ฟ้าเพียงดิน (๘)

แก้วประเสริฐ


               ฟ้าเพียงดิน (๘)
   ครั้นหญิงสาวได้ยินเช่นนั้น ก็ปิดปากหัวร่อ เสียงลอดออกมาจนร่างงอทันที  ส่วนเจ้ากนกหรือ
ก็ง้างเท้าทันที  หวังจะถีบชายหนุ่มที่หักหน้าเขาต่อหน้าหญิงสาวนั้น  พลางงอเข่าแล้วยืดออกไป
แต่แล้วก็ต้องชะงักลดพลังการถีบทันที พลันวางเท้ายืดบนผืนเสื่อทันที เมื่อได้ยินชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
   “ช้าๆๆ???....ไอ้หนกมึงจะถีบกูหรือไหงถึงทำเช่นนี้  ช่างไร้มารยาทจริงๆนะ ต่อหน้าสุภาพสตรี
ยังทำได้ถึงเพียงนี้หาก  ลับหลังจะมิยิ่งไปกว่านี้อีกหรือ   จริงไหมครับคุณพิมพ์”
      แน๊ะๆๆดูมันเสือกหาพวกช่วยเสียอีก น่าถีบจริงไอ้เห้นี่ แต่กลับกล่าวว่า
   “เปล่าหรอกเพื่อนที่แสนจะรักที่สุดในโลก  เพียงแต่มดมันกัดใต้หัวเข่านะสะดุ้งไปเท่านั้นเลยจำ
ต้องยืดขาออกเพื่อตบและเกามันเองจ๊ะเพื่อนที่รักขอรับ”
    “ข้ออ้างนะซิไอ้หนก.....”  ชายหนุ่มรู้ทันกล่าว
    “ไหนๆๆลองเข้ามาดูใกล้ซิจะพ่อทูนหัวทูนเกล้า  ช่วยจับมดให้หน่อยนะ”  กนกกล่าวแล้วแกล้ง
ยกมือขึ้นเกาใต้หัวเข่าทันที
     “มัดกัดผมจริงๆนะครับคุณพิมพ์  อย่าไปเชื่อไอ้จอมกระล่อนเลยมันแกล้งผม  ปกติผมเองสุภาพ
เรียบร้อยจะตายไปครับ”   กนกเอ่ยแก่หญิงสาวทันที
      “กูไม่หลงคารมมึงหรอกไอ้หนก   คุณพิมพ์ครับกรุณาเป็นตัวแทนผมหน่อยซิครับไปดูว่ามีมดจริงๆ
ดังที่ไอ้หนกมันพูดหรือเปล่า”   แล้วชายหนุ่มก็หันหน้ามาทางหญิงสาวพร้อมพยักหน้าให้หล่อนเข้าไป
ช่วยดู    ครั้นหญิงสาวได้ยินคำสั่งเช่นนั้น ในใจคิดว่าต่อไปเขานี้แหละจะเป็นเจ้านายหล่อนในอีกหนึ่ง
เดือนข้างหน้า  ครั้นจะไม่ทำตามก็ดูกระไร  จึงเขยิบตัวลุกยองๆเข้าไปหากนกทันที
       “ไหนค่ะ ขอพิมพ์ดูให้หน่อยว่ามดมันกัด จะได้ทายาให้ค่ะ” ไม่พูดเปล่าหญิงสาวล้วงกระเป๋ากางเกง
หยิบยาหม่องออกมาด้วย
       “ไม่เป็นไรแล้วครับหายแล้วล่ะ  ที่ผมให้ไอ้กานต์มันเข้ามาดูเพื่อจะเข่ามันครับคุณพิมพ์เลยแกล้งมันครับ”
    หญิงสาวชะงักหัวร่อคิกๆๆๆทันที  ทั้งๆที่หล่อนรู้แล้วว่าไม่มีมดอะไรหรอก  แต่เพื่อตามใจเจ้านายในอนาคต
นั่นเอง เลยผสมโรงไปด้วย
      “น่าๆๆๆให้พิมพ์ดูหน่อยนะค่ะ  ประเดี๋ยวคุณชายจะว่าไม่ทำตามคำสั่ง ด้วยอีกเดือนหน้านี้เขาจะเป็นเจ้านาย
พิมพ์แล้ว  นะค่ะให้พิมพ์ดูหน่อยนิดเดียวแหละค่ะ”  หญิงสาวกล่าวอ้อนวอนชายหนุ่มชื่อกนกทันที
พลางหล่อนนึกในใจว่าชายทั้งสองนี้รูปร่างหล่อเหลาทั้งคู่เพียงแต่ว่าคุณชายนั้นรู้สึกว่าจะได้เปรียบมากกว่า
เท่านั้นเอง
        ครั้นกนกได้ยินเช่นนั้นกลัวหล่อนจะเสียใจที่อุสส่าห์ขอร้องถึงสองครั้ง  จึงกล่าวว่า
      “ถ้าอย่างนั้น....รบกวนคุณผู้หญิงหน่อยก็แล้วกันครับ “ พูดพลางถลกขากางเกงให้สูงขึ้นเลยหัวเข่า เห็นเป็น
รอยแดงๆ  ที่จริงนั้นเกิดจากเขาเกามันอย่างแรงเพื่อสร้างสถานการณ์เท่านั้น
      “โอ้แดงมากเชียวเลยค่ะ  งั้นพิมพ์จะทายาหม่องให้นะค่ะ  ทางสวนนี้ทุกๆคนจะพกยาหม่องไว้ประจำตัวด้วย
มีมดต่างๆแยะกัดเจ็บ ยิ่งมดตะนอยด้วยแล้วทั้งเจ็บปวดทั้งคันด้วยล่ะค่ะ” หญิงสาวเอ่ย พร้อมป้ายยาหมองทา
ไปตรงรอยเป็นแดงๆ  แต่หาได้มีจุดมดกัดใดไม่   
        เมื่อชายหนุ่มกานต์เห็นโอกาสดีเช่นนั้น  ก็เอ่ยขึ้นว่า
      “คุณพิมพ์ครับ  ช่วยดูแลรักษามันหน่อยนะครับมันจะตายหรือเปล่า สงสัยพิษมันจะลามเข้าสู่หัวใจกระมัง
อีกอย่างหนึ่งฝากมันไว้ด้วยนะครับ  ผมจะเข้าไปดูแม่แย้มสักหน่อย ขอตัวก่อนนะครับ”  ไม่พูดเปล่าชายหนุ่ม
ยืนขึ้นแล้วก้าวเดินเข้าข้างในทันที   ด้วยปล่อยโอกาสให้ไอ้หนกมันได้อยู่สองต่อสองกับพิมพ์ตามที่เขาวางแผน
ไว้  ที่เขากล่าวให้มันตลกนั้นก็ด้วยเหตุต้องการสร้างความสนิทสนมระหว่างกันและกันเท่านั้น  พลางอมยิ้มหัวร่อ
ในใจ  เมื่อก้าวพ้นทั้งสองไปแล้วเขาก็เดินตรงไปลงกระไดหลังบ้านเพื่อเข้าไปยังสวนเพื่อชมผลไม้  เห็นตาม่วง
กำลังกินเหล้าของเขาอยู่ใต้ถุนคนเดียว   จึงเลี่ยงๆไปตาม่วงครั้นแลเห็นเขาจะเอ่ยปากขึ้นถาม  แต่เขายกนิ้วชี้ไป
ที่ปากเสมือนส่งสัญญาณว่าอย่างเอ่ยไป    นั่นเองถึงได้ชะงักคำพูด แต่ไม่วายลุกขึ้นเดินมาหาเขา  ชายหนุ่มชี้ไป
     ทางในสวน ครั้นตาม่วงทราบก็จะเดินตามไปด้วย  ชายหนุ่มรีบสั่นหน้าทำกิริยาบอกว่าให้ไปกินเหล้าต่อเถอะ
แล้วร่างชายหนุ่มก็รีบเดินเข้าไปยังสวนทันที   แต่บรรดาหมาต่างๆก็วิ่งพรูเข้ามาเขายกมือลูบหัวมันแล้วเดินต่อ
บัดนี้เขามีผู้ร่วมทางด้วยแล้ว  จึงเดินไปพลางถลกขากางเกงให้สั้นแล้วพับมันเลยหัวเข่า  พลางดินทอดน่องไป
ชมผลไม้ที่กำลังออกผลแต่ยังเล็กนัก  มีทั้งมังคุด มะม่วง น้อยหน่า ส้ม ทุเรียน มะกรูด มะนาว มะดัน ฯลฯ
ล้วนแล้วออกผลเป็นพวงๆห้อยระย้า     อากาศก็สดชื่นนัก เขาเดินลึกๆเข้าไปตามด้วยหมาที่วิ่งนำหน้าและ
ตามหลังมา ได้ยินเสียงนกร้องจับใจยิ่งนัก   เขาเดินลอดกิ่งไม้บ้าง กระโดดข้ามท้องร่องบ้าง ลึกๆเข้าไปจนไป
พบขอนไม้ที่ทำเป็นที่นั่ง   พลางมองดูเห็นเป็นรอยมันๆสงสัยตาม่วงใช้เป็นที่นั่งพักผ่อนหลังจากทำงานเสร็จ
       หากจะเดินให้รอบเห็นจะไม่ไหวด้วยบริเวณสวนกว้างขวางมากนักนับสิบสามสิบไร่เห็นจะได้ เมื่อตอน
หนุ่มเคยได้ยินแม่แย้มเอ่ยขึ้น แต่ตอนนี้เห็นไกลไปอีกสงสัยแม่แย้มจะซื้อเพิ่มเติมไว้อีกกระมัง  สักพักหนึ่ง
เมื่อลมโชยผ่านมาชายหนุ่มได้กลิ่นหอมของดอกไม้ หอมเย็นคล้ายกลิ่นกุหลาบลอยมากระทบจมูกเขา จึงรีบ
ลุกขึ้นเดินไปเพื่อค้นหา  ครั้นกระโดดข้ามท้องร่องไปอีกไม่มากนักก็เจอร่องของเหล่าดอกไม้ต่างๆที่ปลูกไว้
ที่เขาได้กลิ่นนั้นคือดอกกุหลาบมอญนั่นเอง  กำลังออกดอกบานสะพรั่ง  แต่ละร่องปลูกไว้เป็นทิวแถวไปทั่ว
แต่ละร่องหนึ่งปลูกกุหลาบที่หอม และไม่หอมสีสันสวยงามนัก  มีสีชมพู แดง เหลือง ขาวและสีผสมกันบ้าง
แต่ที่ห่างไกลนั้นเห็นคนงานหลายๆคนกำลังพรวนดินดูแลอยู่   นอกจากกุหลาบแล้วก็มี ร่องเบญจมาศ ร่อง
ดาวเรือง ร่องสร้อยทอง  มะลิ ฯลฯ เป็นบริเวณที่ปลูกเหล่าดอกไม้นานาพันธุ์ทั้งสิ้น   เขาเดินตรงไปหาคนงาน
ที่กำลังง่วนอยู่กับงาน ครั้นชายหนุ่มไปถึง พวกคนงานพากันแปลกใจที่เห็นชายหนุ่มรูปร่างสง่างามเหตุใดจึง
เข้ามายังภายในสวนได้   แต่ไม่สนใจเขาเท่าใดนัก
       ชายหนุ่มจึงไปถามคนงานที่เป็นหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งทันที    
     “คุณน้า  บรรดาดอกไม้เหล่านี้จะเก็บไปขายที่ไหนหรือครับ”
     “คุณ???....เป็นใครหรือถึงได้มาเดินในสวนนี้ได้จ๊ะ”  หญิงวัยกลางคนถาม
     “อ้อ...ผมเองชื่อกานต์ครับ เป็นลูกแม่แย้ม  พึ่งจะออกจากบ้านมาเที่ยวครับ”
     ครั้นคนงานทั้งหลายได้รับฟังเช่นนั้น ต่างก็รีบนั่งยองๆยกมือไหว้ชายหนุ่มทันที
       “ขอโทษค่ะ  พวกเรานึกว่าเป็นหนุ่มจากสวนโน้น  ถึงไม่ได้ต้อนรับคุณชาย ไม่นึกว่าเป็นลูกของคุณนายแย้ม
เห็นคุณนายอยู่ตัวคนเดียวเอง  พวกดิฉันเป็นคนงานในสวนนี้เจ้าค่ะ”
       “อ้อๆ.....ไม่เป็นไรหรอกทำตัวตามสบายก็แล้วกันนะ  อย่าคิดอะไรมากไปเลยผมนานๆจะมาเที่ยวสักที แต่
ระยะไม่มาเสียหลายๆปีทีเดียว  แล้วดอกไม้ผลไม้ทั้งหลายเหล่านี้จะเก็บไปขายที่ตลาดเมืองนนทฯหรือ”
        “เปล่าหรอกเจ้าค่ะ   จะมีคนมาเก็บเองในตอนเช้าๆพวกเขาจะนำลูกน้องมาเก็บ  โดยมีตาม่วงคอยตรวจสอบ
แล้วเก็บเงินเจ้าค่ะ”  หญิงวัยกลางคนตอบ
        “อย่างงั้นหรือ นั่นซินึกว่าพวกเราเก็บไปขายเองเสียอีก ก่อนนั้นที่ฉันมาถนนยังไม่มีถึงหน้าบ้านเวลาจะ
ไปไหนก็อาศัยคลองไปทางเรือ” ชายหนุ่มกล่าว
       “เจ้าค่ะก่อนนั้นพวกเราอาศัยทางเรือทั้งสิ้น  แต่หลวงท่านตัดถนนผ่านมาทางนี้พอดีเลยทำให้สะดวกขึ้นเจ้าค่ะ”
        “อือมๆๆๆ.......ดีจริงนะเวลาขนส่งจะได้สะดวกยิ่งขึ้น”
        “เจ้าค่ะ”
        “อ้าวแล้วพวกเธอล่ะอาศัยอยู่ในที่นี้หรือ”
        “เจ้าค่ะ ตาม่วงแก่ปลูกเรือนแถวไว้ปลายสวนไว้หลายๆหลังให้พวกเราอาศัยอยู่จะได้ทำงานทัน พวกเรามา
จากต่างจังหวัดทั้งหมดเจ้าค่ะ”  หญิงกลางคนตอบด้วยความนอบน้อม
        “อ้าวๆๆแล้วคนงานต่างมีลูกมีหลานกันหรือเปล่าล่ะ”
        “มีเจ้าค่ะ คุณนายให้ตาม่วงคอยควบคุมดูและและรับผิดชอบการเรียน ที่อยู่ไม่ไกลนัก   โดยออกค่าใช้จ่ายให้
ทั้งหมด ตลอดจนเงินเดือนที่พวกเรารับ ตาม่วงแกควบคุมดูแลการเงินและจะนำมาจ่ายให้ ส่วนค่าเล่าเรียนคุณนาย
ท่านตั้งรายหัวไว้ให้ค่ารถค่าเรือค่าอาหารแก่เด็กๆตลอดค่าเล่าเรียนเสื้อผ้าทั้งหมดเจ้าค่ะ”
        “ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ  อ้อแล้วอาหารการกินล่ะ”  ชายหนุ่มถาม
       “อาหารคุณนายท่านซื้อข้าวยกกระสอบไว้ให้พวกเราใช้หุงกินด้วยกัน ส่วนอาหารนั้นพวกเราต่างแบ่งกันไป
ซื้อตลาดในเมืองมา ต่างคนต่างซื้อแต่เวลากินข้าวกัน  คุณนายบอกว่าให้มากินร่วมๆกันอย่าได้แยกกันกิน ดังนั้น
ต่างคนเมื่อทำอาหารก็จะยกมาร่วมกัน แล้วกินด้วยกันเจ้าค่ะ”
        เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ให้คิดในใจว่า แม่แย้มช่างชาญฉลาดนัก ด้วยสร้างความสามัคคีในหมู่เหล่าคนงานไว้
ตลอดจนความซื่อสัตย์อีกด้วย   ดังนั้นชายหนุ่มจึงกล่าวว่า  
     “เดี๋ยวคุณน้าช่วยตัดดอกกุหลาบมอญให้สักหน่อยซิจ๊ะ”
     “ได้เจ้าค่ะ”  แล้วหญิงกลางคนก็หันไปทางชายหนุ่มที่รู้สึกว่าจะเข้าวัยรุ่นพลางร้องตะโกนแจ้งทันที
สักประเดี๋ยวเดียว  เด็กหนุ่มคนนั้นก็หอบเอาดอกกุหลาบที่ส่งกลิ่นหอมมาให้กอบใหญ่ทีเดียว
  ชายหนุ่มมองดูก็บอกว่า ให้ช่วยลิดใบและหนามออกด้วย เหลือเพียงใบอ่อนๆเท่านั้นนะ 
 แล้วถามเด็กหนุ่มว่า
      “ชื่ออะไรหรือ”
      “กระผมชื่อจ้อยขอรับนายท่าน”  เด็กหนุ่มตอบ
      “อืมมๆหน่วยก้านแข็งแรงดีนี่  แล้วไม่เรียนหนังสือหรือ
      “เรียนจบแล้วขอรับตามหลักสูตร  แต่ไม่เรียนต่อเพื่อต้องการทดแทนพระคุณคุณนายขอรับ”
      “อ้าวเป็นอย่างงั้นไป ทำไมถึงไม่เรียนต่อเล่า  แม่แย้มย่อมส่งเสียให้เรียนนี่นา”
      “ขอรับผมทราบ  แต่ว่าทางบ้านผมมีน้องๆหลายคน เกรงใจแม่ใหญ่ขอรับ  จึงแจ้งแก่ท่านว่าขอเพียงเท่านี้พอ
ให้ส่งน้องๆเรียนเถอะ ด้วยรายได้ท่านแม่ใหญ่ก็มีไม่มากถึงแม้จะตัวคนเดียวก็ตาม แต่คนงานและเด็กแยะที่แม่
ใหญ่อุปการะ  กระผมถึงได้มาช่วยแรงงานพ่อแม่ที่ได้รับความกรุณาจากแม่ใหญ่
ก็ถือว่าเป็นพระคุณอย่างสูงแล้วขอรับ”
      แม่เรานี่มีรายจ่ายมากจริงๆแต่รายได้การขายผลไม้และดอกไม้จะพอหรือ  หากเราได้ทำงานก็จะแบ่งรายได้มา
ไม่ให้แม่แย้มรู้หรอก  แต่จะแกล้งขอดูบัญชีธนาคารแล้วโอนเงินมาให้ดีกว่า  ชายหนุ่มนึกในใจ
       เอาล่ะทำงานกันต่อไปเถอะผมจะกลับแล้ว  ทุกๆคนต่างยกมือไหว้ชายหนุ่มทันที   ชายหนุ่มรีบหอบดอกไม้ที่
คนงานห่อให้ด้วยใบตองกันหนามถึงแม้จะลิดไปแล้วพร้อมกับตัดก้านให้สมดุลกับการนำพาไปอีก  
ทำให้ชายหนุ่มไม่ต้องสั่งอีก  แสดงถึงการรู้งานของคนงานดีและนี่ก็สมควรแก่เวลาแล้วที่จะกลับไปเขาให้
โอกาสแก่หนุ่มสาวที่เขาคิดไว้
       เมื่อผละจากคนงานแล้วชายหนุ่มก็เดินไปตามร่องสวนลัดเลาะหลบแสงแดดเข้าสู่ร่มไม้ทันที  ด้วยบริเวณร่อง
ที่ปลูกบรรดาดอกไม้นั้นล้วนอยู่ในที่กลางแจ้งทั้งสิ้น  จะมีบางแห่งที่ต้นไม้ไม่ค่อยชอบแดดแรงก็จะถูกปิดบังด้วย
หลังคาที่มุงด้วยผ้าพลาสติกเป็นรูเล็กๆป้องกันตัวแมลงได้อีกด้วย  เหล่าลูกน้องบรรดาหมาทั้งหลายเหมือนมันจะรู้
ก็นำหน้ากระโดดท้องร่องพาชายหนุ่มกลับบ้านทันที
     ครั้นเมื่อล้างเท้าด้านหลังบ้านแล้วเรียบร้อยแล้ว  ก็เดินเข้ามายังชานเรือน แลเห็นแม่แย้มนั่งเป็นเพื่อนเจ้าหนก
พร้อมกับหญิงสาวด้วย  ครั้นแม่แย้มหันไปแลเห็นเท่านั้นก็เอ่ยทันที
       “ไปไหนมาหรือลูก แม่ออกมาเห็นหายไป ครั้นถามตาม่วง มันบอกว่าไปเดินสวนพร้อมกับพวกหมาทั้งหลาย
ครั้นจะตามไป ลูกก็ไม่ยอมขอไปคนเดียว  นานแล้วซินะที่เมื่อก่อนนี้ชอบสมัยลูกยังเด็กๆนะ  เป็นไงเปลี่ยนแปลง
กว้างขวางกว่าเดิมคงจะเหนื่อยกินน้ำก่อนนะ”  แล้วหญิงชราก็ยกแก้วน้ำส่งให้ชายหนุ่มทันที
       “ขอบคุณครับแม่  กว้างขวางจริงๆไม่เหมือนเดิมเลยล่ะ”
        “อ้อ...แม่ซื้อเพิ่มอีกสิบไร่กว่าๆจ๊ะ”  หญิงชราตอบ
        “นั่นซิเล่นเอาเสียเหนื่อย เห็นปลูกผลไม้และดอกไม้มามาก เลยเอามาฝากแม่ ไอ้หนก และคุณพิมพ์ด้วย”
        “สำหรับแม่ไม่ต้องหรอกขอบใจ ในเมื่อลูกนำมาให้ ปกติยายแจ่มเขาจะไปเก็บมาประดับแจกันให้แม่อยู่
แล้วเป็นประจำล่ะ”
        “แหม๋..ดีจังจ๊ะแม่สดชื่นหายเมาเชียวล่ะ  ไปคุยกับพวกคนงานเขาด้วย”  แล้วมองไปที่ขวดเหล้าพลางกล่าว
ขึ้นว่า
       “เฮ้ยๆ....ยังไม่หมดหรือกูเตรียมมาหลายๆขวดนะโว้ย  สงสัยยัดห่าไม่ลงมัวแต่ยัดห่าน้ำลายเพลินกระมัง”
    เล่นเอาแม่แย้มหัวร่อก๊าก ส่วนหญิงสาวหน้าม้วนอายไปทีเดียว
       “เห็นไหมแม่ คุณพิมพ์ มันว่าผมไว้ ที่แท้มันไปหาพวกมันบรรดาหมาทั้งหลาย  มันเก่งนะคุณพิมพ์คุยกับ
หมารู้เรื่อง”
       “มึงพูดอย่างนี้ยกเว้นคุณแม่คุณพิมพ์  มึงก็เป็นหมาเหมือนกันแหละว้า  ฟังกูพูดรู้เรื่องโว้ย” ชายหนุ่มย้อน
       “แต่กูปากมันสั้นๆ ไม่ยาวเหมือนมึงหูก็ไม่กางเหมือนมึงนี่หว่า จึงดูเหมือนคนหน่อยส่วนมึงนะ อิอิ หน้า
ก็ยาว ปากก็ยาว หูก็กางเหมือนไอ้ด่างไม่ผิดเลยล่ะ หากไม่เชื่อมึงลงไปดูซิว๊ะ ฮ่าๆๆๆๆ”..............
          * แก้วประเสริฐ. *

Cartoon_Animation_08.gifn016.gif				
comments powered by Disqus
  • ทางแสงดาว

    22 มีนาคม 2553 22:39 น. - comment id 116084

    กุหลาบมอญหอม  สีสวยอ่อนหวาน
    
    ที่บ้านแสงดาวมีจะเก็บมาลอยน้ำไว้ใกล้ๆ
    
    หอมมากๆเลยค่ะ36.gif
    
    เคารพค่ะ  คุณชายฯ
  • แก้วประเสริฐ

    23 มีนาคม 2553 15:12 น. - comment id 116093

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ทางแสงดาว
    
       ครับคุณหญิง สมัยก่อนผมรักกุหลาบมากๆซื้อ
    เฉพาะกุหลาบที่มีกลิ่นหอมเท่านั้น ซึ่งเป็นกุหลาบ
    ผสมกัน ส่วนกุหลาบฝรั่งก็เลี้ยงบ้าง กุหลาบหนู
    ส่วนกุหลาบฝรั่งนั้นที่หอม บัดนี้ต้นมะลิเลื้อยพัน
    จนจะตายจะตัดมะลิทิ้งก็เสียดายออกดอกดกเสีย
    กุหลายฝรั่งผมเลี้ยงที่มีกลิ่นหอมคือ กุหลาบพอร์ต
    และกุหลาบแองเจลล่าเท่านั้นครับ แต่ดอกเล็กเป็น
    ชั้นคล้ายกับดอกมะลิเป็นช่อพวง เฉพาะกุหลาบ
    พอร์ตสีขาวล้วนกลิ่นจะหอมมากกว่าครับ หอม
    กว่ากุหลาบมอญเสียอีก แต่หอมกันคนละแบบ
    ครับ  ขอบคุณรักเสมอ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ฉางน้อย

    23 มีนาคม 2553 19:41 น. - comment id 116095

    11.gif36.gif11.gif
  • แก้วประเสริฐ

    23 มีนาคม 2553 23:48 น. - comment id 116100

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ฉางน้อย
    
        ได้แต่อมยิ้มเน๊อะหลานรักสงสัยคิดว่าลุงจะบ้า
    กระมังเน๊อะ
    
          16.gifแก้วประเสริฐ์16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน