จะเป็นเศรษฐีเงินล้านได้อย่างไร?....

คีตากะ

1686744f1h2ve1yeo.gifปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
     ประเทศนิวซีแลนด์ 27 เมษายน 2543 (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)

      เมื่อเธอบำเพ็ญทางจิตวิญญาณ เธอจะมีทุกสิ่งทุกอย่าง ตัวอย่างเช่น บัดนี้เธอจะมีเพื่อนมากกว่าที่เธอเคยนึกฝันมาก่อน เธออาจจะมีบุตรมากกว่าและทำงานหนักกว่าแต่ก่อน และมีเงินมากกว่า พวกเธอบางคนอาจเป็นเช่นนี้ และอาจจะมีหน้าที่การงานที่ดีกว่า หรือกระทั่งหากเธอมีจำนวนเงินเท่าเดิม เธอก็จะทราบวิธีที่จะจัดการกับมันได้ดีกว่า และดังนั้นเธอจึงมีมากกว่าแต่ก่อน เธอจะเดินทางมากกว่าที่เคยเดินทางมาก่อนด้วยเงินจำนวนเท่าเดิม เพราะเธอทราบว่าจะทำสิ่งต่างๆ ให้ดีกว่าได้อย่างไร และด้วยเหตุนี้เธอจึงมีความสุขมากกว่า เธอมีมากกว่าแต่ก่อน ถึงแม้ว่าบางทีรายได้ของเธอจะเท่าเดิม
ผู้บำเพ็ญวิถีกวนอิมเป็นประตูสู่สวรรค์
    ฉันอ่านบทความในวารสารเรื่อง “จะเป็นเศรษฐีเงินล้านได้อยางไร” เธออยากฟังเรื่องนี้ไหม? (อยาก) มันกล่าวไว้อย่างเป็นเหตุเป็นผลยิ่งนัก ถ้าเรามอบเงินออกไปเป็นจำนวนมาก จำนวนมันไม่มาก แต่สำหรับเรา มันมาก แท้จริงแล้วมันก็มากเช่นกัน เงินจำนวนล้านๆ ดอลลาร์มิใช่เงินจำนวนเล็กน้อยสำหรับโลกนี้ ถึงแม้เราไม่สามารถเปรียบเทียบตัวเรากับบิล เกทส์ (ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทไมโครซอฟท์ หนึ่งในผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก ซึ่งมอบเงินไปเป็นจำนวนมาก) เราเป็น “เกทส์ (แปลว่าประตู) ที่แตกต่างไป แต่เราก็เป็นประตูเช่นกัน (เสียงหัวเราะ) “กวนอิมฝ่าเหมิน” แปลว่า “ประตูสู่สวรรค์ ประตูสู่โลกของพระเจ้า” เราก็บริจาคเงินจำนวนมากเช่นเดียวกัน เมื่อเทียบกับปริมาณที่เรามีอยู่ ผู้อื่นก็คิดว่ามันมากเช่นเดียวกัน! มันไม่มากหรอกเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ หรือธนาคารโลก แต่มันมากเมื่อเทียบกับรายได้ของเรา เมื่อเทียบกับการกระทำทั่วๆ ไปของคน คนส่วนใหญ่มักจะไม่ให้มากมายเช่นนั้น
    ดังนั้นฉันจะให้ และคนจำนวนมากก็จะคิดว่า ฉันร่ำรวยมาก ฉันรวยเช่นกัน แต่ไม่มากเท่าที่พวกเขาคิด ซึ่งก็ดีอยู่ แต่หากพวกเขามาหาเรา สมมุติว่า หากเขาเป็นฉันและมีเงินจำนวนขนาดนั้น พวกเขาจะไม่ดูร่ำรวยแบบนั้น พวกเขาจะไม่สามารถให้ได้มากขนาดนั้น มิใช่เพราะว่า พวกเขาไม่ต้องการให้ เป็นเพียงเพราะว่าพวกเขาไม่ทราบว่าจะจัดการได้อย่างไรจึงจะได้ให้ประโยชน์มากขนาดนั้น
    ดังนั้นเมื่อฉันอ่านบทความ ฉันจึงคิดว่า มันเข้าท่าไม่เบา ฉันก็ทำเช่นนั้นมาหมดแล้ว วิธีการว่า “ทำอย่างไรจึงจะกลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน” ฉันทราบมาหมดแล้ว แต่เมื่อฉันอ่านบทความ มันดูราวกับว่า ฉันเขียนมันขึ้นมาด้วยตนเองเพราะมันช่างเป็นธรรมชาติ คือบางคนทำเช่นนี้ได้โดยธรรมชาติ แต่ก็เป็นเพราะเรารู้แจ้งด้วย เราบำเพ็ญวิถีแห่งการรู้แจ้ง และวิถีแห่งรัก และเรามีความต้องการเพียงน้อยนิดยิ่งนักในโลกนี้
    เช่นเดียวกับที่เธอเป็นอยู่ขณะนี้ เมื่อก่อนเธอมีสิ่งของมากมาย แต่เธอยังคงคิดว่าเธอมีไม่เพียงพอ แต่บัดนี้ไม่ว่าเธอจะมีมากน้อยเพียงใด มันก็เพียงพอสำหรับเธอ เธอยังคงสามารถมานิวซีแลนด์ ประเทศไทย หรือฌานใดๆ ก็ตาม ขึ้นอยู่กับว่า เธอได้วันหยุดหรือไม่ เธอสามารถจัดการให้เพียงพอได้เสมอ และนั่นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ และเธอจะรู้สึกว่าเธอมีเพียงพออยู่เสมอ และเธอจะรู้สึกว่าได้รับความรักตลอดเวลา ฉันเป็นเพียงคนผู้หนึ่ง แต่พวกเธอจะรู้สึกว่า ฉันรักเพียงคนเดียว จะรู้สึกว่าฉันมีความรักเพียงพอให้กับทุกๆ คน นั่นเป็นเพราะเราบำเพ็ญวิถีแห่งรัก
    เราจะทราบวิธีที่จะรู้สึกเพียงพอ คล้ายกับทราบวิธีที่จะเก็บเงินเพื่อให้ร่ำรวยขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเพราะว่าเธอมีรายได้มากขึ้น แต่เป็นเธอเก็บสะสมมากขึ้นและประสงค์สิ่งซึ่งไร้ความจำเป็นน้อยลง และเมื่อนั้นเธอจะเก็บเงินได้มากขึ้น! ดังนั้นเมื่อเธอเก็บเงินได้ 1 ดอลลาร์ ก็เสมือนเธอมีรายได้มากขึ้นอีก 1 ดอลลาร์ และมันยิ่งดีกว่าการมีรายได้มากขึ้น 1 ดอลลาร์ เพราะเมื่อเธอเก็บเงินได้ 1 ดอลลาร์ เธอไม่จำเป็นต้องทำงานเพื่อหามันมา เธอเพียงตัดสิ่งซึ่งไร้ความจำเป็นออกไปบางอย่าง เมื่อก่อน เธอออกไปซื้อทุกสิ่งทุกอย่าง แต่บัดนี้เธอจะต้องคิดอย่างระมัดระวัง เมื่อก่อนเธอออกไปแล้วซื้อทุกสิ่ง แต่บัดนี้เธอมุ่งตรงไปหาเต้าหู้ เธอประหยัดเงิน เวลา และความคิด
    เมื่อก่อนเธอปรุงอาหารมากมายหลายประเภท แต่บัดนี้มีเพียงเต้าหู้และช๊อบชอย และพรุ่งนี้ก็ช๊อบชอยและเต้าหู้ เป็นชีวิตที่เรียบง่าย เมื่อก่อนเธอไปทุกหนทุกแห่งและบางทีเธอจำเป็นต้องจองห้องของโรงแรมให้กับตนเองและสามี และเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก แต่บัดนี้เธอเพียงเตรียมเต็นท์แล้วก็ไปตั้งแคมป์อยู่ข้างนอกในอากาศบริสุทธิ์ มันเป็นธรรมชาติ ออกซิเจน...มีอยู่มากมายรอบๆ ตัวเธอเพราะเธอตั้งแคมป์อยู่ใต้ต้นไม้และบนหญ้า เธอจะรู้สึกดีเบาสบายและประหยัดด้วย
    เราอาศัยอยู่ด้วยกันและเรามีความสุข เราไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ในโรงแรมใหญ่โตเพื่อให้มีความสุข ความจริงแล้ว เรามีความสุขมากกว่าที่จะไปอาศัยอยู่ในโรงแรมใหญ่โตเสียอีก เพราะเรามีความคิดและความสนใจแบบเดียวกัน เรารักซึ่งกันและกัน และเราช่างรู้สึกดีอะไรเสียอย่างนั้น และอากาศ อาหาร และบรรยากาศอันเสริมสุข ภาพทำให้เราช่างรู้สึกดี
    เธอไม่จำเป็นต้องหาเงินเพิ่มขึ้น เธอเพียงต้องทราบวิธีที่จะใช้ชีวิตของเธอ เพราะเธอมีเพียงชีวิตเดียว ชีวิตนี้ ไม่ว่าฉันจะกล่าวความจริงหรือไม่ ไม่ว่าเธอจะไปสู่สวรรค์หรือไม่ หรือเธอต้องกลับมาเกิดอีกหรือไม่ ชีวิตนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่เธอรู้จัก ถ้าเธอจัดการกับมันไม่ดี เธอจะไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระ และเธอจะไม่สามารถสุขใจกับมันได้ เธอจะต้องทำในสิ่งที่เธอต้องการทำจริงๆ และในสิ่งที่ดีกับเธอ
    แน่นอน เธอก็จะมาบอกฉันว่า ถ้าเช่นนั้นเธอก็สามารถทำสิ่งใดก็ได้ที่เธอต้องการ แต่นั่นไม่เป็นความจริง สิ่งที่ดีกับเธอคือสิ่งที่เธอควรทำ การรับประทานอาหารมังสวิรัตทำให้สุขภาพดี และการทำสมาธิจะสงบระบบประสาทของเธอ ทำให้สมองเธอแจ่มใสขึ้น เฉลียวฉลาดขึ้น และมีความรักมากขึ้น นั่นดีสำหรับเธอ มิใช่ว่าเธอไปทำอะไรก็ได้ที่เธอต้องการ แน่นอน เราจะทำอะไรก็ได้ที่เราต้องการ แต่สิ่งที่ดีกับเรานั้น...คือสิ่งที่คนฉลาดจะเลือกทำ การประหยัดเงินดีกว่าการหาเงิน สิ่งใดก็ตามที่เธอประหยัด ก็เป็นเสมือนเธอหามันมาได้ ต่างกันเพียงว่าเธอไม่ต้องออกไปทำงานหามันมา หรือกระทั่งเสียภาษีสำหรับจำนวนนี้ ทุกสิ่งที่เธอหามาได้เป็นของเธอ และเธอจะเอามันไปทำอะไรก็ได้ เธออาจให้อะไรบางอย่างที่เธอชอบกับตนเอง หรือมอบให้กับคนยากไร้ นั่นคือสิ่งที่เราทำกันอยู่ตลอดเวลา ฉันก็ทำเช่นกัน อะไรที่ฉันบอกให้เธอทำ ฉันก็ทำเช่นกัน

532236fo1y55rfbl.gifจงปฏิบัติตัวอย่างอันสมบูรณ์แบบของท่านอาจารย์
    ฉันมิได้จัดการให้เรื่องราวที่ฉันทำ ลงในวารสารข่าวทุกครั้งเสมอไป สิ่งส่วนใหญ่ที่ฉันทำมิได้เขียนไว้ในวารสาร มันอาจเขียนไว้ เพราะมีบางคนบังเอิญอยู่ที่นั่นและทราบเรื่องนี้ และเขียนรายงานในเรื่องนี้ หรือมันเป็นเรื่องทางการเช่น งานคอนเสิร์ตและทุกๆ คนจะต้องทราบ มันก็เป็นเช่นนั้นเอง มิฉะนั้นแล้ว ฉันบริจาคทุกๆ วัน ตลอดเวลา ทุกโอกาสที่ฉันมี
    มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผู้ช่วยคนหนึ่งหัวเราะและกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ เหตุไฉนอาหารร้านแมคโดนัลด์จึงราคาแพงเช่นนี้? เป็นร้านอาหารที่แพงที่สุดที่ฉันเคยเห็นมา! “ ทราบไหมว่าทำไม? เป็นเพราะว่าเมื่อเราไปที่นั่น เราเห็นคนไร้ที่อยู่อาศัยมองหาขยะอยู่ ฉันจึงให้เงินพวกเขาไปประมาณ 500 ดอลลาร์สหรัฐ นั่นคือสาเหตุที่เขากล่าวว่า “โอ พระเจ้า ท่านรับประทานเพียงมันฝรั่งทอดแล้วโค้ก 2 ถ้วยก็ราคาตั้ง 500 ดอลลาร์สหรัฐ(เสียงหัวเราะ) เราจะแบ่งปันเสมอ เมื่อใดก็ตามที่เราทำได้ เราจะเห็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยป้วนเปี้ยนอยู่แถวนั้นหรือมองหาขยะอยู่แทบตลอดเวลา และฉันก็จะทนไม่ได้ ดังนั้นฉันจึงจะให้อะไรกับพวกเขาไปบางอย่าง ฉันจะให้เท่าที่ฉันมีอยู่ ดังนั้นเขาจึงพูดเป็นเรื่องตลกไปว่า “ผมไม่เคยทราบว่าร้านแมคโดนัลด์เป็นร้านอาหารที่แพงที่สุดในเมือง” เขากล่าวว่า “เรารับประทานมันฝรั่งทอดเพียง 2 ที่และดื่มโค้กขนาดกลางเพียง 2 ถ้วย ทั้งเรายังต้องบริการตนเองแล้วยืนรออยู่ในคิว แล้วมันก็แพงเช่นนี้” เพราะในภัตตาคารชั้นหนึ่ง ท่านจะนั่งอยู่ตรงนั้น แล้วจะมีผ้าเช็ดปากและทุกๆ อย่าง แล้วบริกรก็จะมา แล้วบริการท่านราวกับเป็นพระราชาจากนั้นท่านอาจจ่ายเงินสอง สามหรือห้าร้อยดอลลาร์ แล้วแต่ แต่สำหรับเพียง 2 คน สองหรือสามร้อยดอลลาร์(6,000หรือ9,000 บาท)ก็นับว่าแพงมากแล้ว แต่เขากล่าวว่าเขาไม่สามารถจินตนาการได้ว่าร้านแมคโดนัลด์ยังแพงกว่านั้นอีก เขาเอามาเล่าให้เป็นเรื่องตลก
    ดังนั้นเรื่องราวเหล่านี้เราทำเพราะเรารักผู้อื่น เพราะพวกเขาก็คือเราอยู่แล้วนั่นเอง ดังนั้นไม่มีอะไรจะต้องมากล่าวถึง แต่บางครั้ง แน่นอน เราเขียนเรื่องเหล่านี้ในวารสารข่าว เพราะลูกศิษย์อื่นๆ ก็จำเป็นต้องเรียนรู้จากตัวอย่าง รวมทั้งเรื่องราวส่วนใหญ่ที่ฉันทำเป็นเรื่องเปิดเผย จึงสามารถให้คนอื่นรับทราบได้ เพียงเพื่อให้เราได้รับทราบในสิ่งที่เราทำ เช่นเดียวกับเธอเล่าให้ฉันฟังในเรื่องที่เธอทำและข่าวก็รายงานให้เธอทราบในเรื่องที่ฉันทำ ดังนั้นเราจึงคอยติดต่อกัน คล้ายว่าเราทราบวิถีชีวิตของกันและกันเหมือนว่าเรารู้จักกันและกัน มิใช่เพราะเราต้องการโอ้อวดต่อใครๆ ให้ทราบว่าเราทำอะไร
    หากเราประสงค์จะโอ้อวดให้ใครๆ ทราบในเรื่องเหล่านี้ เราจะเอาเรื่องเหล่านี้ลงในข่าวใน “ศูนย์ข่าวรอยเตอร์” หรือบริษัทข่าวขนาดใหญ่แห่งอื่น มิใช่เพียงเขียนเรื่องเหล่านี้ในวารสารเล็กๆ ของเรา แต่นี่ก็คือวิถีชีวิตที่เราใช้กันอยู่ตลอดเวลา มันควรเป็นวิถีชีวิตที่เราเลือก ทุกๆ คนควรทำเช่นนี้ ฉันภูมิใจในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง ที่พวกเธอทำเช่นนี้ตลอดเวลา ฉันทราบว่าเธอกระทำกันเป็นรายบุคคล และกระนั้นเธอก็ยังมีเงินเพียงพอเก็บกันไว้เพื่อจะมาที่นี่ มาฌานมาพบฉันเมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ เห็นไหมว่า ชีวิตของเธอร่ำรวยขึ้น มิใช่หรอกหรือ? (ใช่!) (เสียงปรบมือ)
    ฉันบริจาคตลอดเวลา แต่ฉันก็ยังมีเงินอยู่มากมาย ฉันหมายความว่าสำหรับฉันมันมาก ฉันต้องใช้อะไรเล่า? เมื่อฉันมาพบเธอ แน่นอนฉันแต่งตัวเช่นนี้ นี่ฉันออกแบบเอง ดังนั้นมันเป็นเพียงเพื่อสนุก เมื่อฉันมิได้อยู่กับเธอ ฉันถอดมันทิ้งไปอย่างรวดเร็ว เพราะมันหนักและฉันไม่ชอบมันสักเท่าใดหรอก และฉันก็รับประทาน อาจจะสักครั้งหรือ 2 ครั้ง/วัน ทานอะไรก็ตามที่เหลืออยู่หรืออะไรก็ได้ที่ทำมาใหม่ หากเป็นของใหม่ ฉันก็จะทานไป หากเป็นของเหลือฉันก็จะทาน ฉันต้องใช้อะไรเล่า? นั่นคือสาเหตุที่ฉันยังคงมีเงินจำนวนมากมาย เพราะฉันไม่ใช้จ่าย มิใช่เพราะฉันมีรายได้มากขึ้น เช่นเดียวกับเธอ เธอมีรายได้มากเท่าเดิม และเธออาจมีลูกหลานมากกว่าเดิมในขณะนี้เมื่อเทียบกับแต่ก่อน แต่เธอก็ยังคงมีเงินมากกว่าเดิม เธอยังรู้สึกว่าชีวิตร่ำรวยกว่าเดิม และเธอจะรู้สึกพึงพอใจมากกว่า เนื่องจากเธอมีมากเกินพอใช่ไหม? กลเม็ดของมันอยู่ตรงนี้

5235_1.jpgจงจัดการด้วยปัญญาเพื่อกลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน
    คนจำนวนมากเป็นเศรษฐีเงินล้าน แต่ไม่มีใครทราบ ทุกๆ คนคิดว่าการเป็นเศรษฐีเงินล้านเป็นเรื่องยาก แต่จริงๆ แล้วมิได้เป็นเช่นนั้น และโดยเฉพาะคนที่เป็นเศรษฐีเงินล้านเรียบร้อยแล้ว เป็นเช่นนั้นอยู่ เพราะพวกเขาเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง พวกเขาประหยัดมัธยัสถ์ กระทั่งไม่ขับรถใหม่ราคาแพงๆ พวกเขาเพียงซื้อรถมือ 2 จะได้ไม่ต้องเสียภาษีของฟุ่มเฟือย เป็นต้น พวกเขาเพียงขับรถธรรมดาๆ เศรษฐีเงินล้านส่วนใหญ่ไม่ขับรถราคาแพง เขาขับรถที่สมเหตุสมผล ปลอดภัย เช่น รถฟอร์ด หรือกระทั่งรถจี๊ป ดังนั้นพวกเขาจะขับอะไรก็ตามที่ปลอดภัย พวกเขาไม่ค่อยได้ดำเนินชีวิตดังที่เราคิดว่าเศรษฐีควรจะเป็น มิฉะนั้นแล้ว เงินของเธอจะสลายไปเร็วถึงแม้ว่าเธอจะเป็นเศรษฐี ดังนั้นพวกเขาจะประหยัดเงินได้มาก! พวกเขาหาวิธีที่จะประหยัด เช่น พวกเขาจะขับรถประเภทที่ใช้น้ำมันน้อย และอาศัยอยู่ในถิ่นและบ้านที่เขาสามารถจ่ายไหว ดังนั้นพวกเขาจะไม่ใช้เงินเก็บของเขาหมดไป ดูไปดูมาแล้ว พวกเขาเพียงประหยัดตรงนั้นและตรงนี้ แล้วจากนั้นเงินของเขาก็จะมั่นคงอยู่ตลอดเวลา
    และบางคนซึ่งมีรายได้ไม่มาก แต่จ่ายเงินออกไปมากแล้วขับรถซึ่งวิ่งได้เร็วๆ และอะไรทำนองนั้น จริงๆ แล้วพวกเขามีมาก แต่ก็มีติดหนี้เครดิตอยู่มาก มีจำนองอยู่มาก และมีหนี้มาก ส่วนบรรดาเศรษฐีจะขับรถธรรมดาๆ เพราะพวกเขาทราบว่า จะจัดแจงชีวิตของเขาให้ไม่ต้องเป็นหนี้ได้อย่างไร มีเศรษฐีหลายคนอาศัยอยู่ข้างบ้านเธอ และเธอก็หาได้ทราบไม่ เพราะพวกเขาไม่เอาเงินออกมาโอ้อวด พวกเขาทราบว่าเขากำลังทำอะไร พวกเขารู้จักคุณค่าของเงิน พวกเขาไม่จ่ายเกินความสามารถ พวกเขาเป็นเช่นนั้นโดยธรรมชาติ นั่นคือสาเหตุที่พวกเขากลายเป็นร่ำรวย พวกเขารวยโดยธรรมชาติ โดยธรรมชาติพวกเขาทราบวิธีที่จะบริหารเงิน
    และแน่นอน บางครั้งพวกเขาก็ถูกสลากกินแบ่ง(เสียงหัวเราะ) แต่เขาก็นำเงินไปลงทุน ตัวอย่างเช่น หากเขามีรายได้ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี(1.2 ล้านบาท) พวกเขาจะนำ 15% หรือ 20% แยกไว้ นำไปลงทุนในธนาคารใดก็ตาม ดังนั้นบางทีใน 15 หรือ 20 ปี พวกเขาก็จะมีเงินเป็นแสนๆ ดอลลาร์จากจำนวนเงิน 5,000 หรือ 10,000 ดอลลาร์ที่พวกเขานำไปลงทุนในแต่ละเดือน ที่พวกเขาได้นำไปฝากไว้ในธนาคาร พวกเขาทราบวิธีจัดการกับเงินของเขา พวกเขาจะไม่จ่ายรายได้ออกไปทั้งหมด เขาจะเหลือบางส่วนไว้ลงทุน
    แล้วเมื่อนั้น ในไม่ช้าเธอก็จะร่ำรวย ตัวอย่างเช่นหากเธอแบ่งไว้ 10,000 ดอลลาร์(300,000 บาท)วันนี้ 10 ปีต่อมามันจะกลายเป็น 50,000 ดอลลาร์(1.5 ล้านบาท)ถ้าเอาไปฝากไว้ในธนาคาร แต่นั่นใช้เวลานาน มิฉะนั้นคนที่รวยก็สามารถตั้งกิจการของตนเอง นั่นคือวิธีที่เขาร่ำรวยขึ้นรวดเร็วกว่า มันเสี่ยงกว่า แต่นั่นก็คือชีวิต ถ้าไม่เสี่ยง เธอก็ต้องใช้ชีวิตธรรมดา ช้าๆ วันต่อวันและมีรายได้ไม่มาก แต่กระนั้น ถ้าหากเธอจัดการได้ดี เธอก็จะอยู่รอดได้ เพราะชีวิตเรียบง่ายกว่าเดิมแล้ว เต้าหู้นั้นราคาถูกกว่าสเต๊ก เพียงแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย ใช้เต้าหู้ชิ้นหนึ่งแทนเนื้อชิ้นหนึ่ง เราก็ยังสุขภาพดี เราก็ยังโอเค ดูฉันสิ!

%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%จงดูดีทั้งภายในและภายนอก
    พวกเธอทุกคนยังดูดีด้วย ฉันภูมิใจในตัวเธอ และพวกเธอต่างก็ภูมิใจในตัวเองและก้าวออกมากล่าวได้ว่า “ฉันรับประทานอาหารมังสวิรัติ ดูฉันสิ” นั่นเป็นเรื่องดี พวกเธอสวยงามยิ่งนัก เพียงเธอไม่ได้แต่งหน้าขณะนี้ ดังนั้นเธอจึงดูสวยน้อยกว่าหน่อย แต่กระนั้นเธอก็ดูสวยงามเกินไปแล้ว หากเธอแต่งหน้าเข้าไป ทุกๆ คนจะตายไป(เสียงหัวเราะ) สามีทั้งหลายของเธอกำลังชื่นใจตายอยู่แล้ว เธอจะสวยเกินไปแล้ว แล้วพวกเขาไม่อยากจะจากเธอไป นั่นคือสาเหตุที่พวกเขาบางคนกลัวเหลือเกิน พวกเธอประทับจิต แล้วเขาก็กลัวเหลือเกินว่าเธออาจกลายเป็นแม่ชีหรืออะไรสักอย่าง พวกเขารักเธอเกินไป เธอดูสวยงามเหลือเกิน สวยยิ่งขึ้นและยิ่งขึ้นทุกๆ วัน
    สามีบางคนได้ทิ้งภรรยาของเขาไปเรียบร้อยแล้วและหลังจากที่เธอประทับจิต เขาก็กลับมาและกล่าวว่า “โอ้เหตุไฉนเธอจึงสวยงามเช่นนี้?” และย้ายกลับมา เป็นเช่นเดียวกันกับภรรยาบางคน ซึ่งได้ทิ้งสามีของตนไปเรียบร้อยแล้วและไม่ต้องการพวกเขากลับมา แต่หลังจากประทับจิตพวกเขาก็กลับมาและกล่าวว่า “โอ้ พระเจ้าท่าน เขาเปลี่ยนไปแล้ว! เขาเป็นชายคนใหม่” แล้วก็ย้ายกลับมาใหม่ ไม่มีปัญหา พวกเขาทิ้งแฟนหนุ่มหรือแฟนใหม่ หรืออะไรก็ตามแล้วมาอยู่กับสามี เพราะในขณะนั้นพวกเขามีจิตวิญญาณที่งดงามขึ้น
    ครั้นเธองดงามภายใน ผู้คนก็จะเห็นเธอสวยงามภายนอกเช่นกัน ปกติจะเป็นเช่นนั้น ดังนั้นจงพยายามป้องกันตนเองจากชายชู้ทั้งหลาย แล้วก็บำเพ็ญของเธอต่อไป ชีวิตของเธอจะดีขึ้นและดีขึ้น ฉันไม่จำเป็นต้องบอกเธอ ฉันเพียงบอกเธอในกรณีว่า ใครยังไม่ทราบ เขาจะได้มาตรวจสอบกับเธอ ชีวิตของเธอเป็นตัวอย่างแห่งรักและพรทางจิตวิญญาณ ไม่มีความจำเป็นกระทั่งที่จะเทศนาให้ใครฟัง เขาเพียงมองชีวิตของเธอ ดูวิถีชีวิตที่เธอก้าวเดิน วิธีที่เธอเสนอตนเองสู่โลก นั่นดีกว่าหนังสือเป็นพันๆ เล่มที่กล่าวถึงเรื่องราวทางจิตวิญญาณ เธอคือหนังสือ เธอคือตัวอย่างที่ดีที่สุด เป็นคำสอนที่ดีที่สุด เป็นทฤษฎีทางศาสนาที่ดีที่สุดที่เคยถูกเสนอให้กับใครๆ 
    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเรื่องราวเรื่องหนึ่งในเม็กซิโกเกี่ยวกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านมีชื่อเสียงยิ่งนัก ชื่อเชทซัลโคทล์ ท่านได้เล่าเรื่องนี้ให้กับศิษย์ของท่านฟังว่า มีชาย 2 คนอยู่ในกลุ่มเดียวกัน คนหนึ่งขยันขันแข็งยิ่ง และดูเหมือนว่าจะเคร่งศาสนาเป็นยิ่งนัก เขาไปโบสถ์ทุกๆ วันอาทิตย์และจะเป็นคนแรกที่เข้าแถวร่วมกิจกรรมศักดิ์สิทธิ์ใดๆ และเป็นคนสุดท้ายที่จะจากไป เขาไม่เคยพลาดโอกาสใดๆ ที่จะไปโบสถ์ เขาไม่เคยกระทำสิ่งใดอื่นเลย และมีอีกคนหนึ่งไม่เคยไปโบสถ์ แต่เขาไปทำงานทุกๆ วัน เขาทำสิ่งใดก็ตามที่เป็นหน้าที่ของเขา และรายได้ใดๆ ที่เขาหามาได้ก็จะนำมาเพื่อดูแลครอบครัวของเขา และทั้งยังนำมาบริจาคให้คนยากจน เขากระทั่งยังนำมาบริจาคให้กับโบสถ์ด้วย เพื่อนำมาซ่อมแซมโบสถ์
    ดังนั้นเชทซัลโคทล์จึงกล่าวว่า ชายผู้นั้นซึ่งไม่เคยไปโบสถ์นั้น ศักดิ์สิทธิ์และเป็น “โบสถ์” ด้วยตนเองอยู่แล้ว แต่ชายซึ่งไปโบสถ์ทุกวัน ได้แต่เพียงไปที่นั่น ทุกๆ คนยำเกรงชายซึ่งไปโบสถ์เป็นอย่างยิ่ง คิดว่าเขาศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก เขาพูดจาดูถูกชายซึ่งไม่เคยไปโบสถ์ แต่แท้จริงแล้ว เขาได้ออกไปดูแล “โบสถ์” ทั้งหลายในบริเวณของเขา อะไรก็ตามที่เขาสามารถทำได้ เขาก็จะทำ บางครั้งก็ทำงานพิเศษเพื่อจะได้หาเงินเพิ่มอีกสักเล็กน้อยเพื่อให้ใครก็ตามแต่ นั่นคือสิ่งที่เขาทำทุกๆ วัน ดังนั้นท่านอาจารย์จึงกล่าวว่า ชายคนแรกซึ่งไปโบสถ์นั้นก็ดีอยู่หรอก แต่ชายคนที่ 2 เป็นโบสถ์เอง ดังนั้นเราสามารถเป็น “ผู้ไปโบสถ์” หรือ “โบสถ์” ด้วยตนเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเรา ฉันคิดว่าพวกเธอทุกคนต่างก็เป็นโบสถ์ ฉันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสร้างโบสถ์ใดๆ 
โบสถ์ของท่านอาจารย์
    บางคนถามฉันว่า ทำไมฉันจึงไม่มีโบสถ์หรือวัดใดๆ และฉันก็จะกล่าวว่า “ฉันไม่มีความจำเป็นใดๆ ฉันมีโบสถ์อยู่เป็นล้านๆ วิ่งไปวิ่งมาอยู่รายรอบ” (เสียงปรบมือ) ฉันกล่าวว่า “ทุกวันนี้ในสมัยใหม่ด้วยเทคโนโลยีอันรวดเร็ว ทุกสิ่งก็เคลื่อนที่ มีโทรศัพท์เคลื่อนที่ บ้านเคลื่อนที่ รถเคลื่อนที่ ก็มีวัดเคลื่อนที่” เธอเป็นวัดเคลื่อนที่ของฉัน เราสามารถติดต่อกันเมื่อใดก็ได้ ไปที่ใดก็ได้ เรายืดหยุ่นเป็นอย่างยิ่ง ตึกที่สร้างด้วยอิฐติดอยู่เพียง ณ แห่งเดียว แต่เราสามารถวิ่งไปรอบๆ เราเป็น “วัดวิ่งไปรอบๆ” เข้าท่ามากเลย!
    การพูดจา ใครๆ ก็ทำได้ แต่การใช้ชีวิตโดยกระทำในสิ่งที่เธอพูดจาไว้นั้นยากยิ่งกว่า พวกเธอทำทั้งหมดนั้นได้ พวกเธอพูดจาได้ และก็กระทำได้ด้วยเช่นกัน นั่นคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเธอ ฉันบอกเธอว่า ฉันมาเพื่อทำให้เธอยิ่งใหญ่ ฉันยิ่งใหญ่หรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องราวอันใด ฉันเป็นเพียงคนเดียว อาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ ครูที่ยิ่งใหญ่ มิใช่ผู้ที่ทำให้ตนเองยิ่งใหญ่ หากแต่เป็นผู้ที่ทำให้คนอื่นทุกๆ คนยิ่งใหญ่ หากลูกศิษย์ของเธอดี ก็หมายความว่า เธอดี มิฉะนั้นแล้ว เธอก็หาได้ดีไม่ ดังนั้น ไม่ว่าฉันจะยิ่งใหญ่หรือไม่ ก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่เธอยิ่งใหญ่ ก็ดีแล้ว และด้วยความเมตตาของเธอ ฉันก็จะยิ่งใหญ่ไปด้วย เมื่อนั้น “ขอบคุณมากเลย” ฉันก็ชอบเช่นกัน แต่ถ้าจะให้บอกเธอตามตรง หากทั้งโลกรู้แจ้งแล้ว จะไม่มีใครต้องการฉันด้วยซ้ำไป ฉันจะดีใจที่จะได้เป็นเพียงคนธรรมดา
    ทุกๆ ครั้ง เป็นการยากยิ่งนักที่จะจากเธอ ฉันอยากบอกให้เธอทราบ ฉันอยากให้เธอทราบเรื่องนี้ เพราะเธอคิดว่ามีเพียงเธอที่ไม่อยากจากไป แต่ฉันก็ไม่อยากจากไปเช่นกัน แต่ฉันต้องทำงานของฉัน ดังนั้นฉันจึงแยกความรู้สึกส่วนตัวของฉันออกไป เป็นเพียงเพราะเหตุนี้ มิฉะนั้นแล้ว ฉันสามารถอยู่กับเธอได้ตลอดไป เชื่อฉันสิ เธอเป็นคนที่ดีที่สุด จะให้ฉันไปที่ไหนเล่? คนเรามักอยากจะอยู่กับเพื่อนดีๆ ทุกๆ คนอยาก ฉันก็เช่นกัน แต่ก็ไม่เป็นไร เราอยู่ด้วยกันที่ตรงนี้ (ท่านอาจารย์ชี้ไปที่หัวใจของท่าน) ขอบคุณ ฉันรักเธอ

member-deneta-albums-%E0%B8%AA%E0%B8%A1%				
comments powered by Disqus
  • ดอกไม้ ใบหญ้า

    10 มีนาคม 2554 16:45 น. - comment id 122932

    41.gif41.gif41.gif
    
    มันเป็นอะไรที่ลึกซึ้งมากเลยค่ะ..
    
    ....และมันจะจดจำไปชั่วชีวิต...
    
    เราจะอยู่ด้วยกันที่ตรงนี้.....
    
    
    
    16.gif16.gif16.gif
  • คีตากะ

    10 มีนาคม 2554 17:40 น. - comment id 122935

    36.gif36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน