5 มีนาคม 2548 07:08 น.

ทุกคน ต้องมี ขีดจำกัด

เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ

เขา เลย ได้ แต่ ซ่อม ขีดจำกัด นั้น

ซ่อม แล้ว ซ่อม เล่า ... ซ่อม ไป กี่ หน ต่อ กี่ หน

แต่ เขา ก็ ยัง ไม่ พูด เพราะ...*

ไม่รุ๊ จะ พุ๊ด ไป เพื่อ อะไร.. ไม่ มี ประโยชน์ ที่ เขา จะ พุ๊ด

เลย ได้ แต่ ระ บาย เพียง ลำ พัง ...

วันนี้ ขีด จำ กัด ไม่ มีแล้ว ขอ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ให้ ดัง ๆ ไป เลย เฮ่ย สบายใจขึ้น ฮิ_ฮิ

อยาก จะ พิมพ์ มากว่านี้ แต่ ..... เฮ่อ ....

เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้เสีย ใจ ร้อง ไห้เสีย ใจ ร้อง ไห้เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้

เสีย ใจ ร้อง ไห้เสีย ใจ ร้อง ไห้เสีย ใจ ร้อง ไห้เสีย ใจ ร้อง ไห้				
5 ตุลาคม 2547 03:36 น.

อยากบอกว่า.....((อยากรู้เข้ามาอ่านจิ ฮิๆๆ))

เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ

ขอบคุณทุก ๆคน ที่เข้ามาอ่านแร่ะเม้นท์ให้ตลอดมาน่ะค่ะ
แร่ะ กำลังใจ ที่ทุกคนๆ แวะเอามาให้ อยากบอกว่า ขอบคุณมากๆค่ะ
((...หุหุ โอเคม่ะ ฮิ ๆ ๆ))


ก็ไม่รู้ว่าจะได้แวะเข้ามาหรือเปล่า 
แต่ก็จะพยายาม มาอ่านมาเม้นท์กลอนของทุก ๆคน นะค่ะ :D


ก็อยากจะขอบคุณเว็บ Thaipoem.com ที่ทำให้แนนมีที่ระบาย
แร่ะได้มีเพื่อนใหม่ๆ รู้จักคนอีกหลาย ๆ คน 
แร่ะอีกคนที่อยากจะขอบคุณ พี่เมกกะ ค่ะ ขอบคุณที่ทำให้แนนได้รู้จักเว็บนี้
แร่ะได้มาสมัครได้ หัดเขียนกลอน ได้มีที่ระบาย แร่ะ มีที่ให้รู้อะไร อีกหลายๆ อย่าง....

ไปล่ะน๊าๆๆๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวจะแวะมาเยี่ยมชม หุหุ

คิดถึงทุกคนนนนนนนนน.......จ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆเมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ				
2 ตุลาคม 2547 22:00 น.

...อาการตื่นเต้น เริ่มเข้ามาอีกแล้ว...

เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ

สองวันแล้วน่ะที่เธอทำแบบนี้....เธอถามถึงการเรียนของฉัน
เธอถามถึงร่างกายที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่
เธอถามเหมือนเป็นห่วง....ว่ากลับบ้านทางเดินอันตรายไหม
เธอถามถึงเรื่องครั้งก่อนที่ผ่าน ๆ มา แต่ฉันก็ไม่อาจจะตอบเธอได้

อยากจะขอบคุณครูทุกคนที่ทำให้แนนรู้จักกับมาร์โค่
มาร์โค่เป็นคนร่าเริง สดใส และ ตลกขำขัน แบบสไตน์ของแนน
แต่สิ่งหนึ่งที่มาร์โค่ไม่มีก็คือ แนนชอบคนทางเอเชียมากกว่า ยุโรป
หรือที่คนไทยเรียกกันว่า "ฝรั่ง" 

ช่วงพักเรียนเราก็จะมานั่งคุยกัน จนใคร ๆ ก็ถามว่าเป็นแฟนกันหรอ
เราก็ต่างขำ แต่ก็บอกไปว่า "ไม่ใช่" ก็มันไม่ใช่จริง ๆ อ่ะจะให้บอกว่า
ใช่ได้ยังไงเนาะ.....

มาร์โค่บอกว่า....อยากรู้จักกับแนนตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ที่แนนขึ้นไปร้องเพลง
มาร์โค่บอกว่าเสียงของแนนหวานดี แนนจำได้ว่ามาร์โค่ก็ขึ้นร้องเหมือนกัน
แต่มาร์โค่ไม่ติดอันดับ ((....เก่งสู้แนนไม่ได้เลย....ฮิ ๆ ๆ ....))

เมื่อวันพฤ.แนนไม่ได้ไปเรียน มาร์โค่ก็โทรมาถามว่าทำไมถึงไม่มาเรียน
แนนก็เลยบอกว่าปวดหัวลุกไม่ไหว...แค่นั้นแหละ มาร์โค่ก็ถามที่อยู่เลย
บอกว่าเดี๋ยวเลิกเรียนแล้วจะมาหา...ก็ไม่รู้จะทำยังไงในเมื่ออยากมาก็มาจิ ฮิๆ ๆ 

มันก็นานเหมือนกันกว่าเธอจะเลิกเรียน ก็นั่งดูหนังรอเผื่อจะไปเป็นคนเปิดประตูให้
ไม่อยากให้พ่อเปิด อยากเปิดให้เอง หุหุ....แต่ก็น่าเสียดาย เผลอหลับไปเมื่อ
ไหร่ก็ไม่รู้ พอตื่นมาอีกที เธอมานั่งดูทีวีด้วยแร่ะ ตอนนั้นอายมาก ๆ เลยรู้ไหม
มีอาการอึ้งนิด ๆ ด้วยแร่ะ ทำอะไรไม่ถูกเลย เธอก็ขำกับท่าทีของฉัน

วันนั้นนั่งคุยกันทั้งวัน หุหุ เธอรู้ไหม เธอยิ้มน่ารักน่ะรู้ป่ะ
แต่ฉันไม่ค่อยยิ้ม เพราะยิ้มไม่ค่อยออก ไม่เคยยิ้มแบบเต็มใจสักทีเลย
ก็อยากจะมีวันที่เป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่ เหอๆ ๆ ทำไม่ได้

แร่ะวันศุกร์แนนก็ไปเรียนได้ตามเคย หุหุ มาร์โค่มายืนรอเลยยยย....((...กรี๊ด...))

เธอบอกว่าแม่เธออยากรู้จักฉัน...ตอนนั้นก็งงอยู่ สงสัยจะอยากรู้จักเพราะเป็นเพื่อนกันมั้ง
หุหุ....แร่ะก็ต่างแยกกันเข้าเรียน พอพักเที่ยงเธอก็ให้เพื่อนเอาจดหมายมาให้
บอกว่าขึ้นไปหาหน่อยที่ห้องบี ก็งงอยู่แต่ก็ขึ้นไป นึกว่าจะให้ไปจีบ ฮิๆๆๆ
ที่ไหนได้ ให้ไปบอกการบ้านภาษาอังกฤษ....(( ....แห้ว...)) ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕

แต่ก็น่ะ อยู่กานสองคน หุหุ ก็มีแอบจีบเขามั่งแระ
ชมนั้นชมนี่ เธออายใหญ่เลยยยยยยย  วู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.... ฮิๆๆๆๆๆ

เลิกเรียนเธอก็พอไปหาแม่เธอ บอกกินเข้าเที่ยงด้วยกัน หุหุ
ก็ไปจิ ที่บ้านม่ะมีไรกิน ๕๕๕๕๕๕๕๕๕....หวานปาก เอิ้กๆๆๆๆๆ
แม่เธอก็ยิ้มสวยใจดีด้วยยยย....แต่ที่แปลกใจก็คือ แม่เธอบอกว่า

ฉานเป็นปู้หญิงคนแรกที่เธอพามาบ้าน ((....ว๊ากกกกกก...))
อายหน้าแดงเลยวุ้ย ฮิๆๆๆๆๆ....อาหารอร่อย แต่กินไม่ค่อยลง
เพราะมันติดอาการมาจาก อาการอกหัก ไม่กินไรเลย ติด

หุหุ มาร์โค่น่ารัก แต่ก็แอบมีใจให้นิ๊ด ๆ เหมือนกันแร่ะน่ะ
แบบว่าความรู้สึกดี ๆ อ่ะ ไม่ใช่แบบว่าชอบเน้อๆๆๆๆ....

เดี๋ยวจามาเล่าต่อ หุหุ วันเสาร์แร่ะไม่ได้เจอกาน แต่ก็โทรมาอยู่
วู้ๆๆๆๆ.....เกือบไม่ได้นอน ๕๕๕๕ ทั้งสองเพราะปาไปสาหว่างเยย
(...ทำได้ไงเนี้ยเรา...ฮิ ๆ ๆ.....)


+*-*++++*-*+_หมูน้อยอารมณ์ดี_+*-*++++*-*+

http://www.postjung.com/music-play.php?q=l&id=291				
30 กันยายน 2547 04:36 น.

ตอนเช้ายังดี ๆ พอมีข่าวดีมากลับทะเลาะกันอีก ((แต่ก็เข้าใจกันอีกเช่นเคย))

เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ

เมื่อแนนไปถึงโรงเรียนมันก็ออกจะตื่นเต้นหน่อยเพราะเห็นเพื่อน ๆ .......

+...มาทำอะไรกันเยอะแยะเลย มีอะไรกันปล่าวน่ะ...+
แนนก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างช้า ๆ ว่าจะหลบเพื่อน แต่ก็หลบไม่พ้นจนได้ ฮิๆ ๆ

....Hey....แอนมา เพื่อนหญิงวิ่งกานมาอย่างเยอะเลย
+..หุ้ยย...จะทับเราหรือเปล่าหว่ะ..เสียวอ่ะ+ แนนทำสีหน้าไม่ค่อยดีเลย เพราะกลัว
สวัสดีตอนเช้าแอน ....จุ๊บ...จุ๊บ...!! หอมแก้มกันใหญ่เลย 

((...แอนชื่อเพื่อนที่โรงเรียนเรียกกัน))....

จ๊ะ สวัสดีตอนเช้าจ๊ะ  แนนตอบกลับเพื่อน ๆ หลาย ๆ คน 

แอน เธอรู้ป่ะวันนี้อ่ะ เป็นวันประกาศผล...เย้ๆๆๆ พอคนนึงพูดจบเสียงประสานก็ตามมา
ประกาศผลไร.... หน้างิ้ว คิ้วขมวดเลยอ่ะค่ะ ประกาศผลไรหน๋ออออ....
ประกาศผลร้องเพลงไง... มานูเพื่อนสุดรัก รีบแทรกเสียงขึ้น
หร๋อ...จริงอ่ะ ใครบอกพวกเธอรู้ได้ยังไง.. คราวนี้หน้าไม่งิ้วคิ้วไม่ขมวดค่ะ
แต่ตาเป็นลูกห่านเลย ฮิๆ ๆ ๆ ๆๆ .....
นั้นไง....ติดอยู่นั้นน่ะ เอเลน่า แร่ะเพื่อนก็ดึงแขนของแนนไปดู

แนนยังไม่ได้อ่านเลย ครูประจำชั้นก็มาพอดี ต่างก็วิ่งไปหาครูกัน 
แต่แนนไม่วิ่ง(..ปวดขา..) 5555555...

ครูชาเด...ใครได้ที่เท่าไหร่ ใครได้ที่ 1 ต่างก็ดึงตัวครูมาถาม เสียงดังพอสมควร
เข้าห้องก่อน เข้าห้องก่อน เสียงดังกันจริง ๆ ครูเดินเข้าห้องเด็ก ๆ ก็ตามครูไปด้วย
แต่แนนไม่ได้เดินเข้าเองอ่ะ พลอยโดนเพื่อนลากเข้าเลย ไม่ต้องเดินให้ยาก ฮิๆ ๆ 

 นั่ง ก่อน ๆ ...วันนี้เรามีข่าวดีอยู่สองเรื่องน่ะ เรื่องที่ 1 เรื่องประกวดร้องเพลง เรื่อง..
ใครได้ที่ 1 ค่ะ ครูชาเด...?? เงี้ยวครูยังพูดไม่จบเลย นาตาลีก็ยกมือถามแร่ะ
บอกเรื่องแรกก่อนน่ะค่ะ น่ะค่ะๆ... อ้อนครูกันทั้งห้องรวมทั้งแนนด้วยล่ะ ดีใจอยากรู้
บอกก็บอก.. ครูเหมือนจะเหนื่อยที่คุมนักเรียนห้องนี้ไม่ค่อยได้
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ... ร้องกันซะดังทั้งห้องเลย แก้วหูเกือบแตก
ที่ 1 ...เสียดายไม่ใช่ห้องเรา นักเรียนต่างหน้าเศร้ากันหมดเลย
เป็นห้อง 9เอ. ชื่อ วาเนสซ่า โคลด้า ร้องเพลง WhEn u LoOk aT mE
 ส่วนที่ 2 เป็นห้องเราเอง เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....เสียงร้องดังขึ้นอีกที
ให้ฉันพูดเสร็จก่อนสิ พวกเธอนี่จริง ๆ เลยน่ะ โดนครูด่าเลยง่ะ แต่แนนม่ะโดน
เพราะมัวแต่ลุ้น ไม่มีอารมณ์ร้องโห่...
ที่ 2 ห้อง 8เอ. ชื่อ นิทายา แถวพันธุ์ ร้องเพลง No MorE tEaRs
 ที่ 3 ห้อง 8บี. ชื่อ เฮ่าเชอร์ ไคโต๊ะ ร้องเพลง iF TomOrrOw NevEr ComEs

พอรู้ว่ามีชื่อของตัวเองด้วย แนนก็ยิ้มไม่หุบเลยล่ะ แบบว่า ดีใจสุดขีดดดดดดดดด.....
เพื่อน บางคนก็ร้องดีใจด้วย บางคนก็ร้องบอกว่า เสียดาย เป็นไปได้ไง
หุหุ แต่เสียใจเพื่อนเอ๋ย มันเป็นไปแร้นนนน...ฮิ ๆ ๆ 

มาถึงเรื่องที่ 2 กันดีกว่า ในห้องเราจะมีคนได้ขึ้นไปเรียนที่ห้อง 9 ทั้งหมด 4 คน
 คนที่ 1 อันดี้ คนที่ 2 สะตราโทส์ คนที่ 3 มานู คนที่ 4 นิทายา

+...เห๋อ..มีชื่อเราด้วย เป็นไปได้ยังไงหว๋าาาาา...+ 
(..นิทายา ก็คือ นิตยาค่ะ ที่นี่เขาเรียกไม่ชัดเลย...)
(..กลายเป็น นิทายา ไปอย่าง ถาวรณ์เลยค่ะ..)

พอครูบอกข่าวดีจบ ก็มีเสียง ย้าาา.. บ้างก็ เยส บ้างก็โห๋ เสียงดังทับกันไป
แต่แนนกลับเศร้า ได้แต่ก้มหน้าถามตัวเองว่า
+..ไม่ดีใจหรอที่ตัวเองได้เลื่อนชั้น ไม่ได้เรียนที่ชั้น 8 แต่ข้ามไปเลย...+
+..ใคร ๆ เขาก็อยากจะเลื่อยชั้นกันทั้งนั้น จะต้องดีใจกับตัวเองสิ...+

 ย้า...แอน พวกเราทำได้เห็นไหม เป็นเพราะเธอเลยน่ะที่ชวนฉันอ่านหนังสือ
  ไม่งั้นก็คงไม่ได้เปลี่ยนแน่นอนเลย ขอบใจน่ะ จุ๊บ... 

อืมไม่เป็นไรหรอก..ฉันก็ดีใจด้วยที่เธอยอมทำตามที่ฉันชวน
  แร่ะถ้าไม่มีเธอเป็นเพื่อนเตือนอะไร ต่อมิอะไรก็คงไม่ได้เหมือนกันแร่ะ

ต่างคนก็ต่างคุยสรุปว่า 3 ชั่วโมงแรกไม่ได้เรียน มีแต่โม้อย่างเดียว
แนนก็นั่งก้มหน้าอยู่ตรงนั้น 3 ชั่วโมงเหมือนกัน ก็มีเพื่อนมาคุยด้วย
ก็ตอบไปบ้าง...แต่แปลกดีเนาะ ไม่มีอาการดีใจ ((..อยากรู้อ่านต่อ ฮิๆ ..))


พักเรียนแล้ว ต่างคนก็ต่างออกจากห้องรวมทั้งแนนด้วย พอแนนเข้าไปในห้องน้ำหญิง
ก็เจอเพื่อน ๆ ในห้องน้ำกันหมดเลย บางคนก็ร้องไห้ แนนก็ตกใจเลยเข้าไปดูแระก็ปลอบ
พอเพื่อนหันหน้าขึ้นก็บอกกับแนนว่า

เพราะเธอนั้นแร่ะ มาแย่งที่ฉัน ถ้าเธอไม่ได้ ฉันต้องเป็นคนได้ 
 อ๋อ...คงจะไปอ้อน ทำตาหวานให้ครูหลาย ๆ คนน่ะสิ ครูเลยให้
 คะแนนสะสมดี ๆ ตกลงครูคนไหนล่ะที่เสร็จเธอนะ ฉันว่าตอนนี้
 ก็คงไม่เหลือแล้วล่ะสิ

แนนทำอะไรไม่ถูกเลยเมื่อได้ยินคำนี้ คำที่เพื่อนๆ หลาย ๆ คนไม่เคยพูด
จริง ๆจัง ๆส่วนมากจะเล่นกันเท่านั้น ยืนนิ่งให้เพื่อนต่อว่า น้ำตาก็คลอลูกตา
มันจะไหลลงมาอยู่แล้ว เจ็บมากกับคำว่า ตอนนี้คงไม่เหลือแล้ว

เอเลน่า มันไม่เกี่ยวหรอกน่ะ...สิ่งที่เธอพูดมานะคิดดูซะมั้งน่ะว่าใช้อะไรคิด
 คะแนนสะสมก็คือคะแนนที่มาจากการเรียนของทุกคน ไม่ใช่ว่าจะไปอ้อน
 คะแนนจากครู ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก เธอก็รู้ไม่ใช่หรอว่าฉันเป็นคนยังไง
 เป็นเพื่อนกันมานานแค่ไหนแล้ว อย่ามาพูดให้เหมือนเด็ก ๆ หน่อยเลยน่ะ
 เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ... 

แล้วเธอได้เลื่อนชั้นได้ยังไง     มันเป็นไปไม่ได้หรอกน่ะถ้าจะบอกว่าเป็นคะแนนสะสม
 เพราะเธอก็เรียนรวมเกรดทุกวิชาแล้ว เธอไม่เคยได้ 1 แลยแม้แต่ครั้งเดียว
 ต่อให้สาบานก็ไม่มีใครเชื่อ ใช่ไหม...ๆ...? เอเลน่าหันหน้าไปถามเพื่อน ๆ ข้างหลัง

ใช่ ๆ ฉันก็ไม่เชื่อ หลายเสียงที่พูดแบบนี้ ต่างพยักหน้ากัน

เอเลน่า เธอจำได้ไหม ที่ฉันชวนเธออ่านหนังสือน่ะ เธอจำได้ไหม??
คำถามที่เกือบจะหมดแรงอยู่แล้วแต่ก็ต้องเข้มแข็งไว้ ต้องพูดให้จบ

จำได้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยน่ะ ไม่ต้องนอกเรื่อง

อืม...ใช่นั้นแหละ ฉันชวนเธอแต่เธอไม่เอา แต่มานูเอา แร่ะตอนนี้เป็นไง
 พอไม่ได้ก็มาทำร้องไห้ แล้วฉันจะบอกอะไรให้น่ะ แต่ก่อนนะ แน่นอนฉันอยากจะ
 จะเลื่อนชั้นให้เร็ว แร่ะจบเร็ว ๆ ที่สุด แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากได้แล้ว

ถ้าเธอไม่อยากได้เธอก็ไปบอกครูให้เอามาให้ฉันสิ

ถ้าฉันทำได้ ฉันจะทำทันทีเลย แต่ครูทุกคนเขาเลือกมาแล้ว เกรดเธอไม่ได้
 ต่อให้พ่อแม่ของเธอก็ช่วยไม่ได้หรอก ฉันจะบอกเอเลน่า

แล้วทำไมเธอถึงไม่อยากได้แล้วล่ะตอนนี้นะ เสียงแทรกมา สีหน้าเข้มเหมือนจะโกรธ

พวกเธอไม่รู้อะไรหรอก แค่สิ่งที่ฉันเป็นอยู่นี่มันก็เจ็บอยู่แล้ว แร่ะวันนี้มาได้ยินเธอพูด
 แบบนี้ มันยิ่งทับเข้าไป เรื่อย ๆ ไหนจะยายฉันเสีย ไหนจะเรื่องที่แม่ฉันไม่สบายอีก
 แร่ะตัวฉันเองก็ไม่สบายอยู่เหมือนกัน แร่ะสิ่งที่เจ็บมาตลอด นั้นก็คือ ฉันอกหักอยู่
 พวกเธอไม่เคยรู้หรอก พวกเธอไม่เคยเห็นความจริงที่มันเจ็บแทบจะขาดใจตาย
 พวกเธอเห็นแต่ความร่าเริง สดใส เสียงหัวเราะ ที่ฉันต้องฝืนทำให้พวกเธอเห็น
 แร่ะแต่ก่อนที่ฉันตั้งใจอ่านหนังสือ แทบเกือบไม่ได้นอน ก็เพราะฉันอยากจะจบให้เร็ว ๆ
 ฉันไม่ได้ทำเพื่อฉัน แต่ฉันทำเพื่อเขาคนนั้น คนที่ฉันกับเขาเคยคุยกันไว้แต่ก่อน 
 ว่าถ้าฉันจบแล้ว เราจะทำอะไรกัน แต่ตอนนี้ เวลานี้ฉันเสียเขาไปแล้ว เสียเขาให้ใครอีกคน
 อีกคนที่ฉันก็รักเหมือนกัน..ความคิดที่อยากจะจบมากมาย ตอนนี้มันไม่อยากแล้ว
 มันอยากจะอยู่ที่ที่นี่ ที่ตรงนี้ ไม่อยากไปไหนอยากจะหยุดเวลาให้อยู่ตรงนี้...

 ไม่ต้องมาทำเป็นแต่งเรื่องหรอกน่ะ..
..เอเลน่า บางมันอาจจะเป็นจริงก็ได้น่ะ ดูแอนสิ จะยื่นอยู่ไหวไหมน่ะ
เพื่อนอีกคนกระซิบข้างหู ของเอเลน่า

เธอจะเชื่อไม่เชื่อ ฉันไม่ฝืนเธอ แต่ฉันอยากจะให้เธอคิดเห็นใจกันในสิ่งที่พูด
 มันรุนแรงเกินไป แค่ความเจ็บที่ฉันมีอยู่ตอนนี้มันก็หนักเกินแล้ว ยิ่งเธอมาพูดทับ
 แบบนี้แล้ว เหมือนใจมันจะขาด ล้มลงตรงนี้เลยก็ว่าได้ ถ้าเธอ..
แนนยังพูดไม่จบเลยเพื่อนอีกคนก็พูดแทรกมาทันที

ตายเลยสิ ล้มลง ตรงนี้เลยสิ จะได้ไม่มีใครเลื่อนชั้นคนที่ 4

เพื่อน ๆ หลายคนก็ต่างหันหน้ามาหาเอเลน่าคนเดียว สิบกว่าลูกกะตา
มองมาที่เอเลน่าคนเดียว...

แนนเหมือนหมดแรงจริง ๆ ในตอนนี้ แนนค่อย ๆ เดินถอยไปที่ผนัง แล้วก็ค่อย ๆ 
ไหลลงมาเรื่อย ๆ ... เหมือนตัวมันไม่มีแรงเหลืออยู่เลย เพื่อนหลายคนก็เดิน
เข้ามาเพื่อจะดึงตัวขึ้น แต่แนนก็ร้องบอกก่อนว่า  ไม่ต้องหรอกปล่อยฉัน

แอน ฉันเข้าใจเธอแล้วน่ะ อย่างร้องไห้น่ะ ค่อย ๆคุย เมดีน่า คนที่ใจดีที่สุด
ในห้องเรียน เธออาจจะเสียใจอยู่เหมือนกันที่เธอทำไม่สำเร็จ
เลยเข้าร่วมกับเอเลน่า

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอไม่เคยเข้าใจฉันหรอกเอเลน่า เธอเห็นแต่ฉันหัวเราะ
 แต่ความจริงแล้ว เสียงหัวเราะนั้นมันมาจากความเจ็บปวด ที่ร้องไห้ต่อหน้า
 เพื่อน ๆ ไม่ได้ เลยต้องฝืนให้มันเป็นเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแทน
 เธอไม่เป็นฉัน เธอไม่รู้หรอก เธอยังมีอะไร ๆที่ดีกว่าฉันเยอะ เธอไม่เคย
 ผิดหวังกับความรัก เธอยังมีเขาให้คอยห่วงใย และคอยห่วงใยเธอ
 แระสิ่งที่เธอมีมากกว่าฉันก็คือ เธอเกิดมาเธอก็ได้เห็นพ่อแม่ครบทุกคน
 แต่ฉัน ฉันเกิดมาตั้งแต่วินาทีแรก จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เคยเห็นหน้าพ่อ
 ที่แท้จริงของฉันเลย...ตอนที่ฉันอยู่เมืองไทย ตั้งแต่เข้าโรงเรียนจนถึง อายุ
 9 ขวบ ฉันก็ได้แต่อิจฉาเพื่อน ๆ ที่เขามีพ่อกัน มีพ่อคอยปกป้อง
 แต่ฉัน ฉันต้องทนเก็บความรู้สึกไว้ บางทีก็ถามแม่ ว่าพ่อไปไหน
 แต่แม่กลับไปตอบ แม่ตอบแค่ว่า ถึงไม่มีพ่อ แต่แม่ก็เป็นทั้งพ่อและแม่ให้แนนได้
 นี่คือคำที่ฉันรักแม่ของฉันมาก แร่ะฉันมาที่นี่ มาได้รู้จักพวกเธอ ที่เกิดมาก็มี
 พ่อกันทุกคน ถึงฉันจะมีพ่อเลี้ยงก็จริง แต่เขาไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของฉัน
 คนที่เป็นพ่อแท้ ๆของฉัน หายไปไหน...และอีกหลาย ๆ เรื่อง ที่ฉันควรจะอิจฉาเธอ

ต่างคนก็ต่างร้องไห้ น้ำตาที่ไหล มันชินแล้วสำหรับแนน ชินจนร้องไห้เหมือนไม่ได้ร้อง
นิ่งเฉย ไม่ตุกติก แต่ถ้าดูที่หน้า ไหลตากลับอาบแก้มเหมือนสายธาร...

ใครว่า ว่าฉันไม่ผิดหวังที่ฉันบอกว่าฉันมีคนรักที่ดีกว่าเธอแล้วที่จริงมันไม่ใช่
 ฉันไม่มีแฟน...และฉันก็แอบอิจฉาเธอมาตลอด ตั้งแต่ฉันได้ยินอันดี้บอกกับฉัน
 ให้ฉันติดต่อเธอให้กับอันดี้ ฉันรักอันดี้ แต่อันดี้ไม่รักฉัน อันดี้รักเธอ ได้ยินหรือยัง

+..อันดี้ หรอ ไม่จริง อันดี้เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับฉัน...+
 
นี่คือสิ่งที่ฉันอิจฉาเธอมาตลอด เธอเป็นได้ทุกอย่างสำหรับทุกคน แต่ฉัน ฉันทำ
 ไม่ได้เหมือนเธอ ใคร ๆ ก็รักเธอ

เลน่า(ย่อจากเอเลน่า)ค่อยเดินมานั่งลงข้างแนนอย่างช้า ๆ
ตอนนี้ต่างคนก็ต่างร้องไห้

เลน่า อันดี้เป็นเพื่อนที่ดีกับฉัน เธอก็เหมือนกัน ฉันรักอันดี้ไม่ลงหรอก 
 เพราะความรัก ความรู้สึกดี ๆตอนนี้มันยังไม่พร้อมที่จะให้ใคร แม้กระทั้ง
 จะแบ่งให้ตัวเองฉันยังทำไม่ได้เลย มันตกหล่นแตกที่ไหนฉันยังหาไม่เจอเลย ฯลฯ

และอีกมากมายที่แนนเล่าให้เพื่อนฟัง สรุปว่าวันนี้ ระบายออกมาหมดทุกอย่าง
ไม่ว่าอะไรที่เคยปิดเพื่อน ๆ ก็เล่าให้ฟัง มันเศร้ามาเลยตอนที่เล่า ต่างคนก็ร้องไห้กัน
บสงคนพอฟังจบแล้วกลับร้องไห้เสียงดังขึ้นมา ทำให้ทุกคนอดไม่ไหว 
กอดกันร้องไห้กันทั้งกลุ่ม 
(..คงจะนึกออกน่ะว่าความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง ทุกคนที่อ่านทุกคนอยู่ด้วยก็อดไม่ได้..)

ฉันขอโทษ...ฉันนึกว่าเธอก็รักอันดี้ แต่ที่แท้ก็ก็มีแฟนของเธออยู่แล้วเหมือนกัน
 ฉันขอโทษกับคำที่ว่าเธอ เมื่อกี้นี้ ฉันเสียใจ ฉันขอโทษ


แร่ะอีกมากมายที่คุยกัน แต่เพราะกลัวทุก ๆคนอ่านจะเหนื่อย 
เป็นว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่าเนาะ ฮิ ๆ ๆ ....

ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจกัน แต่สำหรับแนนกับอันดี้ก็ไม่รู้จะทำตัวเหมือน
เดิมได้หรือเปล่าเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ทุกคนว่าไงค่ะ ทุกคนว่าแนนควรจะทำตัว
ยังไงต่อไปดีกับอันดี้ เหมือนเดิม หรือว่า ห่างอีกนิดก็ดี

				
27 กันยายน 2547 02:09 น.

หรือเป็นเพราะรัก?...4

เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ

คืนแรกของกรุงเทพ แว่นแก้วหลับสนิท เพราะการเดินทางที่ยาวไกล เธอไม่เคยเดินทางไกลมากกว่า 10 ชั่วโมงมาก่อน ไหนจะลงจากดอยมาสู่ตัวจังหวัดเชียงใหม่ ไหนจะเดินทางผ่านแต่ละจังหวัด และยังจะมาเจอกับรถที่ติดยาวเหยียดของกรุงเทพอีก หัวถึงหมอนแว่นแก้วก็หลับสนิท ทั้ง ๆ ที่คิดไว้ว่ามากรุงเทพสิ่งแรกที่จะทำคือถึงจะเขียนจดหมายหาแสงเดือน หาแม่... ก็ทำไม่ได้ เพราะร่างกายสู้ความหนักของหนังตาไม่ได้ 

แว่นแก้วตื่นแต่เช้า พอลืมตาเธอตกใจกับห้องที่ใหญ่โต และดูแปลกไป แต่แล้วเมื่อตั้งสติได้ก็โล่งใจ บ้านคุณเชษฐา ไม่ใช่บ้านเธอ แว่นแก้วส่ายหัวเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นล้างหน้า แปรงฟัน และอาบน้ำ จากนั้นก็เดินลงจากชั้นสอง 

อ้าว!! คุณแว่นแก้ว ตื่นแต่เช้าเลยนะคะ 

สาวที่กำลังถือจานข้าวต้มจานใหญ่มาวางที่โต๊ะอาหารทักทาย 

แว่นแก้วตื่นเวลานี้ประจำหน่ะคะพี่สาว ต้องลุกมาช่วยแม่นึ่งข้าว ทำกับข้าวจะได้ห่อไปกินที่โรงเรียน แม่แว่นแก้วทำอาหารอร่อยนะพี่สาว ทำทีหนึ่งนะแบ่งกินเกือบทั้งโรงเรียนเลย 

แว่นแก้วช่วยสาววางจานเป็นชุด ๆ ตามเก้าอี้ 

ขนาดนั้นเลยเหรอคะคุณแว่นแก้ว 

แว่นแก้วล้อเล่นหน่ะคะ แค่แบ่งเพื่อน ๆ ในกลุ่มกินก็พอแล้วคะพี่สาว เด็กสาวหัวเราะกิ๊ก 

คุยอะไรกันแต่เช้าจ๊ะเด็ก ๆ  เสาวนีย์เดินมาที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งลงที่ประจำของตัวเอง 

อรุณสวัสดิ์จ๊ะแว่นแก้ว ตื่นเช้าจังนะเรา 

อรุณสวัสดิ์ค่ะป้านีย์ แว่นแก้วทักตอบ 

นั่งลงสิ ไหน ๆ ก็ตื่นเช้าทานข้าวเช้าด้วยกันเลย เป็นไงบ้าง เมื่อคืนหลับสบายดีไหมจ๊ะ 

สบายมาก ๆ เลยค่ะป้านีย์ แว่นแก้วหลับสนิท คงเพราะเดินทางเหนื่อยหน่ะคะ 

แว่นแก้วนั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ เสาวนีย์ เธอนึกรักคำพูดช่างจำนรรจาของแว่นแก้วนัก ถ้าลูกสาวของเธอสดใสร่าเริง อ่อนหวานแบบแว่นแก้วคงจะดีไม่น้อย แต่ดูสิ ไม่รู้นึกอย่างไรของเขา กลายเป็นทอมบอยไปได้ แค่นั้นไม่พอ ยังจะเพลย์บอยอีก ดีนะ ที่การเรียนไม่เสีย ไม่อย่างนั้นคงกลุ้มใจมากกว่านี้แน่ ๆ เสาวนีย์เหลือบเห็นเชษฐาที่เดินลงมาพร้อมรอยยิ้ม 

อ้าวคุณ!! ไม่พักก่อนเหรอคะ เดินทางมาเหนื่อยไม่ต้องรีบเข้าบริษัทหรอกคะ 

เสาวนีย์ทักทายเชษฐาที่เดินมาทางโต๊ะอาหารแล้วนั่งลง 

ไม่เป็นไรหรอก มีงานค้างอีกเยอะ ผมหยุดนานแล้ว ตื่นเช้าจังนะแว่นแก้ว 

เชษฐาหันไปทักทายเด็กสาว เธอยิ้ม ตอบเพียง ค่ะ แล้วก้มหน้าคนจานข้าวต้มช้า ๆ ให้อุ่นจะได้ทานได้ 

จิรัชหล่ะคุณ วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ ตื่นสายเชียว 

เชษฐาถามเสาวนีย์ถึงลูกสาวอีกคน แต่แว่นแก้วที่ได้ยินชื่อของจิรัชชา ถึงกับหน้าแดงถึงใบหู เธอก้มหน้างุด คนจานข้าวต้มแรงขึ้นเรื่อย ๆ อยู่อย่างนั้น จิรัช คนอะไรไม่อายฟ้าดิน!! 

ไม่มั้งคะ เมื่อคืนเข้าบ้านแล้วก็ออกไปต่อ ไม่รู้อะไรหนักหนา 

เอาๆๆ ช่างเค้า เรารีบทานกันดีกว่า เดี๋ยวรถจะติด 

เชษฐาตัดบท เขาเพียงแต่ดื่มกาแฟกับขนมปังสองสามชิ้นเท่านั้นเอง ส่วนเสาวนีย์ทานข้าวต้มเพียงเล็กน้อยกับกาแฟแก้วหนึ่ง และตรงหน้าของแว่นแก้วมีนมหนึ่งแก้วกับจานข้าวต้มที่ถูกคนจนจะเย็นชืด.... 

ทานนมด้วยนะลูก จะได้โตเร็ว ๆ  

เชษฐาพูดจบก็ลูบผมเด็กสาวแล้วลุกขึ้น เสาวนีย์เพียงยิ้มให้เธอแล้วลุกตามเชษฐาไป แว่นแก้วมองตามจนสองคนเดินออกจากบ้านและขึ้นรถขับออกไป ดูเหมือนคนขับรถจะเป็นจา เพราะเธอเห็นจาเดินมาเปิดประตูให้เสาวนีย์ แว่นแก้วละสายตาจากรถคันหรูแล้วก้มมองจานข้าวตัวเอง แม่พิกุล ถ้าเป็นเช้า ๆ แบบนี้เธอต้องทานข้าวกับแม่และยาย เด็กสาวถอนหายใจวางช้อนลงแล้วดื่มนมหมดแก้ว เธอดื่มนมเก่งเพราะแม่พิกุลให้ดื่มตั้งแต่เด็ก และเธอเองก็ชอบรสชาดของมันด้วย 

แว่นแก้วเดินเล่นหน้าบ้าน สวนของบ้านหลังนี้ แสนกว้างใหญ่ แว่นแก้วนั่งลงที่ชิงช้าเรือนไม้สักที่วางไว้กลางสวน มีต้นไม้ข้าง ๆ ให้ร่มเงา. แสงเดือนเช้า ๆ แบบนี้กำลังทำอะไรอยู่นะ ถ้าอยู่ที่นั่นคงไปสวนกับแม่ ไปดูคะน้าที่เพิ่งจะเอาลงแปลง กับหัวหอมที่เกือบ ๆ จะขายได้แล้ว ไปวิ่งเล่นแถว ๆ นั้น แอบเก็บแตงของสวนข้าง ๆ มานั่งกิน หรือช่วยแม่ใส่น้ำลงแปลงผัก แว่นแก้วถอนหายใจ คิดถึงบ้านจัง เด็กสาวเหม่อมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย จะต้องอยู่ที่นี่อีกนานไหมนะ. 

ตุ๊บ!!! 

แว่นแก้วสะดุ้ง มือใหญ่วางอยู่บนโต๊ะข้างหน้าเธอ เด็กสาวเงยหน้ามองเจ้าของมือที่ทุบโต๊ะ ใครกัน!!! แว่นแก้วลุกขึ้นอย่างทันที อีกฝ่ายมองหน้าเธอเคือง ๆ นัยย์ตาดุของคนนั้นจ้องเธอไม่วางตา เด็กสาวแม้จะกลัวแต่ก็จ้องกลับเหมือนกัน ตาเธอเองก็ดุใช่ย่อยเหมือนกันนะ 

เธอเป็นใคร! มาอยู่บ้านฉันได้ยังไง อีกคนในชุดนอนถามแว่นแก้วอย่างเอาเรื่อง 

แล้วคุณเป๋นไผ๋ ไข้ฮู้หย่ะหยั๋งบ่อถามดี ๆ ไม่ได้พูดเพราะตกใจ แต่พูดเพราะต้องการพูดแบบนั้น เอาให้งงไปเลย 

ฉันถามเธอก่อน อย่ามาย้อนฉัน! เสียงดุ ๆ ของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้แว่นแก้วกลัวแต่อย่างใด เด็กสาวกลับเชิดหน้า แล้วมองกลับอย่างท้าทาย 

บ่อบอก บ่อมีเหตุผลอะหยั๋งตี้ต้องบอกกับคนตี้บ่อฮู้จักจื่อ 

อย่ามายั่วโมโหฉันนะ ฉันถามเธอดี ๆ แล้วนะ เป็นเด็กเป็นเล็ก หัดเคารพผู้ใหญ่ซะมั่ง แล้วใครบอกให้เธอพูดภาษาเหนือกับฉัน ห๊า!! อีกฝ่ายทุบโต๊ะลงไปอีกที 

แว่นแก้วเฉยแล้วเดินเลี่ยงไป ไม่อยากเสวนากับคนขี้โมโหฉุนเฉียว ไร้เหตุผล 

หยุด!! ห้ามเดินหนีฉัน นี่เธอได้ยินไหม 

จิรัชชาคว้าแขนแว่นแก้วไว้แล้วรั้งให้หันมาหาตัวเอง เด็กสาวถลาตามแรงฉุดจนเกือบล้ม 

คุณจิรัช!! คุณจะทำอะไรคะ 

จิรัชชาปล่อยมือจากแขนของแว่นแก้ว เด็กสาวเดินไปหาเจ้าของเสียง 

ป้าเนียน อะไรป้า จิไม่ได้ทำอะไรนะ แค่ถามชื่อน้องเค้าเท่านั้นเอง จิรัชชาทำเสียงอ่อน แล้วเดินมากอดร่างอ้วนท้วนของป้าเนียน ป้าเนียนถอนใจ เป็นแบบนี้ทุกที 

คุณแว่นแก้วค่ะ ลูกสาวของคุณผู้ชายไงคะ 

อ๋อ.. เด็กบ้านนอกเองเหรอ ถึงว่าสิพูดภาษากลางไม่เป็น ไม่เป็นไรฉันไม่ถือ ป้าเนียนจ๋า จิหิวแล้วค่ะ มีอะไรให้จิกันมั่งคะ 

จิรัชชาหันไปออดอ้อนป้าเนียนโดยไม่ได้ใส่ใจอีกฝ่ายที่ลูบข้อมือด้วยความเจ็บ ดูสิบีบซะแน่นจนเป็นรอยมือเลย คอยดูนะ!! จิรัช... งั้นเหรอ คงจะเป็น จิรัชชาลูกสาวป้านีย์แน่ ๆ แว่นแก้วมองเคือง ๆ ไปทางจิรัชชา แม่ก็ออกจะนิสัยดี แต่ดูลูกสิแย่ชะมัด!! คอยดูนะ จะไม่พูดไทยกับคน ๆ นี้เลย คอยดู!! เอาให้งง จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับเรา แว่นแก้วหันซ้ายขวา ในขณะที่คิดว่าจะไปไหน ก็เหลือบเห็นลุงรักทำอะไรสักอย่างอยู่ตรงสวนอีกฟากของบ้าน เด็กสาวจึงเดินไปหา 

ลุงรัก ทำอะไรคะ แว่นแก้วช่วยไหม 

ไม่เป็นไรหรอกครับคุณหนูแว่นแก้ว เดี๋ยวเนื้อตัวสกปรกเปล่า ๆ ผมทำเองได้ครับ 

เรียก แว่นแก้วก็พอค่ะลุง 

เด็กสาวนั่งลงข้าง ๆ 

ลุงรัก ลืมไปแล้วเหรอคะ แว่นแก้วอยู่ดอยมาก่อนนะ สกปรกกว่านี้ยังเคยเลยค่ะ เวลาตามแม่ไปหาหอยหาปูแถวนาข้าวหน่ะ เปื้อนโคลนตั้งแต่หัวถึงเท้าเลยนะคะ ม่ะ!! แว่นแก้วช่วยดีกว่า ไม่มีอะไรทำมันเหงาหน่ะคะ 

เด็กสาวไม่พูดพล่ามทำเพลงคว้าเสียมมาขุดดินอย่างชำนาญ ปากก็คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ลุงรักฟัง เรื่องการผจญภัยในป่าเวลาออกไปหาหน่อไม้กับแม่ หรือเรื่องการเที่ยวตามลำน้ำกับแสงเดือนเพื่อนรัก เธอคุยจนลุงรักชักอยากจะไปเที่ยวแถวบ้านเธอซะแล้ว 

สาวยกน้ำมาให้แว่นแก้วและลุงรัก แล้วนั่งล้อมวงคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างสนุกปาก เรื่องสมัยสาวอยู่บ้านนอก หรือเรื่องสมัยลุงรักหนุ่ม ๆ แข่งกันเล่า ผลัดกันฮา โดยไม่รู้ว่ามีสายตาเคือง ๆ ของจิรัชชาคอยมองอยู่ตลอดเวลา.. 

แค่นี้นะคะแอน.. จิมีธุระจริง ๆ ค่ะ.. แล้วจะโทรไปหาใหม่นะคะ.. บายค่ะ จ๊ะ คิดถึงนะ 

จิรัชชาวางโทรศัพท์อย่างอารมณ์เสีย เด็กคนนี้อยู่ ๆ ก็เข้ามาเดินโฉบฉายในบ้าน ตอนเช้าแม่ก็ดูรักมันซะเหลือเกิน พ่อเองก็ใช่ย่อย ห่วงเหลือเกินนะ ถึงต้องบอกให้กินนมเยอะ ๆ เนี่ย หมั่นไส้ชะมัด. ต้องจัดการซะหน่อยแล้วมั้ง จิรัชชายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินไปกลุ่มที่พูดคุยอย่างสนุกสนานตรงหน้า 

สาว!! ไม่มีอะไรทำเหรอ มานั่งสุมหัวอะไรกันตรงนี้ จิรัชชาถามเรียบ ๆ แต่เน้นน้ำเสียงให้ดูดุเข้าไว้ 

งานของสาวหมดแล้วค่ะคุณจิรัช 

หมดได้ไง ห้องฉัน.. เธอไปเก็บแล้วเหรอ 

เอ๋ สาวเลิกคิ้ว 

เอ๋อะไร ไปสิ 

จิรัชชามองดุ ๆ มาทางสาว ตาที่หวานเชื่อมเวลามองสาว ๆ พอทำดุเข้าที ใคร ๆ ก็กลัวกันหมดแหละ สาวก็ได้แต่พยักหน้าและเดินออกไป อะไรของเค้านะ! ปกติเก็บเองไม่ใช่หรือยังไงห้องนอนหน่ะ หวงอย่างกะอะไรดี วันนี้มาแปลก ให้เก็บห้อง คุณจิรัช กินยาอะไรผิดมาหรือเปล่าหว่า สาวเดินออกไปด้วยอาการงง ๆ 

ลุงก็เหมือนกัน สวนที่อื่นก็มีทำไมไม่ไปดูแล สุมหัวกันอยู่ได้! จิรัชชาหันมาทางลุงรักบ้าง 

คือผมกำลังปลูกต้นไม้พวกนี้. 

จิบอกให้ไป ก็ไปสิ 

ครับ ๆ  

ลุงรักเดินออกไปทิ้งต้นไม้สองสามต้นที่ยังไม่ได้ปลูกไว้ตรงนั้น อะไรของเค้ากันหว่า.. ทุกทีจะกุลีกุจอมาช่วย แต่วันนี้กลับไล่ไปทำที่อื่น แปลกจริงคุณจิรัช!! ลุงรักเดินไปสวนอีกฝั่งด้วยอาการงงไม่แพ้สาวเช่นกัน 

แว่นแก้วเห็นทุกคนไปกันหมด แล้วเธอจะอยู่ตรงนี้ทำไมหล่ะ เด็กสาวลุกขึ้นยืนปัดไม้ปัดมือ ปัดกางเกง เพื่อให้ดินที่ติดอยู่หลุดออกไปบ้าง แล้วเชิดหน้าเดินผ่านจิรัชชาไปอย่างไม่ได้ใส่ใจ 

เดี๋ยว!! จะไปไหน 

ไปตี้อื่น เด็กสาวตอบเรียบ ๆ 

กับคนอื่นพูดไทยได้ กับฉันก็กรุณาพูดด้วยนะ 

แว่นแก้วจะอู้กับคนตี้ไข้อู้ บ่ออู้กับคนตี้บ่ออยากอู้โตย 

เด็กสาวเดินตัวปลิวโดยไม่สนใจอีกคนที่ตาค้างอยู่ตรงนั้น จิรัชชานึกชังในท่าทางที่ดูหยิ่งยโสของแว่นแก้ว แถมการพูดจาที่ฟังไม่เข้าหู ดูแก่แดดเกินวัยอย่างไงอย่างนั้น เด็กบ้านนอกปกติต้องเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อยไม่ใช่หรือยังไง แต่นี่ดูสิแก่นแก้ว ปากคอเลาะร้าย จิรัชชาส่ายหน้าแล้วเดินตามแว่นแก้วไป นึกอยากเอาชนะความปากกล้าของเด็กสาวขึ้นมาซะเฉย ๆ 

เดี๋ยว!! ไม่คุยกันก่อนเหรอ 

แว่นแก้วบ่อฮู้จะอู้อะหยั๋งกับคุณ 

ทำไมไม่เรียกพี่ ฉันอายุมากกว่าเธอนะ 

 

ไม่มีคำตอบจากแว่นแก้ว นั่นสินะทำไมเธอไม่เรียกจิรัชชาว่าพี่ ทั้ง ๆ ที่ กับคนอื่นเธอก็อ่อนน้อมด้วย แต่กับคน ๆ นี้ ใช่สิ!! การกระทำของเขาคนนี้ ทำให้เธอไม่อยากเรียกพี่ คนอะไรไม่อายฟ้าดิน!! อีกอย่าง เป็นผู้หญิงแท้ ๆ กลับทำตัวอย่างกะผู้ชาย เที่ยวกลางคืน ไม่หวงตัวบ้างหรือไงนะ เด็กสาวแลหางตามองอีกฝ่ายที่เดินตามเธอเข้ามาในบ้าน แล้วทิ้งตัวลงโซฟา นั่งกระดิกเท้าอยู่ตรงนั้น แถมเปิดทีวีดูอย่างไม่ใส่ใจ เด็กสาวส่ายหน้า คนรวยเค้าทำตัวกันแบบนี้เหรอ. เธอเดินเลี่ยงไปที่ห้องครัว ไม่อยากอยู่ใกล้คน ๆ นี้ อีกอย่างไม่รู้จะอยู่ส่วนไหนของบ้านออกนอกบ้านก็ไม่เป็น อยู่ตรงไหนก็ไม่ถูกใจ คิดถึงบ้าน คิดถึงป่า คิดถึงแม่ ยาย แสงเดือน ต้องหาอะไรทำซะแล้ว 

แว่นแก้วเดินไปห้องครัว จิรัชชามองตามแล้วส่ายหน้า คิดจะไม่ตอบก็เดินหนีเฉย ๆ เลยนะเด็กน้อย 

ป้าเนียนทำอะไรอยู่คะ 

ลาดหน้าค่ะคุณแว่นแก้ว 

แว่นแก้วช่วยนะคะ 

แว่นแก้วเด็ดผัก เอาไปล้างแล้วหั่นวางไว้อย่างคล่องแคล่ว ป้าเนียนมองอย่างชื่นชมกับความน่ารักของแว่นแก้ว ดวงตาหวานที่เหมือนเชษฐาอย่างกับถอดกันมา จมูกโด่งนิด ๆ กับปากรูปกระจับ จัดว่าสวยทีเดียวแหละเด็กคนนี้ อีกทั้งผิวที่ขาวตามแบบฉบับชาวเหนือนั่นอีก ผมยาวตรงระบ่านั่นก็ดูพริ้วสวยดำขลับ. แว่นแก้วเงยหน้าจากผักพวกนั้นก็เจอกับใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยนของป้าเนียน เด็กสาวยิ้ม นึกงงที่ป้าเนียนมองเธอ ก้มลงมองตัวเองแต่งตัว เสื้อยืดสีขาวมอ ๆ กับกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน น่าดูตรงไหนหว่า.. 

ป้าเนียนดูอะไรเหรอคะ เด็กสาวหันซ้ายหันขวา 

เปล่าค่ะ ป้าเนียนว่า คุณแว่นแก้วสวยจังนะคะ 

เด็กสาวหัวเราะเก้อ 

ป้าเนียนหล่ะก็ แว่นแก้วอายนะคะ 

แว่นแก้วคุยกับป้าเนียน ถึงได้รู้ว่า ที่จริงแล้ว จิรัชชาเป็นลูกของเสาวนีย์กับสามีเก่าที่เสียไป จิรัชชายังเด็กเมื่อตอนเสาวนีย์แต่งงานกับเชษฐาจึงเรียกเชษฐาว่าพ่อจนติดปาก แต่ตัวจิรัชชาเองรู้ว่าเชษฐาไม่ได้เป็นพ่อแท้ ๆ 

ป้าเนียนยังเล่าให้ฟังอีกว่า เสาวนีย์เป็นคนสวย และยังสาว แต่หลังจากที่สามีเสียชีวิตได้ไม่นานทุกอย่างก็ตกเป็นของเสาวนีย์ แต่ด้วยความที่ไม่เคยบริหารงานของบริษัททำให้กิจการเริ่มแย่ จึงต้องจับมือกับเชษฐาที่บริษัทก็ย่ำแย่เหมือนกัน เพื่อจะได้ช่วยพยุงซึ่งกันและจน ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันเพียงแต่ในนาม จนบริษัททั้งคู่ยืนหยัดได้อีกครั้ง การแต่งงานครั้งนี้ไม่มีคำว่า รัก มาเกี่ยวข้องเลย... 

นี่คงเป็นเหตุผลที่ทั้งสองคนไม่นอนห้องเดียวกัน แว่นแก้วคิด แสดงว่าเชษฐายังคงรักแม่เธออยู่ แต่ก็นั่นแหละ ก็ยังทิ้งเธอไปอยู่ดี แม้จะมีจดหมายแสดงความห่วงใย รักใคร่มากมายแค่ไหน แต่คน ๆ นั้นก็ทิ้งเธอกับแม่ ปล่อยให้เธอนั่งอิจฉาใครต่อใครที่มีพ่อคอยปกป้องดูแล ปล่อยให้โหยหาความรักความอบอุ่นจากพ่ออยู่ดี ยังไงสิ่งนี้ก็ยังไม่ทำให้เธอยอมรับพ่อของเธอได้เต็มใจ 


+*-*++++*-*+_หมูน้อยอารมณ์ดี_+*-*++++*-*+				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ
Lovings  เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ
Lovings  เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ
Lovings  เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ