อทิสมานกาย ๗๔

กิ่งโศก

images?q=tbn:ANd9GcQUQbQF8wqWeKAi_CaHOih
ภายหลังที่ชายหนุ่มสั่งงานแก่เจ้าแสงสีและเจ้าสินชัยเรียบร้อยแล้ว
  ก็มานั่งสนทนากับแม่นางอัปสารรัตนาวดีและอ้อยวิลาวัย์เอ่ย
ถึงเรื่องของสาวชบาในขณะนั้นอยู่อย่างเพลิดเพลิน 
แม่นางรัตนาวดีพลันเอ่ยขึ้นว่า
   พี่โชติ...รัตน์ว่าเดี๋ยวนี้น้องได้พาสาวชบาไปท่องเที่ยว
ยังดินแดนสวรรค์ชั้นต่างๆมานอกจากชั้นจาตุม  
ไปถึงชั้นดาวดึงส์ซึ่งเป็นสถานที่บรรดาเหล่าเทพเทวัญและเหล่า
นางอัปสรต่างสนุกสนานกัน อันเป็นบรมแดนสถานของความสุขทั้งมวล
มากกว่าดินแดนอื่นๆในสวรรค์ทุกๆชั้นมาจ๊ะ  และปล่อยให้ไปเอง 
       แต่น้องทั้งสองก็คอยเฝ้าติดตามดูห่างๆไว้ เกรงว่าจะบังเกิดความลุ่มหลง
จนลืมกาลแห่งเวลาของมิติไปจ้า  และสิ่งคิดไว้ก็จริงด้วย
    ทำให้แม่สาวชบาถึงกลับหลงใหลเกือบจะลืมกลับร่างจ๊ะ
 เพลิดเพลินไปกับเหล่าสาวสวรรค์ด้วย รัตน์เองนั้นต้องการทดลองจิต
ของนางว่าหากเจอสวรรค์ชั้นนี้แล้ว ภายในจิตของชบา
จะเป็นประการใด จนเห็นไม่ได้การจึงต้องให้น้องอ้อยรีบไป
ดึงร่างกายทิพย์กลับมานั่นแหละ
นางถึงจะคลายความลุ่มหลงไปได้ ซึ่งพี่เองก็รู้ด้วยเคยไปมาแล้วว่า
 
     อันสถานที่นี้เป็นสวรรค์ที่ล้วนแล้วแต่ความอุดมสมบูรณ์สนุกสนาน
ใครแม้นได้ไปมักจะติดในดินแดนนี้ 
 ด้วยในสวรรค์ทุกๆชั้นนั้นหามีสวรรค์ชั้นใดจะมาเทียบไม่ได้หรอก
จึงได้กำชับแม่นางชบาว่าอย่าไปให้มากนัก  พี่จะเห็นเป็นประการใดหรือไม่จ๊ะ???...
   จริงซิพี่   อ้อยเองครั้งแรกที่พี่รัตน์พาไปนั้นก็เหมือนกับน้องชบานั่นแหละจ้า
ด้วยยังอยู่ในขั้น สกทาคามีอยู่ ครั้นเจริญผ่านขั้นนี้ไปได้ด้วยการฝึกฝนต่อจนพอมา
ฝึกปรือสมาธิจนถึงขั้นอนาคามีได้นั่นแหละถึงจะทำใจได้ไม่ติดในสิ่งนี้จ้า
     ใช่แล้วน้องทั้งสองอันดินแดนแห่งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นดินแดน
แห่งโลกียะทั้งสิ้นเป็นดินแดนแห่งบรมสุขของสวรรค์ทุกๆชั้น
  หากใครก็ตามหลงเข้าไปยากที่จะกลับออกมาได้จ๊ะ
   ด้วยเป็นที่สำราญทั้งสิ้นยกเว้นแต่สองสถานที่คือศาลาสุธรรมา
อันเป็นที่ใช้ในการประชุมของเหล่าทวยเทพยดาและสูงถึงชั้นพรหม
 ทุกวันพระนั้นท่านองค์ท้าวสนังกุมารพรหม
ท่านจะลงมาเทสก์สั่งสอนให้แก่บรรดาทวยเทพยดาและเหล่านางอัปสร
ถึงธรรมะต่างๆให้ฟังด้วยท่านท้าวสนังกุมารพรหมนี้
ท่านสำเร็จบรรลุถึงขั้นทางแห่งพระอรหัตผลแล้วแต่ท่านยัง
เกิดความเมตตาสงสารต่อเหล่าเทพยดาที่มัวแต่เสวยสุขในโลกียะอยู่ 
จึงไม่ไปสู่ยังพระอรหัตผล
 
        อีกสถานที่หนึ่งคือพระเจดีย์จุฬามณีเกตุแก้วอันเป็นที่
บรรจุพระเขี้ยวแก้วขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับ
อีกเจดีย์หนึ่งที่บรรจุพระโมลีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ปราศจาก
ความสุขเป็นที่สักการะของเหล่าทวยเทพยดาซึ่งเป็นดินแดนหวงห้ามไว้จ๊ะ
 จึงปราศจากการละเล่นต่างๆ
  ส่วนใหญ่ชาวดาวดึงส์มักจะไปหาความสำเริงสำราญในที่สระสุนันทา
และสวนสุชาดากันทั้งสิ้นสระนั้นรายล้อมไปด้วยหินอันวิจิตรพิศดาร
ปูรอบสระลงไปในสระด้วย  ส่วนสวนนั้นก็ล้วนด้วย
บุปผานานาพันธุ์อันส่งกลิ่นหอมขจรขจายไปทั่วบริเวณ 
ทั้งผลไม้ทิพย์นาๆประการ เหตุใดจะไม่ให้น้องชบาลุ่มหลง
จนลืมกาลเวลาไปได้เล่าน้อง
   นั่นซิซึ่งน้องเองก็ยังแค่ไปได้ด้วยอำนาจของฌานสมาธิเท่านั้น
อีกประการหนึ่งนั้นน้องยังอยู่แค่ในชั้นจาตุมเท่านั้นเอง    
ที่ไปได้ก็ด้วย อาศัยเป็นบุตรีของท้าวมหาราชนั่นเองจ๊ะ  หากไม่ได้
ไปผุดในหน้าตักของเสด็จพ่อแล้วก็คงจะไม่มีโอกาสได้ไปชมหรอก
 นอกจากบุตรของเสด็จพ่อ
คืออินทกะเท่านั้นส่วนบรรดาบริวารทั้งหลายไม่มีโอกาสไปเห็น
  แต่น้องดีกว่าพวกพี่ๆคืออินทกะ
ก็ด้วยอำนาจฌานที่พี่ได้อบรมเพิ่มเติมจนไปถึงขั้นอนาคามี
    จึงสามาระไปได้ทุกๆชั้นฟ้าจ๊ะ
แต่ก็ไม่ได้ไปเลย ด้วยกลัวกาลแห่งมิติเวลานั่นเอง
     แม่นางอัปสารเอ่ยกล่าวแก่ชายหนุ่มให้ฟัง
 
   อันชั้นยามาก็ดี  ชั้น ดุสิตก็ดี  อันชั้นดุสิตนี้มีแต่ความร่มเย็น
สงบสุขเท่านั้นถึงมาดแม้นจะเป็นแดนแห่งโลกียะด้วยก็ตาม  
ด้วยบุญญาธิการในผลแห่งบารมีของท่านทั้งหลายจึงระงับเสีย
เป็นดินแดนแห่งเหล่าพระโพธิสัตว์ทั้งหลายจึงมีความสุข
แค่พอเพียงแล้วก็ล้วนด้วยสร้างสมาธิเพื่อเลื่อนชั้นขึ้นไปสู่ยังพรหมโลก
และบางองค์ก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ตัดซึ่งกิเลสเข้าสู่แดนนิพพานไป
บางองค์ก็ต้องลงมายังแดนมนุษย์เพื่อสร้างผลบุญต่อเพิ่มผลบารมีทานให้มากๆ
 ยกเว้นผู้ที่จะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
ที่จะต้องเสด็จลงมายังดินแดนมนุษย์เพื่อจะได้เผยแผ่พระธรรมปลด
เปลื้องมวลมนุษย์ให้พ้นจากกิเลสน้อยใหญ่จ๊ะ  แดนนี้จึงปราศจากกิเสลกามา 
 ส่วนชั้นนิมมานวดีก็ดีชั้นปรนิมมิตวสวัสดีก็ตาม
 ยังหมกหมุ่นกับโลกียะกามาอยู่แต่หากมีความต้องการก็จะเนรมิตขึ้นมา
แล้วเสวยความสุขกามา ครั้นสมปราถนาแล้วร่างนั้นก็จะอันตรธานหายไป
 อันชั้นนี้เป็นชั้นจำพวกพรหมเหมือนกันอันมี
ท่านท้าวปรนิมมิตสวัตตีมาราธิราช หรืออีกชื่อหนึงว่าวสวัตดี
เป็นหัวหน้าชั้นนี้ ส่วนชั้นพรหม    
 นั้นก็ยังแบ่งออกเป็นสองดินแดนชั้นพรหม
ไม่มีรูปกับชั้นพรหมมีรูป  ชั้นพรหมมีรูปคือแดนของเทพบุตรมาร
 
เป็นเทพบุตรที่คอยรบกวนกีดกั้นผู้ที่จะทำความดีได้แก่
 ตัวการที่ขัดขวางไม่ได้บรรลุความดี มี ๕ อย่างคือ 
๑. กิเลสมาร มารคือกิเลส 
๒. ขันธมาร มารคือเบญจขันธ์ 
๓. อภิสังขารมาร มารคืออภิสังขารที่ปรุงแต่งกรรม 
๔. เทวบุตรมาร มารคือเทพบุตร 
๕. มัจจุมาร มารคือความตายกับเทพบุตรพรหม เทพบุตรมารนั้นเป็นที่
อยู่ของภายใต้การปกครองของท่านพญามารวสวัตตีมาร
 ส่วนอีกดินแดนหนึ่งติดกับดินแดนมาร
เป็นชั้นพรหมที่สร้างสมแต่ความดีที่สร้างสะสมมาคอยช่วยเหลือ
ผู้ที่ประกอบความดี มีท่านท้าวสหัมบดีพรหมเป็นหัวหน้า
ในชั้นนี้มีท่านท้าวสนังกุมารพรหม ปรเมศพรหม
ท่านท้าวมหาพรหมธาดา ชินะปัญชะระพรหมฯลฯล้วนแล้ว
แต่มีหน้าที่คอยช่วยเหลือมนุษย์ เทวดา
ให้ประกอบความดีแต่มีอิทธิฤทธิ์น้อยกว่าพวกมารพรหม
ด้วยอำนาจของความพยาบาทอาฆาตในสิ่งที่คนหรือเทวบุตรเทพอัปสร
จะประกอบซึ่งความดีทั้งหลาย เข้าครอบงำจิตใจให้หลงผิดเป็นชอบ
แล้วแบ่งแยกปกครองแบ่งแยกดินแดนกัน มิกล้าล้ำแดนกันฤทธานุภาพ
ก็แตกต่างกันไม่ได้ จึงส่งผลให้ความชั่วมีฤทธานุภาพ
มากกว่าความดีที่สร้างได้ยาก  หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่าเทวบุตรพรหมนั่นเอง
ทั้งหมดของพรหมเหล่านี้จัดอยู่ในจำพวก พรหมมีรูปทั้งสิ้น
     อันพรหมไม่มีรูปก่อนจะดับจิตเจริญสมาธิจนถึงแก่ความตายแล้ว
อธิษฐานไม่ให้มีรูปเกิดขึ้น ด้วยเกิดอาการเบื่อหน่ายในเบญจขันธ์ห้า
ที่ประกอบด้วยอายตนะภายนอกและอายตนะภายใน  
 จึงได้มาอยู่ในดินแดนนี้มีลักษณะเป็นแสงสว่างที่เจิดจ้า
 วูบๆวาบๆหายไปแต่ไม่ปรากฏรูปดังเทวบุตรพรหมทั้ง
หลาย  แต่มีฤทธานุภาพมากกว่าพรหมมีรูปมากมายนัก
 และมีอายุยืนนานที่สุดของพรหมทั้งหมดด้วย
จนพรหมเหล่านี้ถึงกับลืมอายุขัยของตนเองไป 
ลืมวันเวลาแห่งมิติสืบเนื่องจากไม่รู้กำหนดอายุขัยของตน 
 
    อันสวรรค์ชั้นที่ ๖ นี้ก็ถือเป็นชั้นพรหมด้วยเหมือนกันต้องการ
สิ่งใดก็จะเนรมิตสิ่งนั้นมาใช้สอยเองต่างๆกับชั้นที่ต่ำลงมาเพียงแค่นึกเท่านั้น
สิ่งทิพย์ก็จะเกิดขึ้นทันทีด้วยผลแห่งการให้ทานมากๆนั่นเอง
ส่วนพรหมนั้นการให้ทานนั้นน้อยลงแต่มากด้วยฌานสมาบัติ
จึงต้องเนรมิตของใช้ที่ต้องการขึ้นเอง
แต่ก็จัดอยู่ในชั้นที่เหนือกว่าชั้นทั้งห้าได้  อันชั้นเทวบุตรพรหมนั้น
สามารถจะบรรลุธรรมวิเศษเป็นพระอรหัตผลได้เข้าสู่นิพพานได้  
  ส่วนเทวบุตรมารนั้นไม่สามารถจะบรรลุธรรมวิเศษได้จึงจำเป็น
ต้องลงมาเกิดในดินแดนมนุษย์เริ่มต้นสร้างกรรมดีต่อไป 
      ชายหนุ่มเล่าให้แก่แม่นางอัปสรทั้งสองฟังถึงแต่ละชั้น
ของสรวงสวรรค์ ทั้งยังเอ่ยบอกว่า
ได้เคยไปท่องเที่ยวมาแล้วเกือบๆทุกๆชั้นแล้ว   
      พลางหันไปยิ้มให้แม่นางทั้งสองซึ่งนั่งคอยฟังด้วย
อาการอันสงบ   เขาคิดว่านางคงจะสงสัยว่าเหตุใดเขาจึงสามารถ
รู้ในสิ่งที่เหนือกว่านางไปได้ด้วย
 
     เขามีเพียงแค่ร่างกายมนุษย์เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะสามารถถอดกายทิพย์ได้
 แต่อำนาจของมิติกาลนั้นย่อมจะต้องกำหนดไว้ แต่ที่เขาเล่ามานั้นทำไม
ถึงได้ข้ามมิติกาลและสามารถไปท่องเที่ยวในสิ่งที่ไม่หล่อนเอง
ยังไม่สามารถไปได้เลยกระมัง ชายหนุ่มคิดรำพึง
  ทำให้แม่นางอัปสรครั้นได้รับฟังชายหนุ่มอธิบายให้ฟัง
ก็เกิดความปลาบปลื้มยินดียิ่งนัก 
 พลางเอ่ยขึ้นว่า
   แล้วพี่ในโลกนี้ทำงานด้านนี้จะไม่มีบาปติดตัวไปด้วยเลยหรือ 
 ทำให้เกิดความสงสัย
   อันหน้าที่การงานของพี่นั้นจะเกี่ยวข้องกับทางบาปก็จริง
อยู่การที่คนเราจะทำบาปนั้นให้
เกิดเป็นรูปธรรมนามธรรมได้นั้นต้องพร้อมซึ้งเหตุสามประการคือ
 หนึ่งต้องพร้อมด้วยใจหรือ
เจตนาของผู้นั้น สองด้วยกายที่จะลงมือทำ สามวาจาที่ เมื่อทั้งสามอย่างนี้
รวมกันด้วยความโทสะ โมหะ โลภะ พยาบาทแล้วอันก่อด้วยตัณหา
เป็นตัวบัญชา นั่นแหละถึงจะครบถ้วนแห่งการทำบาป
สำเร็จลงครบถ้วนบริบูรณ์
 
   ส่วนพี่เองนั้นแม้ว่าจะเป็นหน้าที่ในทางนี้ก็จริงแต่ใจพี่มิได้เกิด
ความพยาบาทอาฆาตมาดร้ายอัน
ประกอบไปด้วยตัณหา ทำไปเพื่อปกป้องคนดีต้องหลงผิดทาง
มิให้คนชั่วต้องประสบผลสำเร็จจึงอยู่เหนือกฏแห่งกรรมไปจ้า................
 
                                * กิ่งโศก *				
comments powered by Disqus
  • กิ่งโศก

    19 มกราคม 2554 09:43 น. - comment id 88827

    คุณแก้วประภัสสร
    
    เข้ามาศึกษา วิธีเขียนก็ดีครับ..
    การพล้อตเรื่อง  การวางตัวละคร
    การสร้างประเด็นปัญหา
  • กิ่งโศก

    19 มกราคม 2554 09:44 น. - comment id 88828

    พี่แจ้นเอง
    
    ยินดีมากครับพี่แจ้น ที่ยังติดตามอ่านนะครับ
  • กิ่งโศก

    19 มกราคม 2554 09:44 น. - comment id 88829

    คุณดวงใจพี่
    
    ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยม
  • กิ่งโศก

    19 มกราคม 2554 09:42 น. - comment id 88834

    คุณทางแสงดาว
    
    ขอบคุณที่มาอ่านครับ ตอนนี้ กำลังท่องสวรรค์ หุหุหุ
  • แจ้นเอง

    17 มกราคม 2554 16:40 น. - comment id 121460

    36.gif1.gif31.gif
  • ดวงใจพี่

    17 มกราคม 2554 17:25 น. - comment id 121461

    16.gif16.gif16.gif
  • กิ่งโศก

    17 มกราคม 2554 09:12 น. - comment id 121466

    มาสานงานต่อครับ
  • ทางแสงดาว

    17 มกราคม 2554 09:20 น. - comment id 121467

    29.gif
  • แก้วประภัสสร

    17 มกราคม 2554 12:37 น. - comment id 121469

    46.gif36.gif16.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน