ลุ่มลึกอิสราวดี 17

แก้วประเสริฐ


               ลุ่มลึกอิสราวดี  17
      ท่ามกลางเปลวแดดร้อนระอุอบอ้าว  ประกายแสงแดดมองดูระยิบระยับไปทั่ว
ทุ่งกว้างใหญ่   จะหาต้นไม้สักต้นเพื่อใช้พักผ่อนก็ไม่มีเป็นลานกว้างใหญ่โล่งๆ
ทั้งสองระหว่างคนกับลิง    รีบออกเดินทางเพื่อมุ่งตรงไปภูเขา   น้ำที่เขาเตรียมมา
ถูกใช้ดื่มกินแทบจะหมดกระบอกแล้ว   หากยังไม่ถึงที่หมายและหาแหล่งน้ำไม่ได้
เห็นทีว่า   ทั้งสองคงจะแย่แน่นอนด้วยขาดน้ำซึ่งพยายามประหยัดการดื่มอย่างที่สุด
     บนท้องฟ้าแสงแดดจ้าจะหาเมฆแทบจะยาก  แต่กลับมีฝูงนกต่างบินว่อนหรือว่า
จะเป็นพวกนกแร้งที่คอยเหยื่อคือพวกเขากระมัง   ระยะทางที่ผ่านมาเขาพบซากสัตว์
มากมายกองเรี่ยราดกับพื้นดิน     เขาเข้าใจว่าสถานที่นี้คงจะเกิดเพลิงป่าไม้จนราบเลี่ยนเตียน
ไปหมด  ด้วยบรรดาตอไม้ต่างดำบ้างไม่ดำบ้าง  ส่วนหญ้าวัชพืชนั้นแห้งแทบหมดจะ
มีบางต้นที่ใบเหี่ยวเฉา
      จวบจนตะวันบ่ายคล้อยอากาศค่อยสดชื่นขึ้นบ้าง     ลมเย็นเริ่มพัดมาเย็นหน่อยซึ่ง
ตอนแรกถึงมีลมพัดแต่ยิ่งกลับร้อนมากยิ่งขึ้นแต่ก็ยังดี   ดีกว่าไม่มีลมเสียเลย
ทั้งสองก็ยังไม่พ้นทุ่ง    แต่ใจชื้นขึ้นหน่อยเมื่อเห็นว่าใกล้ภูเขามากแล้ว แนวเขาที่มอง
แต่ไกลเตียนโล่งปราศจากต้นไม้   เมื่อใกล้เข้ามา
จึงเห็นต้นไม้เล็กขนาดไม่ใหญ่มากนักเรียงรายเป็นขย่อมๆบ้าง  ล้วนแล้วแต่เป็นวัชพืช
ขึ้นแต่ห่างๆกัน     พอตกเย็นและอากาศเริ่มสลัวๆเขาก็ถึงตีนเขา      
       ชายหนุ่ม......สิ่งแรกคือหาแหล่งน้ำก่อนแต่เขาไม่เห็นลำธารเลยสักสายเดียว   ดังนั้น
จึงเปลี่ยนใจ   ทันใดนั้นได้ยินเสียงกระซิบจากแม่นางพรายว่า  เลี้ยวไปทางขวามือก็จะพบ
ถ้ำขนาดค่อนข้างใหญ่ภายในจะมีแอ่งน้ำอยู่    ชายหนุ่มกล่าวขอบใจแม่นางพรายทั้งสอง
ที่ช่วยชี้แนะทางให้         ดังนั้นจึงเดินเบี่ยงร่างไปทางขวามือทันทีโดยปีนป่ายขึ้นไปเพื่อ
ค้นหาถ้ำที่แม่นางบอก   ในแม่ช้าเขาก็เห็นปากถ้ำซึ่งมีวัชพืชขึ้นบางๆ
      เมื่อถึงปากถ้ำ  เขาและเจ้าขนทองนอนแผ่หลาทันทีด้วยความปวดเมื่อยขบ
ตามร่างกายคอยจนหายปวดเมื่อยก่อน    บรรดาแหล่งน้ำแล้วอาหารล่ะ?....
ด้วยตอนนี้หมดเกลี้ยงไปแล้ว   เห็นทีมื้อเย็นนี้คงจะต้องอดเสียแล้ว    
 แต่ช่างเถอะขอให้เจอน้ำก่อนก็พอจะประทังความหิวโหยไปได้บ้าง
    ครั้นหายทุเลาดีแล้ว   ชายหนุ่มก็ดึงร่างเจ้าขนทองเดินเข้าไปในถ้ำทันที  ตอนนี้อากาศ
เริ่มมืดมิดแล้วและเยือกเย็นด้วย   ทางเดินเห็นเพียงแค่สลัวๆเท่านั้น     
        ดังนั้นเขาจึงล้วงหยิบคบไฟที่เหลือมาจุดทันทีแล้วส่องทางเดินเข้าไป    บริเวณภายใน
กว้างขวางนักมีหลีบซ้อนๆกันหลายๆชั้น  มีหินย้อยเรียงรายยามกระทบกับแสงไฟก็ส่ง
ประกายระยิบทอแสงเรืองรองหลากหลายสีดูงดงามยิ่งนัก     แต่เขาหาได้สนใจไม่เพียงสิ่ง
เดียวที่เขาปรารถนาคือ น้ำๆเท่านั้น    เพื่อค้นสิ่งที่ต้องการจึงเที่ยวค้นหาก็ได้ยินเสียงของ
แม่นางพรายกระซิบบอกว่า    
         น้ำนั้นอยู่ข้างในต้องผ่านหลีบหินด้านซ้ายมือเข้าไปถึงจะพบ
เขาจึงจูงเจ้าขนทองเดินผ่านหินที่วางเรียงรายระเกะระกะไปทั่ว  ก้อนหินนั้นล้วนส่งประกาย
แสงสีสดใสหลากสีต่างๆ    พอผ่านหลีบหินไปได้สองสามชั้น
ทางด้านซ้ายมือ   พอพ้นหลีบหินเบื้องหลังนั้น   เขาก็พบแอ่งน้ำที่ไหลย้อยมา
จากหินย้อยเป็นน้ำใสบริสุทธิ์     ดังนั้นทั้งคนและสัตว์ต่างก็เข้าไปพากันดื่มกินจนอิ่มหนำ
สำราญแล้วนำมาลูบตัว   ชายหนุ่มพลางวักน้ำไปลูบยังตัวให้เจ้าขนทองเสียเปียกปอนไปทั่ว
มันแสดงอาการดีอกดีใจที่ได้น้ำเย็นด้วยผ่านอากาศที่ร้อนอบอ้าวมาทั้งๆวัน
          เมื่อเขาจัดการดื่มกินแล้วก็นำกระบอกไม้ไผ่มาเติมน้ำให้เต็มทั้งสามกระบอกเพื่อจะได้
ใช้ในการเดินทางต่อไปข้างหน้า       พลันร่างนางพรายแสนสวยทั้งสองก็ปรากฏร่างขึ้นพวก
หล่อนได้เดินมาหาเขา   แล้วกล่าวว่าท้ายสุดของถ้ำนี้จะมีทางออกไปอีกฟากหนึ่งซึ่งอุดมไป
ด้วยผลไม้นานาชนิดซึ่งอันตราย    แต่ให้พักผ่อนที่นี่สักคืนก่อนพวกหล่อนจะคอยเฝ้าดูแลให้
            ชายหนุ่มกล่าวขอบใจพร้อมยิ้มส่งให้นางพรายทั้งสองทันที   ภายในถ้ำตอนนี้รู้สึกเย็นๆ
ขึ้นตามลำดับ     เขารีบนำคบไฟไปหาที่ปักเพื่อให้แสงสว่างกระจายได้ทั่วๆบริเวณ    และเดินหา
ที่ใช้สำหรับพักผ่อน   แต่ที่นี้มีบริเวณกว้างนักไม่เป็นปัญหาสำหรับจะหาที่พักเมื่อพบแล้วจึงได้
นำหนังเสือมาปูเพื่อใช้หลับนอนในค่ำคืนนี้    พลางหันไปถามแม่นางพรายว่า
        “แม่นางประกายแดง  ประกายเขียว ในบริเวณนี้จะมีสัตว์ร้ายอาศัยหรือไม่”
         “ไม่มีหรอกพี่ท่านด้วย  ถ้ำนี้เป็นสิ่งที่อาศัยของพญางูอยู่     แต่เหตุที่พี่ท่านและเจ้าน้อง
ประกายทองเข้ามาได้     ก็ด้วยอาศัยดวงแก้วของพญางูยักษ์ที่พี่ท่านและน้องห้อยคออยู่ตลอดจน
กระบองนาคราช    ทำให้ท่านพญางูเกรงกลัวไม่กล้าออกมารบกวนท่านพี่หรอก”    นางทั้งสองตอบ
          “อ้อ....เป็นเช่นนี้หรือ”   ชายหนุ่มอุทานเบาๆ
           “ตลอดคืนนี้น้องทั้งสองจะคอยระมัดระวังเฝ้าดูแลให้จ๊ะ   หากมีอะไรน้องจะปลุกท่านพี่ทันที”
          “ขอบใจน้องเรามากนะ  นี่หากพี่ไม่ได้น้องทั้งสองแนะนำ    ยังไม่รู้เลยว่าจะต้องลำบากอีกนาน
สักเท่าไร  บางทีอาจจะต้องตายไปก็ได้”  ชายหนุ่มรำพึงเสียงเบาๆ
           “ไม่หรอกท่านพี่หากท่านพี่เป็นอะไรไป   น้องเองก็จะต้องลำบากด้วยเจ้าค่ะ”
           “ อ้าวๆๆทำไมล่ะน้องพี่?????....”   ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย
      หญิงสาวทั้งสองมองหน้ากันแล้วพากันหัวเราะขึ้นมา........
           “ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องบอกท่านพี่หรอกเจ้าค่ะ”   นางประกายแดงตอบ
           “หากถึงเวลาแล้วบอกพี่ด้วยนะน้อง”      ชายหนุ่มกล่าว
            “ถึงเวลาแล้วท่านพี่จะรู้เองแหละจ๊ะ”    พรายเขียวตอบขึ้นบ้าง
     นับวันความผูกพันของทั้งสี่ก็กระชับแน่นแฟ้นมากยิ่งๆขึ้น  ความผูกพันนี้ต่อๆไปนับเป็นความรัก
เข้าใจเห็นใจซึ่งกันและกันจนแปรสภาพไปหมดสิ้น
      ชายหนุ่มคิดว่าเขาคงจะขาดสิ่งเหล่านี้ไปไม่ได้เด็ดขาดแน่นอน      หากเกิดการแปรเปลี่ยนใน
อนาคตเขาคงจะต้องเกิดความเสียใจมากๆ        ครั้นสนทนากันหยอกล้อกันพอได้เวลาเขาก็ขอ
ต่อแม่นางพรายทั้งสองเพื่อพักผ่อนเพื่อจะได้เอาแรงออกเดินทางต่อไปข้างหน้าอีก
      ครั้นรุ่งอรุณวันใหม่ย่างกรายเข้ามา   เขารีบเก็บสัมภาระซึ่งมีไม่มากนักจัดเข้าทีทางแล้วหลัง
จากชำระล้างใบหน้าและร่างกาย     ก็ออกเดินทางไปตามทางที่นางพรายทั้งสองแนะนำไว้
เดินทางไปถึงทางที่จะทะลุออกไปยังอีกฝั่งหนึ่ง     แต่ทางกลับเล็กลงๆไปเรื่อยๆจนเขาต้องคลาน
ออกไปเป็นระยะทางไกลพอสมควร   โดยเจ้าขนทองคลานไปล่วงหน้าก่อน    จนถึงทางแยก
เขาลังเลว่าจะไปทางใดดี   ก็พอดีได้ยินเสียงนางพรายกระซิบบอกให้แยกไปทางขวามือ
      เมื่อเป็นเช่นนั้นเขาก็คลานไปตามทางที่นางบอกพื้นถ้ำรู้สึกว่ามีหินแหลมคมๆคอยบาดเนื้อ
เขา  เขามิมีเวลาสนใจรีบๆคลาน    ทางก็เริ่มจะกว้างขึ้นๆจนในที่สุดเขาและเจ้าขนทอง
สามารถยืนขึ้นได้    เขาหันไปมองดูด้านหลังเห็นว่าที่เขาผ่านมานั้นล้วนแต่เป็นหินแหลมคม
ทั้งสิ้น ยังกับฟันของสัตว์จำพวกหนึ่งก็ได้         แต่ความหิวทำให้เขาไม่สนใจอะไรมากนัก
         เมื่อพ้นจากปากถ้ำ  เขารีบสูดหายใจลึกๆทันทีด้วย  อากาศช่างเย็นบริสุทธิ์อะไรเช่นนี้
สภาพผิดกับด้านตรงข้ามยังกับหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว    ด้วยสถานที่นี้เต็มไปด้วยป่าเขา
แมกไม้พืชนานาพันธุ์   ที่ออกดอกสวยงามหลากสี  และผลไม้อุดมออกผลย้อยไปทั่ว
ช่างเป็นสถานที่ดังภาพวาดในเมืองแมนมิตามฝาผนังในโบสถ์มิผิด
       เขารีบจูงมือเจ้าขนทองซึ่งมีอาการตื่นเต้น
ดีอกดีใจ สะบัดมือเขา   พลางกระโดดโลดเต้นตีลังกาไปตามประสาลิงทั่วๆไป
         เขาไม่ต้องสั่งการแต่อย่างไรเมื่อถึงพื้นดินแล้ว  มันพุ่งทะยานโลดลิ่วไปยังต้นไม้ที่มีผล
ไม้ทันที     เลือกเก็บที่กินได้หอบพะรุงพะรังมาให้เขา      ชายหนุ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใน
ทันที     ด้วยต้นไม้บางต้นขยับเขยื้อนเถาวัลย์ไปๆมาๆ  ค่อยๆเลื้อยไปหาเจ้าขนทองแต่ด้วย
เหตุใดไม่ทราบ  เถาวัลย์นั้นเมื่อใกล้เจ้าขนทองกลับหยุดชะงักไม่กล้าเลื้อยเข้าใกล้ตัวมัน
ทำให้ชายหนุ่มรำลึกถึงคำที่กล่าวไว้ว่า..   สิ่งใดที่งดงามสวยนักมักจะมีเภทภัยเสมอๆจะมาก
หรือน้อยก็ล้วนแล้วสถานที่อำนวยให้
          พลางคำนึงว่าเห็นจะจริงด้วยเขามองเห็นต้นไม้ใหญ่ๆบางต้นส่ายไปส่ายมา    จะว่าลม
พัดก็ไม่ใช่   เพราะต้นไม้มันส่ายไปทั้งลำต้น        ครั้นหลังจากกินอาหารร่วมกับเจ้าขนทอง
แล้ว     เจ้าขนทองก็จะทะยานเข้าสู่ป่าแต่เขาได้เรียกมันทันที    เจ้าขนทองชะงักตีลังกาย้อน
กลับมาทันที   แล้วมองหน้าเขาเหมือนสงสัย        เขาชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่บางต้นที่ยังมีเถาวัลย์
ห้อยออกจากลำต้นให้เจ้าขนทองดู   เจ้าขนทองเมื่อแลเห็นเช่นนั้นตามันเหลือกไปๆมาๆ
         ชายหนุ่มมองไปยังสภาพภูมิประเทศรอบๆด้าน   เห็นมีช่องทางที่โล่งแต่เต็มไปด้วย
วัชพืชขึ้นประมาณเกือบครึ่งหน้าแข้ง    เขาคิดเห็นว่าอาจจะหลีกเลี่ยงเจ้าต้นไม้นี้ได้
ดังนั้นจึงจูงเจ้าขนทองให้เดิน   คราวนี้เจ้าขนทองไม่กระโดดอีกแล้วเดินตามเขาต้อยๆๆ
      เมื่อเดินไปได้ระยะหนี้ปรากฏว่างูพิษต่างๆตัวใหญ่ขนาดข้อมือเขาเห็นจะได้
ต่างก็ได้พุ่งตัวหลบทางเขาทันที   
ทันใดนั้นร่างของมันที่หนีหลายตัว   บางตัวก็ถูกต้นไม้นั้นใช้เถาวัลย์ซึ่งย้อยส่ายไปมาๆ
พากันรัดร่างมันจนแหลกละเอียด   บรรดาเถาวัลย์ต่างๆแยกย้ายกันจับพวกงูพิษทั้งหลาย
แล้วดูดซึมน้ำเลือดเนื้อของงูทันทีจนเหลือเพียงแต่ซากงูที่หล่นลงมายังโคนต้นไม้
        เขามองดูให้รู้สึกสะท้านใจหากเป็นร่างเขาหรือเจ้าขนทองล่ะคงจะเป็นเช่นเดียวกัน 
เมื่อเดินผ่านมาได้อยู่ในท่ามกลางต้นไม้เหล่านี้    เสียงดังครืนๆใกล้ๆเข้ามา  เขาหันขวับ
ไปมอง     โอ้ววๆๆ...มันเดินได้หรือ    ร่างเขาและเจ้าขนทองต่างตกอยู่ในวงล้อมของ
ต้นไม้ไปเสียแล้ว     บรรดาต้นไม้ต่างชูเถาวัลย์พุ่งตรงมาหาเขาบ้างก็เลื้อยมาตามพื้นดิน
บ้างก็แกว่งไกวส่ายไปๆมาๆ   เหล่าเถาวัลย์มันปิดทางออกของเขาเสียแล้วทุกๆต้นมัน
ต่างรายล้อม       แต่แปลกที่เถาวัลย์หาได้ใกล้เข้าถึงตัวเขาและเจ้าขนทองได้
          
        เมื่อเป็นดังนี้ทำให้เขารำลึกนึกถึงคำของท่านพญางูธนาธิบดีนาคา
ที่มอบกระบองนาคราชให้แก่เขา       ดังนั้นเขาจึงรีบส่งเสียงเรียก 
     “นาคราชๆๆ....”   เสียงเบาๆ   ทันใดมีแสงพุ่งออกมาจากตัวเจ้าขนทองทันที  พุ่งมาหา
เขา    ชายหนุ่มยื่นมือขึ้นรับไว้แล้วกล่าวว่า
       “เจ้าจงใหญ่ขึ้นเดี๋ยวนี้”    กระบอกน้อยเล็กนิดเดียวก็ขยายใหญ่เป็นกระบองกระชับมือ
เขาหยิบท่อนหัวซึ่งเป็นรูปพญานาคเจ็ดเศียรชี้ไปยังเหล่าต้นไม้ที่มีเถาวัลย์ที่ส่ายไปๆมาๆ
ทันทีพร้อมกล่าวขึ้นว่า
         “เจ้านาคราชเอย   เจ้าจงทำลายมันเดี๋ยวนี้”
      บัดดลกระบองนาคราชก็ลอยออกจากมือเขาทันที   หัวของพญานาคได้มีลำแสงพุ่งออก
มาทั้งสิบสี่สาย  พุ่งแยกเข้าทำลายยังยอดกลางลำต้นของต้นไม้ทันที   เสียงดังฉี่ๆและระเบิด 
สนั่นหวั่นไหว   ต้นไม้ต้นแรกแตกกระจายยับเยิน   บรรดาต้นไม้อื่นๆต่างรีบหนีเสียงครืนๆ
ค่อยๆห่างออกไปทีละน้อยๆ   แต่กระบองนาคราชก็ไม่ยอมปล่อยปะละเลย  ทั้งลำแสงที่พุ่ง
ออกมาและตัวกระบองก็เข้าไปตี   ถูกต้นใดก็มีอันเป็นไปดังต้นแรกสักประมาณชั่วครู่ใหญ่
เหล่าต้นไม้ที่เคลื่อนที่ได้ต่างก็ถูกทำลายไปจนหมดสิ้น     
          ครั้นหมดภาระทำลายต้นไม้แล้วกระบองนาคราชก็ย้อนกลับมา
ยังมือของชายหนุ่มอีกครั้ง   ชายหนุ่มมองดูต้นไม้ที่แหลกละเอียด
เขาได้รับกลิ่นเหม็นเขียวฉุนรุนแรงมากๆเขาต้องเอามือปิดจมูก  และมีน้ำสีเขียวๆข้น
เต็มไปทั่วบริเวณนั้น  บรรดาพืชต่างๆเมื่อได้รับน้ำจากต้นไม้ที่แหลกนั้นต่างก็บังเกิดควัน
และเหี่ยวแห้งอับเฉาตายไปทันที  เมื่อชายหนุ่มเห็นเช่นนั้นก็สั่งให้กระบองนาคราชกลับ
ไปยังที่เดิม   กระบองนั้นก็พลันหดตัวลงเล็กแล้วพุ่งไปยังร่างเจ้าขนทองสู่ยังดวงแก้วทันที
          ครั้นปราบบรรดาเจ้าต้นไม้จนหมดสิ้นแล้ว    ชายหนุ่มก็เรียกเจ้าขนทองให้ออกเดิน
ทางต่อไป   คราวนี้เจ้าขนทองมันแสดงความดีใจกระโดดโลดเต้นตีลังกานำหน้าเดินทาง
เพื่อนำเขาไปยัง   ป่าเนินเขาเพื่อหาทางออกจากภูเขาทั้งหลาย ต่างลุเข้าสู่แนวป่าผ่านซอก
แนวเชิงเขาทันใด............
                    *  แก้วประเสริฐ.  *

n016.gif				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    12 กุมภาพันธ์ 2553 13:05 น. - comment id 114526

    11.gif11.gif11.gif
  • โคลอน

    12 กุมภาพันธ์ 2553 14:30 น. - comment id 114551

    ชอบฉากที่มีเจ้าขนทองมากเลยค่ะ
    
    46.gif46.gif46.gif
  • กิ่งโศก

    12 กุมภาพันธ์ 2553 14:36 น. - comment id 114554

    ต้นไม้เหล่า..จะกลัว ก้อีกอย่างคือ ไฟ ..อิอิ
  • แจ้นเอง

    12 กุมภาพันธ์ 2553 21:58 น. - comment id 114708

    36.gif
    
    แวะทักทายค่ะคุณแก้วประเสริฐ
    เรื่องน่าติดตามค่ะ
    
    เพิ่งมีเวลาแล้วค่อยย้อนรอยอ่านย้อนหลัง
    
    ดูแลสุขภาพนะคะ
    
    31.gif
  • แขกประจำบ้านกลอน

    12 กุมภาพันธ์ 2553 22:30 น. - comment id 114710

    กำลังสนุกเลยคะครูแก้ว
    ขอบคุณมากนะคะ
    36.gif36.gif36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    13 กุมภาพันธ์ 2553 10:37 น. - comment id 114734

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  ฉางน้อย
    
          ขอบใจมากจ้าหลานรัก
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    13 กุมภาพันธ์ 2553 10:39 น. - comment id 114735

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ โคลอน
    
         ครับนี่ผมก็จะเริ่มแต่งตอนต่อไป ยังนึกไม่
    ออกเลยครับ รักเสมอ
    
           16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    13 กุมภาพันธ์ 2553 10:41 น. - comment id 114736

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
         ศิษย์รัก คือการผสมผสานกันระหว่างตอนๆ
    เพื่อผลสรุปจ้า  การเขียนเราต้องรู้และวางแนวไว้
    ก่อน  เนื้อความค่อยหาเอาทีหลัง รักศิษย์เราเสมอ
    
             16.gifแก้วประสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    13 กุมภาพันธ์ 2553 10:45 น. - comment id 114737

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  แจ้นเอง
    
           ไม่ได้เจอกันนานแล้วนะครับผมยังรักคิด
    ถึงเสมอแหละครับไม่ลืมหรอก  ผมเบื่อทางโน้นก็
    หันมาเล่นทางนี้  ก็สนุกๆดีเหมือนกันครับแต่ใช้
    สมองมากกว่าการเล่นกลอนครับ  หากจะให้สนุก
    ก็ควรอ่านตั้งแต่ต้นนะครับ เพราะผมมักจะหักมุม
    การเขียนไว้เสมอๆครับ  รักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    13 กุมภาพันธ์ 2553 10:49 น. - comment id 114738

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ  แขกประจำบ้านกลอน
    
           ผมพยายามดำเนินเรื่องเปลี่ยนไปมาให้
    คนอ่านได้คิดกันครับ  แต่ทั้งหมดจะค่อยๆสรุป
    ไว้ครับ ตอนจะสรุปจะสนุกมากขึ้นด้วยต้องใช้หลายๆ
    ชั้นครับ ตามที่คิดนะครับ แต่ยังไม่รู้จะแต่งอย่างไร
    อิอิ  เดี๋ยวครั้นถึงเวลาก็ออกมาเองแหละครับ
    ขอบคุณรักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน