ลุ่มลึกอิสราวดี 3

แก้วประเสริฐ


          ลุ่มลึกอิสราวดี  3
     จวบจนมวลเหล่าทหารทั้งหลายต่างแยกย้ายกันไปหมดสิ้น
ชายหนุ่มก็ออกจากที่ซ่อน  ท้องเริ่มหิวเตือนชายหนุ่มเพื่อต้อง
การอาหาร      ดังนั้นเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะหาอาหารจากที่ใดได้
นึกขึ้นได้ว่าภายในป่านั้นคงจะมีผลไม้พอประทังสิ่งหิวโหย
ได้บ้าง  แต่ทว่าหากเขาเข้าป่าไปโดยไม่มีอาวุธใดๆสักชิ้นเดียว
ก็จะไม่ปลอดภัยเป็นแน่แท้      นึกถึงคำสนทนาของนายกอง
กับเหล่าทหารกล้าให้ซ่อนอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้  การซ่อนของ
เหล่าทหารนั้นหาได้พ้นไปจากสายตาเขาไม่   จึงหมุนตัวกลับ
ไปยังที่ทหารได้ซ่อนยุทโธปกรณ์เพื่อต้องการอาวุธเพื่อใช้ใน
ระหว่างทาง
         เมื่อมาถึงกลับเห็นสภาพเหมือนเดิมๆ ก็นึกชมทหารที่
ทำหน้าที่เสียมิได้ ว่าช่างชาญฉลาดจริงๆ    หากแม้นเขามิได้
เห็นและรู้ที่แล้วยากยิ่งจะค้นหาได้เจอ    จึงจัดการแหวกหญ้า
ที่ขึ้นและยกไม้กระดานออกพลิกไปอีกด้านหนึ่ง เหลือบสาย
ตามองไปภายใน  โอ้ว!!!...ช่างมากมายเสียเหลือเกินและอาวุธ
ต่างๆจัดการวางไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยดียิ่ง  ชายหนุ่มค่อยๆ
หยิบเอามาทดลองน้ำหนักมือของเขา  มันช่างหนักมากเสียจริงๆ
ชายหนุ่มคิด   เขาเพียงต้องการแค่ชิ้นเดียวและไม่ยาวมากนักเพื่อ
สะดวกในการพกติดตัวและใช้ป้องกันตัวในยามจำเป็นเท่านั้น
จึงค่อยๆเลือก จนไปพบดาบสั้นเล็กๆลวดลายออกแปลกไปกว่า
ดาบอื่นๆ ปลอกหุ้มดาบก็มีลวดลายสวยงามนัก
       เขาจึงได้ชักดาบเล็กนั้นออกมาตรวจดู พอดาบน้อยได้รับแสง
อาทิตย์ที่ส่องประกายมา   พลันเกิดประกายระยิบระยับสีออกเขียว
ดังปีกแมงทับสวยงามนัก  เขาจึงยกชั่งน้ำหนักมือตัวเองเห็นว่า
พอจะรับได้ จึงหันไปยังกิ่งไม้แล้วฟันดาบลงไปบนกิ่งประมาณ
เท่าข้อมือเขาเห็นจะได้  เมื่อดาบน้อยกระทบกับกิ่งไม้ปรากฏว่า
กิ่งไม้ยังทรงก้านอยู่ เขานึกว่าคงจะฟาดดาบผิด    แต่ทันใดนั้นเอง
กิ่งไม้ดังกล่าวก็หักลงมาทันที  เขาเองบังเกิดความตกใจไม่คาดคิด
ว่าดาบน้อยนี้ใยช่างมีความคมกริบ เมื่อผ่านเนื้อไม้เขาแทบจะไม่รู้
สึกว่ากระทบกับไม้เลย นึกว่าฟาดผิดเสียอีก เขายกดาบน้อยเล็ก
ขึ้นมองดู   ไม่เห็นสภาพว่าใช้งานเลยยังทรงสภาพเดิมทุกประการ
          ชายหนุ่มยิ้มให้กับตัวเอง แล้วจับมีดเข้าสอดในฝักดังเดิม
ยกขึ้นจูบเบา พร้อมพึมพรำด้วยความดีใจนำอาวุธแสนสวยดังกล่าว
เสียบเข้ายังบันเอวใต้ผ้าเคียนเอวของเขา    
เขารีบจัดการเรียงอายุธให้เหมือนเดิมแล้วยกกระดานปิด
บนกระดานที่เต็มไปด้วยดินและหญ้าปัดเก็บในสิ่งเกิน
เพื่อให้คงสภาพเหมือนเดิม   แล้วเขาก็รีบออกจากที่นั้นโดยเร็ว
        โดยมุ่งเข้าป่าเขารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นเมื่อมีเพื่อนคู่กายไว้ใช้ในการ
ป้องกันตัว  การใช้ดาบเล็กๆนี้เขาพอจะใช้ได้เนื่องจากผ่านการฝึก
เบื้องต้นมาบ้างและโดยสัณชาติญานของมนุษย์ย่อมสามารถใช้ได้
อยู่แล้ว   แต่เขาได้ฝึกฝนมาบ้างสมัยยังเรียนหนังสืออยู่จึงไม่ค่อย
เป็นปัญหานัก       จึงได้รีบมุ่งหน้าเข้าป่าเพื่อหาอาหารรองท้องก่อน
        ระหว่างทางต้นไม้ที่รกชัฏนั้นไม่มีทางเดินเป็นต้นไม้เล็กใหญ่
สลับกันไปเขา   มองหาต้นไม้ที่มีกิ่งก้านยาวพอจะใช้เป็นไม้แหวก
ทางให้สะดวก  จึงหยิบมีดน้อยออกมาตัดกิ่งแล้วเลาะก้านออกตัดทำ
ให้เป็นไม้เท้าสำหรับไว้แหวกทางเดินและอาจจะป้องกันพวกสัตว์
มีพิษด้วยในระหว่างที่เขาเดินทาง  เมื่อจัดการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ก็เริ่มออกเดินทางต่อไป  สายตาพยายามมองหาต้นมะม่วงป่าด้วย
เขาไม่กล้าที่จะเก็บกินโดยพละการ ด้วยต้นไม้เหล่านี้ออกผลแปลกๆ
ไม่เหมือนที่เขาได้ผ่านพบมา  เขานึกถึงต้นมะม่วงได้เพียงอย่างเดียว
และคิดว่าเมื่อมีป่าก็คงจะมีต้นมะม่วง มะกอกบ้าง   เขาเดินเข้าไปลึกๆ
เพื่อไปยังภูเขาโดยคิดว่า หากข้ามภูเขาไปแล้วเหตุการณ์ก็คงจะหาทาง
กลับที่พักได้บ้าง  
            ในระหว่างทางพบแต่พวกลิง สัตว์นานาชนิดกำลัง
หาอาหารเขานึกได้ทันทีว่า   หากนกสัตว์นั้นกินผลไม้ได้เขาก็คงจะ
กินได้เหมือนกัน  จึงพยายามสอดส่ายสายตาค้นหาต้นไม้ที่มีนกกำลัง
กินอาหารหรือ สัตว์พวกลิงกินอาหารกัน แต่ไม่เห็น ที่เห็นเพียงแต่นก
เกาะส่งเสียงร้อยไพเราะมากแต่เขาไม่มีเวลาที่จะสนใจฟังเท่าไหร่นัก
ด้วยท้องร้องจ๊อกๆตลอดเวลา คอเขาแห้งผากด้วยความกระหายน้ำ
เขานึกได้ระหว่างเรียนหนังสือว่า เถาวัลย์เป็นที่เก็บน้ำ  จึงเปลี่ยน
ใจหันค้นหาเถาวัลย์ซึ่งมีมากมายเป็นระโยงระใยไปทั่ว เขาเลือกเอา
เส้นที่ใหญ่พอประมาณ แล้วนำมีดน้อยมาตัด  แล้วรีบยกขึ้นดูดตอน
แรกไม่ค่อยมีน้ำแต่พอเขาดูดแรงๆขึ้นก็ปรากฏน้ำไหลมากพอประทัง
ได้  แม้จะมีรสเฝื่อนกร่อยเหม็นเขียวบ้างก็ตาม
เขายิ้มกับตัวเองและนึกว่าไม่คิดว่าชีวิตเขาจะต้องมาตกระกำลำบาก
ในที่นี้เสียได้  
         เมื่อบรรเทาอาการกระหายน้ำได้ เขาก็ออกเดินทางต่อไปมุ่งสู่ภูเขา
ลูกที่ใกล้ๆเบื้องหน้า   ค้นพบต้นมะม่วงป่ากำลังออกผลเต็มไปหมดแต่
อยู่ปลายกิ่งสูงๆ  เขาได้แต่แหงนหน้ามองใช้ความคิดว่าจะนำมาทานได้
อย่างไรกัน  ด้วยไม่มีเครื่องมือในการเก็บผลไม้นี้จึงได้แต่มองๆและใน
บัดดลเขาก็นึกถึงภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่พระเอกใช้ก้อนหินเป็นอาวุธต่อสู้
กับยักษ์  หากเราเลียนแบบแล้วนำก้อนหินมาขว้างที่พวงมะม่วงก็คงจะได้
ผลเหมือนกัน   
           จึงได้รีบค้นหาก้อนหินซึ่งมีมากมาย เขาเลือกเอาขนาดก้อน
ที่พอกับน้ำหนักมือกอบเอามายังที่เหมาะพอจะขว้างผลไม้ได้  เขาเริ่มต้น
ขว้างไปยังพวกมะม่วงที่กำลังจะสุกงอมอยู่โดยสังเกตที่ปลายจุกออกสีเหลือง
อ่อนๆไว้  แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าการขว้างปาเขาไม่ถูกเป้าสักครั้งเดียวก้อนหิน
หมดไปแล้วหนึ่งกอง  จึงต้องย้อนกับไปเก็บก้อนหินใหม่ แล้วนำมาปาอีก
คราวนี้ถูกบ้างไม่ถูกบ้างแต่ก็ไม่สามารถให้ลูกมะม่วงตกลงมาได้ จนกระทั่ง
เขาเหนื่อยและแขนอ่อนล้า  จึงได้นั่งลงพักผ่อนมองดูคิดไปต่อการกระทำก็
พบว่าเขานั้นขาดสมาธิ เพียงแต่มีความตั้งใจเท่านั้นจึงไม่บรรลุผลตามต้องการ
          เอาใหม่เขาคิดหากไม่สำเร็จก็จะไม่ไปจากเจ้านะเจ้ามะม่วงพวงนี้ 
ก็เริ่มไปเก็บก้อนหินมาใหม่  แล้วเริ่มหลับตาตั้งจิตใจสมาธิให้มั่นแล้วก็
ค่อยๆตั้งสติตั้งใจ   ขว้างไปไม่ถูกอีก ก้อนที่หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้าผ่านไป
ไม่ได้ผล  แต่ด้วยความพยายามอย่างแน่วแน่ประกอบกับสมาธิตั้งมั่น
พอลูกที่หก ถูกกับพวงมะม่วงแต่ผลไม่ยอมตกลงมา  เขาคิดสงสัยน้ำหนัก
แรงขว้างคงจะไม่สมดุลเพียงพอ  จึงเริ่มอีกที คราวนี้ถูกอย่างจังที่พวงทั้งพวง
แต่ก็ยังไม่ยอมตก   เขาคิดพลางหยิบอีกก้อนหนึ่งมาคิดว่าหากจะให้ตกก็ต้อง
ขว้างให้ถูกที่ก้านของพวงนั่นแหละถึงจะได้ผล 
         ก้อนแล้วก้อนเล่าจนในที่สุด
เขาก็ประสบผลสำเร็จ เมื่อก้อนหินที่เกือบจะหมดกองนั้นถูกยังก้านพวงมะม่วง
ได้ผลแฮะ...เขาคิด  มะม่วงหล่นลงมาทั้งพวง     ชายหนุ่มดีใจมากลืมความหิว
ไปชั่วขณะ  แล้วนำก้อนหินที่ยังเหลืออีกหลายก้อน เดินไปหาพวกมะม่วงใหม่
เพื่อทดสอบอีกว่ามันจะฟลุ๊กเหมือนพวงแรกหรือเปล่า    คราวนี้ปรากฏว่าทุกๆ
ก้อนที่เขาขว้างไปได้ผลทั้งหมด  ทุกๆก้อนสามารถทำให้พวงมะม่วงหล่นมา
แทบทุกพวง ชายหนุ่มดีใจมากที่เขาสามารถทำได้เหมือนในภาพยนตร์ที่เขาดู
เมื่อสมัยตอนเรียนหนังสืออยู่  พอความดีใจสิ้นสุดลงความหิวก็เข้ามาสู่เขาอีก
ครั้ง ชายหนุ่มรีบเดินไปเก็บผลมะม่วงคัดเลือกที่พอจะทานได้มาปลอกเปลือก
นั่งรัปทานประทังความหิว จนผลไม้หมดไปหลายๆลูกจนกระทั่งความหิวโหย
หายไป
          ชายหนุ่มยิ้มกับตัวเอง  บัดนี้ร่างกายเขาขะมุกขะมอมเต็มทีผมบนศีรษะยุ่งเหยิง
ไปหมดเสื้อผ้าบ้างขาดวิ่น แทบจะหาชิ้นดีได้ยาก แต่เขาไม่สนใจต่อเสื้อผ้า นอกจาก
มุ่งหน้าเดินทางเพื่อหวังจะข้ามขุนเขาให้ได้ ค่ำไหนก็นอนนั่น น้ำท่าไม่ต้องพูดถึงเขา
ไม่ได้อาบและล้างหน้าเลย นอกจากอาศัยเถาวัลย์ดื่มน้ำประทังและหาอาหารผลไม้ป่า
ที่เขาเริ่มจะปรับตัวเองให้เข้ากับธรรมชาติได้แล้ว เวลาผ่านไปเท่าไรเขาไม่รู้วันเดือนปี
เวลาหรือก็อาศัยพระอาทิตย์และดวงจันทร์ดวงดาวเป็นที่สังเกตว่า มันผ่านวันๆไปแล้ว
เท่านั้นเอง   
         ชายหนุ่มพยายามปีนป่ายหาหนทางไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไร
ในการที่จะข้ามเขาลูกนี้   เขาผ่านเนินเขา เนินแล้วเนินเล่าไปด้วยหัวใจตอนนี้เขาเริ่ม
แข็งแกร่งทั้งสภาพจิตใจและร่างกาย ทนต่ออากาศที่มักจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็
หนาวมากๆ  เดี๋ยวก็ร้อนเสียแทบกายจะแตก สลับกันไปทำให้สภาพร่างกายเขาสามารถ
ปรับอุณหภูมิได้อย่างดี  ในขณะที่เดินทางนั้นเขาเองก็อาศัยการฝึกปรือวิชาที่ร่ำเรียนมา
ฝึกไปพร้อมๆกับเดินทางและบ้างก็วิ่งบ้างเดินบ้างสลับกันไปเรื่อยๆ จึงทำให้ร่างกาย
ของเขาทุกๆส่วนเกิดกล้ามเนื้อทรงพลังได้อย่างไม่คาดคิด
         ครั้นผ่านเนินเขาไปเขาก็พบแหล่งน้ำใสสะอาดเป็นแหล่งน้ำใหญ่พอประมาณมี
ลำธารไหลเป็นน้ำตกสูงชันกำลังไหลเอื่อยๆมา   ชายหนุ่มดีใจมาก รีบถอดเสื้อผ้า
แล้วนำไปซักนำไปผึ่งแดดทีพุ่มไม้  ส่วนตัวก็ทะยานลงสู่สายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ
ไปยังแหล่งน้ำเพื่อชำระร่างกายให้สะอาด
    เป็นครั้งแรกนับจากอาบน้ำที่แม่น้ำมา  ตั้งแต่นั้นมาเขาไม่เคยเลยจะได้อาบน้ำเหมือน
ในครั้งนี้  จึงดำผุดดำว่ายให้เป็นที่สนานอารมณ์   เขาจัดการชำระร่างกายเท่าที่จะทำได้
โดยนำก้อนหินสากๆเล็กๆมาเป็นที่ขัดผิวที่ดำด้วยเหงื่อไคลจับกันเป็นจุดๆทั่วร่างกาย
เมื่อจัดการเรียบร้อย  จนคิดว่าสะอาดแล้ว   
         ชายหนุ่มก็สังเกตไปทั่วๆบริเวณแหล่งน้ำทันที   เขาพบสิ่งที่ผิดสังเกตระหว่างม่าน
หลังม่านน้ำตก   จึงว่ายไปที่นั่นทันที  
        “โอ้ววๆๆๆ!!!????....เบื้องหลังม่านน้ำตกนั้นเขาพบถ้ำเล็กๆ หากไม่สังเกตุแล้วจะไม่เห็นเลย.....
             *   แก้วประเสริฐ.  *

n016.gif				
comments powered by Disqus
  • ปรางทิพย์

    31 มกราคม 2553 02:34 น. - comment id 113939

    วันหยุดปรางอ่านเสียจุใจเลยค่ะ
    ๓ ตอนรวด เขียนมาก ๆ เช่นนี้
    น่าสนุกนะคะ สุขภาพเป็นไงบ้างคะ
    
    36.gif36.gif36.gif
  • แก้วประเสริฐ

    31 มกราคม 2553 10:35 น. - comment id 113940

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ปรางทิพย์
    
          ครับผมว่าสงสัยจะยาวๆแน่ครับด้วยจิตบอก
    นี่ขนาดเริ่มแก่เกริ่นเรื่องเท่านั้นนะครับ ยังไปไม่
    ถึงไหนเลยครับ สงสัยจะเป็นดั่งเรื่อง ทัศยุราชันย์
    กระมัง แต่ผมชอบเขียนแนวนี้ครับ สุขภาพก็ดีขึ้น
    หน่อยครับ ขอบคุณที่เป็นห่วง เรื่องทัศยุราชันย์
    ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะยาว คุณเองก็รักษาสุขภาพ
    ด้วยนะครับ รักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • โคลอน

    31 มกราคม 2553 12:56 น. - comment id 113944

    11.gif11.gif11.gif
  • แก้วประเสริฐ

    31 มกราคม 2553 13:03 น. - comment id 113946

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
         คุณฝนครับ นี่ผมแต่งวันเว้นวันเชียวนะ
    ดำเนินเรื่องแค่เริ่มต้นยังแค่นี้  โอ้ยๆๆสงสัยอีก
    นานจะจบ จึงเร่งเขียนก่อนที่จะเขียนไม่ได้ครับ
    กะว่าจะเอาให้จบบริบูรณ์เลย ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือ
    ไม่ด้วยสุขภาพร่างกายสายตาไม่ค่อยดีนัก แม้ว่า
    สมองยังแจ่มใสอยู่ก็ตาม ทางกลอนผมจะว่างๆไว้
    ให้เขาเล่นกันไป  หันมาทางนี้สนุกงานเขียนก่อน
    หากนานๆก็จะไปแจมที่โน่นสักทีครับ รักเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • คมดาบนารี

    4 กุมภาพันธ์ 2553 23:59 น. - comment id 114211

    พระเอก..ฉลาดอ่ะค่ะ..นึกภาพแล้ว เข้ม ๆ แมน ๆ แหะ ๆ สเปก 555
  • แก้วประเสริฐ

    5 กุมภาพันธ์ 2553 11:36 น. - comment id 114226

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ คมดาบนารี
    
        ผมนึกได้อย่างไรก็แต่งไปตามนั้นแหละครับ
    เพราะฉนั้นเรื่องนี้ทั้งจินตนาการและความจริงผม
    นำมาผสมผสานกันเข้าไว้ครับ อ่านต่อๆไปครับ
    ทั้งลี้ลับและไม่ลี้ลับครับ ขอบคุณครับ
    
          16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน