อทิสมานกาย ๕๕

แก้วประเสริฐ

76.gif
                                อทิสมานกาย ๕๕
ยามราตรีค่ำคืน ท้องฟ้าลอยละล่องด้วยเหล่าเมฆไปตามกระแสลม  เบื้องหลัง
เต็มไปด้วย ดวงดาวพร่างพรายระยิบระยับ บ้างก็กระพริบ บ้างก็ค้างเพียงแต่
ทอแสงเต็มไปหมด ในรูกลักษณ์ต่างๆกัน งดงามยิ่งนักชวนน่าทัศนา
    หลังจากที่กำนันหวนได้กลับมายังบ้านของตัวเองแล้ว ในตอนค่ำฟ้าสาง
อากาศเริ่มย่างเข้าสู่หน้าหนาวที่ใกล้ๆภูเขาของหมู่บ้านบางโคนั้น บ้านกำนัน
เริ่มมีคนตื่นขึ้นมาแล้ว ทุกๆคนต่างเป็นห่วงในการหายไปของกำนันหวนทั้งสิ้น
     “บงกชเอ๋ย???....ตื่นหรือยังล่ะ???...” เสียงเรียกจากเมียกำนันเอ่ยขึ้น
     “ตื่นนานแล้วจ๊ะแม่.....แม่มีอะไรจะให้ทำหรือ???....” เสียงขานตอบดังเพียง
แค่ได้ยินเสียงเท่านั้น
      “พ่อเจ้าหายไปตั้งนาน ป่านนี้น่าจะกลับมาบ้านได้แล้ว แต่นี่ยังไม่มีวี่แววสักนิด??...”
เสียงผู้เป็นแม่กล่าวตอบลูกสาวกึ่งสอบถาม
      “นั่นซิจ๊ะแม่  หนูเองก็อดเป็นห่วงพ่อไม่ได้  ไม่เคยเห็นพ่อไปช้าเหมือนคราวนี้เลย”
 เสียงตอบจากหญิงสาว 
     รูปร่างนั้นค่อนข้างสัดส่วนสวยมีรูปร่างเพรียวกระทัดรัดงามแบบชาวบ้านที่งามกว่า
  นับว่าเป็นหนึ่งในแถบบริเวณแถวนี้ เป็นที่หมายปองแก่หนุ่มๆในหมู่บ้านและอื่นๆ
บริเวณใกล้ๆเคียง อายุหรือก็ค่อนข้างเข้าไปถึง ๒๕ ปีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าหญิงสาวนี้
จะสนใจชายอื่น  มุ่งมั่นแต่ช่วยพ่อแม่ทำมาหากินเท่านั้น
      “นั่นซิลูก  แม่เองก็ชักสังหรณ์ใจเหมือนกันจะเป็นอะไรไปหรือก็ไม่รู้น๊ะ” ผู้เป็นแม่
เอ่ย ในขณะเดียวกันก็สาระวนอยู่ในครัวเพื่อจัดเตรียมหาอาหารดั่งเคย
       “แม่จะให้หนูช่วยอะไรบ้างล่ะ” เสียงนั้นเดินเข้ามาในครัวแล้วนั่งลงข้างๆผู้เป็น
แม่   หญิงกลางคนค่อนข้างมีอายุหันไปมองลูกสาว พลางเอ่ยว่า
       “กช!!!!....เอ็งปีนี้อายุได้เท่าไหร่แล้วนะ  แม่ชักจะลืมๆไปแล้วล่ะ”
       “ย่างเข้า ๒๕ จ๊ะแม่ ” หญิงสาวกล่าว  พลางหันไปคนหม้อข้าวที่ตั้งอยู่บนเตาไปกำลัง
เดือดๆอยู่ ส่วนแม่เขานั่นมัวสาระวนกับอาหารในการกินอยู่
       “อืมๆๆ!!!!.... อายุก็นับว่ามากพอควรนะเป็นสาวเต็มตัวแล้ว เอ็งมองใครไว้หรือเปล่า
ล่ะ???.... นี่ก็นับว่าอายุมากแล้วนะ”  ผู้เป็นแม่ถาม
       “เรื่องนี้หนูยังไม่สนใจหรอกจ้าแม่ เห็นพ่อหรือก็เอาแต่หาเงินหาทอง ส่วนแม่หรือก็ยัง
เข้าไร่สวนทำงาน  ถึงแม้จะมีพี่ชวนมันมาช่วยก็เถอะ  แต่ว่ามันก็ดีนะแม่ ถึงจะยังไม่มี
ครอบครัว  แต่พี่ก็มีความรักใคร่กับครอบครัวเราดุจญาติและมองฉันคอยเป็นห่วงเป็นใย
ดุจพี่ชาย  ฉันหรือก็เคยถามเขาว่าทำไมยังไม่คิดมีเมียเสียล่ะ  พี่ชวนก็มักจะหลีกเลี่ยงบอกว่า
ยังไม่ถึงเวลา  เป็นห่วงพ่อแม่และน้องคือฉันอยู่ว่า หากพี่เขามีเมียไปแล้วจะไม่มีใครมาช่วยดู
ทางนี้ได้เต็มตัวจ๊ะแม่ พี่เขายังบอกว่ามีน้องสาวคือฉันนี่แหละกำลังเป็นสาวๆเดี๋ยวจะมี
ใครมารังแกเอาจ๊ะแม่”  หญิงสาวตอบ
       “นั่นซิพ่อแกเขาเลี้ยงเจ้าชวนมาตั้งแต่พ่อแม่มันตายยังเด็กๆอยู่จนบัดนี้มันก็สามสิบกว่าๆ
ไปแล้วล่ะ  แม่เคยบอกว่าหากชอบพอใครๆในหมู่บ้านหรือใกล้เคียงมาจะได้ไปสู่ขอให้  มัน
      กลับบอกว่าพ่อแม่และน้องมีคนคอยดูแลแล้วหรือ   หรือว่ารังเกียจมันจะได้ให้มัน
มีครอบครัวเร็วๆ   แล้วมันยังกราบแม่อีกว่าขอบคุณแม่ต้องคอยให้พ่อแม่สบายดีกว่านี้
และน้องสาวมีเย้ามีเรือนเสียก่อนนั่นแหละมันถึงจะวางใจได้ 
        มันตอบแบบนี้เอาแม่ถึงกับซึมน้ำตาไหล ไม่คิดว่ามันมีความกตัญญูมากซินะ และมัน
จะรักพวกเราดุจพ่อแม่และรักเจ้าเหมือนน้องมันจริงๆ จึงเอ่ยปากถามมันอีกพลางรบเร้ามัน
ไม่ต้องห่วงอะไรทางนี้หรอก  แต่มันหัวร่อพลางยิ้มแล้วตอบแม่ว่า แม่ๆคอยดูไปก่อนทุกวัน
นี้มันสบายขึ้นและไม่มีญาติที่ไหนอีกแล้วล่ะพอจะพึงพาอาศัยให้มัน
เท่ากับแม่และพ่อกับน้องเท่านั้น”
       “นั่นซิแม่ พี่ชวนนั้นก็นักเลงเสียด้วยซิไม่กลัวคนสู้คน   ครั้งหนึ่งตอนไปเที่ยวงานวัดที่
วัดโคกอีแร้ง  มีคนมาแซวหนูเท่านั้น เล่นเอาพวกมันหมอบกระแตไปตามๆกัน เขาประกาศ
ก้องกลางลานวัดเชียวว่า คนอื่นยุ่งได้แต่อย่าเสือกมายุ่งกับน้องสาวกูนะโว้ย นี่ดีนะเป็นบริเวณ
วัดมิฉนั้นพวกมึงอาจจะมีใครตายไปด้วย  เล่นเอาพวกนั้นเลิกเที่ยวหนีกลับบ้านไปกัน สืบได้ว่า
เป็นหมู่บ้านอื่นไม่ใช่หมู่บ้านเราและหมู่บ้านโคกอีแร้ง พูดตามความรู้สึกนะว่า พวกหมู่บ้าน
โคกอีแร้งนั้นหนุ่มๆล้วนนิสัยใจคอดีๆกันเกือบทั้งสิ้นจ้าแม่”  หญิงสาวตอบแม่
    และแล้วทั้งสองก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเรียกๆๆดังมาจากข้างล่างบ้าน
   “แม่ๆๆๆๆเร็วๆๆๆน้องกชด้วย พ่อถูกยิงมา ให้ไปหายามาใส่แผลด้วย”  เสียงเรียกของ
ชายหนุ่มตะโกนนำทางมาก่อน
      สักครู่ร่างเจ้าชวนก็พยุงร่างพ่อกำนันหวนขึ้นมาบนบันไดบ้านอย่างทุลักทุเล  พลางพยุง
นำไปวางยังเสื่อที่ปูไว้นั่งเล่นก่อนแล้ว  ร่างกำนันหวนไม่เป็นอะไรมากนักเพียงเลือดที่แห้ง
กรัง บัดนี้แห้งหมดแล้ว  แต่มีหลายๆรอยอยู่ที่ยังมีเลือดซืมๆออกมาบ้าง
    “ใครทำพ่อมาหรือพ่อ เดี๋ยวข้าจะไปจัดการเอง”  เจ้าชวนเอ่ยพลางปลดเสื้อผ้ากำนันหวน
ออกพลางนำวาง  หาผ้าอื่นที่สะอาดนำผ้าชุบน้ำมาล้างแผลให้อย่างลุกลี้ลุกลน
     “ไม่เป็นอะไรมากหรอกลูก  โดนแค่ถากๆเท่านั้นเอง  เออๆไอ้ชวนๆ” กำนันเอ่ย
     “ครับพ่อมีอะไรหรือจะให้ข้าช่วยหรือบอกได้เลยข้าจะนำคนไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละจ้า”
     “ไม่มีใครทำอะไรพ่อหรอก  แต่ที่พ่อเรียกเจ้านั้นจะบอกว่า ต่อไปนี้เห็นทีพ่อจะวางมือ
จากเรื่องแบบนี้เสียที เจ็บรอดตายคราวนี้ทำให้พ่อสำนึกบาปบุญคุณโทษได้แล้วล่ะ จะขอ
วางมือด้านนี้และลาออกจากกำนัน  แต่ข้ายังเป็นห่วงแม่และน้องเจ้าอยู่เท่านั้นมีทางเดียว
ที่จะหนีรอดอุ้งมือพวกมันได้คือหนีไปบวชตลอดไป ด้วยพ่อรู้ความลับมันมามากพอควร
แต่ทางด้านนี้ก็จะขอให้เจ้าเลิกให้หมดด้วย และช่วยพ่อคอยดูแลแม่และน้อง  
หากน้องเจ้าได้แต่งงานไปก็จะทำให้พ่อยิ่งไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมากนัก” 
 กำนันหวนตอบกับเจ้าชวน
     “อ้าวๆๆ????....ไหนๆเรื่องเป็นอย่างไรหรือพ่อ”  ไอ้ชวนถามด้วยความสงสัยนัก
      แล้วกำนันหวนก็เล่าถึงเหตุการณ์ต่างให้ไอ้ชวนลูกเลี้ยงมันฟังในระหว่างทางคอยรถ
นั้นมันก็เกิดความรับผิดชอบชั่วดี  ทั้งยังรอดตายกลับมาส่วนพวกที่นำไป
สงสัยจะตายหมด   ดีนะที่ไม่ให้เจ้าชวนไปด้วยเกิดลางสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างขึ้น
จึงให้คอยดูแลทางนี้แทน อีกอย่างหนึ่งเจ้าก็พึ่งจะหายดีคราวที่แล้วก็เกือบตายเหมือนกัน
        เมื่อกำนันเล่าให้ไอ้ชวนฟังแล้วหันไปทางตบไหล่เจ้าชวนและลูบหัวมันกล่าวขึ้นว่า
   “ ถึงมึงจะไม่ใช่ลูกแท้ๆของกูก็เถอะ แต่กูก็รักมึงเหมือนลูกแท้ๆของกู  เห็นว่ามีแต่มึง
เท่านั้นที่จะช่วยเหลือพ่อได้ว๊ะ แต่กูรู้นิสัยใจคอมึงดีเห็นพอจะพึงพาอาศัยได้ยามกูไปบวช
จึงจะขอกำชับและให้มึงรับปากกูว่าจะเลิกนิสัยก้าวร้าวนอกเสียจากคนจะมารังแกมึงเท่านั้น”
   “พ่อธรรมดานั้นใจข้าเองก็ไม่ค่อยชอบทางด้านนี้อยู่แล้วล่ะ แต่นี่เห็นเป็นงานของพ่อ
ทำให้ข้าต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ หากปล่อยพ่อเท่านั้น แต่เมื่อพ่อพูดเช่นนี้ก็พึงพอใจมาก
 ใจข้าก็จะสงบมากขึ้นด้วยมันเสี่ยงไม่ใช่เฉพาะพ่อเท่านั้น แม่และน้อง
ก็พลอยเอี่ยวไปกันหมด  ลำพังข้าเองนั้นไม่เท่าไหร่หรอกตัวคนเดียวอยู่แล้ว
 ที่โตขึ้นทุกๆวันนี้ก็ด้วยน้ำมือพ่อและแม่เท่านั้น ที่ให้ความเอ็นดูแก่ข้ารักข้า
ดุจดังลูกของตัวเอง ทำให้ข้าคิดว่าจะเพียงขอทดแทนไม่ว่าด้วยชีวิตหรืออะไรก็ตาม 
นิสัยข้าเองก็ไม่ค่อยชอบทางนี้อยู่แล้วล่ะพ่อ  ข้าให้สัญญาว่าจะคุ้มครองดูแลแม่และน้องให้
สบายจ๊ะพ่อและจะเลิกนิสัยนักเลงให้หมด”   ไอ้ชวนกล่าวขึ้น
       ครั้นกำนันหวนได้ฟังมันกล่าวเช่นนั้นถึงกับน้ำตาไหลออกมาแล้วดึงร่างมันไปสวมกอด
พลางเอ่ยว่า
       “ขอบใจมากว่ะเจ้าชวน ส่วนทรัพย์สมบัตินั้นข้าจะแบ่งให้เจ้าบงกชมันกับเจ้าคนละครึ่ง
เรื่องนี้เอ็งไม่ต้องห่วงหรอก  ถึงแม้ว่าจะทำไปในสิ่งไม่ดีก็หาใช่ด้วยน้ำใสใจจริงของข้าหรือ
ก็ไม่เคยคิดว่าจะหลงทางเข้ามาในวังวนนี้ 
    ข้าเคยคิดเหมือนกันจะเลิกเสียตั้งนานแล้วแต่ยังไม่มีโอกาสอำนวย ที่ทำไป
ก็ด้วยไปทางทางกระแสเท่านั้นเอง  เมื่อได้ยินเจ้ากล่าวเช่นนี้ข้าก็สบายใจ 
เมื่อหลังหลังจากทำแผลเสร็จก็จะนำอาหารไปถวายเพลหลวงพ่อทองเสียหน่อยด้วย
   สมัยหนึ่งข้าเคยเป็นศิษย์สอยห้อยตามไปตอนท่านยังหนุ่มๆอยู่ไปธุดงค์ในป่าเขาต่างๆ
ข้ายังเป็นเด็กๆอยู่ตอนยังไม่ได้มาครองวัดนี้  พบท่านในระหว่างธุดงค์เกิดศรัทธาเลยหนี
พ่อแม่ติดตามท่านไปในที่ต่างๆ  ท่านก็สอนวิชาอาคมให้แก่ข้าบ้างเพื่อใช้ป้องกันตัวแต่
  เหมือนมีอะไรมาบังตาข้าทำให้ข้าไม่ชอบ ที่ออกร่วมเดินทางไปด้วยมองเห็นท่าน
มีร่างกายผ่องใสงดงามนัก ข้าติดใจในรูปกายท่านเท่านั้นจึงขอติดตามไป
  ตอนแรกก็คิดๆจะร่ำเรียนเหมือนกันตอนนั้นนะ ครั้นโตขึ้นข้าก็แยกทางกับท่านไม่
คิดว่าท่านจะมาครองวัดโคกอีแร้ง เคยไปหาบ้างไม่หาบ้าง  พบท่านๆก็สั่งสอนเหมือนท่าน
จะรู้ว่าข้าทำอะไรไป ข้าเองได้แต่รับฟัง  แต่เหมือนคนตาบอดจึงฟังหูไม่ฟังหูล่ะ” กำนันเอ่ย
    “นั่นซิพ่อ ข้าเองก็สงสัยเหมือนกันว่า เหตุใดพ่อถึงมักจะไปทำบุญที่วัดโคกอีแร้ง
ก็ด้วยเหตุนี้พึ่งจะเข้าใจเอง  ทั้งๆที่วัดใกล้หมู่บ้านเราหรือก็อาศัยอยู่ในเขตของหมู่บ้าน
บางโคคือวัดบางโคทอง  ซึ่งได้ข่าวว่ากำนันคนอื่นๆก่อนพ่อจะมาเป็นกำนัน
นั้นมักจะไปทำบุญและสร้างวัดนี้ขึ้นมา แต่พอมาถึงพ่อ
   ข้ากับเห็นพ่อหันไปทำบุญทางวัดโคกอีแร้ง  ข้าสงสัยมานานจะถามพ่อก็หลายๆครั้ง
แต่เกรงใจพ่อเห็นกำลังมีงานอยู่จะยุ่งยากแก่พ่อไป”
   เจ้าชวนตอบพลางหายสงสัย
     เห็นกำนันหัวร่อฮึๆๆ  พลางเอ่ยว่า
  “ หลวงพ่อทางวัดบางโคทองนั้น ท่านไม่ค่อยใส่ใจอะไรกับวัดนัก 
ครั้นได้เงินมาก็แบ่งเป็นสองทางครึ่งหนึ่งของวัดอีกครึ่งหนึ่งนำมาแบ่งตัวเอง
และครอบครัวก่อนจะมาบวชและได้เป็นเจ้าอาวาส 
 ผิดกับหลวงพ่อทองซึ่งหมู่บ้านโคกอีแร้งกว่าจะเชิญมาครองวัดได้ก็แทบ
จะกระอักเลือด  ยามที่วัดร้างเจ้าอาวาสอยู่แต่ข้าก็ไม่ทิ้งวัดนี้ไป ยังร่วมไปนิมนต์
หลวงพ่อด้วย ครั้นท่านเห็นเป็นข้าจึงยอมรับนิมนต์ด้วยท่านจำข้าได้ และยังถาม
เกี่ยวกับข้าอีก ข้าจำเป็นต้องโกหกท่าน แต่ดูเหมือนท่านจะรู้ได้แต่อมยิ้ม
 ซ้ำยังเทสน์อบรมแก่ข้าอีกจนข้าต้องรีบเผ่นกลับบ้านเชียวล่ะ”  
  กำนันเอ่ยเล่าความหลังให้เจ้าชวนฟัง  
      “อ้อๆๆแบบนี้นี่เองเห็นพ่อไปทำบุญที่ไรมักจะไปทางด้านโน้น ส่วนทางด้านนี้
เห็นพ่อไม่ค่อยจะกระตือรือล้นเท่าไหร่นัก”  เจ้าชวนตอบผู้เป็นพ่อบุญธรรมมัน
      ในระหว่างการสนทนากันอยู่นั้น แม่เย็นกับบงกชเข้ามาต่างร้องกันแล้วถลา
เข้ามาดูอาการกำนันทันที
     “พ่อๆๆๆเป็นอะไรไปหรือมากแค่ไหนล่ะ พี่ชวนนี่จ๊ะยาที่พี่ตะโกนบอก” 
หล่อนหันไปทางเจ้าชวนพลางยื่นกล่องใส่ยาให้พร้อมกับน้ำร้อนอุ่นๆด้วย
      “พ่อไม่เป็นอะไรหรอกลูกแม่เย็นด้วยไม่ต้องห่วงข้า  เออๆๆๆมาครบก็ดีแล้วข้า
จะบอกแก่พวกเจ้าด้วยว่า ให้จัดเตรียมอาหารมื้อเพลไว้ด้วยข้าจะไปยังวัดโคกอีแร้ง”
      “แล้วเรื่องงานของพ่อล่ะเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือ”  แม่เย็นถามกำนันผู้ผัว
      “ไม่เรียบร้อยหรอกแม่เย็น  ข้ารอดตายมาก็นับว่าบุญเก่ารักษาอยู่   แต่นี้ไปข้าจะ
ลาออกจากกำนันแล้วไปบวชที่วัดโคกอีแร้ง คิดว่าจะไม่สึกออกมา  แม่เย็นและเจ้า
บงกชเห็นอย่างไรกับข้าบ้าง ส่วนเจ้าชวนนั้นมันเข้าใจอะไรๆหมดแล้ว”
      “อนุโมทนาจ้าพ่อกำนัน  พ่อเองก็ยังไม่เคยบวชมานี่นา อีกอย่างหนึ่งก็เคยเป็นลูกศิษย์
ของหลวงพ่อทองอยู่แล้วคงไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก แต่เรื่องของทางการล่ะพ่อจะ
ทำอย่างไรกัน”  แม่เย็นถามพ่อกำนันหวน
      “ เรื่องนี้คงไม่เป็นปัญหาหรอก ข้าจะประชุมผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยพรุ่งนี้จะเล่า
เรื่องทั้งหมดให้ฟังแล้วปรึกษากันกับเขา แต่วันนี้เพลๆมีอาหารไหมล่ะ???...แม่เย็น”
      “เรื่องอาหารนั้นไม่เป็นปัญหาหรอกพ่อ  เดี๋ยวข้ากับลูกบงกชทำกันเองไม่ต้อง
ให้ใครๆมาช่วยหรอก อีกอย่างข้าวปลาอาหารก็เพียบพร้อมอยู่ด้วยแล้วล่ะ” แม่เย็นกล่าว
    ครั้นทั้งสามเมื่อทราบเจตนารมณ์ของพ่อกำนันก็เข้าไปกราบและร่วมอนุโมทนาด้วย
กัน   เมื่อได้เวลาใกล้ฉันท์เพล  คนทั้งสามก็มาพร้อมกันที่วัดโคกอีแร้ง เจ้าชวนคอยพยุง
ร่างพ่อกำนันดูแลตลอดเวลา  จนพ่อกำนันต้องร้องบอกว่า
     “พ่อไม่เป็นอะไรหรอกลูก ไม่ต้องหรอกเจ็บเล็กๆน้อยๆเท่านั้นเอง เอ็งไปช่วยแม่
และน้องขนของขึ้นไปถวายเพลหลวงพ่อเถอะ
      “จ้าพ่อ ”  มันกล่าวแล้วรีบผละจากกำนันหวนไปช่วยทั้งสองทันที
   เมื่อก้าวขึ้นไปบนกุฎืหลวงพ่อทองกำนันหวนก็เห็น มีคนอยู่สนทนากับหลวงพ่ออยู่แล้ว
ก็ต่างให้เมียและลูกขนของขึ้นมารวมกันไว้ที่บริเวณที่ข้างๆใช้สำหรับฉันท์อาหารเพื่อรอ
จังหวะที่หลวงพ่อว่างๆจะได้ไปสนทนาด้วย  กำนันหันมากล่าวกับเมียและลูกๆว่า
     “แม่เย็นเจ้าบงกชเจ้าชวน  แล้วเอ็งจะเห็นว่าลูกวัดท่านปฏิบัติตนอย่างไรบ้างน่าศรัทธา
อย่างไรเอ็งคอยดูก็แล้วกันผิดกับวัดบางโคทองเลยล่ะ”
     ครั้นต่างคนต่างจัดการอาหารเสร็จเป็นที่เรียบร้อย  แม่เย็นก็เข้ามาสะกิดกับกำนันหวน
ทันทีเอ่ยว่า
     “พ่อๆเห็นหลวงพ่อหันมาทางเราแล้วกวักมือเรียกให้ไปหาล่ะพ่อ”  แม่เย็นเอ่ย
  กำนันมองไปทางมือของเมียแล้วก็ชักชวนให้ทุกๆคนเข้าไปหาหลวงพ่อทันที
   ทั้งหมดก็รีบเข้าๆหาพลางกราบหลวงพ่อกันทุกๆคน ก็ได้ยินหลวงเอ่ยขึ้นว่า
   “ ความคิดเอ็งดีแล้วล่ะ ไอ้หวนเอ๋ยไม่เห็นโลงไม่หลั่งน้ำตา บัดนี้เคราะห์ของมึงพ้นแล้ว
ไม่มีทางไหนอื่นอีกเท่าทางนี้หรอกว๊ะไอ้หวน”  หลวงพ่อทองเอ่ยขึ้น  
    “นี่ๆๆมาๆๆ ให้รู้จักกันไว้ด้วยนะ  นี่คือพ่อเชียรแม่เข็มนั่งข้างๆมันคือไอ้ชัยลูกของพ่อ
เชียรแม่เข็มเขา  พ่อเชียรและแม่เข็มเป็นอุบาสกอุบาสิกาประจำทุกๆวันพระน่ะ”
หลวงพ่อทองกล่าวขึ้น
      เมื่อกำนันหวนได้ยินหลวงพ่อกล่าวก็สะดุ้งในใจคิดว่าสมแล้วที่เป็นพระธุดงค์มาเป็นบุญของมัน
และมันเคยเป็นศิษย์สอยห้อยตามมา คงจะทราบเรื่องทั้งหมด  จึงพนมมือเอ่ยว่า
    “ครับหลวงพ่อระยะนี้ผมไม่ค่อยมาวัดเสียเลยแต่ก็ยังนึกถึงคุณหลวงพ่อเสมอๆครับ”
    “เรื่องนี้พ่อเองก็เข้าใจ แต่บุญของมึงยังมีพอที่จะเห็นผิดเป็นถูกได้  เอาล่ะๆๆทำความรู้
จักกันไว้ด้วย  ข้ามองเห็นว่าอีกหน่อยมันก็จะสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวมึงและครองครัวเขา”
หลวงพ่อเอ่ยทำนายให้กำนันหวนฟัง เล่นเอากำนันหวนแปลกใจมากยิ่งขึ้น พลางหันไปทาง
พ่อเชียรและแม่เข็มต่างก็พากันยิ้มแย้มต้อนรับมันอยู่เลยเข้าไปหาและสนทนากันไล่เลียงถาม
อายุกัน   ได้ความว่ากำนันหวนอายุมากกว่าพ่อเชียรเกือบห้าปี  และเมื่อต่างสนทนากันก็ทำให้
กำนันหวนสบายใจมากยิ่งขึ้น  แล้วขอตัวจากพ่อเชียรพลางคลานเข้าไปหาหลวงพ่อทองทันที
      “กระผมมาวันนี้ใคร่จะขอรบกวนหลวงพ่อด้วยครับหลวงพ่อ” กำนันหวนเอ่ย
      “เออๆๆๆดีแล้วล่ะไอ้หวน หมดเวรกันเสียทีก็คราวนี้แหละ  ข้าเองไม่ปฏิเสธกับการขอ
ของเอ็งหรอก คิดดีแล้วหรือ???...  แล้วถามความเห็นแม่เย็นเขาหรือเปล่าล่ะ”
      “หลวงพ่อเจ้าขา...อิฉันกลับดีใจยิ่งจ๊ะหลวงพ่อ หากพ่อกำนันจะบวชคราวนี้” ครั้นแม่เย็นฟัง
ดูก็ทราบด้วยปัญญาว่าหลวงพ่อคงจะรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ จึงยิ่งเกิดความศรัทธายิ่งๆขึ้นกว่าเดิม
      สิ่งที่ทำความแปลกใจมาก็ได้แก่สาวบงกชและเจ้าชวน ที่ต่างมองหน้ากันไปๆมา พลาง
หันไปทางกลุ่มของพ่อเชียร สาวบงกชแลเห็นเจ้าชัยนั่งพนมมือไหว้ก้มหน้าอยู่และรูปร่าง
ของมันสันทัดกำยำของร่างกายใบหน้ายามก้มหรือเงยก็ช่างหล่อเหลานัก
     ก็ถึงกับสะท้านลึกเข้าไปให้ห้วงใจหล่อนทันที ทำให้อาการเกิดการขวยเขิน
อันไม่เคยมีมาก่อน  จึงไม่ยอมมองไปอีก  ส่วนเจ้าชวนหันไปทางกลุ่มของพ่อเชียรแล้ว
ก็ให้รู้สึกถูกอัธยาสัยยิ่งนัก  มันรำพึงว่าเหตุใดคนในหมู่บ้านโคกอีแร้งถึงไม่ยอมไปยุ่งเกี่ยว
กับเรื่องที่พ่อกำนันมันทำนัก  หรือจะเป็นด้วยสาเหตุนี้นี่เอง  ก็ให้สะท้อนใจมันยิ่งนัก
จิตใจมันก็ได้ล่วงรู้อะไรๆดีขึ้น พลางหันไปกราบทางพ่อเชียรแม่เข็มทันที  
      ครั้นพ่อเชียรแม่เข็มและเจ้าชัยหันไปมองพบก็เห็นร่างเจ้าชวนก็ให้พึงพอใจนัก พ่อเชียร
ก็พยุงร่างเจ้าชวนเอ่ยว่า
    “เราคนกันเองทั้งนั้น ไม่ต้องทำถึงอย่างนี้หรอก ชื่ออะไรหรือพ่อหนุ่ม” พ่อเชียรถาม
    “ผมชื่อชวนครับพ่อเชียรเห็นหลวงพ่อยกย่องพ่อเชียรมากก็รู้สึกศรัทธาต่อบุคคลิกท่านอีก
อย่างขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยคนครับ”
    “ไหนๆคนเราคงจะเคยทำบุญร่วมกันมาถึงได้มาถูกอัธยาสัยเช่นนี้  เอาล่ะได้ฟังหลวงพ่อเอ่ย
เช่นนี้  สงสัยพี่หวนคงจะคิดออกบวชกระมังเสียล่ะเจ้าชวนเอ๋ย” พ่อเชียรแม่เข็มเอ่ยขึ้น
       คราวนี้กำนันหวนหันขวับมาทางพ่อเชียรแม่เข็มทันที ด้วยความสงสัย  ก็ได้ยินหลวงพ่อ
เอ่ยขึ้นเพื่อมิให้สงสัยมากไปกว่านี้
      “โยมเชียรกับโยมเข็มเขาทั้งสองก็มีวิชาอาคมเสมอหลวงพ่อนั่นแหละว๊ะหวน ตลอดจน
สมาธิต่างๆก็เชี่ยวชาญด้วย   ไม่ต้องสงสัยอะไรหรอก”
      “หรือว่า???!!!!.....”  แล้วกำนันก็ได้ยินหลวงพ่อเอ่ยขึ้นอีกว่า
      “ไม่ต้องหรือวง  เดี๋ยวว่าหรอก เอ็งเคยเห็นไหมว่าข้าเคยจะยกย่องใครๆบ้างล่ะ???....”
      “นั่นซิครับหลวงพ่อ ปกติหลวงพ่อจะไม่รับแขกเท่าไหร่หรือรับก็เล็กๆน้อยเท่านั้น
นี่ผมมาเห็นคุยกันอย่างสนิทสนมก็สงสัย เลยไม่กล้าเข้ามาขัดจังหวะครับหลวงพ่อ”
      “เออๆๆดีแล้วล่ะ??....เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วเอ็งกำหนดวันของเอ็งหรือเปล่าล่ะ”
      “ผมจะประชุมผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยพรุ่งนี้แหละครับ ก็จะชวนกันไปลาออกจากกำนัน
เสียที  และบอกแก่ผู้ใหญ่บ้านให้รักษาการณ์ไปก่อนกับท่านนายอำเภอคนใหม่ครับหลวงพ่อ”
      “ข้าเองมานั่งคิดดูหากเองกล่าวเช่นนี้คงหมดปัญหาไปหรอกว๊ะหวนเอ๋ย ไม่ต้องมาบอก
ข้าก็รู้แล้วล่ะ  ให้เอ็งกำหนดวันก็แล้วกัน”
       “ครับหลวงพ่อผมเชื่อหลวงพ่อมากๆครับ” กล่าวเสร็จกำนันหวนก็หันไปทางด้าน
พ่อเชียรและแม่เข็ม และยิ่งเห็นเจ้าชัยด้วย  ในใจก็พลางนึกคิดว่าคงจะสมประสงค์แน่แท้
ด้วยเจ้าชัย รูปร่างหรือตลอดจนใบหน้าก็คมคายยิ่งนัก เห็นว่าหากได้คนนี้มาเป็นเขยทุกๆอย่าง
ก็คงจะเดินไปตามประสงค์ของเรา   ส่วนเจ้าชวนหรือก็ให้รู้สึกต้องอัธยาสัยของเจ้าชัยมาก
ด้วยกำนันหวน  เห็นมันทั้งสองคุยกันอย่างสนุกถูกปากถูกคอเกี่ยวกับงานในไร่นาสวนกัน
ส่วนทางด้านแม่บงกช  ก็เพียงแค่ชำเลืองตามองเจ้าชัยตลอดเวลา.............
                      * แก้วประเสริฐ. *

qp011.gif00029_13.gifCartoon_Animation_08.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus
  • คิดถึงเสมอ

    25 ธันวาคม 2553 21:10 น. - comment id 120774

    36.gif36.gif
    เพิงอ่านได้หกตอนค่ะแต่จะตามอ่านให้ทัน
    พี่ชายคะภาพประกอบดูดีจัง ขอให้พี่ชายมี
    ความสุขมากๆ นะคะ
    
    29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    25 ธันวาคม 2553 21:48 น. - comment id 120775

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ คิดถึงเสมอ
    
           คนมีอายุมากขึ้นอีกปีหนึ่งก็อย่างนี้
    แหละเอ๋ยน้องรัก  เหงาๆเสมือนหนึ่งอยู่
    คนเดียวในโลกใบนี้ ได้อาศัยเวปฯนี้แหละ
    ช่วยให้ความเพลิดเพลินได้ชั่วครั้งชั่วคราว
    จะเขียนดีไม่ดีอย่างไรช่างเถอะนะ เพียงแค่
    ขอระบายสิ่งต่างๆออกมาบ้าง ซ้ำยังได้น้อง
    และพวกเราบางคนมาเป็นกำลังใจคลาย
    เหงาดได้บ้าง แค่นี้ก็ชื่นใจแล้วล่ะ การเชียน
    นี้มิได้หวังอะไรเลย นอกจากเพียงแค่
    ระบายอารมณ์เท่านั้นจ้า รักน้องพี่เสมอๆ
    
               16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • คิดถึงเสมอ

    26 ธันวาคม 2553 12:18 น. - comment id 120776

    flowers_170.gifflowers_170.gifflowers_170.gif
    
    จริงสินะเผลอแปปเดียวอายุเพิ่มมาอีกปีแล้ว
    ไม่เคยอายุมากเท่านี้มาก่อนเลย 46.gif
    แวะมาสัมผัสความเหงาและเอาดอกไม้มาฝาก
    ขอให้พี่ชายดีวันดีคืนนะคะ
  • แก้วประเสริฐ

    26 ธันวาคม 2553 13:08 น. - comment id 120777

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ คิดถึงเสมอ
    
     ขอบใจมากจ้าสำหรับดอกไม้แสนสวย
           น้องรักพี่สังเกตุในตัวเราและอารมณ์
    บ้างไหมว่า เกิดสิ่งเปลี่ยนแปลงไปมากเชียว
    ล่ะน้อง พอมีอายุมากๆเข้าเช่นพวกเรานั้น
    สิ่งใดในอดีตที่ผ่านมาต่างก็ค่อยๆทะยอย
    กันออกมาเรื่อยๆ หากเราควบคุมอารมณ์
    เราไม่ได้ สิ่งแรกคือความอ่อนไหวใน
    อารมณ์ของเราจะมักเป็นคนฉุนเฉียวโกรธ
    ง่ายหากไม่เป็นตามใจนึก หากรู้ไม่ว่าคนอื่น
    เขามองเราเสมือนคนไร้ค่าไปแล้วล่ะ
       สิ่งนี้สำคัญมากต้องควบคุมอารมณ์และ
    จิตใจเราอยู่เสมอไม่หลงไปให้แก่เขานะ
    ยามเมื่อทุกๆสิ่งทะยอยเข้ามาแล้ว ก็ให้
    สร้างมันใหม่ด้วยอารมณ์เป็นกลางเพียง
    แต่มองๆนึกๆดูเท่านั้นเอง จะเกิดอารมณ์
    เบื่อหน่ายทุกๆอย่าง ทั้งหมดนี้ก็ด้วยเหตุ
    ที่เราผ่านชีวิตมาก่อนนั่นเองมันจะหมุน
    เวียนไปเป็นลักษณะวงกลม หากที่มอง
    เห็นง่ายๆคือ รูปลักษณ์เสื้อผ้าที่สุภาพสตรี
    แต่งซิ  จากเก่ามาหาใหม่ และจากใหม่
    ย้อนกลับไปหาเก่า จะเปลี่ยนแปลงบ้าง
    ก็นิดๆหน่อยๆเท่านั้น เอง แค่นี้ก่อนนะจ๊ะ
             พี่รักน้องมากเสมอๆ
    
            16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แจ้นเอง

    26 ธันวาคม 2553 21:16 น. - comment id 120782

    36.gif
    
    เป็นคนเหงาๆนี่เองเลยจับคู่กันเป็นว่าเล่นเลย อิอิ
    
    รักษาสุขภาพนะคะคุณแก้ว
    
    น้ำตกที่ไหนเอ่ย  1.gif31.gif
  • แก้วประเสริฐ

    26 ธันวาคม 2553 23:56 น. - comment id 120786

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แจ้นเอง
    
            ก็คนเหงาๆนี่แหละจ้า เราไม่มีปัญญา
    ก็สร้างมโนภาพทางนี้แหละ อิอิ รักแจ้งมาก
    เสมอครับ ส่วนน้ำตกจำไม่ได้แล้วครับ
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน