30 กันยายน 2547 04:36 น.

ตอนเช้ายังดี ๆ พอมีข่าวดีมากลับทะเลาะกันอีก ((แต่ก็เข้าใจกันอีกเช่นเคย))

เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ

เมื่อแนนไปถึงโรงเรียนมันก็ออกจะตื่นเต้นหน่อยเพราะเห็นเพื่อน ๆ .......

+...มาทำอะไรกันเยอะแยะเลย มีอะไรกันปล่าวน่ะ...+
แนนก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างช้า ๆ ว่าจะหลบเพื่อน แต่ก็หลบไม่พ้นจนได้ ฮิๆ ๆ

....Hey....แอนมา เพื่อนหญิงวิ่งกานมาอย่างเยอะเลย
+..หุ้ยย...จะทับเราหรือเปล่าหว่ะ..เสียวอ่ะ+ แนนทำสีหน้าไม่ค่อยดีเลย เพราะกลัว
สวัสดีตอนเช้าแอน ....จุ๊บ...จุ๊บ...!! หอมแก้มกันใหญ่เลย 

((...แอนชื่อเพื่อนที่โรงเรียนเรียกกัน))....

จ๊ะ สวัสดีตอนเช้าจ๊ะ  แนนตอบกลับเพื่อน ๆ หลาย ๆ คน 

แอน เธอรู้ป่ะวันนี้อ่ะ เป็นวันประกาศผล...เย้ๆๆๆ พอคนนึงพูดจบเสียงประสานก็ตามมา
ประกาศผลไร.... หน้างิ้ว คิ้วขมวดเลยอ่ะค่ะ ประกาศผลไรหน๋ออออ....
ประกาศผลร้องเพลงไง... มานูเพื่อนสุดรัก รีบแทรกเสียงขึ้น
หร๋อ...จริงอ่ะ ใครบอกพวกเธอรู้ได้ยังไง.. คราวนี้หน้าไม่งิ้วคิ้วไม่ขมวดค่ะ
แต่ตาเป็นลูกห่านเลย ฮิๆ ๆ ๆ ๆๆ .....
นั้นไง....ติดอยู่นั้นน่ะ เอเลน่า แร่ะเพื่อนก็ดึงแขนของแนนไปดู

แนนยังไม่ได้อ่านเลย ครูประจำชั้นก็มาพอดี ต่างก็วิ่งไปหาครูกัน 
แต่แนนไม่วิ่ง(..ปวดขา..) 5555555...

ครูชาเด...ใครได้ที่เท่าไหร่ ใครได้ที่ 1 ต่างก็ดึงตัวครูมาถาม เสียงดังพอสมควร
เข้าห้องก่อน เข้าห้องก่อน เสียงดังกันจริง ๆ ครูเดินเข้าห้องเด็ก ๆ ก็ตามครูไปด้วย
แต่แนนไม่ได้เดินเข้าเองอ่ะ พลอยโดนเพื่อนลากเข้าเลย ไม่ต้องเดินให้ยาก ฮิๆ ๆ 

 นั่ง ก่อน ๆ ...วันนี้เรามีข่าวดีอยู่สองเรื่องน่ะ เรื่องที่ 1 เรื่องประกวดร้องเพลง เรื่อง..
ใครได้ที่ 1 ค่ะ ครูชาเด...?? เงี้ยวครูยังพูดไม่จบเลย นาตาลีก็ยกมือถามแร่ะ
บอกเรื่องแรกก่อนน่ะค่ะ น่ะค่ะๆ... อ้อนครูกันทั้งห้องรวมทั้งแนนด้วยล่ะ ดีใจอยากรู้
บอกก็บอก.. ครูเหมือนจะเหนื่อยที่คุมนักเรียนห้องนี้ไม่ค่อยได้
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ... ร้องกันซะดังทั้งห้องเลย แก้วหูเกือบแตก
ที่ 1 ...เสียดายไม่ใช่ห้องเรา นักเรียนต่างหน้าเศร้ากันหมดเลย
เป็นห้อง 9เอ. ชื่อ วาเนสซ่า โคลด้า ร้องเพลง WhEn u LoOk aT mE
 ส่วนที่ 2 เป็นห้องเราเอง เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ....เสียงร้องดังขึ้นอีกที
ให้ฉันพูดเสร็จก่อนสิ พวกเธอนี่จริง ๆ เลยน่ะ โดนครูด่าเลยง่ะ แต่แนนม่ะโดน
เพราะมัวแต่ลุ้น ไม่มีอารมณ์ร้องโห่...
ที่ 2 ห้อง 8เอ. ชื่อ นิทายา แถวพันธุ์ ร้องเพลง No MorE tEaRs
 ที่ 3 ห้อง 8บี. ชื่อ เฮ่าเชอร์ ไคโต๊ะ ร้องเพลง iF TomOrrOw NevEr ComEs

พอรู้ว่ามีชื่อของตัวเองด้วย แนนก็ยิ้มไม่หุบเลยล่ะ แบบว่า ดีใจสุดขีดดดดดดดดด.....
เพื่อน บางคนก็ร้องดีใจด้วย บางคนก็ร้องบอกว่า เสียดาย เป็นไปได้ไง
หุหุ แต่เสียใจเพื่อนเอ๋ย มันเป็นไปแร้นนนน...ฮิ ๆ ๆ 

มาถึงเรื่องที่ 2 กันดีกว่า ในห้องเราจะมีคนได้ขึ้นไปเรียนที่ห้อง 9 ทั้งหมด 4 คน
 คนที่ 1 อันดี้ คนที่ 2 สะตราโทส์ คนที่ 3 มานู คนที่ 4 นิทายา

+...เห๋อ..มีชื่อเราด้วย เป็นไปได้ยังไงหว๋าาาาา...+ 
(..นิทายา ก็คือ นิตยาค่ะ ที่นี่เขาเรียกไม่ชัดเลย...)
(..กลายเป็น นิทายา ไปอย่าง ถาวรณ์เลยค่ะ..)

พอครูบอกข่าวดีจบ ก็มีเสียง ย้าาา.. บ้างก็ เยส บ้างก็โห๋ เสียงดังทับกันไป
แต่แนนกลับเศร้า ได้แต่ก้มหน้าถามตัวเองว่า
+..ไม่ดีใจหรอที่ตัวเองได้เลื่อนชั้น ไม่ได้เรียนที่ชั้น 8 แต่ข้ามไปเลย...+
+..ใคร ๆ เขาก็อยากจะเลื่อยชั้นกันทั้งนั้น จะต้องดีใจกับตัวเองสิ...+

 ย้า...แอน พวกเราทำได้เห็นไหม เป็นเพราะเธอเลยน่ะที่ชวนฉันอ่านหนังสือ
  ไม่งั้นก็คงไม่ได้เปลี่ยนแน่นอนเลย ขอบใจน่ะ จุ๊บ... 

อืมไม่เป็นไรหรอก..ฉันก็ดีใจด้วยที่เธอยอมทำตามที่ฉันชวน
  แร่ะถ้าไม่มีเธอเป็นเพื่อนเตือนอะไร ต่อมิอะไรก็คงไม่ได้เหมือนกันแร่ะ

ต่างคนก็ต่างคุยสรุปว่า 3 ชั่วโมงแรกไม่ได้เรียน มีแต่โม้อย่างเดียว
แนนก็นั่งก้มหน้าอยู่ตรงนั้น 3 ชั่วโมงเหมือนกัน ก็มีเพื่อนมาคุยด้วย
ก็ตอบไปบ้าง...แต่แปลกดีเนาะ ไม่มีอาการดีใจ ((..อยากรู้อ่านต่อ ฮิๆ ..))


พักเรียนแล้ว ต่างคนก็ต่างออกจากห้องรวมทั้งแนนด้วย พอแนนเข้าไปในห้องน้ำหญิง
ก็เจอเพื่อน ๆ ในห้องน้ำกันหมดเลย บางคนก็ร้องไห้ แนนก็ตกใจเลยเข้าไปดูแระก็ปลอบ
พอเพื่อนหันหน้าขึ้นก็บอกกับแนนว่า

เพราะเธอนั้นแร่ะ มาแย่งที่ฉัน ถ้าเธอไม่ได้ ฉันต้องเป็นคนได้ 
 อ๋อ...คงจะไปอ้อน ทำตาหวานให้ครูหลาย ๆ คนน่ะสิ ครูเลยให้
 คะแนนสะสมดี ๆ ตกลงครูคนไหนล่ะที่เสร็จเธอนะ ฉันว่าตอนนี้
 ก็คงไม่เหลือแล้วล่ะสิ

แนนทำอะไรไม่ถูกเลยเมื่อได้ยินคำนี้ คำที่เพื่อนๆ หลาย ๆ คนไม่เคยพูด
จริง ๆจัง ๆส่วนมากจะเล่นกันเท่านั้น ยืนนิ่งให้เพื่อนต่อว่า น้ำตาก็คลอลูกตา
มันจะไหลลงมาอยู่แล้ว เจ็บมากกับคำว่า ตอนนี้คงไม่เหลือแล้ว

เอเลน่า มันไม่เกี่ยวหรอกน่ะ...สิ่งที่เธอพูดมานะคิดดูซะมั้งน่ะว่าใช้อะไรคิด
 คะแนนสะสมก็คือคะแนนที่มาจากการเรียนของทุกคน ไม่ใช่ว่าจะไปอ้อน
 คะแนนจากครู ฉันไม่ทำอย่างนั้นหรอก เธอก็รู้ไม่ใช่หรอว่าฉันเป็นคนยังไง
 เป็นเพื่อนกันมานานแค่ไหนแล้ว อย่ามาพูดให้เหมือนเด็ก ๆ หน่อยเลยน่ะ
 เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ... 

แล้วเธอได้เลื่อนชั้นได้ยังไง     มันเป็นไปไม่ได้หรอกน่ะถ้าจะบอกว่าเป็นคะแนนสะสม
 เพราะเธอก็เรียนรวมเกรดทุกวิชาแล้ว เธอไม่เคยได้ 1 แลยแม้แต่ครั้งเดียว
 ต่อให้สาบานก็ไม่มีใครเชื่อ ใช่ไหม...ๆ...? เอเลน่าหันหน้าไปถามเพื่อน ๆ ข้างหลัง

ใช่ ๆ ฉันก็ไม่เชื่อ หลายเสียงที่พูดแบบนี้ ต่างพยักหน้ากัน

เอเลน่า เธอจำได้ไหม ที่ฉันชวนเธออ่านหนังสือน่ะ เธอจำได้ไหม??
คำถามที่เกือบจะหมดแรงอยู่แล้วแต่ก็ต้องเข้มแข็งไว้ ต้องพูดให้จบ

จำได้ แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลยน่ะ ไม่ต้องนอกเรื่อง

อืม...ใช่นั้นแหละ ฉันชวนเธอแต่เธอไม่เอา แต่มานูเอา แร่ะตอนนี้เป็นไง
 พอไม่ได้ก็มาทำร้องไห้ แล้วฉันจะบอกอะไรให้น่ะ แต่ก่อนนะ แน่นอนฉันอยากจะ
 จะเลื่อนชั้นให้เร็ว แร่ะจบเร็ว ๆ ที่สุด แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากได้แล้ว

ถ้าเธอไม่อยากได้เธอก็ไปบอกครูให้เอามาให้ฉันสิ

ถ้าฉันทำได้ ฉันจะทำทันทีเลย แต่ครูทุกคนเขาเลือกมาแล้ว เกรดเธอไม่ได้
 ต่อให้พ่อแม่ของเธอก็ช่วยไม่ได้หรอก ฉันจะบอกเอเลน่า

แล้วทำไมเธอถึงไม่อยากได้แล้วล่ะตอนนี้นะ เสียงแทรกมา สีหน้าเข้มเหมือนจะโกรธ

พวกเธอไม่รู้อะไรหรอก แค่สิ่งที่ฉันเป็นอยู่นี่มันก็เจ็บอยู่แล้ว แร่ะวันนี้มาได้ยินเธอพูด
 แบบนี้ มันยิ่งทับเข้าไป เรื่อย ๆ ไหนจะยายฉันเสีย ไหนจะเรื่องที่แม่ฉันไม่สบายอีก
 แร่ะตัวฉันเองก็ไม่สบายอยู่เหมือนกัน แร่ะสิ่งที่เจ็บมาตลอด นั้นก็คือ ฉันอกหักอยู่
 พวกเธอไม่เคยรู้หรอก พวกเธอไม่เคยเห็นความจริงที่มันเจ็บแทบจะขาดใจตาย
 พวกเธอเห็นแต่ความร่าเริง สดใส เสียงหัวเราะ ที่ฉันต้องฝืนทำให้พวกเธอเห็น
 แร่ะแต่ก่อนที่ฉันตั้งใจอ่านหนังสือ แทบเกือบไม่ได้นอน ก็เพราะฉันอยากจะจบให้เร็ว ๆ
 ฉันไม่ได้ทำเพื่อฉัน แต่ฉันทำเพื่อเขาคนนั้น คนที่ฉันกับเขาเคยคุยกันไว้แต่ก่อน 
 ว่าถ้าฉันจบแล้ว เราจะทำอะไรกัน แต่ตอนนี้ เวลานี้ฉันเสียเขาไปแล้ว เสียเขาให้ใครอีกคน
 อีกคนที่ฉันก็รักเหมือนกัน..ความคิดที่อยากจะจบมากมาย ตอนนี้มันไม่อยากแล้ว
 มันอยากจะอยู่ที่ที่นี่ ที่ตรงนี้ ไม่อยากไปไหนอยากจะหยุดเวลาให้อยู่ตรงนี้...

 ไม่ต้องมาทำเป็นแต่งเรื่องหรอกน่ะ..
..เอเลน่า บางมันอาจจะเป็นจริงก็ได้น่ะ ดูแอนสิ จะยื่นอยู่ไหวไหมน่ะ
เพื่อนอีกคนกระซิบข้างหู ของเอเลน่า

เธอจะเชื่อไม่เชื่อ ฉันไม่ฝืนเธอ แต่ฉันอยากจะให้เธอคิดเห็นใจกันในสิ่งที่พูด
 มันรุนแรงเกินไป แค่ความเจ็บที่ฉันมีอยู่ตอนนี้มันก็หนักเกินแล้ว ยิ่งเธอมาพูดทับ
 แบบนี้แล้ว เหมือนใจมันจะขาด ล้มลงตรงนี้เลยก็ว่าได้ ถ้าเธอ..
แนนยังพูดไม่จบเลยเพื่อนอีกคนก็พูดแทรกมาทันที

ตายเลยสิ ล้มลง ตรงนี้เลยสิ จะได้ไม่มีใครเลื่อนชั้นคนที่ 4

เพื่อน ๆ หลายคนก็ต่างหันหน้ามาหาเอเลน่าคนเดียว สิบกว่าลูกกะตา
มองมาที่เอเลน่าคนเดียว...

แนนเหมือนหมดแรงจริง ๆ ในตอนนี้ แนนค่อย ๆ เดินถอยไปที่ผนัง แล้วก็ค่อย ๆ 
ไหลลงมาเรื่อย ๆ ... เหมือนตัวมันไม่มีแรงเหลืออยู่เลย เพื่อนหลายคนก็เดิน
เข้ามาเพื่อจะดึงตัวขึ้น แต่แนนก็ร้องบอกก่อนว่า  ไม่ต้องหรอกปล่อยฉัน

แอน ฉันเข้าใจเธอแล้วน่ะ อย่างร้องไห้น่ะ ค่อย ๆคุย เมดีน่า คนที่ใจดีที่สุด
ในห้องเรียน เธออาจจะเสียใจอยู่เหมือนกันที่เธอทำไม่สำเร็จ
เลยเข้าร่วมกับเอเลน่า

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอไม่เคยเข้าใจฉันหรอกเอเลน่า เธอเห็นแต่ฉันหัวเราะ
 แต่ความจริงแล้ว เสียงหัวเราะนั้นมันมาจากความเจ็บปวด ที่ร้องไห้ต่อหน้า
 เพื่อน ๆ ไม่ได้ เลยต้องฝืนให้มันเป็นเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแทน
 เธอไม่เป็นฉัน เธอไม่รู้หรอก เธอยังมีอะไร ๆที่ดีกว่าฉันเยอะ เธอไม่เคย
 ผิดหวังกับความรัก เธอยังมีเขาให้คอยห่วงใย และคอยห่วงใยเธอ
 แระสิ่งที่เธอมีมากกว่าฉันก็คือ เธอเกิดมาเธอก็ได้เห็นพ่อแม่ครบทุกคน
 แต่ฉัน ฉันเกิดมาตั้งแต่วินาทีแรก จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เคยเห็นหน้าพ่อ
 ที่แท้จริงของฉันเลย...ตอนที่ฉันอยู่เมืองไทย ตั้งแต่เข้าโรงเรียนจนถึง อายุ
 9 ขวบ ฉันก็ได้แต่อิจฉาเพื่อน ๆ ที่เขามีพ่อกัน มีพ่อคอยปกป้อง
 แต่ฉัน ฉันต้องทนเก็บความรู้สึกไว้ บางทีก็ถามแม่ ว่าพ่อไปไหน
 แต่แม่กลับไปตอบ แม่ตอบแค่ว่า ถึงไม่มีพ่อ แต่แม่ก็เป็นทั้งพ่อและแม่ให้แนนได้
 นี่คือคำที่ฉันรักแม่ของฉันมาก แร่ะฉันมาที่นี่ มาได้รู้จักพวกเธอ ที่เกิดมาก็มี
 พ่อกันทุกคน ถึงฉันจะมีพ่อเลี้ยงก็จริง แต่เขาไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของฉัน
 คนที่เป็นพ่อแท้ ๆของฉัน หายไปไหน...และอีกหลาย ๆ เรื่อง ที่ฉันควรจะอิจฉาเธอ

ต่างคนก็ต่างร้องไห้ น้ำตาที่ไหล มันชินแล้วสำหรับแนน ชินจนร้องไห้เหมือนไม่ได้ร้อง
นิ่งเฉย ไม่ตุกติก แต่ถ้าดูที่หน้า ไหลตากลับอาบแก้มเหมือนสายธาร...

ใครว่า ว่าฉันไม่ผิดหวังที่ฉันบอกว่าฉันมีคนรักที่ดีกว่าเธอแล้วที่จริงมันไม่ใช่
 ฉันไม่มีแฟน...และฉันก็แอบอิจฉาเธอมาตลอด ตั้งแต่ฉันได้ยินอันดี้บอกกับฉัน
 ให้ฉันติดต่อเธอให้กับอันดี้ ฉันรักอันดี้ แต่อันดี้ไม่รักฉัน อันดี้รักเธอ ได้ยินหรือยัง

+..อันดี้ หรอ ไม่จริง อันดี้เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับฉัน...+
 
นี่คือสิ่งที่ฉันอิจฉาเธอมาตลอด เธอเป็นได้ทุกอย่างสำหรับทุกคน แต่ฉัน ฉันทำ
 ไม่ได้เหมือนเธอ ใคร ๆ ก็รักเธอ

เลน่า(ย่อจากเอเลน่า)ค่อยเดินมานั่งลงข้างแนนอย่างช้า ๆ
ตอนนี้ต่างคนก็ต่างร้องไห้

เลน่า อันดี้เป็นเพื่อนที่ดีกับฉัน เธอก็เหมือนกัน ฉันรักอันดี้ไม่ลงหรอก 
 เพราะความรัก ความรู้สึกดี ๆตอนนี้มันยังไม่พร้อมที่จะให้ใคร แม้กระทั้ง
 จะแบ่งให้ตัวเองฉันยังทำไม่ได้เลย มันตกหล่นแตกที่ไหนฉันยังหาไม่เจอเลย ฯลฯ

และอีกมากมายที่แนนเล่าให้เพื่อนฟัง สรุปว่าวันนี้ ระบายออกมาหมดทุกอย่าง
ไม่ว่าอะไรที่เคยปิดเพื่อน ๆ ก็เล่าให้ฟัง มันเศร้ามาเลยตอนที่เล่า ต่างคนก็ร้องไห้กัน
บสงคนพอฟังจบแล้วกลับร้องไห้เสียงดังขึ้นมา ทำให้ทุกคนอดไม่ไหว 
กอดกันร้องไห้กันทั้งกลุ่ม 
(..คงจะนึกออกน่ะว่าความรู้สึกตอนนั้นเป็นยังไง ทุกคนที่อ่านทุกคนอยู่ด้วยก็อดไม่ได้..)

ฉันขอโทษ...ฉันนึกว่าเธอก็รักอันดี้ แต่ที่แท้ก็ก็มีแฟนของเธออยู่แล้วเหมือนกัน
 ฉันขอโทษกับคำที่ว่าเธอ เมื่อกี้นี้ ฉันเสียใจ ฉันขอโทษ


แร่ะอีกมากมายที่คุยกัน แต่เพราะกลัวทุก ๆคนอ่านจะเหนื่อย 
เป็นว่าพอแค่นี้ก่อนดีกว่าเนาะ ฮิ ๆ ๆ ....

ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจกัน แต่สำหรับแนนกับอันดี้ก็ไม่รู้จะทำตัวเหมือน
เดิมได้หรือเปล่าเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว ทุกคนว่าไงค่ะ ทุกคนว่าแนนควรจะทำตัว
ยังไงต่อไปดีกับอันดี้ เหมือนเดิม หรือว่า ห่างอีกนิดก็ดี

				
27 กันยายน 2547 02:09 น.

หรือเป็นเพราะรัก?...4

เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ

คืนแรกของกรุงเทพ แว่นแก้วหลับสนิท เพราะการเดินทางที่ยาวไกล เธอไม่เคยเดินทางไกลมากกว่า 10 ชั่วโมงมาก่อน ไหนจะลงจากดอยมาสู่ตัวจังหวัดเชียงใหม่ ไหนจะเดินทางผ่านแต่ละจังหวัด และยังจะมาเจอกับรถที่ติดยาวเหยียดของกรุงเทพอีก หัวถึงหมอนแว่นแก้วก็หลับสนิท ทั้ง ๆ ที่คิดไว้ว่ามากรุงเทพสิ่งแรกที่จะทำคือถึงจะเขียนจดหมายหาแสงเดือน หาแม่... ก็ทำไม่ได้ เพราะร่างกายสู้ความหนักของหนังตาไม่ได้ 

แว่นแก้วตื่นแต่เช้า พอลืมตาเธอตกใจกับห้องที่ใหญ่โต และดูแปลกไป แต่แล้วเมื่อตั้งสติได้ก็โล่งใจ บ้านคุณเชษฐา ไม่ใช่บ้านเธอ แว่นแก้วส่ายหัวเล็กน้อย แล้วลุกขึ้นล้างหน้า แปรงฟัน และอาบน้ำ จากนั้นก็เดินลงจากชั้นสอง 

อ้าว!! คุณแว่นแก้ว ตื่นแต่เช้าเลยนะคะ 

สาวที่กำลังถือจานข้าวต้มจานใหญ่มาวางที่โต๊ะอาหารทักทาย 

แว่นแก้วตื่นเวลานี้ประจำหน่ะคะพี่สาว ต้องลุกมาช่วยแม่นึ่งข้าว ทำกับข้าวจะได้ห่อไปกินที่โรงเรียน แม่แว่นแก้วทำอาหารอร่อยนะพี่สาว ทำทีหนึ่งนะแบ่งกินเกือบทั้งโรงเรียนเลย 

แว่นแก้วช่วยสาววางจานเป็นชุด ๆ ตามเก้าอี้ 

ขนาดนั้นเลยเหรอคะคุณแว่นแก้ว 

แว่นแก้วล้อเล่นหน่ะคะ แค่แบ่งเพื่อน ๆ ในกลุ่มกินก็พอแล้วคะพี่สาว เด็กสาวหัวเราะกิ๊ก 

คุยอะไรกันแต่เช้าจ๊ะเด็ก ๆ  เสาวนีย์เดินมาที่โต๊ะอาหารแล้วนั่งลงที่ประจำของตัวเอง 

อรุณสวัสดิ์จ๊ะแว่นแก้ว ตื่นเช้าจังนะเรา 

อรุณสวัสดิ์ค่ะป้านีย์ แว่นแก้วทักตอบ 

นั่งลงสิ ไหน ๆ ก็ตื่นเช้าทานข้าวเช้าด้วยกันเลย เป็นไงบ้าง เมื่อคืนหลับสบายดีไหมจ๊ะ 

สบายมาก ๆ เลยค่ะป้านีย์ แว่นแก้วหลับสนิท คงเพราะเดินทางเหนื่อยหน่ะคะ 

แว่นแก้วนั่งที่เก้าอี้ข้าง ๆ เสาวนีย์ เธอนึกรักคำพูดช่างจำนรรจาของแว่นแก้วนัก ถ้าลูกสาวของเธอสดใสร่าเริง อ่อนหวานแบบแว่นแก้วคงจะดีไม่น้อย แต่ดูสิ ไม่รู้นึกอย่างไรของเขา กลายเป็นทอมบอยไปได้ แค่นั้นไม่พอ ยังจะเพลย์บอยอีก ดีนะ ที่การเรียนไม่เสีย ไม่อย่างนั้นคงกลุ้มใจมากกว่านี้แน่ ๆ เสาวนีย์เหลือบเห็นเชษฐาที่เดินลงมาพร้อมรอยยิ้ม 

อ้าวคุณ!! ไม่พักก่อนเหรอคะ เดินทางมาเหนื่อยไม่ต้องรีบเข้าบริษัทหรอกคะ 

เสาวนีย์ทักทายเชษฐาที่เดินมาทางโต๊ะอาหารแล้วนั่งลง 

ไม่เป็นไรหรอก มีงานค้างอีกเยอะ ผมหยุดนานแล้ว ตื่นเช้าจังนะแว่นแก้ว 

เชษฐาหันไปทักทายเด็กสาว เธอยิ้ม ตอบเพียง ค่ะ แล้วก้มหน้าคนจานข้าวต้มช้า ๆ ให้อุ่นจะได้ทานได้ 

จิรัชหล่ะคุณ วันนี้ไม่มีเรียนเหรอ ตื่นสายเชียว 

เชษฐาถามเสาวนีย์ถึงลูกสาวอีกคน แต่แว่นแก้วที่ได้ยินชื่อของจิรัชชา ถึงกับหน้าแดงถึงใบหู เธอก้มหน้างุด คนจานข้าวต้มแรงขึ้นเรื่อย ๆ อยู่อย่างนั้น จิรัช คนอะไรไม่อายฟ้าดิน!! 

ไม่มั้งคะ เมื่อคืนเข้าบ้านแล้วก็ออกไปต่อ ไม่รู้อะไรหนักหนา 

เอาๆๆ ช่างเค้า เรารีบทานกันดีกว่า เดี๋ยวรถจะติด 

เชษฐาตัดบท เขาเพียงแต่ดื่มกาแฟกับขนมปังสองสามชิ้นเท่านั้นเอง ส่วนเสาวนีย์ทานข้าวต้มเพียงเล็กน้อยกับกาแฟแก้วหนึ่ง และตรงหน้าของแว่นแก้วมีนมหนึ่งแก้วกับจานข้าวต้มที่ถูกคนจนจะเย็นชืด.... 

ทานนมด้วยนะลูก จะได้โตเร็ว ๆ  

เชษฐาพูดจบก็ลูบผมเด็กสาวแล้วลุกขึ้น เสาวนีย์เพียงยิ้มให้เธอแล้วลุกตามเชษฐาไป แว่นแก้วมองตามจนสองคนเดินออกจากบ้านและขึ้นรถขับออกไป ดูเหมือนคนขับรถจะเป็นจา เพราะเธอเห็นจาเดินมาเปิดประตูให้เสาวนีย์ แว่นแก้วละสายตาจากรถคันหรูแล้วก้มมองจานข้าวตัวเอง แม่พิกุล ถ้าเป็นเช้า ๆ แบบนี้เธอต้องทานข้าวกับแม่และยาย เด็กสาวถอนหายใจวางช้อนลงแล้วดื่มนมหมดแก้ว เธอดื่มนมเก่งเพราะแม่พิกุลให้ดื่มตั้งแต่เด็ก และเธอเองก็ชอบรสชาดของมันด้วย 

แว่นแก้วเดินเล่นหน้าบ้าน สวนของบ้านหลังนี้ แสนกว้างใหญ่ แว่นแก้วนั่งลงที่ชิงช้าเรือนไม้สักที่วางไว้กลางสวน มีต้นไม้ข้าง ๆ ให้ร่มเงา. แสงเดือนเช้า ๆ แบบนี้กำลังทำอะไรอยู่นะ ถ้าอยู่ที่นั่นคงไปสวนกับแม่ ไปดูคะน้าที่เพิ่งจะเอาลงแปลง กับหัวหอมที่เกือบ ๆ จะขายได้แล้ว ไปวิ่งเล่นแถว ๆ นั้น แอบเก็บแตงของสวนข้าง ๆ มานั่งกิน หรือช่วยแม่ใส่น้ำลงแปลงผัก แว่นแก้วถอนหายใจ คิดถึงบ้านจัง เด็กสาวเหม่อมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย จะต้องอยู่ที่นี่อีกนานไหมนะ. 

ตุ๊บ!!! 

แว่นแก้วสะดุ้ง มือใหญ่วางอยู่บนโต๊ะข้างหน้าเธอ เด็กสาวเงยหน้ามองเจ้าของมือที่ทุบโต๊ะ ใครกัน!!! แว่นแก้วลุกขึ้นอย่างทันที อีกฝ่ายมองหน้าเธอเคือง ๆ นัยย์ตาดุของคนนั้นจ้องเธอไม่วางตา เด็กสาวแม้จะกลัวแต่ก็จ้องกลับเหมือนกัน ตาเธอเองก็ดุใช่ย่อยเหมือนกันนะ 

เธอเป็นใคร! มาอยู่บ้านฉันได้ยังไง อีกคนในชุดนอนถามแว่นแก้วอย่างเอาเรื่อง 

แล้วคุณเป๋นไผ๋ ไข้ฮู้หย่ะหยั๋งบ่อถามดี ๆ ไม่ได้พูดเพราะตกใจ แต่พูดเพราะต้องการพูดแบบนั้น เอาให้งงไปเลย 

ฉันถามเธอก่อน อย่ามาย้อนฉัน! เสียงดุ ๆ ของอีกฝ่ายไม่ได้ทำให้แว่นแก้วกลัวแต่อย่างใด เด็กสาวกลับเชิดหน้า แล้วมองกลับอย่างท้าทาย 

บ่อบอก บ่อมีเหตุผลอะหยั๋งตี้ต้องบอกกับคนตี้บ่อฮู้จักจื่อ 

อย่ามายั่วโมโหฉันนะ ฉันถามเธอดี ๆ แล้วนะ เป็นเด็กเป็นเล็ก หัดเคารพผู้ใหญ่ซะมั่ง แล้วใครบอกให้เธอพูดภาษาเหนือกับฉัน ห๊า!! อีกฝ่ายทุบโต๊ะลงไปอีกที 

แว่นแก้วเฉยแล้วเดินเลี่ยงไป ไม่อยากเสวนากับคนขี้โมโหฉุนเฉียว ไร้เหตุผล 

หยุด!! ห้ามเดินหนีฉัน นี่เธอได้ยินไหม 

จิรัชชาคว้าแขนแว่นแก้วไว้แล้วรั้งให้หันมาหาตัวเอง เด็กสาวถลาตามแรงฉุดจนเกือบล้ม 

คุณจิรัช!! คุณจะทำอะไรคะ 

จิรัชชาปล่อยมือจากแขนของแว่นแก้ว เด็กสาวเดินไปหาเจ้าของเสียง 

ป้าเนียน อะไรป้า จิไม่ได้ทำอะไรนะ แค่ถามชื่อน้องเค้าเท่านั้นเอง จิรัชชาทำเสียงอ่อน แล้วเดินมากอดร่างอ้วนท้วนของป้าเนียน ป้าเนียนถอนใจ เป็นแบบนี้ทุกที 

คุณแว่นแก้วค่ะ ลูกสาวของคุณผู้ชายไงคะ 

อ๋อ.. เด็กบ้านนอกเองเหรอ ถึงว่าสิพูดภาษากลางไม่เป็น ไม่เป็นไรฉันไม่ถือ ป้าเนียนจ๋า จิหิวแล้วค่ะ มีอะไรให้จิกันมั่งคะ 

จิรัชชาหันไปออดอ้อนป้าเนียนโดยไม่ได้ใส่ใจอีกฝ่ายที่ลูบข้อมือด้วยความเจ็บ ดูสิบีบซะแน่นจนเป็นรอยมือเลย คอยดูนะ!! จิรัช... งั้นเหรอ คงจะเป็น จิรัชชาลูกสาวป้านีย์แน่ ๆ แว่นแก้วมองเคือง ๆ ไปทางจิรัชชา แม่ก็ออกจะนิสัยดี แต่ดูลูกสิแย่ชะมัด!! คอยดูนะ จะไม่พูดไทยกับคน ๆ นี้เลย คอยดู!! เอาให้งง จะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายกับเรา แว่นแก้วหันซ้ายขวา ในขณะที่คิดว่าจะไปไหน ก็เหลือบเห็นลุงรักทำอะไรสักอย่างอยู่ตรงสวนอีกฟากของบ้าน เด็กสาวจึงเดินไปหา 

ลุงรัก ทำอะไรคะ แว่นแก้วช่วยไหม 

ไม่เป็นไรหรอกครับคุณหนูแว่นแก้ว เดี๋ยวเนื้อตัวสกปรกเปล่า ๆ ผมทำเองได้ครับ 

เรียก แว่นแก้วก็พอค่ะลุง 

เด็กสาวนั่งลงข้าง ๆ 

ลุงรัก ลืมไปแล้วเหรอคะ แว่นแก้วอยู่ดอยมาก่อนนะ สกปรกกว่านี้ยังเคยเลยค่ะ เวลาตามแม่ไปหาหอยหาปูแถวนาข้าวหน่ะ เปื้อนโคลนตั้งแต่หัวถึงเท้าเลยนะคะ ม่ะ!! แว่นแก้วช่วยดีกว่า ไม่มีอะไรทำมันเหงาหน่ะคะ 

เด็กสาวไม่พูดพล่ามทำเพลงคว้าเสียมมาขุดดินอย่างชำนาญ ปากก็คุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ลุงรักฟัง เรื่องการผจญภัยในป่าเวลาออกไปหาหน่อไม้กับแม่ หรือเรื่องการเที่ยวตามลำน้ำกับแสงเดือนเพื่อนรัก เธอคุยจนลุงรักชักอยากจะไปเที่ยวแถวบ้านเธอซะแล้ว 

สาวยกน้ำมาให้แว่นแก้วและลุงรัก แล้วนั่งล้อมวงคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างสนุกปาก เรื่องสมัยสาวอยู่บ้านนอก หรือเรื่องสมัยลุงรักหนุ่ม ๆ แข่งกันเล่า ผลัดกันฮา โดยไม่รู้ว่ามีสายตาเคือง ๆ ของจิรัชชาคอยมองอยู่ตลอดเวลา.. 

แค่นี้นะคะแอน.. จิมีธุระจริง ๆ ค่ะ.. แล้วจะโทรไปหาใหม่นะคะ.. บายค่ะ จ๊ะ คิดถึงนะ 

จิรัชชาวางโทรศัพท์อย่างอารมณ์เสีย เด็กคนนี้อยู่ ๆ ก็เข้ามาเดินโฉบฉายในบ้าน ตอนเช้าแม่ก็ดูรักมันซะเหลือเกิน พ่อเองก็ใช่ย่อย ห่วงเหลือเกินนะ ถึงต้องบอกให้กินนมเยอะ ๆ เนี่ย หมั่นไส้ชะมัด. ต้องจัดการซะหน่อยแล้วมั้ง จิรัชชายิ้มเจ้าเล่ห์แล้วเดินไปกลุ่มที่พูดคุยอย่างสนุกสนานตรงหน้า 

สาว!! ไม่มีอะไรทำเหรอ มานั่งสุมหัวอะไรกันตรงนี้ จิรัชชาถามเรียบ ๆ แต่เน้นน้ำเสียงให้ดูดุเข้าไว้ 

งานของสาวหมดแล้วค่ะคุณจิรัช 

หมดได้ไง ห้องฉัน.. เธอไปเก็บแล้วเหรอ 

เอ๋ สาวเลิกคิ้ว 

เอ๋อะไร ไปสิ 

จิรัชชามองดุ ๆ มาทางสาว ตาที่หวานเชื่อมเวลามองสาว ๆ พอทำดุเข้าที ใคร ๆ ก็กลัวกันหมดแหละ สาวก็ได้แต่พยักหน้าและเดินออกไป อะไรของเค้านะ! ปกติเก็บเองไม่ใช่หรือยังไงห้องนอนหน่ะ หวงอย่างกะอะไรดี วันนี้มาแปลก ให้เก็บห้อง คุณจิรัช กินยาอะไรผิดมาหรือเปล่าหว่า สาวเดินออกไปด้วยอาการงง ๆ 

ลุงก็เหมือนกัน สวนที่อื่นก็มีทำไมไม่ไปดูแล สุมหัวกันอยู่ได้! จิรัชชาหันมาทางลุงรักบ้าง 

คือผมกำลังปลูกต้นไม้พวกนี้. 

จิบอกให้ไป ก็ไปสิ 

ครับ ๆ  

ลุงรักเดินออกไปทิ้งต้นไม้สองสามต้นที่ยังไม่ได้ปลูกไว้ตรงนั้น อะไรของเค้ากันหว่า.. ทุกทีจะกุลีกุจอมาช่วย แต่วันนี้กลับไล่ไปทำที่อื่น แปลกจริงคุณจิรัช!! ลุงรักเดินไปสวนอีกฝั่งด้วยอาการงงไม่แพ้สาวเช่นกัน 

แว่นแก้วเห็นทุกคนไปกันหมด แล้วเธอจะอยู่ตรงนี้ทำไมหล่ะ เด็กสาวลุกขึ้นยืนปัดไม้ปัดมือ ปัดกางเกง เพื่อให้ดินที่ติดอยู่หลุดออกไปบ้าง แล้วเชิดหน้าเดินผ่านจิรัชชาไปอย่างไม่ได้ใส่ใจ 

เดี๋ยว!! จะไปไหน 

ไปตี้อื่น เด็กสาวตอบเรียบ ๆ 

กับคนอื่นพูดไทยได้ กับฉันก็กรุณาพูดด้วยนะ 

แว่นแก้วจะอู้กับคนตี้ไข้อู้ บ่ออู้กับคนตี้บ่ออยากอู้โตย 

เด็กสาวเดินตัวปลิวโดยไม่สนใจอีกคนที่ตาค้างอยู่ตรงนั้น จิรัชชานึกชังในท่าทางที่ดูหยิ่งยโสของแว่นแก้ว แถมการพูดจาที่ฟังไม่เข้าหู ดูแก่แดดเกินวัยอย่างไงอย่างนั้น เด็กบ้านนอกปกติต้องเป็นเด็กน่ารัก เรียบร้อยไม่ใช่หรือยังไง แต่นี่ดูสิแก่นแก้ว ปากคอเลาะร้าย จิรัชชาส่ายหน้าแล้วเดินตามแว่นแก้วไป นึกอยากเอาชนะความปากกล้าของเด็กสาวขึ้นมาซะเฉย ๆ 

เดี๋ยว!! ไม่คุยกันก่อนเหรอ 

แว่นแก้วบ่อฮู้จะอู้อะหยั๋งกับคุณ 

ทำไมไม่เรียกพี่ ฉันอายุมากกว่าเธอนะ 

 

ไม่มีคำตอบจากแว่นแก้ว นั่นสินะทำไมเธอไม่เรียกจิรัชชาว่าพี่ ทั้ง ๆ ที่ กับคนอื่นเธอก็อ่อนน้อมด้วย แต่กับคน ๆ นี้ ใช่สิ!! การกระทำของเขาคนนี้ ทำให้เธอไม่อยากเรียกพี่ คนอะไรไม่อายฟ้าดิน!! อีกอย่าง เป็นผู้หญิงแท้ ๆ กลับทำตัวอย่างกะผู้ชาย เที่ยวกลางคืน ไม่หวงตัวบ้างหรือไงนะ เด็กสาวแลหางตามองอีกฝ่ายที่เดินตามเธอเข้ามาในบ้าน แล้วทิ้งตัวลงโซฟา นั่งกระดิกเท้าอยู่ตรงนั้น แถมเปิดทีวีดูอย่างไม่ใส่ใจ เด็กสาวส่ายหน้า คนรวยเค้าทำตัวกันแบบนี้เหรอ. เธอเดินเลี่ยงไปที่ห้องครัว ไม่อยากอยู่ใกล้คน ๆ นี้ อีกอย่างไม่รู้จะอยู่ส่วนไหนของบ้านออกนอกบ้านก็ไม่เป็น อยู่ตรงไหนก็ไม่ถูกใจ คิดถึงบ้าน คิดถึงป่า คิดถึงแม่ ยาย แสงเดือน ต้องหาอะไรทำซะแล้ว 

แว่นแก้วเดินไปห้องครัว จิรัชชามองตามแล้วส่ายหน้า คิดจะไม่ตอบก็เดินหนีเฉย ๆ เลยนะเด็กน้อย 

ป้าเนียนทำอะไรอยู่คะ 

ลาดหน้าค่ะคุณแว่นแก้ว 

แว่นแก้วช่วยนะคะ 

แว่นแก้วเด็ดผัก เอาไปล้างแล้วหั่นวางไว้อย่างคล่องแคล่ว ป้าเนียนมองอย่างชื่นชมกับความน่ารักของแว่นแก้ว ดวงตาหวานที่เหมือนเชษฐาอย่างกับถอดกันมา จมูกโด่งนิด ๆ กับปากรูปกระจับ จัดว่าสวยทีเดียวแหละเด็กคนนี้ อีกทั้งผิวที่ขาวตามแบบฉบับชาวเหนือนั่นอีก ผมยาวตรงระบ่านั่นก็ดูพริ้วสวยดำขลับ. แว่นแก้วเงยหน้าจากผักพวกนั้นก็เจอกับใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยนของป้าเนียน เด็กสาวยิ้ม นึกงงที่ป้าเนียนมองเธอ ก้มลงมองตัวเองแต่งตัว เสื้อยืดสีขาวมอ ๆ กับกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน น่าดูตรงไหนหว่า.. 

ป้าเนียนดูอะไรเหรอคะ เด็กสาวหันซ้ายหันขวา 

เปล่าค่ะ ป้าเนียนว่า คุณแว่นแก้วสวยจังนะคะ 

เด็กสาวหัวเราะเก้อ 

ป้าเนียนหล่ะก็ แว่นแก้วอายนะคะ 

แว่นแก้วคุยกับป้าเนียน ถึงได้รู้ว่า ที่จริงแล้ว จิรัชชาเป็นลูกของเสาวนีย์กับสามีเก่าที่เสียไป จิรัชชายังเด็กเมื่อตอนเสาวนีย์แต่งงานกับเชษฐาจึงเรียกเชษฐาว่าพ่อจนติดปาก แต่ตัวจิรัชชาเองรู้ว่าเชษฐาไม่ได้เป็นพ่อแท้ ๆ 

ป้าเนียนยังเล่าให้ฟังอีกว่า เสาวนีย์เป็นคนสวย และยังสาว แต่หลังจากที่สามีเสียชีวิตได้ไม่นานทุกอย่างก็ตกเป็นของเสาวนีย์ แต่ด้วยความที่ไม่เคยบริหารงานของบริษัททำให้กิจการเริ่มแย่ จึงต้องจับมือกับเชษฐาที่บริษัทก็ย่ำแย่เหมือนกัน เพื่อจะได้ช่วยพยุงซึ่งกันและจน ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันเพียงแต่ในนาม จนบริษัททั้งคู่ยืนหยัดได้อีกครั้ง การแต่งงานครั้งนี้ไม่มีคำว่า รัก มาเกี่ยวข้องเลย... 

นี่คงเป็นเหตุผลที่ทั้งสองคนไม่นอนห้องเดียวกัน แว่นแก้วคิด แสดงว่าเชษฐายังคงรักแม่เธออยู่ แต่ก็นั่นแหละ ก็ยังทิ้งเธอไปอยู่ดี แม้จะมีจดหมายแสดงความห่วงใย รักใคร่มากมายแค่ไหน แต่คน ๆ นั้นก็ทิ้งเธอกับแม่ ปล่อยให้เธอนั่งอิจฉาใครต่อใครที่มีพ่อคอยปกป้องดูแล ปล่อยให้โหยหาความรักความอบอุ่นจากพ่ออยู่ดี ยังไงสิ่งนี้ก็ยังไม่ทำให้เธอยอมรับพ่อของเธอได้เต็มใจ 


+*-*++++*-*+_หมูน้อยอารมณ์ดี_+*-*++++*-*+				
25 กันยายน 2547 03:09 น.

???...ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่อยากจะเป็น กับคำถามที่ยังไม่เข้าใจ...???

เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ

มันเป็นแบบนี้ได้ยังไง....ฉันไม่เข้าใจตัวเองเลย
ไม่เลยไม่อยากให้ตัวเองเป็นแบบนี้...ไม่เลยแม้แต่น้อย
แต่มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง...ใครจะตอบฉันได้ไหม 

........+*-*+_+*-*+_คงไม่มีใครตอบได้นอกจากตัวเธอเอง+*-*+_+*-*+.......


ฉันพยายามทำตัวให้ สดใส_ร่าเริง แล้ว แต่มันก็ยังเหมือนเดิม
หรือมันอาจเป็นเพราะความรัก ที่วิ่งเข้ามา แล้วก็ออกไป
หรือมันเป็นอย่างที่ฉันคิดจริง ๆ .....


เหนื่อยแล้ว...เหนื่อยกับการหลอกตัวเองว่ายังคงเหมือนเดิม


ไม่มีอะไรเปลี่ยนเลยสำหรับฉัน..ฉันยังคงร่าเริงเหมือนเดิม
ยังคงเป็นเด็กซ่าของเพื่อน ๆ เหมือนเดิม..ฉัน !!~!!


แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริง ในสิ่งที่ตัวเองเป็นในขณะนี้
ความจริงที่หลีกเหลี่ยงไม่ได้...แร่ะความจริงบางเรื่อง
ความจริงที่เป็นไปไม่ได้ สำหรับฉัน.... *-*


ฉันรู้สึกว่า ตัวเองเปลี่ยนไป จากอีกคนเป็นอีกคน
กลายเป็นอีกคนที่ไม่ต้องการจะเป็น....


กลายเป็นคนอ่อนแอทั้งตัวและหัวใจ หมดกำลังใจ...หมดความมั่นใจ
หมดกำลังใจในสิ่งที่อยากจะทำและสิ่งที่ทำอยู่นี้ รู้สึกเหนื่อย
และเบื่อในคนคนนี้เหลือเกิน....


คนเดิมของฉันหายไปไหน...ไปอยู่ที่ไหนแล้ว ช่วยกลับมาได้ไหม
คนคนนี้ฉันไม่ได้ต้องการเลย...ฉันต้องการเป็นคนเดิมของตัวฉัน
ไม่อยากรู้สึกเหงา อ้าวว้าง เมื่ออยู่คนเดียว
ไม่อยากรู้สึกว่า...ในโลกนี้มีแค่ฉันคนเดียว


เสียใจกับตัวเอง...ที่เปลี่ยนไปในสิ่งที่ไม่ต้องการ
ทำไมฉันต้องร้องไห้..ฉันร้องไห้ทำไม มันมีอะไรที่ต้องให้ร้องไห้
ร้องทำไม...ร้องไปก็เสียน้ำตาปล่าว ๆ เก็บน้ำตาไว้ไหลในสิ่งที่สำคัญก็พอ


ที่ร้องไห้...เพราะความในใจที่อึดอั้นไว้ไม่อยู่อีกแล้ว
จะระบายยังไงก็คงไม่ได้ นอกจากร้องไห้ ร้องไห้เท่านั้น
น้ำตาที่ไหล เป็นน้ำตาจากความเสียใจ ที่อั้นไว้ไม่ไหว...
เมื่ออั้นไว้ไม่ไหว ก็ต้องปล่อยให้มันไหล เพราะยังไงก็ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว

การร้องไห้ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย....แต่มันอยู่ที่ว่าเราจะร้องไห้กับเรื่องอะไรเท่านั้น
ถ้ามีเรื่องอะไรที่เก็บไว้ไม่ไหว ก็ร้องเถอะ อย่ากลั้นมันไว้เลย ระบายออกมาบ้างก็ดี
มันจะได้ทำให้เราสบายตัวขึ้นเมื่อเราได้ระบายมันออกไปแล้ว...
แร่ะเมื่อเราลืมตาขึ้นอีกครั้ง มันทำให้เรารู้สึกสดใสแร่ะดีขึ้นมากกว่าเดิม


+*-*++++*-*+++*-*++++*-*+++*-*++++*-*+++*-*++++*-*+


ทำไมเธอต้องไปกับเขา ทั้ง ๆ ที่เขาก็มาทีหลัง

แต่เธอก็เปิดใจรับเขาคนนั้นมาทั้ง ๆ ที่มีฉันอยู่แล้ว

ทำไมเธอไม่คิดถึงใจของฉันบ้าง ว่าจะรู้สึกยังไง

เวลาผ่านไปหลายวันแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอทำ

หรือที่เธอทำ มันเป็นเพราะเธอหลายใจนั่นเอง

ช่วยตอบฉันได้ไหมว่าทำไม.....??? _สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ_


ในตอนนี้เธออาจมีความสุขกับเขาคนนั้น

แต่ฉันคนนี้ที่เธอมองข้ามไป...ไม่เคยถามว่าเป็นยังไงบ้าง

เธอคิดแต่ว่าเธอนั้นเข้าใจฉัน เธอรู้จักนิสัยของฉันดี

แต่เธอรู้ไหม...เธอไม่เคยรู้ เธอไม่เคยเข้าใจเลยในสิ่งที่เธอบอกมา

เธอไม่เคยรู้สึกถึงความรู้สึกของฉันแม้แต่น้อย....

ในวันที่เดินจากเธอมา...ฉันคิดอยู่เสมอ ว่าวันนึงอาจจะคืนดีกันได้

แต่พอดูแล้ว....พอฉันเดินจากมาเธอก็หันไปหาเขาคนนั้นทันที 

ไม่คิดว่าคนที่เดินมาเพื่อที่จะมาตั้งหลักใหม่นี้จะรู้สึกยังไง ในสิ่งที่เธอทำ


ฉันคิดถึงเธอรู้ไหม.....?? คิดถึงตลอดเวลาที่ผ่านมา

แต่เธอก็คงไม่ได้คิดเหมือนฉัน เธอคงลืมฉันไปแล้ว

ตอนนี้เธอคงมีคนที่ควรจะคิดถึงมากกว่าฉัน....+

ทำไมเธอถึงได้ลืมอะไรได้ง่ายดายอย่างนี้ วันเวลาหนึ่งปีกว่าที่เรามีกัน

กับหนึ่งนาทีที่เธอลืมฉัน ทำไมตอบฉันได้ไหมคนดี

ก่อนที่ฉันคนนี้จะอึดอั้นตายกับคำถามคำนี้


+*-*+++*-*+.....หมูน้อยอารมณ์ดี......+*-*+++*-*+.				
24 กันยายน 2547 03:57 น.

หรือเป็นเพราะรัก?...3

เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ

แว่นแก้วลืมตาขึ้นก็เจอกับสถานที่แสนแปลกตา รอบตัวมีแต่ตึกสูงใหญ่ รถราก็แสนจะเยอะ เหมือนในทีวีที่เธอดู วุ่นวายเหลือเกิน เพราะออกจากเชียงใหม่แต่เช้า มาถึงกรุงเทพก็เย็น แว่นแก้วเหลือบดูนาฬิกาที่คอนโซลหน้ารถ ห้าโมงเย็นกว่า ๆ คงเป็นเพราะเวลาเลิกงานซะละมั้ง รถติดแน่นเชียว เด็กสาวมองความวุ่นวายด้านนอกอย่างเบื่อ ๆ เวลาแบบนี้ถ้าอยู่ที่บ้าน เธอก็คงวิ่งไปน้ำห้วย ไปเล่นน้ำเย็น ๆ ให้ฉ่ำปอดกับแสงเดือนนานแล้ว. 

เขียนจดหมายมาหาเปิ้นโตยเน่อ ห้ามลืมกั๋นเน่อ แว่นแก้ว.. 

แสงเดือนพูดสะอึกสะอื้น แว่นแก้วกอดเพื่อนไว้ หยดน้ำใส ๆ ไหลรินจากดวงตา แว่นแก้วรั้งร่างแสงเดือนออก เธอเช็ดน้ำตาให้เพื่อน แล้วยิ้ม 

เปิ้นบ่ะลืมตั๋วหรอกแสงเดือน ตั๋วเป๋นเปื้อนตี้ดีตี้สุดของเปิ้น เปิ้นฮักตั๋วหนาฮุ้ก่อ 

แว่นแก้วกอดเพื่อนรักอีกครั้ง ไหว้ลาแม่และยาย 

เฮียนเก่ง ๆ เน้อ หยั่ยเวย ๆ จะไปฮ้ายกับป้อเน่อ ฮู้ก่อ แม่อุ้ยสาตักเตือน สวมกอดหลานสาวอย่างรักใคร่ พิกุลยิ้มให้แว่นแก้ว 

อ่อนหวานอย่าอ่อนแอ จ๋ำกำแม่ไว้เน่อ 

เด็กสาวพยักหน้าแล้วเดินขึ้นรถ โบกมือลากับทุกคน เด็กสาวมองบ้านหลังเล็กที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นค่อย ๆ เล็กลง ภาพของแม่ ยายและแสงเดือน ถูกบดบังด้วยต้นไม้สูง เด็กสาวเช็ดน้ำตา แล้วหลับตาลง อ่อนหวานแต่อย่าอ่อนแอ แว่นแก้วจะจำไว้ค่ะแม่. 
. 

รถคันหรูแล่นเข้าบ้านหลังโต แม้จะเป็นเวลากลางคืนความสวยงามจากโคมไฟกลับส่องสว่างให้บ้านดูสวยงาม ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกเรียงรายตามทางที่ทอดยาวสู่ตัวบ้าน ช่างดูสวยงามเมื่อเอาโคมไฟมาติด สวนหน้าบ้านก็แสนจะกว้างขวาง เด็กสาวมองอย่างชื่นชม สวนตรงนี้ช่างเหมือนในทีวีซะจริง เหมือนบ้านของพระเอกนางเอกที่แสนจะรวยล้นฟ้าอย่างไงอย่างงั้น 

นี่เหรอบ้านของพ่อ ช่างแตกต่างกับบ้านไม้หลังเล็กเชิงเขาของเธอราวฟ้ากับดิน เด็กสาวมองบ้านที่เป็นตัวตึก นึกเล่น ๆ กับตัวเอง ว่าถ้าอยู่คงจะหลงทางสักวัน... 

รถแล่นมาถึงหน้าบ้าน ด้านข้างเป็นลานจอดรถที่แสนจะกว้างขวาง 

ถ้าทำเป็นคอกหมูคงเลี้ยงได้หลายตัวเลยทีเดียว เด็กสาวคิด 

ถ้ารถพวกนั้นเป็นควายคงขายได้หลายตังเนอะ แว่นแก้วคิดแล้วหัวเราะน้อย ๆ จนคนข้าง ๆ งุนงง แต่เธอกลับทำหน้าเฉยเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมองมา 

ถึงบ้านแล้วแว่นแก้ว ลงรถสิลูก 

แว่นแก้วกำลังจะเปิดประตูแต่คนขับรถของเชษฐาเปิดให้ เด็กสาวงุนงงแต่ก็ลงแต่โดยดี เด็กสาวเดินไปกระโปรงรถ จะไปเอากระเป๋า 

คุณหนูขึ้นบ้านเถอะครับ ตรงนี้ผมจัดการเอง 

จะดีเหรอคะ แว่นแก้วถามเกรงใจนิด ๆ 

มันเป็นหน้าที่ของผมครับ 

น้าชื่ออะไรคะ นั่งมาตั้งนานไม่ได้ถามชื่อ แว่นแก้วเริ่มบทสนทนา 

ผมชื่อจาครับ 

ขอบคุณนะคะน้าจา 

โอ้ย!! ไม่ต้องเรียกผมน้าหรอกครับ ผมก็แค่คนขับรถ 

ไม่ได้ค่ะ น้าโตกว่า เดี๋ยวจะหาว่าแว่นแก้วไม่มีมารยาท 

แว่นแก้ว ขึ้นบ้านได้แล้วลูก เชษฐาบอกแว่นแก้วที่ดูเหมือนกำลังคึกกับการคุยกับจา 

พรุ่งนี้ค่อยคุยกันก็ได้นะ 

เด็กสาวเดินขึ้นบ้านอย่างว่าง่าย 

กลับมาแล้วเหรอคะคุณ 

เสียงหวานดังขึ้นจากในบ้าน เจ้าของเสียงเดินออกมาพร้อมใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แว่นแก้วมองทางต้นเสียงนั้น ผู้หญิงท่าทางดูดี มีสง่าในชุดสีฟ้าอ่อนเรียบ ๆ ดูจะแก่กว่าแม่เธอ แต่ด้วยการแต่งหน้าทำให้ดูสวย แต่ยังไงแม่พิกุลของแว่นแก้วสวยที่สุดอยู่แล้ว.. 

เหนื่อยไหมค่ะคุณ 

เชษฐายิ้มรับ แล้วพยักหน้าให้กับแว่นแก้ว เด็กสาวเดินตามเข้าไปในบ้าน 

ตายแล้ว!! นี่เหรอคะลูกสาวของคุณ 

หญิงคนนั้นเดินมาหาแว่นแก้ว จับตัวเธอเอียงซ้ายเอียงขวา เด็กสาวชักระแวง คนนี้หรือเปล่าคนที่พ่อแต่งงานด้วย 

ขึ้นบ้านก่อนสิคุณ ค่อยคุยกัน 

เชษฐาตัดบท แล้วเดินนำไปนั่งที่โซฟาตัวเขื่องในบ้าน ตามด้วยหญิงคนนั้น ส่วนแว่นแก้วนั่งลงข้างล่างที่พรมสีครีม ภายในบ้านตกแต่งอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นแจกันทรงสูงลายคราม หรือเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ที่วางแสนจะเข้าชุดกัน สิ่งเหล่านั้นทำให้แว่นแก้วตะลึง... บ้านของเธอเหรอ ก็แค่เก้าอี้ไม้ ตู้โชว์ที่ลุงปันข้างบ้านทำให้ กับสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ใหญ่โตและหรูหราแบบนี้... 

นั่งข้างบนสิแว่นแก้ว เชษฐาบอกเด็กสาว 

แว่นแก้วลุกแล้วนั่งบนโซฟาอย่างเกร็ง ๆ 

นี่เสาวนีย์ แว่นแก้วเรียกว่า ป้านีย์ นะ 

เด็กสาวยกมือไหว้ เสาวนีย์ไหว้ตอบ ยิ้มอ่อนโยน 

นั่นรักคนสวน นั่นสาว อีกคนป้าเนียน ป้าเนียนเป็นแม่บ้านนะ ถ้าแว่นแก้วจะใช้อะไรก็เรียกสาวละกันนะลูก 

แว่นแก้วยกมือไหว้รัก และ ป้าเนียน จนสองคนสะดุ้ง โบกไม้โบกมือว่าไม่ต้องไหว้ 

สาวพาแว่นแก้วขึ้นห้องป๊ะ ไปพักผ่อนเดินทางไกลคงจะเหนื่อย 

สาวยิ้มรับ ถือกระเป๋าให้แว่นแก้วแล้วพาขึ้นชั้นสองของบ้าน สาวแนะนำว่า ห้องแรกเป็นห้องสำหรับแขกมาพัก ห้องถัดไปเป็นห้องของคุณเสาวนีย์ ส่วนห้องกลางเป็นห้องใหญ่ห้องของคุณเชษฐา ห้องของเธออยู่ถัดไปอีกข้างของเชษฐา และห้องข้าง ๆ ของแว่นแก้วเป็นห้องนอนของคุณจิรัชชา ลูกสาวของคุณเสาวนีย์ 

ทำไมป้านีกับคุณท่านไม่นอนห้องเดียวกันหล่ะพี่สาว แว่นแก้วเอ่ยถามเมื่อสาวเปิดประตูห้องเข้าไป 

คุณท่าน!! สาวทวนคำของแว่นแก้ว แล้วเปิดประตูให้แว่นแก้วเดินเข้าห้องไปก่อน 

อืม คุณท่าน 

คุณหนูหมายถึงคุณผู้ชายเหรอคะ 

เด็กสาวพยักหน้า 

ทำไม. ถึงเรียกว่า. 

ยังไม่ชินหน่ะคะพี่สาว ห้องสวยนะคะ 

สาวส่ายหน้ากับการเปลี่ยนเรื่องของแว่นแก้ว 

คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายแยกห้องกันนอนตั้งแต่แต่งงานแล้วหล่ะคะ 

แว่นแก้วเลิกคิ้ว หมายความว่ายังไงนะ 

สาวเองก็ไม่เข้าใจค่ะคุณหนู 

พี่สาวคะ คำว่าคุณหนู แว่นแก้วรู้สึกแปลก ๆ หน่ะคะ เรียกแว่นแก้วเฉย ๆ จะดีกว่าไหมคะ มันจักกะจี้หน่ะคะ 

แว่นแก้วทำท่าเบ้ปาก เกิดมาไม่เคยเป็นคุณหนูกับเขาเสียที เคยคิดเหมือนกันถ้ามีคนเรียกเธอว่าคุณหนูคงรู้สึกดีพิลึก แต่พอโดนเรียกเข้าจริง ๆ ก็เกิดรับไม่ได้ขึ้นมากระทันหัน 

ไม่ได้หรอกค่ะ ยังไงคุณหนูก็เป็นลูกสาวของคุณผู้ชาย 

ตามใจ แต่ถ้าเรียกแล้วแว่นแก้วไม่หันหน้า อย่าว่ากันนะคะ แว่นแก้วหัวเราะกิ๊ก 

สาวจัดกระเป๋าให้แว่นแก้ว โดยไม่ยอมให้แว่นแก้วช่วย เด็กสาวจึงเดินดูห้อง เกิดมาไม่เคยมีห้องใหญ่แบบนี้นอนเลย ห้องนอนที่บ้านก็เล็ก ๆ มีเพียงที่นอนปู เตียงก็ไม่เคยนอน โต๊ะหนังสือก็เล็ก ๆ เพราะเวลาเธอทำการบ้านก็จะไปทำด้านนอกชาน ลมโชยทำให้สมองเธอปลอดโปร่ง คิดการบ้านได้ไม่ติดขัดเลยทีเดียว ส่วนห้องนี้โต๊ะหนังสือตัวใหญ่ ติดผนังด้านที่มีหน้าต่าง ถัดไปเป็นโต๊ะคอมพิวเตอร์ พร้อมอุปกรณ์ครบครัน เตียงอันใหญ่ตั้งตระหง่านกลางห้อง ตู้เสื้อผ้าที่มีกระจกติดด้านหน้า พร้อมห้องน้ำในตัวที่กว้างขวางโอ่อ่าไม่แพ้กัน เธอนึกถึงห้องน้ำบ้านเธอ ชักโครกกับส้วมซึม.... แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด 

แว่นแก้วเดินไปที่ประตูหลังห้อง เปิดออกไปเป็นระเบียงเล็ก ๆ มีโต๊ะเก้าอี้เข้าชุดวางไว้อยู่ พร้อมต้นไม้ในกระถาง ดูเหมือนจะเป็นสาวน้อยประแป้งตั้งอยู่สองสามต้น เด็กสาวเดินไปที่ริมระเบียง ห้องของเธออยู่ด้านหน้าเยื้องไปทางขวาของตัวบ้าน เห็นสวนด้านข้างได้ชัดเจนทีเดียว พรุ่งนี้ค่อยดูละกันว่าสวนที่นี่สวยแค่ไหน แว่นแก้วเปิดประตูทิ้งไว้ ให้ลมระบายนิดหนึ่งแล้วเดินกลับเข้าในห้อง ทิ้งตัวลงที่เตียงใหญ่ นั่งมองสาวจัดกระเป๋าใบเล็กที่มีเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ตัว เธอไม่อยากขนมาเยอะ เพราะคิดว่าจะอยู่เพียงไม่นาน. 

เสียงรถดังด้านนอก เด็กสาวเดินออกไประเบียง แค่อยากดูว่าใครมาเท่านั้นแหละ คนที่ลงจากรถยุโรปสองที่นั่งคันโก้ ยืนอยู่ข้างรถ แล้วเหลือบมองขึ้นมาตรงที่เธอยืนอยู่ด้วยท่าทางยียวน ท่าทางเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง ใครกันนะ!! เธอเองก็ใช่ยอมใครอยู่แล้ว เมื่อยียวนมา เธอก็ยียวนไป เด็กสาวทำลอยหน้าลอยตา มองคนที่อยู่ด้านล่างอย่างท้าทาย ดูคนข้างล่างไม่พอใจอย่างหนัก โมโหง่ายจริงพ่อคุณ เอ๊ะ!! ผู้ชายหรือเปล่า ทำไมดูบอบบางจัง แว่นแก้วมองตรง ๆ อีกทีก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งลงจากรถแล้วเข้ามาคลอเคลียคนที่ยืนตรงนั้น หน้าของสาวคนนั้นดูเหมือนจะเข้าใกล้อีกคนอย่างรวดเร็ว.... แว่นแก้วยกมือปิดหน้า ยี๊!!! คนกรุงเทพ ทำอะไรกันไม่อายฟ้าดิน เด็กสาวเดินเข้าห้องอย่างตกใจ 

สาวเห็นสีหน้าของแว่นแก้วที่ดูซีด ๆ 

คุณแว่นแก้ว เป็นอะไรไหมคะ หน้าซีดจัง 

พี่สาว บ้านหลังนี้มีพวกเจ้าชู้ประตูดินที่ทำอะไรไม่อายฟ้าดินด้วยเหรอคะ 

เจ้าชู้ประตูดิน ไม่อายฟ้าดิน ใครทำอะไรเหรอคะ 

ก็.. ก็มีคน จะ จะ จูบกันอยู่หน้าบ้านอ๊ะคะ แว่นแก้วพูดจบก็เอามือปิดหน้า อายจัง รู้สึกอายแทนหนุ่มสาวคู่นั้นจริง ๆ 

อ๋อ. คงเป็นคุณจิรัช สาวพูดพร้อมกับหัวเราะ 

ขานั้นก็แบบนี้แหละคะ ไม่เคยอายใคร 

จิรัช!! ใครคะ แว่นแก้วเอามือปิดหน้าลงถามสาวอย่างอยากรู้ 

ลูกสาวคุณผู้หญิงไงคะ 

อะไรนะ!! ลูกสาว!!! 
 

				
18 กันยายน 2547 03:17 น.

หรือเป็นเพราะรัก?...2

เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ

ถนนที่ทอดยาวไปข้างหน้า กับสองข้างทางที่ดูแห้งแล้ง ต้นไม้เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและร่วงหล่นบนพื้น สีน้ำตาลของมันทาทาบพื้นดิน ดูเหงาและเศร้า เหมือนใจของแว่นแก้วตอนนี้ หยดน้ำใส ๆ รินจากดวงตากลม เด็กสาวเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถ เช็ดน้ำใส ๆ นั่นเบา ๆ 

อีกไม่นานก็จะถึงกรุงเทพละนะลูก 

เสียงอ่อนโยนของเชษฐาเอ่ยกับแว่นแก้วอย่างห่วงใย เด็กสาวก้มหน้างุด เชษฐาหันมามอง อยากจะพูดคุยด้วย แต่ดูเหมือนเด็กสาว จะหลับ เชษฐาจึงเอนตัว และหลับตาลง 
. 

สัญญาที่คุณเคยมี พิกุลยอมให้คุณทวงค่ะ พิกุลเอ่ยขึ้น 

ดาวคืนนี้สวยสด สว่างไสว พิกุลกับเชษฐานั่งคุยกันที่ชานบ้าน แว่นแก้วทำท่าจะเดินออกมาคุยด้วย เธออยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้นอกจากมาทวงคำว่า พ่อ กับเธอแล้ว ยังต้องการอะไรอีก แต่ถูกรั้งไว้ด้วยแขนเหี่ยวย่นของแม่อุ้ยสา ยายของเธอ เด็กสาวเดินกลับเข้าบ้านอย่างอารมณ์เสีย กดรีโมทเรื่อยเปื่อยจนแม่เฒ่าอดไม่ไหว ลงมะเหงกที่หัวเธอเข้าให้ทีหนึ่ง เด็กสาวจึงหยุดมองเคือง ๆ แล้วเดินปึงปังเข้าห้องนอน แม่เฒ่าส่ายหน้ากับอารมณ์ของแว่นแก้ว. 

เธอพูดจริงเหรอ. ฉันไม่เคยดูแลลูกสาวคนเดียวของฉันมาก่อนเลยนะ ตลอดเวลาฉันไม่เคยแวะมาแม้แต่ดูหน้าตา หรือการเป็นอยู่ เธอก็ยังจะยอมให้ฉันเอาลูกไปอีกเหรอ? 

พิกุลทราบดีค่ะ ว่าทำไมคุณถึงมาหาลูกไม่ได้ คุณต้องทำอะไรเยอะแยะ 

เสียใจไหมพิกุล 

พิกุลอยู่ได้ เพราะความหวังเล็ก ๆ ที่คุณให้ไว้ พิกุลอยู่เพื่อรอวันนี้ค่ะ วันที่คุณกลับมาหาพิกุลและลูกด้วยความรู้สึกที่เหมือนเดิม คุณแสดงให้พิกุลเห็นว่าใจของคุณไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย 

ไปอยู่ด้วยกันนะพิกุล ไปอยู่กรุงเทพด้วยกัน 

พิกุลคงให้แค่แว่นแก้วไป ตัวพิกุลคงไม่ไปด้วยค่ะ 

ทำไมหล่ะ 

พิกุลต้องดูแลแม่อุ้ยสา ค่ะ แกแก่แล้วให้เดินทางคงไม่ไหว 

แล้วแกเข้าใจในสิ่งที่พวกเราทำเหรอ 

แกเข้าใจเราเสมอค่ะ 

เชษฐายิ้ม เหลียวมองรอบกาย ที่แห่งนี้ที่เขาเจอกับพิกุล สาวบ้านเหนือคนงาม หนุ่ม ๆ ที่นี่ต่างก็เรียกเธอแบบนี้ สาวที่ไม่เคยชายตามองหนุ่มคนไหน จนเจอกับเขา หนุ่มกรุงเทพ ที่เข้ามาเที่ยวหมู่บ้านแห่งนี้ หมู่บ้านเล็ก ๆ ในอำเภอแม่แจ่ม ส่วนหนึ่งของเชียงใหม่ หมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญ หมู่บ้านที่มีภูเขาเขียวครึ้มล้อมรอบ ถึงแม้หนทางจะเป็นดินลูกรังแต่ด้วยความหนุ่มและคึกคะนองทำให้เชษฐาและเพื่อน ๆ ได้มาเหยียบย่ำผืนดินอันห่างไกลแห่งนี้ได้ 

แม้สมัยนี้ ทางเข้าหมู่บ้านจะดีกว่าแต่ก่อนมากมายนัก แต่บรรยากาศรอบข้างก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนไปมากมาย แม้เนื้อที่ของป่าจะถูกถางไปทำการเกษตรหมด แต่ก็ยังมีสีเขียวอยู่บ้าง แม้หน้าร้อนสีเขียวจะหายไป ก็เพราะป่าแถบนี้เป็นป่าไม้ผลัดใบ เมื่อถึงเวลาใบสีเขียว ก็กลายเป็นสีน้ำตาลและร่วงหล่น 

ที่นี่สวยไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ อากาศของที่นี่ บรรยากาศของที่นี่ มันตรึงในใจฉันไม่เคยเปลี่ยน 

เชษฐาพูดเปรย ๆ พร้อมกับมองใบหน้าเนียนของพิกุล พิกุลยังคงสวยเสมอในสายของของเขา แม้กาลเวลาจะเปลี่ยน แม้งานที่เธอทำจะทำให้สาวสวยเมื่อ 20 ปีที่แล้วเปลี่ยนแปลงไปมากมาย แต่นั่นก็เป็นเพียงภายนอก ความในใจของพิกุลที่สื่อออกมาจากใบหน้า และแววตาที่อ่อนโยนนั้น บอกเขาว่าเธอยังคงรอเขาอยู่เสมอมา 

พิกุลยิ้มให้เชษฐา ตัวเธอเองเฝ้ารอมาตลอด คำสัญญาที่เขาเคยให้ คำที่ว่า จะกลับมาหาและรับไปอยู่ด้วยกัน เป็นเหมือนเข็มที่ตรึงใจเธอให้อยู่รอที่ตรงนี้ รอผู้ชายคนนี้กลับมา และเขาก็กลับมาจริง ๆ กลับมาเพื่อยืนยันว่าเขาไม่เคยลืมสัญญาที่ให้ไว้. 
 

แว่นแก้วบ่อไป!! จะไดก่อบ่ะไป!! 

เด็กสาวส่งเสียงดัง ให้มันรู้ไปเลยไม่ว่าใครนอกบ้านหรือในบ้าน ให้รู้ให้หมดว่าเธอไม่ต้องการจะไป ไม่อยากไป แว่นแก้วเดินหนีพิกุล จะไปหาแสงเดือน ไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น 

แว่นแก้ว มาอู้กับแม่หื้อฮู้เรื่องก่อน 

พิกุลเดินตามแล้วคว้าแขนเล็กของเด็กสาวไว้ เด็กสาวมองมารดาอย่างเคือง ๆ อะไรกันนักหนา จะเอาอะไรกับเธอนักหนานะ!! ไม่อยากไปให้ไปอยู่กับผู้ชายที่ทิ้งเธอกับแม่ไว้ตรงนี้ ให้ไปอยู่กับคนที่ไร้ความรับผิดชอบแบบนั้น ไม่อยู่เด็ดขาด ยังไงก็ไม่ไป 

ไปกับแม่ ไปผ่ออะหยั๋งกั๋น 

เสียงหวานของพิกุลทำให้เด็กสาวใจอ่อนอย่างง่ายดาย อีกทั้งเธอเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าแม่จะเอาอะไรให้เธอดู เป็นจังหวะที่แสงเดือนมาพอดี แว่นแก้วเลยชวนแสงเดือนไปด้วยกันพิกุลก็ไม่ได้ขัดอะไร 

ซองจดหมายประมาณยี่สิบซองกองอยู่ตรงหน้าของแว่นแก้วและแสงเดือน ทุกซองจ่าหน้าถึงพิกุล แว่นแก้วหยิบขึ้นมาซองหนึ่ง เธอพลิกดูด้านหลัง ประทับตราชื่อเขต เขตหนึ่งในกรุงเทพ แสงเดือนที่ชะเง้อมาดูด้วยมองหน้าเพื่อนอย่างงง ๆ แว่นแก้วดึงจดหมายในซองออกมา 
 

แว่นแก้วของพ่อ และ พิกุลที่รัก 

ลูกแข็งแรงดีไหม ปีนี้ก็อายุ 10 ขวบแล้วสินะ พ่อไม่มีของขวัญจะมอบให้ มีแต่คำอวยพรเล็ก ๆ แต่เป็นสิ่งที่พ่อขอให้ลูกในทุกวัน พ่ออยากให้ลูกแข็งแรง ให้โลกของลูกสดใสและสวยงาม เป็นเด็กที่ร่าเริง เป็นลูกที่ดีของแม่พิกุล ที่สำคัญ อ่อนโยนและเข้มแข็งเหมือนแม่นะลูก แม้จะอยู่ไกล แม้จะไม่เคยเห็นหน้า แต่ให้รู้ไว้นะว่าพ่อฝันถึงลูกสาวของพ่อในทุก ๆ คืน อยากเจอหน้าลูกสาวคนนี้เป็นที่สุด พ่อรักลูกนะแว่นแก้ว 

พิกุล เธอสบายดีไหม ฉันเองสบายดี กิจการตอนนี้ดีขึ้นมากทีเดียว กำลังจะขยายเครือข่ายไปต่างประเทศ เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายที่บริษัท ปัญหาต่าง ๆ รุมเร้า จนฉันไม่มีเวลาแม้จะนอน เหนื่อยเหลือเกินพิกุล เวลา 11 ปีที่ไม่ได้อยู่กับเธอ มันช่างยาวนานเหมือนตราบชั่วชีวิตของฉันเลยทีเดียว แต่ฉันยังมีความหวัง หวังว่าสักวันฉันจะกลับไปที่นั่นอีกครั้ง สถานที่ที่ฉันรักสุดหัวใจ สิ่งที่เหลือ ที่ยังทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ในทุก ๆ วัน นั่นคือการรอ รอเพื่อที่จะกลับไปหาเธออีกครั้ง หวังว่าเธอคงรอฉันอยู่นะ 

ด้วยรัก 
เชษฐา 
 

แว่นแก้วเงยหน้าจากจดหมายมองหน้าพิกุล ไม่มีคำพูดใด ๆ มีเพียงรอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏที่ใบหน้าของพิกุล. หมายความว่าแม่ของเธอรอคุณเชษฐามาตลอดอย่างนั้นเหรอ 

พิกุลยื่นสมุดบัญชีของธนาคารแห่งหนึ่งให้กับแว่นแก้ว เด็กสาวหยิบมาดู ชื่อของสมุดบัญชีคือชื่อของเธอกับแม่ จำนวนเงินข้างในมีมากมาย 

หูยยยยยยยยยย!! สะตางค์ตั๋วมีนักขะหนาดแว่นแก้ว ผ่อหล่ะ ต๊ะใดห๋า เป๋นแสนเป๋นล้าน หูยยยยย!! แม่ไผ๋ส่งมาหื้อปะล้ำ 

ป้อแว่นแก้ว 

แว่นแก้ว แสงเดือนมองหน้ากัน พิกุลยิ้ม เธออธิบายให้เด็กสองคนฟังว่า เงินพวกนี้ไม่ได้ถอนออกมาใช้สักเท่าไหร่ จะใช้ก็ต่อเมื่อจำเป็นจริง ๆ เช่น แม่อุ้ยสาไม่สบาย หรือตอนที่แม่ของแสงเดือนผ่าตัดไส้ติ่ง หรือตอนที่ขัดสนเงินทอง แม้แต่ให้คนแถบนั้นยืม ถ้าจำนวนมากพิกุลถึงจะไปถอนมาให้ ส่วนการคืนเงิน ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย มีเมื่อไหร่ก็จ่ายได้ ไม่คาดคั้น นี่คงเป็นสาเหตุหนึ่งที่คนในหมู่บ้านต่างรักครอบครัวของเธอ และไม่มีใครถามถึงพ่อของเธอ นั่นคงเพราะคนพวกนั้นรู้ว่าเงินที่พิกุลให้หยิบยืมคือเงินที่ได้มาจากเชษฐา 

ส่วนจดหมายพวกนั้น พิกุลจะได้หลังจากวันเกิดของแว่นแก้ว 4-5 วันทุกปี เพราะเชษฐาจะส่งจดหมายให้ในวันเกิดของแว่นแก้วพอดี กว่าจดหมายจะเดินทางมาถึงก็หลายวันเอาการ แว่นแก้วเปิดอ่านอีกสองสามฉบับ ทุกฉบับจะมีคำอวยพรวันเกิดให้เธอ มีความเป็นห่วงเป็นใยผ่านตัวหนังสือเหล่านั้น มีคำห่วงหาให้แม่เธอ มีความคืบหน้าของกิจการที่ดีขึ้นตามลำดับ แว่นแก้ววางจดหมายฉบับที่ 3 ลง เดินไปกอดพิกุลที่นั่งยิ้มให้กับเธอ 

แว่นแก้วไปอยู่กับป้อเน่อ เอาใบปริญญามาหื้อแม่สักใบ พิกุลเอ่ยเบา ๆ พร้อมกับลูบผมสั้นของเด็กสาว 
. 

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ
Lovings  เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ
Lovings  เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ
Lovings  เมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเมโกะ_หมูน้อยตกน้ำ