* แดนพิศวง ตอน ๗ *

แก้วประเสริฐ


                           แดนพิศวง ๗
                         (หนังสือพิสดาร)
    หลังจากที่เขาพักผ่อนพอสมควรแล้ว ก็ลุกขึ้นเมื่อนึกถึงตำราและ
การฝึกฝนที่เขาจะต้องพยายามสร้างให้เกิดการเก็บพลังงานบางส่วน
ไว้ และที่สำคัญเกี่ยวกับอากาศที่ใช้ในการหายใจของเขา ซึ่งเป็นตัว
หล่อเลี้ยงร่างกาย อย่างออกซิเจนเป็นต้น   ว่าหากไปสู่ยังอีกมิติตามที่
หนังสือกำหนดไว้ มิตินั้นจะมีอากาศเหมือนอย่างในโลกนี้หรือไม่ นี่
คือเหตุสำคัญยิ่งสำหรับเขา  เขาคิดว่าหากเมื่อเขาสร้างพลังงานได้
แล้วก็ย่อมจะหาสถานที่เก็บและสร้างได้ด้วยซิ  หากเขาเก็บไว้ตาม
เซลล์ต่างๆในร่างกายอีกแนวหนึ่งก็จะดี  จึงคิดจะเข้าไปฝึกฝนหา
วิธีการก่อนที่จะสายไป   ดังนั้นเมื่อก่อนจะเข้าห้องนอน เขาสั่ง
แม่ม่อมว่าห้ามเข้ามายังภายในห้องเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นอาหารว่าง
หรือน้ำส้มที่เขาโปรดปรานมากก็ตามเขาจะออกมาทานอาหารและ 
ทานน้ำส้ม   เขาต้องการจะค้นคว้าเพราะเป็นหนทางที่เขาจะไป
ช่วยเหลือนครดังกล่าวที่เคยรับปากไว้ หากไม่สามารถทำได้จะสร้าง
ความผิดหวังให้แก่ท่านผู้เฒ่าทั้งหลายที่อุตส่าห์ติดตามเขามาและคน
ทั้งสามบอกการค้นคว้าก่อนจะสำเร็จ ทำให้เขาต้องผ่านการ
ทดลองต่างๆนาๆ  จึงจะได้ทราบและอ่านหนังสือได้  อาศัยที่เขา
เป็นคนค้นคว้าศึกษาโบราณคดีต่างๆมานำมาประกอบแต่ก็ยังไม่
สามารถทำได้ เมื่อเกือบจะจนปัญญาพลันก็นึกถึงดวงแก้วและ
อำนาจของพลังงานของดวงแก้วจึงทดลองทำดู จึงสามารถอ่าน
อักษรนั้นได้อย่างรวดเร็ว กาลเวลาผ่านไปจนเขาไม่รู้ว่าใช้เวลา
ไปนานเท่าใดเวลาที่ผ่านไปนั้นสร้างความรู้ต่างๆให้แก่เขา
อย่างมากมาย  หลังจากผ่านการออกมาพักผ่อนก็รีบกลับเข้าไป
เพื่อรีบเร่งค้นความจากตำราให้เกิดความเชื่อมั่นแก่เขามากยิ่งขึ้น 
เขายังไม่รู้ว่าในอนาคตนั้นจะเริ่มต้นอย่างไร  เพราะชายทั้งสาม
แจ้งแก่เขาว่าหลังจากถ่ายทอดหมดสิ้นแล้วจะไม่กลับมาอีกแล้ว
ขอให้เขาหมั่นฝึกฝนทดลองให้เกิดความเชี่ยวชาญยิ่งขึ้น   เขาหัว
ร่อในใจหลังจากย้อนหลังกว่าจะพบแหล่งที่ทำให้อักษรปรากฏ
ขึ้นที่ผ่านการทดลองมานั้นด้วยตัวเขาเองและแม่ม่อมตลอดจน
ความพิสดารของแผ่นกระดาษนั้นๆ
   ชายหนุ่มคิดอยู่เพียงคนเดียวว่า  หลังจากการทดสอบเกี่ยวกับ
ตัวหนังสือที่ได้รับจากชายทั้งสามแล้ว  ก็ทราบถึงความลี้ลับ
ต่างๆนาๆ ซึ่งผิดแผกไปกว่าหนังสือในโลก ไม่ว่าสมัยใดๆทั้งสิ้น
 ด้วยภาษาเขียนนั้นจะไม่เหมือนหรือว่าเขาจะยังค้นพบไม่เจอ
      จึงไม่สามารถจะอ่านได้  แต่ก็ต้องอาศัยพลังงานบางสิ่ง
บางอย่างในตัว รวมจิตเป็นสมาธิสร้างเป็นพลังงาน ครั้นจิตใจ
สงบสร้างอำนาจเร้นลับผสมผสานกับพลังงานจากดวงแก้ว จึง
สามารถทราบได้และอ่านได้ แต่ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่ง
แต่จะมีส่วนคล้ายหนังสือของชาวแอตแลนตีสอยู่บ้าง ซึ่งหาย
สาปสูญไปนานแล้ว  แม้แต่นักโบราณคดีปัจจุบันก็ยังไม่สามารถ
ค้นพบได้คงพบแต่ภาษาของชาวเผ่ามายาและภาษาอียิปต์เท่านั้น 
ส่วนภาษาของชาวอินคา และชาวแอตตีสนั้นหายสาปสูญไป 
ต่อมาพบภาษาชาวอินคาในบางส่วนเท่านั้นเอง แต่บัดนี้ภาษา
ดังกล่าวได้มาอยู่ในมือเขาแล้ว แต่กรรมวิธียากนักที่จะสามารถ
ทำให้ตัวหนังสือปรากฏขึ้นได้หากปราศจากพลังงานอันแรงกล้า
มาช่วยกระตุ้นให้ตัวหนังสือปรากฏขึ้นได้
      พลางก็รำพึงในใจอีกว่า และครั้นหวนคิดถึงการทดลองที่เขา
ทำขึ้นมา  แปลกจริงๆที่แม่ม่อมทดลองตามที่เขาบอกให้ลองทุก
ประการ   แล้วทำไมเหตุใดตัวหนังสือถึงไม่ปรากฏให้เห็น  เป็น
เพราะอะไร  หรือว่าเป็นเพราะแม่ม่อมขาดพลังงานทางจิตนั่นเอง
  ดังนั้นชายหนุ่มนำหนังสือทั้งหมดมาทดลองอีกครั้งดังที่เคยทำ
มาสมัยยังเด็กๆอยู่ว่าจะมีเหตุการณ์ขึ้นได้หรือไม่  พลางนำ
หนังสือเล่มหนึ่งออกเดินตรงไปยังแท่งเทียนที่จัดวางไว้ในฐาน
อันมีลวดลายไทยสวยงามแท่งใหญ่ตั้งไว้บนโต๊ะหนังสือ
ของเขาเพื่อป้องกันเวลาไฟฟ้าดับ  ซึ่งใหญ่พอประมาณแล้วนำไม้
ขีดไฟมาจุดเมื่อแสงเทียนลุกโชติแล้ว  หันหลังกลับไปนำ
หนังสือที่ว่างเปล่าไร้ตัวอักษรใดๆ  เปิดออกทดลองลนไปยังแสง
เทียนที่กำลังลุกโชน  แสงเทียนสว่างไสวมากไหวไปๆมาๆแล้ว
นำหนังสือที่ไร้อักษรใดๆ ลนไปยังเปลวเทียน    พลางคิดในใจ
ว่าคงจะปรากฏอักษรขึ้นมาดั่งที่เคยเล่นหรือไม่   ครั้นนำไปลน
ยังแสงเทียนอาศัยความร้อนแต่ผลก็เหมือนเดิม และแช่ไว้นาน
พอสมควร  แต่ความประหลาดใจแก่เขา ที่กระดาษนั้นไฟไม่
สามารถจะไหม้กระดาษนั้นได้  อีกประการหนึ่งคือ
     ยังไร้ซึ้งอักษรใดๆปรากฏขึ้นในแผ่นกระดาษ
หนังสือเลย แม้แต่รอยเกรียมยังไม่ปรากฏให้เห็นอีกด้วย  หรือว่า
กระดาษนั้นสามารถทนความร้อนของไฟได้ นับเป็นสิ่ง
ประหลาดที่ในโลกนี้ไม่เคยมีมา
     ทำให้ชายหนุ่มเกิดความฉงนสนเท่ห์ยิ่งขึ้น จึงได้ดับเทียนไข
เล่มนั้นเสีย  แล้วเดินไปยังเตียงนอนแล้วเอามาพิจารณาหาเหตุผล
ของความพิสดาร ดังที่เคยเล่นมาสมัยก่อนนั้น   แต่เหตุใดทำไม
เล่าใยเมื่อเขาลูบไล้ไปยังกระดาษที่ว่างเปล่ากลับมีตัวหนังสือ
ปรากฏ  แว๊ปหนึ่งในสมองเขาเกิดขึ้นหรือว่า????.....จะเป็นด้วย
อำนาจพลังความร้อนเย็นที่อยู่ในร่างกายเขา ส่งพลังงานไปยัง
หนังสือที่ไร้ซึ่งอักษรนั้น  ก็ล้วนแล้วแต่อันเกิดจากดวงแก้วทั้ง
สองก็จะเป็นไปได้กระมัง!!!!????...    ทดลองปิดหนังสือลงอีก
ทีแล้วก็เปิดอีกกลับเป็นกระดาษว่างเปล่า  เขาพยายามทดลองทำ
หลายแง่มุมมองที่เขาคิดขึ้นแต่ก็ไร้ผลเช่นเดียวกัน  ไม่อาจทำให้
หนังสือปรากฏตัวอักษรได้เลย นอกจากวิธีเดียวที่เขาทำได้เท่า
นั้นเอง ซึ่งต้องอาศัยพลังงานภายในร่างกายเขาส่งไปยังหนังสือ
     แน่แล้วอาจจะเป็นพลังงานอันลี้ลับที่ชายแปลกหน้าที่สามเคย
กล่าวไว้เกี่ยวกับเรื่องพลังงานแน่นอน  หรือทว่าตัวเขาภายใน
ร่างกายคงจะมีพลังงานที่มองไม่เห็นซุกซ่อนไว้แล้วกระมัง???...
   ดังนั้นเพื่อมิให้เสียเวลาไปจึงรีบเปิดหนังสือเล่มแรกขึ้นอ่าน
ทันที โดยใช้วิธีลูบให้อักษรปรากฏขึ้นมาก่อน  แล้วค่อยอ่านที
ละหน้า   ภายในกำหนดหัวข้อต่างๆ โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับอำนาจ
ลึกลับของพลังงานทั้งหลายไว้อย่างละเอียดชัดเจนว่า  การสร้าง
พลังงานที่ก่อกำเนิดนั้นล้วนแล้วมาจากการหมุนเวียนและมาจาก
แรงดึงดูดของจักรวาลทั้งหลายที่โคจรไปตามแกแลคซี่ของแต่
แกแลคซี่นั้นๆ  จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่แกแลคซี่นั้น อย่างเช่น
แกแลคซี่ของสุริยะนี้  ที่โลกเราเป็นส่วนหนึ่งของแกแลคซึ่นั้นก็
เหมือนๆกัน พลังงานต่างแบ่งแยกออกเป็นหลายอนุภาคแตกแยก
เป็นอนุภาคแล้วกลายมาเป็นอะตอมเมื่อกระจายออกมาก็จะ
แยกตัวเป็นนิวเครียสของโมเลกุลแต่ละชนิดเป็นพลังงาน
หมุนเวียนตามกระแสดึงดูดของแกลแลคซี่ แต่ละแกลแลคซี่นั้น
ยังแบ่งออกไปมากมายในห้วงแห่งจักรวาลทั้งหลาย     ที่เขา
อาศัยอยู่นี้ก็ส่วนหนึ่งของแกลแลคซี่ทั้งหลาย อันมีดวงอาทิตย์
เป็นแกนส่งพลังงานดึงดูดโลกและดาวอื่นๆที่อยู่ภายในวงแรง
ดึงดูดในลักษณะเป็นวงรี หมุนไปรอบดวงอาทิตย์โดยแรงดึงดูด
เป็นผู้ควบคุมดาวอื่นๆซึ่งเป็นบริวารไว้ ให้หมุนเวียนไปรอบๆ
แกแลคซีนี้อาศัยพลังงานไฟฟ้าดุจดังขั้วแม่เหล็กที่ส่งพลังงานอัน
ประกอบไปด้วยอะตอมภายในอะตอมๆหนึ่งล้วนแล้วเป็น
โมเลกุลเล็กๆรวมตัวกันขึ้น แบ่งแยกตัวเป็นขั้วบวกและลบคอย
ผสมผสานกันและกันในตัวแตกกระจายไปในอากาศ   แยกตัว
ออกอนูในระบบของคลื่นต่างๆกัน   และอะตอม แผ่กระจาย
ออกเป็นนิวเครียสแต่ละนิวเครียสจะหมุนวนเวียนไปตามกระแส
การดึงดูดของพลังงานไฟฟ้าภายในโมเลกุลวนเวียนในอะตอม
นั้นๆ  อะตอมยังแบ่งแยกออกเป็นหน่วยๆต่างๆหมุนวนเวียนไป
ตามกระแสงของพลังงานที่ก่อเกิดเป็นอำนาจของโมเลกุลนั้นๆ
เกิดเป็นอำนาจของพลังงานไฟฟ้าที่ประกอบด้วยขั้วต่างๆกันตาม
แกนของโลกที่เขาได้อาศัยอยู่นี่  ดังเช่นสายฟ้าที่ยามเกิดฟ้าร้องก็
อยู่ในลักษณะเดียวกันด้วยการวิ่งไปมาๆเพื่อค้นหาขั้วเชื่อมต่อ
เข้าด้วยกันจึงเกิดเป็นพลังงานอันมากมายมหาศาลวิ่งเข้าหากัน
และกันเป็นพลังงานอย่างรุนแรงมหาศาลมากมายเหลือที่อำนาจ
ใดๆจะต้านทานได้ เช่นฟ้าร้อง ฟ้าผ่าเป็นต้น   ภายในหนังสือยัง
อธิบายสิ่งต่างๆไว้อย่างละเอียดถึงการเรียกใช้พลังงานทั้งหลาย
โดยมีสื่อเป็นตัวเชื่อมของพลังงานทั้งหลายจากหลายๆแกลแล๊ค
ซี่ให้มารวมตัวกันเป็นพลังงานสามารถใช้ผสมผสานกับพลังงาน
ในร่างกายของมนุษย์ซึ่งก็มีประจุไฟฟ้าเช่นเดียวกัน  หากเรารู้จัก
เก็บ วิธีเรียกใช้ของจิตและสถานที่เก็บรวบรวมพลังงานเหล่านี้
ไว้อีกด้วย อย่างเช่นชาวแอตแลนตีสที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เก็บไว้
ภายในร่างกายหรือวัตถุบางชนิดใช้ในการขับเคลื่อนของ
ยานพาหนะแทนน้ำมันที่ทางชาวแอนแลนตีสรู้อยู่แต่ไม่ให้
ความสำคัญต่อสิ่งเหล่านี้เท่าใดนัก เพราะพวกเขามีดีกว่านั้นเสีย
อีกและทราบข้อเสียของการใช้น้ำมัน ที่จะทำลายพวกเขาใน
อนาคตได้   เขามักจะใช้อำนาจพลังงานทางโทรจิตเป็นตัว
เชื่อมต่อ ดังนั้นวิวัฒนาการของเขาจึงล้ำหน้าไปกว่าชาวโลกใน
ปัจจุบันมากมายนักอย่างที่จะหามาเปรียบปานได้ แม้แต่อาวุธ
ต่างๆล้วนแล้วแต่พลังงานของแสงเป็นตัวทำลายกันและกัน
ซึ่งจะมีอนุภาพรุนแรงกว่ามาก สามารถท่องไปในที่ต่างๆได้ด้วย
ตัวเขาเอง แต่เขามักไม่ใช้เพราะกลัวจะสียพลังงานของเขาไป จึง
มักใช้พาหนะเป็นตัวนำในการเดินทางเท่านั้น
    ครั้นเขาศึกษาสำเร็จออกจากห้องมานั้นหนวดครายาวนั่น
แหละเขาถึงรู้ว่าผ่านการศึกษามานานด้วยไม่มีเวลาเอาใจใส่ต่อ
ร่างกายของเขา  บัดนี้เขาสามารถสร้างพลังงานในโลกนี้และ
จักรวาลได้มาไว้ในร่างกายเขาได้อย่างเพียงแค่นึกคิดเท่านั้น.....
            *  แก้วประเสริฐ. * 

Cartoon_Animation_08.gif1139348gm3744qpip.gif76.gif				
comments powered by Disqus
  • กิ่งโศก

    25 กุมภาพันธ์ 2555 11:13 น. - comment id 117685

    ตอนนี้ครูอธิบายอย่างละเอียดเลยครับ
    เกี่ยวกับ ดาราศษสตร์ และวิทยาศาสตร์
    เกี่ยวกับพลังงานจักรวาล
    
    มาอ่านต่อครับครู เรื่องนี้น่าจะสนุกกว่าเรื่องที่แล้ว
  • อนงค์นาง

    24 กุมภาพันธ์ 2555 23:53 น. - comment id 128542

    ตามมาอ่านค่ะครู 
    
    36.gif36.gif36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    25 กุมภาพันธ์ 2555 13:17 น. - comment id 128544

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ อนงค์นาง
    
            เรื่องนี้คิดว่าน่าสนุกนะ รักศิษย์มากเสมอ
    
                         16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    25 กุมภาพันธ์ 2555 13:19 น. - comment id 128545

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
             ศิษย์รักเรา  ครูก็เขียนไปเรื่อยๆแหละจ้า
    แต่คิดว่าน่าจะสนุก ตั้งแต่เขียนมาคนละแบบ
    กันนะ รักศิษย์รักเรามากเสมอ
    
                  16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน