ลุ่มลึกอิสราวดี 10

แก้วประเสริฐ


           ลุ่มลึกอิสราวดี  10
       เจ้าลิงน้อยเมื่อพุ่งร่างมาถึง     ยังเบื้องหน้าเขาแล้วมันแสดงอาการ
ลิงโลดดีใจ  ตีลังกาหลายๆรอบพร้อมส่งเสียงร้องลั่น   นั่นคงหมายว่า
มันได้รับชัยชนะอย่างสมบูรณ์แล้ว   
      ชายหนุ่มหัวร่อรับรู้และแสดงความดีใจแก่มันด้วยเข้าไปลูบยังหัวมัน
แล้วตบไปที่ลำตัวมันเบาๆ บัดนี้เจ้าลิงน้อยจะมาพุ่งเข้าซบอกเขามิได้แล้ว
ด้วยร่างมันกำยำและใหญ่เกินกว่าที่เขาจะอุ้มมันได้อีกต่อไป     ดังนั้นจึง
ได้แต่เพียงย่อร่างแล้วแสดงอาการให้มันรับรู้
      ชายหนุ่มหันไปยังแม่ช้างและลูกช้าง  อาการบาดเจ็บของแม่ช้างค่อน
ข้างจะมาก เลือดยังไหลแต่ก็ยืนน้ำตาไหล    เขาเดินไปใกล้มันมันกลัวก็กลัว
แต่เห็นแม่ช้างมิได้แสดงอาการดุร้ายแต่ประการใด คงปล่อยให้เขาเดินไปลูบ
ตัว  เขาตบสีข้างแม่ช้างพังเบาเพื่อปลอบใจ  และดูบาดแผลที่เป็นรอยมากมาย
แต่บ้างลึก บ้างแค่รอยใต้ผิวหนังที่หนาย่นเล็กน้อย แต่ก็ให้เลือดหลั่งออกมา
      ขณะที่เขากำลังแสดงอาการปลอบใจแม่ช้าง   เจ้าช้างน้อยก็เข้ามาใช้ปลาย
งวงมันลูบไล้บนใบหน้าชายหนุ่ม    ชายหนุ่มคิดมันคงจะแสดงความขอบคุณ
เขากระมัง     ดังนั้นเขาจึงหันไปลูบที่หัวมันเบาๆแล้วตบเบาๆที่ข้างลำตัวของมัน
     แขนเขาถูกกระตุกๆเบาๆ  จึงหันไปดูและเห็นเจ้าลิงขนทองมันหอบใบไม้
อะไรเขามองดูและไม่รู้จัก   และมันไปตั้งแต่เมื่อไหร่เขาไม่รู้    ทันใดนั้นเองเสียง
เบาๆจากแม่นางพรายก็กล่าวขึ้นว่า
   “พี่ท่านเจ้าประกายทองมันหายามาให้แม่ช้างจ๊ะ  ให้พี่ท่านนำมาเคี้ยวในปาก
แล้วนำไปพอกยังแม่ช้าง  มันเป็นต้นสมุนไพรป่าที่ใช้ในการรักษาบาดแผล  และทำ
ให้แผลหายเร็ววัน  ซึ่งแม่ช้างมันก็รู้ แต่ว่าอาการตอนนี้มันค่อนข้างหนักจึงยังไม่
สามารถไปหายาด้วยตัวมันเองได้  ให้พี่ท่านจงเคี้ยวใบสมุนไพรแล้วนำไปพอกยัง
บาดแผลแม่ช้างเถอะจ๊ะ”
   “ขอบใจมากจ๊ะแม่นาง”  
    ชายหนุ่มหันไปมองเพื่อจะปฏิบัติตามคำพูดของแม่นางพราย  แต่แล้วเขาเห็น
เจ้าขนทองกำลังนำใบไม้ที่เคี้ยวแหลกนำไปพอกยังบาดแผลแม่ช้าง   ดังนั้นเขาจึง
รีบนำใบยามาเคี้ยวแล้วนำไปพอกที่บาดแผล   แม่ช้างเหมือนจะรู้ในการกระทำของ
เขาและเจ้าขนทอง     ดังนั้นมันจึงยืนนิ่งๆ เพียงแค่สะบัดหางไปๆมาๆคอยรับการ
ช่วยเหลือ  พร้อมทั้งชูงวงร่ำร้องแสดงถึงความยินดี
    ภายหลังจากช่วยแม่ช้างและลูกช้างแล้ว   เขาแลเห็นหลังจากแม่ช้างและลูกช้าง
แสดงคาราวะเขาเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็พากันเดิน คุ่มๆเข้าชายป่า  หายลับไปก่อนที่
จะเข้าแนวป่ามันทั้งสองยังหันกลับมาพร้อมชูงวงร้องเป็นครั้งสุดท้ายแล้วเดินหายไป
    ชายหนุ่มหลังจากกำราบเจ้าหมีควายยักษ์แล้วก็หันมาจูงเจ้าขนทองที่มีรูปร่างสูง
ใหญ่เกือบเท่าเขาออกเดินทาง  ลัดเลาะผ่านแนวโขดเนิน   เนินแล้วเนินเล่าผ่านตัดกลาง
แนวป่าทึบ     จวบจนถึงทางคั่นระหว่างภูเขาสองลูกที่มีรอยตัดกันเป็นแนวเพื่อไปยัง
อีกด้านหนึ่งของเขา    ในช่วงทางรอยแยกนั้นปรากฏหมอกมืดวนเวียนคลุ้งรุนแรงมาก
จนกระทบมายังชายหนุ่มและลิงขนทอง    สายลมหมุนเป็นวงกลมแล้วกระจายหายไป
    “โอ้แล้วเราจะผ่านไปได้อย่างไร”
ชายหนุ่มคิด   หรือว่าจะเป็นแค่บางช่วงเท่านั้น
    “อากาศเริ่มจะขมุกขมัวแล้วเห็นทีจะต้องรอจนกว่าพายุจะสงบกระมัง”  เขารำพึงกับ
ตัวเอง  พร้อมทั้งมองหาสถานที่จะพักผ่อน     จึงได้ปีนป่ายไปยังเหลือบชะง่อนผาที่มองเห็น
เป็นลานยื่นออกมาคล้ายพลาญ   และแลเห็นมีโพรงเล็กๆพอที่จะหลบลมและน้ำค้างได้
      ดังนั้นจึงหันมาส่งสัญญาณกับเจ้าขนทอง ทั้งสองก็ปีนป่ายส่วนเจ้าขนทองใช้เวลาเดี๋ยว
เดียวก็ขึ้นไปยังชะง่อนหน้าผาได้   เหลือเพียงเขาเท่านั้นที่ยังตะเกียกตะกายในที่สุดก็ขึ้นไป
สำเร็จก่อนตะวันจะพลบค่ำ       ภายในโพรงคล้ายๆปากถ้ำมืดมิดจนมองอะไรไม่ค่อยถนัดนัก
     เพื่อความไม่ประมาทเข้าจึงล้วงหยิบชุดไฟที่ยังเก็บไว้ประมาณสามอัน  อีกอันหนึ่งเขาใช้แต่
ยังไม่หมด  พลางล้วงหยิบหินแล้วหาที่บังลมพลางตีหินเหล็กไฟทันที  สักครู่หนึ่งเขาก็สามารถ
ติดกระชุไฟได้  แล้วค่อยๆเดินส่องทางเข้าไปในโพรงนั้น
      โอ้ว!!!!????....   เขาอุทานเบาๆ  ภายในเป็นบริเวณกว้างขวางพอสมควร แต่มีกลิ่นคาวๆ
เต็มไปหมด  ด้วยสัญชาติฌานทำให้เขานึกว่าคงจะเป็นที่อาศัยของงูเสียมากกว่า   ส่วนเจ้าขนทอง
ก็ส่งเสียงร้องคำรามพร้อมขู่ลั่น   เขาจำเป็นที่ต้องใช้ที่นี่อาศัยด้วยเวลาได้เริ่มจะมืดขึ้นทุกๆขณะ
      จึงได้ค่อยๆส่องไฟค้นหาเพื่อหากมี งู ดังที่เขาคิดจะได้กำจัดมันเสีย แต่เขามองไม่เห็นเพียง
แต่เห็นแต่หินย้อยๆ เรียงรายกันไปหมด พื้นก็มีหินย้อยงอกโผล่จากพื้นถ้ำด้วย   แต่ทำไมกลิ่นคาว
ยิ่งฉุนมากๆจนต้องเอาผ้าคาดเอวมาพันที่จมูกคล้องคอเขาไว้     จะด้วยอะไรก็ตามทีเขาเห็นสิ่งผิด
สังเกตทันใด  หินย้อยที่เขาคิดด้วยมองจากความสลัวๆและแสงของกระชุ เขาเห็นและรู้เหมือนว่า
จะมีอาการเคลื่อนไหว    แต่งูนั้นเขาไม่เห็นมันสักตัวเลย
      คิดได้ดังนั้นแล้วจึงค่อยๆถือคบไฟถอยหลังอย่างช้าๆ  แล้วพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทันใดนั้นสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นหินย้อยก็ค่อยๆต่ำลงๆ จนจดพื้นถ้ำ  โอ้วๆสิ่งที่เขาแลเห็นจากคบไฟ
มันกลับเป็นหัวงูขนาดใหญ่      ดวงตาสีแดงก่ำๆสองดวงแต่แปลกที่มันผิดกับหัวงูทั่วๆไปเกล็ด
มันยามกระทบกับแสงไฟ  ส่งประกายหลากสีนักและที่แปลกที่สุดคือบนหัวมันกับมีปุ่มงอก
ออกมาด้วย      หากแม้นเขาก้าวล่วงเข้าไปอีกนิดเดียวคงจะเป็นอาหารมันแน่ๆ มันเหมือนจะ
มีอำนาจพิเศษ 
     ปรากฏว่าร่างเจ้าลิงขนทองนั้นกลับเหม่อลอยค่อยๆเดินเข้าไปหามันช้าๆ และ
หินย้อยที่เขาคิดว่าเป็นหินจากธรรมชาติค่อยๆขยับขึ้นทีละน้อยๆ จนแลเห็นกว้างขึ้นๆ  เขารู้ทันที
ว่าเจ้าลิงขนทองสงสัยจะถูกมนต์สะกดแน่  จึงรีบกระชากแขนมันถอยหลังทันที  เจ้าขนทองถึง
กับสะดุ้งสุดตัวพลันร้องเสียงดังก้อง  เสียงลั่นกังวานก้องไปทั่วภายในโพรงหรือจะเรียกว่า ถ้ำ
ก็ได้ทันที    
    “ทันใดนั้นเสียงของแม่นางพรายก็แว่วก้องมาสู่เขา   ฉับพลันควันหมอกก็พุ่งออกมากจาก
ฝักดาบมีดของเขา กลายร่างเป็นภูตสาวสองนางทันที    เขาหันไปยิ้มให้แม่นางพรายทั้งสอง
พลางกล่าวว่า
    “นั่นมันงูยักษ์ใช่ไหมน้องเรา”
    “มันไม่ใช่งูยักษ์ธรรมดาหรอกจ๊ะ  พี่ท่าน”
    “อ้าวแล้วมันอะไรกันนะ  พี่เห็นมันเป็นงูนี่นา”
    “มันเป็นงูลูกน้องของพญางูที่ควบคุมบริเวณแถวๆนี้จ๊ะ”
    “แล้วเราจะทำอย่างไรดีล่ะน้องพี่”
    “เห็นทีพี่ต้องจัดการฆ่ามัน แล้วเอาลูกแก้วที่มันสะสมพลังแก่กล้าไว้มาใช้ในการเดินทางเพื่อ
ฝ่าหมอกพิษที่ช่องทางระหว่างเขาเสียแล้วพี่ท่าน”       พรายประกายแดงกล่าว
    “อะไรน่ะ????...ถึงต้องกับฆ่าแกงกันเชียวหรือ”     ชายหนุ่มถาม
    “เห็นทีจะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วจ๊ะ  ด้วยมีหนทางเดียวที่จะฝ่าควันหมอกพิษไปได้จ้าพี่ท่าน”
    “อืมม...แล้วจะฆ่ามันได้อย่างไรล่ะ  อาวุธเราสามารถฆ่ามันได้หรือ”
    “มีแต่ดาบและมีดนี้เท่านั้นถึงทำลายมันได้จ๊ะ”   แม่ประกายเขียวตอบ
    “โอ้วๆๆ???... แม้แต่เจ้าขนทองที่มีเขี้ยวแก้วยังโดนมันสะกดลืมตัวนะดีที่พี่ไหวทันกระชาก
มันเสียก่อน”  ชายหนุ่มตอบ
  “อันเขี้ยวหรืออำนาจของน้องทั้งสองก็ไม่อาจจะต้านทานฤทธิ์ของมันได้จ๊ะ” นางพรายตอบ
  “ยังงั้นพี่จะทดลองดูนะ”
  “พี่ก็นำธนูของพี่ที่ทำด้วยไม่รวกแล้วอธิษฐานขอความเมตตาจากเทพยาดา   แล้วยิงมันที่นัยน์ตา
ทั้งสองของมัน    หากแม้นเทพยาดาป่าเขาแห่งนี้อนุเคราะห์พี่ก็เห็นทีจะสำเร็จ  หากไม่ก็ต้องใช้ดาบพี่และ
มีดน้อยพุ่งเข้าใส่นัยน์ตามันจ๊ะ  แต่ทว่า???...”
  “แต่อะไรน้องพี่???...”      ชายหนุ่มถามด้วยความสังสัย
  “หากพี่ใช้ดาบและมีดน้อยไปแล้ว    เมื่อถูกเป้าก็จริงแต่ว่า   งูยักษ์มันจะดิ้นจนโพรงหรือถ้ำนี้แทบ
จะทะลาย   มันจะพุ่งเข้ามาหาพี่แล้วพี่จะเอาอะไรใช้ต่อสู้อีกล่ะ”     พรายสาวทั้งสองตอบ
  “นั่นซิเห็นที....พวกเราต้องวิ่งหนีออกจาก  ถ้ำไปแล้วล่ะ  แต่หน้าโพรงถ้ำนี้มีแค่พลาญนิดเดียว
นอกนั้นเป็นผาสูงชันเราจะทำอย่างไรดีล่ะน้องเรา”
  “ถึงตอนนั้นก็เห็นจะต้องแล้วแต่บุญวาสนาเรานั่นแหละ   แต่อุ๊ยๆ???...   น้องนึกได้แล้วเรายัง
มีประกายทองอยู่   เมื่อตางูยักษ์มันมองอะไรไม่เห็นแล้วอำนาจมันก็จะลดทอนลงไปมาก   ด้วยอำนาจ
มันเกิดจากนัยน์ตาที่สามารถสะกดคนหรือสัตว์แม้แต่ภูตพรายได้จ๊ะ”
  “อืมมๆๆๆ พี่ก็ไม่ทันนึก  นี่ดีนะที่พี่มีคู่ปรึกษา     หากไม่มีน้องพี่เห็นทีจะแย่จริงๆๆ”
ชายหนุ่มตอบ     เล่นเอาแม่นางพรายถึงกับม้วนอายไปทีเดียว สร้างความงดงามของใบหน้าแก่
ชายหนุ่มยิ่งนัก  ถึงกับมองตะลึงไปเลย    ชายหนุ่มพลางหันไปแล้วสะบักหน้าเบาๆเพื่อสะหลัด
ความคิดเรื่องความงามออกเสีย
  “เอาล่ะ!!!???.....เป็นไรเป็นกันเราก็หนีไปไม่ได้แล้วนี่นา   หากไม่ทดลองจะรู้หรือ”
    ครั้นแล้วชายหนุ่มก็ดึงลูกธนูออกมาสองดอก   พลางมองไปยังที่ดวงตาเจ้างูยักษ์ที่มันค่อยๆ
หุบปากลงเพื่อมองเหงื่อของมันด้วยความสงสัย     เขาไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นเสียไปพร้อมยกลูกธนู
ตั้งจิตให้แน่วแน่นิ่งแล้วกล่าวคำอธิษฐานเบาๆ   วอนเทพยาดาฟ้าดินขอให้การกระทำของเขา
ในครั้งนี้บรรลุล่วงสำเร็จด้วยเทอญ      เมื่อสิ้นคำอธิษฐานต่อเทพยาดาป่าเขาลำเนาไพรแล้ว
    เขาก็ง้างคันธนูพร้อมกับลูกดอกสองดอก    พอได้จังหวะก็ปล่อยลูกธนูไม้รวกไปทันที
เหมือนอำนาจของไม้รวกตันนี้ประกอบกับคำอธิษฐานจะได้ผล  ลูกธนูพุ่งเข้ายังดวงตาของ
เจ้างูยักษ์ทันที     ลูกธนูที่ทำด้วยไม้รวกตันหายวับไปเข้าสู่ดวงตาดวงโตสีแดงก่ำๆทันที
    เลือดได้ทะลักออกมา   ร่างงูยักษ์ดิ้นพลาด ๆ ด้วยความใหญ่โตของมันทำให้เกล็ดหิน
ต่างๆล่วงพรูออกมาชายหนุ่มและเจ้าขนทองรีบหันหลังทะยานออกจากมานอกโพรงถ้ำทันที
   เสียงภายในโพรงแทบถล่มทลาย แล้วหัวของงูยักษ์ที่ดวงตาบอดสนิท  โผล่ออกมาจาก
โพรง        ชายหนุ่มไม่รอช้าโอกาสทองเช่นนี้  เขาชักดาบออกกระโดดเข้าฟาดฟันหลายๆครั้ง
ไปยังด้านต้นคองูยักษ์   ปรากฏคอห้อยออกมา เลือดมันสาดมากระทบตัวของชายหนุ่มแดงฉาน
ชายหนุ่มรู้สึกว่าร่างกายที่ถูกเลือดงูนั้นช่างเยือกเย็นอะไรเช่นนี้จนเขาอดสะท้านร่างด้วยความ
หนาวเหน็บ   โอ้ววๆๆๆมันเย็นอะไรเช่นนี้  เลือดเจ้างูยักษ์เขารู้สึกว่ามันซึมผ่านผิวหนังเขาเข้า
ไปในร่างกายเพิ่มความหนาวเหน็บจนร่างเขาสั่นๆทันที   หันไปมองเจ้าลิงขนทองก็เช่นกันมัน
ยกมือทั้งสองกอดอกนั่งคุดคู้ทันที    เขาเองก็เหมือนกับมันรีบนั่งลงพลางปลดหนังเสือสมิงที่
ม้วนเก็บไว้     รีบเอามาหุ้มห่อร่างกายรู้สึกว่ามีไออุ่นของหนังเสือซึมซ่านมา  ทำให้ร่างกาย
ค่อยอบอุ่นขึ้นทีละน้อยๆ
เป็นไปสักครู่ใหญ่ๆอาการทั้งหมดก็หายไป
     “ไม่ต้องตกใจหรอกจ้าพี่ท่าน   ท่านโชคดีแล้วที่ได้อาบเลือดงูต่างน้ำด้วยงูนี้มีอายุนับพันปี
และเป็นสิ่งหายากมาก  หากใครได้อาบแล้วจะมีร่างกายคงกระพันชาตรี  ยากนักจะหาอาวุธใด
ทำร้ายพี่ท่านได้   ผู้ใดหากมีตบะเดชะอ่อนกว่าก็จะพากันตกอยู่ในอำนาจของพี่ไป  อีกประการ
ให้พี่รีบชำแหละที่ภายในท้องใกล้ๆหัวใจมันโดยเร็วก่อนที่ร่างมันจะกลับกลายเห็นหินไปจ๊ะ
เพื่อนำแก้วสองดวงออกมา  และนำดีมันมาให้พี่และเจ้าประกายทองดื่มกินด้วยก็จะเพิ่มพละ
กำลังอย่างมหาศาลด้วยจ๊ะ  รีบๆหน่อยๆ”   พรายสาวทั้งสองรีบกล่าวขึ้นด้วยความดีใจ
    “อะไรนะต้องทำเดี๋ยวนี้เชียวหรือ  ทั้งๆตัวพี่ยังเปื้อนเลือดอยู่นี่นะ”  ชายหนุ่มตอบ.......
         *  แก้วประเสริฐ. *

n016.gif				
comments powered by Disqus
  • แขกประจำบ้านกลอน

    5 กุมภาพันธ์ 2553 18:18 น. - comment id 114239

    ครูแก้วบอกว่ามาอ่านเรื่องโม้ต่อ
    ก็จะมาติดตามอ่านบทต่อไปอิอิ
    อืม ครูแก้วตื่นสายเหมือนกันเหรอคะ
    มองเห็นเวลาเกือบเที่ยงนั่งดื่มกาแฟ
    21.gif21.gif
    
    ขอบคุณมากนะคะ 36.gif36.gif36.gif29.gif
  • กิ่งโศก

    5 กุมภาพันธ์ 2553 20:42 น. - comment id 114240

    พระเอกเริ่มเสริมเขี้ยวเล็บรอบตัวแล้ว
  • คมดาบนารี

    6 กุมภาพันธ์ 2553 08:37 น. - comment id 114248

    อยากได้นางพรายตนที่ 3 มั้ยอ่าคะ คุณลุง....27.gif27.gif...
    
    แวะมาอ่านต่อค่ะ..1.gif36.gif36.gif
  • โคลอน

    6 กุมภาพันธ์ 2553 12:08 น. - comment id 114255

    31.gif31.gif31.gif31.gif
    
    ลุ้นค้ะลุ้น.........อิอิ 29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    6 กุมภาพันธ์ 2553 12:27 น. - comment id 114258

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แขกประจำบ้านกลอน
    
           ครับผมเองก็เขียนไปเรื่อยๆนี่พึ่งตื่นนอน
    สักพักกำลังทานกาแฟ  ครับผมตื่นสายด้วยนอน
    ดึกๆ ไม่สิบโมงก็สิบเอ็ดโมงแหละครับ มิฉนั้น
    นอนไม่พอเพียงจะปวดศีรษะครับ แฮะๆๆๆคนตก
    งานก็อย่างนี้แหละครับจะหาแหล่งมิได้ต้องซุกหัวนอน
    ต่อไปครับ  ขอบคุณครับ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    6 กุมภาพันธ์ 2553 12:30 น. - comment id 114259

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  กิ่งโศก
    
         ครูเองก็วาดภาพไปเรื่อยๆแหละตามใจฉัน
    แต่งานเขียนครูชอบมักแฝงอะไรๆไว้เสมอๆ ศิษย์
    เราเวลาเขียนโคลงกลอนก็ควรหาสิ่งสาระแฝงไว้
    ด้วยไม่ใช่เพื่อสนุกอย่างเดียว นั่นแหละโคลงหรือ
    กลอนถึงจะมีคุณค่านะ เอ๊ะไม่รู้ซิว่าจะเข้า
    มาอ่านอีกหรือไม่หนอ รักศิษย์เราเสมอๆ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    6 กุมภาพันธ์ 2553 12:33 น. - comment id 114261

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ คมดาบนารี
    
         แฮะๆๆๆอยากนะอยากอยู่แต่กลัวว่ามันจะ
    เลอะเทอะกันใหญ่นะ ตอนแรกคิดจะแค่นางพราย
    ตนเดียว แต่อิอิ คนขาดเพื่อนไม่ได้ก็เลยพ่วงอีก
    สักตนหนึ่งครับ กลัวพระเอกเหงาๆครับ อิอิ รักเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    6 กุมภาพันธ์ 2553 14:42 น. - comment id 114263

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  โคลอน
    
          สวัสดีจ้าคุณฝน  เป็นอย่างไรบ้างครับ
    เรื่องที่ผมจินตนาการไว้นะไม่เห็นบอกดีหรือไม่ดี
    หากไม่ดีก็จะเลิกเขียนจ๊ะ  รักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • โคลอน

    6 กุมภาพันธ์ 2553 14:54 น. - comment id 114265

    ^
    ^
    ^
    โห ตามอ่านแบบเหนียวแน่นหนึบแบบนี้ยังต้องบอกอีกเหรอคะ....อิอิ
    
    21.gif46.gif46.gif46.gif
  • โคลอน

    6 กุมภาพันธ์ 2553 14:55 น. - comment id 114266

    10
    
    เพื่อมิให้เป็นการเสียเที่ยวที่เทียวมาอีกรอบ...อิอิ
    
    20.gif
  • bananaleaf

    6 กุมภาพันธ์ 2553 23:46 น. - comment id 114279

    สวัสดีค่ะลุงแก้ว
    
    ยุ่งก็ยุ่ง อยากอ่านก็อยาก ติดไว้ก่อนนะคะ
    8 - 9 - 10 อ่านไม่ไหวแระ ง่วงนอน
    
    ราตรีสวัสดิ์นะคะ  36.gif6.gif
  • แก้วประเสริฐ

    7 กุมภาพันธ์ 2553 11:25 น. - comment id 114280

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
         ผมเห็นเราสนิทกันจึงกล่าวเช่นนี้ เผื่อว่า
    ทุกๆอย่างผิดพลาดกันได้ ก็เลยถามเพื่อให้แน่ใจ
    จ้า ขอบใจมากนะจ๊ะ รักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    7 กุมภาพันธ์ 2553 11:28 น. - comment id 114281

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
          สวัสดีจ้า โอ้ช่างชื่นใจจริงๆเหมือนหยาด
    ทิพย์ชโลมใจเลยล่ะจ้า เชื่อมั่นแล้วจ้า งั้นรออ่าน
    ต่อนะจ๊ะ  เสร็จตอบกระทู้แล้วก็จะแต่งต่อเลยจ้า
    รักเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    7 กุมภาพันธ์ 2553 11:30 น. - comment id 114282

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ bananaleaf
    
          สวัสดีจ้า  ไม่เป็นไรหรอกเป็นครูก็แบบนี้
    แหละงานมักจะยุ่งทั้งอาชีพและงานบ้านด้วยต้อง
    ควบสองอย่างเชียว  หากว่างๆค่อยอ่านก็ได้จ้า
    รักเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน