อทิสมานกาย ๘๓

แก้วประเสริฐ


                อทิสมานกาย ๘๓
   เสียงจักจั่นร้องระงมดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  ตลอดค้างคาวต่างบินโฉบ
โฉบฉวัดไปๆมาๆ  หลังจากเสียงปืนได้สงบหลังจากที่มันต่างพากัน
แตกตื่นด้วยเสียงปืนที่ดังสนั่นเลือนลั่นไป  ท้องฟ้าพระจันทร์ที่
รูปร่างเสี้ยวไม่มากนัก  พึ่งโผล่พ้นขอบไม้ต่างๆ  แสงดาวต่าง
ระยิบระยับ หมู่เมฆลอยละล่องไปตามกระแสลม  บ้างเจือจาง
บ้างเกาะกันเป็นกลุ่มก้อนไม่มากนัก ท้องฟ้าจึงแจ่มใสด้วยดวงดาว
ที่พราวพร่าง ประหนึ่งแข่งกับแสงจันทร์ที่ทอริบหรี่นัก แต่แสง
เหล่านี้ก็พอจะทำให้พื้นที่บริเวณแถวนั้นสว่างผสมกับแสงไฟฟ้า
จากโคมและภายในบ้านสาดส่องออกมา จึงทำให้แลเห็นได้
พอประมาณ  แต่ไม่มากนักเท่านั้นเอง
   ร่างของชายฉกรรจ์ทั้งหก ที่แยกย้ายกันในที่ต่างๆก็พากันเข้ามาร่วม
ตัวกันที่บริเวณลานกว้าง    หน้าบ้านอดีตกำนันหวน  หนึ่งในนั้นก็
เอ่ยปากขึ้นทันที......
   “ เฮ้ยๆๆ!!!!.....รีบช่วยกันนำศพพวกนี้ออกไปแล้วมาล้างเลือดให้
หมดก่อนที่ พ่อหวนไอ้ชวนจะกลับมานะโว้ย   ไอ้ตี๋เล็ก ตี๋ใหญ่ วาส 
และไอ้กุ๋น  ช่วยกันลากพวกมันไปฝังไว้ให้ห่างไกลๆหน่อย  เอาผ้าปู
ที่รถเรา  ไอ้วาส ไอ้กุ๋น  โน่น!!!!....มึงไปเอา จอบเสียมที่ใต้ถุนบ้าน
นำไปขุดหลุมฝังโดยด่วนด้วย  ส่วนข้า กับไอ้ ชื่น จะจัดการล้างเลือด
ที่เปื้อนนี้ไว้เอง  แล้วอย่าเสือกเอาผ้าเปื้อนเลือดกลับมาด้วยฝังไปกับพวก
มันนั่นแหละ...อย่าลืมนะโว้ยขนไปฝังให้ไกลๆบ้านหน่อยนะภายในป่า
ยิ่งดีว๊ะ  กลิ่นมันจะได้ไม่ส่งคลุ้งคนผ่านถนนทางนี้ หรือพวกหาของป่า
ด้วยจะดันเสือกไปเจอเข้าจะเป็นเรื่องใหญ่ว๊ะ!!!!!!.....”     
    เสียงไอ้เปล่งสั่งการสั่งงานหน้าตาเคร่งเครียด พร้อมทั้งเดินไปตรวจยัง
บรรดาศพที่นอนตายต่างๆกันทันที
   “ไอ้ห่าราก!!!!???.....มึงทั้งสองก็สบายซิว๊ะไม่เหน็ดเหนื่อยอะไรมาก”
   เสียง ไอ้วาสเอ่ยเปรยๆขึ้น  แต่มันก็ยังเดินไปจัดการตามที่ไอ้เปล่งพูด
ส่วนพวกที่เหลือไม่กล่าวอะไร นอกจาก  ไอ้ตี๋ใหญ่ที่ห้ามปรามไว้
   “ พวกมึงทำตามไอ้เปล่งมันก็แล้วกัน หากไม่ได้มันคาดคำนวณไว้ว่า
อะไรจะเกิดขึ้น ไอ้ชวนและเข้าของคงฉิบหายกันหมด  แม้แต่เด็กและ
ผู้หญิง  ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นว๊ะ???....”
   “เออๆๆๆ....จริงของมึงว๊ะไอ้ตี๋ใหญ่  ไปๆๆๆโว้ยรีบไปทำงานกันก่อนที่
พ่อหวน แม่เย็น ไอ้ชวน และน้องสาวมันจะกลับมา”
   เสียงไอ้กุ๋นเอ่ยขึ้นบ้าง  รีบๆทำเถอะ ว๊ะอย่าชักช้าเวลาจะไม่ทันว๊ะมันเอง
ก็เหนื่อยเหมือนกันต้องหาน้ำของอื่นๆมาล้างเลือดไอ้พวกห่าพวกนี้ว๊ะ
ยังล้างรอยเลือดหลายๆแห่งด้วยโว้ย???!!!...   ว่าแล้วชายทั้งสี่แม้จะบ่น
พรึมพรำก็ตามแต่มันก็เชื่อคำไอ้เปล่ง ด้วยมันรู้ว่า  หากไม่ได้ไอ้เปล่งซึ่ง
มันเป็นจอมวางแผนการณ์ไว้ล่วงหน้าหลังจากทราบว่าทั้งหมดไปบ้าน
พ่อเชียร  มันนั่งนึกคิดไปในระหว่างอยู่ที่ร้านอาหารแม่ลัดดา จึงได้เอ่ย
ให้พวกมันเตรียมตัวมารับมือกับพวกไอ้แม้น   ก็จริงดังที่มันกล่าวไว้ไม่
ผิด   ดังนั้นชายฉกรรจ์ทั้งสี่  ก็รีบลากร่างที่ตายแล้วมากองรวมกันไว้ ส่วน
ไอ้กุ๋น ก็รีบไปเอารถกระบะมาเทียบท้ายทันที   ทั้งหมดก็รีบขนศพขึ้นรถ
ไอ้กุ๋นเป็นคนขับนำร่างที่ตายด้วยพวกมันออกไปทันที   ส่วนไอ้เปล่งกับ
ไอ้ชื่นก็ไม่รอช้า รีบไปหากระแป๋งมาสี่ใบพร้อมไม้กวาดไม้ที่ใช้กวาด
ใบไม้ต่างๆ   มาแบ่งกับไอ้เปล่งช่วยกันตักน้ำ
ในตุ่มมาล้างเลือดทั้งกองเป็นลิ่มๆจนสอาดทั้งบริเวณหน้าบ้าน กระได
และตามพุ่มไม้ที่พวกมันหนีไป   อันที่จริงไอ้กุ๋นกับไอ้วาสจะตามไปเก็บ
มันให้หมด  แต่ไอ้เปล่งห้ามไว้ว่าปล่อยมันไปจะได้ไปรายงานพวกมันว่า
การที่มาบุกรุกบ้านพ่อหวนผลจะเป็นอย่างไรบ้าง
   เมื่อทั้งหมดต่างช่วยกันทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วต่างก็มาพบกันอีกครั้ง
หนึ่ง  แต่ทุกๆคนยังไม่ได้ไปไหน ต่างพากันหาที่นั่งแยกกันไว้เพื่อระวังภัย
อาจจะย้อนกลับมาอีก   ครั้นเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง 
 เสียงไอ้เปล่งก็เอ่ยว่า
   “ไปโว้ยพวกเราข้าคิดมันคงจะไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นแล้วว๊ะ”
   “ แล้วพวกเราไม่ขึ้นไปปลอบใจผู้หญิงและเด็กหรือว๊ะ???...”
   ไอ้ตี๋ใหญ่เอ่ยขึ้นหันหน้ามาถามไอ้เปล่งซึ่งตอนนี้มันทำหน้าที่เป็น
หัวหน้าแทนไอ้ชวน
   “ ไม่ต้องหรอกโว้ย  เดี๋ยวพวกผู้หญิงมันจะจำพวกเราได้ ต่อไปจะเกิด
เรื่องใหญ่กว่านี้   ไปโว้ยพวกเรา”      เสียงไอ้เปล่งเอ่ยขึ้นกับพวก
   ดังนั้นทั้งหมดก็นั่งระกระบะขับออกจากบ้านอดีตกำนันหวนหายไปใน
ความมืดทันที  
    เสียงรถกระบะที่บรรทุกพวกไอ้แม้นแล่นมา  ครั้นไอ้แม้นกะว่าห่างกัน
ได้กิโลกสองกิโล  ก็สั่งให้พวกมันขับรถแฝงเข้าไปในใต้ต้นไม้ใหญ่ริม
ทางทันที     แล้วต่างลงจากรถมายืนรอฟังคำสั่งไอ้แม้นจะให้ทำอย่างไร
   “ พวกมึงแยกย้ายไปเตรียมตัวได้แล้วว๊ะ  กูคิดว่าคงอีกไม่นานไอ้หวน
กับพวกก็คงจะมาแล้วล่ะ  แล้วอย่าเสือกเผยหน้าให้คลุมหน้าไว้ด้วยทุกๆ
คนนะโว้ย”     เสียงไอ้แม้นสั่งทันที
   ดังนั้น ไอ้โจ๊ก  ไอ้เข่ง ไอ้ผัน  ไอ้หาญ  พร้อมกับตัวมันต่างก็แยกย้ายกัน
แฝงยังตามต้นไม้ใหญ่ริมทางบ้าง  พุ่มไม้ใหญ่ๆบ้างทันที     ในระหว่างที่
ทุกๆคนกำลังเดินออกไปเสียง     นกหากินกลางคืนก็ดังขึ้นก้องกังวานคือ
เสียงของนกแสกก็ดังร้องก้องดังลั่นฝ่าความมืด บินผ่านหน้ากลุ่มมันทันที
   พวกไอ้แม้นต่างชะงักรวมทั้งพวกไอ้แม้นด้วย  ต่างสบถด่าออกมา
   “ ไอ้นกผีห่าราก!!!!????....เสือกมาร้องตัดหน้ากูได้????.....”
   “ ช่างมันเถอะว๊ะอย่าคิดมาก  โว้ย”   ไอ้แม้นที่จริงก็ตกใจเหมือนกันแต่
ฝืนทนเอา    หันไปทางพวกมันนอกจากปลอบขวัญพวกเอาไว้เท่านั้น
   ครั้นทุกๆคนได้ฟังเช่นนั้นเนื่องจากอารมณ์ไอ้แม้นมันไม่ค่อยดีจึงไม่มี
เอ่ยอะไรขึ้นมาอีก   ต่างรีบพากันแยกย้ายกันไป  ส่วนไอ้แม้นก็นั่งอยู่ริม
ทางพร้อมกับไอ้เบี้ยวคอยมองดูแสงไฟรถที่จะผ่านมาทางพวกมัน
    บัดดลเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างยาวนานโหยหวน ทอดรับกันเป็นทางเข้า
มาสลับกันเป็นทอดๆ  เสียงมันทำให้พวกที่แยกย้ายกันต่างพากันหวั่นไหว
   “ โบ๊ววว!!!!?????ๆๆๆๆๆๆ.......”
   “ โบ๊ววว????....เอ๋งๆๆๆ.....โบ๊วววๆๆๆๆ?????.....”    เสียงนั้นยังคงส่ง
เสียงมิขาดสาย  ยังคงหอนโหยหวนอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา  เล่นเอาพวก
ไอ้แม้นต่างหน้าตาเหลิกหลักๆๆๆๆไปตามๆกัน  ขนบนร่างมันทั้งผมก็ลุก
ชัน  ความเมาแทบจะเหือดหายไป  แต่พวกมันก็จ้องไปทางบ้านพ่อเชียร
     ทันใดนั้นเองไฟหน้ารถก็ส่องมาแลเห็นแต่ไกลๆ   ไอ้แม้นหันไป
ตะโกนสั่งทันที  มันพร้อมกับไอ้เบี้ยว รีบไปนำขอนไม้ใหญ่  มาวางกั้น
บนถนนขวางทางไว้ทันที  แล้วรีบแอบเข้าไปยังริมถนน  นั่งซุกตัวอยู่
พร้อมกับนำผ้าไหมพรมคลุมหน้ามัน  พร้อมถือปืนออกมาเพื่อเตรียม
พร้อมเข้าหมายจัดการทันที  ส่วนไอ้เบี้ยวก็แยกจากไอ้แม้นไปห่างไม่มาก
นัก   ในมือมันก็มีปืนเหมือนกัน  เสียงของหมายิ่งหอนรับกันเป็นทอดๆ
กันยกใหญ่  เหมือนกับการต้อนรับอะไรๆสักอย่างหนึ่งก่อนจะเงียบหาย
ไป  แต่เสียงนั้นเพียงได้ยินแว่วๆเท่านั้นเอง  ทั้งสองรีบหมอบลงทันที
   จากแสงไฟดวงเล็กๆค่อยๆใหญ่โตขึ้นเสียงเครื่องยนต์ดังใกล้เข้ามา
   “เฮ้ยๆๆๆ!!!!.....เตรียมพร้อมนะโว้ยอย่าให้พลาดเสียล่ะ”
   เสียงไอ้แม้นตระโกนสั่งทันที   ดังนั้นพวกที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งก็ทะยอย
แยกกัน   เดินออกมาแต่ห่างๆกันไว้พอสมควร
   และแล้วเมื่อรถที่มันมองเห็นใกล้เข้ามาเพียงคันเดียว  มันก็แลเห็น
ไอ้ชวนเป็นคนขับ  แม่มันนั่งกระหนาบข้าง  ด้านหลัง ไอ้หวนกับ
อีนางบงกชนั่งคลุมหัวด้วยผ้านั่งอยู่ด้านท้ายรถกระบะ    
   พอรถแล่นมาถึงที่ไอ้แม้นกับไอ้เบี้ยวแอบซุกตัวอยู่ข้างทาง  รถก็หยุด
ชะงักดับเครื่องทันที
   เล่นเอาไอ้แม้นกับไอ้เบี้ยวสะดุ้งเฮือก  มันยังไม่ทันสั่งให้พวกเข้าจัดการ
พวกมันก็พากันออกมารุมล้อมรถกระบะทันที ทุกๆคนต่างคลุมใบหน้าไว้
หมดทุกๆคน    ในมือล้วนถือปืนกันหันปากกระบอกปืนมายังรถเตรียมยิง
    เสียงเยือกเย็นจากแม่เย็นก็ดังขึ้น  มันช่างเย็นยะเยือกเข้าไปในใจไอ้แม้น
กับกับเบี้ยว  ดังถูกน้ำเย็นที่แช่น้ำแข็งสาดไว้ไม่ผิด   ร่างมันสั่นสะท้านใจ
และกายอย่างไม่น่าเป็นไปได้   ทั้งๆที่พวกมันกินเหล้ากันมาก็ยังหนาวเย็น
   “ พ่อแม้นมารอพวกข้านานแล้วเหร๋อออ????.....เข้ามาซิจ๊ะะะ????....”
   “อ้าวววๆๆๆ....แล้วไอ้สนกับไอ้แช่มม????....มันไม่มาด้วยกันเหร๋อ!!!
ไอ้แม้น”    คราวนี้เป็นเสียงไอ้ชวนที่ไอ้แม้นมันแลเห็นจากแสงสว่างใน
รถจางๆ แล้วไอ้ชวนก็หัวร่อฮึๆๆๆๆ พลางหันไปทางแม่มันเอ่ยขึ้นว่า
    “ได้เวลาหรือยังล่ะแม่???....”   เสียงช่างเยือกเย็นยิ่งนัก
   
 “เอาซิลูกตามสบายเลยนะ  ไม่ต้องไปยั้งมืออะไรมันหรอกพวกชั่วๆนี้”
เสียงเยือกเย็นโหยหวนของแม่เย็นกล่าวกับไอ้ชวน  ได้ยินมายังพวก
ไอ้แม้นทันที    พวกไอ้แม้นที่ยืนอีกฝั่งมองหน้ากันด้วยความสงสัย 
   ไอ้แม้นไอ้เบี้ยวพากันงงทันที  มันรู้ได้อย่างไรว๊ะว่าเป็นกูทั้งๆที่กูคลุม
หน้าไว้และเป็นกลางคืนเดือนเสี้ยว มีแค่แสงดาวส่องกระจ่างนิดๆเท่านั้น
   และแล้วมันก็ตาเหลือกลาน เมื่อแลเห็นไอ้ชวนชโงกหน้าออกมาจากตัว
รถพร้อมกับแม่เย็น  มันรีบขยี้นัยน์ตาทันที   คิดว่าว่าตามันคงจะฝาดหรือ
ไม่ก็ยังไม่ซ่างเมาเป็นแน่   สิ่งที่มันเห็น  ร่างไอ้ชวนยังนั่งมือถือพวงมาลัย
แต่ไหง๋คอมันยืดยาวออกมานอกหน้าต่างรถ   ใบหน้าไอ้ชวนแม่เย็นซึ่งคอ
มันยาวโค้งอ้อม  หลังคารถมาทางมันและไอ้เบี้ยว
   โอ้วว..ๆๆๆ!!!!!! มันเห็นใบหน้าทั้งสองบัดนี้หาใช่ใบหน้าของไอ้
ชวนกับแม่เย็นเสียแล้ว   เป็นใบหน้าที่ใหญ่โต ตาถลนห้อยมายังใบหน้า
หน้าตาเละเฟะส่งกลิ่นเหม็นเน่าลอยมากระทบจมูกมันทั้งสอง ซ้ำยังใหญ่
โตเท่ากระโด่งซัดข้าวไม่ปาน   ทั้งสองทิ้งปืนทันทีหวังจะวิ่งหนีด้วยมันรู้
แล้วว่าอะไรเกิดขึ้นแก่มัน  แต่ทว่าขามันกลับไม่ยอมทำงานแข็งทื่อไม่
อาจจะวิ่งหนี  ดังใจคิดได้นอกจาก เพียงแค่แหกปากร้อง  
   
“โอ้ยๆๆๆๆ....ผีหลอกโว้ย เผ่นเถอะไอ้เบี้ยว”  เสียงมันสั่นเครือ
   แต่ทางด้านไอ้โจ๊ก ไอ้เข่ง  ไอ้ผัน และไอ้หาญ  แลเห็นว่าลูกพี่มันกำลัง
คุยอยู่กับไอ้ชวนอยู่ ยังไม่ได้สั่งการใดๆ   จึงรอท่าทีคอยคำสั่งก่อน
และแล้วทั้งหมดมองไปทางหลังรถกระบะก็แลเห็นพ่อหวนและนางบงกช
ยืนขึ้น   แต่ทว่าร่างมันทำไมช่างสูงขึ้นๆเรื่อยๆ  พลางก้าวข้ามข้างรถลงมา
ทางพวกมันทันที
   “เหว๋อๆๆๆๆผะๆๆๆผีๆๆๆหลอกโว้ย????....”    เสียงไอ้หาญตะโกน
ดังลั่นทำลายความเงียบทันที    ร่างของพ่อหวนนางบงกชเมื่อก้าวลงจาก
รถแล้วก็ยื่นมือออกมา   แต่มีมันช่างน่าเกลียดหน้ากลัวยื่นยาวออกมาคว้า
ไปยังร่างทั้งสี่ทันที 
   ครั้นไอ้โจ๊กและไอ้เข่งคล้ายจะคุมสติ  พลันแหกปากร้องลั่น 
   “เฮ้ยยิงแม่มันซิว๊ะ   มึงเห็นไหมมันเอื้อมมือมาทางพวกเราแล้ว”
เสียงไอ้เข่งตะโกนบอกพรรคพวก  มันเองก็หันกระบอกปืนอัตโตเมติค
แมคนั่ม  ยิงไปยังร่างของร่างผีที่แปลงเป็นอดีตกำนันหวนและนางบงกช
ทันที  
   “ปั้งๆๆๆๆ!!!!....ปั้งๆ....ปั้ง...”
มันยิงไป ไอ้โจ๊กได้ยินไอ้เข่งกล่าวเช่นนั้นก็ได้สติต่างก็พากันระดมยิง
ไปยังร่างผีร้ายทั้งสองทันที   จากความกลัวหายไปกลายเป็นความกล้า
ขึ้นมา  มันทั้งสองยิงจนกระสุนหมด  แต่ไม่อาจจะทำอะไรผีร้ายที่น่า
หวาดหวั่นนั้นได้เลยเหมือนกับผ่านทะลุไปในอากาศมิปาน
มันทั้งสองมองเห็นว่ากระสุนเข้าเป้าอย่างชัดเจน   ไอ้หาญกับไอ้ผัน
ครั้นได้ยินเสียงปืนจากการยิ่งของไอ้โจ๊กไอ้เข่ง  ก็พากันช่วยระดมยิง
ร่างผีร้ายด้วยจนกระทั่งกระสุนหมด   มันทั้งหมดหันหลังจะวิ่งหนีไป
แต่ทว่าช้าไปเสียแล้ว   เมื่อมืออันเหยียดยาวทั้งสี่มาถึงตัวพวกมันแล้ว 
 ร่างผีกำนันหวนมือซ้ายคว้าร่างไอ้เข่ง มือขวาคว้าร่างไอ้ผัน   แล้วจับมัน
ทั้งสองโยนขึ้นไปบนอากาศเลยต้นไม้ใหญ่  
 ส่วนร่างนางบงกชก็เช่นเดียวกัน  ต่างคว้างร่างของไอ้โจ๊ก และไอ้หาญ
ต่างพากันกันโยนร่างทั้งสี่ลอยเคว้งคว้างไปในอากาศเหนือยอดไม้ใหญ่
       ไอ้แม้นกับไอ้เบี้ยวครั้นเห็นร่างไอ้ช้วนและแม่เย็นที่กระทำเช่นนั้น
ร่างมันแข็งทื่อก้าวขาไม่ออก   ใจมันคิดว่าจะออกวิ่งหนีให้เร็วที่สุดแต่
มันไม่สามารถทำได้นอกจากใจมันคิดเท่านั้น   ร่างผีแม่เย็นและเจ้าชวน
ก็ก้าวลงจากรถทั้งๆที่คอยังยืดยาวอยู่   เอื้อมมืออันยาวใหญ่คว้าหมับไป
ยังคอไอ้แม้น ส่วนแม่เย็นคว้าคอไอ้เบี้ยว ที่ตาทั้งสองมันเหลือกลานแทบ
จะถลนออกจากนอกเบ้า   หายใจติดขัดทันที
   “พวกเอ็งงงงง???....!!!!!ๆๆๆๆๆ....คงจะมาฉุดลูกสาวข้าหรือ”
เสียงผีแม่เย็นเอ่ยถามขึ้น
    “ทำไม่ทำเสียล่ะ โน่นพ่อกูกับน้องกูยืนอยู่ข้างรถแล้วล่ะให้มึงฉุดได้
แล้ว...”    เสียงไอ้ชวนร้องบอกเสียงเยือกเย็น
เสียงหมาก็ต่างร้องหอนกันขึ้นอย่างโหยหวนอีกครั้งหนึ่ง  เสียงนั้นเข้ามา
ใกล้ยิ่งกว่าเก่า   พวกมันเห็นหมาเหล่านั้นแต่ละตัวสูงใหญ่เท่าม้าสีดำสนิท
มันไม่ร้องเปล่ากลับวิ่งเข้ามาหาพวกมันอีกด้วย พร้อมส่งเสียงหอนอย่าง
เยือกเย็นยิ่งนัก  แล้วพวกหมาเหล่านี้ก็เข้ารายล้อมพวกมันทั้งหมดไว้มิ
ได้เข้าใกล้ไปกว่านี้ ต่างช่วยกันร้องหอนอย่างโหยหวน  
   “โบ๊วววๆๆๆๆ!!!!!?????......ๆๆๆๆๆๆๆ”
    ถึงแม้ว่าคอมันจะถูกบีบก็ตาม แต่ตามันจะเหลือกเพียงใดแต่มันก็แล
เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดของบรรดาลูกน้องมัน  ตลอดร่างพ่อหวนแม่นาง
บงกชซึ่งแปรเปลี่ยนใบหน้ารูปร่างอย่างชัดเจน กลิ่นเน่าเหม็นลอยคลุ้ง
ไปทั่วบริเวณนั้น  พวกมันจะอ๊วกให้ได้แต่คอมันถูกบีบไว้จึงอ๊วกไม่
ออก  ได้แต่ส่ายตาไปๆมาๆ   ร่างมันสั่นเทาไปทั่วสรรพางค์กาย
เห็นบรรดาพวกลูกน้องมันต่างถูก พ่อหวนนางบงกชกำลังทำอะไรอยู่   
ร่างมันทั้งสองก็ถูกยกลอยขึ้นไปบนอากาศทันใด????......
    ความคิดมันตอนนี้คิดอย่างเดียวจะหนีไปให้ไกลที่สุดที่จะไกลได้  
แต่ทว่าสายเสียแล้วด้วยร่างพวกมันทุกๆคนตลอดจนตัวไอ้แม้นเองก็
ถูกกระทำเหมือนๆกัน  เมื่อร่างพวกมันต่างถูกจับขว้างลอยขึ้นไป
บนอากาศทุกๆคน   ร่างทั้งสี่ถูกโยนแตกต่างสถานที่ไปแล้วมันเลย
สูงกว่ายอดต้นไม้ใหญ่เสียอีก   ต่างพากันหกคะเมนตีลังกาในท่าต่างๆ
ร่างพวกมันทั้งหมดก็หล่นลงมายังพื้นดิน มีบางคนตกไปบนคากิ่งไม้จน
กิ่งไม้หักสะบั้น  ในลักษณะต่างๆกัน   แต่ไอ้โจ๊กกับไอ้เข่งซวยที่สุดหัวมัน
ปักลงบนพื้นถนนคอหักตายทันที เลือดไหลออกจากปากจมูก  ร่างมันดิ้น
กระแด๋วๆๆสักพักก็เงียบไปร่างทั้งสองจมกองเลือดสิ้นใจตายทันที
   ส่วนร่างไอ้หาญ กับ ไอ้ผัน ดีหน่อย  ไอ้หาญร่างมันตกลงมาพังพาบกับ
แอ่งหย่อมหญ้า  แต่กระนั้นร่างมันถึงจะไม่ตายแต่ก็สลบไป  ส่วน ไอ้ผัน
นั้นมันเอาขาข้างหนึ่งลงก่อนตกลงไปในพุ่มไม้ใกล้ๆ  จึงทำให้ทั้งสองต่าง
ร้องแหกปากดังลั่น ขาไอ้ผันหักจนกระดูกโปนออกนอกแยกจากกันอย่าง
เห็นได้ชัดติดแค่ผิวหนังมันเท่านั้น    
ส่วนทางด้านไอ้แม้นกับไอ้เบี้ยวตาเหลือกลาน  ไอ้เบี้ยวหันหลังกลับจะวิ่ง
หนี  ด้วยปืนที่มันนำมาล่วงหายไปไหนก็ไม่รู้แล้ว ด้วยความตกใจเมื่อแล
เห็น   ร่างแม่เย็นและไอ้ชวนคอมันยาวยืดออกมา คงไม่คนแน่มันคิด
ปากมันก็ร้องเตือนได้แม้นทันที   
   “เฮ้ยๆๆๆ....เผ่นเถอะว๊ะไอ้แม้น...มันๆๆๆผีนะโว้ยไม่ใช่ไอ้ชวนแม่เย็น
หรอกว๊ะ”
    ปากมันร้องเตือนได้ด้วยคุมสติได้บ้าง แต่ขามันทั้งสองซิไม่ทำตามใจ
มันเอาเสียเลย  ร่างขามันแข็งทื่อไปหมด นอกจากตาที่มองเห็น เมื่อมือ
ของแม่เย็นไอ้ชวน  ซึ่งบัดนี้ไม่มีเค้าหน้าเก่าอีกแล้ว เป็นใบหน้าเน่าที่
เละเฟะตาถลนออกมาห้อยรุ่งริ่ง  น้ำเหลืองไหลหยดย้อยส่งกลิ่นเหม็น
ไปทั่งบริเวณ   และแล้วร่างมันทั้งสองก็ถูกมือของผีทั้งสองคว้าจึงมี
อาการแบบเดียวกับ พวก ไอ้หาญไอ้ผันไอ้เข่งไอ้โจ๊ก เพียงไม่
แตกต่างกันเท่าไหร่   ร่างทั้งสองถูกขว้างไปยังต้นไม้ใหญ่ร่างมันครูดไป
ตามกิ่งไม้จนหักสะบั้น  ร่างมันถลอกปอกเปลือกเลือดไหลออกมาทันที
 ตกลงมาร่างไอ้แม้นแทบสลบซี่โครงหักไปแถบ
หนึ่ง แต่มันก็ยังไม่ถึงแก่ความตาย   ส่วนไอ้เบี้ยวค่อยยังชั่วหน่อยด้วยร่าง
มันตกไปยังแอ่งกอหญ้าแพรกใหญ่รองรับร่างของมันเอาไว้จึงค่อนข้าง
ปลอดภัยกว่าทุกๆคน.........
ดังนั้นมันจึงแค่เคล็ดขัดยอกบวมอย่างทันตาเห็น     แต่สัญชาติญานมัน
แกล้งทำเป็นสลบไป ทำร่างมันแน่นิ่งไปแกล้งเป็นตายร่างไม่กระดุก
กระดิก นอนคว่ำหน้าไว้ในแอ่งพงหญ้าที่รองรับร่างมันไว้
    เสียงหัวร่อลั่นจากไอ้ชวน แม่เย็น พ่อหวน แม่บงกชดังสนั่นเยือกเย็น
โหยหวนยิ่งนัก  แล้วร่างทั้งสี่พร้อมด้วยรถที่นำมาก็พาอันตรธานหายไป
พร้อมด้วยร่างหมาดำจำนวนหนึ่งก็พลอยหายวับไปด้วยเพียงได้ยินแต่
   เสียงร้องของหมาก็ร้องโหยหวนก้องกังวานในความเงียบสงบค่อยๆ
จางหายไปในที่สุด
คงทิ้งร่างทั้งหก บ้างตาย บ้างไม่ตาย สลบไปตามสภาพแตกต่างกันทั้งสิ้น
   เวลาผ่านไปเมื่อความเงียบเข้ามาครอบคลุมอีกครั้งหนึ่ง   ไอ้แม้นค่อยๆ
รู้สึกตัว พร้อมพวกๆมัน     ทุกๆคนต่างร้องครวญครางกันดังบ้างเบาบ้าง
ยกเว้นไอ้เข่งไอ้โจ๊กที่มันไม่สามารถจะร้องได้ เพราะมันได้ตายไปแล้ว
   ไอ้เบี้ยวซึ่งอาการเบากว่าเพื่อนก็เหลียวซ้ายแลขวาเห็นทุกอย่างปกติแล้ว
มันก็ลุกขึ้นยืนทั้งๆที่มันเกิดอาการเจ็บปวดรวดร้าวไปทั่วตัว   จึงเข้าไป
ช่วยพยุงร่างไอ้แม้นให้ลุกขึ้นมาได้   
       ส่วนไอ้หาญซึ่งฟื้นจากสลบแล้วก็ค่อยๆพยุงร่างไอ้ผัน
ซึ่งเดินได้เพียงขาข้างเดียวความเจ็บปวดแทบจะให้มันขาดใจตายไป 
 แต่ทว่ามันไม่อาจจะเดินตามได้ตามใจมันนึก 
 จึงถูกไอ้หาญค่อยๆพยุงร่างมายังรวมกลุ่มของไอ้เบี้ยว ไอ้แม้น
ร่างไอ้แม้นกับไอ้เบี้ยวซึ่งนั่งร้องครวญครางลั่น อาศัยที่มันกินเหล้ามาจึง
ทำให้พวกมัน  ทำให้อาการปวดค่อยทุเลาลงไปบ้างเล็กน้อย
   “ ไอ้เบี้ยวมึงไม่เป็นอะไรมากรีบกลับโว้ย!!!!????.....เดี๋ยวพวกมัน
พากันมาอีกคราวนี้แหละไม่มีใครรอดสักคนเดียว 
  เอาศพไอ้โจ๊กกับไอ้เข่งกลับไปด้วย  หากทิ้งเอาไว้จะทำให้ตำรวจ
สงสัยว๊ะด้วยรู้ว่าเป็นพวกเรา   แต่อย่า
พึ่งเอาเข้าบ้านเก็บไว้ที่บ้านนะโว้ย  พาศพไปที่วัดแถวบ้านเราก่อนไป
หาสัปเหร่อเอา
เงินให้มันก้อนหนึ่งแล้วใส่โลงเผาเสียคืนนี้เลย ทำลายหลักฐานให้หมด
  ทุกๆคนอย่าเสือกปากหมาว่าไอ้โจ๊กกับไอ้เข่งเป็นอะไรไป บอกว่าไม่รู้
ไม่เห็นมันหนีไปแล้ว   ไม่รู้ไปทางไหนหากมีคนถามบอกว่าเจอพวกผีโว้ย
พวกมึงเข้าใจกูพูดไหมว๊ะ????....”
    ถึงไอ้แม้นไม่บอกพวกมันก็รู้อยู่แล้ว   ไอ้เบี้ยวก็ถามขึ้นทันทีว่า
   “แล้วไอ้หาญกับไอ้ผันล่ะ  ไอ้ผันค่อนข้างหนักกว่าใครๆว๊ะ????.....”
   “กลับไปแล้วค่อยปรึกษากัน  พวกเราเจ็บกูคิดว่าทางโน้นคงสำเร็จแล้ว
ให้มันไปตามหมอชาวบ้านมาก่อน  อย่าพึ่งพาไปอนามัย  เพราะมันปิด
แล้วต้องคอยวันรุ่งขึ้น  กำชับหมอชาวบ้านด้วยอย่าให้มันพูดมากไป
เดี๋ยวจะเป็นเรื่องใหญ่โต หากรู้ถึงตำรวจนะ ว่าไอ้โจ๊กกับไอ้เข่งตายห่าแล้ว
มิฉะนั้น  ทางตำรวจมันจะมาและมันต้องมาสอบถามแน่นอนว๊ะ”
   “งั้นกูไปเอารถมาก่อนพวกมึงรอที่นี่ก็แล้วกัน”
   ว่าแล้วไอ้เบี้ยวก็เดินขโยกเขยกไปยังรถที่จอดซ่อนไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ไม่
ห่างไกลนัก  สักพักรถก็แล่นมาถึง   ทั้งหมดต่างก็พยายามตะเกียกตะกาย
ขึ้นรถ โดยมีไอ้เบี้ยวขับไป  ที่วัดเพื่อจัดการกับศพทั้งสอง   ครั้นติดต่อ
ตกลงกับสัปเหร่อเรียบร้อยแล้ว  ก็รีบออกเดินทางกลับบ้านทันที
   ครั้นรถแล่นมาถึงทางเข้าประตูหน้าบ้านไอ้เบี้ยวก็ดับเครื่องแล้ว ไอ้
หาญ
กับไอ้เบี้ยวช่วยกันเข็นไปเก็บ  ก่อนไปมองไปยังใต้ต้นมะขามเห็นพวก
อีสาวๆกำลังว้าวุ่นอยู่กับร่างของไอ้แช่มอยู่อย่างกระวีกระวาด  ก็พากัน
ตกใจทันที   ด้วยบรรดาที่ตามไปหายกันไปหมดแม้แต่ไอ้สนที่เป็นคน
สนิทของมันก็หายไปด้วย................
              แก้วประเสริฐ.

index.php?action=dlattach;topic=7053.0;a				
comments powered by Disqus
  • กิ่งโศก

    5 เมษายน 2554 11:35 น. - comment id 123248

    มาสองตอน ยาวๆ ดีครับครู
  • แก้วประเสริฐ

    5 เมษายน 2554 13:15 น. - comment id 123253

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
          เรื่องนี้จะออกแนวสามมิติในขณะเดียว
    กันครูจะนำมาผสมผสานให้เรียงในทุกระดับ
    ไว้จ้า  หากเธอทำเป็นเล่มส่งให้ครูไว้อ่าน
    เล่นๆด้วยนะ  แต่คิดว่าลองเสนอขายครูว่า
    ตั้งแต่ทัศยุราชันย์ ลุ่มลึกอิสราวดี และเรื่อง
    นี้ คงจะขายออกได้ล่ะ เรียกต้นทุนคืนหรือ
    เธอควรใส่ชื่อเธอไว้ ก่อนจะดำเนินเรื่องนะ
    หากเพิ่มเติมอย่างไรตามใจเธอจ๊ะ
    ถ้าจบเรื่องนี้แ้ล้วครูว่าจะเขียนยาวเกี่ยว
    กับการผจญภัยไว้ก็คงจะดีเหมือนกันนะ
    ด้วยป่าเขาลำเนาไพรเป็นสิ่งที่ครูชอบ
    เสียดายลุ่มลึกอิสราวดีนั้นมีการผจญภัย
    ไม่มากนัก  ตั้งใจเหมือนกันว่าจะเขียน
    ถ้ายังไม่ตายเสียก่อนนะจ๊ะ
       ทุกอย่างครูรักและตามใจเธอมากๆ
    เสมอๆจ้า
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • เอื้องอังกูร

    5 เมษายน 2554 17:52 น. - comment id 123255

    สวัสดีครับ
         เริ่มเข้ม..และชวนติดตามตลอดเลยครับ
    ขอบุคุณมากครับ..ผมมีความสุขเสมอเมื่อได้
    อ่าน...มันเปนเหตุการณ์ที่ชวนติดตามอย่างต่อเนื่อง..ยิ่งอ่านยามสนธยายิ่งแจ๋วเลยครับ
    29.gif36.gifขอบคุณครับ
  • แก้วประเสริฐ

    5 เมษายน 2554 22:12 น. - comment id 123262

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เอื้องอังกูร
    
            ผมคิดว่าการจบนิยายเรื่องนี้น้อยคนนัก
    ที่จะทายถูกหรอกครับ ด้วยผมจะจบแบบ
    ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน อิอิ ผม
    ชอบสิ่งแหวกแนวเสมอๆครับ รักเสมอ
    
                16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • เอื้องอังกูร

    7 เมษายน 2554 15:02 น. - comment id 123283

    หวัดดีครับ
      หากมีการรวามเล่มทั้ง 3 เรื่อง..ผมจองทั้ง
    3 เรื่องเลยครับ36.gif16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    7 เมษายน 2554 15:19 น. - comment id 123285

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ เอื้องอังกูร
    
           ขอบคุณครับ ผมเองไม่มีปัญญาทำ
    หรอกครับ ยากจนครับยากจน โน่นศิษย์
    ผมเกริ่นๆหลายครั้งแล้ว ติดต่อกับเขา
    กิ่งโศกนะครับ คงจะได้ผลดีมากๆครับ
    ขอบคุณ รักเสมอๆ
    
               16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน