ลุ่มลึกอิสราวดี

แก้วประเสริฐ

  ลุ่มลึกอิสราวดี 

             ลุ่มลึกอิสราวดี
   คืนนั้น....แสงจันทร์งามกระจ่างฟ้า......
ทอทอดแสงระยิบระยับ  ประกายแวววับกระทบ
ผืวน้ำ  สะท้อนดวงจันทร์ภาพเปล่งไหวหวามชวน
ทัศนายิ่งนัก  เป็นภาพสะท้อนช่างงดงามยิ่ง
   ชายหนุ่มร่างกำยำจัดนับได้ว่าสูงระหงส์ ใบหน้าที่
อิ่มเอิบ   ดวงตาใหญ่แต่ไม่โปน คิ้วขนดำหนาแต่ทว่า
เป็นแนวยาวเหยียดโค้งรับกับปลายชายดวงตาที่เรียว
   ใบหน้ายาวแต่ไม่เรียวมากนัก จัดได้ว่าเป็นบุรุษที่งามนัก
คนหนึ่ง แค่รอยยิ้มที่มุมปากกับแก้มที่บุ๋มที่กระพุ้งแก้ม
ส่งให้ใบหน้านี้ยิ่งเน้นสรีระร่างให้งดงามยิ่งนัก
     บุรุษหนุ่มยืนกอดอกทอดสายตามสู่ยังแม่น้ำของประเทศเพื่อนบ้าน
ที่แลดูกว้างใหญ่พอประมาณในค่ำคืนเดือนหงาย    พลันชายหนุ่มก็ให้
รำลึกนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ได้จารึกไว้ในแนวเชิงประวัติศาสน์ก่อให้
ชายหนุ่มแหงนหน้ามอง  ดวงจันทร์ที่พร่างพรายแสง แปลกชายหนุ่มนึก
คืนนี้ดวงจันทร์ใยช่างงดงามยิ่งนัก วงล้อมรายรอบเป็นชั้นๆของแสงที่ส่ง
ประกายลงมา   อ้อๆนี่เขาเรียกว่าพระจันทร์ทรงกลด โอ้..ช่างงามเสียนี่กระไร
     ชายหนุ่มหลับตาพริ้มทำให้หวนนึกถึงหญิงหนึ่งที่มักจะคอยเข้ามาในฝัน
หลายๆครั้ง  นับตั้งแต่เขาเหยียบย่างลงในผืนแผ่นดินแห่งนี้     แปลกๆเขาคิด
ทำไม ครั้งอยู่ในเมืองไทยเหตุการณ์เช่นนี้ใยไม่เกิดขึ้นแก่เขา    นี่ล่วงมาหลายๆ
วันแล้วเขาก็เกิดนิมิตเช่นนี้มาตลอด   
      ช่างเถอะเราคงจะทานอาหารไม่อิ่มกระมังจึงบังเกิดเช่นนี้ ด้วยรสชาติอาหาร
หาได้ถูกปากเขาไม่ รสชาติที่ออกจืดๆและออกคาวนิดๆ   แต่เขาก็จำเป็นต้องทาน
ด้วยไม่รู้ว่าจะไปทานที่ใด อาหารหรือที่เขาเตรียมมาได้หมดไปเสียแล้ว   แต่ภารกิจ
เขายังไม่เสร็จ     จึงจำเป็นต้องทนอยู่แต่ทว่าอีกไม่นานซินะเราจะต้องจากดินแดนนี้
เสียแล้ว   เขาทบทวนงานภารกิจที่เสร็จแล้วส่วนใหญ่คงเหลืออีกไม่เท่าไหร่   เพียง
รอให้เขาตรวจสอบและเซ็นต์รับงาน  เขาก็จะกลับบ้านเกิดเมืองนอนเสียที พอกันที
กับอาหารรสชาติที่แสนจะจืดชืด  
    
        เขานึกถึงอาหารบ้านเกิดเมืองนอน  เฮอะๆๆรอก่อนนะข้าจะกลับไปหาเจ้าเขา
รำพันกับตัวเอง  ในสมองคิดว่าคืนนี้อากาศช่างเป็นใจ  ลมพัดเอื่อยๆนำกลิ่นหอมลึกๆ
ของไอน้ำแห่งลุ่มแม่น้ำอิรวดีมากระทบจมูกเขา ทำให้เขาเกิดเปลี่ยนใจที่จะพักผ่อน
ในบ้านพักที่เขาได้เช่าไว้ในธุรกิจครั้งนี้ เหตุด้วยเขาต้องอยู่นานนั่นเอง  แต่ค่ำคืนนี้แปลกๆ
แต่ทว่าเขาไม่ได้นำอุปกรณ์ใดๆมาเลย นอกจากผ้าที่คาดเอวเท่านั้น 
        ช่างเถอะเหลือไม่กี่วันแล้วนี่นา  ที่เราต้องจากแผ่นดินนี้แล้ว เอาล่ะขอนอนที่นี่สักคืน
ยิ่งเป็นคืนที่จันทร์ทอแสงกระจ่างพร่างพราย  สายน้ำที่ไหลเอื่อยๆผิวน้ำเกิดระลอกๆทอ
ทาบดวงจันทร์แวววับวาม   ดูกระจ่างลึกซึ้งยิ่งนัก
        เขาเดินหาบริเวณที่เหมาะเพื่อจะไม่ต้องเสียบรรยากาศตลอดจนบังลมหากรุนแรงกว่านี้
ชายหนุ่มยิ้มกับตัวเอง    เมื่อแลพบมุมๆหนึ่งที่เห็นว่าเหมาะและไม่ปิดบังทัศนียภาพสวยๆของ
ดวงจันทร์ ปลายขอบฟ้าที่ดารดาษด้วยดวงดาวทอแสงระยิบระยับและลุ่มน้ำแห่งนี้   โอ้ช่างเป็น
สถานที่งามยิ่งนัก นับตั้งแต่เหยียบย่างผืนแผ่นดินนี้       หากเขามิได้รับข้อมูลจากสหายชาวรามัญ
ที่สืบทอดมาในผืนแผ่นดินนี้ให้เขามาหาความรื่นรมย์สงบจากที่ครึกครื้น ที่เขามักจะกล่าวให้สหาย
ฟังอยู่ตลอดเวลา     สหายต่างแดนได้แนะนำเขาให้มา ณ ดินแดนแห่งนี้   ก็สมหรอกและไม่ผิดหวัง
เมื่อเขามาสถานที่แห่งนี้นับได้ว่าเป็นวันที่สองแล้วซินะ   ในยามอาทิตย์อัสดงเขาก็จะมายังที่นี่คนเดียว
และคอยชมในยามข้างขึ้นพระจันทร์เต็มดวง
       เขาเดินไปค้นหากิ่งไม้แล้วมาปัดกวาดบริเวณให้สะอาดแล้วนำผ้าเคียนเอวออกมาปูลาดกับพื้น
เพื่อรอคอยเวลาที่เขาง่วงจะได้ไม่ต้องเสียเวลากังวล    เมื่อเขาจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาก็นั่งชม
เดือนดาว ลำน้ำแห่งลุ่มแม่น้ำอิรวดี   ดีนะที่ไม่ค่อยมียุงและเหลือบมากนัก  แต่ยามอากาศเริ่มดึกๆ
เจ้าพวกรบกวนเหล่านี้ก็หายไปหมด เหลือเพียงแต่สายลมที่กระฉอกน้ำที่ซัดสาดซ่าส์  เขาฟังดูคล้าย
เสียงดนตรียามประสานเพลงธรรมชาติประกอบทัศนียภาพด้วย ทำให้จิตใจเขาเบิกบานลืมบรรยากาศ
กลางวันไปเสียสิ้น  
      ดึกแล้วซิหนอเขารำพึง เสียงหริ่งเรไรที่นานๆจะส่งเสียงมาสักครั้ง   ความง่วงก็เริ่มเข้ามาสู่เขา
จึงได้เอนกายลงนอนเอาก้อนหินสอดไว้ใต้ผ้าเป็นหมอนหนุน 
  สายตาพยายามเบิ่งตาดูความงดงามดุจภาพวาดแต่นี่เป็นภาพแห่งความจริง
     ชายหนุ่มเริ่มหาวๆนอนแล้วค่อยๆพริ้มหลับตา  โอ้มันช่างเป็นความสุขแท้จริงเชียวหนอ
    เขาอดคิดไม่ได้ทั้งๆที่ม่านตาเขาเริ่มปิดลงๆ ในที่สุดเขาก็ผล็อยหลับไปในท่ามกลาง
แห่งแสงจันทร์ที่ทอระยิบระยับบวกกับแสงที่ทบกับผิวน้ำพลิ้วไหววาบวามกระจ่างไปทั่วบริเวณ
ปล่อยให้แสงจันทร์ได้ลูบไล้ร่างกายเขาไป.......
     ฉับพลันเขาต้องสะดุ้งตกใจขึ้นมา   เมื่อได้ยินเสียงม้าร้องพร้อมกับขบวนม้าที่วิ่งผ่านเลยเขาไป 
แลเห็นฝุ่นตลบ พร้อมสิ่งที่แลเห็นเป็นขบวนคนจำนวนมาก แต่ทำไมเขานุ่งห่มแปลกๆไม่เหมือน
เขาเลย     เขาก้มหน้ามองเสื้อผ้าที่หุ้มห่อกายก็ยังเหมือนเดิม   
      แต่ที่เขาแลเห็นล่ะ  ช่างแปลกๆไม่เหมือนเขาสักนิดเลย  เขาฉงนพลางลุกขึ้นโดยเร็วและไม่ลืม
คว้าผ้าปูลาดสะบัดแล้วเคียนเอว   รีบแอบมองหินข้างๆที่บังร่างกายเขาได้ดีและมีช่องลอดเพื่อให้
เขาได้มองขบวนที่กำลังผ่านหน้าเขาไป  
      เสียงเอะอะดังลั่น บุรุษหนึ่งขี่ม้าวกกลับมายังท่ามกลางขบวนตรงไปยังเสลี่ยงที่หามคนๆหนึ่ง
พลางกล่าวรายงาน เสียงลมแว่วผ่านเข้ามาแต่เขาเองก็แปลกใจตัวเองนักทำไมเขาสามารถฟังภาษา
ที่ได้ยินเสมือนเป็นภาษาเขาได้   แต่เขามิได้คิดอะไรมากนักเพียงแต่คิดและจิตได้มุ่งแต่รับฟังเสียง
ที่ลอยมากระทบหู      กลับเป็นเสียงรายงานของบุรุษที่เข้ามารายงานตัวดังขึ้น
        ข้าแด่แม่ทัพ...   ข้าได้พยายามค้นหาแล้วแต่ไม่พบเจอเลยไม่รู้ว่าไปเสียที่แห่งใด ขอรับ
เห่อะๆๆ...นายกอง  ท่านลองอีกสักครั้งหากไม่พบเห็นว่าเราสองจะแย่นะท่าน ด้วยแม่เจ้าหญิงเห็นที
ครั้งนี้คงจะไม่ยอมไว้เหมือนก่อนๆนะ  ด้วยสายรายงานมาว่าได้พบแถวบริเวณแห่งนี้ ท่านลองค้นหา
อีกสักครั้งเถอะ  หากไม่แล้วเห็นทีว่าศีรษะเราทั้งสองคงจะไม่อยู่ที่บ่าแน่ล่ะ   ข้าเองก็นึกหวั่นๆใจ
ชอบกลนี่เราก็ค้นหามาหลายเพลาแล้ว
         บุรุษร่างกำยำที่ขี่ม้าอยู่เทียบเสลี่ยง   น้อมกายรับคำเบาๆ พลางกล่าวว่า
         “ท่านแม่ทัพ....เห็นทีว่าเราคงจะต้องปล่อยไปตามวาสนาเราทั้งสองแล้วล่ะท่าน!!!...???”
ชายผู้นั่งบนเสลี่ยง ก็กล่าวเช่นเดียวกัน
       “ นั่นซิท่านนายกอง??    เราก็พยายามค้นหาแล้วทั่วทั้งแผ่นดินนับนานปีแล้วเชียว   หากครั้งนี้
มิได้รับการยืนยันจากสายโดยตรงของแม่เจ้าหญิงล่ะ เราสองคงไม่วุ่นถึงเพียงนี้หรอก...”
        “นั่นซิ...ท่านแม่ทัพ  ข้าเองก็ยังฉงนไม่วายฤาว่าใยจึงได้ห่วงเสียนี่กระไรนัก”
        “ท่านนายกอง....ข้าก็พอจะรู้เพียงนัยๆว่า  บุรุษนั้นเป็นคนรักยิ่งของแม่นางนัก มิฉะนั้นใยจึงจัก
มิยอมปล่อยวางเสียนานแล้ว  เอาล่ะเราสองทดลองอีกสักครั้ง หากมาดแม้นมิได้สมหวัง ก็เห็นทีจะ
ต้องยอมรับชะตาวาสนาของเราสองเสียแล้วกระมัง”  แม่ทัพกล่าวด้วยสำเนียงอิดโรย ด้วยเพราะ
ขาดความมั่นใจ   หากแม่หญิงจะให้เขาไปต่อสู้กับศัตรูยังนับว่าง่ายกว่าการค้นหาในสิ่งที่เขาเอง
ก็ไม่ทราบเจตนารมณ์ของเจ้าหญิงผู้ครอบครองแว่นแคว้นนี้และไม่ทราบความเป็นมาเป็นไร 
อุปมาดั่งค้นหาเงาเสียมิปาน เพียงแต่เจ้าหญิงแจ้งถึงลักษณะแห่งชายคนนั้นไว้พอจะให้เป็นที่
สังเกต   เขาเองก็มิได้ย่อท้อได้พยายามเสาะแสวงหาสืบเสาะและได้นำ บุรุษตามลักษณะที่แม่นาง
ได้บรรยายให้ฟัง มาพบเสียหลายต่อหลายคนแล้ว  แต่แม่นางก็ทรงปฏิเสธร่ำไปตั้งแต่เขายังหนุ่ม
จนบัดนี้อายุอานามก็ล่วงโรย ย่างเข้าสู่วัยกลางคนไปแล้ว แต่ความพยายามของเจ้าหญิงก็มิยอม
ลดละเลิกในเรื่องเหล่านี้ไปเสียที  จึงทำให้เขาอดทีจะท้อแท้ต่อความคิดอ่านของแม่หญิงได้
ยามที่เขายังหนุ่มคะนองด้วยความที่หยิ่งในฝีมือและความรู้ของเขา  ทำให้เขาคิดว่ามันง่ายนัก
แต่พอเข้าประจักษ์แล้วถึงได้รู้ว่า เปรียบดั่งขุนเขาที่แข็งแกร่งยากจะทำลายได้ ด้วยนามนั้น
หาได้มีตัวตนใดไม่   เพียงแต่เพียงรูปลักษณะอุปมาดั่งให้เขาค้นหาเงาก็มิปานฉะนี้
    ลางทีเห็นทีเราจะต้องพ่ายแพ้และหมดวาสนาในการรับใช้เสียแล้วกระมัง  พลางทอดถอนหายใจ
เฮือกใหญ่ พลางหลับตาพริ้มพร้อมกับกล่าวกับทหารคนสนิท
    “ท่านนายกองเอย  ในเมื่อฟ้าลิขิตเราสองเป็นฉะนี้แล้วเห็นลางทีต้องปล่อยให้เป็นไปตามวาสนา
เสียแล้วล่ะท่าน  การให้เราสองไปต่อสู้กับบุคคลที่มีตัวตนยังไม่ระอาใจ เหมือนในการครั้งนี้นะ
     “ใช่แล้วขอรับ...มาดแม้นให้ข้าไปสู้รบกับคนนับพัน นับหมื่นใจข้าก็หาได้ไหวหวั่นใดไม่ แต่นี่
เสียอีกทำให้ข้าเกิดความหวั่นไหวต่อเหตุการณ์นี้เสียจริงๆ ขอรับ”
      “ช่างเถอะท่านนายกอง...นับว่าบุญวาสนาเห็นทีคงจะหมดในครั้งนี้แล้ว  ยิ่งเป็นพระบัญชาว่า
หากมาดแม้นมิสำเร็จก็อย่ากลับมาให้ข้าได้เห็นอีก เสมือนว่าเราสองเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของ
พระองค์   ศึกในครั้งนี้เห็นทียากจะลุล่วงเสียแล้วท่าน”
       “ขอรับท่านแม่ทัพ.....ไหนๆก็ไหนๆแล้วเราก็ได้ค้นหามาแทบทั้งชีวิตมิได้ที่จะย่นย่อท้อถอยก็หาไม่
แต่นี่ศึกเงายากนักที่จะฝ่าฟันด่านนี้เสียแล้วกระมัง”
     ใบหน้านายกองที่เลยหนุ่มกลับแลดูชราขึ้นทันตาเห็น ร่างที่ผึ่งผายกลับคุดคู่ห่อเหี่ยวไป  แล้วชักม้า
ล่วงไปข้างหน้า พลางร้องเพลงขึ้นเสมือนกับปลงอนิจจังตัวเอง  เสียงเพลงที่ร้องสั่นสะท้านแทรกซ้อน
ไชชอนเข้าไปในดวงใจของเหล่าทหารๆหาญหน่วยกล้าตายเหล่านี้  พร้อมลำนำกานท์สอดแทรกไปด้วย
                “ อันชีวิตเกิดข้าหาเกรงไม่
           ต้องมาตายในศึกครั้งนี้หรือ
           แม้สู้รบกับใครหาได้ปรือ
          แต่นี่คือภาพลักษณ์ข้าหนักใจ.”
   เสียงร่ายทำนองที่ดูออกเศร้าๆลึกๆในห้วงจิตใจของนายกองคนนี้   แม้แต่แม่ทัพเองก็ยังหน้าเปลี่ยนสีไป
ใช่ซินะ....นายกองคนนี้ผ่านศึกสงครามมานักต่อนัก ถึงแม้ตัวคนเดียวตกอยู่ในหมู่ล้อมของศัตรูก็หาได้
ยี่หระไม่ กลับทรนงต่อสู้ผ่านชะตากรรมกลับมาได้เพียงโดดเดี่ยวและเดียวดาย เหล่าทหารกล้าได้เสีย
ชีวิตและรอดกลับมารายงานถึงวีรกรรมของนายกองคนนี้ ทำให้เขาเองต้องรีบออกมาหวังช่วยเหลือ
นายกองคนสนิทคนนี้  พอยกทัพออกไปได้กลับแลเห็นนายกองควบม้ากลับมาคนเดียวพร้อมนำหัว
แม่ทัพฝ่ายตรงกันข้ามมาเพื่อเป็นกำนัลทดแทนความผิดที่ต้องสูญเสียทหารไป  แต่ศึกครั้งนี้เขาไม่เคย
ได้ยินและเห็นความหนักใจท้อแท้เสมือนในครั้งนี้เลย  พลางทอดถอนใจหนักแล้วกล่าวคำสุนทรฝาก
ตามหลังบุรุษชาติอาชาไนย ไว้เลาๆ
           “วาสนานำพาแห่งชีวิต
    มาดแม้นปลิดชีวันขันอาสา
     สู้กับคนไม่หวั่นในอุรา
     ลิขิตมาสู้เงายังเศร้าใจ."
      *  แก้วประเสริฐ. *

n016.gif				
comments powered by Disqus
  • แก้วประเสริฐ

    30 มกราคม 2553 13:42 น. - comment id 102926

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
          บ้านน้อยหลังนี้ ทางสะดวกจ้า เชิญตาม
    สบายใจได้เลย เดี๋ยวเจ้าฉางนุ้ยก็จะมาหรอก อิอิ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • กิ่งโศก

    28 มกราคม 2553 20:30 น. - comment id 113867

    ขออ่านแบบรวดเร็วก่อนนะครับครู..เด๋วจะมาทวนอีกรอบครับ
  • โคลอน

    28 มกราคม 2553 21:43 น. - comment id 113869

    29.gif29.gif29.gif
    
     ลุ่มลึกๆ
    
    มีตอนต่อไปมั๊ยคะ แก้วประเสริฐ 
    
    เหมือนจะมีลางสังหรณ์ว่า ท่านแม่ทัพ จะหาคนรักของเจ้าหญิงเจอนะคะ
    
    แต่หาตั้งแต่หนุ่มจนล่วงเข้าวัยชรานี่ น่าสงสารนะคะ
    
    หากก้มมองเงาจันทร์ในน้ำอาจจะเห็น 65.gif (จินตนาการตาม อิอิ)
    
    29.gif29.gif29.gif
    
    ปล.คืนนี้พระจันทร์ก็เต็มดวงค่ะ กลมโตสวยเชียว 11.gif
  • ฉางน้อย

    29 มกราคม 2553 00:15 น. - comment id 113878

    ตามมาเตะก้นสหายฝนก่อนนอนคะ 
    
    46.gif20.gif74.gif
  • โคลอน

    29 มกราคม 2553 07:31 น. - comment id 113887

    ย้อนมา สะกิดฉางน้อยด้วยนิ้วสั้นหลังตื่นนอนค่ะ อิอิอิ
    
    20.gif20.gif20.gif
  • เฌอมาลย์

    29 มกราคม 2553 16:07 น. - comment id 113904

    ที่ 5 เดี๋ยวมาอ่านใหม่ค่ะ
  • แก้วประเสริฐ

    29 มกราคม 2553 17:22 น. - comment id 113907

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
         ตามสบายเลยจ้า ทำธุระให้เสร็จก่อนตอนนี้
    ครูเพียงแค่มาฝึกหัดเขียนไว้ ด้วยทิ้งมานานแล้ว
    ล่ะ รักเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    29 มกราคม 2553 17:25 น. - comment id 113908

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
         ผมมาเพื่อฝึกหัดงานใหม่ครับ  มีจ๊ะและรู้
    สึกว่าจะยาวๆเสียด้วย สมองกำลังแล่นอยุ่ก็ฝึกเอา
    ไว้ นั่นซิวันนี้ดวงจันทร์งามนัก สังเกตุไหมจะมี
    ดวงดาวที่ใกล้ชิดสว่างไสวดวงเดียว นอกนั้นหลบ
    ไปขอบฟ้าหมดเลย อิอิ เหมือนผมแหละฮ่าๆๆๆ
    หมาน้อยคอยจันทร์ การอ่านเรื่องราวต้องรู้จักเดา
    ก็จะได้ประสบการณ์มากจ้า รักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    29 มกราคม 2553 17:27 น. - comment id 113909

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ฉางน้อย
    
         เอ้าๆๆว่าเข้านั่นเลยนะ เจ้าฉางนุ้ย อิอิ
    ตามสบายกับสหายเธอนะ รักเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    29 มกราคม 2553 17:28 น. - comment id 113910

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
          เอ้าว่าไงยายฉางนุ้ย มาแล้วล่ะเขามา
    สวัสดีเจ้าหลานเรานะ ฮ่าๆๆๆ รักเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    29 มกราคม 2553 17:31 น. - comment id 113911

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เฌอมาลย์
    
        เจ้าหญิงครับผมมาคราวนี้ต้องการมาฝึกสมอง
    ว่ายังใช้การได้ดีหรือเปล่าครับ ก็เลยเขียนไว้แต่
    ทว่ารู้สึกในจิตสำนึกว่าคงจะยาวๆแน่เรา อิอิ 
    รักเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • โคลอน

    29 มกราคม 2553 18:24 น. - comment id 113915

    อิอิ... ทางสะดวกแล้น 21.gif
    
    ขออนุญาตฝากข้อความถึง ฉางน้อยนะคะ แก้วประเสริฐ 29.gif46.gif14.gif
    
    
    
    เคยเห็นป่ะ สหาย นิ้วสั้นอ่ะ ฮ่าๆ 20.gif20.gif
    
    หรือต้องยกให้ดู 19.gif19.gif
    
    ลองมาเตะอีกดิคืนนี้จ๋วยแน่ 14.gif14.gif
  • ฉางน้อย

    29 มกราคม 2553 19:10 น. - comment id 113918

    11........อ่ะ มาแระๆๆ ไหนๆ ใครมีไร
    
    บอกมาดิ 
    
    มีปัญหาไรป่ะ ....นิ้วสั้นก็ม่ะกลัว
    
    (แอบหลังลุงแก้วฯก่องดีก่า...555520.gif46.gif
  • แก้วประเสริฐ

    30 มกราคม 2553 13:45 น. - comment id 113929

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ฉางน้อย
    
         อ้าวๆๆๆยายฉางนุ้ยเอ๋ย ฝ่ามือประหลาด
    พิฆาตอวตารนะ ลุงเองรับไม่ไหวหรอกจ้าแค่ฝ่ามือ
    ธรรมดายังแย่เลย ฮ่าๆๆๆ   หลานรัก
    
               16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • คมดาบนารี

    4 กุมภาพันธ์ 2553 23:42 น. - comment id 114209

    เพิ่งมีเวลาแวะมาอ่านค่ะ..1.gif..
    จะทยอยติดตามทีละตอนค่ะ...36.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    5 กุมภาพันธ์ 2553 11:29 น. - comment id 114224

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ คมดาบนารี
    
          ครับขอบคุณที่มาครับ  ทดลองอ่านดูนะ
    ครับ  ผมจะว่างเว้นกลอนทางโน้นไว้ หันมาทางนี้
    เพื่อฝึกฝนสมองไว้ด้วยครับ  อ้อ หากจะนึกแต่ง
    กลอนก็จะนำมาใส่ยังที่นี้แหละครับ  ทางโน้นให้
    ศิษย์ผมเล่นตามสบายไป ครับ ขอบคุณครับ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน