อทิสมานกาย ๕๘

แก้วประเสริฐ

76.gif
                        *  อทิสมานกาย ๕๘  *
   หลังจากที่ทั้งสี่กินอาหารได้เวลาสมควรแล้ว  ก็ไปเบิกเงินกับเสี่ยเม้ง
ในการทำงานครั้งนี้ก่อนจะแยกย้ายกันกลับนั้น  เจ้าเซี๊ยะ 
 ก็หันไปถามพวกทั้งสามทันที
    “ไอ้มุ้ย....งานนี้คงไม่ยากเย็นอะไรหรอกว๊ะ แล้วมึงจะนำของ
ที่มึงเก็บไว้ไปที่ไหนหรือ”
    “กูคิดว่าจะไปทางด้านเขานอกเมืองทางทิศเหนือ เด็กมันบอกว่ามีถ้ำ 
ลึกลับซับซ้อนอยู่
ภายในถ้ำยังมีหลีบซอกแยกแยะกันมากมายนัก  ยากแก่การค้นหาว๊ะ..
    “ดีนะที่กูนั้นได้ไปดูสถานทีก่อนที่จะมาแล้ว เมื่อได้รับข่าวว่า
ไอ้เสี่ยหว่างมันตายแล้ว เรื่องนี้มันจะบานปลายว๊ะไม่คิดว่าจะมาใช้ใน
คราวนี้นี่เอง” ไอ้มุ้ยเอ่ยอีก
  “กูจึงเสียเวลาหน่อยไปกับลูกน้องดูแล้วมันก็จริงที่กูคิดไว้จึงไม่ลำบาก
อะไรนักหรอก แต่ว่าระยะทางมันไกลนี้ซิกลัวอย่างเดียวจะเป็นปัญหา
ในการขนย้ายนี่แหละ” ไอ้มุ้ยรำพึง
   “อ้อๆๆๆ...แล้วมึงไอ้เซียะมีคิดวางแผนหรือยังล่ะ???...”
ไอ้มุ้ยหันหน้ามาถามบ้าง??..
   “กูเองยังไม่ได้วางแผนอะไรเลยว๊ะ???...ไอ้มุ้ย เอๆๆๆ...
แต่แผนมึงเข้าท่านี่หว่าซ้ำมึงยังไปดูสถานที่อีกด้วย   
แล้วมึงล่ะไอ้เช้ง ไอ้สุย มึงคิดวางแผนเหมือนไอ้มุ้ยหรือเปล่า???....”
ไอ้เซี๊ยะเอ่ยถาม
   “กูเองก็เหมือนมึงนั่นแหละ ไอ้ห่าเสี่ยมันสั่งกระทันหันเสียด้วยว่า
มะรืนนี้จะสอบถามเด็กๆมันดู” 
ไอ้สุยตอบ  แล้วมันหันไปมองหน้าไอ้เช้ง  เห็นไอ้เช้งเอามือลูบหัวมันที่ล้าน
เข้าไปครึ่งกะบาลแล้ว
   “ไอ้ห่าเช้ง มึงไม่ต้องลูบหัวมึงหรอกโว้ย หัวมึงล้านเข้าไปครึ่งหนึ่งแล้วล่ะว๊ะ”
    “เรื่องของกูโว้ย ไอ้ห่านี้ไม่รู้หรือเวลานักปราชญ์เขาใช้ความคิด
เขาทำอย่างไรบ้าง ไอ้โง่ ไอ้ส้นตีน???..”
    “นั่นมันนักปราชญ์โว้ยแต่มึงมันแค่ส้นตีนปราชญ์ว๊ะ”
 เมื่อกล่าวจบก็รีบดึงร่างไอ้เซี๊ยะออกมาบังร่างมันทันที 
เมื่อแลเห็นส้นตีนมันถีบเข้ามาหามันทันใด
     แล้วมันก็หัวร่อลั่นเมื่อส้นตีนมันถูกไอ้เซี๊ยะเข้าเต็มเปา จนไอ้เซี๊ยะเซแซดๆๆ  
     “คนละชั้นโว้ย???....ไอ้เช้ง”  ไอ้สุยล้อเพื่อนมันเล่น
    “ไอ้เห้!!!!....เล่นกันเหมือนเด็กๆอยู่ได้ งานสำคัญนะโว้ย หยุดๆๆๆ”
 เสียงไอ้เซี๊ยะห้ามทันที
    “แล้วมึงคิดอย่างไรว๊ะไอ้เช้ง???...มึงยังไม่ได้พูดเลยนี่หว่า”  
ไอ้เซี๊ยะถามเพื่อมันจะได้วางแผนตามบ้าง
   “กูเหมือนมึงแหละว้าไอ้เซี๊ยะ ไม่ได้วางวงวางแผนอะไรหรอก” 
ไอ้เช้งเอ่ยขึ้น
   “สรุปได้ว่ามีไอ้มุ้ยคนเดียวเท่านั้นที่วางแผนล่วงหน้าไว้  เอาอย่างนี้ดีกว่าว๊ะ
ไม่รู้ว่าพวกมึงจะเห็นเป็นอย่างไรกันบ้าง   เมื่อไอ้มุ้ยไปทางเหนือ  กูก็จะลงใต้ 
แล้วมึงไอ้สุยกับไอ้เช้งล่ะ ไปทิศไหนโว้ย???.....
กูคิดว่าให้พวกเราต่างแยกย้ายกันไปคนละทิศทาง
 หากตำรวจมันตรวจค้นก็จับไม่ได้ทั้งหมดหรอกว๊ะ”
ไอ้เซี๊ยะเอ่ยแนะคนทั้งสอง ในแผนการขนย้ายของไปหลบตำรวจคราวนี้
   “ที่จริงมันก็ดีเหมือนกันว๊ะไอ้สุย ต่างคนไปคนละทาง เอาล่ะว๊ะกูเห็นด้วย
 แล้วค่อยกลับมารายเสี่ยมัน บางทีมันอาจจะไปดูงานเมื่อพวกเราทำกันสำเร็จ” 
 ไอ้เช้งเอ่ยขึ้น
   “นั่นซิกูก็เห็นด้วยกับไอ้เซี๊ยะมัน  แล้วมึงจะไปทางไหนล่ะ ไอ้มุ้ยไปทิศเหนือ
 ไอ้เซี๊ยะไป ทิศใต้เหลืออีกสองทิศ  มึงจะทิศไหนบอกมา
ที่เหลือเป็นของกูว๊ะไอ้เช้ง???...” ไอ้สุยเอ่ยขึ้น
   “งั้นกูเอาทิศตะวันตกก็แล้วกันมันใกล้ถิ่นกูหน่อยว๊ะ
 ส่วนทิศตะวันออกเป็นของมึงไอ้เช้ง”
   “เมื่อพวกมึงตกลงกันได้  แล้วงานจะเริ่มเมื่อไหร่ล่ะว๊ะ???.. 
 กูว่าจะเริ่มพรุ่งนี้เลยอันดับแรกไปดูสถานที่ก่อน เรื่องไอ้เสี่ยเม้งไม่มาตรวจ
กูคิดว่าไม่มีหรอกว๊ะ อย่างไรมันก็ต้องไปตรวจดูแน่ๆ”
   “ตกลงกูทิศตะวันออก เหมือนมึงจะรู้นะไอ้เวร???...
ก็มันถิ่นกูนี่หว่า ส่วนไอ้มุ้ยนั้นแน่นอน
มันต้องเลือกใกล้ถิ่นมันแหละว๊ะ  ไอ้เห้...เซี๊ยะก็เหมือนกันเอาถิ่นมัน
เหมือนพวกเราแหละว้า??.”
   “เออๆๆๆ....เมื่อตกลงกันได้แบบนี้ งั้นแยกกันนะโว้ย  งานใครงานมัน”
 ไอ้เซี้ยะสรุปทันที
   แล้วพวกมันทั้งสี่ก็แยกย้ายจากกันทันที  เสียงรถยนต์ส่วนตัวเริ่มส่งเสียงเมื่อ
สตาร์ทเครื่องต่างคนต่างกลับ  ส่วนไอ้มุ้ยมันรำพึงขึ้นในรถว่า
    “ดีนะที่กูสังหรณ์ใจตั้งแต่ไอ้เสี่ยหว่างตายห่าไปแล้ว ยิ่งไอ้เสี่ยเล้งถูกจับอีก 
คราวนี้ต้องถึงเราแน่ๆ”
    “เฮียๆๆๆ...จะแวะไปที่ไหนอีกหรือเปล่าล่ะเฮีย???...” คนขับรถถาม
    “ไม่หรอกว๊ะไอ้เปี๊ยะไปบ้านเราดีกว่ากูต้องไปนอนวางแผนก่อน
  เออๆแล้วเหล้าในรถมีหรือเปล่าว๊ะ?????.......”  ไอ้มุ้ยถามขึ้น
   “มีเฮีย...ยังเหลือแปล๊คอยู่อีกสามขวด”  ไอ้เปี๊ยะตอบ
    “เออๆๆดีแล้ว  งั้นคืนนี้มึงเอาไปขวด  แต่อย่าแดกให้เมาก่อนเสียล่ะ
 พรุ่งนี้มึงสั่งเป๋งไปหาพวกมาอีกสักเจ็ดแปดคนแต่ให้มันคัดคนด้วยนะโว้ย 
เดี๋ยวมันเสือกเอาขี้ยามาเหมือนงานคราวที่แล้ว    ทำให้งานเกือบจะต้อง
วุ่นวายฉิบหายไปจะเสียงานไปแล้วล่ะ???”
  “ครับเฮีย...ส่งเฮียเสร็จข้าก็จะไปสั่งไอ้เป๋งทันที” 
 “เออๆๆดีแล้วล่ะงานคืองานนะโว้ย  นี่มึงเอาเงินไปใช้เล่นๆ
สักหน่อยก็แล้วกันว๊ะ” พลางล้วงหยิบเงินอย่างไม่ต้องนับส่ง
ให้ลูกน้องมัน ปึกหนึ่ง   เล่นเอาไอ้เปี๊ยะยิ้มแก้มแทบแตก
   “ก็เงินดีแบบนี้นี่เฮียใครบ้างล่ะไม่ทำก็โง่ฉิบหายเลย???...”  
ไอ้เปี๊ยะเอ่ยเบาๆ แต่ไอ้มุ้ยได้ยิน
   “เดี๋ยวกูก็ถีบหรอกว๊ะ  เร็วๆๆโว้ย   เฮ้ยๆๆแบ่งให้ไอ้เป๋งมันบ้างนะโว้ย
ไม่ใช่ของมึงคนเดียว  ให้มึงไปแบ่งพวกๆด้วยนะ ที่กูส่งให้ก็หลายกูไม่ได้
นับหรอก  เพิ่งจะเบิกจากเสี่ยมันมาว๊ะ ส่วนคนดูแลของและขนของนั้น
เดี๋ยวเสร็จงานกูก็จะให้พวกมันอีก  แต่นี่เป็นของมึงกับไอ้เป๋งก่อน”
ไอ้มุ้ยสั่ง หากมันไม่สั่งแบบนี้ไอ้เปี๊ยะอุบหมดคนเดียว
     สักครู่หนึ่งรถก็แล่นลับเหลี่ยมมุมตึกหายไป   เพียงแค่ได้ยินเสียงรถเบาๆ
  ส่วน ไอ้เซี๊ยะ ไอ้เช้ง ไอ้สุย  เมื่อแยกกันแล้วไอ้เช้งก็ให้คนขับรถไปตรวจ
ดูที่เก็บของเพื่อจะเริ่มย้ายในวันมะรืนนี้ตามที่มันคิด  ต้องการให้งานเสร็จเร็วๆ
     อีกราวก่อนใกล้วันอาทิตย์ทั้งสี่ก็เข้ามาพบเสี่ยเม้งรายงานผลงาน
ของพวกมันว่าได้สำเร็จเรียบร้อยกันหมดทุกๆคน  พร้อมรายงานผลต่างๆให้รู้
เพื่อให้เสี่ยไม่ต้องเป็นห่วงเกี่ยวกับงานขนของหาที่ซ่อนใหม่   เสี่ยมันก็เอ่ยว่า
     “เออๆดีว๊ะ งั้นเดี๋ยววันอาทิตย์กูจะไปตรวจดูของเสียหน่อย”  
ทำให้ทั้งสี่หันมามองหน้ากันด้วยพวกมันคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว
   “แล้วมึงจะว่าอย่างไร ไอ้เซี๊ยะ ไอ้สุย ไอ้เช้ง ไอ้มุ้ย???...” เสี่ยถาม
   “ไม่เป็นปัญหาหรอกเสี่ยเมื่อไหร่ก็ได้นะ”  ทั้งสี่ตอบทันที
   “ตกลงว๊ะ ถ้าอย่างงั้นวันอาทิตย์ถึงนี้มึงทั้งหมดมาพบกูที่นี่ก่อน
       เก้าโมงเช้านะโว้ย กูจะไปดูงานใช้เวลาวันเดียวก็คงทัน 
หรือพวกมึงเห็นเป็นอย่างไรว๊ะ???...”  เสี่ยเม้งเอ่ยถาม
   “ข้าคิดว่าคงจะทันหรอกเพราะถิ่นที่อยู่ของพวกเราก็ในเขตเมือง
เพียงแค่ออกไปนอกเมืองเท่านั้นแต่ว่าล้วนแล้วแต่เป็นภูเขา
สลับซับซ้อนนะเสี่ย???...”  ทั้งหมดเอ่ยเกือบพร้อมๆกัน
   “แล้วพวกมึงไม่นั่งกันก่อนหรือว๊ะ กูเห็นเดินไปเดินกันมา ไอ้ห่า???...”
   “ไม่หรอกเสี่ย รายงานเสร็จก็จะไปสืบร่องรอยดูว่า
ไอ้พวกตำรวจมันจะมีสายรู้หรือเปล่า??”ไอ้สุยเอ่ยขึ้น
   “พวกข้าก็เหมือนกันเสี่ย พอรายงานเสร็จก็จะรีบไปดูทางลูกน้อง
ด้วย งานมันใหญ่นะเสี่ย”ทั้งสามที่เหลือกล่าวบ้าง
       “เออๆๆ....ดีว๊ะ  กูใช้พวกมึงมาไม่เคยพลาดเลยนี่นา 
พวกมึงเหมือนมือตีนกูทั้งสี่แหละโว้ย      กูขอบใจมากว๊ะ 
หากสถานะการณ์ปกติก็จะนำมันกลับมาอีก พวกมึงก็มีรายได้พิเศษอีก”
เสี่ยเม้งกล่าวให้กำลังใจแก่พวกมัน
   “นั่นซิพวกข้าถึงไม่ได้นิ่งนอนใจกัน งานคืองาน กินคือกิน เที่ยวคือเที่ยวเสี่ย”
  ไอ้เช้งเอ่ยบ้าง
   “เอาล่ะโว้ย งั้นมึงจะกลับก็กลับกันได้โว้ย เดี๋ยวกูจะโทรทางไกล
ไปในกรุงเทพฯหน่อยว่าทางไอ้เล้งเป็นอย่างไรบ้าง???...”  เสี่ยเม้งเอ่ย
   “ถ้าอย่างนั้นพวกข้าไปแล้วล่ะเสี่ย”  ไอ้เซี๊ยะกล่าวแทนพวกมัน
   “อาทิตย์นี้เจอกันอีกนะโว้ย  ให้ตรงต่อเวลาด้วยล่ะ”
   “ไม่ต้องห่วงหรอกเสี่ย” ทั้งหมดกล่าว
     แล้วทั้งหมดก็ออกจากห้องของเสี่ยเม้ง  แล้วต่างก็แยกย้ายกันจากไป
เพียงแค่โบกมือลากันเท่านั้น
     ครั้นรุ่งเช้าวันอาทิตย์ทั้งหมดก็ออกมาพบกันที่ลานจอดรถของบ้าน
เสี่ยเม้ง  เมื่อครบกันเรียบร้อยเสี่ยเม้งหันมามองยังรถทั้งหมด มันคิดว่า
หากจะไปด้วยกันทั้งสี่คัน คงจะไม่ดีแน่จะเป็นที่สงสัยแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
จึงหันไปปรึกษากันใหม่ทันที
   “ ข้าว่าหากพวกเราไปกันทั้งหมดนี้ก็จะอิกเกริกไม่น้อยเลยว๊ะ หรือถ้า
หากแยกย้ายกันไป ก็จะรวมกันยากเอาอย่างนี้ดีกว่า พลางหันไปสั่งทันที
   “ไอ้มุ้ย กูว่าจะไปทางมึงก่อนดีกว่า ด้วยจากบ้านกูไปยังที่เก็บของๆมึง
มันจะใกล้กว่ากัน   ส่วนไอ้เซี้ยะ ไอ้เช้ง ไอ้สุยให้คอยทางนี้ไว้ก่อน
หากไปพร้อมๆกัน  มันจะเป็นจุดสนใจของตำรวจว๊ะ
หรือพวกมึงจะเห็นอย่างไร???...กันว๊ะ ลองให้ความเห็นแก่กูหน่อย”
   “ก็ดีเหมือนกันเสี่ยด้วยว่าหากนั่งไปด้วยกันคนคุ้มกันตั้งสี่คนนั้นที่นั่ง
ก็คงจะไม่พอ หรือว่าเสี่ยจะเอารถตู้ไปก็คงดีนะ จะได้ไปกันหมดดีกว่า
เอารถส่วนตัวไป จริงไหมว๊ะพวก??..”  พลางหันมาทางพวกมันทั้งสาม
   “จริงของไอ้สุยมันว่า พวกเราจะได้ไปกันหมดและไม่ต้องเสียเวลาด้วย”
ไอ้มุ้ยเอ่ยขึ้น  หันหน้าไปทางเสี่ยเพื่อขอความคิดเห็น
   “นั่นซิเสี่ย  หากเอารถตู้ไปก็ดีเหมือนกันนะ ไปทางทิศเหนือแล้ววกย้อน
ไปทางทิศตะวันตกแล้ววกลงมาทางทิศใต้แล้วย้อนไปทางตะวันออกก็คง
จะดี  ทางนั้นมันออกมาหน่อยก็จะมีทางไปเสี่ย”  ไอ้เซี้ยะออกความเห็น
   “แล้วมึงล่ะไอ้เช้ง???...เห็นว่าอย่างไร???...”
   “ก็ตามไอ้เซี๊ยะบอกก็ดีเหมือนกันด้วยถนนมันเชื่อมกันอยู่แล้วคนรถเสี่ย
คงจะรู้ทางหรอกเดี่ยวนี้รถมันมีแผนที่คอมฯอยู่แล้วนา” ไอ้เช้งตอบ
   “อืมๆๆ...จริงของมึงว๊ะ” พลางหันหน้าไปถามคนคุ้มกันที่ทำหน้าที่ขับรถ
ไปด้วย
“มึงล่ะไอ้หว่า???...จะมีปัญหาเกี่ยวกับทางไหมว๊ะ???...”  เสี่ยถาม
  “ไม่มีปัญหาเรื่องทางหรอกเสี่ยคนขับรถที่หน้าตามันเคร่งขริมค่อนข้างดุเอ่ย”
  “ถ้าพวกเอ็งเห็นกันแบบนี้ก็ตกลง  ไอ้หว่ามึงไปรถตู้ที่โรงเก็บออกมาได้แล้วว๊ะ”
      ไอ้หว่าไม่พูดมากมันขับรถส่วนตัวไปเก็บ สักพักหนึ่งก็เอารถตู้ขนาดใหญ่
ขับออกมา  เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทาง ด้านหน้าไอ้มุ้ยนั่งคู่กับไอ้หว่า
ถัดมาก็เป็นเสี่ยเม้งและมือปืนมันนั่งกระหนาบข้างซ้ายขวา ด้านหลังก็นั่งด้วย
ไอ้เซี้ยะ ไอ้สุย ไอ้เช้ง และมือปืนอีกคนนั่งอยู่ด้านข้างๆประตูรถ
 เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยรถก็ขับออกจากบ้านเสี่ยมุ่งออกจากตัวเมืองแล่นไปตาม
ทางภูเขาด้านทิศเหนือทันที ครั้นรถออกนอกเมืองแล้ว  ไอ้หว่าก็เร่งความเร็วไป
ตามทางที่ไอ้มุ้ยบอกทันที
      รถขับไปถนนว่างด้วยเป็นตอนเช้าจะมีสวนกันมาบ้างก็นานๆจะมีสักคันเมื่อ
แล่นคดเคี้ยวไปคดเคี้ยวมา  ไอ้มุ้ยก็บอกให้ไอ้หว่าชะลอเครื่อง
    “มึงเลี้ยวรถทางแยกซ้ายมือของหน้านี้แหละว๊ะ”  มันกล่าวกับไอ้หว่า
    พอรถมาถึงทางเลี้ยวซ้าย ไอ้หว่าก็ขับรถเข้าซอยทันทีที่ล้วนแล้วแต่ทางขรุขระ
แต่ต้องหยุดชะงักทันรถ ด้วยข้างหน้ามันมีคนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาโบกรถอยู่ 
 เป็นชายประมาณห้าหกคนทั้งหมดล้วนขี่รถมอเตอร์ไซค์กันทั้งสิ้น 
มันทั้งหมดจอดรถรอคอยอยู่แล้ว รูปร่างหน้าตาแต่ละคนล้วนเป็นคนท่าทางเอาเรื่อง
   เมื่อรถจอดสนิท ข้างๆรถมอเตอร์ไซค์  ไอ้มุ้ยก็ลงไปคุยกับคนกลุ่มนั้นทันที แล้ว
ก็ย้อนมาขึ้นรถ หันไปกล่าวกับไอ้หว่าทันที
   “เดี๋ยวพวกกูจะนำทางไปคอยป้องกันให้ด้วยทั้งข้างหน้าข้างหลัง  มึงขับตามมันไป
ก็แล้วกัน”  ไอ้มุ้ยบอก
     ไอ้หว่าพยักหน้าไม่พูดอะไรก็ขับรถตามมอเตอร์ไซค์สามคันที่ออกนำหน้าไปก่อน
 ส่วนด้านหลังประกบอีกสามคัน  พอพ้นถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่นแดง   ข้างหน้ามีทาง
เลี้ยวอีกไอ้หว่าเห็นมอเตอร์ไซค์สามคันเลี้ยวไปในถนนแคบๆ  ถนนที่ขรุขระนั้นก็เป็น
ทางลาดลงไปยังเบื้องล่าง คดเคี้ยวไปๆมาๆไปตามทางเลียบแนวเขา  แลเห็นรถทั้งสาม
เลี้ยวเข้าไปในป่าข้างทางทันที  แต่ก็พอให้รถตู้เข้าไปพอดีแต่ช้าๆด้วยถนนไม่ดี
    ได้ยินเสียงเสี่ยเม้งพำพรำออกมาพอได้ยินเล็ดรอดออกจากปากมัน  
   “ไอ้มุ้ยมันช่างหาสถานที่จริงๆว๊ะ ไปมาลำบากฉิบหาย แล้วทางมึงล่ะไอ้เซี้ยะ ไอ้เช้ง
ไอ้สุย  ทางแบบนี้หรือเปล่าว๊ะ”
    “เดี่ยวเสร็จจากดูของไอ้มุ้ยแล้วเสี่ยก็รู้เองแหละ คงไม่แตกต่างกันเท่าไหร่หรอก”
ไอ้เซี้ยะบอก
    “ส่วนทางข้างนั้นก่อนจะถึงที่ต้องเดินทางด้วยเท้า รถเข้าไปไม่ได้หรอกนอกจาก
รถมอเตอร์ไซค์เท่านั้น”  ไอ้มุ้ยหันมาเอ่ยให้ฟัง
   “ไอห่า??...สมกับเป็นเพื่อนกันเลยว๊ะ ทำงานยังคล้ายๆกันอีก เหมือนทางนี้แหละเสี่ย”
ไอ้สุยรายงานหนทางไปตรวจของของมันให้เสี่ยฟัง พร้อมชี้มือไปทางข้างหน้าด้วย
   “ส่วนของข้าก็คงจะเหมือนไอ้สุยแหละเสี่ยต้องเดินทางด้วยเท้าด้วย”  ไอ้เช้งกล่าว
    คนทั้งสี่กล่าวยังไม่ทันจบดีนัก  รถที่ไอ้มุ้ยบอกทางไอ้หว่าก็ต้องจอดรถข้างๆด้วย
ทางมันตันไปไม่ได้
   “เสี่ยสิ้นสุดทางแล้วล่ะ ต้องเดินไปอีกเกือบร้อยเมตรก็จะถึงถ้ำแล้วล่ะ” กล่าวจบ
ไอ้มุ้ยก็ก้าวลงจากรถ หันไปเลื่อนประตู้รถให้เสี่ยเม้งทันที
   “ไอ้หย๊า!!!!เฮ้ย???....ทางมันช่างลึกลับจริงๆว๊ะ  เฮ้ยๆๆ...กูต้องลงเดินอีกหรือโว้ย??.”
   “อ้าวๆๆๆ...ถ้าไม่เป็นแบบนี้ง่ายๆพ่อมันก็มาหาได้ง่ายๆนี่เสี่ย น่าเดินอีกไม่เท่าไหร่
แต่ระวังพวกทากกับปลิงด้วยนะ มันชุมเสียด้วยซิ”  ไอ้มุ้ยเอ่ย
   ร่างที่ขาวอ้วนคล้ายหมูของเสี่ยต้องสะดุ้ง   เมื่อไอ้มุ้ยบอกว่ามีพวกทากกับปลิงชุกชุม.....
             *  แก้วประเสริฐ. *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gifflowers_170.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน