กล้วย

ภูวเชวง

เรื่องสั้น                                                                 กล้วย                               เขียนโดย ภูวดล ภูภัทรโยธิน
	
	เช้าวันนี้ เวลา 06.50 น.  เขาขับรถด้วยอาการหงุดหงิด  หน้างอเป็นเคียวเกี่ยวข้าว   หลังจากที่ถูก
เศษก้อนหินกระเด็นโดนตัวถังรถ เสียงดัง แป๊ก แป๊ก ซึ่งสาเหตุมาจากคนตัดหญ้าหันหน้าเครื่องตัดเข้าทางถนน  โดยที่ไม่สนใจรถแต่ละคันว่ามันแพงกี่แสนกี่ล้านบาท  มันคงคิดว่ามันคือผู้บัญชาการขอบถนน กทม.  เจ้าของรถ
หลายคันลดกระจกตะโกนต่อว่า  แต่ไอ้คนตัดหญ้าไม่สนโลกเอาเสียเลย   หรือว่า กทม.รับคนหูหนวกมาปฏิบัติงานนี้โดยเฉพาะด้วยเหตุผลถึงโดนด่าก็ไม่ได้ยิน    แต่ลืมคิดไปว่ารถแต่ละคันต้องถูกเคาะพ่นสีใหม่เสียค่าใช้จ่าย
มิใช่น้อยทั้งยังเกิดรอยตำหนิทำให้ราคาตกเมื่อขายต่อ    ส่วนการร้องเรียนนั่นหรืออย่าหวัง  และอย่าเสียเวลาเดินทางไปเจรจาจนเอ็นร้อยหวายอักเสพคาขั้นบันไดสำนักงานเขต  
แม่ง ! ทำรถกูเป็นรอยแผล อุตส่าห์ทะนุถนอมอย่างดี     เขาสบถบ่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  สักครู่หนึ่งเขา
ขับเคลื่อนเลี้ยวเข้าบริษัทฯ    
สวัสดีครับ เจ้านาย  มาแต่เช้าทุกวันเลยนะครับ  ผมดูนาฬิกาเจ็ดโมงเช้าเจ้านายก็มาถึงแล้ว  ช่างเป็นคนขยัน
และตรงต่อเวลาจริง ๆ     เขารับไหว้คำกล่าวทักทายของลุงกล้วยหอม ด้วยรอยยิ้มที่รีบเปลี่ยนจากอารมณ์โมโห
มาเมื่อครู่นี้เอง    สวัสดีลุง  แหม! ลุงก็เช่นกันขยันอยู่ยามแต่เช้าเชียว  คงผลัดเวรตั้งแต่ตีห้าล่ะสิ
ผมชินแล้วครับเจ้านาย   เช้านี้จะไม่รับกล้วยหอมสักลูกก่อนเหรอ  นี่เป็นกล้วยที่ผมไปเลือกซื้อมากับมือ
นะครับ   ไม่เป็นไรหรอก  ลุงเก็บไว้ทานเถอะ     โถ เจ้านาย ตั้งแต่ผมแขวนกล้วยไว้ที่ป้อมยามแห่งนี้
มาไม่รู้หมดไปกี่หวีแล้ว  เจ้านายยังไม่เคยชิมบ้างเลย    เอาไว้วันหลังก็แล้วกันนะลุง ขอบใจมาก
	ภายหลังที่จอดรถเรียบร้อยแล้ว เขาหอบแฟ้มแห่งเอกสารความเครียดขึ้นลิฟต์ทันที  เขาทรุดตัว
ลงนั่งเก้าอี้ ปรับเอนปล่อยอารมณ์หงุดหงิดที่ยังคั่งค้างให้หมดไปกับกลิ่นอายกาแฟแก้วแรกของเช้าวันนี้
ขณะที่กำลังอร่อยกับรสชาติอันกลมกล่อม  เสียงโทรศัพท์มือถือดัง ตื้ด ๆ ขึ้นขัดจังหวะ
สวัสดีครับ  ผมราเชนทร์กำลังพูดสาย      เฮ้ย ! เชน เมื่อวานเวลาทุ่มกว่าทำไม ยู ไม่รับสาย ไอ โทร.หายู
ไม่รู้กี่ครั้งกดจนนิ้วมือหงิก  ว่าจะให้ร่างคำกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาวเสียหน่อยก็ติดต่อไม่ได้   ไอ เกือบเสียหน้า
เพราะเจ้าภาพเขาแจ้งมากะทันหัน  นี่ต้องใช้ของเก่าที่เคยกล่าวในงานอื่นมาขึ้นกล่าวเอาหน้ารอด ไม่งั้นไอ
ต้องเสียหน้ากลางงาน   ยูจำไว้นะให้หัดรับสายเสียบ้าง  การกล่าวคำเก่า ๆ ซ้ำซากมันเสียฟอร์มรู้ไหม
ครับท่าน  ต่อไปผมจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เขาขานรับด้วยอารมณ์เครียดที่กลับทวีขึ้นอีก  แล้วถือถ้วยกาแฟเดินวนเวียนไปมาเหมือนพระเดินจงกลมอยู่หลายรอบภายในห้องจนอุณหภูมิมวลรวมความสุขในถ้วยสลายรสชาติไปเสียแล้ว              ที่เขาไม่รับสายก็เพราะตั้งระบบสั่นไว้ อีกทั้งกำลังสาละวนอยู่กับการป้อนข้าวลูกสาว
 ก็เลยลืมสนใจเรื่องโทรศัพท์    เขาไสร่างลงนั่งอย่างละเหี่ยใจ ในมุมริมหน้าต่าง     มองออกไปภายนอกระเบียง   เห็นนกเขาหลงป่ามาแต่ไหนไม่รู้กำลังป้อนอาหารให้ลูกน้อย 1 ตัว  ที่ซอกอาคารหัวมุมระเบียง    ดูลูกมันยืดคอ
อ้าปากกว้างกินเพื่อให้อิ่ม อยู่เพื่อให้ชีวิตรอดท่ามกลางป่าปูนในเมืองหลวง   
	
                                                                                                                                                                          2
	ขณะอารมณ์ของเขากำลังกำซาบกับภาพภายนอกหน้าต่าง  เสียงโทรศัพท์เบอร์ของผู้บริหาร
ระดับสูงดังขึ้นอีกคำรบ   เชน  เช้านี้เวลาเก้าโมงครึ่ง ไอจะไปร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดท่านปลัด
กระทรวงฯ   ยูช่วยแต่งบทกลอนแฮปปี้ เบิร์ดเดย์ ให้ดีที่สุด  และอย่าลืมต้องมีชื่อและนามสกุลของปลัดฯ  
อยู่ในวรรคกลอนนั้นด้วย  แล้วอย่าให้เหมือนใคร  ยูต้องรีบเขียนเดี๋ยวนี้เลย  สำหรับประวัติปลัดฯ มีข้อมูลแล้ว
ไม่ใช่หรือ  แต่งมาสัก 2 บท  เสร็จแล้วส่งให้ฝ่ายอาร์ตจัดทำการ์ดอวยพรโดยด่วน ย้ำทุกอย่างต้องเสร็จก่อน
เก้าโมงครึ่ง โอเค   ครับท่าน ผมจะลงมือเขียนเดี๋ยวนี้  ขอเวลาไม่เกิน 15 นาทีครับท่าน
เขารีบวางหูโทรศัพท์ แล้วเปิดแฟ้มเอกสารแห่งความเครียดค้นหาประวัติวันเกิดของบุคคลสำคัญ
หายไปไหนวะ เขาบ่นพึมพำแล้วหันไปเปิดคอมฯ ค้นหาข้อมูลท่านปลัดเพื่อให้ได้ข้อมูลพอสังเขป
นาฬิกาข้างฝาห้องเดิน ติ๊กต็อก  ติ๊กต็อก  ติ๊กต็อก คล้ายเร่งเตือนให้รีบแข่งกับเวลา  เพราะเวลาไม่เคยหยุดรอ
ลมหายใจใครทั้งนั้น  แต่เวลาจะแย่งกลืนกินลมหายใจ  ถ้าใครไม่รีบใช้เวลาให้เป็นประโยชน์
เวลาผ่านไป 12 นาที เขาเขียนเสร็จและรีบส่งฝ่ายอาร์ตทันที
หากตะวันยังคงส่องแสง จะหมดแรงผิดหวังทำไม  เสียงเพลงเก็บตะวันในโทรศัพท์ที่โหลดไว้ดังขึ้น
สวัสดีครับท่าน ผมเขียนเสร็จแล้วและส่งให้ฝ่ายอาร์ตตะกี้นี่เอง
เออ!  ขอบใจมาก   เชน เมื่อกี้ ผอ.สำนักเลขาท่านประธานฯ เขาเอ่ยถึงยู  บอกว่ามีจดหมายจากกองทัพฯ  
เดี๋ยวจะให้เด็กเอาลงไปให้  วันนี้ไอต้องวิ่งหลายงาน   ตอนเย็นต้องไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ
พ่อตาท่านประธานอีก    ยูทราบแล้วใช่ไหมที่ฝ่าย พีอาร์ เขาขอให้ยูไปช่วยเป็นพิธีกรในงานพร้อมทั้งเขียน
ประวัติผู้ตายอ่านหน้าเมรุ   ยูต้องทำให้ดีที่สุด  ข่าวว่าท่านนายก และรัฐมนตรีอีกหลายท่านให้เกียรติมาร่วม
งานนี้ด้วย   แล้วอย่าลืมแต่งกลอนไว้อาลัยด้วยนะ     ครับท่าน ผมกำลังร่างประวัติผู้วายชนม์อยู่พอดี
เขาขานรับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนน้อม แต่เป็นกังวลอยู่ลึก ๆ   
	หลังจากวางหู เขารีบจับปากกาปั่นนิ้วแข่งกับเวลา  ขณะอารมณ์กำลังลงล็อคกับคำไว้อาลัย
จดหมายจากกองทัพฯ ถูกส่งมาที่โต๊ะ   เขาเปิดอ่านยังไม่ทันจบถ้อย ก็รู้แล้วว่า กองทัพขอให้เขียนบท
อาศิระวาท เพื่อพิมพ์ในหนังสือวันแม่แห่งชาติและหนังสือพิมพ์หน่วยขึ้นตรงต่อกองทัพฯ  ซึ่งสมัยที่
เสธ. อู้ ยังไม่ปลดเกษียณ  เขาก็เขียนให้แทบทุกงาน เพราะเคารพนับถือกันมานาน  กับทั้งเสธ.อู้ เป็นคน
ใจกว้างและเข้าใจในวิถีชีวิตนักเขียนไทยว่าไส้แห้ง (โดยเฉพาะกวีแห้งยิ่งกว่าแห้ง)
เขาลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง  นกเขาแม่ลูกคู่นั้นยังอยู่หรือไม่    วาบความคิดหนึ่งภาพเจ้าตัวเล็กลูกสาว
วัย 3 ขวบของเขาในชุดอนุบาล 3 ยืนเกาะหัวไหล่ขณะที่เขานั่งคุกเข่าสวมรองเท้าให้    ภาพนกเขาคู่นั้น
ยังอบอุ่นอยู่เหมือนเดิม
	ก่อนที่เขาจะหย่อนก้นลงเก้าอี้ตัวโปรด เขาเหลือบมองไวท์บอร์ด  ตายล่ะกู งานร่างคำกล่าว
คำสโลแกน คำขวัญและ คำกลอนยังรอคิวอยู่อีกเพียบ ทั้งในองค์กรและนอกองค์กรที่มีทุกระดับชนชั้นที่ขอมา
กูอยากสลบไปสัก 2 วัน พอฟื้นขึ้นมาให้กลายร่างเป็นทศกัณฐ์ จะได้มีมือไม้ไว้ใช้ให้คุ้มค่ากับชีวิตที่เครียด ๆ  
เขาอุทานทั้งบ่นให้กับตัวเองที่ถูกเวลากระทุ้งชีวิตอยู่ตลอด 
                                                                                                                                                                           3
	พลบค่ำวันนั้น  เขาหอบสังขารกลับมาที่บริษัทฯ  ด้วยอาการอ่อนเพลียผสมความเครียด
ในอากัปกิริยาที่ผิดสังเกตของลุงกล้วยหอม ยามผู้ซึ่งมีอารมณ์เย็นอยู่ตลอด  
สวัสดีครับเจ้านาย  ผมนึกว่าเจ้านายจะไม่ย้อนกลับมาแล้ว  ยังไม่กลับบ้านเหรอครับ   ลุงกล้วยหอม
กล่าวทักทายเหมือนเช่นปกติ  แต่ที่ลุงแปลกใจทำไมในมือเจ้านายหิ้วกล้วยหอมมาถึง 3 หวีใหญ่
ลุงผมขอนั่งด้วยได้ไหม  เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแสนเหนื่อย
เชิญนั่งเก้าอี้ครับเจ้านาย   เก้าอี้ตัวนี้มันเก่าไปหน่อย แต่ก็อยู่คู่กับผมมานานครับ
ลุงกล้วยหอมควักผ้าเช็ดหน้าเช็ดเก้าอี้ ด้วยเกรงว่าเจ้านายจะนั่งเปื้อนฝุ่น
ลุง ผมมีกล้วยมาฝาก นี่ผมซื้อมาจากแม่ค้าข้างวัดเทพศิรินฯ เชียวนะ  แม่ค้าเขาบอกว่าทั้งหอมและหวาน
ลุงเก็บไว้ทานนะ
ครับ ๆ  เจ้านาย    ผมว่าเจ้านายปล่อยวางไว้ตรงนั้นก่อนเถอะ ยิ่งหิ้วไว้นานยิ่งหนัก
ลุงวันนี้ผมเครียดมากตั้งแต่เช้า ไม่รู้มันซวยอะไร  รถก็โดนก้อนหินกระเด็นใส่   อยู่ในออฟฟิตยังไม่ถึง
เวลาทำงานโทรศัพท์เรียกใช้ก็ตื๊ดมาแต่เช้า   ระหว่างเวลาทำงานก็ยุ่งเป็นมือลิงติดร่างแห  ผมน่ะทำงานทั้ง
เบื้องหน้าเบื้องหลัง   วันนี้ตอนเย็นไปเป็นพิธีกรร่วมกับฝ่าย พีอาร์  ก็โดนตำหนิมาอีก  แต่ที่ทำให้คนอื่น
ได้หน้ากลับไม่มีใครชื่นชม  ทำดีก็เสมอตัว  หากพลาดก็ถูกเพ่งเล็ง   เป็นคนเก่งก็หาว่าล้ำหน้า
เป็นคนกล้าก็หาว่าอวดเบ่ง   สู้ทำไปวัน ๆ พอใกล้สิ้นปีก็เขียน เจ อา ดี ให้มันสวยหรูเข้าไว้...   ดีไหมลุง 
เจ้านายครับ  ชิมกล้วยหอมก่อนดีกว่าครับ   ลุงกล้วยหอมส่งกล้วยให้เขา 2 ลูก พร้อมเผยยิ้มแบบ
คนใจเย็น    ที่ไหน ๆ  ก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ  อย่างซีเคียวริตี้พวกนี้ บางคนมันก็มัก
เอาเปรียบเพื่อน  บางคนตรงต่อเวลาแต่ซื่อบื้อ บ้างก็เจ้าเล่ห์ชอบแอบหลับยาม  บางคนยิ่งซ้ำร้ายพอถูกเตือน
หลายครั้งมันก็ประชดแอบถ่ายลงลานจอดรถ เหม็นหึ่งไปหลายวัน   นี่ถ้าไม่มีกล้องวงจรปิดผมคิดว่า
คงเกิดปัญหามากกว่านี้     
เออ!  กล้วยหอมลุงหวานจริง ๆ   เขาเอ่ยชมขณะปอกเปลือกกล้วยลูกที่ 2
สมัยผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่สาธารณรัฐอินเดีย   ผมลำบากและเครียดกว่านี้ครับเจ้านาย
ลุง ๆ ตะกี้ลุงพูดอะไรนะ  ลุงบอกว่าเคยเรียนอยู่อินเดีย  แล้วทำไมมาเป็นยาม
เรื่องมันยาวครับเจ้านาย   คือว่าถ้าใครไม่ถาม   ผมจะไม่บอกว่าเรียนจบปริญญาโท 
สาขา  ฟิโลโซฟี  แอนด์ ไซคอล ละจิ   ผมไปเรียนขณะยังบวชอยู่  การใช้ชีวิตที่นั่นถ้าเทียบกับบ้านเรา
ก็ลองย้อนไปที่ศรีสะเกษ เมื่อ 20 ปีที่แล้วอย่างไรก็อย่างนั้น  ผมลงมือทำเองหากินเองทุกอย่าง
เงินทองก็จำกัดจำเขี่ย   ป่วยไข้แต่ละทีแทบเอาชีวิตไม่รอด  อย่าหวังว่าจะมีสวัสดิการให้นอนใน
โรงพยาบาลที่มีห้องแอร์เย็นฉ่ำเหมือนบ้านเรา  ถ้าตายก็เผากันง่าย ๆ ริมแม่น้ำ   เมื่อเรียนจบแล้ว
ผมกลับมาเมืองไทยสักพักจึงลาสิกขาไปสมัครงานที่ไหนมันก็แก่เกินวัย เขาจึงไม่รับอีกอย่างรูปลักษณ์ของผม
ก็ตัวเตี้ยจมูกบี้ผิวดำ  สรุปว่าเป็นยามน่ะดีแล้ว  พอสิ้นเสียงลุงกล้วยหอมอารัมภบทชีวิต เขาขยับเก้าอี้เข้าใกล้
ด้วยความสนใจใคร่รู้ในวิชั่นใหม่ ๆ อีก      
	
                                                                                                                                                                               4
	คนเราถ้ารักและตระหนักในสิ่งที่ตนทำ ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็สำเร็จได้ทั้งนั้น  สิ่งสำคัญ
อยู่ที่ใจว่าหนักแน่นหรือเปล่ากับสิ่งต่าง ๆ ที่โคจรมากระทบหรือกระทุ้งกระแทกกระทั้นกับชีวิตและ
หน้าที่ของเรา   ผมไม่เคยน้อยใจในโชคชะตาของตัวเอง  แต่ผมกลับภูมิใจที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวนี้ทั้งวัน
ลุง ๆ   การนั่งในตำแหน่งเดิมนาน ๆ จะทำให้เป็นริดสีดวงทวารไม่ใช่หรือ เขาขัดจังหวะขึ้นคั่นเวลา
ขณะที่ลุงนั่งกับพื้นเล่าเรื่อง   เจ้านายครับ ไม่เห็นยากเลย  ก็อย่างลุงนี่ไง นั่งเก้าอี้ตัวสูงแล้วเปลี่ยนอิริยาบถ
นั่งต่ำให้ติดดินบ้าง  เท่านี้ก็ได้ความแตกต่าง  และมองเห็นขาเก้าอี้ที่มันขึ้นสนิมได้ชัดขึ้น 
ส่วนความรู้คือสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ชีวิต  แต่ความจริงคือสิ่งที่จิตใจเราต้องกระจ่างกับมัน  
มิเช่นนั้นความมืดจะเข้ามาครอบงำให้หงุดหงิด  และง่ายต่อการกระทบกระทั่ง ทั้งไม่รู้จักยอมหรือปล่อยวาง
เจ้านายจำได้ไหม  เมื่อสักครู่ที่เจ้านายหิ้วกล้วยมาฝาก   แล้วผมบอกว่า ปล่อยวางไว้ตรงนั้นเถอะ
ยิ่งถือไว้นานยิ่งหนัก  นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังสื่อถึงเจ้านาย เพราะผมสังเกตเห็นเปลือกนอกที่ไม่สู้ดีมา
ตั้งแต่เช้าแล้ว   ลุงกล้วยหอมทิ้งคำพูดประโยคสุดท้าย  พลันปอกเปลือกกล้วยออกง่ายนิดเดียว       
	หลังจากที่สนทนากับลุงกล้วยหอม  นามสกุลแสนดี    พลบค่ำวันนั้นเขาขับรถกลับบ้าน
ด้วยอารมณ์ที่ปลดปล่อย  ไม่มีคนตัดหญ้าบนขอบถนนข้างสวนจิตรลดา (เขาคิดถ้ามีก็ช่างมัน)  ไม่มีเสียง
โทรศัพท์รบกวน  เขาคิดถ้ามีก็ถือว่าเป็นการได้รับเกียรติที่มีผู้บริหารระดับสูงตลอดจนคนอีกหลายระดับ
หลายองค์กรเห็นความสำคัญของเขา
	รถของเขามาจากเงินเดือนที่ได้จากองค์กร  เจ้าตัวเล็กได้เรียนอนุบาลชั้นแนวหน้า
มาจากเงินเดือนของเขา   เก้าอี้ในตำแหน่งของเขานั่งนุ่มและสามารถปรับเอนให้นั่งเขียนอะไรต่อมิอะไร
ได้อย่างเฉียบคม  มาจากความเมตตาของผู้บริหารระดับสูงที่มอบให้
หากตะวันยังคงส่องแสง จะหมดแรงผิดหวังทำไม  เสียงเพลงเก็บตะวันในโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่เขา
ขับรถถึงหน้าบ้านพอดี
สวัสดีครับท่าน
เฮ้ย!  ราเชนทร์ ยินดีด้วยนะ  เขาออกอาการตื่นเต้นและประหลาดใจ ในคำทักทายของผู้บริหารฯ
ท่านประธานฯ  ชื่นชมคุณ  ท่านบอกว่าคุณเขียนประวัติผู้วายชนม์ดีมาก  ทั้งอ่านก็ฉะฉานชัดถ้อย
ชัดคำ  และที่น่าภูมิใจท่านนายก  รวมทั้งรัฐมนตรีอีกหลายท่านได้ให้เกียรติร่วมในพิธีและฟังคุณกล่าวด้วย
 ไอมีของดีจากท่านประธานเป็นของขวัญให้ยูได้เซอร์ไพรส์
ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง    แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ
	พรุ่งนี้เช้า...  เขาจะไปทำงานเป็นปกติ  ขับรถอย่างปกติ ควบคุมอารมณ์ต่อสิ่งกระทบระหว่าง
ทางด้วยอาการปกติ   แวะทักทายลุงกล้วยหอมให้เป็นปกติ     และเขาจะทานกล้วยหอมของลุงไปอีกตราบเท่าที่
ลุงยังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวนั้นอย่างเป็นปกติวิสัยแห่งความสุขของลุง
E-mail :     pphoovadol@yahoo.com				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    30 มิถุนายน 2552 09:54 น. - comment id 105768

    11.gif6.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน