ลุ่มลึกอิสราวดี 15

แก้วประเสริฐ


             ลุ่มลึกอิสราวดี  15
     ภายหลังจากที่นายกองของเสนาบดีจากไปพร้อมเหล่าทหารไปตรวจ
ยังร้านอื่น        ลับหลังนายกองก็รีบเข้าไปยังห้องลับทันทีพร้อมเขียน
หนังสือรายงานไปยังแม่ทัพเหมี่ยวสุรินทราบดีทันที  เพื่อให้ระมัดระวัง
ในการดำเนินการตลอดจนรับรายงานหากมี
      เสร็จแล้วก็มอบให้ทหารในร่างพ่อค้า  แฝงตัวนำไป มอบแก่แม่ทัพใหญ่    
แล้วก็ออกจากร้านค้าเพื่อออกนอกเมืองไปยัง   หน่วยสะสมกำลังซ่อนอยู่
ในป่าลึกที่ใช้สำหรับฝึกฝนอาวุธต่างๆ 
      เมื่อไปถึงก็เรียกหัวหน้าหมู่ที่ควบคุมเหล่าทหารใหม่สอบถามเหตุการณ์
และทราบมาว่า    บรรดาทหารที่หนีออกจากเมืองมานั้นต่างก็มาสมทบ
ด้วย      ที่ไม่พอใจในการกระทำของอำมาตย์ใหญ่และมีความจงรักภักดี
ต่อเจ้าแม่เหนือหัวรวมทั้งแม่ทัพต่างๆตลอดจนนายกองอื่นๆ
        นายกองเหมี่ยวนรธาเมื่อทราบดังนั้นก็ตรงไปยัง ที่พักของบรรดาแม่ทัพ
นายกอง   แสดงความเคารพต่อแม่ทัพต่างๆแล้วรายงานเรื่องภายในเมืองให้
ทราบไว้เพื่อจะได้ระมัดระวังตัว   บรรดาแม่ทัพเห็นดังนั้นก็พากันลุกขึ้นแล้ว
กล่าวขึ้นว่า
       “ท่านเหมี่ยวนรธา  พวกของเราถึงแม้จะเป็นแม่ทัพนายกองมาก่อน  แต่
บัดนี้หาใช่เป็นแม่ทัพและนายกองไม่    เห็นว่าท่านซึ่งมีความจงรักภักดีต่อ
พระแม่เจ้ารวบรวมจัดกำลังพลขึ้น  พวกข้าทั้งหลายขอยกย่องท่านให้เป็น
หัวหน้าพวกเรา  จะสั่งการใดๆ  ถึงจะลุยน้ำลุยไฟเราก็หาหวั่นเกรงใดไม่
และจะเชื่อฟัง เรื่องบรรดาศักดิ์ยศฐานันดรนั้นหมดสิ้นไปแล้ว”
         “ และต่อแต่นี้ไป  พวกเราจะถือท่านเป็นหัวหน้าพวกเราเท่านั้น”
      และพากันน้อมกายแสดงคาราวะแก่นายกองเหมี่ยวนรธา
      ครั้นเหมี่ยวนรธาเห็นเช่นนั้นพลางกล่าวว่า
         “ข้าขอขอบใจพวกท่านยิ่งนักที่ให้เกียรติแก่เรา  แต่ทว่าถึงอย่างไรหาก
นับด้วยความอาวุโสแล้วตลอดประสบการณ์   ท่านมีความเชี่ยวชาญกว่า
ข้ามากนัก   จำต้องพึ่งพาอาศัยท่านอีกมาก   เอาอย่างนี้ก็แล้วกันเรามาสาบาน
เป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายกันดีกว่านะขอรับ”
          บรรดาแม่ทัพนายกองเห็น  เหมี่ยวนรธาแสดงอาการอ่อนน้อมให้เกียรติ
แก่พวกตนเช่นนี้   พากันซาบซึ้งในน้ำใจจึงพร้อมใจกันตกลงรับปากคำ
           เหมี่ยวนรธาหันไปทางทหารที่คอยรับใช้ว่าให้ไปเอาเหล้ามาให้พร้อม
จอกขันในการดื่มกิน  พร้อมอาหารต่างๆมาเพื่อไหว้ฟ้าดินในการสาบานตนกัน
         เหล่าทหารที่ได้รับคำสั่งก็ออกไปนำสิ่งของอุปโภคบริโภคและรีบนำมา
ให้แก่เหมี่ยวนรธาทันที   เขาสั่งให้จัดโต๊ะบูชาฟ้าดินตลอดจนที่องค์พระรัตนตรัย
ด้วย     เมื่อเห็นครบถ้วนแล้ว  ทั้งหลายต่างคุกเข่าสักการบูชาพระรัตนตรัยกล่าว
คำสาบานร่วมเป็นพี่น้องเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายทันที  
       แล้วหันไปยังโต๊ะที่สำหรับไหว้ฟ้าดิน   เหมี่ยวนรธาหยิบเหล้าออกมา
เทยังขันใบใหญ่จนหมดไหแล้วนำมีดดาบออกมากรีดเลือดที่ยังท่อนแขน 
 ให้ไหลหลั่งลงไปยังเหล้าในขันนั้น
       บรรดาแม่ทัพนายกองเห็นดังนั้น  ก็ต่างทยอยกันมากรีดเลือดหลั่งสู่ขันนั้นทันที
พร้อมนำมีดวางไว้บนปากขันใบนั้น   แล้วต่างจุดธูปกล่าวคำสาบานต่อฟ้าดินทันที
       ว่าทั้งหมดจะขอร่วมเป็นร่วมตายไม่ว่าจะสิ้นชีวิตในการครั้งนี้ก็ตาม  เพื่อกอบกู้
อำนาจเพื่อมอบให้แก่พระแม่เจ้า
       ทั้งหมดเมื่อสาบานกันแล้วก็ต่างน้ำขันใบใหญ่ที่ผสมเหล้ากับเลือดต่างยกขึ้นดื่ม
วนเวียนกันจนหมดสิ้นทุกตัวนาย
       ครั้นพิธีเสร็จสิ้น  นายกองเหมี่ยวนรธาก็หันไปทางหญิงรับใช้ที่ผ่านการอบรมเป็น
ทหารให้จัดเตรียมอาหารต่างๆเพื่อใช้ในการต้อนรับพี่น้องร่วมสาบานทันที   ครั้นแล้ว
ทั้งหมดก็เข้าร่วมดื่มกิน  ต่างส่งเสียงเฮฮาหัวร่อต่อกระซิก  กันผลที่สุดไม่ว่าใครจะอาวุโส
เท่าไหร่หรือมียศสูงสักเพียงใด   ต่างลงมติให้เหมี่ยวนรธาเป็นหัวหน้า
        เหมี่ยวนรธาครั้นได้รับการยกย่องเช่นนี้  ก็ให้สัตย์แก่บรรดาพี่น้องร่วมสาบานว่าจะ
พยายามรักษาปกป้องพวกพี่น้องทั้งหลายด้วยชีวิต  หากมาดแม้นเขาจะผิดพลาดอย่างไร
ก็อย่าได้เกรงใจเขา  ให้ช่วยตักเตือนแก่เขาด้วย   พร้อมยกจอกขึ้นหันไปทางบรรดาพี่น้อง
ร่วมสาบาน    
       ทุกๆคนต่างลุกขึ้นยืนแล้วยกจอกเหล้ามาชนกันกล่าวสัตย์พร้อมกันว่าจะรักษาราชบัลลังก์
ให้แก่พระแม่เจ้าเหนือหัวด้วยชีวิตจะหาไม่   แม่ทัพที่อาวุโสท่านหนึ่งก็นำแผนที่ออกมากาง
เป็นแผนที่แสดงถึงเขตพระราชฐานทุกซอกมุม  และกล่าวว่า
      “ ท่านหัวหน้าเหมี่ยวนรธา  แผนที่นี้ไม่ใช่เพียงแต่แสดงเขตต่างๆแล้ว  
 ยังประกอบด้วยห้องลับน้อยใหญ่ที่น้อยคนนักจะล่วงรู้ได้  
แต่ด้วยข้าเองมีคนใกล้ชิดเป็นญาติทำงานเกี่ยวกับราชเลขาของ
องค์เจ้าเหนือหัวองค์ก่อน  ควบคุมห้องหนังสือทั้งปวง   ด้วยเหตุที่ข้าสังเกตเห็นไอ้อำมาตย์นั้น
มีความทะเยอทะยานมากไม่เห็นหัวผู้ใดและเป็นที่ใกล้ชิดไว้เนื้อเชื่อใจแก่องค์เจ้าเหนือหัว
        จึงคิดว่าหากเป็นเช่นนี้ไม่วันใดวันหนึ่งจะต้องมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นแน่นอน   ข้าจึงให้ญาติ
ข้าพยายามคัดลอกเขตราชฐานให้ละเอียด   ด้วยญาติข้านั้นเป็นผู้รับผิดชอบต่อห้องคลังหนังสือนี้
จึงทราบและคัดลอกมาให้ข้า”   แม่ทัพผู้อาวุโสสูงสุดกล่าว
         “โอ้ๆๆ...เมื่อเป็นเช่นนี้นับว่าฟ้าดินยังเมตตาแก่เมืองยิ่งนัก  เห็นทีการครั้งนี้คงจะสำเร็จสมความ
ตั้งใจแก่พวกเรา   และเป็นประโยชน์ยิ่งนัก   ฉะนั้นข้าเองคิดว่าหากนำมาลอกเพื่อมอบให้แก่บรรดา
พี่น้องทั้งหลายนี้ก็จะดี   ดีกว่าเก็บไว้คนเดียวหากมาดแม้นเกิดเหตุการณ์ที่คาดมิถึงขึ้นก็จะสามารถ
รักษาตัวเองและพวกพ้องได้ทางหนึ่ง    พวกท่านเห็นเป็นประการใด”   เหมี่ยวนรธาหันไปถาม
        ทั้งหมดหันมามองหน้ากันและคิดตรงกันว่า  สมแล้วที่เรายกย่องให้เขาเป็นหัวหน้าพวกเรา
ด้วยมีน้ำใจรักพวกพ้องยิ่งนัก    ตลอดจนความละเอียดรอบคอบ  
หากเกิดเหตุแผนที่ลับนี้สูญหายไป หรือตกไปอยู่ในมือฝ่ายตรงกันข้ามยังไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไร
และแผนการต่างๆที่วางไว้ก็จะสูญสิ้นไปหมด    นายกองท่านหนึ่งกล่าวขึ้นว่า
         “ความคิดอ่านของหัวหน้าเป็นความคิดกว้างไกลนัก  แต่ทว่ารู้มากก็ยิ่งเปิดเผยมาก  ดังคำกล่าว
ของคนโบราณว่า ความลับย่อมไม่มีในโลก  ถึงมีก็ควรจะน้อยลง  เอกสารนี้หากพวกเราเกิดถูกจับ
และค้นพบก็จะเป็นภัยอันใหญ่หลวงแก่พวกเรานะท่าน”
         
         “จริงของท่านนายกอง   ที่กล่าวมานี้ก็ถูกต้องเห็นที่ควรคัดลอกเพียงไม่กี่ฉบับมอบให้แก่คนที่
รอบรู้เชี่ยวชาญการศึกครั้งนี้   เพื่อจะได้จัดการวางกำลังได้อย่างถูกต้องนะ”
          “ท่านหัวหน้าเหมี่ยวนรธามอบหมายจะดีกว่า”  แม่ทัพอีกนายหนึ่งกล่าวขึ้น
          “หากเป็นเช่นนั้น  ท่านนายกองและแม่ทัพท่านก็กล่าวถูก  ข้าเพียงถามพวกท่านว่าจะทำฉันท์ใด
ส่วนในใจข้าเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน”  เหมี่ยวนรธากล่าว
            “เมื่อท่านหัวหน้ากล่าวเช่นนี้.....แล้วจะคัดลอกสักเท่าไหร่ตามแต่หัวหน้ากระทำเถิดจะมอบให้
ใครๆก็เหมือนกัน  เราต่างเป็นพี่น้องกันอยู่แล้วย่อมมีค่าเท่าเทียมกันหรอก”  แม่ทัพอีกนายหนึ่งกล่าว
             “เอาอย่างนี้ดีกว่าข้าคิดว่า  จะคัดเพียงแค่ห้าฉบับ  และข้าจะมอบให้แก่ท่านแม่ทัพนายกองสลับ
กันไป  ด้วยข้าเองไว้ใจพวกท่านทั้งหลายนัก”   เหมี่ยวนรธากล่าวขึ้น
             เมื่อต่างคนต่างตกลงกันได้   เหมี่ยวนรธาก็จัดการเขียนคัดลอกด้วยทุกๆคนต่างก็ช่วยกัน 
ในไม่ช้า  งานละเอียดต่างๆก็สำเร็จลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว   แล้วต่างมอบเอกสารลับให้แก่นายกอง
เหมี่ยวนรธาทันที
            ครั้นเมื่อท่านเหมี่ยวนรธาได้รับหนังสือลับมาแล้วก็เก็บไว้ในอกเสื้อยังมิได้มอบหมายให้แก่
ผู้ใด    พร้อมเชิญชวนร่วมกันดื่มหาความสำราญกันต่อไปโดยมีทหารหญิงที่ได้รับการฝึกฝนอบรม
มาอย่างเชี่ยวชาญคอยปรนนิบัติตลอดเวลา  แล้วก็พากันแยกย้ายกันไปพักผ่อนเพื่อรุ่งขึ้นจะได้มา
ทำการฝึกอาวุธตลอดจนค่ายกลต่างๆแก่เหล่าทหารทั้งหลายต่อไป
           
           เมื่อต่างแยกย้ายกันไปหมดแล้ว   นายกองเหมี่ยวนรธาก็นำเอกสารลับมาพิจารณาและจดจำ
รายละเอียดภายในเมืองตลอดจนสถานที่ต่างๆจนขึ้นใจ   แล้วหันไปยังทหารที่คอยรับใช้ให้ไปเรียก
แม่ทัพนายกองบางนายมาสี่นาย     ครั้นทหารออกไปเรียกแม่ทัพนายกองที่ท่านหัวหน้าสั่งแล้ว
          ในไม่ช้าร่างของแม่ทัพนายกองทั้งสี่รวมทั้งผู้ที่มอบบันทึกลับนี้รวมอยู่ด้วย   
 เมื่อต่างเข้ามาแล้วก็แสดงความเคารพต่อท่านเหมี่ยวนรธา    
นายกองก็เชิญท่านทั้งสี่นั่งลงพร้อมสนทนาเป็นพิธีต่างคุยและวางแผนการด้วย
  ว่าจะดำเนินการวางเพลิงในเมืองเพื่อให้เกิดความจลาจลในงานพิธีสถาปนา
ตนเองของเจ้ามหาอำมาตย์ขึ้นเป็นกษัตริย์  ต่างคนก็ออกความคิดเห็น   ร่วมช่วยกันวางแผนในการ
ดำเนินงานครั้งนี้จนเสร็จ   เมื่อปรึกษาเรียบร้อยแล้ว
          นายกองเหมี่ยวนรธาก็ล้วงหยิบบันทึกลับมามอบให้แก่แม่ทัพนายกองทั้งสี่
  ว่าให้ศึกษาให้ละเอียดเพื่อใช้ในการดำเนินการต่อไป   
แล้วก็เชิญให้แม่ทัพทั้งสี่กลับไปพักผ่อนได้
เสร็จแล้วก็ล้วงบันทึกลับคัดลอกอีกฉบับหนึ่งมาใส่ซองพร้อมบันทึกสิ่งต่างๆในการดำเนินการ
ขัดขวางในงานพิธีนี้แก่ท่านแม่ทัพใหญ่    โดยคัดคนที่ไว้ใจได้ไปส่งเอกสารนี้  ในการครั้งนี้นั้น
เขาก็ส่งทหารติดตามไปห่างๆถึงสามช่วงด้วยกันเพื่อความไม่ประมาท  หากเกิดการผิดพลาดใน
ระหว่างทาง   จะได้เข้าประสานงานรับช่วงต่อไป
          เมื่อสั่งการแก่เหล่าทหารภายในค่ายเรียบร้อยแล้ว   นายกองในร่างพ่อค้าก็เดินทางกลับมา
ยังร้านทันที   แล้วสั่งเหล่าทหารในร่างพ่อค้าตามร้านต่างๆที่แยกย้ายกันไปทั่วบริเวณเมืองให้เตรียม
พร้อมเพื่อจะดำเนินการคัดคนที่มีฝีมือที่สุดในการทำงานครั้งนี้โดยอำพรางซ่อนเร้นรอกำหนดเวลา
รอคำสั่ง   เพื่อคอยช่วยเหลือกำลังทหารของมังละเว้  และมังสุระยะข่าต่อไป
         ครั้นก่อนวันครบการสถาปนาเถลิงราชสมบัติของเจ้ามหาอำมาตย์มังสุระบดี  บรรดาเจ้าเมือง
แคว้นต่างๆที่เป็นเมืองขึ้นแก่เมืองอิสราวดีก็ต่างทยอยกันเข้าเมืองมาพร้อม
เครื่องราชบันนาการเพื่อมอบแก่ผู้จะเข้าครอบครองเมืองต่อไป
           จวบจนถึงเวลาในรุ่งอาทิตย์ที่ได้ฤกษ์ตามโหราจารย์กำหนดแล้ว    ภายในท้องพระโรงที่
ประดับไปด้วยความสวยงาม    บรรดาแขกเมืองต่างก็นั่งยังเก้าอี้ด้านหน้า ตรงกลางเป็นพื้นเป็นที่
นั่งกับพื้นของบรรดาเหล่าแม่ทัพนายกองและเจ้าหน้าที่สูงสุดที่ควบคุมกิจกายภายในเมืองทั้งสิ้น
          ส่วนราชบัลลังก์นั้นเป็นตั่งสองชั้นที่แกะสลักลวดลายสวยงามยิ่งนัก  เป็นช่อลายต้นไม้ประดับ
ด้วยสัตว์หิมพานต์ทั้งสิ้น  เหนือตั่งเป็นฉัตรใหญ่สามชั้นขลิบทองสวยงามนัก   แต่ยังไม่มีผู้ใดนั่ง 
 ข้างถัดลงมาสองข้างเป็นที่นั่งของมหาอำมาตย์ใหญ่มังสุระบดี
และเสนาดีมังสีหะมะทา   ด้านข้างท้องพระโรง ยืนเรียงรายไปด้วยเหล่าทหารทั้งหลายในมือถืออาวุธ
          อีกด้านหนึ่งของท้องพระโรงจัดเป็นที่นั่งของพระสงฆ์ที่จะมาคอยเจริญพุทธมนต์ ส่วนอีก
ด้านหนึ่งเป็นที่อยู่ของพวกพราหมณ์   ซึ่งกำลังร่ายมนต์เบื้องหน้าเป็นที่เซ่นสังเวยเทพยดาอยู่
          พิธีเริ่มขึ้นแล้ว ในระหว่างการร่ายอัญเชิญเทพยดาฟ้าดินนั้น  พลันก็เกิดพายุพัดกระหน่ำขึ้น
ตลอดจนฝนพร่ำๆ    เสียงฟ้าร้องคำรามลั่นสายฟ้าฟาดสลับกันไปๆมา  พราหมณ์ก็ร่ายมนต์ต่อไป
เสียงฟ้าก็ยังคำรามตลอดเวลา   ลมพายุก็โหมกระหน่ำอย่างไม่รู้หยุด    จนพราหมณ์ร่ายเวทย์จบ
มหาอำมาตย์ก็ให้อัญเชิญมงกุฎที่นางสนมกำนัลใส่พานทองถือเดินออกมาจากม่านชั้นใน
  เพื่อจะส่งมอบให้แก่มหาอำมาตย์  ใช้เพื่อสวมศีรษะปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์ต่อไป
         เมื่อมหาอำมาตย์มังสุระบดีรับมงกุฎมาถือไว้    ก็บังเกิดอสุนีบาตฟาดดั่งสนั่นยังยอดประสาท
ราชวังหักล้มลงมา เสียงสนั่นหวั่นไหวลั่นเลื่อนไปทั่ว  
       ยอดฉัตรที่ตั้งไว้เบื้องหลังตั่งก็หักโค่นลงมายังทำความตกใจให้แก่เหล่าเจ้าเมืองทั้งหลาย
ตลอดจนข้าราชบริพาร    ทำให้มหาอำมาตย์ถึงกับตกใจมหามงกุฎพลันพลัดหลุดจากมือทันที............
                    *  แก้วประเสริฐ.  *

n016.gif				
comments powered by Disqus
  • แก้วประเสริฐ

    11 กุมภาพันธ์ 2553 10:36 น. - comment id 82226

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แขกประจำบ้านกออน
    
         ไม่เป็นไรครับผมยังเขียนไปเรื่อยๆย้อนมา
    อ่านก็ได้ครับหากติดตาม  ขอบคุณครับรักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • กิ่งโศก

    10 กุมภาพันธ์ 2553 16:02 น. - comment id 114402

    เรื่องราว กำลังเข้มข้นแล้วครับครู.
  • แก้วประเสริฐ

    10 กุมภาพันธ์ 2553 19:38 น. - comment id 114405

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
         ครูเองก็เริ่มเรื่องไปเรื่อยๆจ้า  ศิษย์รักเรา
    อ่านไปให้เดาใจครูไปด้วยนะจะได้เพิ่มอรรถรส
    มากยิ่งขึ้นนะ  รักศิษย์เรามากเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แขกประจำบ้านกลอน

    10 กุมภาพันธ์ 2553 22:06 น. - comment id 114406

    อิอิ ครูแก้ว จบตอนกำลัง
    ตื่นเต้นได้ที่เลยนะคะ 
    วันนี้เข้ามาอ่านช้าไปหน่อย
    ขอบคุณมากนะคะ 
    36.gif36.gif36.gif29.gif
  • แขม่วแมน

    10 กุมภาพันธ์ 2553 22:29 น. - comment id 114407

    เดี๋ยวจะไปหาตอนเก่าๆอ่านครับ ตอนนี้สนุกดีครับ
     ถ้าขออนุญาตCOPY  ไว้ จะเป็นอะไรมั้ยครับ จะได้อ่านยาวๆทีเดียว แหะๆ
    
     11.gif11.gif11.gif11.gif
  • แก้วประเสริฐ

    11 กุมภาพันธ์ 2553 10:42 น. - comment id 114408

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แขม่วแมน
    
         ตามสบายครับผมไม่ค่อยจะคิดมากอะไร
    หรอกครับ เชิญตามสบายได้ครับหากคุณชอบ
    ผมแค่เพียงเล่นเพื่อความเพลิดเพลืนสนุกกับงาน
    เขียนและฝึกสมองเท่านั้น ขอบคุณครับ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • โคลอน

    11 กุมภาพันธ์ 2553 11:38 น. - comment id 114410

    46.gif46.gif46.gif
    
    คนที่มักใหญ่ใฝ่สูง มักจะเป็นคนที่ไม่มีบุญญาธิการนะคะ 29.gif
  • เพียงพลิ้ว

    11 กุมภาพันธ์ 2553 14:33 น. - comment id 114412

    กำลังสนุกอีกแล้วนะคะคุณลุง
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • แก้วประเสริฐ

    11 กุมภาพันธ์ 2553 15:44 น. - comment id 114413

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  โคลอน
    
         คงจะเป็นเช่นนี้กระมังครับคุณฝน  ผมไป
    ธุระข้างนอกบ้านพึ่งกลับมา ก็รีบแต่งต่อเลยครับ  ขอบคุณรักเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    11 กุมภาพันธ์ 2553 15:47 น. - comment id 114414

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เพียงพลิ้ว
    
         จ้าหลานรัก ด้วยจิตใจลุงเองปล่อยว่างๆไว้
    จึงเกิดเป็นคลังสมบัติที่สามารถหยิบยกอะไรๆก็ได้
    กระมัง  เพราะก่อนนี้ได้สะสมไว้คงจะเยอะนะ
    รักหลานเราเสมอๆ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน