อทิสมานกาย ๙๙

แก้วประเสริฐ


                  อทิสมานกาย ๙๙
   เสี่ยเล้งยื่นมือไปรับเอกสารทั้งสามฉบับมาอ่านดู แต่สีหน้ามันยัง
เคร่งขรึมเหมือนเดิน มันอ่านอย่างพินิจพิจารณา  ที่มันมองคือลาย
เซ็นต์ชื่อที่ตรวจสอบอย่างละเอียด  สร้างความงุนงงแก่มันมากที่
เอกสารทั้งสองฉบับช่างเหมือนกันราวกับแกะ ส่วนอีกใบหนึ่งนั้น
มันไม่รู้ ด้วยไม่มีสิ่งประกอบยืนยัน
  
   ดังนั้นมันจึงเงยหน้าเอ่ยปากขึ้นทันที
  “แปลกๆโว้ย  แปลกจริงๆเสียด้วยซิ  เอาอย่างนี้เพื่อความแน่ใจกูว๊ะ
ให้เสี่ยเม้งกับไอ้มุ้ยเซ็นต์ชื่อมาให้กูดูหน่อยซิว๊ะ”
   “ได้ๆๆเดี๋ยวข้าจะเซ็นต์ชื่อให้เสี่ยดูอีกครั้งนะ”
เสี่ยเม้งเอ่ย พลางหันไปทางลูกน้องที่เฝ้าประตูอยู่ว่าให้ไปหาปากกา
และกระดาษเปล่าๆมาสามใบทันที ไอ้หว่านี่แหละรีบไปนำมานะโว้ย
เพื่อให้เสี่ยเล้งเขาแน่ใจว๊ะ”
   “ได้นายเดี๋ยวข้าจะไปจัดการให้เดี๋ยวนี้นะ”
แล้วไอ้หว่าก็เดินออกหายไปพักหนึ่งก็เข้ามา พร้อมนำกระดาษมา
หลายใบพร้อมปากกาด้วย  พลางนำมาส่งมอบให้แก่เสี่ยเม้ง
ครั้นมันได้กระดาษมาแล้วเสี่ยเม้งก็เซ็นต์ชื่อมัน สองชื่อ  พร้อมหัน
ไปทางไอ้มุ้ยเอ่ยขึ้น
   “ไอ้มุ้ยมึงก็เหมือนกัน  ให้เซ็นต์ชื่อไว้ด้วยกันสองชื่อนะโว้ยจะให้
เสี่ยเล้งเขาพิสูจน์ว๊ะ”
   ไอ้มุ้ยนั่งอยู่ปลายโต๊ะดังนั้นไอ้เซี๊ยะจึงรับกระดาษพร้อมปากกายื่น
ส่งให้ไอ้มุ้ยทันที ไอ้มุ้ยรับมาแล้วก็รีบเซ็นต์ชื่อมันสองแห่งไว้แล้วยื่น
ส่งให้ไอ้เซี๊ยะมอบให้แก่เสี่ยเม้งทันที   ครั้นเสี่ยได้รับลายเซ็นต์ครบ
แล้วก็รีบยื่นให้เสี่ยเล้งไปตรวจสอบอีกที   เมื่อเสี่ยเล้งเห็นลายเซ็นต์
โดยนำมาเปรียบเทียบกัน ก็ตลึงตาเบิกโพลง อุทานว่า
   “เฮ้ย!!!!ๆๆๆๆทำไมมันเหมือนกันยังกับแกะเชียวว๊ะ  แล้วไอ้เม้ง
กับไอ้มุ้ยมึงทำเครื่องหมายพิเศษไว้ในลายเซ็นต์ด้วยหรือเปล่าว๊ะ”
   มันหันไปถามทั้งสองคน  กูจะได้รู้ไว้เพราะว่าทุกๆครั้งกูก็ต้องทำ
เครื่องหมายพิเศษไว้เสมอๆกันปลอมว๊ะ
     เสี่ยเม้งและไอ้มุ้ยก็ตอบเสียงเกือบใกล้เคียงกันว่า
   “ข้าทำทุกๆครั้งแหละเสี่ย  แอบซ่อนทำไว้ในอีกทีเสมอๆแหละเสี่ย
เพราะข้าก็กลัวปลอมเหมือนกัน เพราะต้องออกเป็นเช็คเสีย
ส่วนมาก”
   “งั้นดีแล้วให้พวกมึงมาชี้ที่ซุกซ่อนเครื่องหมายพิเศษให้กูดูหน่อย
ว๊ะ  เพื่อจะนำไปเปรียบเทียบกับสามฉบับแรกว๊ะ”
     ดังนั้นเสี่ยเม้งกับไอ้มุ้ยก็ลุกขึ้นแล้วไปชี้เครื่องหมายพิเศษให้เสี่ย
เล้งดูในฉบับที่มันพึ่งเซ็นต์ไว้ดูถึงที่ซ่อนลายเซ็นต์
   ครั้นเสี่ยเล้งพบแหล่งที่ซุกซ่อนไว้ก็นำเอกสารอีกสามฉบับออกมา
ตรวจสอบทันที   พลางร้องลั่นว่า
   “ไอ้หย่าๆมันทำไมมีเหมือนกันด้วยว๊ะ  เฮ้ยๆแถวนี้มีใครที่ปลอม
แปลงลายเซ็นต์เก่งไหมว๊ะ มันสอบถามยังกับเป็นนักสืบไม่ปาน”
   “ไม่แน่ใจว๊ะเสี่ย เพราะว่าลายเซ็นต์ข้านั้นส่วนใหญ่มอบให้แก่
ลูกค้าที่ไว้ใจได้ทั้งนั้นนี่นา  เสี่ยก็เคยเห็นลายเซ็นต์ข้าเวลาส่งมอบ
ของแล้วไม่ใช่หรือ????...”
     เสี่ยเล้งเอ่ยขึ้นบ้าง พร้อมหันหน้าไปมองเสี่ยเม้งทันที
 เออมีนะมีหรอกแต่ข้าไม่สนใจ สนใจเฉพาะของเท่านั้นเมื่อครบก็
แล้วกันว๊ะไอ้เม้ง  แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะโว้ย???.....
จะเอาผิดกำนันมันก็ไม่ได้อีกด้วยซิ  ด้วยมันคงจำลายเซ็นต์เอ็งได้
เรื่องนี้ทำให้กูเป็นงงเอามากๆว๊ะ”
   เสี่ยเม้งหันไปทางกำนันมั่นว่า
   “ เอ็งไม่สงสัยอะไรบ้างหรือว๊ะกำนัน”
   “ใครจะไปสงสัยเล่าเสี่ย  รถและเวลามันก็ตรงกันหมดพอดีและ
ก็มีหนังสือจากเสี่ยมาข้าจำลายเซ็นต์เสี่ยได้ดีนี่นา  ยังจำไอ้มุ้ยได้ที่
เสี่ยนำมาหาข้าทั้งสี่คน ข้าจำได้หมด”
   พลางหันไปชี้ตัวไอ้เซี๊ยะ ไอ้เช้ง ไอ้สุยและไอ้มุ้ย พร้อมเอ่ยชื่อให้
ฟังอีกด้วย   ล้วนแล้วไม่ผิดตัวทั้งสิ้น ตลอดระยะเวลาเสี่ยเล้งก็คอย
มองดู  พลางหันไปทางเสี่ยเม้งเอ่ยว่า แต่อากัปกิริยาบางอย่างทำให้
เสี่ยเล้งชักสงสัยอาการที่แสดงอย่างเผลอตัวของกำนัน  เพราะชีวิต
ผ่านการทำงานด้านผิดกฏหมายมาตลอดชีวิตของมันแต่มันไม่พูด
    “ถ้าอย่างนั้นมึงให้กำนันกลับไปได้แล้วว๊ะ  ข้าจะมีเรื่องปรึกษา
อีกไม่อยากให้ใครๆรู้ว๊ะ ขนาดนี้มันยังทำได้ไม่ผิดเพี้ยนเลย”
   ดังนั้นเสี่ยเม้งจึงหันหน้าไปทางกำนันสั่งให้เดินทางกลับบ้านได้
แล้ว   กำนันมั่นจึงลุกขึ้นยืนแล้วยกมือไหว้เสี่ยเล้งและเสี่ยเม้งหัน
หลังกลับทันใด  เพราะมันนึกในใจว่าลูกมันจะทำงานสำเร็จแล้ว
หรือยัง อีกอย่างหนึ่งก็ไม่อยากอยู่นานนัก ด้วยมันสังเกตุว่าไอ้เล้ง
นั้นเป็นคนขี้ระแวงอาศัยประสบการณ์มันจึงอ่านคนออก
      หลังจากกำนันมั่นออกไปแล้ว  คนในห้องทั้งหมดก็เงียบกริบ
ต่างคนมองหน้ากันไปๆมาๆ
   “กูว่าเรื่องนี้มันชอบกลอย่างไรไม่รู้ว๊ะ  ไอ้เม้งมึงดูซิหนังสือก็เป็น
ลายมือมึงพร้อมลายเซ็นต์ด้วย ส่วนไอ้มุ้ยก็เหมือนกัน  เรื่องของนั้น
กูชักจะไม่ไว้ใจเสียแล้วซิว๊ะ  เห็นทีกูจะไปร่วมรับของกับพวกมึงด้วย
เพื่อความสบายใจกูว๊ะ”
   “เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาหรอกเสี่ย  แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่ดีล่ะ”
เสี่ยเม้งและพวกได้ทีเอ่ยขึ้น
   “กูว่ามะรืนนี้ดีหรือไม่  พวกมึงพร้อมหรือเปล่าล่ะ  กูก็จะให้คน
ของกูซึ่งนำมาด้วยไปรับของเสียเลยไม่ต้องเสียเวลามาถ่ายเทของกัน
แล้วเรื่องตำรวจล่ะมึงแน่ใจหรือเปล่าล่ะ”
   “เรื่องตำรวจนั้นยกเว้นท่านรองเป็นคนตรงแต่แก่แล้วไม่ค่อย
ออกมายุ่งยากมากหรอก จะปลดเกษียณในสิ้นเดือนนี้  แต่หัวหน้า
สำนักงานตำรวจนี่ซิข้ายังไม่เคยเห็นหน้าเลย ส่วนฝ่ายสืบสวนและ
ฝ่ายปราบปรามพวกเราทั้งนั้นคงไม่เป็นปัญหาหรอก”
   “แต่อย่างไรกูก็ไม่กลัวหรอกว๊ะเพียงแค่ถามเท่านั้นเอง เพราะไม่
อยากให้เกิดเรื่องยิงกันเอง  ที่กูนำมานะพวกทหารปลอมตัวมาทั้งนั้น
และคอยกูอยู่ในร้านอาหาร  และที่อื่นๆนับร้อยคนได้กระมังเพราะ
ของมันมากพร้อมด้วยรถทหารคงจะไม่เป็นปัญหาระหว่างเดินทาง
กลับกรุงเทพว๊ะ”
   “ถ้าอย่างนั้นก็ดีซิเสี่ย   งานจะได้สะดวกงั้นขนไปให้หมดเลยนะ
ข้าเพียงจะนำคนที่เก็บของทะยอยไปรับเพราะเก็บไว้สี่แห่งด้วยกัน
ล้วนเป็นหุบเขาทั้งสิ้นแหละ ข้าไปดูมาแล้วล่ะเสี่ย”
   แล้วเสี่ยเม้งก็หันหน้าไปทางพวกลูกน้องมือขวามันพลางเอ่ยว่า
   “แล้วทางมึงล่ะโว้ยให้จัดเตรียมคนพร้อมอาวุธไว้ด้วยนะ เมื่อถึง
ที่ใดก็ช่วยกันขนของเสร็จแล้วก็กลับกันได้  แต่ว่าข้าจะไปทางด้าน
ไอ้มุ้ยก่อนเพราะมันเป็นทางยากลำบาก กูยังนึกถึงพวกทากไม่หาย
เลยว๊ะ”
   “แล้วจะเริ่มลงมือเมื่อไหร่ล่ะเสี่ย”
ไอ้มุ้ยถามขึ้น
   เสี่ยเม้งก็หันไปทางเสี่ยเล้งเอ่ยว่า
   “เสี่ยเล้งล่ะจะเริ่มเวลาเท่าไหร่ดีนะ  ข้าจะสั่งให้มันเตรียมตัวกันเลย
ไม่ต้องเสียเวลา  เพราะต้องมีงานทำอีกคือต้องไปรับของจากฝั่งโน้น
อีกทีหนึ่ง  หากทางนี้เรียบร้อยแล้วต้องวางแผนการณ์ใหม่”
   “เอาเป็นวันมะรืนนี้ ข้าคิดว่าให้มันมืดๆสักหน่อยจะได้ไม่เอิกเกริก
ไป เอ็งเห็นว่าอย่างไรล่ะไอ้เม้ง”
   “อืมมๆๆๆๆ...ก็ดีเหมือนกันจะได้เตรียมไฟไปด้วย  พวกข้านั้นไม่
สำคัญเพราะชำนาญทาง  ส่วนทางเสี่ยล่ะต้องคอยติดตามให้ดีๆนะ
เพราะทางไปลำบากมากๆด้วยล่ะ”
   “เรื่องนี้เอ็งไม่ต้องห่วงเพราะพวกข้าไม่ใช่ตำรวจก็แล้วกันและดี
กว่าตำรวจทั้งสิ้นว๊ะมีตำรวจปะปนมาตำรวจท้องที่ทำอะไรไม่ได้ว๊ะ”
   “ถ้าอย่างงั้นตกลงเวลา ห้าโมงเย็นก็เริ่มออกเดินทางได้แล้วล่ะกว่า
จะไปถึงก็คงจะค่ำๆพอดี”
   “เอาอย่างมึงว่าก็ดีว๊ะ งั้นตกลงตามนี้นะ”
  เสี่ยเล้งเอ่ยขึ้นพร้อมยกมือให้พวกมันดื่มกินได้ตามสบาย เสี่ยเม้งก็
หันไปบอกลูกน้องหน้าประตูให้นำเด็กๆมาคอยเสริฟพวกข้างใน
ดังนั้นบรรยากาศจึงคลายเครียดลง ต่างสนุกสนานกับสุรานารีไป
ส่งเสียงหัวร่อต่อกระซิกกัน  ส่วนไอ้เล้งนั้นมีหญิงคอยปรนนิบัติ
สี่คนต่างพากันเอาใจ จนทำให้ไอ้เล้งหัวร่อลั่นพอเมามาก็ควักเงิน
ออกมาแจกจ่ายอย่างไม่อั้น  พร้อมทั้งหญิงคนอื่นเห็นดังนั้นก็ต่าง
พากันเข้ามาออดอ้อนบ้างและได้รับส่วนแบ่งไปมากบ้างน้อยบ้าง
   สาวบางรายถึงกับใจกล้าเปลือยกายท่อนบนโชว์เสี่ยเสียอีกยิ่งทำ
ให้เกิดความครึกครื้นกันมาก  จวบเวลาผ่านจนเที่ยงคืนจึงได้เลิกลา
กันต่างคนต่างกลับ   แต่ไอ้เสี่ยเล้งก็ยังมิวายอดสั่งเสี่ยเม้งไม่ได้ว่าอย่า
ได้ลืมงานเสียล่ะ  เสี่ยเม้งรับคำพลางพยุงร่างเสี่ยเล้งออกมาส่งที่รถ
เพื่อให้เดินทางกลับที่พักต่อไป
    ภายหลังจากเสี่ยเม้งกลับไปแล้ว อาการเมาที่เสี่ยเล้งแสดงไว้เมื่อกี้
นี้หายไปดังปลิดทิ้ง พลางหันไปเรียกผู้คุ้มกันมามาสี่คน พลาง
กระซิบบอกอะไรบางอย่าง  ร่างชายฉกรรจ์ทั้งสี่พยักหน้ารับพร้อม
แยกออกไปทันที  ที่ทำเช่นนี้ด้วยเสี่ยเล้งเป็นคนระแวงสงสัยในบาง
อย่างของกำนันมั่น  มันเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเชื่อใครง่ายๆนักอีกทั้ง
ประสบการณ์ผ่านชีวิตด้านนักเลงทางด้านนี้  เพียงแค่อากัปกิริยา
ต่างๆของกำนันมั่น  มันก็สามารถอ่านรู้สิ่งบางสิ่งบางอย่างได้ดี
จึงได้ใช้ลูกน้องของมันออกติดตามกำนันมั่นไปทันที
   ครั้นกำนันมั่นออกจากร้านอาหารแล้วก็สั่งให้เจ้าน้อยรีบกลับไป
ยังบ้านทันใด  เพราะมันกำลังคิดว่าไอ้แม้นลูกชายมันนั้นจะทำงาน
ได้เรียบร้อยหรือไม่  จึงสั่งให้เจ้าน้อยขับรถโดยเร็วผ่านทางลัดไป
แต่มันหาได้สงสัยระแวงสิ่งใดนึกว่างานนี้คงจะเรียบร้อยแล้วจึงนั่ง
หลับตาลงพักผ่อน   หากมันไม่หลับตาลงอย่างใช้ความคิดอยู่นั้นมัน
ก็จะรู้ว่าเบื้องหล้งรถมัน  ในระยะทางไม่ไกลเท่าไหร่นักจะมีรถติด
ตามหลังมันมาตลอดเวลา  ล้วนแล้วเป็นรถมอเตอร์ไซค์ทั้งสองคัน
แต่ทิ้งระยะห่างกันไม่เท่าไหร่   ฉนั้นเสียงรถยนต์จึงไม่ทำให้คนภาย
ในรถรู้เลยว่ามีคนติดตามมันมา หากไม่มองกระจกมองไปด้านหลัง
มันในระยะห่างไกลที่สามารถมองเห็นได้
    ในไม่ช้ารถกำนันมั่นก็วิ่งเข้ามาในบ้าน  แต่มันก็แปลกใจยิ่งนักด้วย
ภายในบ้านเงียบ  ปกติแล้วจะเห็นร่างไอ้แม้นและพวกและบรรดา
สาวๆจะส่งเสียงดังเฮฮากันลั่น  ครั้นมองไปที่ใต้ต้นมะขามใหญ่ก็
ปราศจากสิ่งใดๆนอกจากแคร่เท่านั้น  ร่างกำนันมั่นชะงักสร้างความ
ส่งสัยจึงรีบวิ่งไปยังบันไดบ้าน  แต่ไม่วายหันหลังมาสั่งไอ้น้อยว่า
   “เฮ้ยๆๆๆไอ้น้อย  มึงอย่าพึ่งเอารถไปเก็บนะกูชักสงสัย  เออแล้ว
มึงรู้ที่ซ่อนของหรือไม่ล่ะ”
   “รู้ครับกำนันเพราะผมเคยไปกับพี่แม้นเขา  จำถนนหนทางได้ครับ
แต่ทางมันไปลำบากมากๆนะครับ  หากกำนันจะไปก็ต้องเตรียมไฟ
ไปด้วยนะ ถ้าจะไป”
   “งั้นมึงคอยเดี๋ยวก็แล้วกัน  กูจะขึ้นไปดูบนบ้านก่อนว๊ะ”
    กำนันไม่รอคำตอบรีบขึ้นบันไดบ้านไปทันที   แต่กำนันคงเป็น
ห่วงเรื่องนี้มากจึงไม่ทราบว่า  มีร่างคนสี่คนคลานเข้ามาภายในบ้าน
ลักษณะการเหมือนกับการฝึกฝนมาอย่างดี เพราะมันจะคลานเลื้อย
ไปเลื้อยๆมาตลอดเวลา และเข้าแอบยังพุ่มไม้เพื่อรอดูเหตุการณ์ของ
กำนันเสียก่อน   เมื่อกำนันขึ้นไปบนบ้านก็เงียบกริบ จึงตะโกนเรียก
พวกที่อยู่ภายในบ้านทันที
   “อีแจ๋วโว้ยมึงอยู่หรือเปล่า???...”
   “อยู่จ๋าพ่อกำนัน  มีอะไรหรือ???......”
   “ทำไมมันหายหัวไปไหนกันหมดว๊ะกูชักสงสัย แล้วในบ้านมีใคร
อยู่บ้างล่ะ???... แล้วไอ้แม้นกับพวกกลับมาหรือยังล่ะ???...เห็นเงียบ
ผิดสังเกตุโว้ย  มึงตอบให้กูรู้ด้วย   เฮ้ยๆๆๆไอ้แม้นอยู่หรือเปล่าว๊ะ
ออกมาพบกูหน่อยโว้ย”
  “มีข้ากับคนสองสามคนเท่านั้นจ้าพ่อกำนัน ส่วนพี่แม้นและพวก
ยังไม่เห็นมีใครกลับเข้ามาบ้านเลยสักคนเดียว”
   “งั้นมึงไปเรียกมาให้หมด  กูชักสังหรณ์ใจว๊ะ”
   ครั้นแล้วสาวแจ๋วก็หายไปออกมาพร้อมด้วยบรรดาสาวๆสี่ห้าคน
 จึงได้ถามว่า
   “อีสร้อย อีช้อย อีนวล อีลัดดา และอีนวล มันหายหัวไป
ไหนกันหมดว๊ะ”
   สาวชบาก็เอ่ยขึ้นว่า
   “พี่แม้นสั่งให้ทำอาหารไว้ ข้าก็ไปนั่งคอยกินอยู่รอการกลับมาจน
ป่านนี้ยังไม่เห็นกลับมาสักคนเลย จึงได้เลิก ส่วนพวกนางนั้นมันได้
กลับไปบ้านกันแล้วล่ะพ่อกำนัน  พวกข้าเองก็เห็นผิดสังเกตุแต่ไม่รู้
จะทำอย่างไรก็คอยจนดึกๆดื่นๆจึงได้แยกย้ายกัน ส่วนพวกมันให้ข้า
อยู่เพื่อคอยแจ้งให้กำนันรู้จ๊ะ”
   “เออๆๆๆ....เดี๋ยวมึงไปปลุกคนที่อยู่ใกล้ๆไร่พวกเราให้มาสักสาม
สี่คนด้วยนะ  ข้าจะไปดูว่ามันเป็นอะไรไปหรือเปล่าชักจะไม่ดีโว้ย”
   “จ๊ะพ่อกำนัน เดี๋ยวข้าเอารถมอเตอร์ไซค์ไปนะ”
   “เออๆๆๆ.....รีบไปรีบมานะข้าใจร้อนว๊ะ ปกติไอ้แม้นไม่เคยพลาด
เลยนี่นา   อีบัวมึงไปหยิบเหล้ามาให้กูหน่อยแล้วถั่วหนึ่งจานก็พอกู
จะได้กินรออีก  อีชบาก็มากินกับกูก็แล้วกันพวกอื่นๆไปพักผ่อนได้
แล้วล่ะโว้ย  หากกูไปก็ให้ออกมาเฝ้าบ้านไว้ด้วยนะ พวกมึงยิงปืน
เป็นหรือเปล่าล่ะ???”
   “เป็นจ้าพ่อกำนันไม่ต้องห่วงหรอก  แล้วปืนอยู่ที่ไหนล่ะ???...”
   “มันเก็บไว้ที่ห้องข้างๆบ้านนี่แหละว๊ะ  มึงเลือกเอาที่ถนัดก็แล้วกัน
และข้าคิดว่าคงจะไม่เป็นไรหรอก”
   เวลาผ่านไปสักราวชั่วโมงกว่าๆ  ก็มีเสียงเดินขึ้นมาบนบ้าน  กำนัน
หันไปมองแล้วถามว่า
   “อีชบา  มึงได้มาแค่สามคนเท่านั้นหรือว๊ะ”
  “คนอื่นเขานอนกันหมดแล้ว  เหลือไอ้สามคนนี่แหละกำลังนั่งแดก
เหล้าอยู่จ๊ะพ่อกำนัน”
   “เออๆๆๆ...คงพอแหละว๊ะ  แล้วไอ้เชื่อม ไอ้เบิ้ม ไอ้เปี๊ยกล่ะมึงใช้
ปืนเป็นหรือเปล่าว๊ะ”
   “ปืนสั้นนะเป็นหรอกจ้าพ่อกำนัน ส่วนปืนอื่นข้าไม่ได้ฝึกมา”
   “เท่านี้ก็พอ แต่คงไม่มีอะไรหรอกว๊ะ เพียงข้าจะไปดูเท่านั้นเอง
ไปๆๆกันได้แล้วล่ะว๊ะ   มึงมีปืนหรือเปล่าล่ะ”
   “พวกข้าพกปืนประจำเสมอแหละพ่อกำนัน”
   “เออๆๆดีๆ...จะได้ถนัดมือมึง  ไปกันได้แล้วล่ะ  อ้อๆๆๆอีชบา
มึงไปเตรียมไฟฉายมาให้ครบทุกๆคนนะโว้ยเอาเผื่อไอ้น้อยด้วย”
   “จ้าพ่อกำนัน  ไม่ต้องห่วงหรอกข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”
    แล้วอีชบาก็รีบไปแล้วกลับมาพร้อมไฟฉายขนาดสี่ท่อนมามอบ
ให้กำนัน  กำนันก็เอามาแจกแก่พวกที่จะไป  พลางดื่มเหล้าเสียหมด
แล้วแล้วก็รินส่งให้พวกที่จะไปทุกๆคนอีกด้วย    ครั้นได้เวลาก็ลง
บันไดไป แต่อดหันไปสั่งอีชบาไม่ได้ว่า
   “อีชบามึงก็เป็นหัวหน้าคอยดูแลเฝ้าบ้านด้วยนะ”
   “ไม่ต้องห่วงหรอกพ่อกำนัน  ข้ารับอาสาดูแลให้เอง”
    แล้วทั้งหมดก็ออกเดินทางระหว่างการเดินทางไปนั้นไอ้เบิ้มก็ถาม
กำนันซึ่งเดินไปใกล้ๆรถที่ไอ้น้อยนั่งคอยอยู่ ว่า”
   “กำนันจะไปไหนหรือนี่ก็ดึกมากๆแล้วนะสำคัญมากหรือพ่อ
กำนัน ทำให้พวกข้าสงสัยนัก”
   “หรือพวกมึงกลัวหรือว๊ะ  จึงมาถามหากไม่สำคัญกูจะให้ไปเรียก
พวกมึงมาหรอก  เพราะไอ้แม้นกับพวกมันไปย้ายของ ป่านนี้ตั้งแต่
เช้ายังไม่กลับมาเลยว๊ะ  พวกมันจะประสบเหตุอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้”
   ทั้งสามเห็นน้ำเสียงกำนันมั่นเครียดมากเลยหยุดนิ่งไม่ถาม  แต่เสียง
กำนันกลับได้ยินไปถึงพวกที่ซุ่มอยู่ เพราะกำนันไม่คิดว่าจะมีใครอีก
ครั้นทั้งหมดขึ้นรถ ไอ้น้อยก็ขับรถออกไปทันที   บรรดาชายฉกรรจ์
สี่คนก็คลานกลับไปยังรถของมัน ออกติดตามไปทันที.........
                      แก้วประเสริฐ.

1139348gm3744qpip.gif				
comments powered by Disqus
  • แก้วประภัสสร

    3 สิงหาคม 2554 11:00 น. - comment id 125392

    หากครบตอนที่ 100 
    
    ครูจะเปิดแชมเปน ฉลองมั้ยคะ 
    
    46.gif36.gif16.gif
  • สุญญะกาศ

    3 สิงหาคม 2554 11:52 น. - comment id 125398

    กราบคุณครูครับ
    
      เลขสวยครับ เห็นท่านเขียนงาน  พอมีเวลาเบรคงานศิษย์ตั้งใจมาเยี่ยม ระลึกถึงท่านเสมอ  
    รักษาสุขภาพท่านด้วยครับ
    
     รักเคารพเสมอครับ
    
    
     29.gif36.gif36.gif36.gif
  • ทางแสงดาว

    3 สิงหาคม 2554 12:11 น. - comment id 125399

    ประเสริฐล้ำคำกล่าวยามเล่าเรื่อง
    ด้วยปราชญ์เปรื่องเรืองโรจน์ดั่งโจทย์ขาน
    ตามติดสนิทแนบแอบชมงาน
    จวบกัปกาลเก้าสิบเก้าเฝ้าชื่นชม...
    
    ฝาก
    1.gifยิ่งลักษณ์....
    รักษาสุขภาพนะคร้าบ
  • แก้วประเสริฐ

    3 สิงหาคม 2554 22:19 น. - comment id 125415

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ แก้วประภัสสร
    
            ศิษย์ที่รักเอ๋ย ครูเป็นคนยากจนจะมี
    ปัญญาฉลองด้วยหรือ แล้วแชมเปนอีกด้วย
    แม้แต่จิบยังไม่เคยเลย นอกจากมองดูทาง
    ทีวีนั่นแหละจ้า  แต่สงสัยเกินร้อยจ้าเพราะ
    จะรวบรัดไปหรือก็จะขาดๆหายๆห้วนๆไปจ้า
              รักศิืษย์เรามากเสมอจ้า
    
                   16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    3 สิงหาคม 2554 22:21 น. - comment id 125416

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ สุญญะกาศ
    
          เรื่องนี้เกิน 100 แน่นอนจ้า จะตัดโน่น
    ก็เสียดายเหมือนรักทั้งพี่ทั้งน้องจ้ารักเสมอ
    
                    16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    3 สิงหาคม 2554 22:24 น. - comment id 125417

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ทางแสงดาว
    
         คุณหญิงครับผมเองนั้นชอบคุณยิ่งลักษณ์
    ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเล่นการเมือง แต่ดูซิว่า
    เพียงไม่เท่าไหร่ปรับสถานะการณ์ได้อย่าง
    ยอดเยี่ยมเชียวสมแล้วที่ชืือนี้จ้า
         กลอนนับวันเขียนได้งดงามรู้จักการผสม
    ผสานคำได้เหมาะเจาะครับ รักคุณหญิงเสมอ
          
                  16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน