คำขอโทษของพ่อ

หมึกใหม่

คำขอโทษของพ่อ
               มีหลายเหตุผล ที่ทำให้คนสองคนแยกทางกัน ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม สรุปคำตอบออกมาง่ายๆคือ  ความไม่พึงพอใจของทั้งสองคนที่มีให้กันและกัน    เป็นปกติของชีวิตคู่  หลายคู่อยู่ด้วยกันจนตายไปข้างหนึ่ง   และมีไม่ใช่น้อยที่ต้องแยกทางกันไป  มีทั้งจากกันด้วยดี  และจากกันด้วยอารมณ์แห่งความโกรธแค้นโกรธเคือง   เหตุผลแยกย่อยของการแยกทางกันผมจะไม่กล่าวถึงมากนัก   แต่ที่ผมอยากกล่าวถึงคือผลลัพธ์ที่เกิดจากการแยกทางกัน    ผลก็คือลูกๆขาดการดูแลอย่างครบถ้วน    ทำให้เกิดปัญหาครอบครัว   ปัญหาสังคม   ครอบครัวของผมก็มีปัญหาเช่นกัน   แม้ว่าจะเป็นเพียงเศษเถ้าถ่านของปัญหาสังคม  ก็เป็นอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ที่ทำให้ครอบครัวผมไม่สามารถพัฒนาต่อไปได้     ซ้ำยังตกต่ำลงไปอีกต่างหาก     บรรดาลูกๆขาดการควบคุม   พ่อไปมีครอบครัวใหม่     แม่ต้องค้าขายทำงานหาเงินจนไม่มีเวลาอบรมลูก   เพราะไม่มีพ่อช่วยทำมาหากิน           ผลที่ตามมาก็คือพี่ชายทั้งสามคนของผมไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต    ซึ่งรวมถึงผมด้วย พี่ชายคนโตออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นนานๆจึงจะกลับ และกลับมาพร้อมกับรอยสักตามร่างกาย เคยติดคุกคดียิงคน เคยติดกัญชา  พี่ให้เหตุผลว่าโลกภายนอกเต็มไปด้วยอันตราย ไม่มีพ่อคอยป้องกัน  เราต้องทำให้คนอื่นกลัวเราด้วยการสักตามร่างกาย  มีปืนไว้ป้องกันตัวและเสพกัญชาตามคำชักชวนของเพื่อน  แน่นอนว่าประวัติแบบนี้หางานทำยาก   พี่ชายคนที่สองก็ติดสุราเรียนหนังสือไม่จบ ไม่ยอมทำงาน เหตุที่ติดสุราเพราะว่าตอนหัดดื่มใหม่ๆ  ต้องการเพียงแค่อยากมีเพื่อนมาแทนพ่อที่ไม่อยู่ ต้องการเป็นที่ยอมรับของเพื่อนฝูง       เนื่องจากไม่มีพ่อคอยรับฟังความคิดเห็น  เรียนหนังสือไม่จบเพราะเกเรตามเพื่อนเพราะไม่มีใครห้ามปราม ไม่มีใครชี้ช่องทางที่ถูกต้อง  ส่วนพี่ชายคนที่สามนี้ลอกเลียนแบบพี่ชายทั้งสองไว้เกือบทุกประการ  เคยติดกัญชา ติดสุรา เรียนหนังสือก็ไม่จบ  คบเพื่อนเลว  มาถึงตัวผมเองถึงแม้จะเรียนจบมีงานทำ     ก็มิใช่จะดำเนินชีวิตด้วยความราบรื่นสักเท่าไร  เปลี่ยนงานบ่อยเพราะชอบขัดใจกับหัวหน้างานและผู้ร่วมงาน  อาทิ เช่น ไม่ยอมโกงกินเป็นทีม  ไม่ยอมไปดื่มสุราท่องราตรีด้วยกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมดำรงชีวิตด้วยความยากลำบากในหน่วยงานนั้นๆ  จึงทำให้เปลี่ยนงานบ่อย  ชอบใช้ชีวิตแบบโดดเดี่ยว ไปไหนมาไหนคนเดียว ไม่ดิ้นรนที่จะมีครอบครัว  เนื่องจากเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ  จึงไม่สมควรที่จะนำพาผู้คนมาลำบากกับเราด้วย และที่สำคัญไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกประเภทยานพาหนะ ทั้งสองล้อและสี่ล้อ   ไปไหนใกล้ๆก็ใช้วิธีเดินเท้าหรือถ้าไกลก็ใช้บริการของขนส่งสาธารณะ  จึงไม่เป็นที่น่าสนใจของผู้คน  จึงทำให้โดดเดี่ยวไปโดยปริยาย    นี่เป็นการใช้ชีวิตแบบผิดเพี้ยนของผมเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น  ยังมีอีกหลายข้อที่มิได้กล่าวในที่นี้  จึงทำให้เป็นคนขวางโลก ไม่ลื่นไหลไปตามสังคมที่มีการทุจริต  ซึ่งผมยังดำเนินชีวิตแบบนี้ต่อไป   
                            
                          หลังจากที่แม่ได้เสียชีวิตลง  ไม่นานนักพ่อก็ได้บวชเป็นพระ และยังได้ชักนำพี่ชายคนที่สองมาบวชด้วย ซึ่งผมเองก็ยังไม่อยากเชื่อว่าพี่ชายจะทำได้จนกระทั่งเห็นด้วยตาตัวเอง ส่วนพี่ชายคนที่สาม หลวงพ่อ(พ่อ) ท่านก็ดึงเข้ามาเป็นลูกศิษย์วัด ทำให้พี่ชายทั้งสองละทิ้งสิ่งไม่ดีไปโดยสิ้นเชิง   เสียดายที่พี่ชายคนโตเสียชีวิตซะก่อน  แต่ความดีครั้งสุดท้ายที่พี่ชายได้ทำคือดูแลแม่ที่ป่วยอยู่บนเตียง คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ  อาบน้ำ  เปลี่ยนเสื้อผ้าซักเสื้อผ้า และความดีท้ายสุดในชีวิตของพี่ก็คือนำอุจาระปัสสาวะไปทิ้งในห้องน้ำ ซึ่งกระทำเช่นนี้ทุกวัน แต่วันนั้นเป็นวันสุดท้ายของพี่ พี่เดินออกจากห้องน้ำพร้อมกับบ่นว่าเวียนหัวแล้วล้มลงเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก   พี่ชายคนโตดูแลแม่จนกระทั่งตนเองเสียชีวิตซึ่ง ณ.เวลานั้นเป็นการทำความดีที่ยิ่งใหญ่ ที่ผมจดจำมาตลอดจวบจนถึงทุกวันนี้
                               และอีกประมาณหนึ่งปี  แม่ก็เสียชีวิตตามพี่ชายไปอีกคน  ระหว่างที่แม่มีชีวิต แม่ไม่เคยได้ยินคำขอโทษจากปากของพ่อในเรื่องที่พ่อแยกทางกับแม่  ไม่มีความรับผิดชอบ ทิ้งลูกๆไว้ให้แม่ดูแล และลูกๆก็หลงเดินทางผิดเพราะไม่มีพ่อคอยช่วยดูแล ซึ่งแม่เองก็ดูแลไม่ทั่วถึง   จนกระทั่งแม่เสียชีวิต  ผมเองก็ไม่เคยได้ยินคำว่าขอโทษหลุดออกมาจากปากของพ่ออีกเช่นกัน  แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้ว่าพ่อได้ขอโทษแม่แล้วก็คือ  การนำพาตัวเองและพี่ชายที่เหลือเข้าวัดขัดเกลาจิตใจให้เป็นคนดี  ซึ่ง ณ. ปัจจุบัน ผมต้องเรียกหลวงพ่อและหลวงพี่ซะแล้วด้วยความเต็มใจและดีใจ  เป็นการแก้ไขในสิ่งผิดที่หลวงพ่อได้กระทำไปในครั้งก่อน  ผมเองไม่ได้ยินกะหูแต่รับรู้ด้วยจิตใจ   ถึงการกระทำของหลวงพ่อว่าได้ขอโทษแม่แล้ว   และผมก็เชื่อว่าแม่ก็ได้รับรู้เช่นกัน   
                             เหลือแต่ผมคนเดียวที่ยังไม่บรรลุถึงความสำเร็จในชีวิต  ยังใช้ชีวิตแบบไม่ลื่นไหลไปตามสังคม  ถ้าสังคมมีคนเลวน้อยลงหรือไม่มีเลย มีคนดีมากขึ้น  นั่นคือวันที่ผมลื่นไหลไปตามสังคมที่ดี				
comments powered by Disqus
  • เทียนหยด

    25 สิงหาคม 2553 14:34 น. - comment id 118850

    11.gif36.gif11.gif
  • แก้วประภัสสร

    25 สิงหาคม 2553 14:38 น. - comment id 118851

    ขอบคุณสำหรับเรื่องจริงที่เล่าสู่กันฟัง....
    
    ล้านเหตุผลที่ทำให้คนสองคนแยกทางกัน...
    
    คนเราเมื่อมีวาสนาต่อกัน..ก็ถือเป็นบุญที่ได้อยู่ด้วยกัน...
    
    แต่เมื่อหมดวาสนาต่อกันแล้ว...
    แม้จะเหนี่ยวรั้งไว้เพียงใดก็ไม่สามารถทำได้...
    
    หลวงพ่อท่านเดินทางธรรม ..
    และยังพาลูกชายไปด้วย..
    คิดว่าคุณแม่ของคุณ ท่านคงตาหลับ
    อย่างไม่เป็นทุกข์...
    
    รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ 
    
    คุณไม่ได้เดินอย่างเดียวดาย...
    
    โลกใบนี้มีทั้งคนดี และคนไม่ดี.. 
    เพิ่อเป็นการถ่วงสมดุลย์ค่ะ...
    
    46.gif36.gif31.gif
  • โอ้ละหนอ

    27 สิงหาคม 2553 22:01 น. - comment id 118881

    เป็นกำลังใจให้หมึกใหม่นะคะ........
    คุณคิดได้(ที่จะเป็นคนดีในสังคม)เชื่อว่าคุณก็ทำได้เช่นกับที่คิดเช่นกันค่ะ........
    อย่ามัวเสียเวลาไปโทษโน่นโทษนี่เลยนะคะ
    เวลาที่ผ่านไปแล้วก็ขอให้ผ่านไป เวลาที่ยังมาไม่ถึงก็อย่าไปกังวลกับมัน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดนะคะ ทุกอย่างก็จะดีเอง...... 1.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน