อทิสมานกาย ๔๖

แก้วประเสริฐ

76.gif
                                อทิสมานกาย  ๔๖
     ด้านหมู่บ้านนางโซ่ง นั้น  กำนันเริ่มก็สั่งลูกน้องให้ไปช่วยงานพวกด้านเสี่ยหว่าง
ที่กำลังลำเลียงเครื่องจักรเลื่อยใหญ่ บรรทุกรถพ่วงมาลงและมีพรรคพวกเสี่ยกำลัง
ลำเลียงลงจากรถ  แล้วเริ่มติดตั้งเครื่องทันที  ส่วนไม้ท่อนซุงขนาดใหญ่ๆนั้นได้ถูก
พวกลำเลียงมากำลังทะยอยลากขึ้นฝั่งพร้อมพรรคพวก  มีหลายๆคนเฝ้าถือปืนยืนระวัง
เฝ้าเหตุการณ์อยู่  ส่วนทางฝ่ายกำนันเริ่มให้ลูกน้องคนสนิทก็นำพรรคพวกถือปืนระวัง
ให้เหมือนๆพวกนั้น ทุกๆคนหันหน้าออกจากเครื่องจักร  ที่กำลังถูกติดตั้งจากพวกช่าง
อย่างรวดเร็วทุกๆคนคร่ำเคร่งเพื่อจะให้งานนั้นทำงานได้
       ทางกำนันเริ่มก็เข้าไปคุยกับหัวหน้าฝ่ายโน้นอยู่และมองการทำงานของพวกมัน
เวลาผ่านไปไม่มากนักด้วยความชำนาญของพวกช่าง   เครื่องจักรเลื่อยไม้ก็พร้อมทำงาน
ได้แล้ว  เครื่องเริ่มติดด้วยเครื่องทำงานไฟฟ้าที่ใช้น้ำมัน  เสียงก็เริ่มกระหึ่มขึ้นมาพร้อม
ด้วยท่อนไม้ขนาดใหญ่  กำลังทะยอยขึ้นยังสายพานนำส่งไปยังใบเลื่อยเพื่อแปรรูปทันที
     ในเวลาใกล้เคียงกันก็มีรถบรรทุกไม้พร้อมด้วยจำนวนคนที่มีอาวุธปืนเฝ้า....
เมื่อมาถึงก็ทะยอยกันลง ส่วนรถหลายๆสิบคัน  ก็วิ่งถอยหลังมายังเครื่องเลื่อยไม้ที่บัดนี้
ได้แปรสภาพจากท่อนซุงเป็นไม้แปรรูปเรียบร้อยแล้ว  ผู้ควบคุมรถบรรทุกสิบล้อก็เข้า
มาร่วมสนทนาร่วมกับกำนันเริ่มและหัวหน้าฝ่ายลำเลียงซุงพร้อมด้วยไม้แปรรูปบางส่วน
ทะยอยกันขึ้นฝั่ง   พวกมันทั้งหมดแบ่งหน้าที่กันอย่างเรียบร้อย ไม่นานนัก
       ในขณะเดียวกันนั้นรถของบรรดาผู้ช่วยกำนันมั่นแห่งหมู่บ้านบางกระดี่   
กำนันหวนหมู่บ้านบางโค  กำนันใช้ หมู่บ้านโคกยายหอย  กำนันแช่มหมู่บ้านเนินสูง
และกำนันถ้วนหมู่บ้านบึ้งห้วย  ก็นำพรรคพวกพร้อมด้วยอาวุธปืนมากันจำนวนมาก
      ครั้นมาถึงก็เข้าควบคุมสถานที่ต่างๆแยกกันไปเฝ้ายังจุดต่างๆทันที
       รถบรรทุกขนาดเล็กพร้อมด้วยคนจำนวนมากก็มาถึง   เสี่ยหว่างก็เรียกกำนัน
และหัวหน้าที่ลำเลียงมา  แล้วหันมาถามผู้ช่วยกำนันมั่นว่า
 “ทำไมตัวกำนันมั่นถึงไม่มาช่วยเลยหรือ”
ผู้ช่วยกำนันมั่นก็ตอบว่า
      “ตัวกำนันมั่นตอนนี้นอนซมด้วยไข้หวัดใหญ่เล่นงาน ถึงให้ผมทำการแทนครับ”
เสี่ยหว่างพลางพยักหน้า ไม่กล่าวอะไรอีกพร้อมกางแผนที่อธิบายให้ทุกๆคนฟังทำตาม
หน้าที่เพื่อจะลำเลี่ยงไม้ไปยังทางต่างๆ  โดยทะยอยแบ่งกำลังคนออกแล้ว
เสี่ยหว่างก็นำประเป๋าขนาดใหญ่เปิดออกแล้วนำเงิน  ที่แบ่งออกเป็นหลายฟ่อน
มาส่งมอบให้แก่หัวหน้าฝ่ายที่นำไม้แปรรูปและท่อนซุงมา 
 พร้อมนำมอบให้กำนันทั้งหลายอีกเมื่อจ่ายเงินกันเรียบร้อยแล้ว
  ทางฝ่ายโน้นก็นับเงินสดเห็นครบจำนวน  พลางเอ่ยขึ้นว่า......
      “  ส่วนที่เหลือนั้นให้เสี่ยโอนเงินไปให้หัวหน้ามันก็แล้วกัน 
ส่วนเงินนี้เขาจะนำไปแจกจ่ายแก่บรรดาพวกที่มาในวันนี้ไปก่อน นายสั่งมา” 
 หัวหน้าฝ่ายนำไม้แปรรูปและท่อนซุงกล่าวขึ้น
     “ อั้วได้ตกลงกับหัวหน้าลื้อไว้แล้วว่า  หากงานนี้สำเร็จถึงกรุงเทพฯ
เรื่องเงินไม่เป็นปัญหาหรอก   จะโอนให้เมื่อไม้เหล่านี้ถูกแจกจ่ายไป
ยังโรงไม้ต่างๆเรียบร้อยแล้ว  แต่อั้วจะมอบเงินบางส่วนให้”  เสี่ยเอ่ยให้ฟัง
     “ ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วผมจะทิ้งคนไว้คอยดูแลให้เป็นบางส่วน 
    ส่วนใหญ่จะควบคุมไม้ไปให้อีก สายพวกชาวเขาแจ้งมาว่าทางนี้ไม่น่าห่วงเสี่ย
ตามสถานที่เราตกลงกันไว้ก็แล้วกัน”  ฝ่ายลำเลียงกล่าวให้เสี่ยฟัง
      “  เอาตกลงกันตามนี้ เมื่อรถเดินทางไปยังที่กำหนดไว้  จะมีพวกป่าไม้
ของทางเราจะคอยประทับตราบนไม้แปรรูปทุกๆแผ่น  คงใช้เวลาไม่มากนัก
หากไม่ทันก็จะให้ผสมไประหว่างไม้ที่ประทับตราไว้และไม่ได้ประทับตรา
ต่างแยกย้ายกันตามทางที่ได้บอกไว้แล้วกัน  ทุกอย่างพร้อมก็จะออกเดินทาง
เมื่อเสร็จแล้ว  หรือยังไม่เสร็จค่อยทะยอยเข้ากรุงเทพเสียเลย”   เสี่ยหว่างเอ่ยขึ้น
        พลางหันไปทางกำนันทั้งหลายให้จัดเตรียมกำลังไว้ให้พร้อม พลางเอ่ยว่า 
      “ เมื่อทำการแปรรูปอยู่นั้น  ไม้ใดเสร็จแล้วก็จะรีบทะยอยกันออกเดินทางทันที
ไปยัง จุดหมายอีกที่หนึ่งก่อน    เพื่อให้ประทับตราไม้ไว้  ลื้อก็ให้พวกลื้อช่วยเหลือ
เขาด้วยทั้งการขนไม้ขึ้นรถ   ส่วนใหญ่พวกลื้อที่ชำนาญฝีมือดีๆให้เดินทางไป
เกือบทั้งหมดพร้อมอาวุธคุมไม้ที่แปรรูปแล้วออกเดินทางไปยังที่นัดหมายได้ 
 ส่วนที่เหลือทิ้งไว้ไม่ต้องมากนักด้วย  ลื้อก็ได้ยินฝ่ายลำเลียงไม้ว่าทางนี้ไม่น่ากลัว
      ทางฝั่งโน้นเขาจัดคนมาและทางโน้นก็มีคนของเขาจำนวนมากมายพร้อม
อาวุธมากรอคอยดูแลอยู่แล้ว  หากไม้ใดเสร็จถ้าหากเวลาไม่ทันการณ์ก็ให้ผสมกัน
รีบออกเดินทางตามเส้นทางที่อั้วมอบให้พวกลื้อกันแล้วทุกๆคนด้วย”
แล้วก็หันทางกำชับอีกทีด้วยความห่วงใย  อั้วรู้สึกว่ามันเงียบๆดูออกแปลกเหมือนกัน
จึงไม่น่าไว้วางใจมากนัก  ให้พวกลื้อก็อย่าได้ประมาทเด็ดขาด
   ให้พวกลื้อนำกำลังคนที่ควบคุมแลทิ้งพวกที่ลำเลียงแบ่งกันออก  ส่วนใหญ่พวกเรา
จะไปคอยควบคุมทางด้านโน้นเพราะเป็นที่สำคัญ  ทางนี้ให้กำนันเริ่มกำนันหวน
และกำนันใช้     คอยควบคุมไว้ก็แล้วกัน ด้วยเป็นถิ่นใกล้เคียงของพวกลื้อ
  นอกนั้นไปที่ยังจุดหมายเพื่อช่วยเหลือกัน”เสี่ยหว่างสั่งการเป็นงานเป็นการทันที
      กำนันเริ่มก็รีบไปสั่งยังพรรคพวกฝ่ายช่วยขนและฝ่ายควบคุมดูแลบอกว่า
     “  พวกเราไม่ต้องไป ให้ระวังทางนี้ไว้  ให้ส่งคนออกไปลาดตระเวณ 
 แนวแถวๆนี้ด้วยอย่าประมาท ถึงแม้ว่าฝ่ายลำเลียงทางโน้นสายบอกว่าไม่น่ากลัวหรือ
ถึงจะไม่ได้รับข่าวว่ามีพวกตำรวจแอบแฝงมาก็ตามที แต่ควรระวังตัวพวกเราไว้ ”
      ทางด้านกำนันหวนและกำนันใช้ก็สั่งพรรคพวกเช่นเดียวกัน 
  “ พวกเอ็งให้ช่วยกันร่วมกับกำนันเริ่มคอยควบคุม เช่นเดียวกัน  
หากมีสิ่งใดผิดสังเกตุก็ให้รีบส่งสัญญาณ       เตือนพวกเราไว้ด้วย
   ป้องกันพวกเครื่องจักรทั้งหลาย หากมีการต่อสู้กันก็ให้พวกทำงานเลื่อยไม้
หลบหนีไปก่อน  จนกว่าเหตุการณ์จะสงบค่อยลงมือทำงานกันต่อไป ”
   เมื่อทุกๆคนทราบแล้วหัวหน้ากลุ่มๆก็ให้ลูกน้องตนกระจายกำลังออกไปทันที
      งานเริ่มตั้งแต่เช้าตรู่ของวันศุกร์จนมืดค่ำ   ก็ยังไม่มีเหตุการณ์อะไร ทำให้
พวกกำนันและฝ่ายลำเลียงฝ่ายโน้นต่างโล่งอกทันที  พากันแบ่งหน้าที่กันไป
กินอาหารสลับสับเปลี่ยนกันไป
      พระอาทิตย์เริ่มตกดิน  อากาศเริ่มขมุกขมัวด้วยเป็นบริเวณใกล้ๆกับแม่น้ำและ
ภูเขารายล้อมทั้งสิ้น  ทำให้พวกนั้นเกิดความประมาทด้วยคิดว่าคงจะไม่มีอะไร
เกิดขึ้น  พวกลาดตระเวณมาแจ้งว่าไม่พบสิ่งสงสัยอะไรเลย ก็ยิ่งให้
พวกมันทีเครียดกับงานนี้ค่อยๆ ทะยอยความตึงเครียดลงไปทันที 
 จนมีบ้างบางคนเดินมาออกกำลังกายทิ้งอาวุธวางไว้ 
 บ้างก็นำตระกร้อออกมาเล่นกัน ส่งเสียงอย่างสนุกสนานแข่งกับเสียงเครื่องจักร
พวกไม่ได้เล่นก็เอาปืนวางบนหน้าตัก เฝ้ามองดูเขาเล่นกัน บ้างก็เชียร์กันบ้าง
  บรรยากาศตอนนี้ค่ำแล้วด้วยยังเป็นหัวค่ำอยู่ แต่พวกมันผลัดกันตระเวณดูเสมอ   
 คงเพียงได้ยินเสียงนกกลางคืน จำพวกค้างคาวต่างบินวนเวียนหาเหยื่อกันอยู่
พวกมันก็ต่างเลิกการละเล่นเข้าประจำหน้าที่   แต่ลดจำนวนคนลงไปมาก
       ด้านทางเครื่องจักรก็ยังทำงานกันอยู่ไม่หยุด ต่างเร่งงานด้วยไม้ซุงนั้นมี
จำนวนมาก  แต่ตอนนี้เหลืออีกไม่มากนัก  พวกมันคิดว่าภายในไม่เกินครึ่งคืน
งานก็คงจะเรียบร้อย  แล้วพวกมันก็จะได้รีบเดินทางกลับกรุงเทพฯทันทีตาม
ที่ได้ตกลงกับเสี่ยหว่างไว้   หัวหน้าฝ่ายแปรรูปก็ต่างสั่งให้ลูกน้องมันเร่งมือ
หน่อยบอกให้กำลังใจว่า  
     “ เฮ้ยๆ!!!!.....ซุงเหลืออีกนิดเดียวเท่านั้นเองก็จะหมดหน้าที่พวกเราแล้วว๊ะ
ขอให้เร่งๆมือกันหน่อย”
    “พวกข้าเองก็ทำงานกันเต็มที่แม้กินข้าวก็ยังนำมากินที่นี้เลยว๊ะ ไม่ถึงครึ่งคืนก็
คิดว่าเสร็จแล้ว ”
    “ เออๆๆๆดีว๊ะ  ไอ้ห่าตอนแรกกูคิดว่ามันจะยุ่งยากลำบากเสียอีกไม่คิดว่ามัน
จะหมู  ดีนะที่เราได้ไอ้เครื่องจักรที่เสี่ยมันลงทุนซื้อให้ใหม่ๆมา หากเป็นเครื่องเก่า
ที่เคยใช้ป่านนี้คงจะไม่ได้ถึงเพียงนี้หรอก   เออๆๆๆ...พวกเอ็งสบายใจได้แล้วว๊ะ
เงินมันก็ดีงานมันจึงเดินได้อย่างนี้” 
      “หากเสร็จงานนี้ พวกมึงเอ๋ย???...  พวกเราเปรมๆกันไปนานเชียวล่ะโว้ย”
  หัวหน้าฝ่ายช่างเครื่องกล่าวแก่พวกมัน  แล้วพลางส่งเสียงหัวร่อกัน ทั้งหมดก็
หัวเราะกัน เมื่อพวกมันแลเห็นท่อนซุงเหลือไม่มากนัก  พลันพวกมันที่กำลังเลื่อย
อยู่พลางถามว่า
     “เฮ้ยๆๆๆ???....เสร็จแล้วจะเก็บของทันหรือเปล่าล่ะในคืนนี้นะ  นี่มีแค่ตะเกียง
เจ้าพายุไม่กี่ดวงเท่านั้นเอง”  มันหันมาถาม
     “ กูว่าทันว๊ะ  ด้วยพวกรถยกและฝ่ายประกอบมันก็อยากจะกลับบ้านเร็วๆเหมือน
กันอย่างพวกเราแหละว้า???....   โน่นแหกตาดูมันกำลังจ้องมองพวกมึงอยู่โน้นแหละ”
หัวหน้าฝ่ายควบคุมกล่าวให้พวกมันรู้
   “อย่างงั้นมึงไปบอกพวกรถขนและรถยกว่าคงจะอีกไม่นานก็จะกลับกันได้แล้วให้
พวกมันเตรียมตัวกันได้แล้วว๊ะ” พวกทำงานเอ่ยขึ้น
    หัวหน้ามันไม่พูดอะไรอีก รีบเดินทางไปเจรจากับพวกรถยกและรถบรรทุกเครื่องจักร
ให้เตรียมพร้อมทันที  ว่าไม่เกินครึ่งคืนนี้ทางฝ่ายเราก็จะเรียบร้อยแล้วจะได้รีบ กลับอ้อ
เงินนั้นพวกเราก็ได้รับกันล่วงหน้า   ที่เหลือจะไปเบิกภายหลังทั้งพวกมึงอีกโว้ย!!!!!...”
   “ ขอให้เสร็จก่อนเถอว๊ะ!!!!...เรื่องเงินพวกกูไม่ห่วงหรอกด้วยทำกันมานานแล้วก็ไม่
เคยพลาดสักครั้งเดียว  เสี่ยมันใจกว้างว๊ะ บางทีไม่มีเงินใช้ยังไปขอมัน  มันก็จ่ายให้นี่หว่า”
   ที่พวกมันกล่าวนี้ไม่ใช่เสี่ยหว่าง  แต่เป็นพวกเสี่ยทางกรุงเทพฯ
   “ ทางกูก็เร่งมืออยากจะกลับบ้านเหมือนกันแหละว๊ะ???..... 
 กูว่าพวกเราคงจะผ่านได้ว๊ะ ได้ยินฝ่ายลาดตระเวณมาบอกหัวหน้ามันว่า 
 เหตุการณ์ปกติไม่มีสิ่งผิดสังเกตุอะไรเลย”
      ฝ่ายรถยกและรถบันทุกก็ตะโกนบอกพวกๆมันและแจ้งว่าคงไม่เกินเที่ยงคืนนี้เสร็จ
   “ เฮ้ยๆๆๆ  พวกมึงไปเตรียมตรวจดูน้ำมันเช็คเครื่องไว้นะโว้ย ไม่ถึงเที่ยงคืนกลับกัน
ได้แล้วว๊ะ  ให้แยกไปอีกทางหนึ่งนะโว้ยตามที่พูดกันไว้”
   “ เออๆๆๆไม่ต้องห่วงหรอก  ฝ่ายกูก็เช็คเครื่องเติมน้ำมันเต็มถังไว้รอแล้วล่ะ  ให้มัน
เร่งๆหน่อยก็ดีว๊ะ เรื่องทางแถวนี้กูรู้หมดแล้ว  เพราะไปตระเวณดูเที่ยวหนึ่งก่อนจะมา
แล้วว๊ะ”  พวกมันกล่าว
       ฝ่ายหัวหน้าเครื่องจักรไม้แปรรูปก็เดินหันกลับไปบอกพวกมันว่า ทางพวกระยก
และรถบรรทุกนำเครื่องจักรพร้อมแล้ว คอยแต่พวกเราเท่านั้น ดังนั้นเมื่อพวกทำงาน
ด้านแปรรูปรับฟังก็หัวร่อร่าขึ้น  ต่างรีบทำการแปรรูปไม้เร่งขึ้นทันที  บางคนก็ร้องเพลง
คลอในระหว่างการทำงานไปด้วย
      ส่วนหัวหน้าคุมงานมันก็เดินไปนั่งที่เต็นท์ที่กลางไว้พลางยกเก้าอี้ผ้าใบมานั่งไขว่ห้าง
กระดิกเท้าๆ ฮ้ำเพลงไป  ทั้งยังจ้องไปมองพวกมันที่ต่างกำลังเร่งทำงานกันอยู่อย่างรีบเร่ง
  พลางมันคิดว่า ไอ้ฮ่างานนี้เสี่ยทางเราและเสี่ยทางโน้นพูดเหมือนกับว่าพวกกูไม่เคยผ่าน
งานมา  ทำให้ใจกูเสียหน้าเหมือนกัน  แต่ตามันก็คอยจ้องตั้งขนาดไว้ให้ตรงตามเสปรก
มันคิดในใจแล้วร้องครวญเพลงเสียงเบาๆอย่างครึ้มอกครึ้มใจ
      พวกคอยระวังถือปืนคอยคุ้มกันอยู่ ตอนแรกก็มีกันเป็นจำนวนมาก แต่กำลังส่วนใหญ่
นั้นออกเดินทางไปยังอีกสถานที่หนึ่งแล้ว  ทางด้านนี้ไม้ที่ถูกแปรรูปเสร็จต่างก็ทะยอยกัน
ขึ้นรถวิ่งหายลับไป  หลายต่อหลายเที่ยวที่เหลือไม้ที่แปรรูปยังไม่พอเพียงแก่การขนรอให้
ทำการแปรรูปเสร็จก่อนค่อยทะยอยกันขนขึ้นรถไป แต่มีบางส่วนเท่านี้นอกนั้นถูกนำไป
ใส่ในรถลำเลียงเรียบร้อยแล้ว
      เสียงนกแสกร้องขึ้นดังลั่นเล่นเอาพวกกำลังทำงานหรือไม่ทำงานต่างสะดุ้งกันไปตามๆ
กัน  ด้วยโบราณเขาถือว่า  หากนกแสกร้องที่ใดแล้วมักจะมีคนตายเสมอๆ  ทุกๆคนต่างพา
กันด่าในใจ  ส่วนหัวหน้าทั้งฝ่ายควบคุมและฝ่ายแปรรูปตลอดจนฝ่ายลำเลี่ยงต่างร้องด่ากัน
ขร่ม   แล้วพามองไปก็ไม่พบอะไรนอกจากความมืด      ตะเกียงเจ้าพายุหรือแสงส่งแค่ที่
ใช้ทำงานกันเท่านั้นเอง  สิ้นเสียงนกแสกร้องไม่เท่าไร่ผ่านไปไม่นานนัก
       ทุกๆคนก็ต่างสะดุ้งผลุดลุกขึ้นยืนทันที....   เมื่อได้ยินเสียงดังออกมาจากป่าล้อมรอบ
บริเวณที่พวกมันกำลังทำงานกันอยู่!!!!!!?????.........
      “  นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ  ขอให้ทุกๆคนวางอาวุธ หยุดการทำงาน  อย่าขัดขืนรอรับการจับกุม
อย่าคิดต่อสู้เป็นอันขาด ”
      เสียงนี้ดังจากไมรโครโฟนมือถือที่ใช้ในประกาศเล็กๆ   เสียงนั้นดังสนั่นมาจากป่าในบริเวณ
มืด  ด้วยบริเวณแถบนี้เงียบสงัด นอกจากเสียงของเครื่องจักรทำงานเท่านั้นเอง  เสียงนั้นจึงดัง
กึกก้องสะท้านป่าชัดเจน
        ฝ่ายพวกคุ้มกันต่างทิ้งตัวลงราบกลับพื้นเหมือนดั่งได้รับการฝึกฝนอย่างดี  มีบางคนวิ่งไป
บริเวณต้นไม้ใหญ่  พวกในเต๊นท์ต่างถืออาวุธออกมากระจาย เพื่อป้องกันพวกไม้แปรรูป
และเครื่องจักรทันที  บริเวณนี้สว่างไสวด้วยมีตะเกียงเจ้าพายุที่พัดแกว่งไกวไปๆมาๆบนยอด
ไม้ที่ทำขึ้นจากต้นไม้ในป่านี้   ภายในบริเวณใช้ทำงานเท่านั้น
     พลันได้ยินเสียงหัวหน้าฝ่ายควบคุมตะโกนบอกไปยัง พวกกำลังทำงานแปรรูปให้รีบหลบ
หนีไปก่อน หาที่ซ่อนตัวไว้  พวกหัวหน้าฝ่ายแปรรูปไม้ และฝ่ายรถยกรถบันทุกทั้งหลายต่าง
ก็แตกกระจายแยกย้ายกันทันที  เครื่องจักรเสียงยังทำงานด้วยมันตกใจลืมปิดเครื่องรีบเผ่นหนี
ลงจากเครื่องวิ่งไปแอบยังที่ต่างๆ  แต่ก็อยู่ภายในบริเวณนั้นเพียงแต่ที่กำบังและต่างคนต่างมอง
ยังที่ต่างๆรอบกายมัน ซึ่งล้วนมีแต่ความมืด  บ้างไปคนเดียว บ้างสองคน แต่ไม่เกินสองคน
ทุกๆคนหน้าตาพากันเหลิ่กหลั่กๆไปตามๆกัน
      ครั้นหัวหน้ามันได้สติตั้งตัวได้ ก็ตะโกนบอกให้พวกมันรีบหนีเข้าป่าไปก่อน หากอยู่ที่นี่คง
จะโดนจับกุมแน่นอน   ดังนั้นทั้งหมดจึงทิ้งข้าวของไว้หลบหนีเอาตัวรอดเข้าไปภายในป่าทันที
     เวลาผ่านไปความเงียบเข้ามาแทนที่  ทำให้ฝ่ายทำงานด้านผิดกฏหมายชักเอะใจ  ทำไมไม่เห็น
พวกฝ่ายตำรวจออกมากันสักคนเดียว  
      ทันใดนั้นเสียงหมาป่าก็ต่างพากันร้องกันระงม  ไม่ร้องเปล่าๆกลับหอนอย่างโหยหวนรับกัน
เป็นทอดๆ  ทำให้พวกทำผิดกฏหมายต่างพากันด่ากันขร่ม 
      “ไอ้ห่าเอ้ย???.....กำลังน่าสิ่วหน้าขวานี้พวกมึงทำไมพากันหอนขึ้นมาว๊ะ???.... ”
กล่าวเสร็จมันหันมาทางลูกน้องมัน  ที่นั่งใต้โคนไม้ถือปืนที่พร้อมจะยิงออกไปเพื่อสอบถามแต่
ใจมันชักสั่นๆพิกล  ลูกน้องมันก็หันมาตอบหัวหน้ามันที่นั่งอยู่ใกล้ว่า
      “จะไปรู้แหม่งอย่างไร ตอนแรกเสือกไม่มีเสียงหมาสักตัวแต่นี่กลับมีเสียงไม่ร้องเปล่าๆกับ
ดันเสือกหอนต้อนรับกันอีกด้วย เวรเอ๋ยเวร”     มันหันไปกล่าวตอบกับหัวหน้ามันทันที
      “นั่นซิแล้วมึงได้กลิ่นอะไรเหมือนกูหรือเปล่าล่ะ???....”       มันรีบถามทันที
      “ กูได้กลิ่นเหม็นเหมือนหนูตายว๊ะ???....”  ลูกน้องมันตอบ
      “ แต่กูได้กลิ่นเหมือนซากศพที่กำลังถูกเผา   แล้วเสือกมีใครมาเผาศพแถวนี้หรือว๊ะ???...”
      “ ว่ามันฆ่าคนแล้ว  แอบมาเผานั่งยางกระมัง???....แต่เสียงมันเงียบวังเวงชอบกลนา
      “ มึงอย่าพูดไม่ได้หรือว๊ะ  ไอ้ห่า....คนกูไม่กลัวนะโว้ยแต่กูกลัวผีว๊ะ???...”
ลูกน้องที่ได้ยินจากที่อื่นตะโกนมาบอกให้มันอย่าเอ่ยเรื่องกลิ่นอีก
     “ อ้าวๆๆๆ...ไอ้เวร???....มึงก็ได้กลิ่นเหมือนกูสองคนหรือว๊ะ??...”
     “ เออซิว๊ะ!!!!....แหม่งๆเหม็นฉิบหายเลยว๊ะ”  ตอนนี้มีหลายเสียงตะโกนมาจากที่ต่างๆ
หัวหน้ามันกลัวแต่คิดได้ว่าหากกล่าวอีกลูกน้องมันจะพากลัวกันใหญ่ จึงทำใจกล้าตะโกนตอบ
     “ไม่มีอะไรหร๊อกว๊ะ...กูว่าไอ้พวกฆ่าคนมันจะแอบเอามาเผาใกล้เรานี่แหละว๊ะ???...กูอยู่นี่
พวกมึงไม่ต้องกลัวหรอก”
       แล้วเสียงลอยลมแว่วเข้ามา   ได้ยินกันทุกๆคน  เสียงนั้นออกจากยานๆแล้วเย็นๆชอบกล
     “ พ...ว...ก...กู...ก็ก...ลั...ว...ผีๆๆ...เห..มือ...น...กั...น...ว๊ะ???...”   
เสียงนั้นเยือกเย็นนัก ได้ยินออกมาจากราวป่าทึบที่มืดมิด  แต่ทำให้พวกมันใจชื้นกันหน่อย
คิดว่าเป็นพวกแปรรูปไปหรือไม่ก็พวกรถขนนั่นแหละ???....พวกมันคิดทั้งๆที่ใจมันนั้นสั่น
ระริกด้วยความหวาดกลัว
       หัวหน้าควบคุมสถานที่ต่างหน้าตาเหลิ่กหลั่ก  ครั้นได้ยินเสียงนั้นมันมารอบด้านทั้งหมดตามป่ารอบด้าน
  ถ้าหากพวกขนไม้และพวกแปรรูป มันไม่มากกว่านี้ไปได้  แต่นี่มันดังรอบๆป่าไปหมด
ไม่ใช่แถวบริเวณที่พวกขนไม้และแปรรูปไม้หนีไปนี่หว่า หรือว่า  มันคิดในใจ
   “ เฮ้ยๆๆๆๆกูสงสัยจะเป็น ผอ...สระ...อี...แน่แล้วว๊ะมึงดูซิ เสียงมันดังไปรอบๆ
บริเวณที่พวกเราอยู่ทุกๆรอบด้านเลยว๊ะ”
  “ไอ้เหี้ย!!!!....เสือกมาพูดทำไมมึงคิดไปก็คิดไปคนเดียวซิว๊ะ  มึงก็รู้ว่าพวกกูคนไม่กลัวคน
แต่กลัวผี   เฮ้ยๆๆๆๆ....มีดูซิโน่นๆต้นไม้หรือว่าเป็นอะไรว๊ะ ” มันทิ้งปืนผวาเข้ากอดหัวหน้า
มันทันที........
     เจ้าหัวหน้ามันก็เหลือบมองไปยังที่ลูกน้องมันถาม  สายตามันพากันเหลือกลานไป
เมื่อมันเห็น   ร่างกายที่สูงครั้งแรกนึกว่าต้นไม้สูงๆ  แต่นี่มันยิ่งสูงๆขึ้นเรื่อยๆ  เสียงมันสั่นๆๆๆ
   “  กูๆๆๆๆ.....ว่....า.... ผอ.....สะ...ระ......อี....ผีๆๆๆโว้ยๆ  มั....นๆ....พว...ก...เป...ร...ต...ว๊ะ”
เมื่อเอ่ยเสร็จมันก็รีบวิ่งแจ้นเข้าเต้นไปทันที  พวกมันที่อยู่ข้างๆ  เมื่อเห็นหัวหน้ามันหนีได้
มันก็มิรอช้า คว้าปืนหยิบๆผิด หยิบถูกๆ  หลับหูหลับตาวิ่งไปทางเต๊นเข้าไปทันที........
                               *  แก้วประเสริฐ.  *

Cartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus
  • ช่ออักษราลี

    13 ธันวาคม 2553 00:08 น. - comment id 120532

    ชอบชื่อหมู่บ้านจังเลยค่ะ
    หมู่บ้านโคกยายหอย
  • แก้วประเสริฐ

    13 ธันวาคม 2553 12:07 น. - comment id 120536

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ช่ออักษราลี
    
            เมื่อเขียนไปได้สักประมาณห้าหรือสิบ
    เปอร์เซ็นต์ของเรื่อง จินตนาการเราก็จะ
    หลั่งไหลออกมาเองแหละจ้า ส่วนชื่อนั้น
    นึกสิ่งใดได้ก็ตั้งตามสถานที่ นี่เป็นชนบท
    แถบแม่น้ำ คำพูดครูเองก็ไม่สันทัดเกี่ยวกับ
    ภาษา จึงใช้ภาษากลางนี่แหละ แต่ว่าการพูด
    จานั้นครูประสบพบมาแล้วต้องมให้สอดคล้อง
    กับสถานที่และเรื่องราวที่เราจินตนาการ
    ไว้จ๊ะ ส่วนใหญ่ทางภาคนี้ มักจะเอาจำ
    พวกโคก ครั้นจะเอาให้ไพเราะก็จะไปสอด
    คล้องกับนามสกุลของเขาก็ไม่ดีนักจึง
    พลิกแพลงไป คงจะไม่มีใครใช้นามสกุล
    นี่หรอกน๊ะ อิอิ  และอีก คือ บึ้งห้วย
    ก็คงจะไม่มีอีกแหละจ้า รักเสมอ
    
              16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แจ้นเอง

    13 ธันวาคม 2553 21:19 น. - comment id 120543

    36.gif
    
    ลุ้นจนตัวโก่งเลย อิอิ
    
    31.gif
  • แก้วประเสริฐ

    13 ธันวาคม 2553 21:25 น. - comment id 120545

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แจ้นเอง
    
          ผมจะสลับฉากกันแต่ให้ต่อเนื่องกันไว้
    โดยเดินเนื้อเรื่องผสมผสานกันจ้า  จะได้
    เกิดกลัวด้วยสนุกไปด้วยนะ เอาใจแม่ยกไว้
    ด้วยแหละ เขียนโคลงส่งเสร็จ ก็มาเขียนนิยาย
    ได้่หน่อยหนึ่ง หลานชายมาให้แต่งเรื่อง
    ร้อยกรองให้อีก สิบตอนแล้วมาลงมือ
    มาเขียนเรื่องต่อ ทานแล้วพึ่งจะส่งนี่เอง
    แหละจ้า   อิอิ รักแจ้นมากเสมอ
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน