8 ตุลาคม 2548 13:09 น.

ตรอมใจ

เพชรพรรณราย

เบื่อหน่ายถ่ายท้อต่อชีวิต
จึงลิขิตสุนทรกลอนเล่าขาน
เพื่อปลดเปลื้องเรื่องที่ท้อต่อวันวาน
ด้วยดวงมาลย์รานร้าวคราวอ่อนแอ

ฉันอับจนหนทางอย่างมืดมน
มันสับสนปนท้อไร้ข้อแก้
ความไว้เนื้อเชื่อให้ให้เปลี่ยนแปร
ทั้งคนรักเพื่อนแท้ที่แปรไป

เหมือนโดนทิ้งประวิงวนเมื่อค้นคิด
ใช้ดวงจิตพิจารณาหาความได้
เมื่อพวกเขาไม่เฝ้าเอ่ยเผยความนัย
ก็รู้ได้ในท่วงท่าภาษาสัมพันธ์

ความรู้สึกนึกน้อยใจยามไร้ร้าง
คนคิดห่างต่างหยามเหยียดให้เย้ยหยัน
ทนเจ็บปวดรวดร้าวเหงาเศร้าจาบัลย์
อยากจะตายวายชีวันเมื่อมันตรม

ใจเอ่ยใจไม่รู้ว่าค่าแค่ไหน
จะรับได้ในทุกข์ท้อต่อทับทม
ใจคงขาดมาตรแม้นแสนระทม
ความขื่นขมถมไม่สิ้นคงดิ้นตาย

อีกไม่นานผ่านผันฉันคงสิ้น
คงดับดิ้นตรอมใจในความหมาย
ความทุกข์ท้อต่อยอดทอดไม่วาย
สิ่งที่หมายคงวายปราณด้วยตรมตรอม				
7 ตุลาคม 2548 16:36 น.

ต้นไม้ต้นนี้...

เพชรพรรณราย

นั่งเหม่อลอยร้อยใจตรึกระลึกหา
เหม่อมองฟ้าพาหวนรัญจวนเหงา
ใต้ร่มไม้ต้นใหญ่ให้ร่มเงา
วันเก่าเก่าที่เราผ่านประสานมา

ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้มีความหมาย
ในใจชายมิวายถึงคำนึงหา
ค่าความรักที่ปักษ์ใจไม่โรยลา
ยังตรึงตราค่ามั่นมิผันแปร

ต้นไม้ต้นนี้ที่แรกพบ
แรกประสบคบหาพารักแท้
รู้จักกันผูกสัมพันธ์หมั่นดูแล
ค่อยค่อยแปรแก่เพื่อนเลื่อนรักจริง

ต้นไม้นี้สองเราเฝ้าวาดฝัน
สัญญามั่นไม่หวั่นไหวในทุกสิ่ง
จะเคียงอยู่คู่สองครองใจนิ่ง
รักเจ้ายิ่งกว่าสิ่งใดในโลกา

ต้นไม้ต้นนี้ที่เราจาก
ที่เราพรากฝากคำให้ย้ำหา
ด้วยสัตย์ปฏิญาณผ่านสัญญา
จดจำค่าว่ากี่วันฉันจะรอ

ต้นไม้ต้นนี้ที่ยังคอย
ใจละห้อยร้อยเหงาเศร้าสุดท้อ
เฝ้าระบายคำพร่ำน้ำตาคลอ
ตั้งตารอต่อสัญญาโหยหานาง

ต้นไม้ต้นนี้คืออดีต
ที่ตามกรีดหัวใจให้หายห่าง
ทั้งความหวังฝังรักปักใจวาง
ทั้งราร้างห่างพรากเมื่อจากลา				
7 ตุลาคม 2548 09:27 น.

รอรักหลงฤดู

เพชรพรรณราย

จากเหน็ดหนาวราวสะบั้นมาเปลี่ยนผัน
ให้ร้อนพลันผันอบอ้าวราวเมษา
จากหนึ่งฝนข้นแค้นแคลนฝนมา
ร้อนองศากลับพาหนาวคราวเยือกเย็น

ทุกคนเรียกเพรียกพร่ำเป็นคำเขียน
สิ่งที่เปลี่ยนเวียนหมุนหนุนนำเห็น
หลงฤดูรู้ถนัดด้วยชัดเจน
ให้ทุกข์เข็นเป็นเหตุสู่เภทภัย

นานนานทีปีหนคนจะเห็น
ความแฝงเร้นเบนเบี่ยงแปรแก่โลกได้
เป็นเรื่องยากหากจะรู้คู่ความไป
เกิดเมื่อไรวันใดให้พบพา

ห้วงใจลอยคล้อยคิดจิตลอยล่อง
เหมือนเที่ยวท่องต้องมนต์ให้ค้นหา
ผูกเรื่องราวปวดร้าวเจ็บเหน็บกายา
ร้อยมายาพาผูกกันสัมพันธ์ใจ

เฉกความรักสลักไว้ในโลกนี้
ยากจะมีรักที่เปลี่ยนเวียนมาได้
คงมีน้อยละห้อยมาพาฤทัย
กลับมาใหม่ในรักที่หักพัง

จึงเรียกว่ารักที่หลงตรงใจเปลี่ยน
ยากจะเวียนเปลี่ยนหวนทวนความหลัง
จบกันแล้วแคล้วคลาดท้อต่อพลัง
ยากจะตั้งยังรักเก่าสุดเหงาทรวง

หลงฤดูรู้กาลที่ผ่านผัน
เฝ้ารำพันดังมั่นรักสลักล่วง
เกิดได้ยากหากนานครั้งประทังดวง
คืนความห่วงลบลวงหลอกบอกคำคืน

เปรียบทั้งสองตรองจิตคิดอ่าน
ฤดูกาลผ่านความรักยากกลับฝืน
คงเหมือนกันยากผันกลับปรับที่ยืน
หลงฤดูหลงรักชื่นคืนหักหักตรม				
6 ตุลาคม 2548 19:16 น.

รักแท้..แม้ความตายมิอาจกั้น (นิยายกลอนน้ำเน่า..หาสาระมิได้อีกแล้ว)

เพชรพรรณราย

สองมือจับขยับนิดค่อยชิดใกล้
กระซิบไปว่าใจมั่นไม่หวั่นไหว
บอกคำรักสลักมั่นไม่หวั่นใจ
สัญญาไว้ไม่ราร้างห่างชีวี

ดูอิ่งอ้อยเอียงอายกายสะท้อน
ใจไหวอ่อนสุนทรมั่นสำคัญพี่
สิ่งที่พร่ำย้ำนักปักษ์วจี
อย่าหลบลี้หนีไปใจเปลี่ยนแปร

ชายสาบานขานทันทีนี้จงหนัก
แม้รารักหักลงอย่าคงแก่
ขอให้ตายวายชีวาฟ้ามาแล
ดิ้นดับแท้สามวันนับอย่ากลับกราย

หญิงได้ฟังชั่งใจให้สะท้าน
อย่าได้หาญสาบานคำย้ำความหมาย
ถ้าเป็นจริงสิ่งกล่าวจะร้าวกาย
จักต้องตายหายจากน้องต้องโทษทันธ์

คำมั่นชายหมายสัญญาตราไว้แล้ว
ไม่ขอแคล้วรักแก้วตาข้ามิหวั่น
ไม่เป็นอื่นคืนคะนึงคิดถึงกัน
ถือสัตย์มั่นสัญญาไม่ราวาง

ใจของหญิงจริงเชื่อเมื่อยินคำ
ด้วยถ้อยย้ำคำมั่นสัญญาสร้าง
กฎแห่งรักปักษ์ใจในหนทาง
ขอร่วมสร้างร่างอยู่สู้เคียงกัน

สองร่างกอดพรอดพร่ำนำความรัก
ผูกสลักยากหักห้ามตามใจหวั่น
ร่วมปลูกรักพลีกายหมายสัมพันธ์
พรหมจรรย์มอบให้ไว้สัญญา

แสงสีแดงแต่งแต้มแซมขอบฟ้า
เหล่าปักษาออกหากินถิ่นเวหา
สัตว์กลางคืนคืนถิ่นบินกลับมา
คือสัญญาณเวลาจะพาไกล

หนึ่งหญิงชายกอดกายก่อนย้ายจาก
พร้อมกับฝากรับปากมั่นอย่าหวั่นไหว
ให้มั่นคงตรงสัญญาด้วยอาลัย
มั่นคงไว้อย่าให้หายวายจากใจ

วันเวลาพาผ่านกาลหมุนเปลี่ยน
วัฏจักรนั้นวันเวียนเปลี่ยนวันใหม่
วันและคืนเพียงตื่นฝันทุกวันไป
จากกันไกลได้สองปีที่เฝ้ารอ

เสียงครื้นเครงบรรเลงเป็นเพลงแต่ง
ด้วยจัดแจงแสดงแห่งห้องหอ
ร่ำน้ำตาหาชายที่กรายก่อ
สะอื้นท้อต่อสัญญาพาใจตรม

เสียงกลองยาวเจ้าบ่าวก้าวมาหยุด
เร่งยื้อยุดผุดผ่านสำราญสม
ประตูทองประตูเงินเดินผ่านพรม
แล้วนั่งก้มพนมไหว้ในทำนอง

แล้วจัดแจงแต่งขันหมากฝากแม่พ่อ
มาสู่ขอต่อลูกสาวเป็นคู่สอง
ด้วยฤกษ์ดีวันนี้ที่ครรลอง
มาขอน้องเพื่อครองรักปักษ์อุรา

หยดน้ำสังข์หลั่งไหลพร้อมร่ำไห้
น้ำตาไหลใจสลายมลายค่า
หยดน้ำสังข์ไหลหลั่งดังน้ำตา
ด้วยวิวาห์บุพการีที่แทนคุณ

เสียงตะโกนโพนทะนาร่ำร้องหา
ว่ากลับมาตามสัญญาค่าไม่หมุน
ที่มาช้าเพราะว่าสร้างวางทางหนุน
เร่งหาทุนหนุนใจสร้างจึงย่างมา

พอเสียงสิ้นยินรู้ผู้มาหา
ไม่รอช้ากายาปรี่รี่มุ่งหน้า
โผเข้ากอดพรอดพร่ำคำสัญญา
สองปีกว่าที่รากันมั่นชีวี

สองใจมั่นไม่หวั่นไหวถามไถ่ทุกข์
ใจแสนสุขปลื้มใจในวิถี
คนรอบข้างช่างปะไรในวจี
ไปกับพี่หนีไปอยู่ด้วยกัน

เสียงเจ้าบ่าวป่าวประกาศด้วยหนักแน่น
ด้วยความแค้นแสนอายชายหยามหยัน
งานแต่งข้าเอ็งมาแย่งแสดงสัมพันธ์
ศักดิ์ศรีฉันมันถูกหมิ่นหยามหัวใจ

มาสู้กันให้มันตายวายไปข้าง
แล้วครองนางวางพนันอันฝันใฝ่
ใครชนะจะได้นางวางความไป
ตกลงไหมใจกล้าข้าท้าทาย

อันตัวข้าปรารถนาเพียงค่ารัก
ให้ประจักษ์ต้องถักถามตามความหมาย
ใจของนางเลือกเอาไว้หนึ่งชาย
หนึ่งคนหายไม่กรายกร้ำต้องจำยอม

เอ็งก็รู้อยู่ว่าน้องต้องรักเอ็ง
แล้วจะเปล่งถ้อยคำนำความพร้อม
ข้าต้องช้ำระกำนำใจตรอม
ฉันไม่ยอมค้อมให้ใจเคืองขุ่น

หยิบดาบได้ไม่รอช้าพุ่งหาคู่
สู่ศัตรูผู้แย่งรักโกรธใจหนุน
จะต้องสิ้นดิ้นดับนับลาบุญ
ด้วยหมกมุ่นฉุนเฉียวไม่เลี้ยวลา

สองดาบรับจับส่งบรรจงฟาด
น่าอนาถมาตรเคราะห์ร้ายหมายมาหา
ถูกเจ้าป่าวฟาดฟันล้มตรงหน้า
แล้วกานดามาบังจึงรั้งใจ

แผลนั้นลึกเกินกว่ารักษาหาย
มันลึกร้ายชายพร่ำคร่ำครวญไว้
พึ่งพบกันต้องผันจากพรากกันไกล
อยู่ภพไหนไม่รารักหักสัมพันธ์

จึงสิ้นใจไปต่อหน้าหญิงคนรัก
นางยากหักห้ามใจไว้ให้โศกศัลย์
ที่ฉันอยู่รอเพียงพี่นี้เท่านั้น
ฉันมิหวั่นจะผันตายวายตามไป

ทิ่มดาบลงตรงหัวใจให้อาสัญ
ตายตามกันให้มันสมอารมณ์ใฝ่
เขาคนนั้นที่ต้องการสำราญใจ
ล้มทันใดใจสิ้นตายตามชายชาญ

สลดใจเมื่อได้เห็นภาพหญิงชาย
ที่ต้องตายเพราะรักที่หักหาญ
ควรแล้วหรือที่หักห้ามปรามเหตุการณ์
ท้อดวงมาลย์ประสานเศร้าเฝ้าอาดูร

เป็นเรื่องราวร้อยเรียงเพียงนิทาน
ให้ท่านอ่านเห็นประจักษ์รักมิสูญ
แม้ความตายมิพรากหากเทิดทูน
มิเคยสูญกูลเกื้อเมื่อรักจริง				
6 ตุลาคม 2548 11:13 น.

เพียงภาพลวง

เพชรพรรณราย

เหมือนวานนี้ที่เธอมาบอกลาฉัน
เศร้าจาบัลย์ฉันปวดร้าวใจหม่นหมอง
จมน้ำตาอุราร่ำมันฉ่ำนอง
ทนร่ำร้องก้องฟ้าข้าอกหัก

เกือบต้องตายวายเพราะรักยากหักห้าม
แม้คอยปรามถามใจใยแน่นหนัก
ควรแล้วหรือที่ถือมั่นมิพรั่นรัก
กลับจมปรักรักสิ้นสูญอาดูรตรม

ไหนเธอบอกออกปากมากคำรัก
ขอสลักปักใจคู่ดูเหมาะสม
มิเป็นอื่นชื่นใจในอารมณ์
เพราะเธอปลื้มชื่นชมนิยมมา

ทุกความเหงาเศร้าหมองร้องร่ำหา
หยดน้ำตาไม่ราคราบอาบอาบใบหน้า
ความเจ็บปวดรวดร้าวผ่าวอุรา
ยังเยียวยารักษาแผลแก่หัวใจ

เช้าวันนี้มีแต่เรื่องเบื้องความคิด
ท้อชีวิตผิดหวังตั้งใจใฝ่
มีแต่สิ่งประวิงปวดนวดฤทัย
ให้หมองไหม้ใจเจ็บเหน็บไม่วาย

ถูกเหยียดหยามประณามจนทนไม่ได้
หลบซ่อนไปไม่คบหาพาหนีหาย
ความพ่ายแพ้แก่หัวใจในหนึ่งชาย
จำเร้นกายหายหน้าเพียงลำพัง

พอตกเย็นเพ็ญค่ำยังช้ำชี้
ใจดวงนี้ถูกกรีดกร่อนตัดรอนหวัง
กับความทุกข์ท้อถอยคอยประดัง
น้ำยังหลั่งสองฝั่งแก้มแซมสะอื้น

ในยามหนึ่งรำพึงอยู่ผู้เดี่ยวดาย
เป็นความหมายว่าชายอยากหากใจฝืน
ขอให้เธอละเมอมาพาหวนคืน
สะดุ้งตื่นยืนค้างเมื่อเห็นนาง

ฉันฝันไปหรือเปล่าเฝ้าสะกิด
หรือเพราะฤทธิ์ความเมาเข้าใจต่าง
เอื้อมมือรับจับสองมือถือไม่วาง
เหมือนฝันสร้างร่างให้เจอเธอกลับมา

ที่ฉันเห็นนั้นเป็นจริงสิ่งประสบ
เธอมาพบเพื่อคืนดีที่มาหา
กล่าวขอโทษอย่าโกรธเลยที่บอกลา
โปรดเถิดหนาอย่าตัดรอนให้อ่อนใจ

ฉันดีใจเมื่อได้ฟังยังคำกล่าว
เป็นเรื่องราวที่ก้าวผิดคิดผลักไส
ที่ฉันทำให้เจ็บนักอกหักไกล
เธอคิดได้ว่าสัมพันธ์ยังมั่นคง

จึงเอื้อมแขนแสนสั่นด้วยหวั่นไหว
ค้อมตัวไปสองแขนอ้อมล้อมประสงค์
กอดแนบอกตกใจต่างว่างเปล่าลง
ฉันนั้นจงคงกอดลมมาห่มทรวง

หรือความเมาเศร้าอกหักรักมาเปลี่ยน
ใจยังเวียนร่ำหาไม่ลาล่วง
เธอไม่กลับมาแล้วแก้วใจดวง
เธอไม่ห่วงลวงหลอกกันในสัญญา

กอดเพียงลมห่มฟ้าจิตนาการ
เก็บวันผ่านราญรอนก่อนน้ำตา
มาเป็นภาพปราบความเหงาด้วยมายา
ร่ำสุราพาประชดด้วยหมดใจ				
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเพชรพรรณราย
Lovings  เพชรพรรณราย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเพชรพรรณราย