโอจูเลียตรู้.............................ตำนาน
ยาพิษสองประสาน........................ดื่มสิ้น
ทิ้งคำหนึ่งเล่าขาน.........................รักมิ สมหวัง
ท้ายสุดต้องดับดิ้น.........................จึ่งได้เคียงกัน

นิยายหนึ่งเรื่องร้อย......................กลยุทธ
สามก๊กตำนานสุด..........................ลึกล้ำ
กล่าวซึ่งปัญญามนุษย์....................ยากยิ่ง หยั่งถึง
หนึ่งบทตัดพ้อย้ำ...........................พร่ำท้อชะตา

กล่าวถึงจิวยี่ผู้................................ทรนง
มิอาจมาตรประสงค์.........................ดั่งคิด
ต้องซึ่งกลแห่งขง-...........................เบ้งปราชญ์ ปัญญา
มีหนึ่งจิวยี่ลิขิต...............................เล่าไชร้ มีเหลียง

เพียงแค่อยากยกข้อ......................สุนทร
จารึกเป็นโครงกลอน.....................เล่าอ้าง
ตัดพ้อต่อโลกจร.............................ผันจาก ใจเรา
เฉกเช่นนิทานบ้าง........................ลบล้าง ท้อทนฯ				
18 ตุลาคม 2548 11:52 น.

น้อยใจ..

เพชรพรรณราย

แค้นสุดแค้นแน่นฤทัยใจจำจด
เก็บและกดทดไว้ไม่ราหาย
วันเวลาพาไปไม่เสื่อมคลาย
แค้นไม่หายวายลบจบสักที

ฉันมันคนจนค่าราคาของ
มิใช่ทองที่คนปองจ้องไว้นี่
ฉันแค่ดินหินกรวดใช่อวดดี
ฉันก็มีตัวตนคนเหมือนกัน

คนเรานั้นมันไม่เก่งแต่กำเนิด
ไม่พริ้งเพริศเลิศวิไลได้ดังฝัน
จะให้ได้อย่างใจในสิ่งอัน
ตัวของฉันมันไม่รู้ดูไม่เป็น

บีบบังคับนับวันขู่อยู่ทุกเมื่อ
ท้อใจเหลือเบื่อหน่ายจริงสิ่งที่เห็น
ด้วยอำนาจประกาศก้องต้องลำเข็น
ยากจะเร้นเป็นผู้น้อยด้อยราคา

ก็แค่มียศถาบรรดาศักดิ์
หยามเหยียดนักหักทางวางให้ข้า
หากไม่ทำจำต้องโทษลงอาญา
ดั่งคนบ้าตัวข้าใหญ่ใครเทียมทัน

เอือมระอาล้าใจไร้นับถือ
นี่นะหรือคือผู้ใหญ่ใช่ไหมนั่น
กิริยาอาการผ่านมานั้น
ควรที่ฉันมันเคารพนบไปไย

กับคนอื่นคนไกลใช่ลูกน้อง
ประคับประคองน้องพี่พูดปราศรัย
ทีลูกน้องมึงกูอดสูใจ
หากหนีได้ฉันคงทำด้วยจำทน

ใช่ประณามตามบทกลอนสุนทรกล่าว
เป็นเรื่องราวคราวคับแค้นแสนสับสน
เพียงอยากให้เข้าใจใครสักคน
มองดูตนคนอื่นบ้างสร้างสัมพันธ์

แค่อยากให้ลงมาดูผู้ต่ำด้อย
เพียงหนึ่งน้อยที่เข้าใจในตัวฉัน
โปรดเถิดหนาอย่าบีบบังคับกัน
ขอสักวันให้ฉันบ้างอย่าร้างรา				
14 ตุลาคม 2548 09:22 น.

คัมภีร์ไร้อักษร..

เพชรพรรณราย

บทท่องยุทธจักร
อักขระเปล่าร้าง.รูปลักษณ์
จารึกผนึกหลัก...ศาสตร์ไว้
เพียงหนึ่งน้อยประจักษ์....แท้ถ่อง เข้าใจ
สุดแต่วาสนาได้ผ่านพบ ซึ้งความ

คัมภีร์นามว่าไร้.อักษร
ลือทั่วทิศกระฉ่อน.ทั่วแคว้น
ใครครองครอบรู้ซ่อน..........ค่าล่วง วิทยา
มิเทียบทานมาตรแม้น..........เลิศล้ำ ใครทาน

ยุทธภพจบพื้น..แผ่นดิน
ปราบศัตรูหมู่สิ้น..........ชั่วร้าย
เพียงหนึ่งผู้ยลยิน.....รู้ชัด ความนัย
ผนึกตรึกอักษรคล้าย....ร่ายลึก ไร้นาม

แม้ครอบครองหากไร้......วาสนา
ก็มิอาจพบพาซึ้งจิต
หนึ่งผู้คู่ควรค่า. .. .ตามแต่ง บุญกรรม
ดีชั่วตัวอุทิศ.....ใฝ่ซ้อง ความดี

เพียงคัมภีร์หนึ่งนี้..จารึก ฤาเล่า
ไร้พู่กันลงหมึก.ร่างข้อ
ควรหรือยุดแย่งฝึก.เข่นฆ่า แย่งชิง
สิ้นชีพเพราะต่างฉ้อ..ลุ่มลึก หลงทาง

ตำราคงบอกกล่าวให้.ผู้คน
ที่คว้าไขว่ฝึกฝน.ค้นค่า
ลืมรูปร่างท่าตน.ฝนฝึก ตรึงตรอง
ปลดปล่อยกำหนดท่า.ลบสิ้น กระบวน

วาดท่วงท่าดั่งนึก.ในใจ
ลืมกฎกำหนดไว้......ว่างคิด
รุกรับแก้ดั่งใจ..มิหวั่น พรั่นกลัว
คือหนึ่งร่างลิขิต...ซึ่งปราชญ์  คัมภีร์ฯ


                            บทสุนทรสอนใจ
จารึกอักขระละอักษร
ไร้สุนทรสอนถ้อยร้อยภาษา
แค่เพียงหนึ่งซึ่งว่างเปล่าเล่าตำรา
ใยค้นหามาครอบครองหมายปองกัน

สำคัญหรือถือคัมภีร์ที่ยิ่งใหญ่
จารึกให้ไร้ความข้อต่อหมายมั่น
ยื้อแย่งยุดฉุดคร่าหาสิ่งอัน
เพียงค่านั้นมันว่างเปล่าเฝ้าแย่งชิง

ควรแล้วหรือมาทิ้งชื่อระบือนาม
ค้นหาความตามคัมภีร์ไร้สรรสิ่ง
เข่นฆ่าเพื่อนพี่น้องมิตรจิตประวิง
โมหะสิงทิ้งค่าคนจนสิ้นดี

ท่านผู้เขียนเพียรผนึกจารึกข้อ
คงตัดพ้อต่อผู้คนค้นวิถี
ตีความผิดคิดพลั้งยังชีวี
ด้วยคัมภีร์นี้จารึกให้ตรึกตรอง

สัจธรรมนำอยู่รู้ความได้
หลักธรรมไซร้ให้ข้อคิดจิตไม่หมอง
อันคัมภีร์ไร้อักษรย้อนคิดครอง
ให้เห็นพ้องต้องสัจแท้แก่ความจริง

ท่านคงให้เราทิ้งทุกสิ่งสรร
ความยึดมั่นอันตัวตนค้นทุกสิ่ง
ความเปล่าว่างต่างหากที่แน่นิ่ง
คือหลักจริงสิ่งที่มีคัมภีร์มา

เป็นเส้นทางวางไว้ให้ไปสู่
ทางแห่งผู้แสวงธรรมนำค้นหา
เพื่อให้ถึงซึ่งนิพพานอนัตตา
ปรารถนาค่าลิขิตคิดคัมภีร์				
12 ตุลาคม 2548 14:41 น.

หิ่งห้อย..ดาวและเดือน (ฝากรักด้วยคิดถึง)

เพชรพรรณราย

บทนิทาน
กระพริบระยิบพลิ้ว................ลิ่วลม
กลางหมู่แสงดาวพรม.......พร่างฟ้า
เทียบเคียงรัสมีชม................จันทร์ส่อง นภา
ขันแข่งด้วยแกร่งกล้า.......คิดท้าแสงจันทร์

ดาวเห็นระเด่นอ้า........เจ้าแมลง
ตัวเล็กคิดแสดง.........แข่งสู้
ระยิบระยับแจ้ง..........ประจักษ์ สาดส่อง
ลอยล่องนภาผู้............เย้ยเยาะ เจ้าจันทร์

จันทร์เจ้าบ้างเอ่ยเอื้อน.....วจี
ไยเหล่าแมลงเหล่านี้..............แข่งข้า
แสงฤาเล่าเราชี้..........ริบหรี่ หม่นมัว
ไยจึ่งเจ้าคิดท้า.........เทียบไท้ ตัวเรา

คำกล่าวเจ้าหิ่งห้อย.......น้อยใหญ่
ข้าแค่เพียงอาศัย........ค้นคู่
ความมืดมิเห็นได้.......ดังเช่น กลางวัน
จึ่งส่งแสงให้รู้...........หนึ่งผู้ เฝ้าคอย

ข้ามิคิดท้าท่าน..........เห็นควร
เฉกเช่นในสำนวน.......ปักษ์ไว้
ข้าเพียงหนึ่งน้อยล้วน......ด้อยนัก 
ท่านก็เห็นเช่นได้........สิ่งสัตย์ ความจริง

ดาวและเดือนต่างพิศ.......รู้ความ
รู้คิดลิขิตตาม..............หิ่งห้อย
จริงแท้แก่คำถาม.........พร่ำเอ่ย คำไป
เห็นชัดด้วยเห็นคล้อย......เหตุนั้น สัจวจีฯ

       รำพันรักด้วยคิดถึง

ล่องละลิ้วพลิ้วแสงใสไหวระยับ
เคียงคู่กับดาราจันทราแสง
สวยลมเคลื่อนเลื่อนหมู่ผู้แมลง
ล่องด้วยแสงแข่งจันทร์เจ้าลำเนาลอย

เหมือนดาวเคลื่อนเดือนคล้อยลอยตามสาย
ผ่านแมกไม้แพรพรรณอันน้อยใหญ่
ระยับยิบกระพริบกระทบไพร
ลมพลิ้วไหวไม้สั่นไหวหวั่นอุรา

สายลมโชยโหยหาค่าความรัก
ฝากสลักรักไปในเวหา
วอนหิ่งห้อยน้อยใหญ่ให้นำพา
สื่อภาษาค่ารักมั่นให้ผันตาม

แม้เวลาคราใดใจรักมั่น
ด้วยสัมพันธ์อันมั่นคงตรงคำถาม
ความรักจริงหิ่งห้อยลอยลมตาม
ฝากข้อความตามลมเลื่อนเคลื่อนที่ไป

แสงหิ่งห้อยเป็นสื่อสายหมายสัมพันธ์
สัญญาณนั้นครั้นกระพริบระยิบไหว
ค่าความรักสลักสัญญาพาคู่ใจ
ด้วยดวงใจใฝ่เพียงเจ้าตราบนิรันดร์				
10 ตุลาคม 2548 16:45 น.

รอวันชำระ...แค้น

เพชรพรรณราย

อาฆาตมาตรมั่นไว้ในทรวง
รอซึ่งเวลาล่วง.ลบแค้น
สาสมแก่ใจดวง..ปวดเจ็บ เหลือทน
อยู่แห่งใดในแคว้น..จะล้าง ตามไป

ความเจ็บฤาไม่สิ้น.หายห่าง
ความท้อทุกข์ไม่วาง.ว่างเว้น
สะสมก่อต่อร่าง.น้อยนิดเพิ่มพูน
รอแค่โอกาสเน้น..เซ่นช้ำ สาใจ

ให้เจ็บมากกว่าร้อย..เท่าที่ฉันเจ็บ
ระบายถ่ายเจ็บนี้หม่นไหม้
ปลดปล่อยปิศาจผี..ในจิต ห้วงใจ
อิสระโมหะไซร้..หนึ่งภูต วิญญาณ

ล้างผลาญขานขับฆ่า...บ้าบิ่น
ตามติดทุกแผ่นดิน..ล่ารุก
ฟัดฟาดให้ขาดสิ้น.ใจหน่ำ ช้ำทรวง
ใครคิดห้ามปราบปลุก..จะล้าง ให้จม


เก็บความแค้นแสนช้ำระกำหมอง
เพียงร่ำร้องก้องอุราอาฆาตไว้
รอเวลาพาชำระแค้นหัวใจ
ฉันจะให้มันได้เจ็บเหน็บไม่วาย

เจ็บเพียงใดจำไว้ไม่เคยลบ
รวมสบทบทีละน้อยร้อยความหมาย
ฉันจดจำเพื่อชำระในเชิงชาย
ให้ยิ่งร้ายหมายมุ่งมั่นรอวันคืน

อย่าให้ถึงทีของฉันเมื่อมันเห็น
จะไม่เว้นจองเวรแม้หลับตื่น
ให้หลอกหลอนนอนฝันร้ายให้กล้ำคืน
เหยียบให้จมถมพื้นยากฟื้นมา

ให้สาสมความตรมที่ถมอยู่
ให้มันรู้ว่าผู้นี้ยังมีค่า
ให้สมกับความแค้นแน่นอุรา
คนไร้ค่าอาฆาตประกาศไป

รอวันผ่านประสานมาพาวันหนึ่ง
จะให้ถึงซึ่งแค้นแสนหมองไหม้
ให้เจ็บยิ่งกว่าฉันมั่นความไว้
ให้สาใจที่มันทำให้ช้ำทรวง				
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเพชรพรรณราย