อทิสมานกาย ๔๙

แก้วประเสริฐ

76.gif
                        อทิสมานกาย  ๔๙
     ทางด้านกำนันหวนหลังจากแยกทางกับกำนันทั้งสองแล้ว อาศัยประสบการณ์
ที่เคยผ่านการต่อสู้มาแล้ว  ด้วยเคยเป็นทหารผ่านศึกมาก่อนมาเป็นกำนัน
 ดังนั้นมันจึงใช้วิธีคลานสลับฉากไปๆมาๆ มุ่งหน้าไปทางด้านริมเขา
  ที่ติดต่อกับแม่น้ำหลบไปอีกทางหนึ่งอาศัยความมืดแอบแฝงตัว
ทั้งๆที่ขาและแขนถูกยิงบาดเจ็บเลือดไหลตลอดเวลา แต่น้ำใจอันเด็ดเดี่ยวนั้นถึงแม้
จะเจ็บปวดอย่างไรก็ตาม มันกัดฟันกร๊อดๆเพื่อระงับความเจ็บปวด บาดแผลนั้น
ถึงแม้จะไม่ถึงกระดูกเพียงเนื้อหายไป    จึงใช้ผ้าขาวม้าที่คาดเอวใช้มีดตัดแล้วฉีก
แบ่งเป็นสี่ส่วน ส่วนหนึ่งใช้พันแขนห้ามเลือดอีกส่วนหนึ่งใช้พันแผลทั้งหน่องขา
  เมื่อจัดการเป็นที่เรียบร้อยมันจึงค่อยๆเขยิบคลานไป  โดยไม่ใช้การทรงกายยืน
และเดินหลบหลีกเจ้าหน้าที่ตำรวจ   หูทั้งสองคอยฟังแต่เสียงอย่างสัตว์ระวังภัย
      มันใช้วิธีคลานมุ่งหน้าไปหาแม่น้ำทันทีเลียนแบบวิธีจรเข้ที่คลานจากบกเข้า
สู่แม่น้ำ  แต่มันก็ใจหายเมื่อนึกถึงจรเข้แต่มาคิดได้ว่าแม่น้ำนี้ปราศจากจรเข้แน่นอน
   เมื่อเกิดเสียงผิดปกติมันพยายามสำรวมใจให้มีสติตลอดเวลา หลับตาบ้างลืมตาบ้าง
มองหนทาง  อาศัยคลานจากเบื้องสูงลงต่ำ  ครั้นมีมือมากระตุกขามันบ้าง เสียงร้อง
อย่างโหยหวน    แต่บัดนี้มันกลัวตำรวจมากกว่ากลัวผี  จึงไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นเอา
แต่หนีๆเพียงแค่เดียวหนีแบบสุดชีวิตยามคิดถึงครอบครัวมันที่รออยู่ข้างหน้าเกิดขึ้น
    คิดถึงลูกเมียซึ่งมันมีลูกที่เป็นหญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นหากสิ้นมันเสียแล้วใครล่ะ
จะมาคอยช่วยปกป้องเมียและลูกสาวที่เป็นสาวแล้วให้  และลูกมันหรือก็เป็นสาวสวย
ประจำหมู่บ้าน  แม้กำนันมั่นจะมาสู่ขอให้แก่เจ้าแม้นลูกมัน แต่กำนันหวนก็ปฏิเสธ
ด้วยรู้นิสัยสันดานของไอ้แม้นดีว่าเป็นคนเช่นไร  
     กำนันมั่นเองก็ไม่กล้าถึงแม้จะเป็นเพื่อนกันก็ตามที แต่กำนันหวนและกำนันแม้นก็
มีอำนาจคนพอๆกัน กินกันไม่ลงและอีกอย่างมันเป็นทหารผ่านศึกมาแล้วกำนันมั่นเอง
ยังไม่เคยเป็นทหารแต่อย่างไร อาศัยบารมีพ่อมันขึ้นสู่ความเป็นกำนันเท่านั้น ไหนเลย
จะมาสู้กับมันได้  ลูกน้องมันหรือต่างก็ล้วนเชี่ยวชาญการต่อสู้มาอย่างโชกโชนทั้งสิ้น
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่ยอมตาย อาศัยวิชาทหารหลบหลีกหนี ดังที่เคยเป็นทหารฝ่ายหน่วย
ทหารลาดตะเวณผจญกับศัตรู  มันยังเอาตัวรอดมากับพวกบางคนมารายงานได้
      แม้พวกผีปีศาจของเจ้าป่าเจ้าเขาจะทำการหลอกหลอนอย่างไรมันไม่ฟังเสียง
แม้เสียงนั้นจะหลอกหลอนมันก็ตามที  มันไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นครั้นมาดึงแขนขา
มันก็หยุดแค่นิ่งเฉย วิญญาณเหล่านั้นก็ไม่สามารถทำอะไรมันได้  ใช้วิธีการหลับตาเสีย
ตั้งสติไว้  ครั้นสติมีสิ่งนั้นก็หายไปมันก็รีบคลานหนีต่อไป  
ในไม่ช้าร่างของมันก็ถึงริมแม่น้ำ  
      ถึงเลือดมันจะออกและเจ็บปวดมันก็ไม่สนใจ เนื่องจากมันพันไว้ด้วยผ้าขาวม้า
จะเสียเลือดก็คงไม่มากนักมันคิดไปคลานไป  จึงรอดพ้นจากพวกผีป่าทั้งหลาย
และตำรวจ     ด้วยมันพยายามทำเสียงให้เงียบที่สุดเท่าจะเงียบได้นั่นเองหยุดบ้าง
คลานบ้าง  มีเสียงก็หยุดไม่มีเสียงก็คลานต่อหากมันแน่ใจว่าไม่เกิดอะไรขึ้นแล้ว
      ครั้นร่างมันหย่อนลงแม่น้ำได้ก็ค่อยๆพยุงร่างให้ลอยไปตามกระแสน้ำที่ไหลแล้ว
ก็พบเศษไม้ของเรือที่ถูกระเบิดท่อนใหญ่ จึงรีบไปคว้ามาพยุงร่างมันไว้ปล่อยให้ไม้พา
ร่างมันไป  ในไม้ช้ามันก็พ้นจากบริเวณนี้ โดยอาศัยแสงสะท้อนจากดาวบนท้องฟ้า
ที่สว่างมากระทบกับน้ำในเม่น้ำ  มองหาทางจะขึ้นฝั่งแนวชายป่าที่เหมาะสม
       อาศัยก่อนที่มันจะได้เป็นกำนันมานั้น ตอนหนุ่มๆเคยเป็นพรานป่า
มาก่อนจึงทำให้มันปรับสภาพเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี ก่อนจะไปเป็นทหาร
     ครั้นเห็นว่าปลอดภัยจากตำรวจแล้ว  ก็พยุงร่างขึ้นฝั่งมานั่งพักเหนื่อย
  พอมีแรงแล้วก็อาศัยความเป็นพรานป่ามาก่อน  มองสภาพป่าที่มืดให้สายตาเคยชินแล้ว
ค่อยมองเห็นหนทางที่จะกลับบ้านได้   โดยอาศัยดวงดาวเหนือเป็นที่กำหนดแล้วคำนวน
ระยะทิศทาง  นำมีดมาถากถางต้นไม้แหวกเป็นทาง บนบ่ามันยังสะพายปืน  มันไม่คิดจะ
ใช้แต่อย่างใด  อาศัยมีดเท่านั้นเป็นอาวุธในการฝ่าป่าดงเหล่านี้  
    มันเดินไปท่ามกลางป่าลึกจนถึงป่าโปร่ง มันระบายลมหายใจอย่างเฮือกใหญ่แล้ว
เดินไปพักไปสักพักก็พบทางที่มันมา    จึงไปนั่งหลบยังโคนไม้  คอยดูว่าจะมีรถคันใด
ผ่านมาบ้างจะได้อาศัยกลับบ้าน
    มันนั่งแต่กัดฟันกร๊อดๆๆระงับความเจ็บปวดไว้  จวบจนกระทั่งฟ้าสางจึงพบรถวิ่งมาเพื่อ
ที่นำของไปขายในเมือง  จึงได้เหวี่ยงปืนที่สะพานไว้ทิ้งขว้างเข้าไปในป่าข้างทางทันที
แล้วโบกมือขออาศัยด้วยมันเป็นกำนันคนรถย่อมรู้จักมันดีจึงกลับบ้านได้โดยปลอดภัย
   เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนอันยิ่งใหญ่ให้แก่มัน รำลึกนึกถึงสิ่งผ่านๆมาก็น้ำตาหลั่งไหล
ในสิ่งที่มันกระทำที่เห็นผิดเป็นชอบเพราะความยากจนอาศัยความเป็นกำนันทำไร่ไถนาคง
จะไม่เพียงพอต่อลูกน้องที่มันเมื่อเป็นกำนันปกครองอยู่ จึงทำในสิ่งผิดกฏหมายทั้งๆที่รู้ว่า
มันไม่ดี  เมื่อทำไปแล้วยากที่จะเลิกได้ดุจดั่งนั่งอยู่บนหลังสือมิปาน
     แต่บัดนี้มันตัดใจได้แล้วอะไรเกิดก็ให้มันเกิดไป  เฉพาะมันเท่านั้นสิ่งเดียวที่มันคิด
คือหาคู่ครองให้แก่ลูกสาวมันก่อนหาคนที่เหมาะสม  ในหมู่บ้านมันหรือมองไม่เห็นสักคน
หรือจะหมู่บ้านไอ้มั่นก็ตามที  จึงคิดวางแผนอนาคตลูกสาวมันไว้ก่อน  หาคนที่สามารถ
ปกป้องดูแลครอบครัวมันได้แล้ว   ก็จะขอออกบวชลบล้างสิ่งชั่วร้ายหากตายเพราะอาชีพ
ที่ผ่านมาก็จะขอยอมตายในผ้าเหลืองบูชาในสิ่งที่มันเคารพนับถือที่สุดในชีวิต  
     ถ้ายังคิดที่จะทำการค้าในสิ่งที่ผ่านมาทำให้คนในชาติเดียวกันต้องสูญเสียผู้คนที่หลงใหล
อย่างใหญ่หลวงนัก น้ำตากำนันก็พลันไหลรดไปตามใบหน้ามัน  สะอื้นไปด้วยความเสียใจ
    ดังนั้นมันคิดว่าสงสัยจะต้องวางมือเรื่องทั้งหลายไว้ให้หมดสิ้น   มันเองตอนนี้ก็มีฐานะ
ร่ำรวยแล้ว  ตายไปเงินทองหรือสิ่งต่างๆก็เอาไปไม่ได้สักอย่างเดียว
การหนีครั้งนี้แทบจะเอาชีวิตไม่รอด  ลูกน้องมันคิดว่าต่างตกตายไปสิ้นหมดแล้ว   ด้วยก่อนที่
จะหลบหนีมา  เสียงปืนดังได้สงบจนการหนีพ้นจากสิ่งนั้นไป จึงคิดจะเลิกแล้วต่อสิ่งเหล่านี้
เห็นทีจะต้องเข้าวัดสร้างบุญกุศลด้วย  เพราะมันแก่แล้วจะได้ชดใช้หนีเวรต่างๆได้บ้าง
     ระหว่างรอคอยรถนั้นทั้งปวดก็ปวดทำให้มันเกิดความสำนึกได้  กลับไปพอหายดีแล้วก็จะ
ขอลาออกจากกำนันเสียที  หากยังเป็นกำนันอยู่ก็ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผิดกฏหมายแน่นอนด้วย
ทางเสี่ยเม้งและเสี่ยหว่างคงจะไม่ปล่อยมันแน่ๆ  หากไม่มีอำนาจแล้วเขาคงจะไม่มายุ่งเกี่ยว
รบกวนกับมันอีกแน่นอน แต่อย่างนั้นทางเสี่ยเม้งจะยอมหรือด้วยมันรู้ความลับต่างๆของ
พวกผิดกฏหมายทั้งหมด 
    กำนันหวนเมื่อปลงตกเช่นนั้นตามันก็สว่างทันที  สิ่งเดียวที่จะพ้นคือการออกบวชเป็นพระ
  และจะไม่ยอมสึกออกมาอีก ยิ่งคิดมันก็ยิ่งเห็นทางเอาตัวรอดได้ด้วยมันก็มีอายุมากขึ้นแล้ว
 เมื่อคิดปลงตกก็หลับไปในระหว่างรถกำลังวิ่งอยู่.....
      ทางด้านบริเวณเครื่องจักรเลื่อยไม้ นั้นร่างของพวกผิดกฏหมายถูกนำมาวางสุมใกล้ๆกับ
เครื่องจักร  พร้อมด้วยอาวุธต่างๆมาวางใกล้ๆกันตลอดจนพวกที่จับตัวได้  ให้พวกมันนั่งลง
แล้วทางด้านตำรวจก็ต่างถ่ายรูปในแง่มุมต่างๆเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดีต่อไป
      ระหว่างที่ตำรวจกำลังรวบรวมหลักฐานต่างๆอยู่นั้น  ผุ้กองจำลองและเจ้าสินชัยกำลัง
คุยกัน พลางเจ้าสินชัยก็มองไปยังหัวหน้าเริ่มและลูกน้องทั้งหลายกำลังทำงานกันอย่าง
ขมักเขม่นนั้น  
      พลันสายตาของเจ้าสินชัย ร่างมันสะดุ้งหันไปหันทางผู้กองทันที เนื่องจากมัน
ได้เห็นนายมัน  เดินเคียงคู่กับหญิงสาวสวยสองนางที่ขนาบข้างซึ่งมันจำได้ว่าเป็น
แม่นางอัปสรที่สั่งสอนวิชาอาคมแก่มันด้วย 
       ที่มองผู้กองนั้นว่าจะเห็นร่างนายมันหรือเปล่าแต่เห็นผู้กองมองไปยังตำรวจ
แล้วคุยกันกับมันเท่านั้น   คงจะไม่เห็นนายมันด้วยผู้กองก็รู้แล้วด้วยว่านายมันคือนาย
ของผู้กองด้วยเช่นเดียวกัน
      หากเห็นก็ควรจะรีบเข้าไป แต่นี่กลับทำเฉยๆแล้วหันมาชวนคุยกันเรื่องต่างๆ
ในการต่อสู้  แล้วบอกว่าทางตำรวจนั้นไม่มีใครบาดเจ็บกันสักคน คงเป็นอำนาจ
พระเครื่องของหลวงพ่อทองที่คุ้มกันภัยให้
   ครั้นเหลือบเพื่อหาทางหลีกเลี่ยงจากผู้กองนั้นด้วยแลเห็นนายมันกวักมือเรียกอยู่
  ดังนั้นจึงกล่าวว่า
     “ผู้กองครับผมเห็นจะต้องไปสั่งงานเจ้าเริ่มก่อนนะครับ และลูกน้องด้วยเพราะ
อาจมีบางอย่างขาดหายไป ”
     “ งานคงจะเรียบร้อยกระมังสินชัย ก็เห็นทุกๆคนทำงานกันอย่างเรียบร้อยนี่นา” 
ผู้กองตอบ
      “ แต่ว่าไปสักหน่อยก็ดีครับ เดี๋ยวพวกมันจะว่าเอาภายหลังไม่ช่วยมันเลยล่ะครับ”
      “ถ้าอย่างนั้นตามสบายเถอะสินชัย ผมเองก็จะไปสั่งงานทางตำรวจเหมือนกัน “
      “ ผมไปก่อนแหละครับ”  ไม่รอคำตอบมันรีบเดินไปหาเจ้านายมันทันที  
   ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังยืนรออยู่  เพื่อให้ไม่เป็นที่ผิดสังเกตุจึงเสแสร้งเดินเข้าไปหา
คุยกับเจ้าเริ่มนิดเดียวแล้วก็เดินไปหานายมันทันที
        “ ทางนี้เรียบร้อยแล้วล่ะ??...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจไป  
ให้เจ้านำกำลังทั้งหมดไปช่วยด้านโน้นด้วย  เพราะด้านโน้นกำลังปะทะกันหนักอยู่ ” 
 ชายหนุ่มกล่าวสั่งงานทันที
       “ครับๆนายผมจะนำกำลังไปเดี๋ยวแหละ แต่ต้องไปบอกผู้กองก่อนจะได้
ไม่สงสัยพวกเรา   แล้วก็จะรีบนำกำลังพลไปช่วยทางด้านโน้นทันที 
 แล้วนายไม่ไปด้วยหรือครับ” สินชัยถาม
       “ ดูก่อนนะสินชัย ด้วยเจ้าแสงสีหากทำตามที่วางแผนไว้ก็คงจะคล้ายๆกับที่นี่แหละ แต่
ข้าเห็นว่าตอนนี้กำลังปะทะกันหนักอยู่แล้วล่ะ”  ชายหนุ่มเอ่ย
       “ เจ้าไปบอกแสงสีด้วยนะให้แบ่งพวกไปคุมแถวๆริมแม่น้ำไว้ด้วย เนื่องจากฝั่งโน้นมันมี
เรือมาคอยช่วยเหลืออยู่ด้วย “ แม่นางรัตนาวดีเอ่ยขึ้น
       “ และอย่าลืมล่ะให้เจ้าคอยระหวังพวกเสี่ยหว่างที่คิดกำลังจะหลบหนีออกทางด้านแยกของ
เขาไปอีกทางหนึ่งด้วย “ แม่นางอ้อยวิลาวัลย์กล่าว
        “อ้อๆๆอีกอย่างหนึ่งให้พวกเจ้าคอยตลบหลังพวกมันที่เรือจะมาช่วยเหลือพวกมันไว้
คือให้กระหนาบหน้าและหลัง ภายในเรือคงจะมีไม่มากประมาณสองสามคน เจ้าก็ให้คนเจ้า
หรือแสงสีก็ได้ไปจัดการมันเสียด้วย ”  แม่นางรัตนาวดีกล่าวเสริมขึ้น
      “ ครับนายหญิง  ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละและจะกล่าวให้พี่แสงสีทราบตามคำสั่งครับ”
      “ ถ้าแบบนี้ก็รีบๆไปได้แล้วล่ะ ด้วยกำลังคนทางโน้นแม้จะมากก็จริงแต่ พวกผิดกฏหมายนั้น
มันมีมากกว่า ล้วนแล้วแต่อาวุธร้ายแรงทั้งสิ้น  ให้ระวังตัวไว้ด้วยนะ “  หญิงสาวชายหนุ่มเตือน
      ครั้นแล้วเจ้าสินชัยก้มคาราวะแก่นายทั้งสามทันที  เสแสร้งไปคุยกับพวกหุ่นสักพักเพื่อมิให้
ผู้กองสงสัย  แล้วก็แจ้งความประสงค์ของนายแก่หัวหน้าเริ่มที่นำหุ่นเหล่านี้อยู่ว่าให้รีบเตรียมตัว
จะออกเดินทางไปปฏิบัติงานยังที่อื่นอีก หากได้รับคำสั่งจากมัน  
        หลังจากนั้นมันก็เดินไปหาผู้กองจำลองทันที  พลางเอ่ยปากกล่าวว่า
    “ ผู้กองครับผมเห็นจะต้องไปด้านโน้นแล้วล่ะ??...ด้วยนายแจ้งไว้ว่าเสร็จภาระกิจทาง
นี้แล้วให้รีบไปช่วยทางโน้นด้วยครับ”
    “ ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะนำกำลังตำรวจไปเสริมอีกนะ”  ผู้กองเอ่ย
     “ นายสั่งว่าไม่ให้ผู้กองและตำรวจทางนี้ไป ให้คอยเฝ้าระวังไว้หากอาจจะมีเหตุฉุกเฉิน
เกิดได้อีกเพียงให้พวกผมไปเท่านั้นครับ  อ้อๆๆๆอีกอย่างหนึ่งท่านรองผู้กำกับและผู้ใหญ่
บางคนทางกรุงเทพฯซึ่งตอนนี้  ได้มาถึงโรงพักแล้ว  คงจะปรึกษาหารือกันอยู่กับท่านรองฯ
 ด้วยนายรายงานขึ้นไปแล้วครับ  คงจะราวสายๆหน่อยก็คงจะได้พบเองแหละครับ”  
สินชัยกล่าวแก่ผู้กองจำลอง
       “ อ้อๆๆท่านยังบอกกำชับให้ผู้กองอย่าไปไหนคอยต้อนรับผู้ใหญ่และรายงาน
ผลงานทั้งหมดให้ทราบ หากผู้กองไปแล้วใครจะรายงานผลงานล่ะครับ”  มันเอ่ยเพิ่มเติม
        “ หากเป็นคำสั่งนายเช่นนี้  เห็นทีจะต้องตรวจตราระวังเพิ่มขึ้นอีก 
 เอาล่ะสินชัยนำพวกไปได้แล้วทางนี้ ข้าจะได้ไปสั่งพวกตำรวจทั้งหลายให้เพิ่ม
ความระมัดระวังยิ่งๆขึ้นอีก จะไม่นำพวกที่ถูกจับกุมไปแต่จะมัดไว้แถวๆเครื่องจักรนี่อีก
จนกว่าได้พบผู้ใหญ่แล้ว ดูว่าท่านจะสั่งเพิ่มเติมอย่างใดบ้าง  ไปเถอะ”
     ครั้นผู้กองเอ่ยเสร็จก็รีบตรงไปหาตำรวจคนหนึ่งที่ยืนสั่งงานอยู่แล้วทั้งสองก็ซุบซิบกัน
  ตำรวจคนนั้นก็แสดงความเคารพ  แล้วรีบไปแจ้งตำรวจอื่นให้ทราบ  แบ่งกำลังที่แห่งนี้เฝ้าไว้ 
อีกส่วนก็กระจายกำลังโอบล้อมแนวชายป่าทั้งหมดตลอดจนริมแม่น้ำด้วย
  เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยอาจจะเกิดขึ้นอีกก็ได้อย่าได้ประมาท
     เมื่อเจ้าสินชัยเห็นดังนั้นก็ตรงไปหาผู้กองแจ้งความจำนงค์ทันทีว่า  พวกเขาเห็นจะต้อง
ขออาวุธปืนที่มากองสุมไว้ไปด้วยตามแต่ถนัด  ผู้กองแปลกใจถามขึ้นว่า
     “ อ้าวๆสินชัย แล้วพวกนั้นจะใช้อาวุธปืนเป็นหรือ มันเป็นอาวุธอาก้าจากฝั่งโน้น
เสียเป็นส่วนมากจะมีลูกซองและเอ็ม ๑๖ ไม่เท่าไหร่นะ” ผู้กองกล่าวด้วยความสงสัยด้วย
เห็นพวกหุ่นล้วนแต่ใช้มีดดาบหอกเกือบทั้งสิ้น”
     “ เรื่องอาวุธปืนนี้นายผมฝึกให้พวกเราหมดแล้ว วิธีการบรรจุกระสุนการยิ่งระยะ
หวังผลและไม่หวังผลตลอดจนอาวุธปืนต่างไว้ให้ชำนาญแล้วครับผู้กอง
ไม่ต้องห่วงหรอกครับ”  สินชัยเอ่ยตอบผู้กองจำลองทันที
     เมื่อรับทราบว่านายของสินชัยฝึกอาวุธปืนต่างให้พวกหุ่นเหล่านี้ด้วยไม่รู้ว่าเป็นหุ่น
คิดว่าเป็นพวกชาวบ้านป่าธรรมดา ก็สิ้นสงสัย  ด้วยทราบดีว่านายเขานั้นชำนาญเก่งเพียงใด
 ไม่ใช่แต่วางแผนอย่างเดียวอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆล้วนชำนาญทั้งสิ้น การเลือกคนใช้งาน
ก็จะคัดเลือกที่ไว้ใจได้อีกด้วย  จึงกล่าวว่า
     “ หากเป็นนายกล่าวเช่นนั้น  ให้พวกเจ้าเลือกเอาตามถนัดก็แล้วกัน
 อ้อๆๆ หีบใส่กระสุนที่เรายึดมาได้นั้นก็มีอีกจำนวนมาก  เอาติดตัวไปด้วยนะ ” 
ผู้กองเอ่ยอนุญาตทันที
      เมื่อเจ้าสินชัยเดินไปหาพวกที่รวมกลุ่มกันหลายสิบคนรอคำสั่งอยู่จากเขา 
และได้รับฟังสินชายกล่าวกับหัวหน้าเริ่มเช่นนั้น   แต่ทั้งหมดก็อยู่ในสายตาผู้กองจำลอง
ที่จ้องมองดูพวกหุ่นทั้งหลายอยู่ว่าจะทำอย่างไรกัน
     ดังนั้นเมื่อหัวหน้าเริ่มกล่าวขึ้นเสร็จ บรรดาหุ่นทั้งหลายก็เก็บอาวุธของตนไว้ พลางเดิน
ตรงไปยังกองปืน  ต่างคัดเลือกอาวุธปืนมาใช้ทดลองแล้ว ปลดล๊อคที่ใส่กระสุนทิ้งไป
     พลางล้วงไปหยิบที่ใส่กระสุนในกล่องขึ้นมาเสียบใหม่ทันที    ผู้กองจำลองมองเห็น
ก็ให้แปลกใจนัก  ด้วยกิริยาท่าทางทุกๆคนต่างกระฉับกระเฉงกัน ไม่มีผู้ใดแสดงอาการ
เคอะเขินต่อการใช้อาวุธปืนแต่อย่างใด  ทุกๆคนล้วนแล้วแต่มีความชำนาญอาวุธปืนทั้งสิ้น
 การกระทำของมันเขามองอยู่ตลอดเวลามิได้คลาดสายตาไปไหน
     ครั้นเห็นพวกหุ่นเหล่านี้นำอาวุธสายสะพายคล้องหัวไหล่ข้างหนึ่ง  มายืนเข้าแถวเรียงกัน
ดั่งทหารที่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี เพื่อรอคำสั่งของเจ้าสินชัยและเจ้าริ่ม  ยิ่งเพิ่มศรัทธา
ต่อนายของเขามากยิ่งขึ้น  
     พลางรำพึงกับตนเองว่า  ไม่คิดเลยว่านายกูพึ่งจะมาได้เพียงเดือนเดียวไฉนหาคนมาฝึก
จำนวนมากได้อย่างเชี่ยวชาญยิ่งนักทั้งยังมีระเบียบวินัยดั่งทหาร   ที่ผ่านสงครามการต่อสู้
มาอย่างโชกโชน  แม้ลูกน้องของเขาก็ไม่อาจะเทียบได้กับบรรดาที่ขึ้นตรงต่อนายของเขาเลย
     พลันผู้กองก็ต้องอ้าปากค้างตลึง  เมื่อเขาแลเห็นเหล่าหมู่ที่เรียบรายเป็นระเบียบนั้นต่าง
พากันแบ่งแยกกระจายยืนเรียงตามลำดับไหล่แบ่งออกได้ห้ากลุ่ม กลุ่มละสิบนาย เห็น
เจ้าสินชัย กับหัวหน้าที่ชื่อว่าเริ่ม เรียก หัวแถวแต่ละกลุ่มคนนำหน้า ก็วิ่งเหยาะมารับฟัง
    คำสั่งของทั้งสอง  แต่ในระยะไกลเสียงสายลมรุนแรงจึงไม่ได้ยินเสียงกล่าวเช่นไร
 สายตาผู้กองมองไม่ขาดสายตา  รวมทั้งตำรวจทั้งหลายที่กำลังทำงานอยู่ต่างก็พาหยุดชะงัก
หันมามองทันที
      เมื่อหัวหน้ากลุ่มวิ่งเหยาะๆมาถึง หัวหน้าเริ่มก็กล่าวอะไรผู้กองไม่ทราบ หัวหน้ากลุ่ม
ก็วิ่งกลับไปเข้าแถวหันหน้าไปทางกลุ่มกล่าวกับพวกกลุ่มทันที  อีกเก้าคนต่างหันหลังกลับ
พลางลดสายสะพายที่คล้องปืนนั้นลงมาในท่าที่พร้อมจะปฏิบัติงานได้แล้วพากันวิ่งออกไป
แยกย้ายกระจายไปจนพ้นลานกว้างแยกย้ายกันไปอย่างมีระเบียบ
      สิ่งที่ยิ่งทำความแปลกใจแก่ผู้กองมากยิ่งขึ้น แต่ละกองนั้นเมื่อย่างเท้าไปยังป่าซึ่งจะต้องมี
ใบไม้แห้ง  แต่นี่เหตุไฉนไม่ได้ยินเสียงของใบไม้แห้งแตกดังเข้ามาเลย ในเมื่อคนจำนวนมาก
ได้วิ่งหายลับไปในป่าหมดสิ้นเปรียบดังแมวหรือเสือที่เดินย่างเท้าย่องหวอดไป
ทุกๆคนต่างวิ่งไปด้วย  แต่ไร้ซึ่งเสียงดังเกิดขึ้นเลย
       ผู้กองนึกคิดไปพลางคำนึงไปพลางว่า  นายกูนี่ช่างเก่งเหลือจริงๆฝึกคนได้อย่างนี้เสมือน
หนึ่งดั่งกองทัพทหารมิปานทีเดียว  หากแม้นว่าคนเหล่านี้เป็นผู้ร้ายแล้วทางฝ่ายตำรวจจะต้อง
เสียชีวิตมากมายนับไม่ถ้วนแน่นอน  ด้วยทั้งระเบียบวินัยการฝึกปรือนั้นบ่งชัดว่าไม่ธรรมดา
ล้วนแล้วแต่เป็นการฝึกของกองทัพทหารทีเดียวมิปาน
      ตะวันสายมากแล้วผู้กองยังสั่งให้ผลัดเปลี่ยนเวรดูแลรักษามาทานอาหารกัน  เฝ้ารักษาสิ่ง
ต่างๆที่ยึดมาได้ตลอดจนให้อาหารแก่พวกที่ถูกจับกุมด้วย  เพื่อรอผู้ใหญ่ต่อไป...........
                              *  แก้วประเสริฐ.  *

Cartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus
  • เงาสายลม

    16 ธันวาคม 2553 00:35 น. - comment id 120578

    ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
    ติดตามอ่านมาตลอด สนุกก็็ได้ความรู้ดีครับ
  • แก้วประเสริฐ

    16 ธันวาคม 2553 11:48 น. - comment id 120579

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เงาสายลม
    
            ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมและห่วงใยสุข
    ภาพผมด้วย ผมจะพยายามครับ ผมคิดว่าจะ
    ส่งทุกๆวัน หนึ่งบ้างสองบ้างครับ ตอนนี้คิด
    ว่าคงจะไปครึ่งเรื่องได้กระมังแล้วแต่ยังไม่
    แน่ใจ ด้วยกำลังสนุกสนานเพลิดเพลิน ด้วย
    เขียนเสร็จมาตรวจทานอ่านเอง อันไหนไม่
    ดีก็เพิ่มเติมไปด้วยครับ ขอบคุณครับ
    
             16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน