อทิสมานกาย ๓๓

แก้วประเสริฐ

76.gif
                               อทิสมานกาย  ๓๓
        หลังจากชายหนุ่ม เจ้าแสงสีและสินชัยได้กราบไหว้พระแล้ว  ต่างเข้าพักผ่อน
ยังที่อยู่ของตนเอง  ในระหว่างเดินทางกลับนั้น  ชายหนุ่มกล่าวว่า
ระยะนี้ข้าจำเป็นต้องใช้งานเจ้าทั้งสองไปพลางๆก่อน  
      จึงยังไม่อาจจะคืนสภาพให้แก่เจ้าได้ต้องคอยดูฤกษ์งามยามดีและหาคนเหมาะสม
เจ้าทั้งสองพลางตอบว่า    แล้วแต่นายเถอะ  ใจข้าเองก็สับสนไปๆมาๆจนบอกไม่ถูก
     อยากจะรับใช้นายในสภาพเช่นนี้  และเป็นการสร้างบุญกุศลเพื่อชดใช้กรรมเก่า
ลงได้บ้างนาย   หากกลับคืนสภาพใหม่อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่  หุ่นทั้งสองตอบ
      ชายหนุ่มหัวร่อแต่ไม่ได้กล่าวอะไร  ด้วยเวลานั้นก็จวนจะใกล้สว่างมากแล้ว
นี่ก็ครบกำหนดที่พ่อเชียรและแม่เข็มได้กล่าวไว้แก่ 
ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแจ่มและแม่แหล่มตลอดจนลูกบ้านชื่อฉลองกับแม่ช่วยไว้ว่า
   ให้มาดูลูกได้แล้ว    ต่างก็พากันไปพักผ่อนทันที......
      เสียงรถยนต์กระบะก็ดังอยู่หน้าบ้านด้วยประตูรั้วปิด หากสมัยก่อน  
เจ้าแกละจะต้องไปเปิดประตูให้ด้วยอิทธิฤทธิ์มัน  แต่ตอนนี้สภาพได้เปลี่ยนไป
  เสียงแตรดังลั่นหน้าบ้านสามครั้ง........
      แม่เข็มก็สั่งให้เจ้าแกละที่ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า เป็นชื่อ วีระชัย 
 ให้รีบไปเปิดประตูรั้วให้    เด็กหนุ่มหน้าตาดีค่อนข้างหล่อเหลา  
 ก็รีบวิ่งลงบันไดไปเปิดประตูรั้วให้กว้างๆเพื่อให้รถได้แล่นเข้ามาบ้าน
   ครั้นรถกะบะจอดเป็นที่เรียบร้อยทั้งหมดก็ก้าวลงจากรถพร้อมๆกัน
     ครั้นนายฉลองแม่ช้อยเห็นดังนั้นก็แสนจะดีอกดีใจตกใจไปพร้อมๆกัน 
  ด้วยจำได้ว่าคือลูกชายของตนเอง  
พลางรีบลงจากรถเมื่อรถจอดเรียบร้อยแล้ว  
พร้อมตะโกนเรียกชื่อเจ้าแกละทันที
     ไอ้ชาติืลูกเองหรือ???....ทั้งนายหลองหรือฉลองและแม่ช้อย
ต่างร้องเรียกพร้อมๆกัน   เพียงแต่เห็นลูกชายตนไม่สนใจอะไรเลย
คงเดินไปข้างหน้าเสมือนหนึ่งไม่ได้ยินเสียงเรียก
     ครั้นเจ้าแกละหันมามองแต่ไม่รู้จักพลางบอกว่า
ผมชื่อวีระครับ  ไม่ได้ชื่ออย่างที่น้าทั้งหมดเรียกหรอก  โน่นๆๆ  
พ่อเชียรและแม่เข็มรออยู่บนบ้านแล้วขอเชิญทุกๆคน
ขึ้นไปบ้านได้แล้วล่ะครับ???.....
ด้วยความงุนงงสงสัยมันคิดในใจแปลกๆคนจริง ????.....เด็กหนุ่มรำพึง
     ทำเอาพ่อฉลองและแม่ช้อยต่างงุนงงไปตามกันแต่ไม่กล่าวอะไร 
 ทั้งสองต่างมองหน้าตาเหลิกหลั๊กไปตามๆกัน พลางหันไปมองเจ้าแกละ
ทันทีทางด้านหลัง   ที่กำลังเดินนำหน้าไปก่อนล่วงหน้าแล้ว
    เมื่อผู้ช่วยแจ่มและแม่แหล่มเข้ามาสะกิดไว้ 
 แต่ในใจชักสงสัยเหมือนกันพอนึกถึงคำพูดก่อนๆ
	
  ก็เลยเดินตามเจ้าแกละซึ่งเดินนำหน้าขึ้นเรือนทันที     
    ครั้นทั้งหมดยกมือไหว้พ่อเชียรแม่เข็มแล้ว   
พ่อเชียรและแม่เข็มก็เชิญให้นั่งลง  เมื่อทั้งหมดนั่ง
ลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  พ่อเชียรแม่เข็มต่างก็แจ้งแก่คนทั้งหมดว่า 
  พวกแกจะได้ไม่ต้องพากันงุนงง
ลูกทั้งหมดนั้นข้าตั้งชื่อให้ใหม่แล้วนะ   
พวกเอ็งจะได้ไม่ต้องสงสัยอะไรอีก???.....แล้วกล่าวว่า  
หญิงสาวข้าตั้งชื่อว่าชบาไพร  ส่วนเด็กหนุ่มนั้นข้าตั้งชื่อ
ใหม่ว่าเจ้าวีระชัยแต่พวกเราเรียกว่า  ชบา หรือ วีระ  ก็ได้ 
 เดี๋ยวพวกแกมันจะงุนงง  ทั้งหมดหันมามองหน้ากัน
แต่ไม่ได้กล่าวว่าอะไร  เพราะทั้งหมดได้ยกให้แก่พ่อเชียรแม่เข็ม
ไปแล้วตอนเป็นศพอยู่
   ดังนั้นเจ้าชบาหรือในนามใหม่ว่า ชบาไพร ครั้นเห็นผู้ใหญ่
ซึ่งเป็นแขกบ้านนั่งเรียบร้อยกันแล้ว  ก็ยกแก้วน้ำคลานมาเสริฟให้ทันที
 
  คราวนี้เล่นนเอาพ่อแจ่มและแม่แหล่มต่างอุทานออกมา
      เฮ้ย???.....อีผกามึงจำพ่อแม่มึงไม่ได้แล้วหรือทั้งหมดถาม
อย่างลืมตัวไปชั่วขณะด้วยความดีใจ   ที่แลเห็นลูกสาวตนเอง
สาวชบาพลางมองหน้าคนทั้งหมดทันที   แต่ไม่ตอบอะไร
  พร้อมกับหันไปมองทางพ่อเชียรแม่เข็มเหมือนจะถามอะไรบางอย่าง........
ด้วยหล่อนไม่รู้ว่าเป็นใคร    ทำไมมาทักว่าเป็นผกาไป 
มองมาทางพ่อเชียรแม่เข็มคล้ายๆจะถามเห็นท่านพยักหน้าหงึกๆ....
    สาวชบาพลันพลางกล่าวกับคนทั้งสี่ว่า......
โน่นพ่อข้าและแม่ข้านั่งอยู่นั่นแล้วน้าเป็นใครกันล่ะ??......
   เมื่อโดนคำถามประโยคนี้เล่นเอาพ่อแจ่มแม่แหล่มคนทั้งหมด
ต่างงุนงงสงสัยไปตามๆกัน   ไม่คิดว่าลูกของตนจะจำตนไม่ได้  
ผู้ช่วยแจ่มในใจคิดว่าคงจะเหมือนไอ้หลองกับนางช้อยเสียแล้ว
   ก็ไม่กล่าวว่ากระไร   ด้วยนึกถึงคำพูดของพ่อเชียรแม่เข็มขึ้นได้
  
      พ่อเชียรแม่เข็มรู้และเห็นเช่นนั้นก็พลัน หันมาทางหญิงสาวเด็กหนุ่ม 
เรียกหญิงสาวชบาและเจ้าแกละทั้งสองมากระซิบเบาๆ  เพียงแต่
ไม่ให้คนทั้งหมดรู้  ครั้นเห็นทั้งสองพยักหน้ารับ   
ก็หันไปทางคนทั้งสี่แล้วชี้มือพูดแนะนำว่า........
       นี่คือผู้ช่วยแจ่มและแม่แหล่มตลอดจนพ่อฉลองและแม่ช้อย 
 นั่นชื่อพ่อฉลองแม่ช้อย อยู่ในหมู่บ้านโคกอีแร้งเหมือนพวกเรานี่แหละ
       หญิงสาวและเด็กหนุ่มก็ขอตัวไปยังในครัวทันที พ่อเชียรก็พยักหน้าขึ้น
ดังนั้นทั้งสองก็เดินลับหายเข้าไปในครัวทันที......
     แล้วหันไปทางคนทั้งสี่กล่าวว่า ที่ข้าทำให้ฟื้นขึ้นมาใหม่ตามที่เคยพูด
 ที่ข้าเคยกล่าวกับพวกเอ็งไว้แล้วจำได้หรือเปล่านั้น   อีกอย่างหนึ่งคือว่า
 พวกเขาคงจะจำพวกเอ็งไม่ได้แล้วหรอกว๊ะ???....
     ครั้นทั้งสี่ได้ยินเช่นนั้นต่างพลางดีอกดีใจกันใหญ่  แล้วทั้งสี่ต่างพยักหน้ากัน
  พลางก้มลงกราบพ่อเชียรและแม่เข็มทันที  จนพ่อเชียรแม่เข็มต้องยกมือห้าม
     แล้วกล่าวว่าเพียงเห็นเท่านี้ข้าก็ชื่นใจแล้วล่ะ พวกข้าดีใจจริงๆนะพี่
ถึงแม้ว่ามันจะจำข้าไม่ได้ก็ตามเถอะ.....ว่าเห็นมันยังอยู่ก็ดีใจแล้วล่ะ
ข้านึกถึงคำพี่เชียรกล่าวไว้กับข้าได้แล้ว  แต่ที่เรียกนั้นอดใจไม่ได้จริงๆพี่  
 ผู้ช่วยแจ่มเอ่ยขึ้น .........ส่วนแม่แหล่มก็เสริมสนันสนุนผัวด้วย
 พร้อมทั้งหมดก็กล่าวเหมือนกันว่า  ข้าเองก็เหมือนๆกันแหละพี่ทั้งสอง
แสนจะดีใจว่าลูกเราฟื้นได้  พี่นี่เก่งจริงๆนะทำให้มันฟื้นได้ทั้งๆที่
  พวกข้าหมดหวังหมดปัญญากันไปแล้ว  แม้แต่หมอยังช่วยมันไม่ได้
แต่พี่กับช่วยมันได้    เมื่อได้ลูกคืนมาก็แสนจะดีใจพวกข้าสบายใจกันแล้วล่ะ
และพวกเอ็งอย่าไปบอกแก่ชาวบ้านอื่นๆเสียล่ะ  ข้าช่วยได้เป็นบางคนเท่านั้น
จะช่วยทุกๆคนไม่ได้   เดี๋ยวเมื่อเขารู้จะเกิดความวุ่นวายแก่พวกข้าน๊ะ จำไว้ด้วย
และเอ็งก็อย่าลืมสัญญาที่จะโอนชื่อลูกและนามสกุล
มาเปลี่ยนเป็นของข้าด้วยนะ   พ่อเชียรแม่เข็มตอกย้ำขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
    ทุกๆคนรับปากกับพ่อเชียรและแม่เข็มว่าจะไม่บอกแก่ใครๆ 
เอ็งก็อย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้แก่ข้าเสียล่ะ     ข้าคิดว่าไว้พรุ่งนี้ข้าว่าง
ก็แล้วกันพร้อมหรือเปล่าล่ะ???..... ตอนนี้นายอำเภอคนใหม่มา
 ทุกๆสิ่งคงจะง่ายๆขึ้นว๊ะ ????....ไม่ต้องล่าช้าจนเสียเงินเหมือนก่อนอีก
      ด้วยท่านนายอำเภอคนใหม่เปลี่ยนนโยบายการปกครองใหม่หมด
ข้าเองได้ฟังข่าวเขาพูดกันที่ไปอำเภอมานะ
ท่านเฮี้ยบกำชับพนักงานทุกๆคนไว้ด้วย และมักจะมาคอยออกมาคุม
การทำงานลูกน้องเสมอๆ  พนักงานมันล้วนแล้วแต่เกรงกลัวกันทั้งสิ้น
     ตกลงจ๊ะพรุ่งนี้ก็พรุ่งนี้ข้าจะได้เตรียมหลักฐานมาให้ครบ  
คนทั้งสี่ตอบพลางหันหน้าไปๆมาๆ  มองทางโน้นทางนี้พลันเอ่ยว่า....
ไหนๆล่ะว่าจะแนะนำมันให้พวกข้ารู้จักไว้      ผู้ช่วยแจ่มกล่าวขึ้น....
    ครั้นแล้วพ่อเชียรและแม่เข็มได้ฟังเช่นนี้   ก็ตะโกนเรียกหญิงสาว
และเด็กหนุ่มทันที.......
       ชบาเอ๋ยและเจ้าวีระด้วยออกมา รู้จักพ่อแม่เขาหน่อยนะลูก???...
ทันใดนั้น ร่างหญิงสาวและเด็กหนุ่มก็ค่อยๆเดินค้อมตัวเองพากัน
ออกมาจากในครัวหลังบ้านตามคำเรียกของพ่อแม่ แล้วเดินผ่านไป
ค้อมตัวให้แก่คนทั้งสี่ แล้วเข้ามานั่งขนาบข้างพ่อเชียรแม่เข็มทันที  
พลางหันไปมองหน้าคนทั้งสี่ด้วยความสงสัย
     หันไปมองลูกทั้งสองแล้วพลางกระซิบเบาๆ ทั้งสองพยักหน้ารับ
ทราบพ่อแม่กล่าวว่าอะไรบ้าง จึงหันไปมองคนทั้งสี่
       พ่อเชียรก็แนะนำทั้งสองทันทีพร้อมชี้มีไปยังร่างทั้งสี่คน 
 หันไปทางชบาทันทีว่าพลางชี้ไปทางพ่อแจ่มและแม่แหล่ม
      สองคนนั้นเป็นพ่อที่ให้กำเนิดเจ้ามาตั้งแต่เอ็งเกิดมานั่นแหละ
ผู้ชายคือผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านชื่อแจ่ม ส่วนแม่นั้นชื่อแหล่ม
เอ็งไปกราบไว้ท่านเสียด้วยเลี้ยงดูเอ็งมาตั้งแต่ออกเจ้ามา
และรักเอ็งมามากเสียด้วย   
       แล้วหันไปทางเจ้าแกละหรือวีระชัยพลางชี้ไปยัง
พ่อฉลองและแม่ช้อยพลางแนะนำตัวเหมือนๆกัน
     ครั้นทั้งสองได้ฟังพ่อเชียรและแม่เข็มกล่าวเช่นนั้นก็ 
ต่างก็แยกกันไปหาคนทั้งสี่ทันที
       พลางคลานเข้าไปกราบที่หน้าตักของคนทั้งสี่ทันที
   เสียงร้องไห้โฮก็ดังออกมาจากหญิงทั้งสองฝ่ายอย่างดีอกดีใจ
พร้อมฝ่ายชายนั้นก็น้ำตาคลอเบ้า   พลางนำหญิงสาวและเด็กหนุ่ม
เข้าไปสวดกอดหญิงสาวและเด็กหนุ่ม  พลางจูบซ้ายจูบขวาแก้มทั้งสอง
 ตลอดจนยกมือขึ้นลูบศีรษะแต่ละคน   ไม่ยอมปล่อยตัวได้แต่สวมกอดไว้
     และยิ่งแลเห็นกิริยามารยาทนั้นเรียบร้อยอ่อนน้อมถ่อมตนรู้จักสัมคาราวะ
ผิดเด็กในหมู่บ้านเป็นคนละคนอีกด้วย  ก็ยิ่งให้แสนปลาบปลื้มยินดียิ่งนัก
      เมื่อเห็นการกระทำของลูกตนก็รู้ว่าได้รับการสั่งสอนที่ดีผิดจากเดิมไปหมด
 ซึ่งก่อนจะตายนั้นมักจะทำตัวเองเหมือนชาวบ้านทั่วๆไป พูดจาเอะอะโวยวาย 
ไม่ค่อยจะรู้จักมารยาทอะไรเลย
     แต่บัดนี้กับผิดแผกไป   คงได้รับการอบรมอย่างมีมารยาทเช่นชาว
กรุงเทพไม่ผิดก็พลอยปลาบปลื้มใจยิ่งขึ้น   หญิงสาวและเด็กหนุ่มพลาง
ร้องเรียกว่าพ่อแม่ด้วยยิ่งสร้างความปลาบปลื้มใจแก่คนทั้งสี่ยิ่งขึ้น
 พลางสวมกอดไม่ยอมปล่อยร่างไป  จูบร่างของลูกไม่ยอมหยุด
      ครั้นเมื่อทั้งหมดเข้าใจกันดีแล้วแสดงความดีใจรู้จักกันแล้ว  
หญิงสาวและเด็กหนุ่มก็ขอตัว  แล้วคลานมานั่งลงยังใกล้ๆ
พ่อเชียรแม่เข็มทันที  มิได้กล่าวอะไรเลยเพียงแค่จ้องมองดูคนทั้งสี่
     บรรดาคนทั้งสี่เห็นว่าลูกของตนได้รับการอบรมสั่งสอนเช่นนี้
ก็สบายใจขึ้นไม่กังวลใดๆพร้อมตัดใจได้แล้วว่า    หากอยู่กับพ่อเชียรแม่เข็ม
แล้วลูกเขาคงจะได้ดีแน่นอน  อีกอย่างก็จะได้เห็นลูกเรายังอยู่หากคิดถึง
ก็สามารถเดินทางมาหาได้  ด้วยบัดนี้เด็กทั้งสองรู้จักว่าอะไรเป็นอะไรไปแล้ว
      พ่อเชียรแม่เข็มก็พลันกล่าวขึ้นอีกว่า.....เรื่องชบาและเจ้าวีระพวกเอ็งไม่ต้อง
เป็นห่วงอะไรๆทั้งสิ้น   ข้าก็รักเหมือนลูกของข้าเหมือนกันและยังคิดว่า
  กูจะส่งเสียให้พวกมันเรียนสูงๆไว้ให้มากๆว๊ะ....และจะมอบสมบัติต่างๆที่มีอยู่
ให้แก่มันด้วยตามที่กูเคยกล่าว  มึงไม่ต้องห่วงอะไรหรอกว๊ะ......  
ว่างๆกูก็จะให้มันไปเยี่ยมทางบ้านมึงด้วย และพี่น้องมันบ้างเพื่อให้ได้
รู้จักกันไว้   จะได้สนิทสนมกัน หากพบกันจะได้ทักทายกันถูก
      ข้าเห็นลูกข้าฟื้นก็แสนจะดีใจแล้ว  ตามใจพ่อเชียรแม่เข็มจะทำอย่างไรก็ได้
  ทั้งหมดเช็ดน้ำตาที่ปิติยินดีจนแห้งแล้วยิ้มแย้มแจ่มใส  พลางกล่าวว่าพรุ่งนี้
ข้าจะไปโอนชื่อให้ก็แล้วกันเอาเป็นเวลาสักสิบโมงเช้าดีไหมพี่เชียรแม่เข็ม 
      ตามแต่เอ็งสะดวกเถอะ ส่วนข้าก็จะรีบทำงานแล้วมาคอยเอ็งที่นี่แหละว๊ะ???.....
พ่อเชียรกล่าวแก่ทั้งหมด  แล้วทั้งหมดก็ต่างสนทนากันในเรื่องของหมู่บ้านกัน 
      เจ้าชบาและเจ้าวีระก็ขอตัวเดินลับหายไปในครัว   ปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกัน 
 เมื่อถึงในครัวต่างคนต่างซักถามว่าใครกันว๊ะมาตู่ๆว่าเราเป็นลูกเขา 
หญิงสาวชบาถามเจ้าวีระทันที 
       ทางเจ้าวีระชัยหรือเจ้าแกละก็ตอบว่าไม่รู้เหมือนกันพี่หรือว่า????....  
ลูกเขาจะเป็นร่างที่เราอยู่นี้กระมังพี่ชบา  ไอ้แกละแสดงความคิดเห็น
    เออ?????......ถ้าจะจริงว๊ะอย่าพึงออกไปเสียล่ะคอยฟังและดูเหตุการณ์ก่อนนะ
ถ้าแบบนั้นเราทั้งสองก็มีพ่อแม่สี่คนนะซิ  ไอ้แกละเอ่ยขึ้น
     ใจข้านั้นจริงๆแล้วมีแค่พ่อเชียรแม่เข็มและพี่โชติเท่านั้นว๊ะ  แต่เมื่อมีเหตุการณ์
เช่นนี้เกิดขึ้นก็ต้องตกกระไดพลอยโจนกันล่ะไอ้แกละ    หญิงสาวเอ่ย
ก็จริงดังที่พี่ชบาพูดไว้   ในใจข้าก็เหมือนพี่ชบาแหละแต่ช่างเถอะในเมื่อเราอาศัยอยู่
ก็ต้องเห็นแก่พ่อแม่เขาบ้างพี่  เราก็ทำตามเห็นควรแล้วกันนะพี่    
ไอ้แกละตอบสาวชบา
เออๆๆๆ....งั้นปล่อยไปตามลิขิตที่เขากำหนดมาก็แล้วกัน ดีเสียอีกจะได้มีคนคอย
รักเอ็นดูพวกเรามากขึ้น   ต่อไปเราต้องพยายามทำความรู้จักครอบครัวของ
เขาไว้ด้วยก็แล้วกัน
       ข้าเองเชื่อพี่ชบามานานแล้วล่ะ  พี่ว่าอย่างไรข้าว่าอย่างนั้นแหละ เจ้าแกละตอบ
 แล้วทั้งสองก็นั่งคอยเห็นเวลานาน การคุยกันยังไม่เสร็จเสียที
     ทั้งสองก็เลยเดินออกจากครัวเพื่อที่จะไปห้องของพวกตน เพื่อทำงานในห้องนอน
  ก่อนจะไปยังห้องของตน   พลางหันไปกราบยังพ่อแม่ตนทั้งหมดก่อน   
พลางก้มตัวเดินผ่านพ่อแม่ทั้งหมด  ต่างแยกย้ายกันไปยังห้องใครห้องมัน
      สาวชบาก็เดินไปยังห้องของแม่ทันที   ซึ่งพ่อเชียรแม่เข็มจัดไว้ให้แล้ว
ส่วนเจ้าวีระนั้นพักที่ห้องของพ่อเชียร ส่วนหญิงสาวชบาพักในห้องแม่เข็ม  
แล้วร่างทั้งสองก็หายลับไปในห้องพ่อแม่ตนทันทีเพราะไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขา
ที่จะรู้เรื่องราวของผู้ใหญ่คุยกันจะมานั่งรับฟัง
       ทั้งผู้ช่วยแจ่มแม่แหล่มพ่อฉลองและแม่ช้อยเห็นดังนั้นก็ปลาบปลื้มใจยิ่งนัก
 ด้วยเห็นลูกตนมีมารยาทยิ่งนักการคุยกันถึงเรื่องงานต่างๆ   พ่อเชียรก็เอ่ยว่า....  
ต่อไปนี้พวกเอ็งไม่ต้องห่วงเรื่องผีปีศาจได้แล้วล่ะว๊ะมีคนเขาไป
จัดการกับพวกมันหมดแล้วล่ะ???.....  หากมีอีกก็คงจะมีคนอื่นมาจัดการให้อีก
ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรตอนนี้หรอกนะ
       ทั้งหมดก็มองหน้ากัน   พลางถามด้วยความสงสัยว่า???....
แล้วพ่อเชียรรู้ได้อย่างไรล่ะ????....ด้วยมันอาละวาดเสียจนชาวบ้านเวลาค่ำไม่กล้า
จะออกไปไหนกัน  แม้จะซื้อของตามร้านค้าในหมู่บ้านก็ตาม
        เออๆๆพวกเอ็งไม่ต้องรู้หรอก  ข้าบอกให้รู้ไว้ก็เท่านั้นเองและให้ช่วยไป
บอกชาวบ้านด้วยก็แล้วกันทำตัวให้สบายเหมือนเดิมๆได้แล้ว......
     แต่หากมีมาอีกคงจะไม่ใช่พวกเก่าๆหรอกอาจจะเป็นที่อื่นๆ 
 แต่ก็ไม่ควรประมาทในระยะนี้ไม่ต้องห่วงว๊ะ...
กลางค่ำกลางคืนสบายใจได้แล้วว๊ะ แต่อย่าลืมห้อยพระที่พวกเราไปทำบุญ
ได้กันมานะโว้ย   กูได้ข่าวมาว่าพวกพ่อค้ากรุงเทพมันย้อนกลับมาคว้านซื้ออีก
รวมทั้งพวกกำนันมั่นและพรรคพวกจะมาแย่งให้พวกมึงบอกทุกๆคนเวลาไปเลี่ยม
พระให้เอาผ้ายันต์อะไรที่มีได้ไว้กันจากหลวงพ่อทองหุ้มห่อไว้ก่อนแม้แต่คนเลี่ยมพระ
ก็อย่าให้มันรู้ว่าเป็นพระที่ได้จากหลวงพ่อมาอย่าลืมบอกแก่ทุกๆคนด้วย  
     ตอนนี้พระนี้กำลังดังมาก ข่าวลือไปในกรุงเทพฯด้วย ก็ด้วยการทดลองพวกมัน
นั่นแหละ  จึงเป็นที่ต้องการของคนในกรุงเทพฯและหมู่บ้านที่ทำงานผิดกฏหมายด้วย
  เนื่องจากมันทดลองยิงได้รับบาดเจ็บไปตามๆกัน  แม้แต่คนในหมู่บ้านมันเองยังปฏิเสธ
เก็บซุกซ่อนไว้แม้แต่ลูกมันเองยังไม่ยอมบอก  ด้วยกลัวพระท่านจะหนีไปนะซิ
      ทั้งหมดรับคำพ่อเชียรแม่เข็ม   ครั้นเห็นเวลาสมควรทั้งหมดก็กราบลาไป  
 ทุกๆคนต่างปลาบปลื้มยินดียิ่งได้   ยิ่งได้รับการยืนยันว่าจะส่งเสียลูก
ให้เรียนสูงๆตลอดจนจะมอบทรัพย์สินสมบัติให้อีกด้วย....
  ก็หมดห่วงใย จวบจนกระทั่งเสียงรถวิ่งออกนอกบ้านเสียงหายไป......
      ความเงียบก็กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง   สองคนตายายก็รีบออกไปไร่ทันที 
 พลางเรียกเจ้าวีระให้ตามไปด้วยเพื่อจะได้ช่วยดูแลและฝึกไปในตัวด้วย  
 เจ้าวีระก็รีบออกมา ติดตามไปช่วยพ่อแม่ทำงาน  ก่อนจะออกจากบ้าน
แม่เข็มก็หันมาเรียกสาวชบามาสั่งว่าหากพี่เขาตื่นก็ให้จัดหาอาหารให้เขาด้วยนะ   
       หญิงสาวรับคำ   แล้วทั้งสามก็ออกเดินทางไปไร่ทันที  ซึ่งเป็นงานปกติประจำ 
ส่วนชบาเองก็ลงไปรดน้ำต้นไม้แล้วให้อาหารหมูแทนชายหนุ่มซึ่งยังไม่ตื่นนอน  
ครั้นเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นมาจัดเตรียมอาหารไว้รอชายหนุ่มต่อไป......
                         *  แก้วประเสริฐ.  *

Cartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus
  • กิ่งโศก

    2 ธันวาคม 2553 16:02 น. - comment id 119670

    มาติดตามต่อครับ ครู..
    ตกลง ชบา กับวีระชัย เป็นพี่น้องกันแล้วใช่ไหมครับครู
  • แจ้นเอง

    30 พฤศจิกายน 2553 21:52 น. - comment id 120304

    36.gif
    
    สงสารพ่อแม่ คนเดิมเหมือนกันเน๊าะ
    
    31.gif
  • แก้วประเสริฐ

    1 ธันวาคม 2553 12:32 น. - comment id 120319

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แจ้นเอง
    
             ผมจะตอบอย่างไรดีล่ะ  เอางี้กันนะ
    ครับมีได้ก็ต้องมีเสีย เหมือนชีวิตของเรา
    นั่นแหละมีรักอาจจะเสียรักไป แฮะๆๆๆ
        รักมากเสมอจ้า
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    2 ธันวาคม 2553 21:15 น. - comment id 120345

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
           อันที่จริงตอนเป็นผีนั้นก็อยู่ร่วมกันมา
    เสมอเหมือนพี่น้องกัน ด้วยเป็นแม่เข็มปลุก
    มาเพื่อคอยให้เฝ้าบ้านเท่านั้น เมื่อคืนชีพ
    แล้วและพ่อเชียรแม่เข็มรับเป็นลูกก็ต้อง
    แปรสภาพเป็นพี่น้องกันด้วยใช้ชื่อนามสกุล
    เดียวกันนี่จ๊ะ ถึงแม้ร่างนั้นจะต่างพ่อแม่
    กันในในวิญญาณที่สถิตย์อยู่นั้นคือพี่น้อง
    กันอยู่แล้วนี่นา รักศิษย์เราเสมอๆ
    
                  16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ทางแสงดาว

    6 มีนาคม 2554 13:27 น. - comment id 122835

    ตายแล้วฟื้นขึ้นมาแล้วเป็นคนดี....
    
    การสั่งสอนที่ดีทำให้คนเป็นคนดี....
    
    ดีค่ะ  คาระวะคุณชายฯ36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน