ทะนุถนอมโอกาสของการบำเพ็ญในกลียุค

คีตากะ

ebook.jpg











ปราศรัยโดยท่านอนุตราจารย์ชิงไห่
ศูนย์ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา 9 มิถุนายน 2544
(ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ) วีดิทัศน์ # 719



ถ: ในการบรรยายธรรมครั้งหนึ่งของท่าน ท่านได้กล่าวถึง "มหาสมุทรแห่งความรัก" ซึ่งเป็นบทกวีบทหนึ่งของกาบีร์ ถูกต้องไหม?
อ: ถูกต้อง ฉันได้พูดถึงบทกวีของกาบีร์มากมายหลายครั้ง แต่มีอะไรหรือ เกี่ยวกับมหาสมุทรแห่งความรัก?

ถ: มันเกี่ยวกับเรื่องพระเจ้าผู้สูงสุด ซึ่งพวกเขาเรียกว่าสัตบุรุษ พระองค์ได้กลับชาติมาเกิดในแต่ละยุค และในกลียุค สัตบุรุษก็ได้ตกลงกับกาล (พระเจ้าของ 3 โลก) ที่จะพาวิญญาณจำนวนมากมายกลับบ้าน

อ: ใช่ นี่คือ กลียุค ยุคมืด จำเป็นจะต้องมีผู้ที่เข้มแข็งที่จะลงมาและพาทุกๆ คนขึ้นไป! รถคันใหญ่แข็งแรง! (ท่านอาจารย์หัวเราะ)

ถ: นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมวิญญาณจำนวนมากมายจึงได้รับการหลุดพ้นได้ง่ายดายเช่นนี้ใช่ไหม?

อ: ใช่ ถูกต้อง เธอก็รู้อยู่แล้วนี่ แน่นอนมันเป็นแบบนั้น มันเป็นยุคสุดท้ายของวัฏจักรนี้ ดังนั้น ใครก็ตามที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง ก็จงรีบเร่งเสีย! ท่านพาทุกๆ คนขึ้นไป ด้วยเหตุนี้จึงมีความกรุณามาก แต่ก็ต้องใช้พลังมหาศาลเหมือนกับพายุเฮอร์ริเคนที่นำน้ำจำนวนมากมา ต้องใช้เฮอร์ริเคนที่จะพาน้ำเข้ามาสู่พื้นแผ่นดิน ฝนธรรมดานำน้ำเข้ามาไม่ได้ ดังนั้น ในขณะนี้ในเวลานี้ก็เหมือนกับ "ขายส่ง" เพราะเรามีที่ว่างมากและมีพระกรุณาธิคุณมาก ดังนั้น ทุกคนจึงสามารถรวมอยู่ในนั้น ไม่มีปัญหา เธอโชคดี! (ผู้ฟังปรบมือ) พระเจ้าใจดี แต่พระองค์ไม่เคยใจดีแบบนี้มาก่อน ในสมัยโบราณ อย่างมากที่สุดก็จะมีเพียงแค่หยิบมือ บางทีอาจจะเป็น 1,000 คน ไม่เคยมีมากมายแบบนี้ และพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะมาชุมนุมพร้อมกันมากมายแบบเปิดเผย พวกเธอนับว่าโชคดีจริงๆ 
ในสมัยโบราณ ถ้าหากพวกเขาต้องการที่จะมีสมาธิกลุ่ม พวกเขาจะต้องหลบซ่อนและวิ่งไปทั่วทุกแห่ง ใช้รหัสลับ ใช้การสัมผัสมือแบบลับๆ ใช้สัญญาณมือ อย่างเช่น มุดราส (การใช้มือ) หรือการคำนับที่เธอใช้ ----  แม้กระทั่งแบบนี้ (ท่านอาจารย์ทำท่าทาง)  -----  จำตาปัญญา ท่องพระนามศักดิ์ ทำกวนอิม แล้วเราก็มาอยู่ด้วยกัน นั่นเป็นสัญญาณลับที่ชาวคริสต์เตียนเคยมีเพื่อที่จะจดจำซึ่งกันและกัน เพราะว่าในสมัยนั้น พระเยซูก็ต้องหลบซ่อน ลูกศิษย์ทุกคนก็ต้องหลบซ่อนด้วยเช่นกัน พวกเขาไม่กล้าแม้กระทั่งที่จะรู้จักอาจารย์ในที่สาธารณะ โดยพูดว่า "ฉันไม่รู้จักเขา" แม้กระทั่งลูกศิษย์คนสำคัญอย่างปีเตอร์ ก็ปฏิเสธพระองค์ 3 ครั้ง
นี่คือพลังทางลบ -----  มีแรงกดดันมาก จนกระทั่งบุคคลที่ยิ่งใหญ่อย่างพระเยซู และลูกศิษย์ที่อุทิศตนอย่างปีเตอร์ ก็ยังไม่สามารถเปิดปากของพวกเขาได้ ในช่วงเวลานั้นมันมีแรงกดดันมาก แต่ในช่วงเวลานี้ พวกเราโชคดีมาก



เราเป็นโยคีที่โชคดีที่สุด

ถ: ฉันอยากถามท่านว่า ฉันจะต้องระดับสูงแค่ไหนทางด้านจิตวิญญาณในชาตินี้ เพื่อที่จะไม่ต้องกลับมา หลังจากที่ฉันตายไปแล้ว

อ: ขอให้สูง เท่าที่เธอทำได้ มิฉะนั้นแล้ว อาจารย์ก็จะผลักดัน อาจารย์จะพาเธอไปยังระดับอะไรก็ตามและชี้นำเธอต่อไปให้ขึ้นไปเบื้องบน มิฉะนั้นแล้วเธอก็จะต้องผ่านโลกทั้ง 3 กับอาจารย์ท่านอื่นๆ เธอจะต้องผ่านระดับที่ 3 เพื่อที่จะไม่ต้องกลับมา แต่ด้วยธรรมวิถีสูงสุดนี้ มันไม่เป็นไร เธอสามารถทำได้ เพราะบางครั้งมันไม่ใช่ความผิดของเธอ ที่เธอไปไม่ถึงระดับสูง
ตัวอย่างเช่น สมมุติว่า เธอได้รับการประทับจิตวันนี้ และตายในวันพรุ่งนี้ มันก็เป็นความรับผิดชอบของอาจารย์ที่จะพาเธอขึ้นไปจากที่ที่เธออยู่ ก่อนที่เธอจะจากกายเนื้อนี้ไป หรือก่อนที่อาจารย์จะจากกายเนื้อไป เราโอเค ในช่วงเวลานี้เราเปิดเต็มที่เพื่อช่วยเหลือทุกๆ คน ใครก็ตามที่มีความจริงใจ พลังอาจารย์จะช่วยเหลืออย่างมากมาย ในศตวรรษนี้ มีความกรุณามาก

ถ: ทำไมศตวรรษนี้จึงพิเศษมาก เมื่อเทียบกับหลายพันปีก่อน?
อ: เพราะว่าสวรรค์เปิด "ขายส่ง" เป็นช่วงๆ (ท่านอาจารย์และทุกคนหัวเราะ) เหมือนกับการขายเลหลังในโรงรถ: ทุกอย่าง 1 ดอลลาร์ มันขึ้นอยู่กับอาจารย์ท่านไหนลงมา เธอเห็นไหมว่า พวกเราทุกคนเป็นอาจารย์ แต่อาจารย์บางท่านก็จำได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง พวกท่านรู้แจ้งในชาตินี้ อาจารย์บางท่านรู้แจ้งตลอดเวลา อาจารย์บางท่านไม่เคยจากสวรรค์มาก่อนและเพิ่งลงมาในครั้งนี้ อาจารย์บางท่านไปๆ มาๆ ตลอดเวลาและมีบุญสัมพันธ์กับสรรพสัตว์มากมายในโลกนี้ และเมื่อหล่อนหรือเขากลับลงมาอีก ก็มาหาเพื่อนเก่าทุกคน: "ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เธอต้องการ ก็โอเค พวกเรารู้จักกัน" (เสียงปรบมือ) บางทีพวกเราอาจจะเคยเป็นเพื่อนเก่ากันมาก่อนก็เป็นไปได้
ถ้าหากว่าอาจารย์เพิ่งมาใหม่ เขาก็จะไม่มีบุญสัมพันธ์มากนักกับสรรพสัตว์จำนวนมาก ดังนั้น เขาจึงพาลูกศิษย์ไม่กี่คนเป็นการเริ่มต้น แล้วก็ทำต่อไปอีกในคราวหน้า ถ้าหากอาจารย์เพิ่งจดจำได้อีกครั้งว่า เขาเป็นพุทธะในครั้งนี้ แน่นอน เขาก็จะต้องพัฒนาประสบการณ์ให้มากขึ้น ไม่ใช่ว่า อาจารย์ไม่ทราบ แต่ก็เหมือนกับสิ่งอื่นๆ เธอจะต้องฝึกฝน เธอฝึกฝนว่าจะต้องจัดการกับจิตของมนุษย์อย่างไร จัดการกับระบบข้าราชการของโลกนี้อย่างไร ปกป้องตัวเองจากการรังควานทั้งหลายของโลกนี้อย่างไร และรักษาตัวเธอเองให้ปลอดภัยอย่างไร เพื่อที่จะช่วยเหลือผู้คนอย่างเงียบๆ โดยไม่นำความยุ่งยากมาสู่ตัวเธอ
แต่อาจารย์ใหม่ไม่ทราบเรื่องนั้น อาจารย์ใหม่แสดงสีสันเต็มที่ เป่าแตร และทุกๆ อย่าง แต่บางทีหลังจาก 3 ปีครึ่ง เขาก็ตายไป หรือ 2 ปีครึ่ง หรือ 3 เดือนครึ่ง พลังทางจิตวิญญาณนั้นเป็นแบบเดียวกัน มันมาจากจักรวาล แต่วิธีการที่จัดการกับลูกศิษย์ วิธีที่จะจัดการกับอำนาจทางการเมืองในโลกนี้ : เรื่องพวกนี้จะต้องเรียนรู้ เพราะมันเป็นเรื่องทางจิตใจ สิ่งเหล่านี้เป็นความเชี่ยวชาญและความสามารถ มันไม่เกี่ยวกับการรู้แจ้งและวิญญาณ แน่นอน พวกเขามี เพราะยิ่งเธอรู้แจ้งมากเท่าไร เธอก็จะเรียนรู้ได้เร็วเท่านั้น แต่ถ้าเธอหรือหล่อนมีประสบการณ์อยู่แล้วชีวิตแล้วชีวิตเล่า ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้มากนัก
เพราะว่าบุคคลคนหนึ่งจะเรียนรู้มากมายในชาติเดียวได้อย่างไรกัน? แม้ว่าเธอจะรู้แจ้ง เธอก็ไม่สามารถที่จะเรียนเครื่องจักรกล การขับเครื่องบิน การแล่นเรือใบ บัญชีธุรกิจ ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์และสิ่งอื่นๆ ทุกสิ่ง เธอทำได้ แต่ชีวิตมันสั้นเกินไป สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งของทางวิญญาณ สิ่งเหล่านี้เป็นความสามารถ ที่เธอจะต้องใช้จิตและสมองของเธอ หรือมือ และร่างกาย เพื่อที่จะเข้าใจและให้มีความช่ำชอง ดังนั้น ท่านอาจารย์ได้เคยเรียนสิ่งเหล่านี้มาแล้ว เกี่ยวกับว่าจะเป็นอาจารย์อย่างไร -------  ไม่ใช่ว่าจะเป็นอย่างไร แต่หมายความว่า ในฐานะที่เป็นอาจารย์ เธอจะต้องเผชิญและเธอจะต้องสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้หลายสิ่งหลายอย่าง
ดังนั้น การเป็นอาจารย์ชนิดนี้จึงง่ายกว่าและรวดเร็วกว่า มันง่ายกว่า มันเป็นเพียงความรู้ของโลก วิธีการนั้นเป็นแบบเดียวกัน การสอนก็เป็นแบบเดียวกันพลังก็เป็นแบบเดียวกัน และสัจธรรมก็เป็นแบบเดียวกัน แต่ตัวของอาจารย์นั้นมีความสามารถหรือไม่มีความสามารถ: เกี่ยวกับเรื่องสาธารณชน เกี่ยวกับว่าจะสอนลูกศิษย์ให้ดีที่สุดอย่างไร และวิธีการที่รวดเร็วที่สุดที่จะก้าวหน้า อาจารย์สามารถสอนวิธีเดียวกันให้กับบุคคลกลุ่มเดียวกัน แต่อาจารย์ 2 คนที่แตกต่างกัน อาจจะสอนวิถีเดียวกันให้กับลูกศิษย์ 2 คน และคนที่มาจากอาจารย์คนหนึ่ง จะก้าวหน้าแตกต่างออกไปหรือรวดเร็วกว่าลูกศิษย์อีกคนหนึ่งที่มาจากอาจารย์อีกท่านหนึ่ง มันเป็นแบบนั้น มันยังขึ้นอยู่กับว่า คำสอนนั้นถูกถ่ายทอดให้กับจิตของเขาหรือหล่อนอย่างไร เพราะว่า ถ้าหากจิตใจนั้นไม่เข้าใจ จิตก็จะไม่ยอมรับมัน เธอก็ไม่สามารถก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว เธอไม่รู้สึกดีนัก เธอไม่รู้สึกเชื่อใจ หรือเธอไม่มีความมั่นใจ (เสียงปรบมือ)


มีสมาธิอยู่ที่ตาปัญญาเสมอ

ถ: ฉันได้ยินว่า ท่านพูดในวีดิทัศน์ว่า เมื่อเรามองที่ตาปัญญาของบุคคลหนึ่ง มันจะช่วยพวกเขาด้วย มันทำให้ฉันรู้สึกดีจริงๆ ที่ทำแบบนั้น และฉันหวังว่า ฉันจะจำได้ที่จะทำแบบนั้น สิ่งที่ฉันอยากจะเข้าใจให้ดีไปกว่านี้ก็คือ มันช่วยผู้อื่นได้อย่างไร?

อ: มันก็คือว่า เมื่อตัวเธอเองทราบว่า เธอกำลังทำอะไรอยู่ ถ้าหากว่า เธอกำลังคิดถึงตาปัญญาอยู่แล้ว ก็หมายความว่า ตัวเธอจำได้ถึงศูนย์กลางทางจิตวิญญาณแห่งปัญญาและการรู้แจ้ง และถ้าตัวเธอจำสิ่งนั้นได้ แน่นอน บรรยากาศของเธอก็จะเป็นทางจิตวิญญาณ ดังนั้น บุคคลผู้นั้น แน่นอน ก็จะได้รับประโยชน์จากเธอ ก็เหมือนกับเมื่อยืนอยู่ข้างๆ น้ำพุ: แม้ว่าเธอจะไม่ได้กระโจนลงไปในนั้นโดยตรง น้ำบางส่วนก็จะมาถูกใบหน้าของเธอและทำให้เธอรู้สึกเย็น ในทำนองเดียวกัน ถ้าหากเธอยืนอยู่ข้างบุคคลที่ใส่น้ำหอม แม้ว่าตัวเธอเองจะไม่ได้ใส่น้ำหอม ตัวเธอก็จะมีกลิ่นน้ำหอมอยู่บ้าง ดังนั้น ตัวเธอจึงมีความสำคัญ สิ่งที่เธอเป็นก็คือ สิ่งที่ผู้อื่นได้รับ ด้วยเหตุนี้ เมื่อไรก็ตาม ที่เราจำอะไรก็ตามเกี่ยวกับศูนย์กลางทางจิตวิญญาณ เกี่ยวกับตัวตนแท้จริงของเรา บุคคลข้างเคียงเราก็จะได้รับประโยชน์ นี่คือ วิธีที่มันทำงาน





ความรักละลายทุกสิ่งทุกอย่าง

ถ: ท่านอาจารย์ หากมีบุคคลหนึ่ง เอาแต่โจมตีเธอด้วยพลังทางลบ เธอจะต้องรับมันหรือไม่ หรือว่า มีวิธีการอะไรไหมที่จะหยุดมันได้ ถ้าหากว่า มันมากเกินไปแล้วจริงๆ?

อ: ขอให้ท่องพระนามศักดิ์สิทธิ์และสวดอธิษฐาน นั่นคือวิธีการเดียวเท่านั้น ที่เธอสามารถโจมตีคนได้ นั่นคืออาวุธที่ดีที่สุด ฆ่าพวกเขาด้วยการเป็นมิตร ฆ่าศัตรูโดยการทำให้พวกเขากลายมาเป็นเพื่อน แล้วพวกเขาก็จะไม่เป็นศัตรูอีกต่อไป ไม่มีใครในโลกนี้ ที่เธอไม่สามารถเอาชนะด้วยความกรุณาและความรัก เว้นเสียแต่ว่า พวกเขาจะเป็นคนโง่หรืออะไรบางอย่าง แต่พวกเขาก็จะยังรู้สึกได้ถึงความกรุณาและความรักของเธอ ดังนั้นนั่นเป็นวิธีการเดียวเท่านั้น ที่เราสามารถตอบโต้การโจมตีของพวกเขา: ด้วยความกรุณา ความรัก ท่องพระนามศักดิ์สิทธิ์ และคำสวดอธิษฐาน ไม่ใช่สวดให้ตัวเธอ แต่ให้เขาหรือหล่อน เพื่อว่าพระเจ้าจะทำให้เขาหรือหล่อนรู้แจ้ง แล้วเขาหรือหล่อนก็จะไม่ทำเรื่องแบบนี้ให้กับเธออีกต่อไป




Be Veg, Go Green 2 Save the Planet				
comments powered by Disqus
  • อนงค์นาง

    7 กุมภาพันธ์ 2555 20:42 น. - comment id 128417

    อาวุธที่ดีที่สุด ฆ่าพวกเขาด้วยการเป็นมิตร ฆ่าศัตรูโดยการทำให้พวกเขากลายมาเป็นเพื่อน แล้วพวกเขาก็จะไม่เป็นศัตรูอีกต่อไป ไม่มีใครในโลกนี้ ที่เธอไม่สามารถเอาชนะด้วยความกรุณาและความรัก เว้นเสียแต่ว่า พวกเขาจะเป็นคนโง่หรืออะไรบางอย่าง 
    
    36.gif36.gif36.gif29.gif41.gif41.gif41.gif
  • คีตากะ

    9 กุมภาพันธ์ 2555 08:19 น. - comment id 128431

    36.gif36.gif36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน