อทิสมานกาย ๑๗

แก้วประเสริฐ

76.gif
                    อทิสมานกาย  ๑๗
     อากาศตอนเช้าสดชื่นยิ่งนัก  ชายหนุ่มออกมาทำการบริหารร่างกายพร้อมวิ่งไปยังถนนบริเวณรอบๆนอกบ้านที่
รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย  อากาศก็แสนจะบริสุทธิ์ยิ่งนัก  เขาวิ่งไปๆมาๆหลายรอบ  จนเห็นว่าพอเพียงแก่การออกกำลังกาย   แล้วก็เดินเข้ามาในบ้านบริหารร่างกายอีกหน่อยหนึ่ง  พอร่างกายกล้ามเนื้อคลายลง  จึงไปนั่งเพื่อให้บรรดาเหงื่อที่ไหลย้อยแห้งเสียก่อน
       เขาก็เตรียมตัวเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้วเดินเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่  ไหว้พระสวดมนต์
เสร็จคิดว่าจะเรียกหุ่นมาสอบถามการทำงาน  และเรียกหญิงสาวทั้งสองมานั่งคุยกัน  ก็ต้องพลันชะงักเมื่อได้ยินเสียง
    ทันใดได้ยินเสียงพ่อแม่เรียกเขาให้มากินอาหารเช้าร่วมกัน  เขาเดินยกเอาถาดเล็กๆออกมาไปล้างแล้วมานั่งร่วม
กับพ่อแม่  กล่าวถามพ่อแม่ว่า  พ่อครับแม่ครับตื่นนานแล้วหรือ  พร้อมทั้งตักข้าวอาหารต่างๆพร้อมยกน้ำใส่แก้ว
สามใบไปพลาง    ได้ยินเสียงแม่กล่าวว่า
     แม่ตื่นก่อนลูกตั้งนานแล้วแต่อยู่ในครัวกำลังทำอาหารอยู่  สงสัยจึงถามลูกดูว่าไปเอาหน่อไม้และเห็ดมาจากไหนล่ะ
ตอนเย็นแม่ไม่ทันสังเกตุจึงได้เอาอาหารเก่ามากินกับพ่อเขานะ   ต้องรีบจัดอาหารเพื่อจะนำไปใส่บาตรพระด้วย
    ชายหนุ่มหันหน้าไปยิ้มกับแม่อย่างประจบ  กล่าวขึ้นว่า แม่ขอตัวก่อนนะ แล้วเดินเข้าห้องไปนำอาหารน้ำไปให้แก่
หุ่นและแม่นางทั้งสองเสร็จแล้วจึงเดินออกมานั่งที่วงอาหาร  ส่วนพ่อแม่เขากำลังคุยกันเรื่องอะไรไม่รู้ได้ แล้วหันมาถาม ลูกยังไม่ได้ตอบว่าไปเอาหน่อไม้เห็ดมาจากไหน  พ่อแม่กลับมาเห็นลูกอยู่ในห้องคิดว่าทานข้าวเสร็จแล้วจึงไม่ได้
เรียกและไม่รบกวนคงจะนั่งสมาธิฝึกฝนวิชาอยู่ 
         เดี๋ยวไปใส่บาตรพระก่อนแล้วค่อยมาเล่าให้ฟังก่อนก็ได้  เมื่อกล่าวจบแม่เข็มก็ไปเตรียมตัวจัดอาหารเพื่อใส่บาตรพระพร้อมเขาและพ่อทันที  ครั้นทั้งสามใส่บาตรพระเรียบรัอยแล้วจึงเข้าบ้าน  ตรงไปยังวงอาหารที่จัดเตรียมไว้เพื่อใช้กินในตอนเช้าก่อนจะออกไปทำงานที่ไร่ต่อไป   จึงเรียกลูกชายมาร่วมด้วยวงสนทนาเพื่อกินอาหารร่วมกัน
         ที่ได้จัดเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว  พลางกินอาหารไปคุยกันไป  ชายหนุ่มตักข้าวใส่ปากเมื่อเคี้ยวละเอียด
ก็นึกถึงคำของแม่ว่า  แม่ครับพูดผมไปเดินเล่นอยู่คนเดียวเหงาเลยเห็นกอหน่อไม้กำลังงามคิดว่าคงจะมีหนอขึ้นบ้างเลยเข้าไปเพื่อค้นหา และพบเห็ดซึ่งตอนเด็กๆไปเก็บกับพ่อเสมอๆจำได้จึงเก็บมาจ๊ะและจัดการต้มพร้อมหุ้งข้าวไว้แล้ว
    คงไม่ใช่อย่างนั้นกระมังมั๊ง  นางชบามันบอกแม่ว่ามีคนแปลกหน้าไม่เคยเห็นมาเรียกลูกอยู่นี่นาแล้วก็เดินหายไปทั้งหมดในพุ่มไม้มันจะตามไปดูแต่ถูกแม่นางทั้งสองห้ามมันไว้นี่ลูก  คราวนี้ชายหนุ่มสะอึกกำลังจะเปิดข้าวชะงักทันที
พลางชำเลืองไปที่ห้องแม่เขา  นึกในใจว่าหญิงสาวคนนี้มันปากมากฟ้องแม่ได้  แต่ไม่ได้กล่าวกระไร  เพียงทำเฉไฉยก
ข้าวขึ้นเปิบกินก่อน  ครั้นกินแล้วก็กล่าวว่า  เดี๋ยวพ่อแม่กินข้าวให้เสร็จก่อนผมจะเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะครับ
   พ่อก็พูดขึ้นว่า  คอยลูกมันกันข้าวกินปลาให้เรียบร้อยก่อนก็ได้นี่นาแม่เข็ม ทำเป็นคนใจร้อนไปได้ ไม่เคยเห็นเป็น
แบบนี้มานานแล้วนี่นา   พ่อเข้าข้างลูกชายทันที
 ก็เพราะอยากรู้ซิจึงรีบถามจะได้สบายใจจ๊ะพี่เชียร  แม่เข็มเอ่ยขึ้น
   น่าๆเดี๋ยวกินข้าวให้เรียบร้อยก่อน ลูกมันบอกว่าจะเล่าให้ฟัง คอยแป๊บเดียวก็ได้  ไม่เห็นจะเสียเวลามากตรงไหนเลย
     คราวนี้แม่เข็มไม่กล่าวอะไรรีบๆกินข้าวแล้วก็ล้างมือทั้งสองข้าง พลางหันไปมองทางลูกชาย
      อ้าวทำไมอิ่มเร็วนักซิ  พ่อเขียรเย้าเล่น
      ก็มันอิ่มแล้วนี่จ๊ะพี่เชียร  แม่เข็มตอบ  และก็อยากรู้ว่านางชบามันบอก  ลูกเราไปทำอะไรกับคนต่างถิ่นแปลกหน้า
    ครั้นชายหนุ่มเห็นแม่อิ่ม เขารู้ว่าแม่เป็นคนใจร้อนอยากรู้เรื่องเพราะรักเขานั่นเอง  จึงได้อิ่มตาม  พ่อเชียรเมื่อเห็นแม่ลูกอิ่ม  ก็เลยพลอยอิ่มตามไปด้วย   ครั้นแม่เข็มยกสำรับกับข้าวไปเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว  
ก็รีบมานั่งคุยกับลูก ส่วนพ่อเชียรนั่งสูบบุหรี่พิงเสาตรงกลางห้องฟังดู  เหมือนๆว่าพ่อเชียรจะรู้เรื่องแล้ว  เขามองพร้อม
คิด    แล้วเขาก็เริ่มต้นเล่าให้แม่เขาฟังทันทีว่าเขาไปพบคนแปลกหน้านั้นเพื่อทำอะไรบ้าง
        ผมบอกพ่อแม่แล้วแต่ขอสัญญาก่อนว่าจะไม่บอกใครๆหรือเผลอตัวบอกคนอื่นถึงจะไว้ใจได้ก็อย่าแย้มพรายนะครับ   ชายหนุ่มขอสัญญาทันที
        แม่กับพ่อไม่บอกใครหรอกจ๊ะ  ใช่ไหมพี่เชียร???.....
        อืมๆๆๆ....ข้าพอจะรู้มานานเหมือนกันแล้ว  ให้ลูกมันเล่าเอาเองเถอะนะ  ข้าจะคอยฟัง  พ่อเชียรตอบแล้วก็สูบบุหรี่ต่อไปทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อะไรทั้งสิ้น  คอยฟังลูกและแม่คุยกันเท่านั้น....
หากเป็นเรื่องสำคัญมาก  แม่จะกล้าไปเล่าให้ใครฟังได้ล่ะ  ด้วยเจ้าเป็นลูกชายคนเดียวของพ่อแม่นะใครล่ะจะทำให้
ลูกต้องเดือดร้อน  ยิ่งมาขอสัญญาด้วยแล้วเรื่องมันต้องสำคัญมากจริงไหมพี่เชียร  พลางแม่เข็มหันไปถาม
       แต่พ่อเชียรไม่ตอบได้แต่หัวร่อ ฮึๆๆๆแล้วก็ม้วนบุหรี่ม้วนใหม่ซึ่งทำด้วยใบจากและยาตั้งขึ้นมาจุดสูบอีกม้วนหนึ่ง
       ถ้าหากพ่อแม่ให้สัญญาเช่นนั้น ผมก็เล่าให้ฟังว่าที่ไปคุยกับคนแปลกหน้านั้นเพราะเหตุใดครับ  อันที่จริงนั้นงานที่ผมทำนั้น  ไม่ใช่เป็นหัวหน้ายามอะไรหรอก  เป็นแค่หน้าฉากบังหน้าหลอกพวกอื่นๆที่ทำงานผิดกฏหมายจ๊ะ ที่แท้จริงแล้วผมทำงานเป็นตำรวจจ๊ะแม่  ชายหนุ่ยเอ่ยขึ้นเบาๆ   ด้วยเกรงหากใครผ่านมาจะได้ยินเสียงชายหนุ่มเอ่ยพูด....
        หาๆๆๆเอ็งเป็นตำรวจหรือไม่เห็นส่งข่าวให้แม่รู้เรื่องเลยล่ะ  งานมันเสี่ยงมากนะลูกอันตรายมากเสียด้วย
แม่เข็มชักเป็นห่วงลูก หน้าตาตื่นตระหนกตกใจ  ส่วนพ่อเชียรนั่งฟังพลางหัวร่อให้มันเล่าให้จบก่อนซิแม่เข็มนี่....
        แล้วเป็นมานานเท่าไหร่ล่ะ นานหรือยังหรือพึ่งจะเข้าเป็นนะ  แม่เข็มกล่าวขึ้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยลูกรัก
       ผมไปทดลองสอบนักเรียนนายร้อยตำรวจจ๊ะแม่  สอบได้ก็ไปเรียนที่นั่นจนจบ  ออกมาก็ทำงานด้านฝ่ายปราบปรามอาศัยเรียนได้ลำดับดีๆหน่อย  และมาฝึกยิงปืนก็ได้ที่หนึ่งของห้องพอสำเร็จเขาก็บรรจุให้ทำงานทางด้านนี้
ระหว่างการทำงานได้ผลสำเร็จทุกๆงานจนผู้ใหญ่สนับสนุนเลื่อนขั้นชั้นให้อย่างรวดเร็วจ๊ะแม่.....ผมปราบปรามพวก
ผู้ร้ายเสียราบคามหมด  จนกระทั่งข่าวกรองรายงานมาว่าทางด้านนี้เป็นด่านสำคัญ  ท่านผู้ใหญ่จึงได้ส่งผมให้มาดูลาดเลา  อาศัยผมเป็นคนในพื้นที่ด้วยย่อมชำนาญทางดีจ๊ะแม่......ชายหนุ่มเอ่ยให้แม่ฟัง
      เออๆๆ...แล้วตอนนี้ยศเอ็งเป็นอะไรล่ะ????.....แม่เข็มถาม
      นิดหน่อยจ๊ะแม่  แค่นายพลเล็กๆเท่านั้นเอง  ชายหนุ่มตอบ พลางก้มตัวลงนอนหนุนตักแม่ของเขาด้วยความรัก
      หาๆๆๆนายพลตำรวจหรือว่าพลตำรวจว๊ะ  แม่ชักสงสัยแล้วล่ะ???....แม่เข็มกล่าวพร้อมหัวร่อ.....
      มันจะเป็นพลตำรวจได้อย่างไรจ๊ะแม่เข็ม     ในเมื่อมันเรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจนี่นา  พ่อเชียรเอ่ยขัดขึ้น
แกก็เคยฟังข่าวอยู่บ่อยๆไม่ใช่หรือ พ่อชักรำคาญ???.... ไม่รู้เรื่องอะไรเลย  เล่นเอาแม่เข็มหันมาค้อน....
      พี่เชียรก็ฉันฟังสับสนจะไปรู้ได้อย่างไรเห็นข่าวมันบอกนายพล  แล้วตำรวจมันก็พลเหมือนกันนี่นา แม่เข็มเอ่ยขึ้น
      ฉันไม่พูดกับพี่ล่ะ  ถามลูกดีกว่าถ้าอย่างนั้นลูกก็เป็นนายพลตำรวจที่สูงนี่หว่า ไหงบอกว่าเล็กๆไงล่ะ  แม่เข็มสงสัย.
      ก็แค่นายพลเล็กๆเท่านั้นครับแม่ ไม่ใช่นายพลใหญ่ๆตำแหน่งใหญ่โตนี่นา  ชายหนุ่มกล่าว
      แล้วนายพลอะไรว๊ะ  นายพลเล็กๆนะ   แม่เข็มถาม
     ผมก็แค่ นายพลตำรวจตรีเท่านั้นเองจ๊ะ พึ่งได้รับการแต่งตั้งมาก่อนจะเดินทางกลับบ้านนี่แหละ  ชายหนุ่มตอบ
      โอ้โฮๆๆ...ก็ใหญ่กว่าผู้กำกับคนเดิมอีกซิว๊ะ ใช่ไหมลูก???.....  แม่เข็มถาม
ที่จริงสถานีตำรวจนี้ปกติยศต่ำกว่านายพลจ๋า  แต่คนมันมากขึ้นปกครองลำบาก เขาจึงยกฐานะสถานีให้ใหญ่กว่าเดิม
พร้อมด้วยกำลังพลก็มากอีกด้วย   อีกอย่างหนึ่งแถวๆนี้พวกทำผิดกฏหมายมันมีมากจ้าแม่  ตำแหน่งจึงต้องสูงขึ้นตาม
   เขาพึ่งเลื่อนสถานีตำรวจนี้เพราะมีการปกครองมากขึ้นด้วยประชาชนมากกว่าเดิมอีกแล้วต้องยังต้องมีการปราบปรม
สิ่งผิดกฏหมายเพิ่มขึ้นเป็นทางผ่านของสิ่งผิดกฏหมายจ้า  แล้วพวกมันล้วนแต่มีผู้ใหญ่พรรคการเมืองสนับสนุนอีกด้วยชายหนุ่มตอบ     เขาอธิบายให้แม่หายสงสัยทำไมยศจึงใหญ่กว่าผู้กำกับคนเดิมฟัง....
     ถ้าอย่างนั้นผู้กำกับสถานีตำรวจคนใหม่ก็คือเอ็งใช่ไหมลูก  คราวนี้พ่อเชียรถามบ้าง???...ด้วยความสงสัยตะหงิดๆ
     ใช่จ้าพ่อ  เด็กที่ชบามันบอกถูกแล้วเขามารายงานการแต่งตั้งและขอความเห็นจากผม  แต่ผู้ใหญ่ท่านยังไม่ยอมให้มา
ปรากกฏตัวเองเสียก่อน  ชายหนุ่มตอบ
      อ้าวๆๆๆถ้าอย่างงั้นตำรวจในโรงพักนายอำเภอผู้ว่าการจังหวัดไม่รู้หรือว่า เมื่อคำสั่งแต่งตั้งมาพร้อมชื่อเอ็งนั้นนะ 
      เขารู้หมดจ๊ะแม่  ด้วยการประสานงานจากรัฐบาลคัดเลือกคนมาดำรงตำแหน่งแทนคนเก่าจ๊ะ 
   อ้าวๆๆแล้วนามสกุลมันฟ้องอยู่นะว่า  เป็นลูกเต้าเหล่าใคร  พ่อเชียรขมวดคิ้วทันที
      เรื่องนี้ท่านผู้ใหญ่กว่านายผมเรียกผมไปพบแล้วจ๊ะพ่อ  เขาขอให้ผมเปลี่ยนนามสกุลใหม่พร้อมทั้งชื่อด้วยจ๊ะ
  เพื่อไม่ให้คนแถวนี้รู้จักผมครับ
     แล้วเอ็งทำอย่างไรล่ะ ไม่ให้เสื่อมเสียปู่ย่าตาทวดหรือ???.... 
     อย่างงั้นเอ็งใช้ชื่อนามสกุลอะไรล่ะ  พ่อแม่อุทานพร้อมกัน????.....
     ผมเองบอกท่านว่า  ขอเปลี่ยนแค่นามสกุลเท่านั้นได้ไหม  ด้วยชื่อนั้นพ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลดีแล้ว  ผมถือมากด้วย
ส่วนนามสกุลไม่เป็นไร  ท่านก็ถามว่าถ้าอย่างงั้นก็ได้แต่นามสกุลล่ะผมต้องการจะใช้นามสกุลอะไรล่ะ.....
     ผมก็ตอบท่านไปว่า  ก่อนผมนามสกุลโคกสกุล  ขอเป็นวิเชียรเข็มสกุล จะได้ไหมครับ  ท่านก็กล่าวว่าเออดีเหมือน
กันเอ็งนี้กตัญญูจริงๆนะ พลางหัวร่อแล้วตบไหล่ผม  พลางหันไปหานายผมเจรจากันสักครู่หนึ่งจึงหันมาทางผม  
      งั้นรีบไปเปลี่ยนซะแต่ไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องไปหรอกเดี๋ยวจะให้คนแจ้งไปผู้ว่าให้นายอำเภอคนใหม่จัดการให้เสร็จเรียบร้อยก่อนไม่ต้องไปเอาใบทะเบียนบ้านมา ผ่านกำนันให้ทำวันหลังก็ได้ 
ตอนนี้ให้ทำเป็นการภายในก่อนท่านว่าดังนี้จ๊ะ   แล้วสั่งให้คนไปเรียกผู้ว่าคนใหม่มาสั่งงงานพร้อมกับนายอำเภอ  
และผู้ใหญ่ของผมพร้อมทั้งเซ็นต์คำสั่งแต่งตั้งมาให้จ๊ะ  ชายหนุ่มตอบพ่อแม่เขาให้ทราบ
        คราวนี้ทั้งพ่อเชียรแม่เข็มหน้าบานตะทัยไปเลย หัวร่อลั่น  พลางชมว่าแสดงว่าผู้ใหญ่ที่ว่านั้นคงเชื่อใจเอ็งมาก
นักถึงได้ทำแบบนี้  นี่อายุก็ไม่เท่าไหร่เพียงย่างเข้าสี่สิบไม่เท่าไหร่เลยนี่นา   แล้วพลางเข้าไปกอดชายหนุ่มกล่าวว่า
    เออๆๆๆเอ็งเก่งช่างเป็นลูกกตัญญูจริงๆนะ  เอาชื่อพ่อกับแม่และนามสกุลเดิมเป็นนามสกุลใหม่
 สมกับเป็นลูกข้าจริงๆแม่เข็มกล่าว???....
     เฮ้ย!!!!....มีชื่อข้าด้วยนะแม่เข็ม  พูดแล้วหัวร่อ  แถมยังมีชื่อปู่มันอีกด้วย ฮ่าๆๆๆ พ่อเชียรหัวร่อลั่น
     แต่พ่อให้สัญญาผมแล้วนาว่าจะไม่บอกใครๆทั้งสิ้นแม้แต่กำนันนะพ่อ......ชายหนุ่มกล่าว 
มิฉะนั้นผมกับพ่อแม่แย่แน่ๆ    ชายหนุ่มเอ่ย
     เออๆน่าข้ากับแม่เอ็งรู้ดีอยู่หรอกว่าอะไรเป็นอะไร   อันที่จริงพ่อก็พอจะรู้แต่เรื่องยศฐานั้นมองไม่ออกว๊ะ....
ไม่คิดว่าเอ็งจะก้าวหน้าเร็วปานนี้ทั้งๆที่ยังเป็นหนุ่มเป็นแน่น  ซึ่งข้ารู้ว่าการเป็นนายพลนั้นมักจะอายุเกินห้าสิบไป
แต่นี่เองย่างเข้าสี่สิบเท่านั้นเองเป็นถึงนายพลไปเสียแล้ว  ตระกูลเราจะได้มีหน้ามีตากับเขาบ้าง
      แต่ตอนนี้มันอันตรายมากนะแม่และพ่อ  ต้องให้เรื่องมันเรียบร้อยเสียก่อนจ๊ะ
  ผมถึงไม่กล้าบอกตั้งแต่แรกกลัวจะเดือดร้อนมาถึงพ่อกับแม่จ๊ะ  ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเบา...
     เอ็งไม่ต้องกลัวหรอก  กลัวแต่เอ็งเท่านั้นเองยิ่งเป็นลูกชายคนเดียว พ่อแม่ก็มีเอ็งคนเดียวเท่านั้นแหละว๊ะ!!!!....
     สบายใจแล้วล่ะซิแม่เข็ม รู้เรื่องหมดแล้ว มาๆๆไปไร่ทำงานกันดีกว่าทางนี้ปล่อยให้เจ้าโชติมันอยู่ศึกษาวิชา
     จ้าสบายใจแล้วหน้ายังใหญ่อีกด้วยซีพี่เชียร  แม่เข็มหัวร่อร่า  เสียงดังเอิกๆอั้กๆ.........
     ไปๆๆๆพี่เชียรไปไร่กันได้แล้วล่ะ  แล้วอย่าปากพล่อยไปเสียล่ะลูกเราจะเสียหาย???...แม่เข็มกล่าว
      เออๆน่าข้ารู้ ว่าแต่ข้าแกเองก็ระหวังเหมือนกันด้วยนะ  ให้ทำตัวอย่างไรก็ให้ทำตัวอย่างนั้นอย่าวางกล้ามเสียล่ะ
      ข้ารักลูกข้ามากจะให้ข้าทำให้มันเสียได้อย่างไร  พี่เชียรนี่พูดแบบนี้จำความหลังไม่ได้หรือ พลางหัวร่อ ฮึๆๆ
      น่าฉันกลัวแล้วจ้าแม่เข็ม  ไม่เอาแล้วเข็ดแล้วจริงๆ  แม่เข็มว่าไงข้าก็ว่าตามแหละ....
คราวนี้แม่เข็มหัวร่อลั่น หากพ่อข้าไม่มอบวิชาป่านนี้ไม่รู้ว่าลูกเต็มหมู่บ้านไปแล้วล่ะ  ดีนะข้าแก้ได้ทุกๆข้อวิชา
ของพี่นะ   พี่เองก็ไม่ใช่เล่น แหม๋ๆๆพอเผลอหน่อยใช้วิชาผูกจิตพวกมัน  ตบคราวที่แล้วยังจำได้อยู่หรือเปล่าล่ะ
พอๆๆเถอะแม่เข็ม  อายลูกมันนะ   ไปล่ะไปกันเดี๋ยวจะสายนะ   พ่อเชียรกล่าวขึ้น
ชายหนุ่มรำพึงกับตัวเอง  สงสัยตอนหนุ่มๆพ่อคงเจ้าชู้ไม่ใช่เล่นวิชาที่มอบให้เขาเรียน ก็มีวิชาดังกล่าวอยู่ด้วยแต่
      เขาไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่นัก  ลำพังแค่ตำแหน่งเขาแทบจะหลีกแทบไม่ทันต้องรีบขออนุญาตผู้ใหญ่ย้ายกลับบ้าน
อ้อนวอนแทบตาย   ต้องขอร้องว่าอย่าบอกว่าย้ายไปไหนด้วยซิ  มิฉะนั้นแม่ตามมาแน่ๆเลย ด้วยนิสัยเขาไม่ค่อย
จะเจ้าชู้นัก  ชอบการเป็นโสดอยู่คนเดียวไม่อยากให้ใครมารบกวนใจเขา  และอีกอย่างงานเขาก็ไม่อยากจะให้
พวกหล่อนมาจุ้นจ้านด้วย   จะตายวันตายพรุ่งเขาก็ยังไม่รู้เลยด้วยหน้าที่เขาทั้งสายสืบและปราบปรามด้วยยิ่งแล้ว
ใหญ่อันตรายมาก   ไม่อยากจะห่วงหน้าพะวงหลัง  เขาคิดมาตั้งแต่สมัยเรียนนักเรียนนายร้อยตำรวจแล้ว ว่าจะขอ
ทำงานอย่างเดียว  และเขาก็ปฏิบัติตามสัญญาในใจด้วย
                 หลังจากเขาไปส่งพ่อแม่หน้ารั้วบ้านแล้วก็รีบหันหลังกลับเข้าห้องทันที  พร้อมเรียกเจ้าหุ่นมาสอบถามเรื่องราวซึ่งตอนแรก เขารอเจ้าหุ่นอยู่พอมันกลับมาจะรายงานเขา  ได้ยินเสียงพ่อแม่คุยกันเรื่องของเขาจึงบอกให้หุ่นกลับไปที่พักผ่อนกันพรุ่งนี้จะค่อยมาถาม  เห็นเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยข้าก็สบายใจแล้ว เนื้อตัวไม่มีอะไร
ข้าแสนจะดีใจ
         ครั้นหุ่นปรากฏร่างพลางก้มลงกราบ  เจ้าแสงสีและเจ้าสินชัยก็รายงานว่า  ได้ไปต่อสู้กับพวกผีป่าที่กำลังจะนำ
พวกตำรวจให้เดินทางไปที่อื่น แต่พวกผมได้กำหราบมันจนยินยอมเป็นพวกและยังใช้มันให้ช่วยเหลืออีกทีหนึ่งจ๊ะ
 ส่วนผมก็บอกพวกมันให้ไปยังที่อาจารย์แนะนำพวกของอาจารย์  พวกผมอดเป็นห่วงติดตามไปแต่ไม่ปรากฏตัว
จึงทราบแผนการต่างๆของอาจารย์จากพวกตำรวจที่มันพูดกันถึงจะได้รู้ว่าเป็นอาจารย์สั่งมาครับ   หุ่นทั้งสองบอก
 
         และมาปรึกษากันว่าเห็นที่เราจะมีอาจารย์ที่ถูกต้องเสียทีจะได้ช่วยชาติสร้างกุศลถ่ายทอดหนักให้เป็นเบาได้
ก็คราวนี้แหละครับอาจารย์   ครั้นนำทางพวกตำรวจไปและส่งข่าวให้ผู้กองทราบ     ก็เกิดการต่อสู้กันใหญ่
       พวกผมเองก็ใช้อาคมที่อาจารย์สอนกำบังร่างตำรวจ และสร้างภาพจำลองหลอกพวกมันให้ยิงต้นไม้จ้า  
 ทางตำรวจไม่มีใครบาดเจ็บเลยสักคน  แต่ทางมันตายเสียเกือบหมด  ถูกจับได้ไปเจ็ดแปดคนเห็นจะได้
ส่วนพวกไอ้ลูกกำนันมั่นนั้น  มันหนีไปได้ด้วยผมจะไปจัดการก็เกรงบาปดังที่อาจารย์สอนไว้
อีกอย่างหนึ่งมันยังดวงมันยังไม่ถึงฆาตด้วยจึงหลบสายตาพวกตำรวจมาได้  ครั้นจะลงมือเองก็กลัวบาปกรรมด้วย  
       เลยปล่อยพวกมันไป เมื่อมันไปรายงานก็จะคงเกิดเรื่องทะเลาะกันเองแหละครับอาจารย์
       เออดีแล้วล่ะเจ้าแสงสีสินชัยเอ๋ย  ช่วยเหลือชาวบ้านที่หลงยาบ้าก็ได้กุศลผลบุญมากนักเขาจะได้เป็นคนดีเสียบ้าง
และยิ่งช่วยกำบังพวกตำรวจไว้ก็กุศลเช่นเดียวกัน  แต่เจ้ามิได้ไปฆ่ามันนี่นา  ฉะนั้นกุศลจะได้รับอย่างเดียวช่วยเหลือ
คนดีปราบคนชั่ว   แล้วพวกเจ้าติดตามตำรวจนำผู้ที่ถูกจับได้ไปที่ใดบ้างหรือไม่ล่ะ???....ชายหนุ่มถาม
        ไปครับอาจารย์  เห็นผู้กองเขานำพวกนี้ไปที่รถแต่ไม่ใช่รถตำรวจในที่นี้ แต่เป็นรถบรรทุกคลุมประทุน ข้าเข้าไป
ดูในประทุนเห็นมีตำรวจรู้เพียงกางเกงที่เหมือนตำรวจทั่วไปใส่เสื้อคอกลมเท่านั้น  เขานำขึ้นรถไปพร้อมตีตรวนที่ขา
พวกมันอีกผูกติดกับขาเก้าอี้อีกชั้นหนึ่ง มือใส่กุญแจมือ   พวกข้าสงสัยก็เลยติดตามนึกว่านำไปที่สถานีตำรวจในเมือง
        แต่ไม่ใช่อาจารย์รถคันนั้นเดินทางมึ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯทันทีเลยล่ะ  ไม่รู้พาไปไหนข้าก็เลยกลับเห็นว่านานมากแล้วกลัวอาจารย์จะเป็นห่วง  หุ่นทั้งสองกล่าว     ชายหนุ่มรู้ทันทีว่าพวกที่ถูกจับได้ถูกส่งไปไหน
แต่ไม่กล่าวว่าอะไร  แล้วทางผู้กองกับพวกในโรงพักล่ะเอ็งทราบไหม   ทราบครับอาจารย์เห็นผู้กองแวะ
ไปร้านอาหารกับพวกแล้วทานเหล้าต่างแกล้งสักพักหนึ่ง  คนในร้านยังทักว่าดึกๆอย่างนี้ยังไม่เลิกอีกหรือ  เขาจึง
ทำเป็นเมา  เดินเซซ้ายเซขวาขึ้นไปบนโรงพัก  ซ้ำยังชวนพวกตำรวจให้มากินเหล้าด้วยกันรวมทั้งจ่าเจียมด้วยล่ะ
        เขาหัวร่อลั่น จนหุ่นมันสงสัยถามว่า   อะไรหรืออาจารย์????   อีกหน่อยเอ็งก็จะรู้ว๊ะ ว่าอาจารย์เอ็งเป็นใครกัน
ตอนนี้เอ็งกินข้าวเสร็จหรือยังล่ะ ชายหนุ่มถาม.....
    เสร็จเรียบร้อยแล้วอาจารย์ที่เอามาให้ข้าและนายสาวทั้งสองด้วยล่ะ  นายสาวทั้งสองยังถามว่าอาจารย์ใช้ให้ไปทำ
อะไรหรือ  ข้าก็บอกไปหมดด้วยรู้ว่าบอกไม่บอกมีค่าเท่ากันจ๊ะอาจารย์   ชายหนุ่มหัวร่อเออช่างเถอะไปพักผ่อนนอน
ได้แล้วล่ะ  หากจำเป็นอีกข้าจะเรียกพวกเจ้าเอง
      พลางนึกว่าทำไมจะไม่รู้ด้วยนางทั้งสองเดี๋ยวนี้หญิงสาวอ้อยเป็นอทิสมานกายไปแล้วส่วนแม่นางคนสวยนั้นเป็น
ถึงลูกผู้เป็นใหญ่มีฤทธิ์เดชมากมาย   ตามที่เขานั่งสมาธืด้วยการถอดจิตออกไปตามนางจึงทราบเหตุการณ์หมด
นี่หากเขาไม่ได้ร่ำเรียนวิชาจากหลวงพ่อทองและพ่อแม่และอาจารเลื่อมที่สอนวิชาถอดจิตวิญญาณแล้ว
     งานนี้เห็นทีจะยากจะสำเร็จรู้ได้โดยง่าย  พลางก้มลงกราบรำลึกถึงคุณพ่อแม่หลวงพ่อทองอาจารย์เลื่อมท่าน
ที่เมตตาอบรมสั่งสอนและมอบวิชาการต่างให้เขาฝึกฝนจนสำเร็จ  เขาทำงานด้านนี้ควรจะรู้ไว้บ้างก็จะดีด้วยต้อง
ผ่านศึกสงครามนานาชนิด   หากไม่มีวิชชาอาคมเป็นตำรวจธรรมดาคงจะยากในการจับกุม หากพวกนั้นมันมี
คนดีแก่กล้าอาคมอย่างเช่นอาจารย์ดำแล้ว  ดีนะที่อาจารย์ดำมันเอาแต่มัวเราตัณหาการมรมณ์วิชามันถึงเสื่อมเร็ว
      เขาเดินไปสวดมนต์ไหว้พระแล้วครั้นเสร็จเรียบร้อย  หันไปยิ้มกับหญิงสาวทั้งสองทันที   เห็นนางยิ้มให้  เมื่อ
เดินออกจากนอกห้อง ก็เห็นแม่ชบาตัวดีกับเจ้าแกละนั่งอยู่พลางหันมามองเขา  แล้วยกมือไหว้ขอโทษที่หล่อน
ต้องรายงานให้แม่เข็มทราบ 
     ด้วยเป็นหน้าที่ของหล่อนและเจ้าแกละ  อย่าโกรธเคืองเธอและเจ้าแกละเลย........
ชายหนุ่มหัวร่อเบาๆ....  แล้วกล่าวว่าไม่เป็นไรหรอกเราพวกเดียวกันหน้าที่ใครหน้าที่มัน
  ฉันเองไม่ถือสาอะไรหรอกจ้า   ชายหนุ่มกล่าว นางชบาหันมายิ้มด้วยนัยน์ตาเชื่อมผิดปกติ  
แต่เขาไม่สนใจนัก  ก้าวเดินลงบันไดไป ด้วยทราบว่าสักครู่จะมีรายงานมาอีก  
 แล้วหันไปสั่งทางหญิงสาวและเจ้าแกละว่าไม่ต้องไปบอกแม่อีกแล้วนะ...... หญิงสาวชบาพร้อมเจ้าแกละรับคำ.....
                             *  แก้วประเสริฐ.  *

Cartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus
  • อนงค์นาง

    20 พฤศจิกายน 2553 14:04 น. - comment id 120082

    โอ้โห ครูหักมุมแบบพระเอกเป็นถึงนายพลตำรวจ 
    
     ศิษย์คิดถึงแม่ค่ะ พออ่านถึงตอนใส่บาตร วันอาทิตย์นี้จะทำอาหารไปใส่บาตรเป็นผักกับปลานึ่ง  อยากจะเป็นมังสวิรัติแต่ยังไม่สำเร็จ ศิษย์เลิกรับประทานเนื้อวัวมายี่สิบเอ็ดปีแล้วค่ะ  ตอนนี้เลิกเนื้อหมู เหลือแต่ไก่กับปลา ต่อไปคงจะเหลือแต่ผัก แบบค่อยเป็นค่อยไปนะคะครู 
    
    36.gif36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    20 พฤศจิกายน 2553 15:31 น. - comment id 120083

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ อนงค์นาง
    
            อย่าเลย อย่าถึงขั้นมังสวิรัติเลย เหลือ
    ปลาไว้บ้าง  ปลานั้นมีสารชนิดหนึ่งไปช่วย
    บำรุงประสาทเรา สมองแจ่มใสจ้า  ทุกๆอย่าง
    อยู่ที่ใจของเราเป็นใหญ่  จะทานหรือไม่ทาน
    หาใข่ว่าเราจะไปฆ่าสัตว์หรือคิดร้ายก็หาไม่
    อยู่ที่การฝึกฝน  สมัยนี้ยังมีพระอรหันต์อยู่
    นะจ๊ะ   การเป็นพระอรหันต์ไม่มีที่สิ้นสุด
    อยู่ที่คนเราฝึกฝนนี่เองจ๊ะและสามารถ
    เป็นได้ไม่จำเป็นต้องงดเว้นเนื้อสัตว์
    หรอก ศิล สมาธิ ปัญญาเท่านั้นเองที่
    ต้องใช้อย่างเคร่งครัดไม่ด่างพร้อยก็จะ
    ดำเนินไปในทางที่ถูกต้องด้วยการหัด
    การวางเสียบ้าง พอฝึกนานๆเข้าเราก็
    สามารถวางทุกอย่างได้จ้า  รักศิษย์เรา
    เสมอ  อ้อ  เรื่องครูก็เขียนไปเรื่อยๆแหละ
       มักจะไม่ให้เหมือนๆใครๆเขาที่เคยอ่าน
    มาแต่อาจจะเีพียงคล้ายบ้างเท่านั้นด้วย
    วิชานั้นย่อมมาจากแหล่งเดียวกันนะ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แจ้นเอง

    20 พฤศจิกายน 2553 17:39 น. - comment id 120084

    36.gif
    
    พลตรีโชติ หล่อมั้ยคะ อิอิ
    
    31.gif
  • แก้วประเสริฐ

    20 พฤศจิกายน 2553 21:56 น. - comment id 120086

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แจ้นเอง
    
        อิอิๆๆๆๆ....เห็นภาพผมตอนหนุ่มไหมล่ะ
    คงจะใกล้เคี้ยงกันกระมัง  เอิ๊กๆๆๆฮ่าๆๆๆ
    ล้อเล่นครับ  คงหล่อมากนะครับมิฉะนั้น
    นางอัปสรคงไม่หลงรักหรอกจริงไหมครับ
    รักเสมอ  อ้อๆๆนี่แต่งเสร็จอีกตอนหนึ่งแล้ว
    เดี๋ยวจะลง แต่เผลอตัวเผลอใจยาวหน่อยนะ ด้วยยิ่งเขียนยิ่งสนุกๆครับ
          รักเสมอ
                 
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ทางแสงดาว

    24 มกราคม 2554 13:57 น. - comment id 121768

    .....ปลื้ม..36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน