อทิสมานกาย ๖๒

แก้วประเสริฐ

76.gif
                        อทิสมานกาย ๖๒
   ครั้นเลยบ้านกำนันมั่น  มาได้สักพักเจ้าชวนก็เบรครถหยุดทันที 
 พร้อมหันมาทางกำนันหวนพลางเอ่ยปากขึ้นทันที
   “พ่อครับพ่อ...พ่อช่วยขับรถกลับบ้านหน่อยได้ไหมครับ....”
  เสียงเจ้าชวนออกจะเครียดๆ
   “มีอะไรหรือลูก???...อ้าว???...ทำไมไม่ขับต่อไปล่ะหยุดเสียทำไม???...
   “ไม่มีอะไรหรอกครับ  ผมจะไปสั่งสอนมันสักหน่อย 
ดูซิครับมันยิงปืนไล่หลังเรามา มันออกจะนักเลงไปแล้วล่ะครับ
รังแกคนแบบนี้ผมไม่ชอบเสียด้วย”ใบหน้าหนุ่มค่อนข้างจะเครียด
พร้อมชักปืนออกมาตรวจสอบทันที
   “ไม่เอาน่าลูก...ใจเย็นๆไว้อย่าไปหาเรื่องกับคนบ้านมันเลย
      อีกอย่างกำนันมั่นมันก็เคยทำงานร่วมมากับพ่อด้วย พ่อขอร้องเถอะ”
กำนันหวนเอ่ยปากห้ามปรามลูก
   “ถึงอย่างไรก็ตามมันไม่น่าจะทำแบบนี้นะครับพ่อ
 คงจะเคยทำมามากๆจนได้ใจ ผมเองนั้นไม่ชอบให้มาหยามหน้าหรอกครับ”
   “เถอะน่าช่างมันเถอะลูก ไหนๆพ่อก็จะเลิกคบแล้วจะไปบวชอีกไม่นานนี้
 พ่อขอร้องล่ะอย่าไปมีเรื่องอะไรอีกเลยทำใจเย็นเสียบ้างนะลูก 
 พ่อเองก็เข้าใจลูกพ่อดี”
กำนันหวนเตือนลูกชาย
   “ถ้าหากลูกหลงมาถูกพ่อ แม่และน้องๆล่ะครับ  บอกก่อนนะครับ
ถึงพ่อจะห้ามอย่างไรผมก็ขอเสียทีเถอะ   อย่าหาว่าผมเป็นคนอกตัญญูนะพ่อ
รับรองว่าไอ้พวกนี้ไม่เท่าไหร่หรอกครับ ผมจะถล่มบ้านมันให้พังพินาศหมด 
ดูซิว่าหากมันพบกับคนที่ไม่เกรงกลัวมันจะทำอย่างไรบ้าง  
ไอ้พวกนี้ดีแต่พวกหมาชอบรุมกินโต๊ะเขา ผมเห็นมันแล้ว
     เมื่อมีงานที่วัดโคกอีแร้ง มันมาลวนลามน้องกชผมกับพวกแค่สามคน
ไล่เตะมันกับพวกมากกว่าเกือบเท่าตัวร้องเป็นหมาแตกกระเซิงไป หนีกลับบ้าน
คนวิ่งคนแรกก็ไอ้ลูกกำนันมั่นนั่นแหละสั่งให้พวกมันหนี 
หากพ่อไม่เชื่อลองถามน้องกชดูก็ได้ครับว่ามันกวนเพียงไร เห็นน้องกชไป
กับพวกสาวๆเพียงสามสี่คนเท่านั้นมันเข้ามาลวนลาม ดีนะผมสังหรณ์ใจ
เมื่อถามน้องกชว่าจะไปเที่ยวที่ไหนจึงทราบ  และนำพวกไปอีกสองคนครับ”
หนุ่มเลือดร้อนเอ่ยด้วยความหัวเสียใบหน้าทมึงมึงอย่างน่ากลัว
  จนพ่อกำนันหวนเองก็สะดุ้งในใจด้วยตั้งแต่เขาเลี้ยงมันมาจนโตป่านนี้
ไม่เคยเห็นอารมณ์ฉุนเฉียวแบบนี้เลย  นี่ดีนะที่เขาคอยห้ามปรามไม่เคยคิดจะ
สนับสนุนมันหากเหมือนไอ้มั่นแล้ว ป่านนี้หมู่บ้านอื่นเดือดร้อนไปตามๆกัน กำนันคิด
  “ไป...ขับรถไปเถอะลูก พ่อเองตั้งแต่คิดจะบวชนี้ใจคอมันเย็นขึ้นอย่างประหลาดนะ 
 ไหนๆพ่อก็จะบวชแล้วพ่อขอเสียที หากพ่อไม่คิดจะบวชพ่อเองก็ไม่ยอมหรอก
เหมือนลูกเหมือนกันแหละชวนเอ๋ย”
พ่อกำนันหวน พลางเอื้อมมือไปตบไหล่มันปลอบใจ เห็นมันยกมือขึ้นไหว้
    “ขอโทษครับพ่อมันน่าจริงๆ...ฮึๆๆหากพ่อแม่น้องไม่มาผมคนเดียวนี้แหละ
จะทะลายมันให้ดู พวกมันขี้ขลาดทุกๆคนเลย คราวที่แล้วพวกมัน
พอรู้จะต้องไปต่อสู้หายหน้าไปหมดทิ้งให้พ่อกับผมต้องลุยสองคนพ่อลูกกับเพื่อนๆ
จนตายกันเจ็บกันกลับมา  แต่นอกวงนะพวกห่านี่เก่งกันทุกๆคน”
  เจ้าชวนเอ่ยพึมพรำด้วยพยายามระงับอารมณ์ของมันอย่างสุดขีด แล้วขึ้นรถสตาร์ทรถ
ออกเดินทางต่อทันที
   “มีเรื่องอะไรกันหรือพี่หวน???.....”  
เสียงแม่เย็นเอ่ยถาม
   “ไม่มีเรื่องอะไรหรอกแม่เย็น  ชวนมันอารมณ์เสียนิดๆหน่อยเท่านั้นเอง”
   “นึกว่าจะมีเรื่องเมื่อกี้นี้ได้ยินเสียงปืนดังสามนัดนะพี่”
   “จริงจ๊ะพ่อ กช ก็ได้ยินเช่นกัน???....”
  “แล้วพี่ชวนหยุดรถทำไมกัน”  หญิงสาวหันหลังมาถาม พี่ชายทันที
   “ไปได้แล้วล่ะชวนเอ๋ย”
กำนันหันไปบอกลูกชายไม่ต้องหยุดรถไม่ให้บอกแก่แม่และน้อง
จึงพูดตัดบทเสียเลย แต่ไม่วายเร่งให้ลูกขับรถเร็วขึ้น หันมาเอ่ยว่า
   “เรื่องมันเป็นอย่างนี้แม่เย็นลูกกช  ไอ้พวกบ้านกำนันมั่นสงสัยจะเป็น
พวกลูกชายมันนั่นแหละมันออกมา
แล้วยิงปืนไล่มาทางเรานะ  ชวนมันไม่พอใจจะให้ข้าขับรถกลับบ้านแล้ว
 มันจะกลับไปเล่นงานบ้านกำนันมั่นเอง
แต่ข้าได้ห้ามมันไว้แล้วล่ะ  อย่างไปสนใจอะไรเลยพวกหมาเห่าใบตองแห้งทั้งนั่น
แหละแม่เย็น กช อย่าคิดอะไรอีกเลยนะ”
   “อ้อๆๆๆแบบนี้นี่เอง มันคงนึกว่าเคยรังแกคนของบ้านมันมาแล้วเลยได้ใจ  
น่าจะกลับรถไปสั่งสอนมันสักตั้งนะพี่  ฉันถึงจะแก่ก็จริงแต่ยังเหลือลายไว้บ้างนะ
  หรือจะให้ชวนมันกลับรถไปล่อกับมันสักตั้งไหมพี่???......”
   “พอๆๆๆๆพูดให้ฟังก็แบบนี้แหละ แล้วยังงี้จะให้ข้าออกบวชได้อย่างไรกันล่ะ???...”
   ครั้นแม่เย็นสาวบงกชได้ยินคำนี้ก็ชะงักทันทีว่าจะเอ่ยต่อก็เลยหยุดกึกไม่กล้ากล่าวอะไรอีก
   “ไปเลยลูกชวนวันหน้าวันหลังยังมีอีกให้พ่อเขาได้บวชๆก่อนก็แล้วกันนะ
 นึกว่าทำบุญแก่หมามันก็แล้วกัน”
   “ครับแม่ คงจะไม่มีครั้งนี้ครั้งเดียวหรอกครับ  แต่ผมบอกก่อนนะว่าวันงานบวชพ่อ
ไม่แน่นะแม่ หากมีเรื่องเมื่อไหร่ได้เอาเลือดเส้นสังเวยวัดฉลองงานบวชพ่อเสียเลย”
   เจ้าชวนขับรถไปพลางเอ่ยคำขึ้น   เล่นเอากำนันหวนสะดุ้ง 
เพราะรู้นิสัยของเจ้าชวนดีกว่าหากใครมาตีหลังมันเมื่อไหร่ไม่มันตายก็ฝ่ายโน้นแหละต้องตาย
 ด้วยเจ้าชวนมันก็หนึ่งพอตัวมัน คนในบ้านบางโครู้จักมันดี
ตลอดถึงนิสัยมันเป็นคนอย่างไร  แต่ปกติมันมีนิสัยโอบอ้อมอารีแม้ว่าจะเป็นถึงลูกกำนัน
แต่มันไม่เคยไปรังแกใครก่อนเลยนอกเสียจากใครจะมารังแกพวกมัน
         ปกติมันเป็นคนเรียบร้อยขรึมไม่ค่อยจะพูดกับใครนอกจากคนในบ้าน
และพวกมันบางคนเท่านั้น  และเพื่อนของมันเรียกกันว่าตัวเป็นตัวตายสามารถตายแทนกัน
ได้เรื่องนี้พ่อกำนันรู้ดีแก่ใจ   หากปล่อยให้มันไปต้องมีคนตายอย่างน้อยห้าหกคนแน่นอน
อาจจะรวมถึงมันด้วย  เวลามันได้ลุยแล้วจะไม่คำนึงถึงตัวเองเสียอีกด้วย
       เพียงสักครู่ใหญ่รถก็วิ่งเข้ามาในเขตหมู่บ้านบางโค มันขับรถอย่างช้าๆ
 พอผ่านคนกลุ่มหนึ่งมันก็ส่งสัญญาณซึ่งรู้กันระหว่างมันกับพวกเท่านั้น  
กำนันเองก็งงแล้วมันก็ขับรถไปจนถึงบ้าน  เมื่อส่งกำนันกับแม่และน้อง
เสร็จมันก็ขอตัวไปข้างล่างหน่อย  ทันใดนั้นเสียงรถมอเตอร์ไซค์ก็แล่นออกจากบ้าน
ไปอย่างรวดเร็ว
     พอกันนันได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นเท่านั้นก็ยกมือตบอกผาง เอาแล้วซิกูนึกอยู่แล้ว
  “อะไรหรือพี่กำนัน”  แม่เย็นถามด้วยความสงสัย
   “จะมีอะไรอีกล่ะแม่เย็น  เจ้าชวนมันคงจะแค้นใจมากเมื่อกี้นี้แม่เย็นคงจะไม่ทันสังเกตุ
หรอกมันส่งสัญญาณให้พวกมันที่อยู่หน้าร้านแม่ลัดดาขายอาหารข้างทางนั่นแหละ 
ข้าสังหรณ์ใจว่ามันคงจะนำพวกไปเล่นงานฝ่ายโน้นแน่ๆ”
   “เออๆๆดีเหมือนกันพี่  จะให้ไอ้พวกโน้นรู้เสียบ้างว่าคนบ้านบางโคไม่ใช่จะรังแกกันง่ายๆนะ 
 ทั้งที่เส้นทางผ่านทางบ้านมันก็ตามด้วยเป็นทางลัด หากจะไปทางอื่นก็ต้องย้อนเสียเวลานาน
มันเลยคิดจะยึดครองถนนหลวงเป็นของมันกระมัง   ปล่อยมันเถอะพี่ฉันรู้นิสัยลูก
คนนี้ดีมากกว่าพี่เสียอีก  หากมันไม่แน่ใจว่าชนะมันจะไม่ยอมไปเด็ดขาด
  ใจเย็นเถอะโน่นไปอ่านหนังสือที่หลวงพ่อทองท่านพึ่งให้มาจิตใจจะได้สงบยิ่งขึ้น
     ข้าเองก็วาดแผนการไว้ว่าหากพ่อกำนันพ้นจากกำนันแล้ว
ข้าก็จะสนับสนุนมันให้เล่นกำนันต่อจากพี่นั่นแหละ  จะได้เลิกไอ้พวกติดยาบ้า
และของเสพย์ติดอื่นๆในหมู่บ้านเราด้วย 
    ไอ้พวกติดยามันจะได้ไปรักษากันในเมืองเพราะอย่างไรหากเจ้าชวนมันได้เป็นกำนัน
เมื่อไหร่แล้ว ฉันเชื่อเหลือเกินว่า ไอ้พวกนี้คงจะหมดไปจากหมู่บ้านเราแน่นอน 
 ดีนะที่พี่เองแค่ร่วมมือพวกมันแต่ไม่ยอมจำหน่ายให้พวกมัน
  มิฉะนั้นหมู่บ้านเราติดยากันทุกๆคนแหละ
     ลูกชวนคนนี้มันเกลียดจำพวกนี้เข้าไส้เข้ากระดูกเสียด้วยนา  อ้อๆๆอีกอย่างหนึ่งนะ
ที่หนุ่มโชติให้พระมาแล้วบอกว่าสองสามวันนี้ให้ระวังตัวไว้ด้วยจะมีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น
ในบ้านเราเสียด้วยนา  ควรจะสวดมนต์ก่อนนอนกันทุกๆคนและสั่งเด็กๆที่อยู่กับเราให้ระวัง
ตัวไว้ด้วยหากผิดปกติใดก็อย่างขานรับ  ให้ขึ้นมารวมตัวกันบนนี้ด้วย
    คราวก่อนพี่ก็หนีมันมาแทบตายจนต้องมาเลี้ยงพระทำบุญบ้านกันใหญ่โต
ด้วยอาจจะเป็นเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นไปได้นาพี่ ลองคิดๆดูซิ”  แม่เย็นเอ่ยให้ผัวฟัง
   “จริงซินะแม่เย็นข้าก็ลืมไปแล้วล่ะ  บอกลูกไว้ด้วยว่าอย่าได้เอาพระออกจากคอเด็ดขาด
 และให้มันสวดมนต์ไว้ด้วย  เรื่องเจ้าชวนนั้นข้าไม่ห่วงหรอกด้วยรู้นิสัยมันดี  
ไปๆหาข้าวหาปลามากินกันได้แล้ว  เจ้าชวนคงไปกินในตลาดหรอก”
  กำนันหวนเอ่ยตัดบท แต่ภายในใจหรือก็ให้เป็นห่วงเจ้าชวนเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำใจไว้
     หลังจากออกจากบ้านพ่อกำนัน แล้วเจ้าชวนก็บึ่งมอเตอร์ไซค์มาที่ตลาดก็ยังเห็นพรรคพวก
นั่งกินเหล้าอยู่  พอพวกนั้นเห็นก็รีบจัดการทำน้ำเย็นเตรียมไว้  
 ด้วยรู้ว่าไอ้ลูกกำนันนี้ไม่กินเหล้าเมายาอะไรแม้แต่การพนันมันก็เกลียด 
แต่มันสามารถมานั่งกินร่วมกับพวกกินเหล้าได้
    พอเจ้าชวนก้าวเข้ามาในร้าน  เสียงร้องทักทายกันลั่นไปหมด
  เจ้าชวนหันไปยิ้มบ้างยกมือขึ้นไหว้พวกผู้ใหญ่ที่นั่งล้อมโต๊ะกินเหล้าอยู่
   “ลมอะไรเว้ย!!!!!....พัดเอาเจ้าชวนมาได้ในตอนหัวค่ำนี้ว๊ะ”  
เสียงเมาอ้อแอ้ของคนแก่มีอายุมากที่สุดเอ่ยถามเสียงดังกับเพื่อนร่วมโต๊ะ
   “กูจะไปรู้หรือว๊ะไปปัง  แดกด้วยกันยังไม่ได้ไปไหนมาเลยว๊ะ”
   “กูไม่ได้ถามมึงแต่กูถามลูกกำนันโว้ย!!!???....”
    “ผมอยู่บ้านเหงาครับเลยออกมาคุยกับเพื่อนๆครับลุง เชิญตามสบายนะครับ”
   “อ้อๆๆแค่นั้นหรือนึกว่าเรื่องอะไรเสียอีกว๊ะคุณพ่อชวน” คนชื่อปังเอ่ย
   “งั้นตามสบายนะคุณลูกชวน”เสียอ้อแอเอ่ยซ้ำขึ้น แล้วไม่สนใจหันไปคุยกับ
พวกๆกันต่อ
    ดังนั้นชวนจึงหยิบเก้าอี้ หันไปนั่งคุยกับเพื่อนๆ แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนๆฟัง
   “เฮ้ยๆๆๆหยามกันนี่หว่าแบบนี้พูดจาดีก็ได้นา เล่นปืนเล่นไม้แบบนี้ แล้วมึงจะเอา
อย่างไรบอกพวกกูมา”  เสียงไอ้ตี๋เล็กเอ่ยขึ้นด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
    “นั่นซิไอ้ตี๋เล็กมันพูดถูกแล้วมึงจะเอาอย่างไรบอกได้เลยเพื่อน” เจ้ากุ๋นเอ่ยบ้าง
   “กูว่าแค่ไปตบสั่งสอนก็คงจะพอมั๊งไอ้ตี๋เล็ก”  ชวนเอ่ยขึ้น
    “แต่มันมีปืนด้วยนะโว้ยด้วยมันก็เข้าบ้านไปแล้วนี่นา” ตี๋ใหญ่หันมาเอ่ยกล่าว
   “ก็ช่างหัวมันซิว๊ะไอ้ตี๋เล็กตี๋ใหญ่ เราก็มีนี่หว่าและดีเสียด้วยซิ” ไอ้กุ๋นเอ่ยโมโหแทน
       ส่วนไอ้เปล่งไม่เอ่ยอะไรทั้งสิ้นมันนั่งฟังกันคุย พลางหันมาบอกกับชวนว่า
   “งั้นพวกมึงรอกูเดี๋ยวนะไม่เกินห้านาที”  พูดเสร็จมันก็ลุกก้าวเดินออกจากร้านทันที
     คงมีแต่ชวนรู้คนเดียวว่าไอ้เปล่งมันไปไหน ด้วยเคยบุกลุยกันมาแล้วแค่สองคนก็
ยังต้านคนจำนวนห้าคนได้เลย  จึงยิ้มหันไปกล่าวตามหลังว่า
     “งั้นเร็วๆหน่อยนะไอ้เปล่งเท่าไหร่เท่านั้น”
     “เออๆๆมึงไม่ต้องห่วงหรอก”  เสียงลอยลมเข้ามาร่างมันหายไปแล้ว
    “เออๆๆดีว๊ะระยะนี้กูก็รู้สึกเมื่อยคันมือคันตีนเหมือนกันนะ “ เสียงไอ้ชื่นกล่าวลอยๆ
    “มึงค้นเหมือนกับกูเลยว๊ะไอ้ชื่น  เฮ่อะๆๆๆ” เสียงพูดในคอของไอ้วาสเอ่ยบ้าง
     “แล้วมึงจะทำอย่างไรดีว๊ะไอ้ชวน???...”  ไอ้วาสหันมาถาม
          “แล้วพวกมึงพร้อมหรือยังล่ะคอยไอ้เปล่งแล้วจะได้ไปๆกัน”  ชวนเอ่ยถาม
      “คุณพ่อชวนเอ๋ย  มึงแค่เอ่ยคำเดียวแม้ลุยไฟกูยังยอมเลยเพื่อน”  ไอ้ตี๋ใหญ่กล่าวขึ้น
    “ดีๆๆงั้นเตรียมตัวเอารถมอเตอร์ไซค์ไปแต่ห้ามบิดคันเร่งนะโว้ย 
 พอใกล้ๆบ้านดับเครื่อง ค่อยๆเข็นไป  หาที่จอดแล้วลุยกันเลยบุกมันเข้าไปในบ้าน
กระทืบพวกมันกูมองทางกระจกเห็นมีสักสี่ห้าคนกระมัง แล้วนางอีตัวอีกต่างหาก
ส่วนพ่อมันเป็นคนบ้ากามคงจะกกอีกหนูอยู่แหละว๊ะ”  ชวนเอ่ยเตือนพวกมัน
ด้วยรู้นิสัยของเพื่อนร่วมตายทั้งหกคนดี
   “คิดเงินโว้ยแม่ค้า  กูจะไปเที่ยวทื่อื่นในเมืองสักหน่อย” เสียงไอ้ตี๋ใหญ่เรียกแม่ค้า
   “เงินเอานี่ว๊ะ กูเลี้ยงพวกมึงเอง คอยไอ้เปล่งก่อนนะ”  ชวนกล่าวพลางหันไปหา
แม่ค้าที่กำลังเดินมา  พอเห็นเป็นชวน ก็เอ่ยทักว่า
   “อ้าวๆพ่อชวนอยู่ด้วยหรือ ฉันมัวแต่อยู่ข้างในครัวไม่สังเกตุ  งั้นวันนี้ต้อนรับพ่อชวน
ทั้งหมดกินฟรี”   แม่ดาเอ่ยพลางหันไปทำตาเล็กตาน้อยกับหนุ่มชวนทันที
   “ไม่ดีหรอกคุณดา ของค้าของขายเท่าไหร่บอกผมมาได้เลยครับ”  ชวนเอ่ยขึ้น
   “ แม่ลัดดาคนสวยแล้วพี่ตี๋ใหญ่ล่ะ แหม๋ขอติดสักนิดสักหน่อยไม่ได้เลยนะทีไอ้ชวนนะ
พ่อชวนหรือไม่เป็นไรดาไม่คิดเงิน   ถามจริงๆเถอะแม่ดาไอ้ชวนกับพี่ตี๋ใหญ่ใครหล่อ
กว่ากันนะ”
   “ไอ้บ้ากูไม่ได้พูดกับมึงทำมาทะลึงได้ เดี๋ยวแม่ตบเอาเสียนี่ไอ้เห้....” พลางยกมือขึ้น
เล่นเอาไอ้ตี๋ใหญ่ลุกไปแอบหลบไอ้ชวนทันที  แล้วยื่นหน้ามายั่วว่า
   “ตบซิแม่ดาตูดใหญ่  ฮ่าๆๆๆ”
  เล่นเอาหญิงสาวเจ้าของร้านถลาวิ่งเข้ามาจะตบเจ้าตี๋ใหญ่ให้ได้ แต่ติดขัดคนที่หล่อน
หมายปองไว้จึงชะงัก
   “ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้ขี้ก้าง หากไม่มีคุณชวนและเอ๋ยดูฤทธิ์แม่บ้างซิ  เถอะน่าวันพระ
ไม่ใช่มีแค่ครั้งเดียวเสียเมื่อไหร่ จริงไหมจ๊ะพี่ชวน???....”  หล่อนลอยหน้ามาถาม
   เล่นเอาชวนหัวร่อฮึๆๆแต่ไม่กล้าส่งเสียงดังมาก จำต้องตามน้ำไป
   “จ้าแม่ดา วันพระเดือนหนึ่งมี สี่หนแน๊ะ “ ชายหนุ่มชวนเอ่ย
   “แต่ว่าวันนี้ขอร้องแม่ดาก่อนนะจ๊ะ  เพราะผมกับพวกมันจะต้องไปธุระกันในเมืองก่อน
จ้า  ไว้วันหน้าจะมาช่วยอุดหนุนแม่ดาอีก คราวนี้ต้องเอาเงินด้วยนะ” ชายหนุ่มเอ่ย
    ทำเอาแม่ลัดดาสาวสวยเจ้าของร้านอาหารยิ้มแก้มแทบแตก  อันที่จริงหญิงคนนี้เป็นคนสวย
คนหนึ่งในหมู่บ้านบางโค และเป็นโสดอีกด้วย จิตใจห้าวหาญนัก เปิดร้านอาหารตัวลำแข้งตัว
คนเดียวอาศัยเป็นคนไม่เกรงกลัวคนถึงลูกถึงคนอีกด้วย
     ซ้ำยังมีเพื่อนของชวนซึ่งเป็นลูกพี่ของบรรดาทะโมนทั้งหกนี้คอยดูแลคุ้มครองให้
จึงทำให้คนมากินอาหารที่นี่ไม่มีใครกล้ารุ่มร่ามกับเธอ  เธอรู้ว่าเมื่อหล่อนเกิดชอบชวนขึ้นมา
พวกนี้ก็ต่างเปิดทางไม่ข้องเกาะแกะรุ่มล่าม นอกจากจะล้อเล่นกระเซ้าเย้าแหย่ในฐานเพื่อน
กันเท่านั้น    ซึ่งหล่อนรู้ดีถึงข้อนี้ แต่หากมีหนุ่มอื่นๆมากินอาหารทำเบ่งไม่จ่ายเงิน
 เป็นโดนคนทั้งหกนี้ไล่เตะออกนอกร้านทุกๆคนหนีแทบไม่ทัน จนเป็นที่เลื่องลือในหมู่บ้าน  
      ไม่เคยมีรุ่นพี่รุ่นน้องมาเทียบรัศมีในความเก่งกาจกล้าหาญไปได้สักรายเดียว 
และยิ่งมันทั้งหกเกาะกุมแบบเพื่อนกินเพื่อนนอนด้วยกัน  ไปไหนไปด้วยกันเสมอ
หากจะรวมพี่ชวนเข้าไปด้วยก็เป็นเจ็ดพระกาฬเอาเสียเลยทีเดียว จนเรื่องนี้ร่ำลือไปถึงหมู่บ้านอื่นๆ
 ยกเว้นพี่ชวนเท่านั้นที่มาๆไปๆ แต่ทุกๆคนยกพี่ชวนให้เป็นหัวหน้า
ไม่เพราะเป็นลูกกำนันหรอก  แต่เป็นคนไม่กลัวคนและยังโอบอ้อมอารีต่อทุกๆคนด้วยยิ่งเพื่อน
ด้วยแล้วเท่าไหร่เท่ากัน  พี่ชวนไม่เคยเอ่ยปากสักครั้งเดียวให้แล้วไม่คิดจะเอาคืนอีกด้วย จึงทำ
ให้บารมีของชวนแผ่กว้างครอบคลุมไปทั่วหมู่บ้านบางโค จะรองก็คือพ่อของชวนเองเท่านั้น
      ซ้ำเวลามีเรื่องพี่ชวนมักจะออกหน้าก่อนใครลงมือก่อนใครทั้งหมด พวกนี้จึงซึ้งน้ำใจยิ่งนัก
เรียกว่าในหมู่บ้านบางโคนี้ แทบทั้งสิ้นยอมสยบกับเขาหมด แม้แต่เด็กเล็กแดงผู้ใหญ่ยิ่งอยาก
จะใกล้ชิดสนิทสนม แต่เขาเป็นคนไม่ค่อยพูดมากเฉยๆ ซ้ำสำคัญคือการเจรจาไพเราะจึงทำให้
แม่ดานอนฝันหวานตั้งหลายๆครั้งหลายคราเชียว คอยวันเวลาสำหรับชวนเท่านั้น
   “แล้วพี่ชวนจะเอาพวกตะเข้ตะกวดไปหรือจ๊ะ”  หญิงสาวหันมาถามทันที
   “อ้าวๆๆๆแม่ดานี่เอาพวกข้าไปเป็นสัตว์กินไก่เมื่อไหร่นะ  พูดให้ดีๆนะแม่ดาจ้า”  ไอ้ชื่นเอ่ย
เสียงหวาน มันพยายามจะให้เสียงหยดย้อย แต่เสียงมันดังระเบิดห้าวๆใหญ่ๆ
   “แหม๋คุณพี่ไอ้เหี้ยชื่น ดาจะไปกล้าล่วงเกินคุณพี่ไอ้เหี้ยคนนี้ได้อย่างไรเล่าว๊ะ”  แม่ดาย้อนมา
   “เฮ้ยๆๆๆพวกมึงช่วยฟังดูซิแม่ดาชมกูหรือว่าด่ากูว๊ะ”  มันหันหน้าไปถามเพื่อนๆมันทันที
   เล่นเอาพวกทั้งหมดต่างหัวร่อเสียงดังลั่นร้านไปทันที  แล้วพร้อมกันเอ่ยว่า
    “เฮ้ยไอ้ชื่นแม่ดาชมเอ็งว๊ะ  คิดมากไปได้เพื่อน”
    “เอ้ๆๆๆกูชักงงว๊ะ คุณพี่ชื่น ไหง๋ดันมีตัวเหี้ยด้วยว๊ะ ไอ้ตี๋เล็กมึงว่าอย่างไรช่วยไขสิ่งพรรณา
ให้กูฟังหน่อยซิเพื่อน”
    “คุณพี่คุณดาเขาหมายถึงมึงแหละไอ้เหี้ยชื่น ส่วนไอ้เหี้ยคุณดาเขาหมายถึงตัวเหี้ยตัวตะกวดจรเข้
ว๊ะสงสัยแกจะติดฝังใจในคำพูดตอนแรกมั๊ง???...”  ไอ้ตี๋เล็กตอบ
    “ก็แล้วไปโว้ย แต่ยังไงกูก็ทะแม่งๆนะโว้ย”  ไอ้ชื่นสงสัย
    “พอๆๆเถอะพวกเราคุณดาเขาเป็นคนอย่างไรมีการศึกษาก็สูงคงจะไม่คิดอย่างที่ชื่นมันกล่าวหรอก
อย่าคิดมากไป เลย โน่นๆ ไอ้เปล่งมันเดินมาแล้วแบกสะพายกระเป๋ามาด้วยล่ะ”  หนุ่มชวนเอ่ย
    ทุกๆคนหันไปมองเป็นจุดเดียว  ร่างของหนุ่มเปล่งที่สูงใหญ่กำยำล่ำสันไหล่สะพายกระเป๋าใบใหญ่
แล้วสองมือยังหิ้วใบขนาดย่อมมาอีกสองใบด้วย แต่มันไม่เข้ามาในร้าน ส่งเสียงเรียกพรรคพวกให้ออก
ไปข้างนอก
   “อย่างนั้นผมไปก่อนนะครับคุณดา วันหน้าจะมาเยี่ยมอุดหนุนอีก มื้อนี้ถือว่าคุณดาเลี้ยงมื้อหน้า
อย่าปฏิเสธผมอีกล่ะ ผมขอเป็นเจ้ามือเลี้ยงเองครับ”
     “ค่าๆๆๆไม่เป็นไรหรอกค่ะ ให้ดาเลี้ยงคุณและเพื่อนๆหากมีคุณอยู่ได้เสมอๆแหละค่ะ แล้วอย่าลืม
มาให้ได้นะค่ะ”  หญิงสาวยิ้มแก้มแทบแตก เมื่อเห็นหนุ่มชวนหันมายิ้มตอบ แล้วเข้าไปจับมือทั้งสอง
แสดงความขอบคุณในอาหารมื้อนี้
            ทำเอาหญิงสาวสะท้านขึ้นทันทีในหรือก็สั่นเต้นเหมือนกลองเพลที่พระตีไม่ต่างกันเลย แล้วทั้ง
หมดก็หันมาขอบใจเจ้าของร้านอาหาร ต่างรีบเดินตามหนุ่มชวนหัวหน้ามันไปทันที.........
                     *  แก้วประเสริฐ.  *

qp011.gifCartoon_Animation_08.gifflowers_170.gif692823n68ya60jv9.gif				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน