ผู้ชายใต้เงาจันทร์ (ตอนที่ 2)

อาร์ม ภูบดินทร์

ตอนที่ 2  แล้ววันหนึ่ง .. ซึ่งเคยรอ
                 รถยุโรปคันงามสีเงินแล่นเข้ามาจอดที่ลานหน้าบ้านอย่างช้า ๆ
คีรินละความสนใจจากนึกคิด มองร่างที่กำลังก้าวเดินเข้ามาหาหล่อน ทุกอย่าง
ยังคงเป็นเขาคนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ความเรียบง่ายและเงียบงันยังคงแฝงไปด้วยความลึกลับในความคิด ยากจะคาดเดา
                  เป็นไงบ้าง    ภูชิชย์เอ่ยถามคีริน ก่อนทรุดร่างลงบนเก้าอี้อีกตัวตรงข้ามหล่อน
                  ก็ดี    หล่อนตอบคำถามสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย
                ภูชิชย์พยักหน้าแสดงการรับรู้ ก่อนเงียบไปครู่หนึ่ง เขามองดูภรรยาของเขาแปลกไปกว่าทุกครั้ง เพราะทุกครั้งที่เขากลับบ้าน หล่อนจะต้องซักถามถึงเหตุผลที่เขาหายไป แต่วันนี้ 
                  รินไม่ถามผมเหรอ ผมหายไปไหนมา 
                  คีรินเจ็บแปลบในหัวใจขึ้นมาทันที เขาจำได้แค่สิ่งที่หล่อนเคยบ่นให้ฟังแค่นั้นนะหรือ  ทำไมเขาไม่ถามถึงลูกของหล่อนบ้างเล่า .. 
                  ลูกของหล่อนที่เป็นลูกของเขาด้วย 
                  หล่อนจ้องเขาเขม็ง ก่อนจะยิ้มที่มุมปากอย่างเย้ยหยัน
                   สำคัญถึงขนาดที่ฉันจะต้องถามด้วยเหรอ เวลาเกือบเดือนฉันก็
ไม่เคยคิดว่าคุณหายไปไหน เพราะฉันรู้ไงว่าคุณก็อยู่ที่บ้านของเมียน้อยของ
คุณนั่นแหละ 
                 ภูชิชย์เริ่มสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวภรรยาของเขา  คีรินเปลี่ยนไปทั้งกริยาและการพูดจา  หล่อนไม่เคยใช้คำแทนตัวเองว่า ฉันหรือคุณ กับเขา  มันทำให้เขารู้สึกห่างเหินอย่างบอกไม่ถูก เขานิ่งไปนานพอสมควร  ก่อนลุกขึ้นและจะก้าวเดินจากที่ตรงนั้น
                   แทงใจดำน่ะสิ   คีรินทอดเสียงหนักเพื่อย้ำให้เขาได้รับรู้  
                  ภูชิชย์หยุดเดิน
                   รินคิดมาก 
                   ฉันไม่ได้คิดมาก แต่ฉันคิดมามากต่างหาก   
                  คีรินเดินไปยังตรงหน้าเขา ความน้อยใจมันประดังเข้ามาเหมือนคลื่นลูกใหญ่กระทบฝั่ง  ฝั่งที่บอบบางและอ่อนไหว . มันจะทานแรงกระทบ
ได้ฤา .. ไม่ไหวแล้วนะ  น้ำตาของคีรินไหลรินอาบแก้มเป็นทางยาว หล่อน
ไม่สนใจว่าเขาจะมองหล่อนเช่นไร .. แค่ตอนนี้หล่อนอยากให้เขาได้รับรู้ว่า หล่อนเสียใจ
                   เวลาทำให้คุณเปลี่ยน  เปลี่ยนทุกอย่าง แม้กระทั่งตัวฉัน   
หล่อนเอ่ยถึงตัวเองทีไร อดสมเพชในชะตาชีวิตเหลือเกิน  ชีวิตที่คือความฝันเพียงช่วงเวลา 
                  ผมไม่เข้าใจ   ภูชิชย์ยังเฉยเหมือนเดิม 
                 สายตาของเขาที่มองภรรยาในขณะนี้ อยากให้หล่อนได้รับรู้ว่า 
เขาไม่เคยเปลี่ยนอะไรทั้งสิ้น เขายังเหมือนเดิม ทุกอย่างก่อนชีวิตแต่งงาน
และหลังแต่งงาน วันนี้  นาทีนี้  เขาก็ยังเป็นเขา แต่หล่อนล่ะ หล่อนเปลี่ยน
ไปมากไม่เหมือนคีรินคนก่อนที่เขาเคยรู้จัก มันเพราะอะไร
                  ฉันคิดว่าคุณเข้าใจ เรากำลังมีลูกนะ ฉันอยากให้คุณเอาใจใส่ฉันบ้าง วันนี้ฉันเป็นยังไง รู้สึกอะไร  ฉันไม่ได้เรียกร้องอะไรทั้งสิ้น  แต่ฉันคิด
ในส่วนของความน่าจะเป็น .. มันน่าจะเป็นเช่นนั้นไม่ใช่เหรอ  แต่นี่ .. คุณ
ไม่เคยมีเวลาให้ฉันเลย  ฉันไม่ใช่ตุ๊กตาที่คุณจะนำมาตั้งไว้ที่บ้าน จะจับให้นั่งตรงนี้ ยืนตรงนั้น หรือเก็บไว้ในห้องโชว์  แต่นี่ฉันเป็นคนนะ 
                  ผมทำงาน รินก็รู้ 
                  ถ้ายี่สิบสี่ชั่วโมงมันคือชีวิตคุณ  คุณก็น่าที่จะเลือกมันมาร่วมทางเดินชีวิตมากกว่าฉัน 
	 
                    แก้วที่ร้าวนับวันจะยิ่งร้าวหนักขึ้นทุกที คงไม่มีวันที่จะประสาน
รอยร้าวนั้นให้เรียบลงรอยดังเก่า คงได้แต่เพียงคอยว่าวันหนึ่งวันใด มันจะ
แตกสลายลงเท่านั้น .
	คีรินก็เช่นกัน หล่อนรู้ว่าชีวิตคู่ของหล่อนกำลังปริร้าวเหมือนแก้วบางใส  รอวันเวลาที่รอยร้าวนั้นจะแตกสลายลง  มันจะไม่ใช่แตกเป็นเสี่ยง ๆ แต่มันจะแตกละเอียด ไม่เหลือร่องรอยของความรู้สึกใดใดให้จำจดในความ
ทรงจำอีกเลย  วันเวลาที่รอคอยนั้น จะอีกนานเท่าไหร่ แล้วหัวใจดวงนี้ 
จะทนได้ฤา .
	จากฝันเบื้องฟ้า
	ทอดสู่สายธาราลงเบื้องต่ำ
	เมฆขาวปุยนุ่นน่าสัมผัสในสายตาของเด็กสาว
	แท้จริงคือความว่างเปล่าที่น่ากลัวนัก รสสัมผัสได้แค่การมองเห็น
	ไร้ความรู้สึกที่ซึมซับ อบอุ่น ดังเคยฝัน 
		
	ความกดดันในความคิดแทบทุกอย่างกำลังกลั่นแกล้งหล่อนอย่างไร้ความปราณีม่มีอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้วใช่มั้ย 
	สายเลือกที่ฟูมฟักทนุถนอมดังแก้วเจียรไนอันหวงแหน กำลังจะออกมารับรู้ชะตาชีวิตจากผู้สร้างให้เขาเกิด มันคงจะเลวร้ายสำหรับเขา .. แต่หากจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อวัฎจักรแห่งโลกและชีวิตต้องดำเนินไปตามกฎเกณฑ์ที่ต้องเป็น แม้ว่าหล่อนอยากให้ทุกอย่างหยุดลงตรงนี้  จบลงเดี๋ยวนี้  บัดนี้  ก็ตามที
	ไม่นานแล้วสินะ
	พยานแห่งรักจะลืมตามองโลก
	โลกที่จะไม่มีพ่อ 
	คีรินพยายามลืมเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมา เพื่อคลายความเครียดที่สะสม  ถ้าขืนหล่อนต้องเครียดหนักไปกว่านี้ หล่อนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับลูก  ลูกที่คือความหวัง ความตั้งใจและความรักของหล่อนคนเดียว
	ร่างอุ้ยอ้ายเดินลงจากรถแท๊กซี่บริเวณประตูหน้าบ้านด้วยความระมัดระวัง คีรินเพิ่งกลับจากทำบุญที่วัดโดยมีสาวใช้เดินประคองอย่างช้า ๆ
	คีรินแปลกใจนักเมื่อเห็นรถยุโรปของภูชิชย์จอดอยู่ที่ลานหน้าบ้าน
	เขากลับมาทำไมเช้านี้  น่าสงสัย
	ม่านสีครีมที่หน้าต่างห้องนอนถูกเปิดออกเล็กน้อย แสดงว่าเขานอนอยู่ในห้องอย่างนั้นหรือ เขาไม่สบายหรืออย่างไร แม้คีรินจะมีอคติกับเขา แต่ภายใต้นั้นยังมีเยื่อใยอยู่บาง ๆ คีรินบอกให้สาวใช้นำข้าวของไปเก็บใน
ห้องครัวและเตรียมกาแฟขึ้นไปให้ภูชิชย์ 
	 เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า   หล่อนคิดอยู่ในใจ ภูชิชย์ไม่เคยกลับบ้านในตอนเช้าอย่างนี้ แล้วทำไมวันนี้          
	คีรินก้าวเดินขึ้นไปยังห้องนอนของหล่อนอย่างช้า ๆ หล่อนหยุด
ที่หน้าห้องก่อนตัดสินใจเคาะประตูเพื่อมารยาท
	มารยาทของภรรยาที่แสนดีที่มีต่อสามีสุดที่รัก
	พลันสายตาหยุดชะงักที่ขอบประตูซึ่งแง้มอยู่ 
	 เขาไม่ได้ล๊อคประตู 
	หล่อนค่อย ๆ ผลักประตูเบา ๆ ก่อนเยื้องกายเข้าไปในห้องนั้น
	ห้องที่เคยเป็นของหล่อนและเขาในวันแต่งงาน
	แต่นานมาแล้ว  เหมือนกาลครั้งหนึ่ง
	เตียงนอนขนาดใหญ่ตรงหน้าคลุมไว้ด้วยผ้าแพรสีเงินนุ่มอ่อน ปักฉลุด้วยลูกไม้จากช่างฝีมือที่เลือกสรร ความนุ่มนวลเมื่อได้สัมผัสชวนหลับไหล
ได้นานเท่านาน .. หล่อนรู้
	ก็หล่อนเคยได้รับรู้ถึงรสสัมผัสนั้นด้วยความอบอุ่นมาแล้วนี่
	หากจะมีสองมือของเขามาตะกรองกอดด้วยรักอีกสักนิด .. 
เช่นวันวาน	โลกทั้งโลก .. มันก็คือฝันอันสวยงามยามนิทรา ดีดีนี่เอง
	เหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางหัวใจที่ร้าวเจ็บของคีริน เมื่อสองสายตามองไปยังเบื้องหน้า  ภาพของภูชิชย์นอนกอดหญิงสาวคนหนึ่งบนเตียงนั้น  เตียงของหล่อนและเขาเท่านั้นมิใช่หรือ  หญิงสาวนอนหลับตาพริ้มอยู่ใน
อ้อมกอดของภูชิชย์ ดูเธอช่างมีความสุขเหลือเกิน คงเหมือนอยู่ในความฝันอย่างที่หล่อนเคยได้รู้สึกมาก่อน  แต่ครั้งนี้ เธอคงไม่รู้หรอกว่าความสุขที่เธอรู้สึก
ขณะนี้ มันกำลังประหารความรู้สึกทุกอย่างของหล่อน อย่างไร้ความปราณี  
หล่อนผู้เป็นเมียของเขา
	ร่างที่ตะลึงงันไปชั่วขณะกำลังจะทรุดลงตรงหน้าประตูนั้น  คีรินหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมบทสรุปที่แน่ชัด ภูชิชย์หมดสิ้นรักให้หล่อน
แน่แล้ว .. หากเป็นเมื่อก่อนหล่อนคงกรีดร้องและทวงสิทธิ์ความเป็นเมียของเขา แต่ขณะนี้ เดี๋ยวนี้
	 ไม่ ไม่ ฉันต้องไม่เสียใจ   หล่อนบอกกับตัวเองอย่างนั้น
	เรี่ยวแรงที่มีอยู่มันไม่มีเหลือพอที่จะพยุงร่างนั้นแล้ว  คีรินเบือนหน้าจากภาพเบื้องหน้า หล่อนหลับตาและควบคุมสติ อารมณ์ ที่กำลังปรวนแปรอย่างหนัก  อารมณ์สองอารมณ์กำลังปะทะกันอย่างรุนแรง
	 ฉันจะไม่เสียใจ ฉันจะไม่เสียใจ 
	คิดอย่างนั้นแล้วไย .. ทำไมหัวใจมันหวิวหวิว
	 แต่เขาเป็นสามีของฉันนะ ฉันเป็นเมียเขา ลืมไปแล้วหรือคีริน ฉันเป็นเมียเขา 
	เมีย  เมียที่เขาไม่รัก
	คีรินลืมตาขึ้นอย่างยากเย็นเพื่อสู้กับความจริง ณ เบื้องหน้า หล่อนสะกัดกั้นอารมณ์สองอารมณ์นั้นอย่างหนักหน่วง  ท่วงทีเมินเฉยต่อภาพที่เห็นเหมือนหล่อนมิได้รู้สึกอะไร  หากความจริงที่ได้รับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นด้วย
ผลสรุปของตัวมันเอง
	จะเสียใจไปใยเล่า   เมื่อเขาไม่รัก
	จะโกรธเคืองไปใย  เมื่อหัวใจดวงนี้ไม่มีสิทธิ์
	 สมเพชตัวเองเหลือเกินนะคีริน 
	หล่อนถอนหายใจยาว  คล้ายดังว่าปลดปล่อยความรู้สึกทุกอย่างออกไปจากชีวิต  
                       น่าแปลกนัก !  ไม่มีน้ำตาแม้สักหยดไหลรินเหมือนแต่ก่อน
                                     (โปรดติดตามตอนที่ 3 ครับ)
                **********************************************************************				
comments powered by Disqus
  • อาร์ม ภูบดินทร์

    22 มิถุนายน 2546 22:22 น. - comment id 69030

    สำหรับท่านที่ติดตามมาถึงตอน 2 แล้ว ติดตามต่อนะครับ เพราะตอนที่ 3 กำลังจะคลอด พระเอกของเรื่องกำลังจะเกิดแล้วครับ สนุกและซึ้งใจ ขอบพระคุณสำหรับกำลังใจดีดีนะครับ
  • ใต้ตม

    23 มิถุนายน 2546 19:53 น. - comment id 69041

    จะคอยติดตามผลงานนะคะ น่าเห็นใจจัง สู้ๆ
  • ลูกตาล

    24 มิถุนายน 2546 15:05 น. - comment id 69049

    ไม่อยากรู้ตอนต่อไปแล้ว  แต่อยากรู้ตอนจบเลย
    รีบแต่งหน่อยนะค่ะ   เพราะมีคนรออ่านอยู่ อย่าให้เศร้ามากนักนะ
    
  • ลูกตาล

    24 มิถุนายน 2546 15:05 น. - comment id 69050

    ไม่อยากรู้ตอนต่อไปแล้ว  แต่อยากรู้ตอนจบเลย
    รีบแต่งหน่อยนะค่ะ   เพราะมีคนรออ่านอยู่ อย่าให้เศร้ามากนักนะ
    
  • แจง

    25 มิถุนายน 2546 12:31 น. - comment id 69064

    เริ่มอยากรู้ตอนต่อไปแล้วล่ะ ว่าใครคือ ผู้ชายใต้เงาจันทร์  จะเป็นคุณอาร์มหรือเปล่านะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน