ลุ่มลึกอิสราวดี 16

แก้วประเสริฐ


           ลุ่มลึกอิสราวดี  16
     หลังจากพายุฟ้าคำรามสงบลงแล้ว    มังสุระบดีและมังสีหะมะทาซึ่งตื่นตระหนก
จากเสียงคำรามของฟ้าตลอดจนยอดปราสาท  ยอดฉัตรเหนือบัลลังก์หักโค่นลง
ทำให้นึกสังหรณ์ในใจ  แต่ด้วยความทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงเข้าครอบงำไว้
     มังสุระบดีมหาอำมาตย์ใหญ่ที่คิดจะสถาปนาตนเองก็ส่งเสียงหัวร่อดังลั่น
พลันกล่าวขึ้นในท่ามกลางเจ้าแห่งแคว้นต่างๆตลอดจนเหล่าแม่ทัพนายกองขึ้นว่า
    “เหตุการณ์ครั้งนี้เห็นทีฟ้าดินจะอำนวยอวยพรให้แก่เราว่า  การครั้งนี้เห็นที
ว่าจะเป็นฤกษ์งามยามดี   ที่เราจะปรับเปลี่ยนแผ่นดินใหม่
เพื่อความผาสุกของเหล่าอาณาประชาราษฎร์ทั้งหลาย 
 ตลอดจนความสุขแก่เหล่าแว่นแคว้นต่างๆเสียเป็น
มั่นเป็นเหมาะแล้วแน่แท้นะ ราชวงศ์เก่าคงจะหมดสิ้นแล้ว
    เพื่อให้เราได้สร้างเศวตฉัตรและยอดปราสาทขึ้นเพื่อความรุ่งเรือง
ของราชวงศ์ใหม่เป็นแน่   พวกท่านทั้งหลายเห็นเป็นประการใดรึ”
    เหล่าเจ้าแคว้นต่างๆตลอดมวลอำมาตย์ข้าราชบริพารแม่ทัพนายกอง  ครั้นได้ยินคำกล่าวเช่นนี้  ซึ่งต่างก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจ
ก็พากันสรรเสริญ ยกยอปอปั้นไปตามๆ
กันหาได้มีผู้หนึ่งผู้ใดกล่าวขัดขวางก็หาไม่
    เจ้าแคว้นแห่งเมืองตองอูกล่าวว่า
   “ นั่นซิ  ฟ้าดินคงจะอำนวยชัยให้แก่ท่านเป็นแน่แท้”  ทั้งๆที่ภายในใจมันก็นึก
ประหวั่นต่อเหตุการณ์เช่นนี้  หากจะกล่าวตรงๆไปก็เกรงภัยจะเกิดขึ้นได้
     ข้างฝ่ายอำมาตย์น้อยใหญ่และแม่ทัพต่างก็ร้องสรรเสริญยกยอเป็นการใหญ่
      เมื่อมังสุระบดีได้ยินความเช่นนั้น  ก็หันไปสั่งแก่เหล่าสนมกำนัลให้นำมหามงกุฎ
ไปเก็บเสีย  แล้วพลางกล่าวขึ้นว่า
      “ในเมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น  เราเห็นทีจะต้องสร้างมหามงกุฎขึ้นใหม่เสียแล้ว
อีกประการหนึ่ง  เราก็ขอยกเลิกการสถาปนาเป็นกษัตริย์ลงไว้ก่อน เว้นได้โอกาสฤกษ์งาม
ยามดีก็จะเถลิงราชสมบัติต่อไป   แต่เราจะรักษาการณ์แทนในตำแหน่งมหากษัตริย์ต่อไป
พวกท่านทั้งหลายเห็นเป็นไฉน”
      แล้วแต่ท่านมังสุระบดีเถิด  การครั้งนี้เมื่อรักษาการณ์ก็เปรียบเสมือนกับเป็นราชันย์เหมือนกัน”
   เหล่าเจ้าแคว้นต่างๆและมวลอำมาตย์แม่ทัพนายกองกล่าวขึ้นพร้อมเพียงกัน
   “เอาล่ะในเมื่อพวกท่านทั้งหลายเห็นพ้องต้องกันเช่นนี้แล้ว   เราก็ขอประกาศ ณ ที่นี้
ว่าจะแต่งตั้งให้ท่าน มังสีหะมะทาขึ้นดำรงตำแหน่งท่านมหาอำมาตย์ใหญ่และควบตำแหน่ง
เสนาบดีใหญ่ฝ่ายทหารอีกตำแหน่งหนึ่ง  
อำนาจทั้งหมดให้เป็นรองเราเท่านั้น”  
มังสุระบดีกล่าวขึ้น
    เหล่าอำมาตย์น้อยใหญ่และแม่ทัพนายกองก็ไม่มีผู้ใดคัดค้านแต่ประการใด   ได้แต่มอง
หน้ากันไปมา   
  แต่ในส่วนลึกคิดถึงเรื่องยอดปราสาทหักและเศวตฉัตรจะเกิดภัยแน่นอน
ด้วยการครั้งนี้มันบ่งบอกถึงลางร้าย    แม้แต่ท่านโหราธิบดีจารย์ก็กระอักกระอ่วนใจนัก
ครั้นจะกล่าวก็เกรงภัยจะตกถึงตัวจึงได้เงียบๆไว้
    ทันใดนั้นเองทหารคนสนิทของมังสีหะมะทาก็เข้ามารายงานข้างหูของท่านเสนาบดีใหญ่
มังสีหะมะทาเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจ  และรีบไปกระซิบที่ข้างหูแก่มังสุระบดีทันที
     ทำให้ผู้สำเร็จราชการซึ่งพึ่งรับตำแหน่งใหม่ๆถึงกับอุทานขึ้นมาทันที
     “อ้าาๆ????.... ใยมีเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเชียวหรือ”   แล้วหันไปสั่งแก่มังสีหะมะทาทันทีว่าให้
รีบออกไปดำเนินการทันที    แต่ตัวเองยังปั้นสีหน้ายิ้มแย้มหันไปกล่าวกับเจ้าแคว้นนครต่างๆ
ตลอดจนมวลอำมาตย์แม่ทัพนายกองน้อยใหญ่ทันที
      “ข้าขอขอบใจท่านทั้งหลายที่ให้เกียรติแก่แคว้นเรา  และท่านทั้งหลายไปพักผ่อนยังเรือน
ต้อนรับก่อน   ด้วยเรามีงานเร่งด่วนที่จะทำในครั้งนี้  ต้องขออภัยแก่ท่านทั้งหลายด้วยนะ”
      ฝ่ายเจ้าแคว้นนครต่างๆและมวลอำมาตย์ทั้งปวงได้ยินเช่นนี้  ก็บังเกิดความดีใจด้วยเห็นว่า
      เรื่องนี้คงจะไม่ธรรมดาเสียแล้วคงจะมีเหตุภัยร้ายแรงเกิดขึ้นแน่นอน   เพียงแต่พวกตนยัง
ไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้น  
      มังสุระบดีหันไปทางเหล่าแม่ทัพนายกองแล้วสั่งว่า
     “ขอให้ท่านแม่ทัพนายกองอยู่ก่อน  อย่าพึ่งกลับไป    เดี๋ยวท่านมังสีหะมะทาจะมีเรื่องปรึกษา
ข้อราชการ
      เหล่าบรรดาเจ้าแคว้นนครต่างๆตลอดจนมวลอำมาตย์แสดงความเคารพแก่มังสุระบดีแล้วก็
รีบต่างพากันทยอยออกไปจนหมดสิ้น
      ครั้นเหล่าแคว้นต่างๆและอำมาตย์ได้ออกไปแล้ว    มังสีหะมะทาก็หันไปสั่งแก่เหล่าแม่ทัพ
นายกองทันทีว่า
     “บัดนี้เกิดความวุ่นวายภายในเมือง  ให้ท่านเหมี่ยวมังละสุทีแม่ทัพคุมกำลังไปดับไฟที่วางเพลิง
คลังอาวุธและคลังฉางข้าวโดยด่วน  ตลอดจนจัดกำลังออกจับกุมผู้ก่อการโดยเร็ว   ส่วนท่านมังสุระศรี
ก็จัดกำลังเข้าตรวจค้นผู้ที่สงสัยและสั่งปิดประตูเมืองโดยด่วน
      ครั้นแม่ทัพทั้งสองนายรับคำสั่งแล้ว   ก็รีบออกมาจัดกำลังพลออกปฏิบัติการทันที
ระหว่างที่ฟ้าคำรามและฝนหยุดแล้ว  เหล่าทหารที่แฝงกายเป็นพลเรือนของมังละเว้เมื่อได้รับคำสั่ง
จากท่านเหมี่ยวนรธาแล้วก็คัดทหารกล้าตายเข้าเริ่มปฏิบัติงานโดยแบ่งเป็นกลุ่มๆละ ห้าคน  แยกย้าย
กันไปปฏิบัติงาน     ยามเมื่อเห็นยอดปราสาทราชมณเฑียรถูกฟ้าผ่าหักสะบั้นลงก็ให้เกิดความยินดียิ่ง
ถือเป็นฤกษ์ดี     
      งานนี้คงจะสำเร็จลุล่วงไปได้แน่นอนด้วยฟ้าดินคงพิโรธช่วยเหลือ   จึงนำกำลังพล
ทั้งหมดออกปฏิบัติการทันที   โดยกำชับว่าเมื่อวางเพลิงลุกดีแล้วให้รีบหนีออกจากตัวเมืองโดยเร็ว
อย่าได้รีรอชักช้าเป็นอันขาด   ด้วยประตูเมืองจะถูกปิดต้องมีเหตุการณ์นี้ขึ้นแน่นอน เมื่อสั่งการให้
เหล่าทหารกล้าทั้งหลายทราบ     ก็นำกำลังพลสามนายพร้อมสิ่งที่จะใช้วางเพลิงแยกย้ายไปทำงาน
ทันที
      บัดนี้แทบทุกมุมเมืองปรากฏเปลวเพลิงลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็วประกอบกับพายุที่หายไปนั้น
กลับเกิดขึ้นพัดโหมกระหน่ำอีกวาระหนึ่ง  บ้านเรือนฝ่ายทหารถูกเปลวเพลิงมอดไหม้แทบหมดสิ้น
เสียงแตกเผียะๆดังลั่นสนั่นคลังอาวุธ    สถานที่เก็บม้าได้ถูกปล่อยวิ่งหนึเพ่นพานไปทั่ว
  คลังเสบียงอาหาร ตลอดจนอื่นๆต่างตกอยู่ภายใต้กองเพลิงทั้งสิ้น
      เหล่าทหารพากันวิ่งวุ่นหาน้ำมาดับเพลิงกันจ้าระหวั่นแต่น้ำที่จะหามาได้
นั้นไม่พอเพียงกับการใช้ดับไฟตลอดจนพายุได้โหมอย่างหนัก  เปลวเพลิงลอยขึ้นท้องฟ้าปลิวไป
ทั่วเมือง และติดไปยังบ้านชาวเมืองทำให้เกิดความโกลาหลวุ่นวายไปเสียทั้งสิ้น  เมืองทั้งเมืองแทบ
ลุกเป็นไฟ   
      บรรดาเหล่าเจ้าแคว้นนครต่างๆพากันตื่นตระหนกไปตามๆกันเตรียมตัวเพื่อออกเดิน
ทางกลับ    และมาออที่ประตูเมืองทหารประจำประตูเมืองก็อนุญาตให้ออกไปนอกเมืองได้
ด้วยเห็นเป็นแขกบ้านแขกเมือง  คงจะได้รับอนุญาตจากท่านมังสีหะมะทาแล้ว   ขณะเดียวกัน
พวกทหารในร่างพลเรือนก็แอบแฝงออกมาด้วย    เมื่อพ้นประตูเมืองแล้วก็แยกย้ายกันกับยัง
ที่พักทันที
       เมื่อรายงานไปถึงท่านมังสุระบดีก็ให้โกรธ กระทืบพื้นแล้วเร่าๆ  รีบออกมาดูเหตุการณ์
พร้อมด้วยมังสีหะมะทาสั่งการอย่างเร่งด่วน     
เวลาผ่านไปจวบจนเพลิงยุติมอดไหม้ด้วยไม่มีสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงอีกแล้ว   
 บรรดาเหล่าอำมาตย์ทั้งหลายต่างก็ทยอยเข้ามาสมทบทันที  
 เมื่อแลเห็นความเสียหายที่เกิดขึ้นต่างพากันวิตกยิ่งนักกริ่งเกรงว่า    
       หากเป็นเช่นนี้แล้วเห็นทีผู้สำเร็จราชการก็คงจะเรียกเก็บเงินทองจากพวกตนและ
ราษฎร์ก็จะเกิดความสับสน   ด้วยตอนนี้พวกราษฎร์นั้น  ส่วนใหญ่ต่างหลบหนีออกเมือง
ไปเสียสิ้น    ที่เหลืออีกไม่มากนักเนื่องจากส่วนมาก   นอกจากพวกเด็กคนชราและพ่อค้าวานิช
    จึงต่างพากันปรึกษากันว่าจะหาทางทำอย่างไรดี
    เหล่าทหารเข้ามารายงานว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดจากการลอบวางเพลิง  แต่ไม่สามารถ
จับคนร้ายได้   ด้วยในระหว่างการทำพิธีนั้นทุกๆคนต่างก็มาเพื่อที่จะร่วมแสดงความยินดีกับ
ท่านผู้สำเร็จราชการ   
    ดังนั้นไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นบัดนี้ประตูเมืองทุกๆประตูได้ถูกปิดตาย
และบรรดาเจ้าแคว้นนครต่างๆได้ต่างกลับไปหมดสิ้นแล้ว
    ครั้นมังสุระบดีทราบเหตุดังนี้   จะเอาความผิดกับทหารก็ไม่ได้จึงหันมาปรึกษากับ
มังสีหะมะทา  ว่าจะทำฉันท์ใดดี กล่าวขึ้นว่า  
    “นี่แน๊ะ!!!!....ท่านมหาอำมาตย์เสนาบดี  การครั้งนี้เหตุเกิดในเมือง  พวกบรรดา
แคว้นต่างๆก็จะเกิดการแข็งข้อแน่นอน   
     หากจะเอาความผิดทหารเราก็ไม่ได้   ขอให้ท่านตระเตรียมทหารและสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นใหม่โดยรีบด่วน 
ตลอดจนเสบียงอาหารไว้ให้พร้อมเพื่อป้องกันเหตุนี้นะ”
    “ขอรับ...ท่านผู้สำเร็จราชการข้าจะเรียกประชุมนายทัพนายกองด่วน   เพื่อวางแผนป้องกัน
ไว้   และจะจัดการซ่อมแซมสิ่งที่เกิดเพลิงไหมโดยด่วนที่สุดขอรับ”  ท่านมหาอำมาตย์ใหญ่ซึ่ง
พึ่งได้รับการแต่งตั้งหมาดๆกล่าวตอบ
     “เอาล่ะๆ....ในเมื่อท่านรับปากเราเช่นนี้เราค่อยคลายใจได้บ้าง  หากท่านต้องการสิ่งใดให้
แจ้งมายังข้าเพื่อจะจัดการให้ท่าน   ส่วนเราจะเรียกประชุมเหล่าอำมาตย์ทั้งปวงเพื่อจัดหาเงินมา
ช่วยเหลือการครั้งนี้   และจะนำเงินในท้องพระคลังออกมาใช้จ่ายไปก่อนและปรึกษาหารือเกี่ยวกับ
การวางแผนในเมืองต่อไป”   ผู้สำเร็จราชการที่ยกตัวเองขึ้นกล่าว
      ครั้นแล้วมันก็เดินทางเข้าวังทันที   ด้านมหาอำมาตย์ใหญ่ก็รีบไปบัญชาการเกี่ยวกับกองกำลัง
เพื่อสำรองใช้ในการปกป้องและปราบปรามบรรดาแว่นแคว้นต่างๆหาก เกิดการกระด้างกระเดื่อง
ตลอดจนสั่งทหารให้รีบซ่อมแซม   หากไม่สามารถซ่อมได้ก็ให้จัดการสร้างขึ้นใหม่   แล้วมีหนังสือ
ไปยังบรรดานายทัพนายกอง ตลอดจนบรรดากองทัพที่อยู่นอกเมืองให้ตระเตรียมกำลังไว้หากจำเป็น
ต้องใช้ในศึกสงครามต่อไป
      ทางด้านเหมี่ยวนรธา   ครั้นทหารที่ไปทำการมารายงานว่าการทำครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
และทุกๆคนปลอดภัยตามแผนการที่ท่านได้วางไว้ทุกประการ    เมื่อทุกคนจุดไฟที่ผสมด้วยน้ำมัน
แล้วรอจนไฟติดกระชุจึงได้รีบออกมา  และหาทางกลับไปนอกเมืองบ้างก็แฝงไปกับบรรดาเจ้าเมือง
ต่างๆออกไป     การครั้งนี้พวกมหาอำมาตย์มังสุระบดีไม่สามารถเถลิงปราบดาเป็นกษัตริย์ได้แต่มัน
ยกตัวเองขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการควบคุมอำนาจเด็ดขาดเสมือนหนึ่งองค์กษัตริย์มิปาน
       ครั้นเหมี่ยวนรธาได้รับรายงานแล้วก็ให้บังเกิดความดีใจ   รีบทำหนังสือรายงานไปยังท่านแม่
ทัพใหญ่    
       สักครู่ใหญ่เขาก็ได้รับรายงานจากทหารที่ปลอมแปลงตัวมาส่งรายงานว่าแม่ทัพใหญ่ได้
ค้นหาพบเจ้าแม่เหนือหัวแล้ว    และอารักขาอย่างปลอดภัยด้วยอยู่ยังป่าลึกในภูเขาแวดล้อมไป
ด้วยภูเขามากมายเป็นกำแพงกันยากนักจะเข้ามาตลอดแนวได้วางกำลังเรียบร้อย   โดยได้ทำการ  ตลอดได้ย้ายกองกำลังและไปนำอาวุธ
ที่ซ่อนเร้นตลอดจนบรรดาม้าศึกทั้งหลายกลับไปยังหุบเขา
หมดสิ้นเรียบร้อย           
      ดังนั้นนายกองเหมี่ยวนรธา  จึงมอบหนังสือส่งให้กลับไป
รายงานท่านแม่ทัพใหญ่เพื่อทราบผลการดำเนินการ  ตลอดจนเรื่องราวต่างๆ
เกี่ยวกับบรรดาแม่ทัพนายกองที่เข้ามาสวามิภักดิ์
และการส่องสุมกองกำลังไว้ให้แม่ทัพใหญ่ทราบ   เพื่อจะได้หาหนทางกอบกู้ช่วงชิงบัลลังก์คืน
       ในหนังสือของแม่ทัพใหญ่ยังได้กำชับให้แยกกองกำลังที่ฝึกไว้ออกเป็นกลุ่มย่อยๆ 
  อย่าให้เป็นที่สังเกตของเหล่าทหารในเมืองได้   
โดยให้นายกองเป็นผู้ควบคุมรับผิดชอบ  ส่วนทางด้านนี้ก็ได้จัดเตรียมกอง
กำลังไว้เพื่อรอเวลาโอกาสที่เหมาะสม   เพื่อยกกองกำลังเข้าโจมตีเมืองอิสราวดีต่อไป.....
        ดังนั้นเจ้าขนทองก็กระโดดโลดเต้นตีลังกาแสดงความดีใจในชัยชนะของมันครั้งนี้   ชายหนุ่ม
เห็นดังนั้นก็หัวร่อแสดงความยินดีต่อมัน     แล้วก็จูงมือเจ้าขนทองออกเดินทาง    แต่ทว่าเบื้องหน้า
เขานั้นหาได้เป็นที่อยู่ของต้นไม้เขียวชอุ่มเลยก็หาไม่   กลับเป็นที่โล่งเตียนบรรดาต้นไม้เล็กๆต่างก็แห้งเฉา
เป็นบริเวณกว้าง   อากาศก็แสนร้อนอบอ้าวเป็นระยะทางไกล   เขามองไปยังเบื้องหน้าที่เป็นภูเขาก็
โล้นปราศจากต้นไม้ใดๆ  เห็นแต่เปลวระยิบระยับของแสงแดดไหวไปไหวมา
       ชายหนุ่มรีบตรวจดูน้ำในกระบอกทันที เห็นว่ายังพอจะมีเหลือเต็มอยู่สองกระบอกไม้ไผ่ แต่อีกกระบอกกลับเหลือครึ่งหนึ่ง 
      ทำให้ชายหนุ่มกังวลใจทันที  หากเขาจะต้องเดินทางไปยังเขาโล้นที่แล
เห็นอยู่ลิบๆ   น้ำที่เหลือจะพอประทังชีพได้อีกเท่าไหร่แต่ในเมื่อมาแล้วหากจะย้อนกลับไปก็จะเสียเวลา
      พลางคิดว่าเมื่อมาถึงที่นี้แล้วก็คงต้องปล่อยไปตามวาสนา   ดังนั้นจึงสลัดความคิดทั้งหลายออกแล้วจูงมือเจ้าขนทอง 
    รีบมุ่งหน้าเดินทางตัดตรงไปยังภูเขานั้นทันทีเผื่อจะมีโอกาสพบน้ำก็ได้.........
                    *   แก้วประเสริฐ.  *    

n016.gif				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    11 กุมภาพันธ์ 2553 16:36 น. - comment id 114415

    ลุ้นต่อไปค่ะ
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • แขกประจำบ้านกลอน

    11 กุมภาพันธ์ 2553 19:19 น. - comment id 114416

    มาติดตามต่อคะครูแก้ว
    อากาศร้อนมากนะคะ
    ในเรื่องก็ร้อนอบอ้าว อิอิ
    ขอบคุณมากนะคะ
    36.gif36.gif36.gif29.gif
  • กิ่งโศก

    11 กุมภาพันธ์ 2553 21:17 น. - comment id 114427

    แหม..ตอนท้ายครูตัดภาพมาที่พระเอกอีก..กำลังติดตามว่า พระแม่เจ้านั้น มีธิดา ตามมาด้วยหรือเปล่า  อิอิ  คาดเดา
  • โคลอน

    12 กุมภาพันธ์ 2553 07:48 น. - comment id 114431

    11.gif11.gif11.gif
    
    ตามอ่านต้อยๆ...อิอิ27.gif
  • ลำน้ำน่าน

    12 กุมภาพันธ์ 2553 10:54 น. - comment id 114503

    ตามมาอ่านเอาเรื่องครับ จึงพบว่า เพื่อนแก้วคนนี้มีพรสวรรค์เสียจริงเทียว ผมเขียนไม่ได้เด็ดขาด แบบนี้
  • แก้วประเสริฐ

    12 กุมภาพันธ์ 2553 13:52 น. - comment id 114535

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เพียงพลิ้ว
    
         หากจะลุ้นลุงว่าอีกนานนะกว่าจะจบจ๊ะ
    รักหลานเราเสมอๆ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    12 กุมภาพันธ์ 2553 13:54 น. - comment id 114538

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  แขกประจำบ้านกลอน
    
          ผมเขียนเรื่องนี้ไว้ให้หลากหลายรสชาติ
    แต่อย่าไปคิดมากนะครับ  ผมเน้นเพื่อความสนุก
    เพลิดเพลินเท่านั้นครับ ขอบคุณครับรักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    12 กุมภาพันธ์ 2553 13:57 น. - comment id 114539

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
         ศิษย์รักเรา   ครูเองดำเนินเรื่องฝากทิ้ง
    ท้ายเพื่อให้คนอ่านได้คิดตามหลายแนวทาง วาง
    เรื่องแต่ละวันๆเท่านั้น  ครูเองเขียนสดๆไม่ได้
    พอร์ตเรื่องไว้เลย  เหมือนกับการแต่งกลอนครู
    ก็เหมือนกัน  ด้วยครูนิยมแบบนี้นะ รักศิษย์เรา
    เสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    12 กุมภาพันธ์ 2553 14:00 น. - comment id 114542

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
        การเขียนผมเขียนแบบสดๆวันต่อวันฉนั้น
    บางครั้งก็อาจจะสับสนบ้าง แต่เพื่อให้เขาคิดๆกัน
    บ้างเท่านั้นเอง ส่วนความคิดว่าให้เป็นตอนๆไป
    ตามแต่ละภาคครับ นี่แค่คิดนะครับยังไม่รู้ว่าพรุ่ง
    นี้จะเขียนอะไรอีก แหะๆๆๆ รักเสมอ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    12 กุมภาพันธ์ 2553 14:04 น. - comment id 114544

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ลำน้ำน่าน
    
         สหายรัก เรื่องพรสวรรค์ผมไม่มีหรอกครับ
    มีแต่ความบ้าๆบ๊องส์ๆเท่านั้น  นี่ผมเขียนส่งทุกๆวัน
    หากยกเว้นไม่สบายเสียก่อนนะครับ และไม่เคย
    เลยจะแต่งไว้ก่อนด้วย ผมชอบเล่นแบบนี้ครับ
    สนุกเพลิดเพลินไปวันๆหนึ่งเท่านั้นเองครับ
         ในความคิดผมนะครับสหายเราหากจะคิด
    แต่งก็คงจะได้ดีกว่าผมอีก  ด้วยประสบการณ์ทั้ง
    ในนอกประเทศมากกว่าผมครับ รักเสมอๆ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ยาแก้ปวด

    12 กุมภาพันธ์ 2553 19:22 น. - comment id 114703

    เจี๊ยก
    
    ยาวมาก
    
    เด่วไปตามอ่านตั้งแต่เริ่มก่อง
    
    เด่วงง
    
    แว๊บบบบ
    
    46.gif59.gif
  • แก้วประเสริฐ

    13 กุมภาพันธ์ 2553 10:33 น. - comment id 114733

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ยาแก้ปวด
    
         เรื่องนี้ผมกะว่าจะให้เท่ากับเรื่อง ทัศยุราชันย์
    หรืออาจจะยาวกว่า แต่ไม่รู้ว่าจะได้แค่ไหนครับ
    รักเสมอ
    
               16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน