ฟ้าเพียงดิน (๖)
ชายหนุ่มฟังการประชุมด้วยทีท่าสนใจแต่มิได้กล่าวประการใด พลางนึกในใจว่าคุณพ่อ
ช่างละเอียดรอบคอบมาก พลางตรวจรายการต่างๆบนหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ตามรางานของ
หัวหน้าฝ่ายต่างๆ พลันได้ยินคุณพ่อกล่าวว่า
“คุณองอาจ แล้วรายงานด้านต่างประเทศของประเทศเกาหลีที่มีหนังสือแจ้งมาว่าให้ทาง
เราเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เพียงผู้เดียว ตอนนี้งานไปถึงไหนแล้ว ขอทราบด้วย”
“เรียนท่านผู้บริหารใหญ่ บัดนี้ทางเราได้ติดต่อไปเรียบร้อยแล้วตามที่ท่านผู้บริหารแจ้ง
แต่ทว่า ทางบริษัทเขาอยากจะมาดูสถานที่ประกอบการโดยทำเป็นหนังสือแจ้งมาจะส่งคนมา
ดูกิจการในราวอาทิตย์หน้า วันอันแท้จริงจะแจ้งให้ท่านทราบอีกครั้งหนึ่ง ที่ยังมิได้รายงานไว้
ด้วยยังไม่ได้คำตอบอันแน่นอนเท่านั้นครับ” ฝ่ายต่างประเทศรายงานด้วยวาจาทันที
“หากเป็นเช่นนั้นก็ให้คุณองอาจต้อนรับและให้ไปดูสถานที่จะใช้ประกอบรถยนต์ตลอดจน
สาขาที่เปิดไว้ในกรุงเทพฯซึ่งทางเราได้จัดสร้างไว้เรียบร้อย หากได้รับรายงานจากบริษัทแม่เมื่อใด
ก็ให้รีบรายงานโดยด่วนด้วยนะ” คุณอัศวโรจน์แจ้งให้ทราบ
“ครับ!!!!.....หากทางเราได้รับการยืนยันเป็นที่แน่นอนก็จะเปิดและรีบเร่งขยายงานออกต่าง
จังหวัดทันที ด้วยได้แจ้งให้คุณกฤษณะแจ้งไปยังบรรดาสาขาของเราให้จัดการสาขาและเตรียมการ
โฆษณาไว้แล้วครับ”
“แต่ถ้าหากฝ่ายเกาหลีขัดข้องอย่างไร ผมเองได้รับแจ้งมาว่าทางญี่ปุ่นก็สนใจงานทางเราด้วยคุณ
เห็นเป็นประการใดล่ะคุณองอาจ”
“แต่ถ้าหากทางญี่ปุ่นซึ่งก็ทำกิจการเดียวกันก็ไม่เป็นปัญหาหรอกครับ ด้วยผมและคุณกฤษณะ
ได้เปิดสาขาในนามของบริษัทเราสำรองไว้แล้วให้เป็นฝ่ายรับผิดชอบดูแลด้านนี้ไว้แล้วครับท่าน ตามราย
งานที่แจ้งไว้ในรายงานทางคอมฯครับท่าน” ผู้จัดการทั้งสองฝ่ายตอบ
“แล้วด้านคุณกฤษณะเล่า การขายด้านเครื่องอุปกรณ์ ส่วน ลิฟต์ผมตรวจดูไม่เห็นเดินหน้าไป
แต่อย่างใดเลย”
“ทางด้านอุปกรณ์ด้านอื่นๆตลอดลีฟท์ถึงไม่ได้เพิ่มจากยอดเดิมนั้น แต่ไม่ได้ลดลงทุกอย่าง
ด้วยขณะนี้เกิดเหตุการณ์ภายในบ้านเมืองอยู่จึงชะงักไปครับท่าน ผมคิดว่าหากบ้านเมืองสงบ
คงจะได้ขายลิฟต์และอุปกรณ์ตลอดเครื่องอุปโภคบริโภคได้มากขึ้น ระยะนี้ได้โฆษณษาไปเรื่อยๆ
เพียงแต่เพลาๆไปบ้าง แต่เราได้เสริมทางด้านต่างประเทศไว้รอรับแล้วครับท่าน อีกประการหนึ่ง
ด้วยบรรดาการก่อสร้างต่างๆได้หยุดชะงักไปก่อน คงอีกไม่นาน ด้วยมีออเดอร์สั่งของมาแล้วครับท่าน”
“จริงซินะ เหตุการณ์บ้านเมืองเรากำลังวุ่นวาย ทั้งทางด้านในประเทศและต่างประเทศ แต่ขอให้พวก
เรารักษายอดการจำหน่ายและการผลิตไว้ตามรายการต่างๆไว้ ส่วนราคานั้นควรจะให้ชะลอๆไปพลางๆก่อน
ให้ผู้จัดการสาขาทั้งหลายทราบด้วยนะ เพียงให้รีบเร่งหายอดจำหน่ายไว้ให้มากๆไว้ก่อน ส่วนบริษัทใดที่ยัง
ต้องการก็ให้รีบจัดการให้เสร็จโดยเร็วด้วย”คุณ อัศวโรจน์แจ้ง
“คุณยุพาล่ะด้านการจำหน่ายต่างที่คุณทำรายงานมานั้น เห็นควรลดอัตราลงเสียบ้างเพื่อให้สอดคล้องกับ
เหตุการณ์บ้านเมืองลงมาหน่อยนะ แล้วแจ้งให้ฝ่ายการขายแจ้งไปยังบรรดาสาขาต่างๆทั้งในและนอกด้วยนะ”
“เจ้าค่ะ แล้วท่านจะให้ลดประมาณสักเท่าไหร่ดีล่ะท่าน”
“ผมเห็นว่าควรจะลดสักหนึ่งเปอรเซ็นต์หรือสองเป็นตามลักษณ์ของสินค้าก็แล้วกัน”
“เจ้าค่ะจะได้แจ้งให้ฝ่ายการขายทราบโดยด่วนเจ้าค่ะ”
“อ้อแล้วทางด้านบุคลากรล่ะ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เพิ่มลดเท่าไหร่ คุณจารุวรรณ”
“อัตรากำลังบุคลากรนั้นหยุดรับการสมัคร เพียงรอการเปิดรับสมัครที่อาจจะเปิดการขายจากต่างประเทศจาก
คุณองอาจไว้แล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้กำลังพิจารณาเกี่ยวกับการปลดคนงานตามสภาพเหตุการณ์ปัจจุบันอยู่เจ้าค่ะ”
คุณจารุวรรณกล่าวรายงาน
“ใช่แล้วสมควรเป็นแบบนั้นด้วยสภาพเหตุการณ์เราต้องตรึกตรองกันให้รอบคอบให้สอดคล้องกันและกัน
และด้านคุณ เบญจมาศล่ะ งานฝ่ายบัญชีเป็นอย่างไรบ้าง”
“ด้านการเงินนั้นยังอยู่ในสภาพคล่องตัว ด้านในและต่างประเทศยังอยู่ในสภาพเดิมแต่เค้าว่าอาจจะลดลง
บ้างเล็กน้อยเจ้าค่ะ” ฝ่ายบัญชีกล่าวรายงาน
“อ้อยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ เจ้ากานต์ลูกชายผมเองขออัตรา หนึ่งอัตรา เพื่อเวลาเขาเข้ามาบริหารงานแทนผม
คือหน้าที่เลขานุการส่วนตัว ให้คุณนำเอกสารที่ผมจะมอบให้คุณนี้ไปแต่งตั้งได้เลยนะ กินตำแหน่งผู้ตรวจการ
พิเศษประจำบริษัทสามารถตรวจสอบทุกๆฝ่ายได้ แต่ตอนนี้ยังไม่เข้าทำงานเขาจะทำรายงานส่งทางบ้านเขาให้
เขากินเงินเดือนๆละ ห้าหมื่นบาทไปก่อน เบิกจ่ายตั้งแต่เดือนนี้ไปเลยด้วย” คุณอัศวโรจน์กล่าว
“เจ้าค่ะดิฉันจะรีบดำเนินการโดยด่วนเจ้าค่ะ”
แล้วผู้จัดการฝ่ายบุคลากรก็ลุกจากเก้าอี้เดินเข้ามาน้อมกายลงแล้วรับเอกสารจากมือผู้บริหารใหญ่ทันที
พร้อมก็เดินกลับไปนั่งโต๊ะตามเดิม
“คุณพิมพ์ผกาให้จัดทำรายงานประชุมทั้งหมดรีบส่งผมโดยด่วนด้วยนะ”
“เจ้าค่ะ” หญิงสาวชื่อพิมพ์ผกาตอบอย่างนอบน้อม พลางเงยหน้า แล้วหล่อนก็สะดุ้ง ไม่ใช่เพียงแต่หล่อน
เท่านั้นชายหนุ่มก็สะดุ้งเช่นเดียวกัน ด้วยเขาเพียงแต่หลับตาฟังการสั่งงานการประชุมต่างๆจากคุณพ่อและหัน
ไปมองผู้จัดการฝ่ายต่างๆจดจำไว้ แต่หาได้สังเกตว่าที่เบื้องหลังท่านมีหญิงสาวนั่งโต๊ะเคียงคู่ท่านอยู่
ด้วยหล่อนมัวแต่กำลังจดรายงานต่างๆไว้ พร้อมกำลังบันทึกลงในคอมพิวเตอร์อยู่จึงไม่ได้และเห็นใบหน้า
พลันชายหนุ่มนึกถึงแม่แย้มขึ้นทันที ระหว่างที่เขาหลับไปและตื่นแต่เพียงแย้มนัยน์ตามองดูเห็นหล่อนเพียง
ไม่นานนักแต่เขาจำได้ ไม่นึกว่าหล่อนจะมาเป็นเลขานุการของบิดาเขา
ทั้งสองเมื่อสบตากันก็ต่างคนต่างคิดไปต่างๆนาๆทันที หญิงสาวก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มที่หล่อนแลเห็นนอนอยู่
บ้านโซฟานั้นจะเป็นถึงลูกชายคนเดียวของท่านบริหารใหญ่เจ้าของแห่งบริษัทที่หล่อนทำงานอยู่
ด้านชายหนุ่มก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่า หล่อนจะเป็นคนดูแลแม่แย้มที่เขารักดุจดั่งแม่ตัวเองในระหว่างเขาไปต่าง
ประเทศและซื้อของมาฝากแม่เขาเป็นประจำอีกด้วยจะเป็นเลขานุการของพ่อไป ทำให้ทั้งสองตลึงงันทำให้คุณ
อัศวโรจน์สงสัย แต่ไม่กล่าวประการใด
เจ้าของบริษัทและผู้บริหารใหญ่พลางกล่าวในที่ประชุมว่า ในเมื่อผมอ่านรายงานจากท่านและเซฟไว้เรียบร้อย
แล้ว หากทุกๆคนมีปัญหาใดขัดข้องอย่างไรให้รีบรายงานผมโดยด่วนด้วย ถ้าไม่มีก็ขอปิดประชุมก่อน อ้อๆๆ
ลูกชายผมจะเข้ามาบริหารในบริษัทนี้อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ฉะนั้นเขาก็คือผมหากผิดพลาดอย่างไรก็ตักเตือนเขา
ด้วยถือว่าเป็นลูกหลานของท่านๆก็แล้วกัน
ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วยกมือไหว้ไปทางผู้จัดการฝ่ายทั้งห้าทันที บรรดาฝ่ายทั้งหลายก็ยืนขึ้นแล้ว
รับไหว้ตอบ ต่างคิดในใจว่านี่หรือจะมาเป็นหัวหน้าพวกเขาอายุก็ยังไม่มากนักแต่ต่างคิดไปต่างๆนาๆแล้วก็
นั่งลงดังเดิม ครั้นได้ยินผู้บริหารใหญ่สั่งกล่าวปิดประชุมก็ลุกขึ้นน้อมกายคาราวะทันทีแล้วต่างก็ค่อยๆทยอย
กันเดินออกจากนอกที่ประชุม คงเหลือเพียงคุณอัศวโรจน์ ชายหนุ่ม และหญิงสาวเท่านั้น
“นี่เจ้าค่ะ แผ่นดิสท์ของแต่ละฝ่ายได้บันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมกันหกแผ่น ห้าแผ่นเป็นรายงานของหัว
หน้าฝ่าย อีกแผ่นหนึ่งเป็นประชุมด้วยวาจาเจ้าค่ะ” แล้วหญิงสาวก็น้อมกายยื่นส่งให้แก่คุณอัศวโรจน์ทันที
ถอยหลังไปยืนรอคำสั่งต่อไป
“ฉันสังเกตว่าเธอกับลูกฉันเหมือนจะรู้จักกันมาก่อนแล้วใช่ไหมพิมพ์ผกา”
“ไม่รู้จักกันเจ้าค่ะ แต่เคยเห็นเจ้าค่ะ” หญิงสาวตอบ
“อ้าวๆๆ???....แล้วเจอกันที่ไหนล่ะ” บิดาพีระกานต์ถามด้วยความสงสัย
“พบเห็นเขานอนหลับที่บ้านป้าแย้มเจ้าค่ะ ระหว่างดิฉันนำขนมไปมอบให้ป้าแย้มเจ้าค่ะ”
“แล้วคุยกันด้วยหรือเปล่าล่ะ”
“เปล่าเจ้าค่ะ เมื่อเห็นป้าแย้มมีลูกชายมาหาซึ่งดิฉันก็สงสัยเหมือนกันด้วยทราบว่าป้าแย้มไม่ได้แต่งงาน
จนป่านนี้จะมีลูกชายได้อย่างไรเหมือนกันเจ้าค่ะ”
คราวนี้คุณอัศวโรจน์รู้ทันทีว่าหลังจากไอ้กานต์มันหายหัวไปไหน ตามที่คุณหญิงภรรยากล่าวว่ากานต์
มันจะไปธุระ แต่เร่งให้กลับบ้านเร็วๆ พลางหันหน้ามาทางชายหนุ่มทันที
“บอกพ่อซิเจ้ากานต์ว่าที่คุณพิมพ์ผกาแจ้งมาจริงหรือเปล่า เห็นแม่บอกว่าไปธุระที่แท้ไปหาแม่แย้มหรือ”
“ครับคุณพ่อ ผมเองเห็นทราบว่าทางคุณพ่อคุณแม่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับที่บ้านเลย แวะไปเยี่ยมแม่แย้มหน่อย”
“เออให้มันได้อย่างนี้ซิ มันช่างเหมือนพ่อจริงๆนะ”
“ฮ่าๆๆๆๆไอ้กานต์นะไอ้กานต์ ไม่เบาความคิดอ่านกว้างไกลนัก” แล้วชายกลางคนก็หัวร่อลั่นทันที
แล้วชายปลายวัยชราก็กอดคอเจ้าลูกชายเดินออกจากห้องประชุมทันที
หญิงสาวก็เดินตามหลังคิดไปต่างๆนาๆด้วยคาดไม่ถึงว่าจะมาเจอกันในลักษณะแบบนี้
“ครั้นถึงประตูก็ลดมือออกจากคอของชายหนุ่มแล้วหันไปถามว่า แล้วแกจะไม่ไปเดินชมฝ่ายต่างๆบ้าง
หรือจะได้รู้จักห้องต่างๆเวลามาทำงานนะ”
“อีกหนึ่งเดือนล่ะคุณพ่อ เมื่อไหร่ก็ได้ แต่ผมเห็นจะขอตัวไปหาไอ้หนกมันหน่อยด้วยจะปรึกษากันว่าจะ
ไปเที่ยวทะเล ด้วยมันจะบินไปยุโรปในอาทิตย์จะถึงนี้แล้ว”
“ถ้าอย่างงั้นเดี๋ยวพ่อแม่จะตามไปด้วย เจ้าล่ะจะเอาใครๆไปบ้างล่ะ “
“ก็เพื่อนๆและเมียมันเท่านั้นครับคุณพ่อเอาคนที่สนิทๆไป ไม่อยากให้เอิกเกริกนัก” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
แล้วคุณอัศวโรจน์ก็หันหลังกลับไปถามหญิงสาวทันที
“ หนูไปเที่ยวทะเลด้วยกันไหมล่ะนำแม่แย้มไปด้วยนะบอกพี่เค้าว่าฉันเองคิดถึง ไอ้กานต์มันคงอยากให้ไปร่วมด้วยนะ บอกแม่แย้มเห็นคงจะไปด้วยหรอกจะได้สั่งให้เขาจัดการทำความสะอาดบ้านพักไว้หรือหนูจะเอา
พ่อแม่ไปด้วยก็ไม่ขัดข้องนะ”
“ดูก่อนเจ้าค่ะแต่จะบอกแก่ป้าแย้มให้ทราบเจ้าค่ะ” หญิงสาวกล่าวตอบ
“คุณพิมพ์ผกาขอเชิญด้วยนะครับ แล้วบอกแม่แย้มว่าผมต้องการให้ไปด้วย แม่แย้มต้องไปแน่นอนล่ะ”
“เจ้าค่ะคุณชาย” หญิงสาวกล่าวตอบ
ครั้นพอเดินพ้นหน้าห้องก็แจ้งให้หญิงสาวที่น้อมคาราวะให้กลับไปทำงานหน้าที่เดิมได้แล้ว พร้อม
คุณอัศวโรจน์ก็แยกทางกับชายหนุ่มเพื่อเข้าไปยังห้องทำงานซ้ายมือที่ติดกับห้องประชุมใหญ่พร้อมหญิงสาวทันที
หลังจากแยกทางกลับบิดาแล้ว ชายหนุ่มก็เดินระเหยไปเรื่อยๆลงลิฟท์มาแล้ว เดินดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยๆ
ด้วยยังเห็นเวลามีอีกมากนัก เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จำชายหนุ่มได้ดีและเห็นเขาเดินเข้าไปยังที่ประชุมหน่วย
ประชาสัมพันธ์ทั้งหมดก็รีบออกมายกมือไหว้ชายหนุ่มทันที ชายหนุ่มหัวร่อพลางบอกว่า
“ขอบคุณทุกๆคนครับ เดี๋ยวผมจะกลับเดี๋ยวนี้ทำตัวตามสบายเถอะ” กล่าวจบชายหนุ่มก็รีบสาวเท้าผ่าน
หน้าประตูใหญ่ ฝ่ายพนักงานรปภ.ก็ทำความเคารพ ชายหนุ่มทันที แล้วเขาก็รีบเดินไปที่รถแล้วสตาร์ทรถออก
จากบริษัทหากนกด้วยนัดหมายกันไว้ก่อนแล้ว
เมื่อชายหนุ่มขับรถมาถึงซอยชิดลมก็แวะซื้ออาหารต่างๆแล้วเดินเข้าไปในบ้านเพื่อน เห็นไอ้หนกกำลังง่วน
อยู่กับต้นไม้ เขาแอบไปยืนไม่ให้มันรู้ตัว พอได้จังหวะก็เตะตูดมันทันที เสียงดังป๊าบ จอบเล็กๆในมือมันกระเด็น
หลุดมือทันที หัวคะมำทิ่มไปยังกระถางต้นไม้ เสียงมันด่าสนั่นลั่น
“ใครว่ะไอ้ห่า???....เดี๋ยวเถอะกูจะเอาคืน” พลางหันมายกมือตั้งท่ามวยการ์ดทันที เมื่อสมัยมันยังเรียนหนังสือ
มันเคยชกมวยนักเรียนได้แชมป์รุ่นมาแล้ว แต่พอมันเห็นชายหนุ่มเท่านั้น ก็รีบปล่อยมือทั้งสองลงทันที
“ไอ้เห้?...กูนึกว่าใครเสือกเตะกูเสียหัวทิ่มนี่กูว่าจะเอาคืนซะหน่อย” ว่าพลางก็ก้าวย่างสามขุมเข้าหาชายหนุ่ม
ทันใด ชายหนุ่มหัวร่อก๊าก
“มาๆๆไอ้หนก มึงดูซิว่านี่อะไรในมือกู “ แล้วชายหนุ่มก็ยกกล่องใส่เหล่าฝรั่งอย่างดีขึ้นทำท่ารับหากไอ้หนกเตะเขาจริงๆด้วยมือขวา ส่วนมือขวาถือถุงใส่บรรดาอาหารต่างยกขึ้นด้วย
ไอ้หนกชะงักพรืดพลางหัวร่อลั่นกูก็แกล้งขู่มึงยังงั้นแหลว้าอ้ายเห้.....ไปๆๆมึงเข้าไปในบ้านบอกแม่บ้านกู
ให้เตรียมไว้เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนแล้ว
“อ้าวไอ้เห้?...มึงไม่เรียกพวกเรามากินด้วยกันหรือว๊ะ กูได้ยินไอ้รุจน์มันโทรมาหากูว่าจะมาหากลุ้มใจมันว๊ะ
มึงโทรไปบอกมันก็แล้วกันพวกเรานะโว้ยอย่าให้มันเสือกพาเมียมาด้วยเดี๋ยวไม่สนุกว๊ะ” พูดแล้วกนกก็เดินเข้าบ้านตรงไปยังห้องน้ำทันที.........
* แก้วประเสริฐ. *

21 มีนาคม 2553 14:42 น. - comment id 115989
...........ห๋า ลุงแก้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
...........

21 มีนาคม 2553 16:12 น. - comment id 116016
คุณ ฉางน้อย แปลกใจหรือที่มาแปลกแนวต่างกันยังกับ ฟ้าดินเชียว เรื่องนี้ลุงตั้งใจว่าเมื่อจบแล้วเคย กล่าวไว้กลัวผิดคำพูดว่าจะแต่งต่อให้จบเลย ครั้น มีโอกาสก็จะเอาให้จบจ้า รักหลานเสมอ
แก้วประเสริฐ.

21 มีนาคม 2553 19:17 น. - comment id 116039
ครูแก้ว มาตอนหก เลยหรือครับ .เด๋วผมขอย้อนกลับไปอ่านตอนต้นๆ ก่อนนะครับ

22 มีนาคม 2553 11:57 น. - comment id 116063
คุณ กิ่งโศก อันที่จริงผมแต่งเรื่องนี้ทิ้งไม่จบไว้นานแล้ว ก็ด้วยเนื่องจาก วันหนึ่งอาบน้ำเสร็จผ่านทีวีเห็น เขาดูลครกัน เห็นขึ้นว่า ฟ้าเพียงดิน ครูก็เลย หยุดเขียนไปซะดื้อๆ จนกระทั่งมีคนพูดถึงก็เลย เข้าไปเก็บข้อมูลเก่าๆจากเรื่องนี้ไว้ เห็นคนเข้ามา อ่านมากเลย เป็นไงเป็นกัน อิอิ เขียนต่อแต่คราว นี้จะให้จบ ส่วนชื่อเรื่องจะซ้ำกันแต่เนื้อหาไม่ เหมือนกันหรอกจ๊ะ รักศิษย์เราเสมอ
แก้วประเสริฐ.

22 มีนาคม 2553 19:57 น. - comment id 116080
อ่านฟ้าเพียงดินแปด กลับมาดูพบหก คงต้องตามไปตอน..เฮ้ย ตามอ่าน...1 2 3 4 5 ค่ะเคารพ คุณชายฯค่ะ

22 มีนาคม 2553 21:51 น. - comment id 116083
คุณ ทางแสงดาว คุณหญิงผมเองเรื่อง ฟ้าเพียงดินนั้นแต่งมา นานแล้วว่าจะเลิกเขียนต่อ แต่มีคนกล่าวถึงเหตุ ด้วยหลังอาบน้ำเสร็จ เห็นเขาดูลครกันเรื่อง ฟ้าเพียงดิน เอ๊ะมันไหงเหมือนชื่อเรื่องเราแต่งนี่ นาเลยดูแต่เนื้อหาไม่เหมือนกันเลย ปกติผมไม่ ค่อยชอบดุหนังลครอยุ่แล้ว ก็เลยวางมือไป แต่ เรื่องนี้แต่งง่ายมากๆครับผ่อนคลายสมองได้ดีไม่ เครียดมากนัก แต่ผมพยายามจะดำเนินเรื่องให้ สนุกไว้ ย้อนกลับไปอ่านเรื่องถึงจะติดต่อกัน ครับ รักคุณหญิงเสมอ
แก้วประเสริฐ.
